M’Cheyne Bible Reading Plan
รางวัลสำหรับการเชื่อฟังพระเจ้า
(ฉธบ. 7:12-24; 28:1-14)
26 อย่าทำรูปเคารพสำหรับตัวพวกเจ้าเอง อย่าสร้างรูปปั้นหรือเสาที่ระลึก[a] สำหรับตัวพวกเจ้าเอง และอย่าวางหินที่ตกแต่งแล้วในแผ่นดินของเจ้าเพื่อกราบไหว้บูชาต่อหน้ามัน เพราะเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
2 เจ้าต้องรักษาพวกวันหยุดทางศาสนาของเรา เจ้าต้องเคารพสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเรา เราคือยาห์เวห์
3 ถ้าเจ้าใช้ชีวิตตามกฎเหล่านั้นของเรา และรักษาคำสั่งของเรา และทำตามสิ่งเหล่านั้น 4 เราจะให้ฝนกับเจ้าตามฤดูกาล เพื่อแผ่นดินจะผลิตพืชผล และต้นไม้ก็จะออกผล 5 พวกเจ้าจะเก็บเกี่ยวพืชผลมากมาย จะมีเมล็ดข้าวให้นวด[b] เนิ่นนานไปจนถึงเวลาเก็บผลองุ่น และจะมีผลองุ่นให้เก็บเนิ่นนานไปจนถึงฤดูเพาะปลูก แล้วเจ้าก็จะมีอาหารกินอย่างเหลือเฟือ และเจ้าจะอยู่อย่างปลอดภัยบนแผ่นดินของเจ้า 6 เราจะให้ประเทศเจ้ามีความสงบสุข เจ้าจะนอนลงด้วยความสงบสุข และไม่ต้องกลัวสิ่งใด เราจะกำจัดสัตว์ร้ายต่างๆให้หมดไปจากแผ่นดินของเจ้า และจะไม่มีกองทัพใดๆบุกมาโจมตีประเทศของเจ้า
7 เจ้าจะรุกไล่ศัตรูของเจ้า และเจ้าจะชนะศัตรูและฆ่าฟันพวกมันล้มลงต่อหน้า 8 พวกเจ้าห้าคนจะรุกไล่ศัตรูได้เป็นร้อย พวกเจ้าร้อยคนจะรุกไล่ศัตรูได้เป็นหมื่น เจ้าจะชนะศัตรูและฆ่าฟันพวกมันล้มลงต่อหน้า
9 แล้วเราจะเมตตาปรานีเจ้า และทำให้เจ้ามีลูกหลานเป็นทวีคูณ เราจะรักษาข้อตกลงที่เรามีกับเจ้า 10 เจ้าจะมีพืชผลเก็บไว้ในยุ้งฉาง กินไปนานแสนนาน จนถึงกับต้องเอาพืชผลเก่าทิ้ง เพื่อให้มีที่ว่างสำหรับพืชผลใหม่ 11 เราจะตั้งเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ของเราท่ามกลางพวกเจ้า เราจะไม่หันไปจากพวกเจ้า 12 เราจะเดินอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า เราจะเป็นพระเจ้าของเจ้า และเจ้าจะเป็นประชาชนของเรา 13 เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า เราได้นำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ เพื่อเจ้าจะได้ไม่ต้องเป็นทาสพวกเขาอีกต่อไป เราได้ทำลายคานของแอกบนตัวเจ้า และเราได้ทำให้เจ้าเดินเชิดหน้าได้อีก
ผลจากการไม่เชื่อฟังพระเจ้า
(ฉธบ. 28:15-68)
14 แต่ถ้าเจ้าไม่เชื่อฟังเราและไม่ทำตามคำสั่งเหล่านี้ทั้งหมด 15 ถ้าเจ้าทอดทิ้งกฎต่างๆของเรา และเจ้าเกลียดระเบียบต่างๆของเรา จนไม่ได้ทำตามคำสั่งต่างๆของเรา แต่ได้ทำลายข้อตกลงของเรา 16 เราก็จะทำอย่างนี้กับเจ้า คือ เราจะทำให้เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นกับเจ้า ทั้งโรคระบาดและเจ็บไข้ได้ป่วย มันจะทำลายดวงตาพวกเจ้าและทำลายชีวิตของเจ้าไป เจ้าจะลงแรงเพาะปลูกไปเปล่าๆเพราะศัตรูของเจ้าจะมากินพืชผลนั้น 17 เราจะต่อต้านเจ้า เจ้าจะพ่ายแพ้ศัตรูของเจ้า คนที่เกลียดเจ้าจะปกครองเหนือเจ้า เจ้าจะกลัวจนหนีแม้แต่ในเวลาที่ไม่มีใครไล่ล่าเจ้า
18 หลังจากนั้น ถ้าเจ้ายังไม่ยอมเชื่อฟังเรา เราจะตีสอนเจ้าให้หนักขึ้นไปอีกถึงเจ็ดเท่าสำหรับบาปทั้งหลายของเจ้า 19 เราจะทำลายความหยิ่งผยองที่เจ้ามีในอำนาจของเจ้า โดยทำลายแผ่นดินของเจ้า และเราจะทำให้ท้องฟ้าเจ้าเหมือนเหล็ก และแผ่นดินเจ้าเหมือนทองแดง[c] 20 เจ้าจะเหน็ดเหนื่อยเปล่าๆแผ่นดินของเจ้าจะไม่งอกพืชผลออกมา ต้นไม้บนแผ่นดินจะไม่ออกผลของมัน
21 ถ้าเจ้ายังใช้ชีวิตอย่างเป็นศัตรูกับเรา และไม่ยอมฟังเรา เราจะตีสอนเจ้าให้หนักยิ่งขึ้นถึงเจ็ดเท่าสำหรับบาปทั้งหลายของเจ้า 22 เราจะปล่อยสัตว์ที่ดุร้ายไปทำร้ายเจ้า พวกมันจะเอาลูกๆของเจ้าไป และจะทำลายฝูงสัตว์ของเจ้า มันจะฆ่าพวกเจ้าจนเหลืออยู่ไม่กี่คน จนถนนหนทางของพวกเจ้าจะรกร้างว่างเปล่า
23 และถ้าหลังจากเกิดสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดแล้ว เจ้ายังไม่ยอมรับการตีสอนของเรา แต่ยังใช้ชีวิตอย่างศัตรูกับเรา 24 ถ้าอย่างนั้น เราก็จะอยู่กับเจ้าอย่างศัตรูด้วย และเราจะลงโทษเจ้าให้หนักขึ้นถึงเจ็ดเท่าสำหรับบาปทั้งหลายของเจ้า 25 เราจะให้กองทัพต่างๆมาฆ่าฟันเจ้า เพื่อแก้แค้นที่เจ้าไม่รักษาข้อตกลง ถ้าเจ้ารวมตัวกันหลบอยู่ในเมือง เราก็จะส่งโรคระบาดร้ายแรงมาท่ามกลางพวกเจ้า และเราก็จะส่งมอบเจ้าให้ไปอยู่ในกำมือของพวกศัตรูเจ้า เพื่อพวกเขาจะได้ปกครองเจ้า 26 เมื่อเราตัดเสบียงอาหารของเจ้า ขนมปังของหญิงสิบคนใช้แค่เตาอบเดียวก็พอ เพราะจะมีแป้งเหลือให้ทำขนมปังน้อยมาก เจ้าจะต้องปันส่วนขนมปังกัน และเมื่อกินแล้ว ก็จะยังหิวอยู่
27 แล้วถ้าหลังจากนี้ เจ้ายังไม่ยอมฟังเรา และยังใช้ชีวิตอย่างกับศัตรูกับเรา 28 เราก็จะอยู่กับเจ้าอย่างกับศัตรูที่โกรธแค้น และเราจะลงโทษเจ้าหนักขึ้นเป็นเจ็ดเท่าสำหรับบาปทั้งหลายของเจ้า 29 เจ้าจะหิวจนต้องกินเนื้อลูกชายลูกสาวของเจ้าเอง 30 เราจะทำลายสถานนมัสการทั้งหลายของเจ้า และจะโค่นพวกแท่นบูชาเครื่องหอมของเจ้า และจะเอาศพของเจ้าวางทับพวกรูปเคารพที่ไร้ชีวิตพวกนั้นของเจ้า และเราจะเกลียดชังเจ้า 31 เราจะทำให้เมืองต่างๆของเจ้าเป็นซากปรักหักพัง และจะทำลายสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายของเจ้า และเราจะรู้สึกเหม็นต่อเครื่องบูชาต่างๆของเจ้า 32 เราจะทำลายแผ่นดินนี้ จนศัตรูที่จะเข้ามาตั้งถิ่นฐานเห็นแล้วต้องตะลึงงันเพราะมัน 33 เราจะทำให้พวกเจ้ากระจัดกระจายไปในท่ามกลางชนชาติต่างๆและจะชักดาบของเราขึ้นต่อต้านเจ้า แผ่นดินของเจ้าจะรกร้างว่างเปล่า และเมืองต่างๆของเจ้าจะถูกทำลาย
34 ตลอดเวลาที่แผ่นดินว่างเปล่า ตอนที่เจ้าไปอยู่ในแผ่นดินของพวกศัตรูเจ้า แผ่นดินก็จะได้หยุดพัก ชดเชยปีเหล่านั้นที่เจ้าไม่ยอมให้มันหยุดพัก 35 ตลอดเวลาที่มันถูกทอดทิ้งนี้ มันจะได้หยุดพัก อย่างที่มันไม่เคยได้หยุดมาก่อนในปีแห่งการหยุดพัก ตอนที่เจ้าอยู่ในแผ่นดินนี้ 36 ส่วนคนที่รอดชีวิต เราจะทำให้พวกเขามีจิตใจที่ขี้ขลาดตาขาวในดินแดนของศัตรู แค่เสียงลมพัดใบไม้ พวกเขาก็จะวิ่งหนี ราวกับมีใครไล่ล่าด้วยดาบในสงคราม พวกเขาจะล้มลงแม้ไม่มีใครไล่ตามมา 37 พวกเขาจะวิ่งล้มลุกคลุกคลานสะดุดกันเองราวกับจะหลบดาบ แม้ไม่มีใครไล่ตามมาก็ตาม เจ้าจะไม่มีเรี่ยวแรงยืนสู้กับศัตรูของเจ้า 38 พวกเจ้าจะล้มหายตายจากไปในท่ามกลางชนชาติอื่นๆและแผ่นดินของศัตรูพวกเจ้าก็จะกลืนกินพวกเจ้า 39 ส่วนผู้ที่รอดตาย[d]ก็จะทรุดโทรมตาย ไปในดินแดนของศัตรู เพราะความบาปของพวกเขา และเพราะบาปของบรรพบุรุษของพวกเขาด้วย พวกเขาจะทรุดโทรมตายไป[e]เหมือนกับบรรพบุรุษของพวกเขา
ยังคงมีความหวังเสมอ
40 แต่ถ้าหากว่า พวกเขายอมสารภาพบาปของพวกเขา และบาปของบรรพบุรุษของพวกเขา พวกเขายอมรับว่าพวกเขาไม่ซื่อสัตย์ต่อเรา และได้ใช้ชีวิตอย่างกับเป็นศัตรูกับเรา 41 เราถึงได้อยู่กับพวกเขาอย่างศัตรู และนำพวกเขาไปสู่แผ่นดินของศัตรูพวกเขา และถ้าพวกเขาถ่อมตัวลง และยอมรับการลงโทษสำหรับบาปทั้งหลายของพวกเขา 42 เราก็จะระลึกถึงข้อตกลงที่เราได้ทำไว้กับยาโคบ ระลึกถึงข้อตกลงที่เราได้ทำไว้กับอิสอัค และข้อตกลงที่เราได้ทำไว้กับอับราฮัม แล้วเราก็จะระลึกถึงแผ่นดินนั้น
43 แผ่นดินนั้นจะถูกทอดทิ้งให้รกร้างว่างเปล่าและในเวลาที่พวกนั้นไม่อยู่ มันจะได้พักชดใช้ให้กับปีแห่งการหยุดพัก และพวกที่รอดชีวิตของเจ้าก็จะยอมรับการลงโทษ สำหรับบาปต่างๆของพวกเขา คือที่พวกเขาได้ทอดทิ้งระเบียบต่างๆของเรา และพวกเขาได้เกลียดกฎต่างๆของเรา 44 แต่หลังจากเหตุการณ์นี้แล้ว ถึงแม้พวกเขาจะอยู่ในดินแดนของศัตรู เราก็จะไม่ทอดทิ้งพวกเขา และจะไม่เกลียดพวกเขา จนถึงกับทำลายพวกเขาอย่างราบคาบและทำลายข้อตกลงระหว่างเรากับพวกเขา เพราะเราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า 45 แต่เราจะระลึกถึงข้อตกลงของเราที่เรามีกับบรรพบุรุษของพวกเขา ที่เราได้นำออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ต่อหน้าสายตาของชนชาติอื่นๆเพื่อเราจะได้เป็นพระเจ้าของพวกเขา เราคือยาห์เวห์’”
46 สิ่งเหล่านี้คือกฎ ระเบียบและคำสอนต่างๆที่พระยาห์เวห์ทำขึ้นระหว่างพระองค์กับประชาชนชาวอิสราเอลผ่านทางโมเสส บนภูเขาซีนาย
เพลงสรรเสริญพระยาห์เวห์ผู้สร้างและผู้ครอบครองโลกนี้
1 พวกเจ้าที่ทำตามใจพระเจ้า ให้ชื่นชมยินดีในพระยาห์เวห์เถิด
สมควรแล้วที่คนซื่อตรงจะสรรเสริญพระองค์
2 สรรเสริญพระยาห์เวห์ ด้วยการเล่นพิณสี่สายเถิด
ร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ด้วยการเล่นพิณสิบสายเถิด
3 ร้องเพลงบทใหม่ให้กับพระยาห์เวห์
ให้เล่นพิณอย่างชำนิชำนาญ และโห่ร้องด้วยความยินดี
4 พระคำของพระยาห์เวห์นั้นซื่อตรง
และพระองค์สัตย์ซื่อต่อคนของพระองค์ในทุกสิ่งที่พระองค์ทำ
5 พระยาห์เวห์รักความดีและความยุติธรรม
โลกนี้เต็มไปด้วยความรักมั่นคงของพระองค์
6 โดยคำสั่งของพระยาห์เวห์ สวรรค์ก็ถูกสร้างขึ้น
โดยคำพูดจากปากของพระองค์ ดวงดาวทั้งหมดก็เกิดขึ้น
7 พระองค์ได้รวบรวมน้ำทะเลมาอยู่ด้วยกัน
และเคลื่อนน้ำในมหาสมุทรไปไว้ในคลังเก็บน้ำ
8 พลเมืองทุกคนของโลกเอ๋ย ให้ยำเกรงพระยาห์เวห์เถิด
พวกเจ้าทุกคนที่อยู่บนโลกนี้ ให้เกรงกลัวพระองค์เถิด
9 เพราะว่า เมื่อพระองค์พูด มันก็เกิดขึ้น
เมื่อพระองค์ออกคำสั่ง โลกก็ตั้งขึ้น
10 พระองค์สามารถทำให้แผนการต่างๆที่ชนชาติทั้งหลายวางไว้นั้นไม่สำเร็จ
และพระองค์สามารถทำให้โครงการต่างๆของชาติต่างๆล้มเหลวได้
11 แต่แผนการต่างๆของพระยาห์เวห์นั้นยั่งยืนตลอดไป
โครงการต่างๆในใจของพระองค์นั้นจะอยู่ไปตลอดชั่วลูกชั่วหลาน
12 ชนชาติที่มีพระยาห์เวห์เป็นพระเจ้าของพวกเขานั้น ถือว่ามีเกียรติจริงๆ
ชนชาติที่พระองค์ได้เลือกมาเป็นคนของพระองค์เองนั้น ถือว่ามีเกียรติจริงๆ
13 พระยาห์เวห์มองลงมาจากสวรรค์
มองเห็นมนุษย์ทุกคน
14 พระองค์มองลงมาจากบัลลังก์ของพระองค์
เห็นมนุษย์ทุกคนที่อาศัยอยู่บนโลก
15 พระองค์คือผู้ที่สร้างจิตใจของพวกเขาขึ้นมาทุกคน
และพระองค์เข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขากำลังทำอยู่
16 ชัยชนะของกษัตริย์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับทหารมากมาย
ชัยชนะของนักรบก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของเขา
17 ความแข็งแกร่งของม้าศึกไม่ได้นำชัยชนะมาให้หรอก
พลังอันแข็งแกร่งของมันไม่ช่วยให้ใครรอดได้หรอก
18 ดูเถิด พระยาห์เวห์เฝ้าดูคนที่ยำเกรงพระองค์
พระองค์ดูแลคนที่ฝากความหวังไว้กับความรักมั่นคงของพระองค์
19 พระองค์ช่วยให้พวกเขารอดพ้นจากความตาย
และช่วยให้เขามีชีวิตอยู่ได้ในยามที่ขาดแคลนอาหาร
20 พวกเราเฝ้ารอพระยาห์เวห์มาช่วย
เพราะพระองค์คือผู้ช่วยให้รอดและโล่กำบังของพวกเรา
21 เพราะจิตใจของเราชื่นชมยินดีในพระองค์
เพราะพวกเราไว้วางใจในชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
22 ข้าแต่พระยาห์เวห์ขอให้ความรักอันมั่นคงของพระองค์อยู่กับพวกเรา
เพราะพวกเราฝากความหวังไว้กับพระองค์
ความตายยุติธรรมหรือเปล่า
9 ใช่แล้ว เราได้ใส่ใจและตรวจสอบเรื่องทั้งหมดนี้ แล้วเห็นว่าคนดีและคนฉลาดและสิ่งต่างๆที่เขาทำ แม้กระทั่งความรักและความเกลียดของเขา ล้วนแล้วแต่อยู่ในกำมือของพระเจ้า ไม่มีใครรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นกับตัวเขาเองในอนาคต 2 ทุกคนตกอยู่ในสภาพเดียวกันหมด คือ จะต้องเจอกับชะตากรรมเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นคนบริสุทธิ์หรือคนเลว คนดีหรือคนชั่ว คนบริสุทธิ์หรือคนไม่บริสุทธิ์ คนที่ถวายเครื่องบูชา หรือคนที่ไม่ถวายเครื่องบูชา คนที่ชอบสาบานหรือคนที่กลัวการสาบาน 3 ในบรรดาสิ่งต่างๆทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายใต้ดวงอาทิตย์ นี่ก็เป็นเรื่องเลวร้ายอีกเรื่อง คือการที่ทุกคนจะต้องประสบกับชะตากรรมเดียวกัน แถมหัวใจของมนุษย์ยังเต็มไปด้วยความชั่วร้าย จิตใจเต็มไปด้วยความบ้าบอตอนยังมีชีวิตอยู่ แล้วหลังจากนั้นเขาก็ตายกัน 4 จะมีใครเลือกชะตากรรมของตัวเองได้หรือ แต่สำหรับคนเป็นนั้น เขาสามารถมั่นใจได้เรื่องหนึ่ง อย่างที่คนพูดกันว่า
“หมาเป็นย่อมดีกว่าสิงโตที่ตายแล้ว”
5 เพราะคนเป็นมั่นใจได้แน่ว่าเขาจะต้องตายแน่ๆ แต่คนตายไม่รู้อะไรเลย และคนตายก็จะไม่ได้รับรางวัลอะไรอีกแล้ว เพราะผู้คนต่างก็พากันลืมพวกเขาไปหมด 6 ความรัก ความเกลียดชัง และความอิจฉาของพวกเขาหายวับไปหมด และพวกเขาก็ไม่มีส่วนในสิ่งทั้งหลายซึ่งเกิดขึ้นภายใต้ดวงอาทิตย์นี้อีกแล้ว
สนุกกับชีวิตในขณะที่ยังทำได้
7 ไปสิ ไปกินขนมปังของคุณอย่างมีความสุขและดื่มเหล้าองุ่นของคุณด้วยความชื่นชมยินดี เพราะพระเจ้าเห็นชอบกับเรื่องพวกนี้ 8 ใส่เสื้อผ้าเหมือนเตรียมพร้อมจะไปงานรื่นเริงเสมอและใส่น้ำหอมด้วย 9 ให้มีความสุขร่วมกับภรรยาที่คุณรักตลอดวันเวลาอันไม่เที่ยงของชีวิตนี้ ที่คุณได้รับมาภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ เพราะนั่นคือส่วนแบ่งของชีวิตคุณ สำหรับงานหนักที่คุณตรากตรำทำมาภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ 10 สิ่งที่มือคุณทำได้ก็ให้ทำสุดแรงเกิดไปเลย เพราะในแดนคนตายที่จะต้องไปนั้น จะไม่มีการลงมือทำอะไรเลย ไม่มีแม้แต่ความคิด ความรู้ หรือสติปัญญา
ชีวิตนี้ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย
11 เราได้เห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นภายใต้ดวงอาทิตย์ด้วย ที่ว่า คนที่วิ่งเร็วที่สุด ก็ไม่ใช่จะเป็นผู้ชนะเสมอไป ฝ่ายที่มีกำลังเหนือกว่า ก็ไม่ใช่ว่าจะชนะสงครามเสมอไป หรือคนที่มีสติปัญญา ก็ไม่ใช่ว่าจะมีอาหารกินเสมอไป หรือคนที่มีความเข้าใจ ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องร่ำรวยเสมอไป หรือคนที่มีความรู้มาก ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องได้รับการยกย่องเสมอไป เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้กับทุกคน
12 ไม่มีใครรู้หรอกว่าจะตายเมื่อไหร่ เหมือนกับปลาที่ติดในร่างแหอันโหดร้าย เหมือนพวกนกที่ติดในกับดัก คนเราก็เหมือนกัน จะตกเข้าไปในกับดักเมื่อยามซวยมาถึงอย่างไม่ทันตั้งตัว
ฤทธิ์อำนาจของสติปัญญา
13 นี่ก็เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งเกี่ยวกับสติปัญญา ที่เราได้เห็นเกิดขึ้นภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ เราว่ามันน่าคิดทีเดียว 14 มีเมืองเล็กๆเมืองหนึ่งที่มีคนอยู่ไม่มากนัก ต่อมามีกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่บุกมาโจมตีล้อมเมืองไว้ และสร้างเครื่องมือต่างๆเพื่อบุกทะลวงกำแพงเข้าไป 15 แล้วปรากฏว่ามีชายยากจนคนหนึ่งในเมืองนั้นที่มีสติปัญญา สามารถที่จะช่วยให้เมืองนั้นรอดพ้นจากการโจมตีได้ แต่ไม่มีใครสนใจชายยากจนคนนั้น 16 สรุปว่า ความฉลาดนั้นย่อมจะดีกว่ากำลังพล แต่ความฉลาดของชายยากจนเป็นที่ดูถูกดูหมิ่น และไม่มีใครยอมฟังคำพูดของเขา
17 คำพูดที่คนมีสติปัญญาพูดออกมาเบาๆมันสมควรฟัง
มากกว่าเสียงตะโกนของผู้นำในพวกคนโง่
18 สติปัญญา ย่อมดีกว่าอาวุธในสงคราม
แต่คนไม่เอาไหน[a] เพียงคนเดียวก็สามารถทำลายสิ่งดีๆได้มากมาย
1 จาก เปาโล ทาสของพระเจ้าและศิษย์เอกของพระเยซูคริสต์ หน้าที่ของผมคือช่วยส่งเสริมความเชื่อของคนที่พระเจ้าได้เลือกไว้ และช่วยให้พวกเขาเข้าใจความจริงมากขึ้น ความจริงนี้จะทำให้พวกเขาใช้ชีวิตที่ให้เกียรติกับพระเจ้า 2 หน้าที่ของผมนี้ตั้งอยู่บนความหวังที่ว่า เราจะมีชีวิตกับพระเจ้าตลอดไปตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้ ก่อนที่โลกนี้จะเกิดเสียอีก พระเจ้าไม่เคยโกหก 3 เมื่อถึงเวลาที่พระเจ้าผู้ช่วยให้รอดของเราได้กำหนดไว้ พระองค์ก็ได้เปิดเผยถ้อยคำของพระองค์ผ่านทางการประกาศ พระองค์ได้มอบข่าวดีนี้กับผม และสั่งให้ผมออกไปประกาศ
4 ผมจึงได้เขียนจดหมายนี้มาให้ทิตัส ลูกแท้ๆในความเชื่อที่เรามีร่วมกัน
ขอให้พระเจ้าพระบิดาและพระเยซูคริสต์ผู้ช่วยให้รอดของเรา ให้ความเมตตากรุณาและสันติสุขกับคุณ
หน้าที่ของทิตัสบนเกาะครีต
5 ที่ผมได้ทิ้งคุณไว้ที่เกาะครีต ก็เพื่อคุณจะได้สะสางงานที่ยังค้างอยู่ให้เสร็จ และจะได้แต่งตั้งผู้นำอาวุโสตามเมืองต่างๆตามที่ผมได้สั่งกำชับไว้แล้ว 6 ผู้นำอาวุโสนั้น จะต้องไม่มีข้อเสื่อมเสีย มีเมียเพียงคนเดียว มีลูกๆที่มีความเชื่อ ไม่ใช่เด็กเสเพลที่ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ 7 เนื่องจากผู้ดูแลนี้ จะต้องรับผิดชอบครอบครัวของพระเจ้า เขาจะต้องไม่มีอะไรเสื่อมเสียในชีวิต ไม่ทำตัวเป็นเผด็จการ ไม่ขี้โมโห ไม่ขี้เหล้า ไม่ชอบต่อยตี ไม่ขี้โกง 8 แต่เขาจะต้องชอบรับแขกแปลกหน้า รักความดี สุขุมรอบคอบ ยุติธรรม บริสุทธิ์ และต้องรู้จักควบคุมตนเอง 9 เขาจะต้องมีความเชื่อที่มั่นคงในคำสอนที่เป็นประโยชน์ที่เราได้สอนไปนั้น เพื่อจะได้เอาคำสอนนี้ไปให้กำลังใจคนอื่น และเอาไปพิสูจน์ให้คนที่ต่อต้านคำสอนนี้เห็นว่าพวกตนผิด
10 เรื่องนี้สำคัญ เพราะมีหลายคนที่ดื้อดึงไม่ยอมเชื่อฟัง พูดแต่เรื่องไร้สาระ และชักนำคนอื่นให้หลงผิด พวกที่ผมพูดถึงนี้ส่วนใหญ่จะเป็นพวกยิวที่มาเชื่อในพระเยซู 11 จะต้องทำให้คนพวกนี้หยุดพูดให้ได้ เพราะคนพวกนี้โลภ เห็นแก่เงิน จึงสอนในสิ่งที่ไม่ควรสอน เลยทำให้หลายครัวเรือนต้องถูกทำลายไป 12 ขนาดคนหนึ่งของเขาเองที่เป็นคนพูดแทนพวกพระเจ้าของพวกเขายังพูดเลยว่า
“ชาวเกาะครีต พูดโกหกเสมอ
เป็นเหมือนสัตว์ป่าที่ดุร้าย
เป็นคนขี้เกียจและตะกละตะกลาม”
13 แล้วเขาก็เป็นอย่างที่พูดนั้นจริงๆ คุณต้องต่อว่าพวกนี้ให้เจ็บๆ เพื่อเขาจะได้เจริญขึ้นในความเชื่อ 14 จะได้ไม่ไปสนใจนิยายปรัมปราเหลวไหลของยิว และกฎต่างๆของคนที่หันหน้าหนีจากความจริง 15 สำหรับคนที่บริสุทธิ์ อะไรๆก็บริสุทธิ์ไปหมด ส่วนคนที่สกปรกและไม่เชื่อ ก็ไม่มีอะไรบริสุทธิ์เลย เพราะความคิดและใจที่ฟ้องถูกผิดของเขาสกปรกไปหมดแล้ว 16 พวกนี้อ้างว่ารู้จักพระเจ้า แต่การกระทำนั้นตรงกันข้าม พวกนี้น่ารังเกียจ ไม่เชื่อฟัง และไม่เหมาะที่จะทำความดีอะไรเลย
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International