Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
2 พงศ์กษัตริย์ 10

การฆ่าล้างเผ่าพันธ์กษัตริย์อาหับ

10 มีลูกชายของอาหับอยู่เจ็ดสิบคนในเมืองสะมาเรีย เยฮูจึงเขียนจดหมายหลายฉบับส่งไปเมืองสะมาเรีย ไปถึงพวกผู้นำของเมืองยิสเรเอล ไปถึงพวกผู้ใหญ่และพวกผู้ดูแลลูกๆของอาหับ เยฮูพูดว่า “เนื่องจากว่าพวกลูกชายของเจ้านายท่านยังอยู่กับท่าน และท่านก็ยังมีพวกรถรบและพวกม้า มีเมืองที่เป็นป้อมปราการ มีพวกอาวุธ ทันทีที่จดหมายฉบับนี้ถึงมือท่าน ให้เลือกลูกชายคนที่ดีที่สุดและที่เหมาะสมที่สุดในบรรดาลูกชายทั้งหมดของเจ้านายท่าน และให้เขาขึ้นนั่งบนบัลลังก์ของพ่อของเขา และให้ต่อสู้เพื่อครอบครัวของเจ้านายท่านสิ”

แต่พวกเขากลัวสุดขีดและพูดกันว่า “ดูสิ ขนาดกษัตริย์สององค์ยังไม่สามารถต่อต้านเขาได้เลย แล้วพวกเราจะไปหยุดเขาได้ยังไง”

ดังนั้น ผู้ดูแลวัง ผู้ว่าการเมือง บรรดาผู้ใหญ่ทั้งหลายและผู้ดูแลลูกๆของอาหับจึงได้ส่งคนไปบอกเยฮูว่า “พวกข้าพเจ้าคือผู้รับใช้ของท่านและพวกข้าพเจ้าจะทำทุกสิ่งทุกอย่างตามที่ท่านพูด พวกข้าพเจ้าจะไม่แต่งตั้งใครเป็นกษัตริย์ทั้งสิ้น ท่านเห็นว่าอะไรดีก็ทำเถิด”

แล้วเยฮูก็เขียนจดหมายฉบับที่สองถึงพวกเขาว่า “ถ้าพวกท่านอยู่ฝ่ายเรา และเชื่อฟังเรา วันพรุ่งนี้ เวลานี้ ให้เอาหัว[a] ของพวกลูกชายเจ้านายท่านมาให้กับเราในเมืองยิสเรเอล”

ในเวลานั้น พวกเจ้าชายทั้งเจ็ดสิบองค์ได้อยู่กับพวกผู้นำของเมืองที่มีหน้าที่ดูแลพวกเขาอยู่ เมื่อจดหมายฉบับนี้มาถึง คนเหล่านี้ก็จับตัวพวกเจ้าชายเหล่านั้นมาฆ่าทิ้งหมดทั้งเจ็ดสิบองค์ พวกเขาเอาหัวของเจ้าชายเหล่านั้นใส่ไว้ในตะกร้าและส่งไปให้กับเยฮูในเมืองยิสเรเอล เมื่อคนส่งข่าวมาถึง เขาได้บอกกับเยฮูว่า “พวกเขาได้นำหัวของเจ้าชายเหล่านั้นมาแล้ว”

เยฮูจึงสั่งไปว่า “เอาหัวเหล่านั้นกองไว้เป็นสองกองที่ทางเข้าประตูเมืองจนกว่าจะเช้า”

เช้าวันต่อมา เยฮูได้ออกไปข้างนอก เขาไปยืนอยู่ต่อหน้าประชาชนทั้งหมดและพูดว่า “พวกเจ้าไร้ความผิด เป็นเราเองที่ได้กบฏต่อเจ้านายของเราและฆ่าเขาเสีย แต่ใครล่ะที่ฆ่าคนเหล่านี้ 10 รู้ไว้เถิดว่า คำพูดทุกคำที่พระยาห์เวห์ได้พูดต่อต้านครอบครัวของอาหับนั้น จะต้องเป็นจริงทุกคำ พระยาห์เวห์ได้ทำในสิ่งที่พระองค์ได้พูดไว้ผ่านทางเอลียาห์ผู้รับใช้พระองค์”

11 เยฮูก็เลยฆ่าทุกคนในครอบครัวของอาหับที่ยังเหลืออยู่ในเมืองยิสเรเอลจนหมด รวมทั้งพวกผู้นำของเขา รวมทั้งเพื่อนสนิทและพวกนักบวชของเขา ไม่เหลือใครสักคนเลย

12 แล้วเยฮูก็ออกเดินทางไปที่เมืองสะมาเรีย ถึงที่เบธเอเขดซึ่งเป็นค่ายของพวกคนเลี้ยงแกะ 13 เขาพบกับญาติๆของกษัตริย์อาหัสยาห์แห่งยูดาห์ และได้ถามพวกเขาว่า “พวกเจ้าเป็นใครกัน”

พวกเขาตอบว่า “พวกเราเป็นญาติของอาหัสยาห์ และพวกเราได้ลงมาที่นี่เพื่อเยี่ยมเยียนครอบครัวของกษัตริย์และครอบครัวของแม่กษัตริย์”

14 เยฮูสั่งว่า “จับพวกมันทั้งเป็น” พวกเขาจึงได้จับตัวคนเหล่านั้นไว้และนำตัวไปฆ่าที่ข้างบ่อเก็บน้ำของเบธเอเขด รวมทั้งหมดสี่สิบสองคน เขาไม่ไว้ชีวิตสักคนเลย

เยฮูพบกับเยโฮนาดับ

15 หลังจากที่เยฮูออกจากที่นั่น เขาได้พบกับเยโฮนาดับลูกชายของเรคาบซึ่งกำลังมาหาเขา เยฮูทักทายเยโฮนาดับ และพูดว่า “เจ้าเป็นเพื่อนที่ซื่อตรงต่อเรา เหมือนกับที่เราซื่อตรงต่อเจ้าหรือเปล่า”[b]

เยโฮนาดับตอบว่า “ซื่อตรงสิ”

เยฮูพูดอีกว่า “ถ้าเป็นอย่างนั้น ให้เราจับมือสัญญากัน”

เยโฮนาดับจึงยื่นมือให้ แล้วเยฮูก็ให้เขาขึ้นมาบนรถรบ

16 เยฮูพูดว่า “ไปกับเราและไปดูความร้อนรนของเราที่มีต่อพระยาห์เวห์เถิด”

แล้วเขาก็พาเยโฮนาดับไปกับรถรบของเขาด้วย 17 เมื่อเยฮูมาถึงเมืองสะมาเรีย เขาได้ฆ่าทุกคนในครอบครัวของอาหับที่ยังเหลืออยู่ จนหมดเกลี้ยง ตามคำพูดของพระยาห์เวห์ที่ได้พูดไว้กับเอลียาห์

เยฮูฆ่าคนที่นมัสการพระบาอัล

18 แล้วเยฮูเรียกประชาชนทั้งหมดมารวมตัวกันและพูดกับพวกเขาว่า “อาหับรับใช้พระบาอัลแต่เพียงเล็กน้อย แต่เยฮูจะรับใช้พระบาอัลให้มากกว่านั้นอีก 19 ตอนนี้ เรียกตัวพวกผู้พูดแทนพระบาอัลทั้งหมด รวมทั้งผู้นมัสการและนักบวชของพระบาอัลทั้งหมดมา ดูให้ดีอย่าให้ขาดใครแม้แต่คนเดียว เพราะเรากำลังจะถวายเครื่องบูชาที่ยิ่งใหญ่ให้กับพระบาอัล ใครที่ไม่มาร่วมงานจะต้องตาย”

แต่เยฮูกำลังหลอกพวกเขาเพื่อที่จะได้ทำลายพวกที่บูชาพระบาอัลให้หมด 20 เยฮูสั่งว่า “ให้จัดประชุมอันศักดิ์สิทธิ์ให้กับพระบาอัล” พวกเขาจึงได้ประกาศออกไป 21 แล้วเยฮูก็ประกาศไปทั่วอิสราเอล และพวกที่บูชาพระบาอัลทั้งหมดก็มา ไม่ขาดใครเลยแม้แต่คนเดียว พวกเขาได้ชุมนุมกันอยู่ในวิหาร ของพระบาอัลจนกระทั่งวิหารมีคนเต็มไปหมดทุกด้าน

22 เยฮูก็พูดกับคนดูแลเรื่องเสื้อผ้าว่า “หาเสื้อมาให้กับผู้ที่บูชาพระบาอัลทั้งหมด” เขาก็เอาชุดเหล่านั้นออกมาให้พวกนั้น

23 แล้วเยฮูและเยโฮนาดับลูกชายของเรคาบ เข้าไปในวิหารของพระบาอัล เยฮูพูดกับพวกที่บูชาพระบาอัลว่า “ดูให้ดี ให้แน่ใจว่าไม่มีพวกที่นมัสการพระยาห์เวห์อยู่ท่ามกลางพวกเจ้า ให้เหลือแต่คนที่บูชาพระบาอัลเท่านั้น” 24 พวกเขาจึงเข้าไปถวายเครื่องสัตวบูชาและเครื่องเผาบูชา

ขณะนั้นเยฮูได้จัดคนไว้แปดสิบคนให้อยู่ด้านนอกพร้อมกับสั่งพวกเขาไว้ว่า “ถ้าพวกเจ้าคนหนึ่งคนใดปล่อยให้ใครในพวกนั้นที่เราได้มอบไว้ในมือของพวกเจ้าแล้ว หลบหนีไปได้ พวกเจ้าจะต้องชดใช้ด้วยชีวิตของเจ้าเอง”

25 ทันทีที่เยฮูถวายเครื่องเผาบูชาเสร็จสิ้นลง เขาก็ได้สั่งพวกทหารรักษาพระองค์และพวกผู้นำทหารว่า “เข้าไปฆ่าพวกมันให้หมด อย่าให้มีใครเล็ดรอดไปได้”

ดังนั้นพวกเขาจึงเอาดาบฆ่าฟันคนเหล่านั้น เหล่าทหารรักษาพระองค์และพวกผู้นำทหารได้โยนศพออกมาทิ้งข้างนอก แล้วก็เข้าไปในห้องด้านใน[c] ของวิหารพระบาอัลแห่งนั้น 26 พวกเขาเอาแท่งหินศักดิ์สิทธิ์ออกมาจากวิหารของพระบาอัลและเผามันทิ้ง 27 นอกจากได้ทุบแท่งหินศักดิ์สิทธิ์ของพระบาอัลจนแตกละเอียดแล้ว พวกเขาก็ยังทำลายวิหารของพระบาอัลอีกด้วย และใช้สถานที่นั้นเป็นส้วมสาธารณะมาจนถึงทุกวันนี้

28 แล้วเยฮูก็ได้ทำลายพวกที่บูชาพระบาอัลในอิสราเอลจนหมด 29 ถึงอย่างนั้นก็ตาม เขาก็ไม่ได้หันเหไปจากบาปต่างๆที่เยโรโบอัมลูกชายของเนบัทเคยทำไว้ ซึ่งทำให้อิสราเอลพลอยทำบาปไปด้วย คือเยฮูไม่ได้ทำลายรูปปั้นลูกวัวทองคำที่อยู่ในเบธเอลและดาน

พระยาห์เวห์อวยพรเยฮู

30 พระยาห์เวห์พูดกับเยฮูว่า “เจ้าได้ทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของเราจนสำเร็จ และได้ทำให้ครอบครัวของอาหับเป็นเหมือนกับที่เราได้คิดไว้ เพราะอย่างนั้น ลูกหลานของเจ้าจะได้นั่งอยู่บนบัลลังก์ของอิสราเอลจนถึงสี่ชั่วคน”

31 แต่เยฮูไม่ระมัดระวังที่จะทำตามกฎของพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลไว้ด้วยสิ้นสุดใจของเขา เขาไม่ยอมหันเหไปจากบาปของเยโรโบอัม ซึ่งทำให้อิสราเอลพลอยทำบาปไปด้วย

ฮาซาเอลเอาชนะอิสราเอลได้

32 ในสมัยนั้น พระยาห์เวห์เริ่มตัดส่วนต่างๆของอิสราเอลออก กษัตริย์ฮาซาเอลของอารัมได้เอาชนะชาวอิสราเอลตามพรมแดนของพวกเขา 33 ตั้งแต่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน ดินแดนทั้งหมดของกิเลอาด รวมทั้งดินแดนที่เป็นของเผ่ากาด เผ่ารูเบนและเผ่ามนัสเสห์ และเขามีชัยตั้งแต่อาโรเออร์ที่อยู่ติดกับลำธารอารโนนไปจนถึงกิเลอาดและบาชาน

ความตายของเยฮู

34 เหตุการณ์อื่นๆในยุคสมัยของเยฮู ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาได้ทำไปและความสำเร็จต่างๆของเขา ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอล 35 แล้วเยฮูก็ตายไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขาและถูกฝังอยู่ในเมืองสะมาเรีย และเยโฮอาหาสลูกชายของเขาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา 36 เยฮูปกครองอิสราเอลอยู่ในเมืองสะมาเรียเป็นเวลายี่สิบแปดปี

2 ทิโมธี 1

จากเปาโล ผู้เป็นศิษย์เอกของพระเยซูคริสต์ ตามความต้องการของพระเจ้า พระเจ้าได้ส่งผมออกไปบอกผู้คนเกี่ยวกับชีวิตที่พระองค์สัญญาว่าจะให้ในพระเยซูคริสต์

ถึงทิโมธีลูกรัก ขอให้พระเจ้าพระบิดา และพระเยซูคริสต์องค์เจ้าชีวิตของเรา ให้ความเมตตากรุณา และสันติสุขกับคุณ

เปาโลขอบคุณพระเจ้าและให้กำลังใจทิโมธี

ผมขอบคุณพระเจ้า ผู้ที่ผมรับใช้ด้วยใจบริสุทธิ์ เหมือนกับที่บรรพบุรุษของผมรับใช้ ผมอธิษฐานให้คุณเสมอทั้งวันทั้งคืน คิดถึงตอนที่คุณร้องไห้เพื่อผมแล้ว ทำให้ผมอยากเจอคุณมาก ซึ่งจะทำให้ผมมีความสุขจริงๆ ผมยังนึกถึงความเชื่อที่จริงใจของคุณ ซึ่งตอนแรกมีอยู่ในโลอิสยายของคุณ และยูนีสแม่ของคุณ และตอนนี้ผมก็เชื่อว่ามีอยู่ในคุณด้วย นี่เป็นเหตุที่ผมขอเตือนให้คุณใช้พรสวรรค์ที่พระเจ้าให้ตอนที่ผมวางมือ[a] ลงบนคุณ กระพือพรสวรรค์นั้นให้มันลุกโชติช่วงขึ้น เพราะพระวิญญาณที่พระเจ้าให้กับเรานั้นไม่ทำให้เราขี้ขลาด แต่พระวิญญาณนี้ทำให้เราเต็มไปด้วยฤทธิ์อำนาจ ความรัก และการควบคุมตนเอง

ไม่ต้องอับอายที่จะบอกคนเกี่ยวกับองค์เจ้าชีวิตของเรา หรืออับอายในตัวผมที่เป็นนักโทษเพราะเห็นแก่พระองค์ แต่ให้พึ่งฤทธิ์เดชของพระเจ้า แล้วยอมทนทุกข์ด้วยกันกับผมเพื่อข่าวดีนั้นดีกว่า พระเจ้าทำให้เรารอดและเรียกเราให้มาเป็นคนของพระองค์โดยเฉพาะ ที่พระองค์เรียกเรานั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับการกระทำของเรา แต่เป็นไปตามความต้องการของพระเจ้า และพระองค์ได้ให้ความเมตตากรุณานี้กับเราผ่านมาทางพระเยซูคริสต์ก่อนที่จะมีโลกนี้เสียอีก 10 แต่ตอนนี้พระเจ้าได้เปิดเผยเรื่องนี้แล้วโดยพระเยซูคริสต์ผู้เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเราที่ได้มาปรากฏตัวให้เห็นแล้ว พระองค์ได้มาทำลายความตาย และทำให้เราเห็นถึงชีวิตที่ไม่มีวันตายที่ผ่านทางข่าวดีนี้ 11 เพราะข่าวดีนี้เอง พระองค์ถึงได้แต่งตั้งให้ผมเป็นคนประกาศข่าว เป็นศิษย์เอก และเป็นครู 12 ด้วยเหตุนี้เองผมถึงได้รับความทุกข์ทรมานอย่างที่เป็นอยู่นี้ แต่ผมก็ไม่อับอายหรอก เพราะผมรู้จักผู้ที่ผมเชื่อ และผมก็มั่นใจว่า พระองค์สามารถรักษาสิ่งที่ผมได้มอบไว้ให้กับคนอื่น[b]จนกว่าวันนั้น[c]จะมาถึง 13 ขอให้คุณยึดถือคำสอนที่มีประโยชน์ ที่คุณได้ยินจากผมนี้ไว้เป็นแบบอย่าง และทำตามด้วยความเชื่อและความรักที่มีอยู่ในพระเยซูคริสต์ 14 ขอให้เก็บรักษาสิ่งที่ได้มอบไว้ให้กับคุณนี้เอาไว้ให้ดี ด้วยความช่วยเหลือจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่อยู่ในตัวเรา

15 คุณก็รู้ว่า ทุกคนในแคว้นเอเชียได้ทิ้งผมไปหมดแล้ว รวมทั้งฟีเจลัสและเฮอร์โมเกเนสด้วย 16 ขอให้องค์เจ้าชีวิตมีเมตตากรุณาต่อครอบครัวของโอเนสิโฟรัสด้วย เพราะเขาได้ให้กำลังใจผมหลายครั้งและก็ไม่อับอายที่ผมติดคุกอยู่ 17 ตรงกันข้าม เมื่อเขามาถึงกรุงโรม เขาก็ยังอุตส่าห์ตามหาผมจนพบ 18 ขอองค์เจ้าชีวิตโปรดให้ความเมตตากับเขาในวันนั้นด้วยเถิด และคุณก็รู้ดีว่าตอนที่ผมอยู่ที่เมืองเอเฟซัสนั้น เขาได้ช่วยผมมากขนาดไหน

โฮเชยา 2

พระยาห์เวห์พูดว่า
“ให้เรียกพี่ชายน้องชายของเจ้าว่า ‘อัมมี’[a]
    ให้เรียกพวกพี่สาวน้องสาวของเจ้าว่า ‘รุหะมาห์’”[b]

พระยาห์เวห์จะลงโทษชนชาติอิสราเอล

ตักเตือนแม่[c] ของพวกเจ้า
    ตักเตือนเลย เพราะนางไม่ใช่เมียของเรา และเราก็ไม่ใช่ผัวของนาง
นางจะต้องหยุดเล่นชู้
    และนางจะต้องขับไล่พวกคู่รักที่อยู่ระหว่างเต้านมของนางไป
ถ้านางไม่เลิก เราจะแก้ผ้านางให้ล่อนจ้อน
    และเอานางไปประจานเปลือยเปล่าเหมือนกับวันแรกที่นางเกิดมา
เราจะเอาคนของนางไป
    เราจะทำให้นางเป็นเหมือนกับที่เปล่าเปลี่ยว และเราจะปล่อยให้นางหิวน้ำตาย
เราจะไม่รักลูกหลานของนาง
    เพราะพวกเขาเป็นลูกชู้
แม่ของพวกเขานั้นมีชู้
    นางที่ตั้งท้องพวกเขามาทำตัวน่าอัปยศอดสู
นางพูดว่า “ฉันจะตามพวกคนรัก[d] ของฉันไป
    เพราะอาหารของฉัน น้ำของฉัน ขนแกะของฉัน ผ้าลินินของฉัน
    น้ำมันมะกอกของฉัน และเครื่องดื่มของฉัน ล้วนแต่มาจากพวกเขาทั้งสิ้น”
ดังนั้น เรา ยาห์เวห์ จะเอาหนามมาขวางกั้นทางของเจ้าอิสราเอล
    เราจะสร้างกำแพงล้อมรอบนางไว้
    เพื่อว่านางจะได้หาทางไม่เจอ
ถึงแม้นางจะไล่ตามพวกคนรักของนาง
    นางก็จะไม่มีวันตามพวกเขาทัน
ถึงแม้นางจะตามหาพวกเขา
    นางก็จะไม่มีวันหาพวกเขาเจอ
แล้วนางจะพูดว่า “ฉันจะกลับไปหาชายคนแรกของฉัน[e]
    เพราะชีวิตฉันในตอนนั้นสบายกว่าตอนนี้เสียอีก”
แต่นางไม่รู้หรอกว่าเป็นเราเอง ยาห์เวห์ ที่ให้ข้าวสาร เหล้าองุ่นใหม่ รวมทั้งน้ำมันมะกอกกับนาง
    และเราได้เพิ่มพูนเงินทองให้กับนางมากมาย แล้วนางก็เอามันไปสร้างพระบาอัล

ดังนั้น เรา ยาห์เวห์ จะเอาข้าวสารที่เราเคยให้กับนางในฤดูเก็บเกี่ยวไปจากนาง
    และเอาเหล้าองุ่นใหม่ที่เราเคยให้กับนางในฤดูเก็บเกี่ยวผลองุ่นไปจากนาง
และเราจะยึดขนแกะและผ้าลินินที่เราผลิตขึ้นมา
    เพื่อห่อหุ้มนางไม่ให้เปลือยเปล่าไปจากนาง
10 ตอนนี้ เราจะเปิดเผยให้พวกคนรักของนางเห็นความเปลือยเปล่าอันน่าอับอายของนาง
    และจะไม่มีใครสามารถช่วยนางไปจากเงื้อมมือของเราได้
11 เราจะทำให้งานเฉลิมฉลองทั้งหมด[f] ของนางจบสิ้นลง
    ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลประจำปี หรือการฉลองวันพระจันทร์ใหม่ หรือวันหยุดทางศาสนา
    ใช่แล้ว เราจะยกเลิกเทศกาลทุกอย่างของนางที่ได้กำหนดไว้
12 เราจะทำลายเถาองุ่นและต้นมะเดื่อของนาง ที่นางชอบพูดว่า “นี่เป็นค่าตอบแทนของฉัน ที่พวกคนรักของฉันให้กับฉัน”
    ดังนั้นเราจะปล่อยเถาองุ่นและต้นมะเดื่อให้กลายเป็นป่ารก และให้สัตว์ป่ามากินพวกมัน
13 พระยาห์เวห์พูดว่า “เราจะลงโทษนาง สำหรับงานเทศกาลทั้งหลายของนาง
    ตอนที่นางเผาเครื่องบูชาให้กับพระบาอัล
นางแต่งตัว สวมใส่แหวนและเครื่องประดับ
    และไปตามหาพวกคนรักของนาง
    และนางก็ลืมเราเสียสนิท
14 แต่เราจะเกลี้ยกล่อมนาง พานางเข้าไปในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งกับเราอีกรอบ
    และเราจะพูดคำอ่อนหวานกับนาง
15 แล้วเราก็จะคืนสวนองุ่นให้กับนางที่นั่น
    หุบเขาแห่งอาโคร์[g] จะกลายเป็นประตูแห่งความหวัง
และนางก็จะทุ่มหัวใจให้กับเราอย่างสุดๆที่นั่น
    เหมือนกับเมื่อนางยังเป็นสาวอยู่ เหมือนกับตอนที่นางออกมาจากแผ่นดินอียิปต์”

16 พระยาห์เวห์พูดว่า “ในวันนั้นเจ้าจะเรียกเราว่า ‘สามีของฉัน’ และเจ้าจะไม่เรียกเราว่า ‘บาอัลของฉัน’ อีกต่อไป 17 เราจะเอาชื่อของพระบาอัลทั้งหลาย[h] ไปจากปากของนาง และชื่อของพระบาอัลพวกนี้จะไม่มีใครพูดถึงอีกต่อไป 18 ในวันนั้น เราจะทำข้อตกลงเพื่อช่วยเจ้ากับพวกสัตว์ป่าในทุ่ง พวกนกในท้องฟ้า และพวกสัตว์เลื้อยคลานตามพื้นดิน ไม่ให้ทำร้ายเจ้า และเราจะหักธนู ดาบ และหยุดการสู้รบเพื่อแผ่นดินจะได้เกิดความสงบสุข เราจะให้พวกเจ้านอนลงอย่างปลอดภัย 19 เราจะแต่งงานกับเจ้าตลอดไป เราจะแต่งงานกับเจ้า และให้ความเป็นธรรม ความยุติธรรม ความรักอันมั่นคง และความเห็นอกเห็นใจกับเจ้า 20 เราจะแต่งงานกับเจ้า และให้ความสัตย์ซื่อกับเจ้า แล้วเจ้าจะได้รู้จักพระยาห์เวห์จริงๆ”

21 พระยาห์เวห์พูดว่า “ในวันนั้น เราจะตอบคำขอของฟ้าสวรรค์
    ฟ้าสวรรค์จะได้ตอบคำขอของพื้นดิน
22 พื้นดินจะได้ตอบคำขอของเมล็ดข้าว ของเหล้าองุ่นใหม่ และของน้ำมันมะกอก
    และพวกมันทั้งหมดจะได้ตอบคำขอของยิสเรเอล[i]
23 เราจะปลูกนางไว้สำหรับเราในแผ่นดิน
    เราจะแสดงความรักกับโลรุหะมาห์[j]
เราจะพูดกับ โลอัมมี[k] ว่า ‘เจ้าเป็นคนของเรา’
    และโลอัมมีจะพูดกับเราว่า ‘พระองค์เป็นพระเจ้าของฉัน’”

สดุดี 119:97-120

เม็ม

97 ข้าพเจ้ารักคำสั่งสอนของพระองค์เหลือเกิน
    และใคร่ครวญถึงคำสอนนั้นตลอดเวลา
98 บัญญัติต่างๆของพระองค์ทำให้ข้าพเจ้าฉลาดกว่าพวกศัตรูของข้าพเจ้า
    เพราะบัญญัติเหล่านั้นอยู่กับข้าพเจ้าเสมอ
99 พระองค์ทำให้ข้าพเจ้ารู้ลึกซึ้งกว่าพวกครูของข้าพเจ้า
    เพราะข้าพเจ้าใคร่ครวญถึงกฎต่างๆของพระองค์
100 ข้าพเจ้ามีความเข้าใจมากกว่าพวกผู้อาวุโส
    เพราะข้าพเจ้าเชื่อฟังคำสั่งต่างๆของพระองค์
101 ข้าพเจ้ายั้งเท้าของข้าพเจ้าจากทางชั่วทุกอย่าง
    เพื่อข้าพเจ้าจะได้เชื่อฟังคำบัญชาของพระองค์
102 ข้าพเจ้าไม่ได้หันเหไปจากกฎเกณฑ์ต่างๆของพระองค์เลย
    เพราะพระองค์เองสอนข้าพเจ้า
103 คำพูดต่างๆของพระองค์นั้นช่างมีรสชาติดีจริงๆ
    หวานยิ่งกว่าน้ำเชื่อมผลไม้
104 ข้าพเจ้าได้ความเข้าใจจากคำสั่งต่างๆของพระองค์
    ข้าพเจ้าจึงเกลียดชังการกระทำที่หลอกลวงทั้งปวง

นุน

105 คำบัญชาของพระองค์เป็นโคมไฟให้กับเท้าของข้าพเจ้า
    เป็นแสงสว่างให้กับทางของข้าพเจ้า
106 ข้าพเจ้าสาบานและยืนยันว่าจะรักษาคำสาบานนั้น
    ที่ว่าข้าพเจ้าจะเชื่อฟังกฎเกณฑ์ต่างๆที่ยุติธรรมของพระองค์
107 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าทนทุกข์ยิ่งนัก
    ช่วยให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไปตามที่พระองค์สัญญาไว้ด้วยเถิด
108 ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดยอมรับพวกเครื่องบูชาแห่งการสรรเสริญที่ออกจากปากของข้าพเจ้าด้วยเถิด
    ช่วยสอนกฎเกณฑ์ต่างๆของพระองค์ให้กับข้าพเจ้าด้วยเถิด
109 ชีวิตของข้าพเจ้าตกอยู่ในอันตรายเสมอ
    แต่ข้าพเจ้าไม่เคยลืมคำสั่งสอนของพระองค์
110 คนชั่ววางกับดักข้าพเจ้า
    แต่ข้าพเจ้าไม่เคยหลงไปจากคำสั่งต่างๆของพระองค์
111 กฎทั้งหลายของพระองค์เป็นมรดกของข้าพเจ้าตลอดไป
    เพราะใจของข้าพเจ้าชื่นชมยินดีในกฎเหล่านั้น
112 ข้าพเจ้าจะมุ่งมั่นในการเชื่อฟังกฎระเบียบของพระองค์อยู่เสมอ
    จนกว่าข้าพเจ้าจะตายไป

ซาเมค

113 ข้าพเจ้าเกลียดชังคนสองใจ
    แต่ข้าพเจ้ารักคำสั่งสอนของพระองค์
114 พระองค์เป็นที่ซ่อนและเป็นโล่ของข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าฝากความหวังไว้กับคำสัญญาของพระองค์
115 ไอ้พวกทำชั่วทั้งหลาย ไปให้ห่างจากข้า
    เพื่อข้าจะได้รักษาบัญญัติทั้งหลายของพระเจ้าของข้า
116 พระยาห์เวห์เจ้าข้า โปรดค้ำจุนข้าพเจ้าอย่างที่พระองค์สัญญาไว้
    แล้วข้าพเจ้าจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไป อย่าทำให้ข้าพเจ้าผิดหวังเลย
117 ช่วยเหลือข้าพเจ้าด้วยเถิดเพื่อข้าพเจ้าจะได้รอด
    และจะได้เรียนรู้กฎระเบียบของพระองค์เป็นประจำ
118 พระองค์ไม่ยอมรับคนเหล่านั้นที่หลงไปจากกฎระเบียบของพระองค์
    การหลอกลวงของพวกเขาไม่สามารถหลอกพระองค์ได้
119 คนชั่วทุกคนบนโลกนี้เป็นเหมือนขี้แร่ที่พระองค์เขี่ยทิ้งไป
    ข้าพเจ้าจึงรักกฎต่างๆของพระองค์
120 ข้าพเจ้ากลัวจนตัวสั่นอยู่ต่อหน้าพระองค์
    ข้าพเจ้าเคารพยำเกรงกฎเกณฑ์ต่างๆของพระองค์

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International