Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
เลวีนิติ 23

เทศกาลทั้งหลาย

(กดว. 28:16-29:40)

23 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ให้บอกกับประชาชนชาวอิสราเอลว่า ‘นี่คือเทศกาลต่างๆที่เราได้กำหนดไว้ เป็นเทศกาลของพระยาห์เวห์ ซึ่งพวกเจ้าจะต้องประกาศให้มีการประชุมอันศักดิ์สิทธิ์ขึ้น

วันหยุดทางศาสนา

เจ้าจะทำงานเป็นเวลาหกวัน แต่วันที่เจ็ดจะเป็นวันสำหรับการหยุดพักผ่อน คือวันหยุดทางศาสนา เป็นการประชุมที่ศักดิ์สิทธิ์ พวกเจ้าต้องไม่ทำงานในวันนั้น ไม่ว่าเจ้าจะอาศัยอยู่ที่ไหนก็ตาม เจ้าต้องรักษาวันหยุดนี้ให้กับพระยาห์เวห์

เทศกาลวันปลดปล่อย

ต่อไปนี้เป็นเทศกาลต่างๆของพระยาห์เวห์ เป็นการประชุมที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่เจ้าควรจะประกาศ ตามวันเวลาของพวกมัน เทศกาลวันปลดปล่อยของพระยาห์เวห์ ตรงกับวันที่สิบสี่ของเดือนแรก[a] จะเริ่มหลังจากดวงอาทิตย์ตกดินแล้วของวันนั้น

เทศกาลขนมปังไม่ใส่เชื้อฟู

เทศกาลขนมปังไม่ใส่เชื้อฟู ของพระยาห์เวห์ จะเริ่มในวันที่สิบห้าของเดือนแรกเหมือนกัน พวกเจ้าจะกินขนมปังไม่ใส่เชื้อฟูเป็นเวลาเจ็ดวัน ในวันแรกของเทศกาลนี้ พวกเจ้าจะมีการประชุมศักดิ์สิทธิ์ และเจ้าต้องไม่ทำงานในวันนั้น พวกเจ้าจะถวายพวกของขวัญให้กับพระยาห์เวห์ เป็นเวลาเจ็ดวัน ในวันที่เจ็ด ก็จะมีการประชุมศักดิ์สิทธิ์อีกครั้งหนึ่ง พวกเจ้าต้องไม่ทำงานในวันนั้น’”

เทศกาลเก็บเกี่ยวครั้งแรก

พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 10 “ให้บอกประชาชนชาวอิสราเอลว่า ‘เมื่อเจ้าเข้าไปในแผ่นดินที่เรากำลังยกให้กับเจ้านี้ และเมื่อเจ้าเก็บเกี่ยวพืชผล เจ้าต้องเอาฟ่อนข้าวฟ่อนแรก จากการเก็บเกี่ยวนั้นไปให้กับนักบวช 11 นักบวชจะยกฟ่อนข้าวขึ้นต่อหน้าพระยาห์เวห์ ให้มันเป็นที่ยอมรับเพื่อเจ้า นักบวชจะถวายฟ่อนข้าวในวันรุ่งขึ้น หลังจากวันหยุดทางศาสนา

12 ในวันที่เจ้ายกฟ่อนข้าวขึ้น เจ้าต้องถวายลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งปีตัวหนึ่ง ที่ไม่มีตำหนิ เพื่อมาเป็นเครื่องเผาบูชาให้กับพระยาห์เวห์ 13 เจ้าต้องถวายเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชพร้อมๆกันด้วย เป็นแป้งอย่างดีประมาณสี่ลิตรครึ่งที่คลุกด้วยน้ำมัน เป็นของขวัญที่มีกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์ เจ้าต้องถวายเครื่องดื่มบูชาด้วย เป็นเหล้าองุ่นประมาณเกือบหนึ่งลิตร 14 เจ้าต้องไม่กินเมล็ดข้าวใหม่นี้ เมล็ดข้าวที่ย่างไฟ หรือขนมปังที่ทำจากเมล็ดข้าวใหม่นี้ จนกว่าจะถึงวันที่เจ้าเอาเครื่องถวายนั้นมาถวายให้กับพระเจ้าของเจ้า กฎนี้จะใช้ตลอดไปชั่วลูกชั่วหลานของเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะอาศัยอยู่ที่ไหนก็ตาม

เทศกาลวันที่ห้าสิบ

15 วันต่อมาหลังจากวันหยุดทางศาสนา คือวันที่พวกเจ้านำฟ่อนข้าวมาเป็นเครื่องยื่นบูชาให้กับพระยาห์เวห์ นับจากวันนี้ไปอีกเจ็ดอาทิตย์เต็มๆ 16 เจ้าก็จะนับเวลาไปห้าสิบวัน วันนี้จะเลยวันหยุดทางศาสนาครั้งที่เจ็ดมาหนึ่งวัน ให้พวกเจ้าเอาเครื่องบูชาจากข้าวใหม่มาถวายให้พระยาห์เวห์ 17 ให้พวกเจ้าเอาขนมปังสองก้อนมาจากบ้าน เอามาเป็นเครื่องยื่นบูชา ขนมปังพวกนี้ทำมาจากแป้งอย่างดีประมาณสี่ลิตรครึ่งผสมเชื้อฟูแล้วอบ นั่นจะเป็นของขวัญจากการเก็บเกี่ยวครั้งแรก ที่ถวายให้กับพระยาห์เวห์

18 เจ้าต้องถวายขนมปังนี้ พร้อมกับลูกแกะตัวผู้ อายุหนึ่งปี เจ็ดตัว วัวตัวผู้หนึ่งตัวจากฝูง แกะตัวผู้สองตัว สัตว์ทั้งหมดนี้ต้องไม่มีตำหนิ พวกมันจะเป็นเครื่องเผาบูชาให้กับพระยาห์เวห์ ที่ถวายพร้อมกับเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชและเครื่องดื่มบูชา พวกมันจะเป็นของขวัญอันมีกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์ 19 เจ้าต้องถวายแพะตัวผู้หนึ่งตัว เป็นเครื่องบูชาชำระล้าง และลูกแกะอายุหนึ่งปี สองตัว มาถวายเป็นเครื่องสังสรรค์บูชา

20 นักบวชจะถวายลูกแกะสองตัวนี้ พร้อมกับขนมปังจากการเก็บเกี่ยวครั้งแรกให้เป็นเครื่องยื่นบูชาให้กับพระยาห์เวห์ พวกมันจะเป็นของขวัญให้กับพระยาห์เวห์ เป็นของที่อุทิศให้กับพระยาห์เวห์ และมันก็จะเป็นของนักบวช 21 ในวันเดียวกัน เจ้าก็จะเรียกประชุม มันจะเป็นการประชุมที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับเจ้า เจ้าต้องไม่ทำงานในวันนั้น กฎนี้จะใช้ตลอดไปชั่วลูกชั่วหลานของเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะอาศัยอยู่ที่ไหนก็ตาม

22 เมื่อเจ้าเก็บเกี่ยวผลผลิตจากแผ่นดินของพวกเจ้า เจ้าต้องไม่เก็บเกี่ยวจนสุดปลายที่นาของเจ้า และเจ้าต้องไม่ย้อนกลับไปเก็บเมล็ดข้าวที่ตกตามพื้นในทุ่งนาของเจ้า เจ้าต้องเหลือไว้สำหรับคนจนและคนต่างชาติ เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า’”

เทศกาลแตร

23 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 24 “ให้บอกประชาชนชาวอิสราเอลว่า ‘ในวันแรกของเดือนที่เจ็ด เจ้าจะมีวันหยุดพิเศษ เจ้าจะเป่าแตรเพื่อระลึกถึงว่า นี่เป็นการประชุมศักดิ์สิทธิ์ 25 เจ้าต้องไม่ทำงานในวันนั้น และเจ้าต้องถวายของขวัญให้กับพระยาห์เวห์’”

วันชำระสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และประชาชน

26 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 27 “วันชำระสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และประชาชน[b] ให้บริสุทธิ์ จะตรงกับวันที่สิบของเดือนที่เจ็ด เจ้าจะมีการประชุมศักดิ์สิทธิ์ เจ้าต้องอดอาหารและต้องถวายของขวัญให้กับพระยาห์เวห์ 28 เจ้าต้องไม่ทำงานในวันนั้น เพราะมันเป็นวันสำหรับการชำระสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และประชาชน เพื่อทำการชำระล้างแทนพวกเจ้าทั้งหลายต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า

29 ถ้ามีใครที่ไม่อดอาหารในวันนั้น เขาจะถูกตัดออกจากประชาชนของเขา 30 ถ้ามีใครทำงานในวันนั้น เราจะทำลายคนๆนั้นไปจากประชาชนของเขา 31 เจ้าต้องไม่ทำงานในวันนั้น กฎนี้จะใช้ตลอดไปจนชั่วลูกชั่วหลานของเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะอาศัยอยู่ที่ไหนก็ตาม 32 มันจะเป็นวันหยุดพิเศษสำหรับเจ้า เจ้าต้องอดอาหาร เจ้าต้องรักษาวันหยุดพิเศษของเจ้า มันเริ่มในตอนเย็นของวันที่เก้า แล้วไปสิ้นสุดในตอนเย็นของอีกวันหนึ่งของเดือนนั้น[c]

เทศกาลอยู่เพิง

33 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 34 “ให้บอกประชาชนชาวอิสราเอลว่า ‘เทศกาลอยู่เพิงจะเริ่มในวันที่สิบห้าของเดือนที่เจ็ด เทศกาลเพื่อให้เกียรติกับพระยาห์เวห์นี้ จะเป็นเวลาเจ็ดวัน 35 ในวันที่หนึ่งจะมีการประชุมศักดิ์สิทธิ์ เจ้าต้องไม่ทำงานในวันนั้น 36 ตลอดเจ็ดวันนั้น ให้เจ้าถวายพวกของขวัญให้กับพระยาห์เวห์ ในวันที่แปดเจ้าจะมีการประชุมศักดิ์สิทธิ์ และเจ้าก็จะถวายพวกของขวัญให้กับพระยาห์เวห์ มันคือการประชุมศักดิ์สิทธิ์ เจ้าต้องไม่ทำงานในวันนั้น

37 ทั้งหมดนี้เป็นเทศกาลที่พระยาห์เวห์ได้กำหนดไว้ ที่เจ้าต้องประกาศให้เป็นการประชุมที่ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อจะได้ถวายพวกของขวัญให้กับพระยาห์เวห์ ที่มีทั้งเครื่องเผาบูชา เครื่องบูชาจากเมล็ดพืช เครื่องบูชาจากสัตว์ และเครื่องดื่มบูชา ให้ถวายแต่ละชนิดตามวันที่ได้กำหนดไว้ 38 นี่เป็นเทศกาลต่างๆที่มีขึ้น นอกเหนือจากวันหยุดประจำอาทิตย์ของพระยาห์เวห์ และเครื่องบูชาพวกนี้ก็จะแยกต่างหากจากเครื่องบูชาที่เจ้าเอามาแก้บน หรือที่เจ้าสมัครใจให้กับพระยาห์เวห์

39 ดังนั้นในวันที่สิบห้าของเดือนที่เจ็ด หลังจากที่เจ้าได้เก็บเกี่ยวผลผลิตจากที่ดินของเจ้าแล้ว เจ้าจะฉลองเทศกาลของพระยาห์เวห์เป็นเวลาเจ็ดวัน ในวันแรกและวันที่แปดจะเป็นวันหยุดพิเศษ 40 ในวันแรก เจ้าจะเก็บผลจากต้นผลไม้ แล้วจะเก็บกิ่งจากต้นปาล์ม จากต้นไม้ที่มีใบเป็นพุ่ม และจากต้นหลิวที่ขึ้นตามลำธาร และเจ้าก็จะเฉลิมฉลองต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าเป็นเวลาเจ็ดวัน 41 เฉลิมฉลองเทศกาลนี้ให้เป็นเทศกาลของผู้อพยพ[d] เป็นเวลาเจ็ดวัน ของทุกๆปี กฎนี้จะใช้ตลอดไปชั่วลูกชั่วหลานของเจ้า เจ้าจะเฉลิมฉลองมันในเดือนที่เจ็ด 42 เจ้าจะอาศัยอยู่ในเพิงเป็นเวลาเจ็ดวัน ประชาชนชาวอิสราเอลทุกคนจะอาศัยอยู่ในเพิง 43 เพื่อลูกหลานของเจ้าจะได้รู้ว่า เราให้ประชาชนชาวอิสราเอลอาศัยอยู่ในเพิง เมื่อเรานำพวกเขาออกจากแผ่นดินอียิปต์ เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า’”

44 โมเสสจึงบอกประชาชนชาวอิสราเอลเกี่ยวกับเทศกาลต่างๆเหล่านี้ของพระยาห์เวห์

สดุดี 30

เพลงขอบพระคุณที่รอดตาย

เพลงสดุดีของดาวิด บทเพลงที่ใช้ในการอุทิศวิหาร

ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าสรรเสริญพระองค์ เพราะพระองค์ดึงข้าพเจ้าออกมาจากหลุมลึก
    พระองค์ไม่ได้ปล่อยให้พวกศัตรูของข้าพเจ้าได้เฉลิมฉลองกัน
ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์
    แล้วพระองค์ก็รักษาเยียวยาข้าพเจ้า
ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ยกข้าพเจ้าออกมาจากหลุมศพ
    พระองค์รักษาชีวิตของข้าพเจ้าไว้และไม่ให้ข้าพเจ้าตกลงไปในหลุมแห่งความตาย

ท่านทั้งหลายที่ซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์ ให้ร้องเพลงสรรเสริญต่อพระยาห์เวห์
    ให้ขอบพระคุณแด่ชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
ความโกรธเกรี้ยวของพระองค์อยู่เพียงชั่วคราว
    แต่ความปรานีของพระองค์นำชีวิตมาให้
เราอาจจะร้องไห้ในยามค่ำคืน
    แต่ในวันรุ่งขึ้น เราจะชื่นบาน

ในยามที่ข้าพเจ้ามั่นคงปลอดภัย
    ข้าพเจ้าคิดว่า ไม่มีอะไรสั่นคลอนข้าพเจ้าได้
ข้าแต่พระยาห์เวห์ ตอนที่พระองค์ปรานีต่อข้าพเจ้า
    พระองค์ทำให้ข้าพเจ้ามั่นคงเหมือนภูเขา
แต่ตอนที่พระองค์ซ่อนหน้าไปจากข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าก็กลัวจนตัวสั่น

ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์
    ข้าพเจ้าร้องขอความเมตตากรุณาจากพระองค์
ข้าพเจ้าพูดว่า ถ้าข้าพเจ้าตายไป มันจะมีประโยชน์อะไรหรือ
    พวกที่อยู่ในหลุมศพจะสรรเสริญพระองค์ได้หรือ
    พวกเขาจะพูดกันถึงความซื่อสัตย์ของพระองค์ได้หรือ
10 ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดฟังคำร้องขอของข้าพเจ้าและแสดงความเมตตากรุณาต่อข้าพเจ้า
    ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดเป็นผู้ช่วยของข้าพเจ้าด้วยเถิด

11 แล้วพระองค์ก็เปลี่ยนการคร่ำครวญของข้าพเจ้าให้กลายเป็นการโลดเต้น
    พระองค์ถอดเสื้อผ้าไว้ทุกข์ของข้าพเจ้าออกและเอาความสุขมาสวมใส่ข้าพเจ้าแทน
12 เพื่อข้าพเจ้าจะได้ร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ไม่นิ่งเงียบอีกต่อไป
    ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ตลอดไป

ปัญญาจารย์ 6

ความร่ำรวยไม่ได้นำความสุขมาให้

มีเรื่องเลวร้ายอีกเรื่องหนึ่งที่เราได้เห็นภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ และมันก็หนักหนาสาหัสสำหรับมนุษย์ คือมีคนซึ่งพระเจ้ามอบความร่ำรวย ทรัพย์สมบัติ และชื่อเสียงเกียรติยศให้ จนเขาไม่ขาดอะไรเลยที่อยากได้ แต่พระเจ้าไม่ได้ให้เขาเสพสุขจากสิ่งเหล่านั้น แต่ให้คนอื่นมาเสพสุขแทน นี่ก็เป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง และเลวร้ายทำให้หดหู่ยิ่งนัก

ถ้าชายคนหนึ่งมีลูกสักร้อยคน และมีอายุยืนยาว แต่เขากลับบ่นเกี่ยวกับชีวิตที่เหลืออยู่ของเขา และบ่นว่าไม่ได้รับความสุขจากสิ่งดีๆที่มี และบ่นว่าไม่มีที่ฝังศพ เราขอบอกว่าเด็กที่ตายในท้องก็ยังดีกว่าเขาเสียอีก เพราะการเกิดมาของเด็กคนนั้นก็ไม่เที่ยง และเขาก็เข้าสู่ความมืด และชื่อของเขาก็ถูกความมืดปกคลุมไป

ถึงแม้เด็กน้อยนั้นจะยังไม่ทันได้เห็นดวงอาทิตย์ และยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย เด็กนั้นก็ยังมีความสงบสุขมากกว่าชายชราคนนี้เสียอีก

ถึงแม้ว่าชายคนนี้จะมีอายุยืนหนึ่งพันปีถึงสองครั้ง แต่ไม่พบความสุข แล้วจะมีประโยชน์อะไร เพราะสุดท้ายแล้วทุกคนก็ต้องไปอยู่ในจุดเดียวกันไม่ใช่หรือ

คนเราทำงานหนักก็เพื่อปากท้อง แต่ก็ไม่เคยเติมเต็มความอยากของตัวเองอยู่ดี

ถ้าอย่างนั้นคนฉลาดได้เปรียบคนโง่ตรงไหนหรือ

แล้วจะมีประโยชน์อะไรที่คนจนเรียนรู้เพื่อที่จะจัดการกับชีวิต

ความพอใจกับสิ่งที่ตาได้เห็น ก็ยังดีกว่าความอยากที่ไม่รู้จบ นี่ก็เป็นสิ่งไม่เที่ยงเหมือนกัน เหมือนไล่ตามลม

10 ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมาล้วนถูกกำหนดไว้แล้วทั้งสิ้น พระเจ้ารู้จักเส้นทางซึ่งพระองค์ได้กำหนดไว้ให้กับมนุษย์นั้น และพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะโต้เถียงกับพระเจ้าผู้ซึ่งมีกำลังกว่าได้

11 อันที่จริงแล้ว ยิ่งโต้เถียงมากเท่าไร ก็ยิ่งไร้สาระเท่านั้น มนุษย์ได้ประโยชน์อะไรจากการโต้เถียงนี้บ้าง

12 ใครจะไปรู้ว่า สิ่งไหนจะดีสำหรับมนุษย์ในช่วงเวลาแสนสั้นที่เขามีชีวิตอยู่ คือชีวิตอันไร้สาระ ที่ผ่านไปเหมือนเงา เพราะใครจะบอกได้บ้างว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเขาภายใต้ดวงอาทิตย์นี้

2 ทิโมธี 2

ทหารผู้ซื่อสัตย์ของพระเยซูคริสต์

ลูกทิโมธีเอ๋ย ขอให้ความเมตตาที่มีอยู่ในพระเยซูคริสต์ทำให้คุณเข้มแข็ง ให้เอาคำสอนต่างๆที่คุณได้ยินจากผมต่อหน้าพยานมากมายนั้น ไปให้กับคนที่ไว้ใจได้และสามารถสอนต่อได้ มาร่วมทุกข์กับผมดีกว่า เหมือนทหารที่ดีของพระเยซูคริสต์ ไม่มีใครหรอกที่มาเป็นทหารแล้วยังมัวยุ่งกับเรื่องของทางบ้าน เพราะเขาก็อยากจะเอาใจผู้บังคับบัญชาของเขา นักกีฬาที่เข้าแข่งขันก็เหมือนกัน จะต้องแข่งขันตามกฎกติกาเสียก่อนถึงจะได้รับรางวัลของผู้ชนะ ชาวนาที่ทำงานหนัก ก็ควรจะเป็นคนแรกที่ได้รับส่วนแบ่งจากพืชผลนั้น คิดดูให้ดีถึงเรื่องที่ผมพูดให้คุณฟังนี้ แล้วองค์เจ้าชีวิตจะทำให้คุณเข้าใจมันทั้งหมด

จำไว้ว่า ข่าวดีที่ผมประกาศ คือพระเยซูคริสต์ได้ฟื้นขึ้นมาจากความตาย และพระองค์เป็นลูกหลานของดาวิด[a] เพราะข่าวดีนี้แหละ ผมถึงต้องทนทุกข์อยู่ตอนนี้ ถึงกับถูกล่ามโซ่เหมือนกับผู้ร้าย แต่ถ้อยคำของพระเจ้านั้น เอาโซ่ล่ามไว้ไม่อยู่หรอกนะ 10 ผมจึงยอมอดทนทุกอย่าง เพราะเห็นแก่คนที่พระเจ้าได้เลือกเอาไว้ เพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้รับความรอดซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์ และสง่าราศีจากพระเจ้าตลอดไป

11 นี่เป็นคำพูดที่เชื่อถือได้ คือ
ถ้าเราตายกับพระองค์
    เราก็จะมีชีวิตกับพระองค์
12 ถ้าเราอดทนต่อความทุกข์ยาก
    เราจะได้ปกครองร่วมกับพระองค์
ถ้าเราทิ้งพระองค์
    พระองค์ก็จะทิ้งเราเหมือนกัน
13 ถ้าเราไม่ซื่อสัตย์
    พระองค์ก็ยังคงซื่อสัตย์อยู่ดี
เพราะพระองค์จะทำตัวขัดกับอุปนิสัยที่แท้จริงของพระองค์เองไม่ได้

คนงานแบบที่พระเจ้ายอมรับ

14 ให้เตือนพวกเขาบ่อยๆในเรื่องพวกนี้ และตักเตือนพวกเขาต่อหน้าพระเจ้าว่า อย่าถกเถียงกันในเรื่องคำพูด มันไม่มีประโยชน์อะไร มีแต่จะทำลายคนฟังเท่านั้น 15 พยายามเต็มที่ให้เป็นคนที่พระเจ้ารับรอง เป็นคนงานที่ไม่มีอะไรต้องอาย และเป็นคนงานที่สอนถ้อยคำแห่งความจริงของพระเจ้าได้อย่างถูกต้อง 16 แต่ให้หลีกเลี่ยงจากการพูดคุยที่หยาบช้าและไม่ยำเกรงพระเจ้า เพราะยิ่งพูดก็ยิ่งไม่ยำเกรงพระเจ้า 17 คำสอนของพวกเขาก็จะลามไปทั่วเหมือนกับมะเร็ง ฮีเมเนอัสและฟีเลทัสก็รวมอยู่ในคนพวกนั้นด้วย 18 สองคนนี้ได้หลงไปจากความจริง เขาพูดว่าการฟื้นขึ้นมาจากความตายสำหรับเรานั้นได้เกิดขึ้นไปแล้ว สองคนนี้ได้ทำลายความเชื่อของบางคนไป 19 อย่างไรก็ตาม รากฐานที่แข็งแกร่งของพระเจ้ายังยืนหยัดอย่างมั่นคง และยังมีข้อความจารึกไว้ว่า “องค์เจ้าชีวิตรู้จักคนเหล่านั้นที่เป็นของพระองค์”[b] และ “ให้คนที่อ้างว่าเป็นคนขององค์เจ้าชีวิต เลิกทำชั่วทุกชนิด”

20 ในบ้านหลังใหญ่ ไม่ได้มีแต่ของใช้ที่ทำจากทองและเงินเท่านั้น แต่ยังมีของใช้ที่ทำจากไม้และดินเหนียวด้วย ของใช้บางอย่างก็ใช้สำหรับงานพิเศษต่างๆและบางอย่างก็ใช้สำหรับงานประจำวัน 21 ดังนั้น ถ้าคนไหนได้ชำระล้างตนเองจากสิ่งที่ชั่วร้ายเหล่านี้แล้ว คนนั้นก็จะเป็นของใช้ที่ใช้สำหรับงานที่พิเศษ เขาจะเป็นคนของพระเจ้า เป็นประโยชน์สำหรับเจ้าของ และพร้อมสำหรับการงานที่ดีทุกอย่าง

22 ให้วิ่งหนีจากราคะตัณหาของคนหนุ่มสาว แต่ไล่ตามสิ่งที่ถูกต้อง เช่นความเชื่อ ความรัก และสันติสุข ร่วมกับคนเหล่านั้นที่ร้องเรียกองค์เจ้าชีวิตด้วยใจที่สะอาดบริสุทธิ์ 23 อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับการโต้เถียงที่เหลวไหลและโง่เขลา เพราะคุณก็รู้ว่ามันจะทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทกัน 24 ส่วนผู้รับใช้ขององค์เจ้าชีวิตต้องไม่ทะเลาะวิวาท แต่ต้องสุภาพกับทุกคน ต้องสอนคนอื่นได้ และต้องอดทน 25 เขาจะต้องสอนคนที่ต่อต้านเขาอย่างใจเย็น ด้วยหวังว่าพระเจ้าจะทำให้คนพวกนี้กลับตัวกลับใจ และได้รู้ถึงความจริง 26 ซึ่งจะช่วยให้พวกนี้ได้สติคืนมา และหลุดพ้นจากกับดักของมารที่จับพวกเขาไว้ให้ทำตามใจของมัน

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International