Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
2 พงศ์กษัตริย์ 2

พระยาห์เวห์รับตัวเอลียาห์ไปสวรรค์

เมื่อเกือบถึงเวลาที่พระยาห์เวห์จะรับตัวเอลียาห์ขึ้นสู่สวรรค์ด้วยลมพายุหมุน เอลียาห์และเอลีชากำลังเดินทางออกจากเมืองกิลกาล

เอลียาห์พูดกับเอลีชาว่า “อยู่ที่นี่นะ พระยาห์เวห์เรียกให้ข้าไปที่เมืองเบธเอล”

แต่เอลีชาพูดว่า “พระยาห์เวห์และท่านมีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่าข้าพเจ้าจะไม่ยอมทิ้งท่านไปเป็นอันขาด” เขาทั้งสองจึงลงไปที่เมืองเบธเอลด้วยกัน

พวกกลุ่มผู้พูดแทนพระเจ้า[a] ที่เมืองเบธเอลได้ออกมาพบเอลีชาและได้ถามเขาว่า “ท่านรู้หรือเปล่าว่า พระยาห์เวห์กำลังจะเอาตัวนายของท่านไปจากท่านในวันนี้”

เอลีชาตอบไปว่า “ข้ารู้แล้ว แต่อย่าได้พูดถึงมันเลย”

แล้วเอลียาห์ก็พูดว่า “เอลีชา เจ้าอยู่ที่นี่ก่อนนะ พระยาห์เวห์เรียกให้ข้าไปที่เมืองเยริโค”

เขาก็ตอบว่า “พระยาห์เวห์และท่านมีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่าข้าพเจ้าจะไม่ทิ้งท่านไปเป็นอันขาด” เขาทั้งสองจึงไปเมืองเยริโคด้วยกัน

พวกกลุ่มผู้พูดแทนพระเจ้าที่เมืองเยริโคขึ้นมาหาเอลีชาและถามเขาว่า “ท่านรู้หรือเปล่าว่า พระยาห์เวห์กำลังจะเอาตัวนายของท่านไปในวันนี้”

เขาตอบว่า “ข้ารู้แล้ว แต่อย่าได้พูดถึงมันเลย”

แล้วเอลียาห์พูดว่า “เอลีชา เจ้าอยู่ที่นี่นะ เพราะพระยาห์เวห์เรียกให้ข้าไปที่แม่น้ำจอร์แดน”

และเขาก็ตอบว่า “พระยาห์เวห์และท่านมีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า ข้าจะไม่ยอมทิ้งท่านไปเป็นอันขาด” เขาทั้งสองจึงเดินทางต่อไป

มีห้าสิบคนจากกลุ่มผู้พูดแทนพระเจ้าเหล่านั้น ได้เดินตามพวกเขาไป เอลียาห์และเอลีชาไปหยุดอยู่ที่ริมแม่น้ำจอร์แดน พวกห้าสิบคนนั้นยืนอยู่ห่างออกไป เอลียาห์เอาเสื้อคลุมของเขาม้วนเข้าและฟาดลงไปในน้ำ ทันใดนั้น น้ำก็แยกออกสองข้างซ้ายขวา และทั้งสองคนก็เดินข้ามไปบนพื้นดินที่แห้งแล้วตรงนั้น

เมื่อพวกเขาข้ามไปแล้ว เอลียาห์พูดกับเอลีชาว่า “บอกมาสิว่าจะให้ข้าทำอะไรให้กับเจ้าก่อนที่ข้าจะถูกพาไปจากเจ้า” เอลีชาตอบว่า “ขอให้ข้าพเจ้าได้รับฤทธิ์เดชของท่านมากกว่าคนอื่นสองเท่าเหมือนสิทธิของลูกชายหัวปี เพื่อข้าพเจ้าจะได้เป็นผู้นำพวกเขาสืบจากท่าน”

10 เอลียาห์พูดว่า “เจ้าขอสิ่งที่ยากเหลือเกิน แต่ถ้าเจ้าเห็นเราตอนที่เราถูกรับตัวไปจากเจ้า เจ้าก็จะได้สิ่งที่เจ้าขอ แต่ถ้าเจ้าไม่เห็น เจ้าก็จะไม่ได้”

11 ในขณะที่พวกเขากำลังเดินคุยกันไปนั้น ทันใดนั้นก็มีรถรบเพลิงคันหนึ่งพร้อมกับพวกม้าเพลิงได้ปรากฏขึ้น และแยกพวกเขาทั้งสองออกจากกัน แล้วเอลียาห์ก็ถูกพัดขึ้นสู่สวรรค์ในลมพายุหมุน

12 เอลีชาเห็นเหตุการณ์นี้ และเขาร้องออกมาว่า “ท่านพ่อ ท่านพ่อ ท่านเป็นพวกรถรบและเหล่าทหารม้าของอิสราเอล”[b]

เอลีชาก็มองไม่เห็นเอลียาห์อีกต่อไป แล้วเอลีชาก็ฉีกเสื้อผ้าของเขาจนขาดจากกัน

เอลีชารับหน้าที่แทนเอลียาห์

13 เขาหยิบเสื้อคลุมที่เอลียาห์ทำหล่นไว้ และกลับไปยืนอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำจอร์แดน

14 แล้วเอลีชาก็เอาเสื้อคลุมที่เอลียาห์ทำหล่นไว้นั้น ตีลงไปในน้ำ และถามว่า “ตอนนี้พระยาห์เวห์ พระเจ้าของเอลียาห์อยู่ที่ไหน” เมื่อเขาตีน้ำ มันก็แยกออกเป็นสองข้างซ้ายขวา และเขาก็เดินข้ามไป

15 กลุ่มผู้พูดแทนพระเจ้าจากเยริโคที่กำลังมองดูอยู่พูดว่า “ฤทธิ์เดชของเอลียาห์ได้อยู่ในตัวเอลีชาแล้ว” และพวกเขาก็ออกไปพบกับเอลีชาและก้มกราบลงถึงพื้นต่อหน้าเขา 16 พวกเขาพูดว่า “ดูเถิด พวกเราเหล่าผู้รับใช้มีกันอยู่ห้าสิบคนซึ่งล้วนแต่มีร่างกายแข็งแรงทั้งนั้น ให้พวกเราไปค้นหานายของท่านเถิด บางทีพระวิญญาณของพระยาห์เวห์รับเขาขึ้นไปและปล่อยเขาลงบนภูเขาหรือหุบเขาแห่งใดแห่งหนึ่งก็ได้”

เอลีชาตอบไปว่า “ไม่ต้องหรอก อย่าส่งพวกเขาไปเลย”

17 แต่พวกเขายืนกรานอยู่อย่างนั้น จนเอลีชารู้สึกละอายใจที่จะปฏิเสธ เขาจึงพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น ก็ให้พวกเขาไปเถิด”

และพวกเขาส่งคนห้าสิบคนไปค้นหาเป็นเวลาสามวัน แต่ไม่พบตัวเอลียาห์เลย 18 เมื่อพวกเขากลับมาหาเอลีชาซึ่งยังอยู่ในเมืองเยริโค เอลีชาก็พูดกับคนเหล่านั้นว่า “ข้าบอกพวกท่านแล้วว่าไม่ต้องไป”

เอลีชาทำให้น้ำสะอาด

19 มีคนหลายคนจากในเมืองมาพูดกับเอลีชาว่า “ดูเถิด เจ้านายของพวกเรา เมืองนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีซึ่งท่านก็เห็นอยู่ แต่น้ำของที่นี่ไม่ดีเลย และแผ่นดินก็ไม่เกิดผล”

20 เอลีชาจึงพูดว่า “นำชามใหม่มาให้เราใบหนึ่ง และเอาเกลือใส่มาในนั้นด้วย”

พวกเขาจึงนำชามใบใหม่ใส่เกลือมาให้เขา 21 แล้วเขาก็ออกไปที่ตาน้ำ และโยนเกลือในชามลงไปในนั้น และพูดว่า “พระยาห์เวห์พูดว่า ‘เราได้รักษาน้ำนี้ให้แล้ว มันจะไม่เป็นต้นเหตุของความตายหรือทำให้แผ่นดินไม่เกิดผลอีกต่อไป’”

22 และน้ำนั้นก็สะอาดมาจนถึงทุกวันนี้ ตามคำพูดที่เอลีชาได้พูดไว้

เด็กผู้ชายบางคนล้อเลียนเอลีชา

23 จากที่นั่น เอลีชาขึ้นไปถึงที่เมืองเบธเอล ในขณะที่เขากำลังเดินไปตามถนน มีเด็กอยู่กลุ่มหนึ่งออกมาจากในเมืองและมาเยาะเย้ยเขาว่า “ขึ้นไปเลย ไอ้ล้าน ขึ้นไปสิ ไอ้ล้าน”

24 เขาหันไปรอบๆมองดูเด็กเหล่านั้น และร้องสาปแช่งเด็กพวกนั้นในนามของพระยาห์เวห์ ทันใดนั้นก็มีหมีตัวเมียสองตัวออกมาจากป่า และมาฉีกเด็กทั้งสี่สิบสองคนในกลุ่มนั้นออกเป็นชิ้นๆ

25 เอลีชาเดินต่อไปจนถึงภูเขาคารเมล และจากที่นั่นเขาก็กลับไปที่เมืองสะมาเรีย

2 เธสะโลนิกา 2

เรื่องชั่วร้ายที่จะเกิดขึ้น

ตอนนี้พี่น้องครับ เราจะพูดถึงเรื่องที่พระเยซูคริสต์เจ้าจะกลับมาและที่พวกเราจะชุมนุมกันกับพระองค์นั้น ขออย่าได้ตกใจหรือวุ่นวายใจไป เมื่อมีคำพยากรณ์ คำพูด หรือจดหมายที่อ้างว่ามาจากเรา ที่บอกว่าวันขององค์เจ้าชีวิตมาถึงแล้ว อย่าให้ใครหลอกเอา ไม่ว่าเขาจะมาไม้ไหนก็ตาม วันนั้นขององค์เจ้าชีวิตจะยังไม่มา จนกว่าจะมีการทรยศต่อพระเจ้าครั้งยิ่งใหญ่เกิดขึ้นก่อน และคนชั่วร้ายคนนั้นจะปรากฏตัวขึ้น จุดหมายปลายทางของมันคือนรก[a] มันจะต่อต้าน และจะยกย่องตัวมันเองขึ้นเหนือทุกสิ่งทุกอย่างที่คนเรียกว่า “พระเจ้า” หรืออะไรก็ตามที่คนบูชากัน มันจะทำถึงขนาดที่ว่า เข้าไปในวิหารของพระเจ้าและขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์ และป่าวประกาศว่าตัวมันเองคือพระเจ้า

จำได้ไหม ผมพูดถึงเรื่องนี้บ่อยๆตอนที่ผมยังอยู่กับคุณ ตอนนี้ มีสิ่งหนึ่งที่เหนี่ยวรั้งมันไว้ เพื่อให้มันปรากฏตัวออกมาในเวลาที่เหมาะสม และพวกคุณก็รู้แล้วว่าสิ่งนั้นคืออะไร ที่เราพูดอย่างนี้ก็เพราะพลังความชั่วอันลึกลับนี้ ก็ได้ทำงานอยู่ในโลกแล้ว แต่มีผู้หนึ่งที่กำลังรั้งตัวมันอยู่ และจะรั้งต่อไปจนกว่าผู้รั้งนี้จะไม่อยู่ แล้วคนชั่วร้ายนั้นก็จะปรากฏตัวออกมา พระเยซูเจ้าจะฆ่ามันด้วยลมหายใจจากปากของพระองค์ เมื่อพระองค์กลับมาครั้งยิ่งใหญ่ และพระองค์จะทำลายล้างมันจนสิ้นซาก คนชั่วร้ายนี้ เมื่อมาก็จะใช้อำนาจของซาตาน พร้อมกับทำอิทธิฤทธิ์ สัญญาณสำคัญและปาฏิหาริย์ที่ดูเหมือนมาจากพระเจ้า แต่จริงๆแล้วมาจากซาตาน 10 มันจะใช้รูปแบบอื่นๆอีกมากมาย ในการหลอกลวงคนที่กำลังหลงหาย พวกนี้หลงหายก็เพราะไม่ยอมรักความจริง ซึ่งเป็นความจริงที่จะช่วยให้เขารอดได้ 11 เพราะเขาไม่รักความจริง พระเจ้าจึงทำให้คนพวกนี้เห็นผิดเป็นชอบ เพื่อจะได้หลงเชื่อในสิ่งที่ผิด 12 พระองค์จะลงโทษพวกเขาที่ไม่ยอมเชื่อความจริง แต่กลับไปสนุกสนานกับความชั่ว

พระเจ้าเลือกคุณให้ได้รับความรอด

13 พี่น้องครับ องค์เจ้าชีวิตรักคุณ พระเจ้าได้เลือกพวกคุณไว้แล้วตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อให้ได้รับความรอด ที่คุณรอดก็เพราะคุณเชื่อในความจริง และพระวิญญาณได้ทำให้คุณเป็นคนของพระเจ้า 14 คุณรอดโดยผ่านทางข่าวดีที่เราได้ประกาศนั้น พระเจ้าได้เรียกให้คุณมารับความรอดนั้น ก็เพื่อคุณจะได้มีส่วนร่วมในเกียรติของพระเยซูคริสต์องค์เจ้าชีวิตของเรา 15 ดังนั้นพี่น้องครับ ให้ตั้งมั่นคงไว้ และยึดมั่นในคำสอนที่ได้ตกทอดมาถึงคุณ ไม่ว่าจะเป็นคำพูด หรือจดหมายจากเราก็ตาม

16 เรามีกำลังใจที่ไม่มีวันสิ้นสุด และความหวังที่มั่นคง ก็เพราะพระเจ้าเมตตาต่อเรา ขอให้พระเยซูคริสต์เจ้า และพระเจ้าพระบิดาของเราผู้ที่รักเรา 17 ให้กำลังใจและให้พลังกับพวกคุณ เพื่อคุณจะได้ทำและพูดในสิ่งดีๆต่อไป

ดาเนียล 6

ดาเนียลในถ้ำสิงโต

กษัตริย์ดาริอัสตัดสินใจที่จะแต่งตั้งผู้นำภาคขึ้นมาหนึ่งร้อยยี่สิบคน เพื่อมาปกครองดูแลอาณาจักร แล้วพระองค์ก็เลือกอีกสามคนมาเป็นรัฐมนตรีอยู่เหนือผู้นำภาคพวกนี้ ผู้นำภาคพวกนี้จะต้องมารายงานกับสามคนนี้ เพื่อกษัตริย์จะได้ไม่ต้องวุ่นวายกับเรื่องปลีกย่อยในการบริหาร และดาเนียลก็เป็นหนึ่งในรัฐมนตรีสามคนนี้ เนื่องจากดาเนียลคนนี้เป็นคนฉลาดหลักแหลมมาก เขามีความสามารถมากกว่ารัฐมนตรีอีกสองคนนั้น และเก่งกว่าผู้นำภาคทั้งหมดด้วย กษัตริย์จึงคิดที่จะแต่งตั้งดาเนียลให้มีอำนาจเหนืออาณาจักรทั้งหมด

ดังนั้นรัฐมนตรีสองคนนั้นและผู้นำภาคพวกนั้น ก็เริ่มหาเหตุใส่ร้ายดาเนียล ในงานบริหารอาณาจักรที่ดาเนียลรับผิดชอบอยู่ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถจะหาเหตุอะไรมาฟ้อง หรือจับทุจริตในตัวดาเนียลได้เลย เพราะดาเนียลเป็นคนที่ซื่อสัตย์มาก และไม่ได้ทำอะไรผิด หรือผิดพลาดในงานที่เขารับผิดชอบเลย

แล้วคนพวกนี้ก็พูดกันว่า “เราจะไม่มีทางหาเหตุฟ้องดาเนียลคนนี้ได้เลย นอกจากเราจะหาเรื่องจับผิดเกี่ยวกับศาสนาของเขา” ดังนั้นรัฐมนตรีสองคนนั้นกับผู้นำภาคทั้งหลายก็พากันมาเข้าเฝ้ากษัตริย์ และนำข้อเสนอมาด้วย พวกเขาพูดว่า “ขอให้กษัตริย์ดาริอัสมีอายุยืนยาว ข้าแต่กษัตริย์ พวกรัฐมนตรี พวกผู้นำภาค ผู้นำจังหวัด ผู้นำอำเภอ พวกที่ปรึกษา ได้ตกลงกันว่ากษัตริย์ควรจะประกาศกฎหมายใหม่ และให้บังคับใช้อย่างเข้มงวดว่า ในสามสิบวันนี้ห้ามทุกคนอธิษฐานหรือขอพรจากเทพเจ้าหรือจากมนุษย์คนใด นอกจากขอจากพระองค์ผู้เป็นกษัตริย์แต่เพียงผู้เดียว ใครฝ่าฝืนจะต้องถูกโยนเข้าไปในถ้ำสิงโต

ดังนั้น ข้าแต่กษัตริย์ ขอทรงออกกฎข้อห้ามนี้ พร้อมกับเซ็นชื่อของพระองค์ลงในกฎหมายนั้น เพื่อจะได้เป็นกฎหมายที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกได้ตามกฎหมายของคนมีเดียและคนเปอร์เซียด้วยเถิด”

กษัตริย์ดาริอัสจึงออกกฎข้อห้ามนี้ พร้อมกับลงชื่อของพระองค์ลงไป

10 เมื่อดาเนียลได้ยินว่ากษัตริย์ได้เซ็นชื่อลงในกฎหมายนี้แล้ว เขาก็กลับบ้าน และขึ้นไปห้องชั้นบนที่มีหน้าต่างหันหน้าไปทางเมืองเยรูซาเล็ม แล้วดาเนียลก็คุกเข่าลงที่นั่น อธิษฐานและขอบคุณพระเจ้าของเขา วันละสามครั้ง เหมือนปกติที่เขาทำมา 11 ต่อมากลุ่มนั้นได้มาพบว่า ดาเนียลอธิษฐานและร้องขอความเมตตาจากพระเจ้าของเขา

12 พวกเขาก็ไปเข้าเฝ้ากษัตริย์และบอกกับพระองค์ถึงกฎข้อห้ามของพระองค์นั้นว่า

“ข้าแต่กษัตริย์ พระองค์ได้ลงชื่อไปแล้วไม่ใช่หรือ ที่ห้ามไม่ให้มีใครอธิษฐานหรือขอพรจากเทพองค์ใดหรือมนุษย์คนไหนนอกจากพระองค์เท่านั้น เป็นเวลาสามสิบวัน และถ้าใครฝ่าฝืนก็จะต้องถูกโยนลงไปในถ้ำสิงโต” กษัตริย์ก็ตอบว่า “ใช่ ถูกแล้ว มันเป็นไปตามกฎหมายของมีเดียและเปอร์เซียที่ไม่สามารถยกเลิกได้”

13 พวกเขาจึงฟ้องกษัตริย์ว่า “ดาเนียลที่เป็นคนหนึ่งในพวกเชลยชาวยูดาห์ ไม่ได้สนใจพระองค์หรือกฎข้อห้ามนี้ ที่พระองค์ผู้เป็นกษัตริย์ได้ลงชื่อไว้ อันที่จริง เขาอธิษฐานต่อพระเจ้าของเขาตั้งสามครั้งในแต่ละวัน”

14 เมื่อกษัตริย์ได้ยินอย่างนั้นก็กลุ้มใจมาก พระองค์รีบหาทางช่วยชีวิตดาเนียลทันที พระองค์พยายามอยู่จนตะวันตกดิน

15 หลังจากนั้น คนกลุ่มเดิมก็เข้ามาเฝ้ากษัตริย์และพูดว่า “ข้าแต่กษัตริย์ พระองค์ก็รู้อยู่แล้วถึงกฎของคนมีเดียและคนเปอร์เซียว่า กฎและข้อห้ามทุกอย่าง ที่ออกโดยกษัตริย์ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้”

16 ดังนั้นกษัตริย์จึงสั่งให้พวกเขาไปจับตัวดาเนียลโยนลงไปในถ้ำสิงโต

กษัตริย์พูดกับดาเนียลว่า “ขอให้พระเจ้าที่เจ้ารับใช้อยู่ตลอดเวลานั้น ช่วยชีวิตของเจ้าด้วยเถอะ”

17 แล้วพวกนั้นก็เลื่อนหินมาปิดปากถ้ำ และเอาแหวนของกษัตริย์มาประทับตราไว้ รวมทั้งแหวนของผู้ควบคุมมาประทับด้วย ที่พวกเขาประทับตราของกษัตริย์ไว้ ก็เพื่อจะได้ไม่มีใครมาเปลี่ยนแปลงคำตัดสินลงโทษดาเนียลได้

18 จากนั้นกษัตริย์ก็กลับไปที่วัง และไม่ยอมกินอะไรเลยทั้งคืน ไม่ยอมให้มีสิ่งบันเทิงทั้งนั้น พระองค์นอนไม่หลับ 19 พอถึงรุ่งเช้า พระองค์ก็รีบไปที่ถ้ำสิงโต 20 เมื่อพระองค์กำลังมาใกล้ถึงถ้ำ พระองค์ก็ร้องตะโกนเรียกดาเนียลว่า “ดาเนียล คนรับใช้ของพระเจ้า พระเจ้าที่มีชีวิตอยู่ พระเจ้าที่เจ้ารับใช้ตลอดมา พระองค์ช่วยชีวิตเจ้าจากพวกสิงโตได้หรือเปล่า”

21 ดาเนียลตอบกลับมาว่า “ข้าแต่กษัตริย์ ขอให้พระองค์มีชีวิตยืนยาวตลอดไป 22 พระเจ้าของข้าพเจ้าได้ส่งทูตสวรรค์มาปิดปากสิงโตพวกนี้ไว้ พวกมันเลยทำอันตรายข้าพเจ้าไม่ได้ นี่ก็เพราะพระเจ้ารู้ว่าข้าพเจ้าบริสุทธิ์ ข้าแต่กษัตริย์ ข้าพเจ้าไม่ได้ทำอะไรผิดต่อพระองค์เลย”

23 กษัตริย์จึงดีใจมาก และสั่งให้คนเอาตัวดาเนียลออกมาจากถ้ำสิงโต ดาเนียลถูกนำตัวออกมาจากถ้ำ ไม่ได้รับอันตรายอะไรเลย เพราะเขาไว้วางใจในพระเจ้าของเขานั่นเอง

24 แล้วกษัตริย์ก็มีคำสั่งให้นำตัวคนพวกนั้นที่ต่อต้านดาเนียลมา และโยนพวกเขา รวมทั้งลูกเมียของพวกเขา ลงไปในถ้ำสิงโต พวกเขายังไม่ทันจะตกถึงพื้นเลย สิงโตก็ขย้ำพวกเขากินและบดขยี้กระดูกพวกเขาจนแหลกละเอียด

25 แล้วกษัตริย์ดาริอัสก็เขียนคำประกาศนี้ถึงคนทุกชาติทุกภาษาที่อาศัยอยู่ทั่วโลก

“ขอให้เจ้ามีสันติสุขอย่างล้นเหลือ”

26 ข้าขอออกกฎนี้ว่า “ทุกคนในทุกๆจังหวัดทั่วราชอาณาจักรของข้าจะต้องเกรงกลัวและนับถือพระเจ้าของดาเนียล

เพราะพระองค์เป็นพระเจ้าที่มีชีวิตอยู่ชั่วนิรันดร์
และอาณาจักรของพระองค์จะไม่มีวันถูกทำลาย
    และพระองค์จะปกครองตลอดไปไม่มีวันสิ้นสุด
27 พระองค์ปกป้องและช่วยชีวิต
    พระองค์ทำหมายสำคัญและสิ่งอัศจรรย์ต่างๆทั้งในสวรรค์และโลก
และพระองค์เป็นผู้ที่ช่วยชีวิตดาเนียลไว้จากพวกสิงโต”

28 ดาเนียลคนนี้รุ่งเรืองในสมัยของกษัตริย์ดาริอัสคนมีเดียและในสมัยของกษัตริย์ไซรัสคนเปอร์เซีย

สดุดี 112-113

คนที่ถือว่ามีเกียรติจริงๆ

[a]สรรเสริญพระยาห์เวห์
ถือว่ามีเกียรติจริงๆคนที่เกรงกลัวพระยาห์เวห์
    และเชื่อฟังคำสั่งสอนของพระองค์ด้วยความเต็มใจ
ลูกหลานของเขาจะมีอำนาจในแผ่นดิน
    คนที่ทำในสิ่งที่ถูกต้องจะได้รับพระพร
ความมั่งมีและความร่ำรวยจะเต็มบ้านของเขา
    ความดีงามของเขาจะคงอยู่ตลอดไป
แสงสว่างจะสาดส่องเข้ามาในที่มืดให้กับคนสัตย์ซื่อแต่ละคน
    ที่มีน้ำใจ มีความเมตตากรุณาและมีความเป็นธรรม
ทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดีสำหรับคนที่มีน้ำใจและให้ยืมอย่างเต็มใจ
    และทำธุรกิจอย่างตรงไปตรงมา
เขาคนนั้นจะไม่มีวันล้มเหลว
    คนที่ทำในสิ่งที่ถูกต้องจะไม่มีวันถูกลืม
เขาจะไม่กลัวข่าวร้าย
    เขามีจิตใจที่มั่นคงเพราะเขาไว้วางใจในพระยาห์เวห์
เขาจะยังคงมั่นใจและไม่หวาดกลัว
    ในที่สุดเขาจะเห็นศัตรูของเขาพ่ายแพ้
เขาแจกจ่ายให้กับคนยากจนด้วยใจกว้างขวาง
    ความดีงามของเขาจะคงอยู่ตลอดไป
    เขาจะได้รับเกียรติยศอันยิ่งใหญ่
10 พวกคนเลวจะเห็นสิ่งเหล่านี้และโกรธ
    พวกเขากัดฟันกรอดๆและละลายไป
    และแผนการณ์ของเขาจะไม่มีวันเป็นจริง

สรรเสริญพระยาห์เวห์ผู้ดูแลคนขัดสน

สรรเสริญพระยาห์เวห์
พวกผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์ สรรเสริญพระองค์
    สรรเสริญชื่อของพระยาห์เวห์เถิด
ขอให้ชื่อของพระยาห์เวห์ได้รับการยกย่อง
    ทั้งตอนนี้และตลอดไป
ขอให้ชื่อของพระยาห์เวห์ได้รับการสรรเสริญ
    จากทิศตะวันออกไปจนถึงทิศตะวันตก
พระยาห์เวห์นั้นสูงสุดเหนือชนชาติทั้งปวง
    รัศมีของพระองค์สูงกว่าฟ้าสวรรค์

ไม่มีใครเท่าเทียมพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา
    พระองค์นั่งอยู่บนบัลลังก์ของพระองค์ในที่สูงเบื้องบนนั้น
แล้วพระองค์ก้มลงมา
    ดูฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
พระองค์ยกพวกคนจนขึ้นมาจากดิน
    และยกผู้ขัดสนจากกองขยะ
เพื่อจะให้พวกเขานั่งรวมอยู่กับพวกเจ้าขุนมูลนาย
    คือพวกผู้นำที่นำคนของพระองค์
พระองค์จัดหาบ้านให้แก่หญิงที่เป็นหมัน
    ให้นางเป็นแม่ที่มีความสุข
สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International