M’Cheyne Bible Reading Plan
โมเสสลงทะเบียนชาวอิสราเอล
1 พระยาห์เวห์ได้พูดกับโมเสสในเต็นท์นัดพบที่ที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งซีนาย วันนั้นเป็นวันที่หนึ่งเดือนที่สองของปีที่สอง หลังจากที่ประชาชนชาวอิสราเอลออกจากแผ่นดินอียิปต์ พระองค์ได้พูดกับโมเสสว่า 2 “ให้ลงทะเบียนจำนวนชาวอิสราเอลในชุมชนนี้ทั้งหมดตามตระกูลและครอบครัว ให้จดรายชื่อ[a]ของผู้ชายทุกคนเรียงตัว 3 เจ้าและอาโรนต้องขึ้นทะเบียนพวกผู้ชายทั้งหมดในอิสราเอล ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้อยู่ในกองทัพของอิสราเอล รวบรวมรายชื่อของพวกเขาไว้เป็นกลุ่มเป็นกอง[b] 4 จะมีผู้ชายหนึ่งคนจากแต่ละเผ่ามาช่วยเจ้า ผู้ชายคนนี้จะเป็นผู้นำครอบครัวของเขา 5 ต่อไปนี้เป็นรายชื่อของผู้ชายพวกนั้นที่จะมาช่วยเจ้า
เอลีซูร์ลูกชายของเชเดเออร์จากเผ่ารูเบน
6 เชลูมิเอลลูกชายของศูริชัดดัยจากเผ่าสิเมโอน
7 นาโชนลูกชายของอัมมีนาดับจากเผ่ายูดาห์
8 เนธันเอลลูกชายของศุอาร์จากเผ่าอิสสาคาร์
9 เอลีอับลูกชายของเฮโลนจากเผ่าเศบูลุน
10 จากลูกหลานของโยเซฟมี
เอลีชามาลูกชายของอัมมีฮูดจากเผ่าเอฟราอิม
กามาลิเอลลูกชายของเปดาซูร์จากเผ่ามนัสเสห์
11 อาบีดันลูกชายของกิเดโอนีจากเผ่าเบนยามิน
12 อาหิเยเซอร์ลูกชายของอัมมีชัดดัยจากเผ่าดาน
13 ปากีเอลลูกชายของโอครานจากเผ่าอาเชอร์
14 เอลียาสาฟลูกชายของเรอูเอล[c] จากเผ่ากาด
15 อาหิราลูกชายของเอนันจากเผ่านัฟทาลี”
16 คนเหล่านี้คือผู้ที่ได้รับเลือกมาจากชุมชน ให้มาเป็นผู้นำของเผ่าต่างๆของบรรพบุรุษพวกเขา พวกเขาเป็นผู้นำของตระกูลต่างๆของอิสราเอล 17 โมเสสและอาโรนจึงเอาคนพวกนี้ที่ได้รับเลือกมา 18 แล้วโมเสสและอาโรนก็เรียกประชุมคนในชุมชนทั้งหมดในวันแรกของเดือนที่สอง และได้จดรายชื่อประชาชนเหล่านั้นไว้ตามตระกูลและครอบครัวของตน และได้จดรายชื่อของผู้ชายเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป 19 ตามที่พระยาห์เวห์ได้สั่งโมเสสไว้ โมเสสจึงได้นับประชาชนเหล่านั้นในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งซีนาย
20 พวกเขานับลูกหลานของเผ่ารูเบนซึ่งเป็นลูกหัวปีของอิสราเอล ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ 21 จำนวนคนที่นับได้จากเผ่ารูเบน มีทั้งหมดสี่หมื่นหกพันห้าร้อยคน
22 พวกเขานับลูกหลานของเผ่าสิเมโอน ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไปที่สามารถรับใช้ในกองทัพ 23 จำนวนคนที่นับได้จากเผ่าสิเมโอน มีทั้งหมดห้าหมื่นเก้าพันสามร้อยคน
24 พวกเขานับลูกหลานของเผ่ากาด ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ 25 จำนวนคนที่นับได้จากเผ่ากาด มีทั้งหมดสี่หมื่นห้าพันหกร้อยห้าสิบคน
26 พวกเขานับลูกหลานของเผ่ายูดาห์ ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ 27 จำนวนคนที่นับได้จากเผ่ายูดาห์ มีทั้งหมดเจ็ดหมื่นสี่พันหกร้อยคน
28 พวกเขานับลูกหลานของเผ่าอิสสาคาร์ ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ 29 จำนวนคนที่นับได้จากเผ่าอิสสาคาร์ มีทั้งหมดห้าหมื่นสี่พันสี่ร้อยคน
30 พวกเขานับลูกหลานของเผ่าเศบูลุน ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ 31 จำนวนคนที่นับได้จากเผ่าเศบูลุน มีทั้งหมดห้าหมื่นเจ็ดพันสี่ร้อยคน
32 พวกเขานับลูกหลานของเผ่าเอฟราอิม ลูกชายของโยเซฟ ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ 33 จำนวนคนที่นับได้จากเผ่าเอฟราอิม มีทั้งหมดสี่หมื่นห้าร้อยคน
34 พวกเขานับลูกหลานของเผ่ามนัสเสห์ ลูกชายอีกคนของโยเซฟ ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายเรียงตัวทุกคน ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ 35 จำนวนคนที่นับได้จากเผ่ามนัสเสห์ มีทั้งหมดสามหมื่นสองพันสองร้อยคน
36 พวกเขานับลูกหลานของเผ่าเบนยามิน ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ 37 จำนวนคนที่นับได้จากเผ่าเบนยามิน มีทั้งหมดสามหมื่นห้าพันสี่ร้อยคน
38 พวกเขานับลูกหลานเผ่าดาน ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ 39 จำนวนคนที่นับได้จากเผ่าดาน มีทั้งหมดหกหมื่นสองพันเจ็ดร้อยคน
40 พวกเขานับลูกหลานของเผ่าอาเชอร์ ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ 41 จำนวนคนที่นับได้จากเผ่าอาเชอร์ มีทั้งหมดสี่หมื่นหนึ่งพันห้าร้อยคน
42 พวกเขานับลูกหลานของเผ่านัฟทาลี ตามตระกูลและครอบครัวของพวกเขา และจดรายชื่อผู้ชายทุกคนเรียงตัว ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ที่สามารถรับใช้ในกองทัพ 43 จำนวนคนที่นับได้จากเผ่านัฟทาลี มีทั้งหมดห้าหมื่นสามพันสี่ร้อยคน
44 โมเสสและอาโรน รวมทั้งผู้นำสิบสองคนจากแต่ละเผ่าของอิสราเอลเป็นผู้นับจำนวนคนเหล่านี้ ผู้นำแต่ละคนก็เป็นตัวแทนของแต่ละครอบครัว 45 พวกเขานับผู้ชายชาวอิสราเอลทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไปและสามารถรับใช้ในกองทัพ ตามครอบครัวของตน 46 รวมจำนวนคนที่นับได้ทั้งหมดมีหกแสนสามพันห้าร้อยห้าสิบคน
47 แต่ชาวเผ่าเลวีไม่ได้ถูกนับรวมกับชาวอิสราเอลคนอื่นๆ 48 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 49 “เจ้าต้องไม่นับเผ่าเลวี เจ้าต้องไม่นับพวกเขา รวมกับชาวอิสราเอลคนอื่นๆ 50 แต่เจ้าต้องตั้งให้คนเลวีรับผิดชอบเต็นท์ที่เก็บข้อตกลงและเครื่องใช้ไม้สอย รวมทั้งของทุกอย่างที่เป็นของเต็นท์นั้น พวกเขาต้องแบกเต็นท์ที่เก็บข้อตกลงและเครื่องใช้ในนั้นทั้งหมด และต้องคอยดูแลของเหล่านั้น พวกเขายังต้องตั้งเต็นท์อยู่รอบๆเต็นท์ที่เก็บข้อตกลงด้วย 51 เมื่อมีการย้ายเต็นท์ที่เก็บข้อตกลง พวกเขาจะต้องเป็นผู้รื้อถอนมัน และเมื่อมีการตั้งเต็นท์ ชาวเลวีก็จะเป็นผู้ติดตั้งมัน ถ้าคนอื่นที่ไม่ใช่ชาวเลวีเข้ามาใกล้เต็นท์ที่เก็บข้อตกลง คนๆนั้นต้องถูกฆ่า 52 ประชาชนชาวอิสราเอลจะตั้งค่ายของพวกเขาแยกต่างหากเป็นกลุ่มเป็นกอง แต่ละคนจะอยู่ตามหน่วยของตนเอง[d] 53 แต่ชาวเลวีต้องตั้งเต็นท์อยู่รอบๆเต็นท์ที่เก็บข้อตกลง เพื่อว่าพระเจ้าจะได้ไม่โกรธเคืองชาวอิสราเอลคนอื่น เพราะชาวเลวีจะเป็นยามเฝ้าระวังไม่ให้ชาวอิสราเอลล่วงล้ำเข้าไปในเต็นท์ที่เก็บข้อตกลง”
54 ประชาชนชาวอิสราเอลจึงทำทุกสิ่งตามที่พระยาห์เวห์สั่งโมเสสไว้
อธิษฐานขอให้พระยาห์เวห์แก้คดีให้
เพลงของดาวิด
1 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ช่วยต่อต้านคนเหล่านั้นที่ต่อต้านข้าพเจ้า
ช่วยรบกับคนเหล่านั้นที่รบกับข้าพเจ้า
2 ช่วยคว้าโล่เล็กและโล่ใหญ่ของพระองค์
และลุกขึ้นมาช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด
3 ช่วยใช้หอกและทวนต่อสู้กับคนเหล่านั้นที่ไล่ล่าข้าพเจ้าด้วยเถิด
ช่วยบอกข้าพเจ้าด้วยว่า “ตัวเราเองได้มาช่วยกู้เจ้าแล้ว”
4 ขอให้คนเหล่านั้นที่มุ่งเอาชีวิตของข้าพเจ้า ได้พ่ายแพ้และอับอายขายหน้า
ขอให้คนเหล่านั้นที่วางแผนทำร้ายข้าพเจ้า สับสนอลหม่านและถูกไล่หนีไป
5 ขอให้พวกเขาเป็นเหมือนแกลบที่ถูกลมพัดไป
และถูกทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ขับไล่ไป
6 ขอให้ช่องทางหนีของพวกเขานั้นมืดมิดและลื่นไถล
และถูกทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ไล่ล่าไป
7 เพราะพวกเขาวางตาข่ายดักข้าพเจ้า ทั้งๆที่ข้าพเจ้าไม่ได้ทำอะไรพวกเขา
พวกเขาขุดหลุมพรางสำหรับข้าพเจ้า
8 ขอให้พวกเขาเจอกับความพินาศอย่างไม่ทันรู้ตัว
ขอให้พวกเขาติดตาข่ายที่เขาวางไว้ดักข้าพเจ้า
และตกลงไปในหลุมพรางของตัวเองและพินาศไป
9 แล้วข้าพเจ้าจะชื่นชมยินดีในสิ่งที่พระยาห์เวห์ได้ทำไป
และมีความสุขที่พระองค์ช่วยกู้ข้าพเจ้า
10 แล้วกระดูกทั่วตัวของข้าพเจ้าจะพูดว่า
“ข้าแต่พระยาห์เวห์ จะมีใครเหมือนกับพระองค์อีก
พระองค์ช่วยคนยากจนให้รอดพ้นจากคนที่เอาเปรียบเขา
และช่วยคนยากจนและคนขัดสนให้พ้นจากคนเหล่านั้นที่คอยปล้นพวกเขา”
11 พยานที่มุ่งร้ายต่อข้าพเจ้า
ยืนขึ้นกล่าวหาข้าพเจ้าในสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่รู้เรื่อง
12 พวกเขาตอบแทนความดีของข้าพเจ้าด้วยความชั่ว
คอยดักซุ่มฆ่าข้าพเจ้า[a]
13 เมื่อพวกเขาเจ็บป่วย ข้าพเจ้าใส่ชุดที่แสดงความเสียใจ
และถ่อมใจลงอดอาหาร เมื่อคำอธิษฐานของข้าพเจ้าไม่ได้รับคำตอบ
14 ข้าพเจ้าทำเหมือนกับว่าพวกเขาเป็นเพื่อนหรือพี่น้องของข้าพเจ้าเอง
ข้าพเจ้าก้มลงด้วยความโศกเศร้าราวกับว่าเป็นแม่ของข้าพเจ้าเอง
15 แต่เมื่อข้าพเจ้ามีปัญหาพวกเขากลับพากันดีใจ
คนที่ข้าพเจ้าไม่รู้จักรุมเข้ามาโจมตีข้าพเจ้า
พวกเขาฉีกเนื้อข้าพเจ้าอย่างไม่หยุดหย่อน
16 พวกเขาได้กัดฟันกรอดๆใส่ข้าพเจ้า
พากันหัวเราะเยาะและตะโกนใส่ข้าพเจ้าอย่างหยาบคาย
17 พระองค์เจ้าข้า พระองค์จะมองดูอยู่เฉยๆไปอีกนานแค่ไหน
ช่วยเหลือข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากการทำลายล้างของพวกเขาด้วยเถิด
โปรดช่วยชีวิตที่มีค่าของข้าพเจ้านี้ให้รอดพ้นจากฝูงสิงโตเหล่านั้นด้วยเถิด
18 แล้วข้าพเจ้าจะขอบคุณพระองค์ในที่ชุมนุมใหญ่
ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ในฝูงชนที่มากมายนั้น
19 ขออย่าให้ศัตรูที่ข้าพเจ้าไม่ได้ทำอะไรพวกเขานั้น เอาชนะและหัวเราะเยาะข้าพเจ้าได้
ขออย่าให้คนเหล่านั้นที่เกลียดข้าพเจ้า ทั้งๆที่ข้าพเจ้าไม่ได้ทำอะไรพวกเขา ขยิบตาส่งสัญญาณกันเพื่อต่อต้านข้าพเจ้า
20 พวกเขาไม่พยายามที่จะสร้างสันติกับผู้อื่น
แต่พวกเขากำลังวางแผนการชั่วร้ายต่อผู้คนที่อยู่อย่างสงบสุขบนแผ่นดินนี้
21 พวกเขาอ้าปากกว้างพูดใส่ร้ายข้าพเจ้าว่า
“นี่ไง นี่ไง เราเห็นกับตาในสิ่งที่เจ้าทำ”
22 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น อย่าได้นิ่งเงียบอยู่
พระองค์เจ้าข้า อย่าอยู่ห่างไกลจากข้าพเจ้า
23 พระเจ้าของข้าพเจ้า ตื่นเถิด ลุกขึ้นมา แก้ต่างให้กับข้าพเจ้าด้วย
พระองค์เจ้าข้า แก้คดีให้กับข้าพเจ้าด้วยเถิด
24 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพเจ้า พระองค์ยุติธรรม
โปรดให้ความยุติธรรมกับคดีของข้าพเจ้าด้วยเถิด เพื่อพวกนั้นจะได้ไม่ชนะและหัวเราะเยาะข้าพเจ้าได้
25 อย่าให้พวกเขาพูดได้ว่า “ไชโย พวกเราได้สิ่งที่เราต้องการแล้ว”
อย่าให้พวกเขาพูดได้ว่า “พวกเราได้กลืนกินมันเข้าไปแล้ว”
26 ขอให้คนเหล่านั้นที่มีความสุขในความทุกข์ของข้าพเจ้า ได้รับความอัปยศและอับอายขายหน้า
ขอให้คนเหล่านั้นที่อ้างว่าตัวเองดีกว่าข้าพเจ้า สวมความอัปยศและเสื่อมเสียเกียรติ
27 ขอให้คนเหล่านั้นที่อยากให้ข้าพเจ้าพ้นผิดชื่นชมยินดีและมีความสุขเถิด
ขอให้พวกเขาพูดอยู่เสมอว่า “ขอสรรเสริญความยิ่งใหญ่ของพระยาห์เวห์
พระองค์มีความสุข เมื่อผู้รับใช้ของพระองค์อยู่เย็นเป็นสุข”
28 ขอให้ลิ้นของข้าพเจ้าพูดถึงความยุติธรรมของพระองค์
และสรรเสริญพระองค์ตลอดวันยังค่ำ
ให้เผชิญหน้ากับอนาคตอย่างกล้าหาญ
11 ให้หว่านความดีไปทั่ว แล้วอีกไม่กี่วัน
ความดีนั้นก็อาจจะหวนกลับมาหาเจ้า[a]
2 ให้แบ่งปันของที่เจ้ามีไปให้กับคนเจ็ดคนหรือแปดคนก็ได้
ถึงแม้ว่าเจ้าจะไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องเลวร้ายอะไรขึ้นบ้างในแผ่นดินนี้
3 เมื่อเห็นเมฆก่อตัวกันหนาทึบ พวกมันจะเทฝนลงมาบนแผ่นดินอย่างแน่นอน
และเมื่อเห็นต้นไม้ล้มลง ไม่ว่าจะล้มไปทางใต้หรือทางเหนือก็ตาม มันก็จะอยู่ตรงนั้นของมันไม่ไปไหน
4 คนที่คอยดูลมฟ้า ก็จะไม่ได้เพาะปลูก
และคนที่คอยดูเมฆฝน ก็จะไม่ได้เก็บเกี่ยว
5 ก็เหมือนกับที่เจ้าไม่รู้ว่าลมมันพัดไปมาได้ยังไง หรือ กระดูกของเด็กทารกมันก่อเกิดขึ้นมาได้ยังไงในท้องแม่ เจ้าก็จะไม่มีวันที่จะเข้าใจการงานของพระเจ้าผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นมาเหมือนกัน
6 ในตอนเช้าก็ให้หว่านเมล็ดพืช และอย่าให้มือได้หยุดพักเลยในตอนเย็น เพราะเจ้าไม่รู้ว่าเมล็ดไหนจะเกิดผลดี จะเป็นอันนี้หรืออันนั้น หรือจะดีเหมือนกันทั้งสองอัน
ให้รับใช้พระเจ้าเมื่อยังเป็นหนุ่มสาวอยู่
7 แสงสว่างนั้นหวานชื่นและเป็นสิ่งที่ดีที่ดวงตามองเห็นดวงอาทิตย์ 8 ถึงแม้คนหนึ่งจะมีชีวิตอยู่นานหลายปี เขาก็ควรจะมีความสุขในวันปีเหล่านั้นทั้งหมด แต่ให้เขาระลึกไว้ว่า วันแห่งความมืดพวกนั้นอาจจะมีมากมาย ทุกสิ่งที่กำลังจะมาถึงนั้นไม่เที่ยง
9 ดังนั้น หนุ่มสาวเอ๋ย ให้สนุกสนานเถอะในขณะที่ยังเป็นหนุ่มเป็นสาวกันอยู่ ปล่อยใจให้ยินดีไปกับวันคืนของความเป็นหนุ่มสาวนั้น และทำตามที่ใจของเจ้าเรียกร้อง และไปตามสิ่งที่ดวงตาของเจ้าอยากได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ให้รู้ไว้ว่าพระเจ้าจะตัดสินเจ้าจากเรื่องเหล่านี้ทั้งหมด
10 ขจัดความหงุดหงิดรำคาญออกจากจิตใจของเจ้าเสีย แล้วก็สลัดปัญหาต่างๆทิ้งไปจากร่างกายด้วย เพราะว่าความเป็นหนุ่มสาวและผมที่ดกดำนั้นเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง
การใช้ชีวิตที่ถูกต้อง
3 คอยเตือนพวกเขาให้ยินยอมเชื่อฟังผู้ปกครองบ้านเมืองและผู้มีอำนาจด้วย เตือนให้พวกเขาพร้อมอยู่เสมอที่จะทำดีทุกอย่าง 2 อย่าใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น ให้อยู่อย่างสงบสุข และสุภาพอ่อนโยน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับทุกคน
3 เพราะในอดีต เราก็เคยเป็นคนโง่ ไม่เชื่อฟัง และหลงผิด ตกเป็นทาสของกิเลสตัณหา และหลงระเริงไปกับความชั่วทุกอย่าง ชีวิตก็เต็มไปด้วยความชั่วร้าย อิจฉาริษยา เป็นที่เกลียดชังของคนอื่น และเกลียดชังกันเอง 4 เมื่อพระเจ้าผู้ช่วยให้รอดของเรา แสดงความรักและความเมตตาให้เราเห็น 5 พระองค์ได้ช่วยให้เรารอด ไม่ใช่เพราะเราทำดี แต่เป็นเพราะความเมตตากรุณาของพระองค์ต่างหาก พระองค์ได้ชำระล้างเรา ซึ่งทำให้เราเกิดใหม่ และถูกสร้างขึ้นมาใหม่ด้วยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ 6 พระเจ้าใจกว้างมาก พระองค์ได้เทพระวิญญาณให้กับเรา ผ่านทางพระเยซูคริสต์ผู้ช่วยให้รอดของเรา 7 ตอนนี้พระเจ้ายอมรับเราแล้ว เราเป็นผู้รับมรดก คือมีชีวิตกับพระองค์ตลอดไปอย่างที่เราหวังไว้ ซึ่งมาจากความเมตตากรุณาของพระองค์ 8 คำพูดนี้เชื่อถือได้ ผมอยากให้คุณเน้นเรื่องนี้ เพื่อว่าคนเหล่านั้นที่เชื่อพระเจ้า จะได้อุทิศตัวเองในการทำความดี เพราะคำสอนนี้เป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์มากสำหรับทุกคน
9 แต่ให้หลีกเลี่ยงการโต้เถียงโง่ๆที่เกี่ยวกับบรรพบุรุษ และการทะเลาะวิวาทกันเกี่ยวกับกฎของโมเสส เพราะไม่มีประโยชน์อะไรและไร้สาระด้วย 10 เมื่อได้เตือนคนที่ชอบยุแหย่ให้เกิดการแตกแยกครั้งสองครั้งแล้ว ก็อย่าไปยุ่งกับเขาอีก 11 เพราะคุณรู้อยู่แล้วว่า เขาเป็นคนนอกลู่นอกทางและบาปหนา บาปที่เขาก่อขึ้นก็จะตามมาสนองเขาเอง
บางอย่างที่ไม่ควรจะลืม
12 เมื่อผมส่ง อารเทมัส หรือทีคิกัสมาหาคุณ ก็ขอพยายามมาหาผมที่นิโคโปลิสให้ได้นะ เพราะตอนหน้าหนาวนี้ ผมตัดสินใจจะอยู่ที่นั่น 13 ให้ช่วยเหลือเศนาสที่เป็นทนายความ กับอปอลโล ในสิ่งที่เขาจำเป็นต้องใช้ในการเดินทาง เขาจะได้ไม่ขาดอะไร 14 คนของเราควรที่จะเรียนรู้ที่จะทุ่มเทตัวเองในการทำความดี เพื่อช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน เพราะถ้าทำอย่างนี้ชีวิตของเขาจะมีประโยชน์
15 ทุกคนที่อยู่กับผมส่งความคิดถึงมาให้คุณ ช่วยส่งความคิดถึงไปให้กับกลุ่มผู้เชื่อที่รักพวกเราด้วย
ขอพระเจ้ามีความเมตตากรุณากับพวกคุณทุกคน
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International