Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
อพยพ 34

แผ่นหินชุดใหม่

(ฉธบ. 10:1-5)

34 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ให้ตัดหินมาสองแผ่น เหมือนกับสองแผ่นแรก เราจะเขียนบัญญัติลงบนแผ่นหินสองแผ่นนี้ เป็นบัญญัติเดียวกับที่ได้เขียนไว้แล้วบนแผ่นหินสองแผ่นแรก ที่เจ้าได้ทำแตกเป็นชิ้นๆ ให้เตรียมพร้อมในตอนเช้า ให้ขึ้นไปบนภูเขาซีนาย และคอยเราอยู่บนยอดเขานั้น อย่าให้ใครขึ้นมากับเจ้า อย่าให้เราเห็นใครบนภูเขานั้น และอย่าให้ฝูงแกะ ฝูงวัวไปกินหญ้าที่เชิงเขานั้นด้วย”

แล้วโมเสสก็ได้ตัดหินมาสองแผ่น เหมือนกับหินสองแผ่นแรก โมเสสลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ และขึ้นไปยังภูเขาซีนาย ตามที่พระยาห์เวห์สั่งเขาไว้ และนำแผ่นหินสองแผ่นนั้นไปด้วย พระยาห์เวห์ลงมาในเมฆและยืนอยู่กับเขาที่นั่น และโมเสสเรียกชื่อพระยาห์เวห์[a]

พระยาห์เวห์ผ่านหน้าโมเสสไป และประกาศว่า “เราคือยาห์เวห์ ยาห์เวห์ พระเจ้าผู้ซึ่งเห็นอกเห็นใจและเมตตากรุณา ผู้ซึ่งโกรธช้า เต็มไปด้วยความจงรักภักดีและความซื่อสัตย์ ผู้ซึ่งเก็บความจงรักภักดีไว้ให้กับคนเป็นพันๆรุ่น และยกโทษให้กับความผิดทั้งหลาย การกบฏต่างๆรวมทั้งพวกบาปของพวกเขา แต่เราจะไม่ปล่อยให้คนผิดพ้นโทษเป็นอันขาด เราจะลงโทษพวกเขาไปสามสี่ชั่วคนสำหรับความผิดที่พ่อแม่เขาทำ”

โมเสสรีบก้มกราบลงกับพื้น และนมัสการพระองค์ โมเสสพูดว่า “ถ้าข้าพเจ้าเป็นที่ชื่นชอบในสายตาพระองค์ ขอให้พระองค์อยู่ท่ามกลางพวกข้าพเจ้าด้วยเถิด ถึงแม้ว่าประชาชนเหล่านั้นจะเป็นคนดื้อรั้นหัวแข็ง ขอให้พระองค์ยกโทษให้กับความชั่วช้าและความบาปของพวกข้าพเจ้า และรับพวกข้าพเจ้าไว้เป็นมรดกของพระองค์ด้วยเถิด”

รื้อฟื้นข้อตกลงขึ้นใหม่

(อพย. 23:14-19; ฉธบ. 7:1-5; 16:1-17)

10 พระยาห์เวห์พูดว่า “เรากำลังจะทำข้อตกลง เราจะทำสิ่งมหัศจรรย์ต่อหน้าคนของเจ้าทั้งหมด เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ไม่เคยทำมาก่อนในโลกท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย ประชาชนทั้งหมดที่อยู่กับเจ้า จะได้เห็นผลงานของพระยาห์เวห์ เพราะสิ่งที่เรากำลังจะทำกับเจ้านั้นเป็นสิ่งที่น่าทึ่ง 11 ให้เชื่อฟังสิ่งที่เราได้สั่งเจ้าในวันนี้ แล้วคอยดู เราจะขับไล่ชาวอาโมไรต์ ชาวคานาอัน ชาวฮิตไทต์ ชาวเปริสซี ชาวฮีไวต์ และชาวเยบุส ไปต่อหน้าเจ้า 12 ระวังตัวให้ดี อย่าได้ไปทำข้อตกลงใดๆกับชาวเมืองที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินที่เจ้ากำลังจะไปนั้น เพื่อพวกเขาจะได้ไม่เป็นกับดักท่ามกลางเจ้า 13 แต่เจ้าจะต้องรื้อแท่นบูชาของพวกเขา ทุบพวกเสาศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาให้แตกเป็นชิ้นๆและโค่นบรรดาเสาของพระอาเชราห์ของพวกเขา 14 เจ้าจะต้องไม่ก้มกราบพระอื่นใด เพราะชื่อของเราคือ ยาห์เวห์ผู้หึงหวง เราเป็นพระเจ้าที่หึงหวง

15 พวกเจ้าต้องระวังที่จะไม่ไปทำข้อตกลงกับชาวเมืองในแผ่นดินนั้น เพราะถ้าเจ้าทำอย่างนั้น เจ้าก็จะนอกใจพระเจ้า ไปติดตามและเซ่นไหว้พวกพระของพวกเขา และเมื่อพวกเขาเชิญเจ้าไปกินอาหาร เจ้าก็จะไปกินอาหารที่เขาเอาไปเซ่นไหว้พระของเขามา 16 เจ้าก็จะไปเอาลูกสาวของพวกเขามาเป็นเมียลูกชายของพวกเจ้า แล้วลูกสาวของพวกเขาก็จะไปนมัสการพวกพระของพวกเขา และจะพลอยทำให้ลูกชายของเจ้าไปนมัสการพวกพระเหล่านั้นด้วย ซึ่งเป็นการนอกใจพระเจ้า

17 เจ้าต้องไม่สร้างพวกพระที่หล่อขึ้นจากเหล็ก[b]

18 เจ้าต้องรักษาเทศกาลกินขนมปังที่ไม่ใส่เชื้อฟู เจ้าต้องกินขนมปังที่ไม่ใส่เชื้อฟูเป็นเวลาเจ็ดวัน ตามวันที่เราได้กำหนดไว้ในเดือนอาบีบ[c] เพราะเดือนอาบีบเป็นเดือนที่เจ้าออกจากประเทศอียิปต์

19 ลูกชายทุกคนที่เกิดออกมาเป็นท้องแรก จะเป็นของเรา ลูกตัวผู้ของสัตว์ทุกตัว ที่เกิดออกมาเป็นท้องแรก จะเป็นของเรา ไม่ว่าจะเป็นลูกของวัวควายหรือแกะ 20 ลูกลาที่เกิดออกมาเป็นท้องแรก ถ้าเจ้าอยากจะซื้อคืนก็ให้เอาแกะมาแลก แต่ถ้าเจ้าไม่ต้องการซื้อลูกลาตัวนั้นคืน เจ้าต้องหักคอมัน เจ้าจะต้องซื้อลูกชายหัวปีของพวกเจ้าคืนทุกคน อย่าให้ใครเข้ามาหาเรามือเปล่า

21 เจ้าทำงานได้ในหกวัน แต่ในวันที่เจ็ด เจ้าต้องพักผ่อน ถึงจะเป็นช่วงทำนาหรือช่วงเก็บเกี่ยวก็ตาม เจ้าก็ต้องพักผ่อน

22 เจ้าต้องรักษาเทศกาลแห่งสัปดาห์ ให้ใช้ผลผลิตแรกที่ได้จากการเก็บเกี่ยวข้าวสาลีในเทศกาลนี้ และในฤดูใบไม้ร่วง ให้ฉลองเทศกาลเก็บเกี่ยวปลายปี

23 พวกผู้ชายทุกๆคนท่ามกลางเจ้าจะต้องมาอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต พระเจ้าของอิสราเอล ปีละสามครั้ง

24 เราจะขับไล่ชนชาติอื่นออกไปจากเจ้า และจะขยายเขตแดนของเจ้า เมื่อเจ้าขึ้นไปอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าปีละสามครั้งนั้น จะไม่มีใครพยายามมาแย่งที่ดินของเจ้า

25 ห้ามเอาเลือดของเครื่องเซ่นไหว้เรา มาถวายพร้อมกับของที่ใส่เชื้อฟู และเครื่องเซ่นไหว้ในเทศกาลปลดปล่อยนั้น ห้ามเหลือค้างคืนจนถึงวันรุ่งขึ้น

26 ทุกๆปี เจ้าต้องเอาผลผลิตที่ดีที่สุด ที่เก็บเกี่ยวครั้งแรกในปีนั้นไปยังสถานที่นมัสการพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้า

เจ้าต้องไม่ต้มลูกแพะในน้ำนมของแม่มัน”

27 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ให้เขียนคำสั่งพวกนี้ลงไป เพราะคำสั่งพวกนี้ เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงที่เราทำกับเจ้าและกับชาวอิสราเอล”

28 โมเสสอยู่ที่นั่นกับพระยาห์เวห์สี่สิบวัน สี่สิบคืน เขาไม่ได้กินอาหารหรือดื่มน้ำเลย เขาเขียนคำสั่งต่างๆของข้อตกลงทั้งสิบข้อลงบนแผ่นหินสองแผ่นนั้น

ใบหน้าที่สว่างจ้าของโมเสส

29 เมื่อโมเสสลงมาจากภูเขาซีนาย เขาถือแผ่นหินคำสอน[d] สองแผ่นแห่งข้อตกลงนั้นในมือ โมเสสไม่รู้ว่าผิวหน้าของเขาเรืองแสงออกมา เพราะพระยาห์เวห์ได้พูดกับเขา 30 เมื่ออาโรนและประชาชนชาวอิสราเอลเห็นโมเสส พร้อมกับใบหน้าที่สว่างจ้า พวกเขาไม่กล้าเข้ามาหาโมเสส 31 โมเสสจึงเรียกพวกเขา อาโรนและพวกผู้นำทั้งหมดของที่ชุมนุมก็มาหาโมเสส โมเสสพูดกับพวกเขา 32 หลังจากนั้น ประชาชนชาวอิสราเอลก็เข้ามาหาโมเสส แล้วโมเสสก็ได้สั่งพวกเขาถึงสิ่งทั้งหมดที่พระยาห์เวห์ได้บอกเขาบนภูเขาซีนาย

33 เมื่อโมเสสพูดกับพวกเขาเสร็จ เขาก็เอาผ้าคลุมมาปิดหน้าไว้ 34 เมื่อโมเสสมาอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ โมเสสก็เอาผ้าคลุมหน้าออก จนกว่าเขาจะออกมาจากเต็นท์นัดพบ เขาก็จะบอกกับชาวอิสราเอลถึงสิ่งที่เขาได้รับคำสั่งมา 35 พวกคนอิสราเอลเห็นว่าผิวของโมเสสส่องแสง ดังนั้น โมเสสจึงเอาผ้ามาคลุมหน้าไว้ จนกว่าเขากลับไปพูดกับพระยาห์เวห์อีก

ยอห์น 13

พระเยซูล้างเท้าให้ศิษย์

13 ก่อนจะถึงเทศกาลวันปลดปล่อย พระเยซูรู้ว่าถึงเวลาแล้วที่พระองค์จะจากโลกนี้ กลับไปหาพระบิดา พระองค์รักคนเหล่านั้นที่เป็นของพระองค์ในโลกนี้ พระองค์ก็เลยทำให้เห็นว่าพระองค์รักพวกเขามากแค่ไหน

พวกเขากำลังกินอาหารเย็นอยู่ มารร้ายได้ดลใจยูดาส ลูกของซีโมนอิสคาริโอท ให้ทรยศพระองค์อยู่ก่อนแล้ว พระเยซูรู้ว่าพระบิดาให้พระองค์มีอำนาจเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง และพระองค์รู้ว่าตัวเองมาจากพระเจ้า และกำลังจะกลับไปหาพระเจ้า พระองค์จึงลุกจากโต๊ะอาหาร ถอดเสื้อคลุมออกแล้วเอาผ้าเช็ดตัวมามัดเอวไว้ พระองค์เทน้ำใส่อ่าง แล้วเอาไปล้างเท้าให้พวกศิษย์ของพระองค์ แล้วเอาผ้าที่มัดเอวเช็ดเท้าให้พวกเขา

เมื่อมาถึงซีโมน เปโตร เขาถามพระเยซูว่า “อาจารย์จะล้างเท้าของผมหรือ”

พระเยซูตอบว่า “ตอนนี้คุณไม่เข้าใจหรอกว่าเรากำลังทำอะไร แต่ทีหลังคุณจะเข้าใจเอง”

เปโตรจึงบอกว่า “ไม่มีทางที่ผมจะยอมให้อาจารย์ล้างเท้าของผมหรอก”

พระเยซูบอกว่า “ถ้าเราไม่ได้ล้างคุณ คุณก็ไม่ได้เป็นของเรา”

ซีโมน เปโตร จึงบอกว่า “อาจารย์ ถ้าอย่างนั้น อย่าแค่ล้างเท้าเลย ล้างทั้งมือและหัวของผมด้วยนะครับ” 10 พระเยซูพูดกับเขาว่า “คนที่อาบน้ำก็สะอาดทั้งตัวแล้ว ล้างแต่เท้าก็พอ พวกคุณบางคนก็สะอาดแล้ว แต่ไม่ใช่ทุกคน” 11 (พระองค์รู้ว่าใครจะทรยศพระองค์ พระองค์ถึงพูดว่า “ไม่ใช่พวกคุณทุกคนที่สะอาด”)

12 เมื่อพระองค์ล้างเท้าให้พวกศิษย์ทุกคนแล้ว พระองค์ก็ใส่เสื้อคลุมและกลับมานั่งที่โต๊ะอาหาร แล้วถามพวกเขาว่า “พวกคุณเข้าใจหรือเปล่าว่าเราทำอะไร 13 คุณเรียกเราว่า ‘อาจารย์’ และ ‘องค์เจ้าชีวิต’ ที่คุณเรียกอย่างนั้นก็ถูกต้องแล้ว เพราะเราเป็นอย่างนั้นจริงๆ 14 ถ้าเราที่เป็นองค์เจ้าชีวิตและอาจารย์คุณยังล้างเท้าให้กับคุณ พวกคุณก็ควรจะล้างเท้าให้แก่กันและกันด้วย 15 เราได้ทำเป็นตัวอย่างให้ดูแล้ว พวกคุณก็ควรจะทำตาม 16 เราจะบอกให้รู้ว่าทาสไม่ยิ่งใหญ่ไปกว่านาย และคนส่งข่าวก็ไม่ยิ่งใหญ่ไปกว่าคนที่ส่งเขามา 17 ถ้าคุณเข้าใจสิ่งเหล่านี้แล้ว และทำตามนั้น คุณก็มีเกียรติจริงๆ

18 เราไม่ได้พูดถึงพวกคุณทุกคน เรารู้จักคนที่เราได้เลือกไว้ แต่สิ่งที่พระคัมภีร์บอกไว้ว่า ‘คนที่กินอาหารของเรา กลายเป็นศัตรูของเรา’[a] จะต้องสำเร็จ 19 ตอนนี้มันยังไม่เกิดขึ้น แต่เราบอกไว้ก่อนล่วงหน้า พอมันเกิดขึ้น คุณจะได้เชื่อว่าเราคือคนที่เราบอกว่าเราเป็น 20 เราจะบอกให้รู้ว่าใครก็ตามที่ยอมรับคนที่เราส่งไป ก็เท่ากับยอมรับเราด้วย และใครก็ตามที่ยอมรับเรา ก็เท่ากับยอมรับผู้นั้นที่ส่งเรามาด้วย”

พระเยซูบอกว่าใครจะหักหลังพระองค์

(มธ. 26:20-25; มก. 14:17-21; ลก. 22:21-23)

21 เมื่อพระเยซูพูดจบแล้ว พระองค์ก็กลุ้มใจมาก และพูดออกมาว่า “เราจะบอกให้รู้ว่าคนหนึ่งในพวกคุณจะหักหลังเรา”

22 พวกศิษย์ต่างหันไปมองหน้ากัน สงสัยว่าพระองค์พูดถึงใคร 23 พอดีศิษย์คนหนึ่งที่พระองค์รักเป็นพิเศษนั่งเอนตัวติดอยู่กับพระเยซูที่โต๊ะ 24 ซีโมน เปโตรจึงพยักหน้าให้เขาถามพระองค์ว่าพระองค์กำลังพูดถึงใคร

25 ศิษย์คนนั้นจึงเอนตัวมาใกล้กับอกของพระเยซู แล้วถามว่า “อาจารย์พูดถึงใครครับ”

26 พระเยซูตอบว่า “คนที่เราจะยื่นขนมปังที่จุ่มในถ้วยนี้ให้” แล้วพระองค์ก็เอาขนมปังจุ่มลงในถ้วยยื่นให้ยูดาส ลูกของซีโมนอิสคาริโอท 27 เมื่อยูดาสหยิบขนมปังชิ้นนั้นแล้ว ซาตานก็เข้าสิงเขา พระเยซูจึงพูดกับยูดาสว่า “จะทำอะไร ก็รีบทำสิ” 28 ทุกคนที่นั่งเอนตัวอยู่ที่โต๊ะอาหาร ก็ไม่รู้ว่าทำไมพระเยซูถึงพูดกับยูดาสอย่างนั้น 29 บางคนคิดว่าเป็นเพราะยูดาสเป็นคนดูแลถุงเงิน พระเยซูก็เลยบอกให้เขาไปซื้อของที่ต้องใช้ในงานเทศกาล หรือว่าพระองค์อาจจะบอกให้ยูดาสแจกของให้กับคนจนบ้าง

30 เมื่อยูดาสรับขนมปังชิ้นนั้น เขาก็ออกไปทันที ตอนนั้นเป็นเวลากลางคืนแล้ว

31 หลังจากที่ยูดาสออกไปแล้ว พระเยซูพูดว่า “ถึงเวลาแล้วที่ผู้คนจะได้เห็นว่าบุตรมนุษย์จะได้รับเกียรติขนาดไหน และพระเจ้าจะได้รับเกียรติผ่านทางบุตรมนุษย์นั้น 32 แล้วถ้าพระเจ้าได้รับเกียรติผ่านทางเขา พระองค์เองก็จะให้เกียรติเขาและจะทำอย่างนั้นทันที

33 ลูกๆที่รัก เราจะอยู่กับพวกคุณอีกประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น แล้วคุณก็จะตามหาเรา เราจะบอกกับพวกคุณอย่างที่เราเคยบอกพวกยิวแล้วว่า ที่ที่เรากำลังจะไปนั้น พวกคุณไปไม่ได้

34 เราจะให้คำสั่งใหม่กับพวกคุณ คือให้รักซึ่งกันและกัน พวกคุณต้องรักกันเหมือนกับที่เรารักคุณ 35 ถ้าพวกคุณรักกัน ทุกคนก็จะรู้ว่าคุณเป็นศิษย์ของเรา”

พระเยซูทำนายว่าเปโตรจะพูดว่าไม่รู้จักพระองค์

(มธ. 26:31-35; มก. 14:27-31; ลก. 22:31-34)

36 ซีโมน เปโตรถามว่า “อาจารย์จะไปไหนหรือครับ”

พระเยซูตอบเขาว่า “ที่ที่เราจะไปนั้นตอนนี้คุณตามเราไปไม่ได้ แต่คุณจะตามเราไปทีหลัง”

37 เปโตรเลยถามอีกว่า “อาจารย์ ทำไมผมถึงตามไปตอนนี้ไม่ได้ล่ะครับ ผมพร้อมที่จะตายเพื่ออาจารย์”

38 พระเยซูตอบว่า “คุณพร้อมที่จะตายเพื่อเราหรือ เราจะบอกให้รู้ว่า พรุ่งนี้เช้า ก่อนไก่ขัน คุณจะพูดว่าไม่รู้จักเราถึงสามครั้ง”

สุภาษิต 10

สุภาษิตของซาโลมอน

10 นี่คือสุภาษิตของซาโลมอน

ลูกชายที่ฉลาดนั้นทำให้พ่อยินดี
    แต่ลูกชายที่โง่เขลาทำให้แม่โศกเศร้า
ทรัพย์สมบัติที่หามาได้จากความชั่วนั้น ไม่ก่อให้เกิดกำไรอะไร
    แต่การใช้ชีวิตในทางที่ถูกต้องนั้น จะช่วยให้รอดพ้นจากความตาย
พระยาห์เวห์จะไม่ปล่อยให้คนที่ทำตามใจพระเจ้าอดอยาก
    แต่พระองค์ขัดขวางไม่ให้คนชั่วได้ในสิ่งที่พวกมันกระหายหา
มือที่เกียจคร้านทำให้ยากจน
    แต่มือที่ขยันทำให้ร่ำรวย
คนที่เก็บรวบรวมพืชผลในฤดูร้อน เป็นลูกที่รู้จักคิด
    แต่คนที่เอาแต่นอนในฤดูเก็บเกี่ยวนั้น เป็นลูกที่น่าอับอาย
พระพรต่างๆจะอยู่บนหัวของคนยุติธรรม
    แต่ความทารุณจะซ่อนอยู่ในปากของคนชั่ว
คนยกชื่อของคนดีในอดีตมาอวยพรคนอื่น
    แต่ชื่อเสียงของคนชั่วที่เน่าเปื่อยจะถูกหลงลืมไปอย่างรวดเร็ว
คนฉลาดทำตามคำสั่งต่างๆ
    แต่คนโง่ที่พูดพล่อยๆก็จะถูกทำลาย
คนที่ใช้ชีวิตอย่างซื่อสัตย์ไม่ต้องห่วงอะไร
    แต่คนที่อยู่ในทางไม่ซื่อสัตย์ก็จะถูกจับได้
10 คนที่หลิ่วตาเจ้าเล่ห์จะทำให้เกิดความทุกข์ยาก
    คนโง่ที่พูดพล่อยๆก็จะถูกทำลาย
11 ปากของคนที่ทำตามใจพระเจ้าเป็นน้ำพุแห่งชีวิต
    แต่ความทารุณจะซ่อนอยู่ในปากของคนชั่ว[a]
12 ความเกลียดชังย่อมเร่งเร้าให้เกิดการทะเลาะวิวาท
    แต่ความรักปกปิดความผิดทั้งปวง
13 บนริมฝีปากของคนหัวไวจะเจอสติปัญญา
    แต่หลังของคนโง่จะเจอไม้เรียว
14 คนฉลาดจะสะสมความรู้ไว้
    แต่ปากของคนโง่เขลาจะนำความหายนะมาสู่ตัวเอง
15 ทรัพย์สมบัติของคนร่ำรวยเป็นป้อมปราการคุ้มกันเขา
    แต่ความขัดสนของคนจนคือความหายนะของเขา
16 รางวัลของคนที่ทำตามใจพระเจ้าคือชีวิต
    ผลตอบแทนของคนชั่วคือการลงโทษ
17 คนที่ยอมฟังคำแนะนำ จะเป็นหนทางที่นำไปสู่ชีวิต
    แต่คนที่ไม่ยอมฟังคำตักเตือน จะทำให้คนอื่นหลงทางไป
18 พูดโกหก เพื่อปิดบังความเกลียดชังก็แย่อยู่แล้ว
    แต่พูดใส่ร้ายก็ยิ่งโง่กว่านั้นอีก
19 คนพูดมากย่อมพลั้งปากอยู่เรื่อย
    แต่คนที่ยั้งริมฝีปากไว้เป็นคนรู้จักคิด
20 ลิ้นของคนที่ทำตามใจพระเจ้า ก็เปรียบเหมือนเงินบริสุทธิ์
    แต่จิตใจของคนชั่วนั้นมีค่าเพียงน้อยนิด
21 ริมฝีปากของคนที่ทำตามใจพระเจ้าหล่อเลี้ยงคนมากมาย
    แต่คนโง่ตายเพราะขาดความเข้าใจ
22 เป็นพระยาห์เวห์ที่อวยพรให้คุณมั่งคั่ง
    งานหนักของคุณเองไม่ทำให้คุณมั่งคั่งกว่านั้นหรอก[b]
23 คนโง่เขลาสนุกสนานกับการทำผิด
    แต่คนฉลาดมีความสุขกับสติปัญญา
24 สิ่งที่คนชั่วหวาดกลัวนั้นจะเกิดขึ้นกับเขา
    แต่คนที่ทำตามใจพระเจ้าจะได้รับสิ่งที่เขาต้องการ
25 เมื่อพายุพัดมา ก็จะกวาดคนชั่วไป
    แต่คนที่ทำตามใจพระเจ้า จะยืนหยัดมั่นคงตลอดไป
26 น้ำส้มสายชูทำให้เข็ดฟัน ควันทำให้แสบตา
    คนขี้เกียจก็ทำให้เจ้านายของเขารู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน
27 การยำเกรงพระยาห์เวห์ จะต่อชีวิตให้ยืนยาวออกไป
    แต่เดือนปีของคนชั่วจะถูกตัดให้สั้นลง
28 ความหวังของคนที่ทำตามใจพระเจ้าจะจบลงอย่างมีความสุข
    แต่ความคาดหวังของคนชั่วจะไม่เป็นจริงตามนั้น
29 พระยาห์เวห์จะเป็นที่หลบภัยสำหรับคนที่ใช้ชีวิตอย่างไม่มีที่ติ
    แต่พระองค์นำความหายนะมาสู่พวกที่ทำชั่ว
30 คนที่ทำตามใจพระเจ้าจะไม่ถูกสั่นคลอน
    แต่คนชั่วจะไม่คงอยู่ในแผ่นดิน
31 ปากของคนที่ทำตามใจพระเจ้าก่อให้เกิดปัญญา
    แต่ลิ้นของคนคดโกงจะถูกตัดขาดไป
32 ริมฝีปากของคนที่ทำตามใจพระเจ้ารู้ว่าอะไรสมควรพูด
    แต่ปากของคนชั่วจะพูดแต่สิ่งที่คดโกง

เอเฟซัส 3

หน้าที่การงานของเปาโลเพื่อคนที่ไม่ใช่ยิว

นี่เป็นเหตุที่ผมอธิษฐานเผื่อพวกคุณ ผมเองเปาโลเป็นนักโทษเพราะรับใช้พระเยซูคริสต์และพวกคุณที่ไม่ใช่คนยิว พวกคุณคงรู้แล้วว่าพระเจ้าได้มอบหมายงานนี้ให้กับผม เพื่อช่วยเหลือพวกคุณ พระเจ้าเปิดเผยแผนการลับของพระองค์ให้ผมรู้ ตามที่ผมเขียนมาแล้วอย่างย่อๆ ถ้าคุณอ่านแล้ว คุณก็จะรู้ว่าผมเข้าใจเรื่องแผนการลับของพระคริสต์ขนาดไหน ในสมัยก่อน พระเจ้าไม่ได้เปิดเผยแผนการลับนี้ให้ใครรู้ แต่ในสมัยนี้ พระองค์ได้เปิดเผยแผนการลับนี้ ผ่านทางพระวิญญาณให้กับคนเหล่านั้นที่ถูกอุทิศไว้ให้เป็นศิษย์เอกของพระคริสต์และให้กับพวกผู้พูดแทนพระเจ้า แผนการลับนี้คือ คนที่ไม่ใช่ยิวจะได้รับมรดกร่วมกันกับคนยิว เป็นอวัยวะในร่างกายเดียวกัน มีส่วนร่วมในคำสัญญาที่พระเจ้าทำไว้ในพระเยซูคริสต์ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้เพราะข่าวดีที่ประกาศอยู่นี้

ผมมาเป็นผู้รับใช้ในการประกาศข่าวดีนั้น งานนี้เป็นของขวัญที่พระเจ้ามอบให้กับผม ด้วยฤทธิ์อำนาจของพระองค์ ถึงแม้ว่าผมจะเป็นคนเล็กน้อยกว่าคนที่เล็กน้อยที่สุดในหมู่คนที่เป็นของพระเจ้า แต่พระเจ้าก็ยังมอบพระพรนี้ให้กับผมคือให้ผมประกาศกับคนที่ไม่ใช่ยิวเรื่องความมั่งคั่งของพระคริสต์ ซึ่งเป็นเรื่องที่เหนือความเข้าใจ ทำให้ทุกคนเห็นชัดเจนถึงแผนการลับนี้ ที่พระเจ้าผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่างได้เก็บซ่อนไว้ตั้งแต่สร้างโลกมา 10 พระเจ้าเก็บซ่อนแผนการลับนี้ไว้เพื่อว่าตอนนี้พระองค์จะได้ใช้หมู่ประชุมของพระองค์เปิดเผยสติปัญญาอันหลากหลายของพระองค์ให้กับพวกผู้ครอบครอง และพวกผู้มีอำนาจในโลกฝ่ายวิญญาณ 11 พระองค์ทำอย่างนี้ตามจุดประสงค์ที่อยู่ในใจของพระองค์ตั้งแต่แรกมา และเรื่องนี้พระองค์ก็ได้ทำให้สำเร็จในพระเยซูคริสต์ องค์เจ้าชีวิตของเรา 12 พวกเราที่มีส่วนในพระเยซูคริสต์ กล้าและมีความมั่นใจที่จะเข้าไปอยู่ต่อหน้าพระเจ้า เพราะเราไว้วางใจในพระคริสต์ 13 ผมอธิษฐานขอให้พวกคุณไม่ท้อแท้เพราะเห็นผมต้องเดือดร้อน ที่ผมเดือดร้อนก็เพื่อประโยชน์ของพวกคุณ เพื่อที่พวกคุณจะได้รับศักดิ์ศรีด้วย

ความรักของพระคริสต์

14 นี่เป็นเหตุที่ผมได้คุกเข่าลงอธิษฐานต่อหน้าพระบิดา 15 คำว่า “ครอบครัว”[a] แม้จะในสวรรค์ หรือบนแผ่นดินโลก ก็มาจากคำว่า “พระบิดา” นี่แหละ 16 ขอให้พระเจ้าที่มั่งคั่งมหาศาล ช่วยให้พวกคุณมีพลังใจที่เข้มแข็งผ่านทางพระวิญญาณของพระองค์ 17 ขอให้พระคริสต์ตั้งมั่นคงอยู่ในใจของคุณเพราะคุณไว้วางใจในพระองค์ ขอให้ลงรากลึกมั่นคงในความรัก 18 ผมอธิษฐานให้พวกคุณและคนที่เป็นของพระเจ้าทุกคนสามารถเข้าใจว่า ความรักที่พระคริสต์มีต่อเรานั้นมันกว้าง ยาว สูง และลึกขนาดไหน 19 ขอให้เข้าใจถึงความรักของพระคริสต์ ที่เกินกว่าจะเข้าใจได้ เพื่อคุณจะได้เต็มไปด้วยความบริบูรณ์ของพระเจ้า

20 พระเจ้าสามารถทำได้ทุกสิ่งมากยิ่งกว่าที่เราจะขอหรือคิดได้ ด้วยฤทธิ์อำนาจของพระองค์ที่กำลังทำงานอยู่ในตัวเรา 21 ขอให้พระเจ้าได้รับเกียรติทั้งจากหมู่ประชุมของพระองค์ และจากพระเยซูคริสต์ทุกยุคทุกสมัยตลอดไป อาเมน

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International