Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
อพยพ 37

หีบศักดิ์สิทธิ์

(อพย. 25:10-22)

37 เบซาเลลเอาไม้กระถินมาทำหีบ หีบนี้มีความยาวสองศอกครึ่ง[a] กว้างหนึ่งศอกครึ่ง[b] สูงหนึ่งศอกครึ่ง แล้วเขาก็เอาทองคำบริสุทธิ์มาเคลือบหีบนี้ ทั้งด้านในและด้านนอก และเอาทองคำมาทำขอบรอบๆหีบด้วย เขาเอาทองคำมาทำเป็นห่วงสี่ห่วง เอาไว้ติดที่สี่มุมของหีบ ด้านละสองห่วง เบซาเลลเอาไม้กระถินมาทำคานหาม และเคลือบคานทั้งสองนั้นด้วยทองคำ แล้วเขาก็เอาคานหามสองอันนั้นไปสอดเข้ากับห่วงที่อยู่ด้านข้างของหีบทั้งสองด้าน เพื่อเอาไว้หามหีบนั้น เบซาเลลทำฝาหีบที่ความไม่บริสุทธิ์จากบาปจะถูกชำระ ฝาหีบนี้ทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ ยาวสองศอกครึ่ง กว้างหนึ่งศอกครึ่ง เขาเอาค้อนมาทุบทองคำขึ้นรูปเป็นรูปเครูบสององค์ แล้วเอาไปติดตั้งไว้ที่ปลายทั้งสองด้านตรงฝาหีบที่ความไม่บริสุทธิ์จากบาปจะถูกชำระ เขาวางเครูบองค์หนึ่งไว้ที่ปลายด้านหนึ่ง และอีกองค์ไว้อีกปลายหนึ่ง แล้วเขาก็ทำให้เครูบทั้งสองนี้ติดเป็นเนื้อเดียวกันกับฝาหีบที่ความไม่บริสุทธิ์จากบาปจะถูกชำระ เครูบทั้งสององค์นี้มีปีกทั้งสองข้างที่กางออก ปีกด้านหนึ่งของเครูบนั้น ทำให้เกิดเงาขึ้นบนฝาหีบที่ความไม่บริสุทธิ์จากบาปจะถูกชำระ และเครูบทั้งสองก็หันหน้าเข้าหากัน ทั้งสองได้หันหน้าไปทางที่ซึ่งความไม่บริสุทธิ์จากบาปจะถูกชำระ

โต๊ะวางขนมปัง

(อพย. 25:23-30)

10 เบซาเลลได้เอาไม้กระถินมาทำโต๊ะ ขนาดยาวสองศอก[c] กว้างหนึ่งศอก[d] และสูงหนึ่งศอกครึ่ง 11 เขาเคลือบโต๊ะนั้นด้วยทองคำบริสุทธิ์ และประดิษฐ์ลวดลายด้วยทองคำบริสุทธิ์รอบๆโต๊ะ 12 เขาทำกรอบกว้างหนึ่งฝ่ามือรอบๆโต๊ะ และทำลวดลายบนกรอบรอบๆโต๊ะนั้น 13 เขาเอาทองคำมาหล่อห่วงสี่ห่วง และติดมันไว้ตรงมุมขาโต๊ะทั้งสี่ขา 14 ห่วงทั้งสี่ห่วงจะต้องอยู่ติดกับกรอบเพื่อยึดคานไว้เวลาหามโต๊ะ 15 เขาเอาไม้กระถินมาทำคานหามสองอัน และเคลือบคานทั้งสองด้วยทองคำ คานนี้เอาไว้หามโต๊ะ 16 เขาเอาทองคำบริสุทธิ์มาทำภาชนะต่างๆที่จะใช้บนโต๊ะนั้น ซึ่งได้แก่ พวกจาน ชาม อ่าง และไหรินเครื่องดื่มบูชา

ตะเกียงที่มีขาตั้ง

(อพย. 25:31-40)

17 เขาทำตะเกียงที่มีขาตั้งด้วย จากทองคำบริสุทธิ์ เขาขึ้นรูปฐานและลำตัวของตะเกียงที่มีขาตั้งด้วยค้อน ส่วนฐานดอก ตัวดอก และกลีบดอกเขาทำติดเป็นเนื้อเดียวกัน

18 มีก้านหกก้านยื่นออกมาจากลำตัวของตะเกียงที่มีขาตั้งนั้น ข้างละสามก้าน 19 แต่ละก้านมีดอกไม้สามดอกที่เหมือนดอกอัลมอนด์ ทุกๆดอกมีฐานดอกและกลีบดอก เป็นอย่างนี้ทั้งหกก้าน 20 ส่วนลำตัวตะเกียงที่มีขาตั้งนั้น มีถ้วยสี่ใบที่มีรูปร่างเหมือนกับดอกอัลมอนต์และมีฐานดอกและกลีบดอก 21 ใต้กิ่งทุกๆคู่ ทั้งหกกิ่งที่ยื่นออกมาจากลำตัวโคมนั้นมีฐานดอกติดเป็นเนื้อเดียวกัน 22 ฐานดอกและก้านเหล่านั้นติดเป็นเนื้อเดียวกัน ทุกชิ้นส่วนของตะเกียงที่มีขาตั้งนั้น ใช้ค้อนตีขึ้นรูปจากทองคำบริสุทธิ์ 23 เบซาเลลได้ทำตะเกียง[e] เจ็ดดวง กรรไกรตัดไส้ตะเกียงและถาดใส่ไส้ตะเกียงที่ถูกตัดออกนั้น ทำจากทองคำบริสุทธิ์ 24 เขาใช้ทองคำบริสุทธิ์ไปทั้งหมดหนึ่งตะลันต์[f] ในการทำตะเกียงที่มีขาตั้งนี้ และอุปกรณ์ทั้งหมดของมัน

แท่นบูชาสำหรับเผาเครื่องหอม

(อพย. 30:1-5)

25 เบซาเลลเอาไม้กระถินมาทำแท่นบูชาสำหรับเผาเครื่องหอม ซึ่งมีความยาวหนึ่งศอก กว้างหนึ่งศอก เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส และสูงสองศอก ส่วนปลายเชิงงอนทำจากไม้ชิ้นเดียวกัน 26 เขาเอาทองคำบริสุทธิ์มาเคลือบแท่นบูชานี้ ทั้งด้านบน ด้านข้างโดยรอบ และที่ปลายเชิงงอน และเขาเอาทองคำมาทำขอบโดยรอบ 27 เขาทำห่วงทองคำสองห่วงติดไว้ที่ใต้ขอบทั้งสองด้าน ตรงข้ามกัน เอาไว้สำหรับสอดคานเวลาหามแท่นบูชาขึ้น 28 เขาเอาไม้กระถินมาทำคานหาม แล้วเคลือบทองคำทับอีกทีหนึ่ง

29 เขาทำน้ำมันศักดิ์สิทธิ์สำหรับเจิม[g] และเครื่องหอมบริสุทธิ์ ทั้งสองอย่างทำแบบเดียวกับที่คนทำน้ำหอมเขาทำกัน

ยอห์น 16

16 เราได้บอกสิ่งเหล่านี้กับพวกคุณล่วงหน้า เพื่อคุณจะไม่เลิกไว้วางใจในตัวเรา พวกเขาจะไล่คุณออกจากที่ประชุม อีกไม่นานทุกคนที่ฆ่าคุณ ก็จะคิดว่านั่นเป็นการรับใช้พระเจ้า ที่พวกเขาทำอย่างนี้ ก็เพราะพวกเขาไม่รู้จักพระบิดาและไม่รู้จักเรา เราบอกเรื่องเหล่านี้กับคุณตอนนี้ เพื่อที่ว่าเมื่อมันเกิดขึ้นจริง คุณจะได้นึกออกว่าเราเคยเตือนคุณแล้ว

งานของพระวิญญาณบริสุทธิ์

ที่เราไม่ได้บอกเรื่องนี้กับพวกคุณตั้งแต่แรก ก็เพราะเรายังอยู่กับคุณ ตอนนี้เรากำลังจะไปหาพระองค์ผู้ที่ส่งเรามา แต่ไม่มีใครถามเราว่า ‘อาจารย์จะไปไหน’ เพราะคุณกำลังกลุ้มใจในเรื่องที่เราบอก แต่เราจะบอกให้รู้ว่า มันจะดีกับคุณถ้าเราไป เพราะถ้าเราไม่ไป ผู้ช่วยนั้นก็จะไม่มา แต่ถ้าเราไป เราก็จะส่งผู้ช่วยมาให้คุณ เมื่อผู้ช่วยนั้นมา พระองค์จะทำให้โลกรู้ความจริงเกี่ยวกับความบาป ให้โลกรู้ว่าที่เราพูดและทำนั้นถูกต้อง และให้โลกรู้ว่าพระเจ้าจะตัดสินลงโทษโลก ในเรื่องความบาปนั้นเกิดจากคนไม่ยอมไว้วางใจเรา 10 ในเรื่องความถูกต้องของเรากับพระเจ้านั้นก็คือการที่เราได้กลับไปหาพระบิดาอีกครั้งหนึ่ง จึงทำให้พวกคุณไม่เห็นเราอีก 11 ในเรื่องการตัดสินลงโทษนั้นก็คือการที่เจ้าผู้ครอบครองโลก[a] นี้ได้ถูกตัดสินลงโทษแล้ว

12 เรายังมีอีกหลายเรื่องที่จะบอก แต่ถ้าพูดเดี๋ยวนี้มันจะมากเกินกว่าที่พวกคุณจะรับได้ 13 แต่เมื่อพระวิญญาณแห่งความจริงมาถึง พระองค์จะนำพวกคุณไปสู่ความจริงทั้งหมด เพราะพระองค์ไม่ได้พูดตามใจตัวเอง แต่จะพูดในสิ่งที่พระองค์ได้ยินมา และพระองค์จะบอกให้พวกคุณรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น 14 พระองค์จะทำให้คุณเห็นความยิ่งใหญ่ของเรา เพราะพระองค์จะบอกสิ่งที่พระองค์ได้ยินจากเราให้คุณฟัง 15 ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของพระบิดาเป็นของเรา นั่นเป็นสาเหตุที่เราพูดว่า ผู้ช่วยจะบอกสิ่งที่พระองค์ได้ยินจากเราให้คุณฟัง

ความเศร้าจะเปลี่ยนเป็นความสุข

16 “อีกประเดี๋ยวหนึ่งพวกคุณก็จะไม่เห็นเราแล้ว และหลังจากนั้นอีกประเดี๋ยวหนึ่งคุณก็จะเห็นเราอีก”

17 พวกศิษย์บางคนถามกันเองว่า “อาจารย์หมายถึงอะไรที่พูดว่า ‘อีกประเดี๋ยวหนึ่งพวกคุณก็จะไม่เห็นเราแล้ว และหลังจากนั้นอีกประเดี๋ยวหนึ่งคุณก็จะเห็นเราอีก’ กับที่ว่า ‘เรากำลังจะไปหาพระบิดา’” 18 พวกเขาก็ยังถามกันอีกว่า “อาจารย์หมายถึงอะไรที่พูดว่า ‘อีกประเดี๋ยวหนึ่ง’ ไม่เห็นรู้เรื่องเลยว่าอาจารย์พูดถึงอะไร”

19 พระเยซูรู้ว่าพวกเขาอยากจะถามเรื่องนี้ พระองค์จึงถามว่า “พวกคุณกำลังสงสัยกันอยู่ใช่ไหมว่า เราหมายถึงอะไรที่พูดว่า ‘อีกประเดี๋ยวหนึ่งพวกคุณก็จะไม่เห็นเราแล้ว และหลังจากนั้นอีกประเดี๋ยวหนึ่งคุณก็จะเห็นเราอีก’ 20 เราจะบอกให้รู้ว่า คุณจะร้องไห้ โศกเศร้าเสียใจ แต่โลกจะรื่นเริงยินดี คุณจะทุกข์ใจ แต่ความทุกข์ใจนั้นจะกลับกลายมาเป็นความดีใจ 21 เหมือนกับผู้หญิงที่ถึงกำหนดคลอดก็เป็นทุกข์เพราะความเจ็บปวดทรมาน แต่เมื่อเธอคลอดลูกแล้วก็ลืมความเจ็บปวดไปหมด เพราะดีใจที่ได้เห็นลูกเกิดมาในโลกนี้ 22 พวกคุณก็เหมือนกัน ตอนนี้คุณทุกข์ใจ แต่เมื่อเรากลับมาหาคุณอีก คุณก็จะดีใจ แล้วไม่มีใครจะแย่งเอาความดีใจนั้นไปจากคุณได้ 23 ในวันนั้นคุณจะไม่ต้องถามอะไรเราอีกแล้ว เราจะบอกให้รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณขอเพราะคุณเป็นคนของเรา พระบิดาก็จะให้กับคุณ 24 ตั้งแต่คุณเป็นคนของเรามาจนถึงเดี๋ยวนี้ พวกคุณยังไม่เคยขออะไรในฐานะคนของเรา ขอสิแล้วคุณจะได้ เพื่อคุณจะได้มีความสุขอย่างเต็มที่”

ชัยชนะเหนือโลก

25 “เราได้เล่าเรื่องเหล่านี้โดยใช้เรื่องเปรียบเทียบ อีกไม่นานเราจะไม่ใช้เรื่องเปรียบเทียบแล้ว แต่เราจะบอกพวกคุณตรงๆเลยเกี่ยวกับพระบิดา 26 ในวันนั้นพวกคุณจะไม่ต้องขออะไรโดยผ่านทางเราอีกแล้ว คุณขอจากพระเจ้าได้โดยตรง เพราะคุณเป็นคนของเรา 27 เพราะพระบิดาเองก็รักพวกคุณ พระองค์รักพวกคุณทุกคนเพราะว่าคุณรักเรา และเชื่อว่าเรามาจากพระเจ้า 28 เรามาจากพระบิดา และเข้ามาในโลกนี้ ตอนนี้เรากำลังจะไปจากโลกนี้เพื่อกลับไปหาพระบิดา”

29 แล้วพวกศิษย์ก็พูดว่า “ดูสิ อาจารย์พูดกับเราตรงๆโดยไม่ได้ใช้เรื่องเปรียบเทียบแล้ว 30 ตอนนี้พวกเรารู้แล้วว่าอาจารย์รู้ทุกอย่าง อาจารย์รู้ว่าจะตอบอะไรก่อนที่เราจะถามเสียอีก ถึงไม่ถาม อาจารย์ก็รู้อยู่แล้วว่าเราคิดอะไร แค่นี้เราก็เชื่อแล้วว่าอาจารย์มาจากพระเจ้า”

31 พระเยซูตอบพวกเขาว่า “ในที่สุดพวกคุณก็เชื่อแล้วหรือ 32 คอยดูสิ เวลากำลังจะมาถึง ที่จริงเวลามาถึงแล้วด้วยซ้ำ เป็นเวลาที่พวกคุณทุกคนจะหนีกระเจิดกระเจิงไปทางใครทางมัน และจะทิ้งเราไว้คนเดียว แต่เราไม่ได้อยู่คนเดียวหรอก เพราะพระบิดาอยู่กับเราด้วย

33 เราพูดเรื่องพวกนี้เพื่อว่าคุณจะได้มีสันติสุขเพราะคุณมีส่วนร่วมในตัวเรา ในโลกนี้คุณจะมีปัญหาเดือดร้อนสารพัด แต่ให้เข้มแข็งไว้ เพราะเราชนะโลกแล้ว”

สุภาษิต 13

13 ลูกชายที่ฉลาดย่อมฟังคำสั่งสอนของพ่อ
    แต่คนหยิ่งจองหองไม่ยอมฟังคำตักเตือน
คนดีจะได้กินผลดีที่เกิดจากคำพูดของเขา
    แต่คนหลอกลวงนั้นหิวกระหายความโหดร้าย
คนที่ระวังปาก รักษาชีวิตตน
    แต่คนพูดมาก ทำลายตัวเอง
คนขี้เกียจจะหิว แต่ไม่มีอะไรจะกิน
    แต่คนขยันจะมีกินอย่างอิ่มหนำ
คนที่ทำตามใจพระเจ้าเกลียดการโกหก
    แต่คนชั่วทำสิ่งที่น่าอับอายและน่าอัปยศอดสู
การทำสิ่งที่พระเจ้าชอบใจ จะปกป้องคนที่เดินในทางบริสุทธิ์
    แต่ความชั่วจะโค่นล้มคนบาป
คนหนึ่งแสร้งทำเป็นรวย แต่ไม่มีอะไรเลย
    อีกคนหนึ่งแสร้งทำเป็นจน แต่กลับมีสมบัติมากมาย
ความร่ำรวยของคนๆหนึ่ง สามารถใช้เป็นค่าไถ่ชีวิตเขาได้
    แต่คนยากจนไม่ถูกเรียกค่าไถ่
แสงสว่างของคนที่ทำตามใจพระเจ้าส่องแสงเจิดจ้า
    แต่ตะเกียงของคนชั่วดับมอดไป
10 ความหยิ่งยโสทำให้เกิดการทะเลาะวิวาท
    แต่คนที่ยอมรับคำแนะนำ จะมีสติปัญญา
11 ความมั่งคั่งที่ได้มาจากการฉ้อโกง จะร่อยหรอลงไปเรื่อยๆ
    แต่คนที่สะสมความมั่งคั่งจากการทำงานหนัก จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
12 ความหวังที่คอยแล้วคอยเล่าทำให้ท้อใจ
    แต่ความหวังที่เป็นจริงขึ้นมา เป็นเหมือนต้นไม้แห่งชีวิต
13 คนที่ดูถูกคำแนะนำ นำความหายนะมาสู่ตน
    แต่คนที่เคารพคำสั่งสอนจะได้รับรางวัล
14 คำสอนของคนฉลาดเป็นแหล่งน้ำแห่งชีวิต
    เพื่อคนจะได้หลีกเลี่ยงจากกับดักแห่งความตาย
15 คนรู้จักคิดย่อมเป็นที่นิยมชมชอบ
    แต่หนทางของคนไม่ซื่อ เป็นความหายนะของเขาเอง
16 คนฉลาดหลักแหลมทำทุกอย่างด้วยความรู้
    แต่คนโง่อวดโง่
17 ผู้ส่งข่าวที่พึ่งไม่ได้จะนำความเดือดร้อนมาให้
    แต่ผู้ส่งข่าวที่เชื่อถือได้จะนำการเยียวยามาให้
18 คนที่ไม่สนใจคำตักเตือน จะยากจนและเสียหน้า
    แต่คนที่ยอมรับคำตักเตือน จะเป็นที่นับถือ
19 ความหวังที่เป็นจริง จะหวานชื่นใจ
    แต่การทิ้งความชั่ว เป็นรสชาติที่จืดชืดไม่เอาไหนสำหรับคนโง่
20 คบคนฉลาดก็จะกลายเป็นคนฉลาดไปด้วย
    คบคนโง่ ก็จะเจอกับอันตราย
21 ปัญหาไล่ตามคนบาป
    แต่ความรุ่งเรืองเป็นรางวัลของคนดี
22 คนดีจะทิ้งมรดกให้แก่ลูกหลาน
    แต่ทรัพย์สมบัติของคนบาป จะตกเป็นของคนที่ทำตามใจพระเจ้า
23 ผืนดินที่ไม่ได้เพาะปลูกของคนยากจน อาจจะให้ผลผลิตมากมายก็ได้
    แต่บางครั้งมันก็ถูกทำลายไปเพราะความไม่ยุติธรรม
24 คนที่ยั้งไม้เรียวไว้ ก็เกลียดชังลูก
    แต่คนที่รักลูกจะไม่เพิกเฉยต่อการตีสอนลูก
25 คนที่ทำตามใจพระเจ้าจะได้กินอย่างอิ่มหนำ
    แต่ท้องของคนชั่วจะหิวโหยต่อไป

เอเฟซัส 6

ลูกกับพ่อแม่

พวกคุณที่เป็นลูกๆ ต้องเชื่อฟังพ่อแม่ของตน ในฐานะที่คุณมีส่วนในองค์เจ้าชีวิต เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง กฎที่ว่า “ให้เกียรติพ่อแม่ของตน”[a] นี่เป็นกฎข้อแรกที่มีคำสัญญาพ่วงมาด้วย “คือคุณจะเจริญรุ่งเรืองในทุกสิ่ง และอายุยืนยาวในแผ่นดินนี้”[b]

พวกคุณที่เป็นพ่อ อย่ายั่วยุลูกของตนให้โกรธ แต่ให้เลี้ยงดูเขาด้วยการอบรมสั่งสอน และเตือนสติตามแนวทางขององค์เจ้าชีวิต

ทาสกับเจ้านาย

พวกคุณที่เป็นทาส ต้องเชื่อฟังเจ้านายฝ่ายโลกนี้ ควรเกรงกลัวจนตัวสั่นด้วยความจริงใจ เหมือนที่ทำกับพระคริสต์ อย่าทำเป็นขยันแค่ต่อหน้าเมื่อมีคนมองเพื่อประจบสอพลอ แต่ควรจะทำงานเหมือนกับเป็นทาสของพระคริสต์ ที่เต็มใจทำตามความต้องการของพระเจ้า ให้เต็มใจรับใช้เหมือนกับที่ทำต่อองค์เจ้าชีวิตไม่ใช่ต่อมนุษย์ จำไว้ว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นทาสหรือเป็นคนอิสระก็ตาม ถ้าทำความดีก็จะได้รับสิ่งตอบแทนจากองค์เจ้าชีวิต

ในทำนองเดียวกัน พวกคุณที่เป็นเจ้านายอย่าได้ข่มขู่ทาสของตน จำไว้ว่าเจ้านายของคุณและของเขาก็อยู่บนสวรรค์ และพระองค์ก็ไม่ลำเอียงเข้าข้างใคร

จงสวมชุดเกราะของพระเจ้า

10 สุดท้ายนี้ ขอให้เข้มแข็งในองค์เจ้าชีวิต และในฤทธิ์อำนาจอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ 11 สวมชุดเกราะที่พระเจ้ามอบให้อย่างเต็มยศ แล้วพวกคุณจะสามารถยืนขึ้นต่อสู้แผนการของมารร้าย 12 เพราะพวกเราไม่ได้ต่อสู้กับมนุษย์ แต่ต่อสู้กับพวกผู้ครอบครอง พวกผู้มีอำนาจ ต่อสู้กับพวกเทพเจ้าที่ครองโลกมืดนี้ และต่อสู้กับพวกวิญญาณชั่วร้ายในโลกฝ่ายวิญญาณ 13 เพราะอย่างนี้ ให้สวมชุดเกราะที่พระเจ้ามอบให้อย่างเต็มยศ เพื่อคุณจะสามารถยืนหยัดได้เมื่อวันอันชั่วร้ายมาถึง และเมื่อทุกอย่างจบสิ้นแล้ว พวกคุณก็ยังคงยืนหยัดต่อไปได้ 14 ดังนั้นให้ยืนหยัดไว้ เอาความจริงรัดเอวไว้เหมือนเข็มขัด เอาชีวิตที่พระเจ้าชอบใจมาสวมเป็นเกราะป้องกันอก 15 เอาใจที่พร้อมจะประกาศข่าวดีเรื่องสันติสุขมาสวมเป็นรองเท้า 16 นอกจากนี้แล้ว ให้เอาความเชื่อเป็นโล่ ที่พวกคุณจะใช้กันลูกธนูไฟทั้งหมดที่มารร้ายยิงเข้าใส่ 17 ให้เอาความรอดเป็นหมวกเหล็ก และให้ถือดาบของพระวิญญาณ ซึ่งก็คือถ้อยคำของพระเจ้า 18 ในทุกโอกาสและทุกเรื่องที่คุณอธิษฐานหรือขอร้อง ก็ให้อธิษฐานด้วยความช่วยเหลือของพระวิญญาณ ด้วยเหตุนี้ ให้ตื่นตัวและอธิษฐานตลอดเวลาสำหรับทุกคนที่เป็นของพระเจ้า

19 ให้อธิษฐานเผื่อผมด้วย เพื่อเมื่อเวลาที่ผมเปิดปากพูด พระเจ้าจะให้คำพูดกับผม เพื่อผมจะได้เปิดเผยเรื่องลึกลับของข่าวดีนี้อย่างกล้าหาญ 20 ผมก็เป็นทูตของพระเจ้าที่กำลังประกาศข่าวดีนี้อยู่ในคุก ช่วยอธิษฐานให้ผมกล้าที่จะประกาศข่าวดีนี้ ตามที่ผมควรจะพูดด้วย

คำอวยพรสุดท้าย

21 ทีคิกัส ที่เป็นพี่น้องที่รัก และเป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ขององค์เจ้าชีวิต จะเล่าเรื่องทั้งหมดของผมให้คุณฟังว่าเป็นอย่างไรบ้างและทำอะไรอยู่ 22 ผมส่งเขามาเพื่อคุณจะได้รู้ข่าวคราวของเราและเพื่อเขาจะได้ให้กำลังใจคุณด้วย

23 ขอให้พระเจ้าพระบิดาและพระเยซูคริสต์เจ้า ให้สันติสุข ความรักและความเชื่อกับพวกคุณ 24 ขอให้พระเจ้าให้ความเมตตากรุณากับพวกคุณทุกคนที่รักพระเยซูคริสต์เจ้าของเราอย่างไม่เสื่อมคลาย

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International