M’Cheyne Bible Reading Plan
เครื่องบูชาสำหรับบาปที่ไม่ได้ตั้งใจ
(ลนต. 6:24-30)
4 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 2 “ให้บอกกับประชาชนชาวอิสราเอลว่า เมื่อมีใครทำบาปโดยไม่ได้ตั้งใจ และเกิดไปทำอะไรก็ตามที่พระยาห์เวห์สั่งไว้ว่าอย่าทำ
3 ถ้าคนที่ทำผิดบาปนั้นเป็นนักบวชที่ได้รับการเจิมมาแล้ว[a] เขาก็จะทำให้ประชาชนพลอยมีความผิดไปด้วย เขาจะต้องเอาวัวตัวผู้จากฝูงมาถวายให้กับพระยาห์เวห์ เป็นเครื่องบูชาชำระล้าง สำหรับบาปที่เขาได้ทำลงไป และวัวตัวนั้นต้องไม่มีตำหนิ 4 เขาต้องเอาวัวตัวนั้นไปที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบต่อหน้าพระยาห์เวห์ และวางมือของเขาลงบนหัวของมัน แล้วฆ่ามันต่อหน้าพระยาห์เวห์ 5 นักบวชที่ได้รับการเจิมนั้น จะต้องเอาเลือดส่วนหนึ่งของวัวตัวผู้นั้นไปที่เต็นท์นัดพบ 6 แล้วจุ่มนิ้วมือของเขาลงในเลือดและพรมเลือดเจ็ดครั้งที่หน้าผ้าม่านของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดต่อหน้าพระยาห์เวห์ 7 นักบวชคนนั้นต้องเอาเลือดป้ายตรงปลายเชิงงอนของแท่นบูชาที่เผาเครื่องหอม แท่นบูชานี้อยู่ในเต็นท์นัดพบ ต่อหน้าพระยาห์เวห์ 8 และเขาต้องเอาส่วนที่เป็นไขมันของวัวตัวผู้ที่เป็นเครื่องบูชาชำระล้างตัวนั้น รวมทั้งไขมันที่อยู่ในเครื่องในและรอบๆเครื่องในนั้น 9 เขาต้องเอาไตทั้งสองข้างกับไขมันที่ติดอยู่กับไตนั้น ที่อยู่ส่วนล่างของกล้ามเนื้อหลัง และเขาต้องเอาพังผืดของตับ เขาต้องเอามันออกไปพร้อมๆกับไตทั้งสองข้าง 10 เขาต้องเอาส่วนไขมันทั้งหมดออกจากเครื่องบูชาชำระล้าง เหมือนกับที่เขาเอาไขมันออกจากวัวที่ใช้เป็นเครื่องสังสรรค์บูชา แล้วนักบวชต้องเอาไขมันพวกนั้นมาถวายบนแท่นบูชาสำหรับเครื่องเผาบูชา 11-12 แต่นักบวชจะต้องเอาส่วนที่เหลือทั้งหมดของวัว คือส่วนหนัง ส่วนเนื้อทั้งหมด ส่วนหัว ส่วนขา ส่วนเครื่องในและขี้ของมันออกไปนอกค่าย ไปยังที่ที่บริสุทธิ์ คือที่ทิ้งขี้เถ้า แล้วเผามันบนกองฟืนที่สุมไฟอยู่ ตรงที่ทิ้งขี้เถ้านั้น
13 ถ้าชนชาติอิสราเอลทั้งหมดทำผิดบาปโดยไม่ได้ตั้งใจ และไม่มีใครรู้ตัวว่าได้ทำในสิ่งที่พระยาห์เวห์สั่งห้ามไม่ให้ทำ พวกเขาก็จะมีความผิด 14 เมื่อพวกเขารู้ถึงความบาปที่ได้ทำนั้น คนในที่ประชุมต้องนำวัวตัวผู้มาตัวหนึ่งจากฝูง มาเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง พวกเขาต้องเอามันมาที่หน้าเต็นท์นัดพบ 15 แล้วพวกผู้นำของชุมชนนั้นต้องวางมือลงบนหัวของมันต่อหน้าพระยาห์เวห์ และต้องฆ่าวัวตัวนั้นต่อหน้าพระยาห์เวห์ 16 แล้วนักบวชที่ได้รับการเจิมมาแล้ว ต้องนำเลือดบางส่วนของวัวตัวผู้นั้นไปที่เต็นท์นัดพบ 17 แล้วนักบวชนั้นต้องจุ่มนิ้วของเขาลงในเลือด แล้วพรมลงไปที่หน้าผ้าม่านเจ็ดครั้งต่อหน้าพระยาห์เวห์ 18 แล้วเอาเลือดส่วนหนึ่งทาที่เชิงงอนของแท่นบูชาที่ตั้งอยู่หน้าพระยาห์เวห์ในเต็นท์นัดพบ ส่วนเลือดที่เหลือทั้งหมด ให้เทลงไปที่ฐานแท่นบูชาสำหรับเครื่องเผาบูชา ที่ตั้งอยู่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ 19 เขาต้องเอาส่วนที่เป็นไขมันทั้งหมดออกมาและนำไปเผาบนแท่นบูชา 20 เขาต้องทำกับวัวตัวผู้นี้เหมือนกับที่ทำกับวัวที่เป็นเครื่องบูชาชำระล้างให้กับนักบวช และด้วยวิธีนี้นักบวชจะชำระล้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แทนประชาชนชาวอิสราเอลและพวกเขาจะได้รับการอภัย 21 หลังจากนั้น ให้แบกวัวตัวนั้นออกไปนอกค่ายและเผามันเหมือนกับที่เผาวัวตัวแรกนั้น มันเป็นเครื่องบูชาชำระล้างสำหรับชุมชน
22 เมื่อผู้นำทำผิดบาปและได้ทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเขาสั่งห้ามไว้ โดยไม่ได้ตั้งใจ พวกเขาก็จะมีความผิด 23 เมื่อเขาเกิดรู้ตัวขึ้นมาว่าสิ่งที่เขาทำนั้นเป็นบาป เขาต้องเอาแพะตัวผู้มาตัวหนึ่งจากฝูง สำหรับเป็นเครื่องบูชา แพะตัวนี้ต้องไม่มีตำหนิ 24 แล้วเขาต้องวางมือลงบนหัวของมัน และนำมันไปฆ่าในที่สำหรับฆ่าเครื่องเผาบูชาต่อหน้าพระยาห์เวห์ มันเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง 25 นักบวชจะต้องเอานิ้วป้ายเลือดของเครื่องบูชาชำระล้างนี้ และไปทาที่เชิงงอนของแท่นบูชาสำหรับเครื่องเผาบูชา ส่วนเลือดที่เหลือทั้งหมด เขาจะนำไปเทที่ฐานแท่นบูชาสำหรับเครื่องเผาบูชา 26 นักบวชต้องเอาส่วนที่เป็นไขมันทั้งหมดของแพะมาเผาบนแท่นบูชา เขาต้องเผามันให้เหมือนที่เขาเผาส่วนไขมันจากเครื่องสังสรรค์บูชา ด้วยวิธีนี้นักบวชจะชำระล้างแท่นบูชาแทนผู้นำคนนั้นเพราะบาปที่เขาทำให้แท่นบูชาแปดเปื้อน แล้วเขาจะได้รับการอภัย
27 ถ้าคนหนึ่งคนใดในชุมชนทำผิดบาปโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยทำในสิ่งที่พระยาห์เวห์สั่งห้ามไว้ไม่ให้ทำ เขาก็จะมีความผิด 28 เมื่อเขารู้ตัวขึ้นมาว่าทำผิด เขาต้องนำแพะตัวเมียจากฝูงมาตัวหนึ่ง เป็นเครื่องบูชาสำหรับบาปที่เขาทำ แต่แพะตัวนั้นจะต้องไม่มีตำหนิ 29 เขาต้องวางมือลงบนหัวของสัตว์ที่จะใช้เป็นเครื่องบูชาชำระล้าง และนำมันไปฆ่าในที่สำหรับฆ่าเครื่องเผาบูชา 30 แล้วนักบวชต้องเอานิ้วป้ายเลือดบางส่วนของแพะ เอาไปทาที่เชิงงอนของแท่นบูชาสำหรับเครื่องเผาบูชา และเทเลือดแพะส่วนที่เหลือลงที่ฐานของแท่นบูชานั้น 31 เขาต้องเลาะส่วนที่เป็นไขมันทั้งหมดของแพะตัวนั้นออกเหมือนกับที่เขาเอาไขมันออกจากเครื่องสังสรรค์บูชา และนักบวชต้องเอาไขมันเหล่านี้ไปเผาบนแท่นบูชา เป็นกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์ โดยวิธีนี้ นักบวชจะชำระล้างแท่นบูชาแทนคนๆนั้นและเขาจะได้รับการอภัย
32 ถ้าเขาใช้แกะเป็นเครื่องบูชาชำระล้าง เขาต้องเอาแกะตัวเมียที่ไม่มีตำหนิ 33 แล้วเขาต้องวางมือลงบนหัวเครื่องบูชาชำระล้างนั้น และเอามันไปฆ่าในที่สำหรับฆ่าเครื่องเผาบูชา 34 นักบวชต้องเอานิ้วป้ายเลือดบางส่วนของมัน ไปทาที่เชิงงอนของแท่นบูชาสำหรับเครื่องเผาบูชา และเทเลือดแกะส่วนที่เหลือทั้งหมดลงที่ฐานของแท่นบูชานั้น 35 แล้วนักบวชต้องเอาส่วนไขมันทั้งหมดของแกะออก เหมือนกับที่เอาไขมันออกจากแกะที่ใช้เป็นเครื่องสังสรรค์บูชา และนักบวชก็เอาไขมันทั้งหมดไปเผาบนแท่นบูชา พร้อมกับเครื่องบูชาอื่นๆเป็นของขวัญให้กับพระยาห์เวห์ โดยวิธีนี้ นักบวชจะชำระล้างแท่นบูชาแทนคนๆนั้นเพราะบาปที่เขาทำให้แท่นบูชาแปดเปื้อนและเขาจะได้รับการอภัย
หนังสือเล่มที่หนึ่ง
(สดุดี 1-41)
คนดีและคนชั่ว
1 คนอย่างนี้มีเกียรติจริงๆคือ
คนที่ไม่ทำตามคำแนะนำของคนชั่ว
คนที่ไม่เดินในทางของคนผิดบาป
คนที่ไม่เข้าไปนั่งอยู่ในที่ของคนที่หยิ่งยโส
2 แต่ เขามีความสุขในคำสอนของพระยาห์เวห์
เขาเฝ้าครุ่นคิดถึงแต่คำสอนของพระองค์ทั้งวันทั้งคืน
3 เขาเป็นเหมือนต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมธารน้ำ
ซึ่งเกิดผลตามฤดูกาล ใบจะไม่เหี่ยวเฉา
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำ จะประสบผลสำเร็จ
4 แต่คนชั่วจะไม่เป็นอย่างนั้น
พวกเขาจะเป็นเหมือนแกลบที่ลมพัดปลิวฟุ้งไป
5 ดังนั้น คนชั่วจะไม่รอดในวันแห่งการพิพากษา
พวกคนบาปจะไม่มีส่วนในชุมชนของพวกคนบริสุทธิ์
6 เพราะพระยาห์เวห์ เฝ้าดูแลทางของคนบริสุทธิ์
แต่ทางของคนชั่วจะนำไปสู่ความพินาศ
กษัตริย์ที่พระยาห์เวห์ทรงเลือก
1 ทำไมชนชาติอื่นๆถึงชุลมุนวุ่นวายเหลือเกิน
ทำไมคนเหล่านั้นถึงวางแผนโง่ๆ
2 พวกกษัตริย์ในโลกต่างเตรียมพร้อมรบ
พวกผู้นำของประเทศเหล่านั้น
ร่วมกันต่อต้านพระยาห์เวห์และกษัตริย์ที่พระองค์ทรงเลือกไว้[a]
3 พวกเขาพูดว่า “ให้พวกเราหักโซ่ตรวนที่พระยาห์เวห์และกษัตริย์ของพระองค์ได้เอามามัดเราไว้
และโยนมันทิ้งไป”
4 แต่องค์เจ้าชีวิตนั่งอยู่บนสวรรค์
พระองค์หัวเราะเยาะใส่พวกเขา
5 แล้ว พระองค์ ก็ต่อว่าพวกเขาด้วยความเกรี้ยวกราด
จนทำให้พวกนั้นตกใจขวัญกระเจิง
6 พระองค์พูดว่า
“เราได้แต่งตั้งกษัตริย์ที่เราได้เลือกมาไว้บนศิโยน ภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา”
7 กษัตริย์องค์นี้พูดว่า “ให้เราอธิบายให้เจ้าฟัง ถึงประกาศิตของพระยาห์เวห์
พระองค์บอกกับเราว่า ‘เจ้าคือลูกชายของเรา ในวันนี้ เราได้เป็นพ่อของเจ้าแล้ว’
8 แค่ขอเรามา แล้วเราจะมอบชนชาติต่างๆให้กับเจ้าเป็นมรดก
เราจะมอบโลกทั้งโลกให้เจ้าเป็นเจ้าของ
9 เจ้าจะทำลายชนชาติเหล่านั้นด้วยกระบองเหล็ก
เจ้าจะฟาดพวกเขา ให้แตกกระจายเหมือนหม้อดิน”
10 ตอนนี้ พวกเจ้า กษัตริย์ทั้งหลาย ให้ฉลาดขึ้น
พวกผู้นำทั้งหลาย ให้ฟังคำตักเตือนของเรา
11-12 ให้รับใช้พระยาห์เวห์ด้วยความเคารพยำเกรง
ให้กราบลงต่อหน้าพระองค์ด้วยตัวสั่นเทิ้ม
ไม่อย่างนั้นพระองค์จะโกรธ แล้วเจ้าจะต้องพินาศทันที
ให้ทำอย่างนี้ เพราะความโกรธของพระองค์ลุกเป็นไฟได้ในพริบตา
คนที่ลี้ภัยในพระองค์นั้น ก็เป็นคนที่มีเกียรติจริงๆ
19 เป็นคนยากจนที่ซื่อสัตย์
ยังดีกว่าเป็นคนหลอกลวงที่โง่
2 อยากทำโน่นทำนี่โดยขาดความรู้ ย่อมนำไปสู่ความหายนะ
คนที่ทำอะไรอย่างเร่งรีบย่อมผิดพลาด
3 ความโง่ของคนย่อมทำลายชีวิตของเขาเอง
แต่ใจของเขากลับมาโกรธพระยาห์เวห์
4 ความมั่งคั่งทำให้มีเพื่อนฝูงมากมาย
แต่ถ้าจนเมื่อไหร่เพื่อนก็ปลีกตัวออกห่าง
5 พยานเท็จจะต้องถูกลงโทษแน่
พยานที่พูดโกหกก็หนีไม่พ้นโทษหรอก
6 คนชอบเอาใจคนที่ให้อย่างใจกว้าง
ทุกคนอยากเป็นมิตรกับคนที่ให้ของขวัญ
7 ส่วนคนยากจน ขนาดพี่น้องของเขาเองก็ยังรังเกียจเลย
แล้วเพื่อนๆของเขา จะไม่ยิ่งตีตัวออกห่างหรือ
เมื่อเขาจะขอความช่วยเหลือ
ทุกคนก็หลบหน้ากันไปหมด
8 คนที่แสวงหาความเข้าใจ ก็รักตนเอง
คนที่รักษาความรู้ ก็พบกับความสำเร็จ
9 พยานเท็จจะต้องถูกลงโทษแน่
พยานที่พูดโกหกจะพินาศ
10 มันไม่เข้าท่าเลย ที่คนโง่จะอยู่อย่างหรูหรา
ยิ่งไม่เข้าท่าใหญ่ ที่ทาสจะขึ้นมาปกครองพวกเจ้านาย
11 คนฉลาดโกรธช้า
และถ้าเขามองข้ามความผิดที่คนอื่นทำต่อเขา มันก็จะทำให้เขามีชื่อเสียงมากขึ้น
12 ความโกรธของกษัตริย์เปรียบเหมือนสิงโตคำราม
ส่วนความโปรดปรานของเขา เปรียบเหมือนน้ำค้างบนใบหญ้า
13 ลูกชายที่โง่เขลาก็นำความหายนะมาสู่พ่อ
ส่วนภรรยาที่ชอบชวนทะเลาะวิวาท ก็เปรียบเหมือนหลังคาที่รั่วไม่หยุด
14 บ้านและทรัพย์สมบัติเป็นมรดกที่ได้จากพ่อ
แต่ภรรยาที่รู้จักคิดนั้นมาจากพระยาห์เวห์
15 คนขี้เกียจนอนได้ทั้งวัน
คนเกียจคร้านจะหิวโหย
16 คนที่เชื่อฟังคำสั่งสอน ก็รักษาชีวิตของตน
ส่วนคนที่ประมาทในทางของตนก็จะตายไป
17 การเอื้อเฟื้อต่อคนจน คือการให้พระยาห์เวห์ยืม
และพระองค์จะตอบแทนความดีที่เขาทำ
18 ตีสอนลูกชายของเจ้าในขณะที่ยังไม่สายเกินไป
เมื่อเจ้าไม่ยอมตีสอนเขา ก็เท่ากับฆ่าลูกตัวเอง
19 คนขี้โมโหจะต้องได้รับโทษ
ถึงเจ้าจะช่วยชีวิตเขา เจ้าก็ต้องช่วยอยู่เรื่อยไป
20 ฟังคำแนะนำ และยอมรับคำตักเตือน
เพื่อว่าเจ้าจะได้ฉลาดในที่สุด
21 มนุษย์มีแผนมากมายในใจ
แต่แผนที่สำเร็จคือแผนของพระยาห์เวห์
22 ความโลภเป็นเรื่องน่าอับอาย[a]
เป็นคนจนดีกว่าเป็นคนโกหก
23 ความยำเกรงพระยาห์เวห์นำไปสู่ชีวิต
ทำให้ผู้นั้นได้พักผ่อนอย่างเป็นสุข ไม่มีภัยอันตรายมากล้ำกรายได้
24 คนขี้เกียจซุกมือไว้ในชาม
และไม่ยอมแม้แต่จะยกอาหารเข้าปาก
25 ถ้าตีสอนคนหยิ่งจองหอง คนอ่อนต่อโลกจะได้เห็นแล้วรู้จักคิด
ว่ากล่าวคนหัวไวแล้วเขาจะฉลาดขึ้น
26 คนที่ปล้นพ่อ และทำให้แม่ไร้ที่อยู่
ก็นำความอับอายและความอัปยศมาสู่ตนเอง[b]
27 ลูกเอ๋ย ถ้าอยากจะทิ้งทางแห่งปัญญาไป
ก็หยุดฟังคำตักเตือนสิ
28 พยานที่ไร้ค่าก็เยาะเย้ยความยุติธรรม
ปากของคนชั่วก็เอร็ดอร่อยกับความชั่ว
29 การลงโทษก็เตรียมไว้สำหรับคนหยิ่งจองหอง
การโบยตีก็เตรียมไว้สำหรับหลังของคนโง่
2 ผมอยากให้คุณรู้ว่าผมต้องดิ้นรนต่อสู้มากขนาดไหนเพื่อพวกคุณ เพื่อคนที่อยู่เมืองเลาดีเซีย และคนอื่นๆที่ยังไม่เคยเจอมาก่อน 2 ที่ผมทำทั้งหมดนี้ ก็เพราะผมอยากให้พวกเขาได้รับกำลังใจ อยากให้เขารักใคร่กลมเกลียวกัน อยากให้เขาได้รับพระพรอย่างเหลือล้น เนื่องจากความมั่นใจอย่างเต็มที่ที่เกิดมาจากความเข้าใจของเขา แล้วก็อยากให้เขามีความรู้ถึงความจริงอันลึกลับของพระเจ้าอย่างลึกซึ้ง ความลับนั้นคือพระคริสต์ 3 สติปัญญาทั้งหมดและความรู้ทุกอย่าง เป็นขุมทรัพย์ที่ถูกเก็บซ่อนไว้ในพระคริสต์
4 ที่ผมพูดเรื่องนี้ ก็เพื่อจะได้ไม่มีใครมาใช้เหตุผลต่างๆที่น่าฟังเพื่อหลอกลวงคุณ 5 ถึงแม้ตัวผมจะไม่ได้อยู่ แต่ใจของผมก็ยังอยู่กับคุณ และผมก็ดีใจที่ได้เห็นคุณอยู่ด้วยกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย และมีความเชื่อที่มั่นคงในพระคริสต์
ใช้ชีวิตต่อไปในพระคริสต์
6 พวกคุณได้รับพระเยซูคริสต์เจ้าอย่างไร ก็ขอให้ใช้ชีวิตร่วมกันกับพระองค์ต่อไปอย่างนั้น 7 คือคุณได้หยั่งรากลงไปในพระองค์แล้ว ให้พระองค์เป็นรากฐานของคุณต่อไป ให้ยึดมั่นในความเชื่อต่อไปเหมือนกับที่คุณได้รับคำสั่งสอนมาแล้ว และให้ขอบคุณพระเจ้าอย่างล้นเหลือต่อไป
8 ระวังให้ดีอย่าให้ใครใช้หลักปรัชญาอันหลอกลวงและไร้ค่า เพื่อจับคุณไปเป็นเชลย เรื่องแบบนี้มนุษย์สอนสืบต่อกันมา คำสอนนั้นมาจากพวกวิญญาณที่ครอบครองโลกนี้ ไม่ได้มาจากพระคริสต์ 9 เพราะความเต็มบริบูรณ์ทั้งหมดของพระเจ้า ได้มาอยู่ในสภาพของร่างมนุษย์คือในร่างของพระคริสต์นั่นเอง 10 แล้วเมื่อคุณอยู่ในพระคริสต์ คุณก็เต็มบริบูรณ์เหมือนกัน พระคริสต์เป็นศีรษะเหนือพวกผู้ครอบครอง และเหนือพวกผู้มีสิทธิอำนาจทั้งสิ้นในจักรวาล
11 ในพระคริสต์พวกคุณก็ได้เข้าพิธีขลิบด้วย แต่ไม่ใช่พิธีขลิบที่มือมนุษย์ทำหรอก แต่คุณได้เข้าร่วมพิธีขลิบของพระคริสต์เอง ที่เกิดขึ้นตอนที่พระองค์สละร่างกายที่เป็นเนื้อหนังทิ้งตอนตาย 12 คุณได้ถูกฝังร่วมกันกับพระคริสต์ในพิธีจุ่มน้ำ และได้ฟื้นขึ้นจากความตายพร้อมกับพระองค์ เพราะคุณไว้วางใจในฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า ผู้ทำให้พระคริสต์ฟื้นขึ้นมา 13 ตอนที่พวกคุณตายไปแล้วนั้น (เพราะความผิดบาปของคุณ และเพราะคุณไม่ใช่ยิวและไม่ได้เข้าพิธีขลิบ) พระเจ้าทำให้คุณมีชีวิตอยู่ร่วมกับพระคริสต์ พระองค์ได้ยกโทษความผิดบาปทั้งหมดของเรา 14 พระเจ้ายกเลิกข้อกล่าวหาพวกเราที่ได้บันทึกไว้ พระองค์เอามันไปตรึงที่กางเขน 15 พระเจ้าปราบปรามพวกผู้ครอบครองและพวกผู้มีสิทธิอำนาจทั้งหลายจนต้องวางอาวุธลง พระเจ้านำเขาไปเป็นเชลยในขบวนแห่แห่งชัยชนะ[a] ทำให้พวกนี้อับอายขายหน้าในที่สาธารณะ พระเจ้าทำอย่างนี้ได้เพราะความตายของพระคริสต์
กฎที่มนุษย์ตั้งขึ้นเอง
16 ดังนั้นอย่าให้ใครมาประจานพวกคุณเพราะสิ่งที่กินและดื่ม หรือในเรื่องงานเทศกาลทางศาสนา งานฉลองพระจันทร์ข้างขึ้น[b] หรือวันหยุดทางศาสนา 17 สิ่งเหล่านี้เป็นแค่เงาของสิ่งที่จะตามมาภายหลัง แต่แก่นแท้ของสิ่งเหล่านี้คือพระคริสต์ 18 บางคนชอบที่จะขจัดกิเลสของตัวเอง และชอบนมัสการพระเจ้าด้วยกันกับทูตสวรรค์[c] เพราะเขาบอกว่าเขาเห็นสิ่งต่างๆในสวรรค์ผ่านทางนิมิตของเขา อย่าไปสนใจฟังพวกเขาเมื่อพวกเขาพูดว่าคุณจะไม่ได้รับรางวัลจากพระเจ้าเพราะคุณไม่ได้ทำตามพวกเขา ความคิดอย่างนั้นเป็นแค่ความคิดของมนุษย์ที่ทำให้พวกเขาเย่อหยิ่งจองหองไม่เข้าเรื่อง 19 คนพวกนั้นไม่ได้ยึดติดอยู่กับศีรษะซึ่งก็คือพระคริสต์ พระคริสต์นี่เองเป็นแหล่งทำให้ร่างกายทั้งหมดได้รับการบำรุงเลี้ยงดู และยึดส่วนต่างๆของร่างกายเข้าด้วยกันด้วยข้อและเอ็นต่างๆทำให้ทั้งร่างเจริญเติบโตขึ้นตามที่พระเจ้าต้องการ
20 ในเมื่อคุณได้ตายร่วมกับพระคริสต์ และเป็นอิสระจากพวกวิญญาณที่ครอบครองโลกนี้แล้ว ทำไมคุณยังทำตัวเหมือนว่าตัวเองยังเป็นของโลกนี้อยู่ และยังยอมอยู่ใต้กฎต่างๆ 21 เช่น “ห้ามจับ” “ห้ามชิม” หรือ “ห้ามแตะต้อง” 22 กฎพวกนี้มันเกี่ยวกับสิ่งของที่เมื่อเอามาใช้แล้วก็หมดไป กฎพวกนี้ก็เป็นแค่คำสั่งหรือคำสอนจากมนุษย์เท่านั้น 23 กฎพวกนี้ฟังดูฉลาดเข้าท่าทีเดียว พวกเขาเคร่งครัดในศาสนาที่มนุษย์คิดขึ้น ทำให้เขาต้องทำหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อขจัดกิเลสของตัวเอง รวมทั้งทรมานร่างกายด้วย แต่มันไม่ได้ช่วยยับยั้งความอยากของสันดานเลย
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International