M’Cheyne Bible Reading Plan
ของชดใช้สำหรับสิ่งที่โกงเขา
(กดว. 5:5-10)
6 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 2 “เมื่อมีคนๆหนึ่งทำผิดและล่วงเกินพระยาห์เวห์ ด้วยการทำบาปต่อไปนี้ คือโกหกเพื่อนบ้านเกี่ยวกับของที่เพื่อนบ้านฝากให้เขาดูแล หรือเกี่ยวกับของที่เอามาวางมัดจำ[a]ที่เขาได้รับ หรือเกี่ยวกับสิ่งที่กู้ยืมมา หรือของที่ไปปล้นหรือโกงเพื่อนบ้านมา 3 หรือเจอของหายแต่โกหกว่าไม่เจอ หรือสาบานว่าไม่ได้ทำในสิ่งที่ได้ทำลงไปซึ่งเป็นบาป 4 เมื่อคนๆนั้นได้ทำบาป เขามีความผิด เขาต้องคืนสิ่งที่เขาได้ปล้นมา หรือโกงมา หรือของที่คนอื่นฝากให้เขาดูแล หรือของที่เขาเจอ 5 หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เขาได้สาบานเท็จไว้ เขาต้องชดใช้เต็มมูลค่าของนั้น และต้องเพิ่มไปอีกหนึ่งในห้าของมูลค่าของนั้น เขาต้องชดใช้ให้กับเจ้าของ ในวันที่พิสูจน์ได้ว่าเขาทำผิดจริง
6 และเขาต้องเอาของถวายชดใช้มาให้กับพระยาห์เวห์ เป็นแกะตัวผู้ที่ไม่มีตำหนิจากฝูง ตามมูลค่าที่ถูกต้องสำหรับเป็นของถวายชดใช้ แล้วเอามาให้กับนักบวช 7 และโดยวิธีนี้นักบวชจะกำจัดบาปเพื่อเขาต่อหน้าพระยาห์เวห์ และเขาจะได้รับการอภัยสำหรับอะไรก็ตามที่เขาทำไปซึ่งทำให้เขามีความผิด”
เครื่องเผาบูชา
(อพย. 29:38-43; กดว. 28:1-8)
8 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 9 “ให้สั่งอาโรนและพวกลูกๆของเขาว่า ‘นี่คือกฎระเบียบสำหรับเครื่องเผาบูชา เครื่องเผาบูชาจะต้องอยู่บนไฟบนแท่นบูชาตลอดทั้งคืนจนถึงเช้า และไฟบนแท่นบูชาจะต้องเผาอยู่ตลอดเวลา 10 นักบวชต้องสวมเสื้อคลุมที่เป็นผ้าลินิน และสวมชุดชั้นในที่เป็นผ้าลินินด้วย เครื่องเผาบูชาที่ถูกไฟเผาบนแท่นบูชา จนกลายเป็นขี้เถ้านั้น นักบวชจะต้องโกยเอาขี้เถ้านั้นมาวางไว้ข้างๆแท่นบูชา 11 จากนั้นนักบวชก็ถอดเสื้อผ้าออก แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าตัวอื่นแทน แล้วเอาขี้เถ้านั้นออกไปนอกค่าย ไปไว้ในสถานที่ที่บริสุทธิ์ 12 แต่ไฟบนแท่นบูชาจะต้องเผาต่อไปเรื่อยๆ ระวังให้ดี อย่าให้ไฟนั้นดับ นักบวชจะต้องคอยเติมฟืนลงไปทุกๆเช้า และคอยจัดการเรื่องเครื่องเผาบูชาบนแท่นนี้ และเผาส่วนไขมันของเครื่องสังสรรค์บูชาบนแท่นบูชานี้ 13 ไฟบนแท่นบูชาต้องเผาอยู่ตลอดเวลา อย่าปล่อยให้มันดับ
เครื่องบูชาจากเมล็ดพืช
14 นี่คือกฎระเบียบสำหรับเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช พวกลูกชายของอาโรนต้องถวายเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชต่อหน้าพระยาห์เวห์บนแท่นบูชา 15 นักบวชต้องหยิบแป้งอย่างดี กับน้ำมัน จากเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชมาหนึ่งกำมือ พร้อมกับกำยาน[b] ทั้งหมด แล้วก็เอาส่วนนี้ ซึ่งเป็นส่วนที่แทนเครื่องบูชาทั้งหมด ไปเผาบนแท่นบูชา เป็นกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์
16 อาโรนกับพวกลูกชายของเขากินส่วนที่เหลือได้ ต้องกินมันโดยไม่มีเชื้อฟู และต้องกินในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาต้องกินมันในลานของเต็นท์นัดพบ 17 ต้องเอามันไปอบโดยไม่ใส่เชื้อฟู เราให้ส่วนนี้กับพวกเขาเป็นส่วนแบ่งจากพวกของขวัญ มันเป็นส่วนที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด เหมือนกับเครื่องบูชาชำระล้างและเป็นของถวายชดใช้ 18 ชายทุกคนที่เป็นลูกหลานของอาโรนก็กินมันได้ มันเป็นส่วนแบ่งจากพวกของขวัญที่นำมาถวายพระยาห์เวห์ ที่ให้กับลูกหลานของเขาตลอดไป ใครก็ตามที่แตะต้องเครื่องบูชาเหล่านี้ก็จะถูกอุทิศไว้ให้กับพระยาห์เวห์’”
เครื่องบูชาจากเมล็ดพืชของนักบวช
19 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 20 “นี่คือเครื่องบูชาที่อาโรนและพวกลูกชายของเขา ต้องเอามาถวายให้กับพระยาห์เวห์ ในวันที่อาโรนได้รับการเจิม ให้เป็นนักบวชสูงสุด คือแป้งอย่างดีประมาณสองลิตรเป็นเครื่องบูชาจากเมล็ดพืชประจำวัน ถวายครึ่งหนึ่งในตอนเช้าและอีกครึ่งหนึ่งในตอนเย็น 21 ให้เอาแป้งผสมกับน้ำมันให้เข้ากัน แล้วเอาไปเตรียมบนกระทะเหล็ก และถวายเป็นเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช ที่เป็นชิ้นๆเป็นกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์
22 ลูกหลานของอาโรนรุ่นต่อไป ที่ได้รับการเจิมให้มาเป็นนักบวชสูงสุดแทนอาโรน จะต้องเป็นคนเตรียมเครื่องบูชานี้ มันคือส่วนแบ่งของพระยาห์เวห์ตลอดไป มันจะต้องเผาจนหมดเกลี้ยง 23 และเครื่องบูชาทั้งหมดที่นักบวชทำขึ้นมา จะต้องเอาไปเผาให้หมดเกลี้ยง ห้ามเอามากิน”
กฎของเครื่องบูชาชำระล้าง
(ลนต. 4:1, 2)
24 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 25 “ให้บอกอาโรนกับลูกๆของเขาว่า ‘นี่เป็นกฎระเบียบสำหรับเครื่องบูชาชำระล้าง คือให้ฆ่าเครื่องบูชาชำระล้างตรงที่เดียวกับที่ฆ่าเครื่องเผาบูชา ต่อหน้าพระยาห์เวห์ มันเป็นที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด 26 นักบวชที่ถวายเครื่องบูชาชำระล้าง ก็จะต้องกินมัน แต่ต้องกินในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ในลานของเต็นท์นัดพบ 27 ใครก็ตามที่แตะต้องเนื้อของเครื่องบูชานี้ จะต้องถูกอุทิศไว้ให้กับพระยาห์เวห์ ถ้าเลือดมันกระเด็นไปถูกเสื้อผ้าของใครเข้า คนๆนั้นจะต้องล้างมันในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 28 และต้องทุบทิ้งหม้อดินทุกใบที่ใช้ต้มเนื้อของเครื่องบูชาชำระล้างนั้น แต่ถ้าใช้หม้อทองสัมฤทธิ์ต้ม ต้องขัดหม้อนั้นและล้างด้วยน้ำ
29 ผู้ชายทุกคนที่เป็นนักบวชจะกินเนื้อของเครื่องบูชาชำระล้างนี้ได้ มันคือสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด 30 แต่ถ้าพวกนักบวชนำเลือดเข้าไปในเต็นท์นัดพบเพื่อชำระล้างพวกของศักดิ์สิทธิ์ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ห้ามกินเครื่องบูชานั้น แต่ให้เอาไปเผาไฟเสีย
คำอธิษฐานยามเช้าขอการคุ้มครอง
ถึงหัวหน้านักร้อง ให้ใช้ขลุ่ยประกอบการร้องด้วย เพลงสดุดีของดาวิด
1 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอโปรดรับฟังคำพูดต่างๆของข้าพเจ้า
ขอโปรดเข้าใจเสียงถอนใจของข้าพเจ้า
2 ข้าแต่พระเจ้า กษัตริย์ของข้าพเจ้า โปรดรับฟังเสียงร้องเรียกของข้าพเจ้า
เพราะพระองค์เป็นผู้เดียวที่ข้าพเจ้าอธิษฐานถึง
3 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ทุกเช้าพระองค์จะได้ยินเสียงของข้าพเจ้า
ทุกเช้าข้าพเจ้าจะวางคำร้องขอของข้าพเจ้าต่อหน้าพระองค์ และข้าพเจ้าเฝ้าคอยคำตอบของพระองค์อย่างใจจดจ่อ
4-5 พระองค์ไม่ใช่พระเจ้าที่ชอบใจความชั่วร้าย
พระองค์ไม่ต้อนรับคนชั่วในบ้านของพระองค์
พวกหยิ่งยโสไม่สามารถยืนอยู่ต่อหน้าพระองค์ได้
พระองค์เกลียดทุกคนที่ทำชั่ว
6 พระองค์จะทำลายคนที่พูดโกหก
พระยาห์เวห์ขยะแขยงคนกระหายเลือดที่คดโกง
7 แต่ ด้วยความรักมั่นคงเหลือล้นของพระองค์
ข้าพเจ้าก็เข้าบ้านของพระองค์ได้
ข้าพเจ้าก้มกราบลงด้วยความยำเกรงในวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
8 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอช่วยนำข้าพเจ้าไปในทางที่พระองค์ชอบใจ
เพราะมีพวกศัตรูคอยจ้องข้าพเจ้าอยู่ทุกฝีก้าว
โปรดช่วยทำทางที่พระองค์ต้องการให้ข้าพเจ้าไปนั้นราบรื่นด้วยเถิด
9 ปากของศัตรูข้าพเจ้าไม่มีความจริงอยู่เลย
ใจพวกเขามีแต่แผนทำลายคน
ลำคอของพวกเขานั้นเหมือนหลุมฝังศพที่เปิดอยู่
ลิ้นของเขาประจบสอพลอ
10 ข้าแต่พระเจ้า โปรดลงโทษพวกเขาด้วยเถิด
ขอให้แผนร้ายของพวกเขา ทำลายพวกเขาเอง
โปรดขับไล่พวกเขาออกไปด้วยเถิดเพราะความผิดบาปมากมายของพวกเขา
เพราะพวกเขากบฏต่อพระองค์
11 แต่ขอให้คนเหล่านั้นที่ลี้ภัยในพระองค์มีความสุข
ขอให้พวกเขาโห่ร้องด้วยความยินดีเสมอ
ขอให้พระองค์คุ้มครองพวกเขา
ขอให้คนเหล่านั้นที่รักชื่อของพระองค์รื่นเริงในพระองค์
12 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์อวยพรคนที่ทำตามใจพระองค์
พระองค์ปกป้องพวกเขาเหมือนโล่กำบัง เพราะความเมตตาของพระองค์
คำอธิษฐานให้ช่วยในยามทุกข์ยาก
ถึงหัวหน้านักร้อง ให้ใช้เครื่องสายประกอบการร้อง ตามทำนองเซมินิท[a] เพลงสรรเสริญของดาวิด
1 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขออย่าลงโทษข้าพเจ้า ตอนที่พระองค์โกรธ
ขออย่าตีสอนข้าพเจ้า ตอนที่พระองค์โกรธแค้น
2 ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดเมตตาต่อข้าพเจ้าด้วย เพราะข้าพเจ้าอ่อนแอ
ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดรักษาข้าพเจ้าด้วย เพราะกระดูกของข้าพเจ้าสั่นเทิ้ม
3 ข้าพเจ้าตัวสั่นเทิ้มด้วยความกลัว
ข้าแต่พระยาห์เวห์ จะปล่อยให้ข้าพเจ้าเป็นอย่างนี้ไปอีกนานแค่ไหน
4 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอพระองค์หันกลับมาช่วยข้าพเจ้าให้รอดด้วยเถิด
ขอช่วยชีวิตข้าพเจ้าด้วยเถิด เพราะเห็นแก่ความรักมั่นคงของพระองค์
5 เพราะเมื่อคนตายไป เขาก็จะระลึกถึงพระองค์ไม่ได้อีกแล้ว
ในแดนคนตาย จะมีใครสรรเสริญพระองค์ได้หรือ
6 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าร้องคร่ำครวญจนหมดแรง
ข้าพเจ้าร้องไห้ทั้งคืน จนที่นอนและหมอนชุ่มไปด้วยน้ำตา
7 ข้าพเจ้าร้องไห้จนตาบวมเพราะความทุกข์โศก
ตาของข้าพเจ้าอ่อนล้าไปหมด เพราะพวกศัตรูของข้าพเจ้า
8 พวกเจ้าที่ทำชั่วทั้งหลาย ไปให้ห่างจากข้าพเจ้าซะ
เพราะพระยาห์เวห์ได้ยินเสียงร่ำไห้ของข้าพเจ้า
9 พระองค์ได้ยินคำร้องขอให้ช่วยของข้าพเจ้า
พระองค์จะยอมรับและตอบคำอธิษฐานของข้าพเจ้า
10 พวกศัตรูของข้าพเจ้าทั้งหมด จะอับอายขายหน้าและสั่นเทิ้มอย่างยิ่ง
แล้วพวกเขาจะต้องหันหลังวิ่งหนีไปในทันทีด้วยความอับอายขายหน้า
21 จิตใจของกษัตริย์ที่อยู่ในมือของพระยาห์เวห์เป็นเหมือนร่องน้ำ
พระองค์จะหันมันไปทางไหนก็ได้ แล้วแต่พระองค์
2 มนุษย์เห็นว่าทุกอย่างที่เขาทำนั้นถูกต้อง
แต่พระยาห์เวห์ตัดสินที่จิตใจ
3 พระยาห์เวห์อยากให้คนทำในสิ่งที่ถูกต้องและยุติธรรม
มากกว่าอยากได้เครื่องบูชา
4 ตาที่หยิ่งยโสและจิตใจที่หยิ่งผยองเป็นบาป
มันเป็นเหมือนตะเกียงส่องให้เห็นว่าคนนั้นชั่ว
5 แผนการต่างๆของคนขยันขันแข็ง นำไปถึงความอุดมสมบูรณ์
แต่คนที่ทำอะไรแบบไม่ยั้งคิดจะยากจน
6 ความร่ำรวยที่ได้จากลิ้นที่ปลิ้นปล้อน
จะจางไปอย่างรวดเร็วเหมือนหมอก เป็นกับดักแห่งความตาย
7 ความรุนแรงของคนชั่วจะลากพวกคนชั่วไป
เพราะพวกเขาไม่ยอมทำสิ่งที่ยุติธรรม
8 ทางของคนที่ทำผิดนั้นคดเคี้ยว
ส่วนคนบริสุทธิ์การกระทำของเขานั้นตรงไปตรงมา
9 อาศัยอยู่ที่ซอกมุมบนดาดฟ้า
ก็ยังดีกว่าร่วมชายคากับเมียที่ชอบหาเรื่อง
10 คนชั่วอยากทำชั่ว
เขาไม่ได้มองเพื่อนบ้านด้วยสายตาที่เมตตา
11 เมื่อคนที่เย่อหยิ่งถูกลงโทษ
คนที่อ่อนต่อโลกก็จะฉลาดขึ้น
เมื่อคนฉลาดได้รับคำแนะนำสั่งสอน
ตัวเขาเองก็ได้รับความรู้เพิ่มขึ้น
12 พระเจ้าผู้ยุติธรรมสังเกตดูบ้านของคนชั่วร้าย
พระองค์เหวี่ยงคนชั่วลงสู่ความพินาศ
13 คนที่ปิดหูไม่ฟังคนจนที่ร้องขอความช่วยเหลือ
ตัวคนนั้นเองจะร้องและจะไม่มีใครฟัง
14 ของกำนัลที่ให้ในที่ลับ ทำให้ความโกรธสงบลง
และสินบนในกระเป๋าก็ทำให้ความเดือดดาลหายไป
15 การตัดสินที่ยุติธรรม ทำให้คนดีมีความสุข
แต่เป็นความหายนะสำหรับพวกที่ทำชั่ว
16 คนที่หลงไปจากทางแห่งความเข้าใจ
จะมาพักอยู่ในที่ชุมชนของพวกผี
17 คนรักความสนุกสนานจะยากจน
คนที่รักเหล้าองุ่นและอาหารแพงๆจะไม่รวย
18 คนดีจะรอดพ้นจากอันตราย แต่คนชั่วจะต้องมารับอันตรายแทน
คนทรยศก็รับอันตรายแทนคนเที่ยงตรง[a]
19 อาศัยอยู่ในทะเลทราย
ก็ยังดีกว่าอยู่กับเมียที่ชอบหาเรื่องและขี้โมโห
20 สมบัติอันล้ำค่าและน้ำมันจะมีอยู่ในบ้านของคนฉลาดเสมอ
แต่คนโง่จะเขมือบทุกอย่างที่ตัวเองมี
21 คนที่ไล่ตามสิ่งที่ถูกต้องและความจงรักภักดี
ก็จะพบกับชีวิตที่ยืนยาว ความเจริญรุ่งเรืองและเกียรติยศ
22 คนฉลาดสามารถโจมตีเมืองของพวกนักรบได้
และสามารถทำลายป้อมปราการที่พวกนั้นไว้วางใจ
23 คนที่รักษาปากและลิ้นของเขา
เป็นคนที่รักษาชีวิตไม่ให้มีปัญหา
24 คนหยิ่ง คนอวดดี ได้ชื่อว่า “ไอ้คนชอบเยาะเย้ย”
เป็นคนเย่อหยิ่งจองหอง
25 คนขี้เกียจจะอดตาย[b]
เพราะมือของเขาไม่ยอมทำงาน
26 คนโลภก็โลภอยู่วันยังค่ำ
แต่คนที่ทำตามใจพระเจ้าก็ให้อย่างไม่ยั้ง
27 พระยาห์เวห์ขยะแขยงเครื่องบูชาของคนชั่ว
เพราะเขาเอามันมาถวายด้วยเจตนาที่ชั่วร้าย
28 พยานเท็จจะพินาศ
แต่คำพูดของคนที่ฟังอย่างรอบคอบจะคงอยู่ตลอดไป
29 คนชั่วแสร้งทำตัวว่าข้าแน่
แต่คนซื่อสัตย์สำรวจทางของตัวเอง
30 ถึงจะมีสติปัญญา ความเข้าใจ และคำปรึกษาดีแค่ไหนก็ตาม
ก็ช่วยไม่ได้หรอก ถ้าพระยาห์เวห์ต่อต้านเจ้า
31 ม้าก็เตรียมไว้พร้อมแล้วสำหรับวันทำสงคราม
แต่พระยาห์เวห์เป็นผู้ให้ชัยชนะ
4 พวกคุณที่เป็นนาย ให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องและยุติธรรมกับทาสของตัวเอง จำไว้ว่าคุณก็มีเจ้านายองค์หนึ่งบนสวรรค์เหมือนกัน
เปาโลให้คำแนะนำเพิ่มเติม
2 ทุ่มเทตัวเองในการอธิษฐาน ให้อธิษฐานอย่างตื่นตัวอยู่เสมอและมีใจขอบคุณ 3 ช่วยอธิษฐานให้พวกเราด้วย เพื่อพระเจ้าจะเปิดโอกาสให้ประกาศถ้อยคำของพระองค์ เพื่อเราจะได้ประกาศความจริงอันลึกลับเกี่ยวกับพระคริสต์ ที่ผมถูกขังอยู่นี้ก็เพราะประกาศเรื่องนี้ 4 ช่วยอธิษฐานให้ผมประกาศเรื่องความจริงอันลึกลับนี้ได้แจ่มแจ้งชัดเจนอย่างที่ผมควรจะทำ
5 ทำตัวให้ดีเมื่อติดต่อกับคนนอก ฉกฉวยทุกๆโอกาสไว้ เพื่อพวกคุณจะได้มีอิทธิพลที่ดีในชีวิตของเขา 6 เมื่อพูดกับใคร ให้ใช้คำพูดที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจและน่าสนใจ เพื่อคุณจะได้รู้ว่าควรจะตอบทุกคนอย่างไรดี
ข่าวจากคนที่อยู่กับเปาโล
7 ทีคิกัสผู้เป็นน้องที่รัก ผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ และเพื่อนทาสด้วยกันในองค์เจ้าชีวิต เขาจะบอกข่าวคราวของผมให้คุณรู้ 8 ผมส่งเขาไปหาคุณเพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะ คือให้คุณได้รู้ข่าวคราวเกี่ยวกับเรา แล้วจะได้มีกำลังใจขึ้น 9 ผมส่งเขาไปพร้อมกับ โอเนสิมัส น้องชายที่ซื่อสัตย์และเป็นที่รักยิ่งของเรา เขาก็เป็นคนหนึ่งที่มาจากพวกคุณ สองคนนี้จะเล่าให้คุณฟังถึงเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นที่นี่
10 อาริสทารคัส เพื่อนที่ติดคุกอยู่กับผมฝากความคิดถึงมาให้ด้วย รวมทั้งมาระโกลูกพี่ลูกน้องของบารนาบัส ก็ฝากความคิดถึงมาเหมือนกัน (คุณได้รับคำสั่งเรื่องของมาระโกแล้วนะว่า ถ้าเขามาเยี่ยมคุณก็ให้ต้อนรับเขาอย่างดี) 11 เยซูคนที่เราเรียกว่ายุสทัส ก็ฝากความคิดถึงมาให้คุณด้วย ในหมู่เพื่อนร่วมงานของผมที่ทำงานรับใช้ในการเผยแพร่เรื่องอาณาจักรของพระเจ้าที่นี่ ก็มีแต่สามคนนี้เท่านั้นที่เป็นยิว พวกเขาให้กำลังใจกับผมได้มากทีเดียว
12 เอปาฟรัส ที่เป็นคนหนึ่งจากพวกคุณ และเป็นผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์ได้ฝากความคิดถึงมาให้ด้วย เขาสู้อธิษฐานให้กับคุณเสมอ เพื่อคุณจะได้โตเป็นผู้ใหญ่ และจะได้มั่นใจเต็มที่ในสิ่งที่พระเจ้าต้องการให้คุณทำ 13 ผมรับรองได้ว่าเขาตรากตรำอธิษฐานอย่างหนักเพื่อประโยชน์ของพวกคุณ รวมทั้งพวกที่อยู่ในเมืองเลาดีเซียและเมืองฮีเอราโปลิสด้วย 14 หมอลูกาเพื่อนที่รักของเรากับเดมาสก็ฝากความคิดถึงมาให้คุณเหมือนกัน
15 ผมขอฝากความคิดถึงไปให้กับพี่น้องในเมืองเลาดีเซีย และนางนุมฟากับหมู่ประชุมของพระเจ้าที่ประชุมในบ้านของเธอด้วย 16 เมื่อคุณอ่านจดหมายฉบับนี้แล้ว ช่วยส่งต่อไปให้หมู่ประชุมในเมืองเลาดีเซียอ่านด้วย และคุณก็ควรจะอ่านจดหมายที่ผมได้เขียนไปถึงพวกเขาด้วย 17 ให้บอกกับอารคิปปัสว่า “ทำงานที่คุณได้รับมอบหมายจากองค์เจ้าชีวิตนั้นให้เสร็จสิ”
18 ผมเปาโลได้ใช้มือผมเองเขียนคำทักทายนี้ อย่าลืมว่าผมถูกล่ามโซ่อยู่ ขอให้พระเจ้ามีเมตตากรุณาต่อคุณ
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International