M’Cheyne Bible Reading Plan
7 เอลีชาตอบเขาไปว่า “ฟังคำพูดของพระยาห์เวห์ให้ดี พระองค์พูดว่า ‘พรุ่งนี้เวลานี้ ที่ประตูเมืองสะมาเรีย แป้งหนึ่งถัง[a] จะขายกันในราคาหนึ่งเชเขล[b] และข้าวบาร์เลย์สองถังจะขายกันในราคาหนึ่งเชเขล’”
2 เจ้าหน้าที่คนสนิทของกษัตริย์[c]พูดกับคนของพระเจ้าว่า “ต่อให้พระยาห์เวห์เปิดช่องฟ้าสวรรค์ สิ่งนี้ก็ไม่เกิดขึ้นแน่”
เอลีชาตอบว่า “ท่านจะได้เห็นเรื่องนี้ด้วยตาของท่านเอง แต่ท่านจะไม่ได้กินมันหรอก”
พวกชาวอารัมหนีไป
3 ในขณะนั้นมีชายที่เป็นโรคผิวหนังร้ายแรงสี่คนอยู่ที่ประตูทางเข้าเมือง พวกเขาคุยกันว่า “พวกเราจะนั่งรอความตายอยู่ที่นี่ทำไมกัน 4 ถ้าเข้าไปในเมืองสะมาเรีย พวกเขากำลังอดตายกันอยู่ พวกเราก็จะตายที่นั่น แต่ถ้าเรานั่งรออยู่ที่นี่ เราก็จะตายเหมือนกัน พวกเราไปที่ค่ายของพวกอารัมกันเถอะ ถ้าพวกเขาไว้ชีวิตพวกเรา เราก็จะรอด แต่ถ้าพวกเขาฆ่าเรา ก็ให้ตายไปเลยก็แล้วกัน”
5 ในตอนเย็นพวกเขาจึงลุกขึ้นและไปที่ค่ายของชาวอารัม เมื่อพวกเขาไปถึงที่ริมค่าย ไม่เห็นคนอยู่ที่นั่นสักคนเดียว 6 เพราะพระยาห์เวห์ได้ทำให้พวกอารัมได้ยินเสียงของกองรถรบกองทหารม้าและกองทัพที่ยิ่งใหญ่ พวกเขาจึงพูดกันว่า “ดูสิ กษัตริย์ของอิสราเอลได้จ้างพวกกษัตริย์ของชาวฮิตไทต์และชาวอียิปต์ มาโจมตีพวกเราแล้ว”
7 พวกเขาจึงลุกหลบหนีไปในเย็นวันนั้น และทิ้งเต็นท์ รวมทั้งม้าและลาของพวกเขาไว้ พวกเขาทิ้งค่ายไว้อย่างนั้นและวิ่งหนีเอาตัวรอดไป
8 เมื่อคนที่เป็นโรคผิวหนังร้ายแรงสี่คนนั้นมาถึงริมค่ายและเข้าไปในเต็นท์หลังหนึ่ง พวกเขาได้กินและดื่ม และเอาเงินและทองคำ รวมทั้งเสื้อผ้าหลายชุดออกมา และเอาของเหล่านั้นไปซ่อน และกลับเข้าไปใหม่และเข้าไปในเต็นท์อีกหลังหนึ่ง ไปเอาสิ่งของมากมายออกมาและเอาไปซ่อนไว้เหมือนเดิม 9 แล้วพวกเขาพูดกันว่า “พวกเราทำไม่ถูกนะ วันนี้เป็นวันแห่งข่าวดี แต่พวกเรากลับเงียบเฉย ถ้าพวกเราคอยจนสว่าง พวกเราก็จะถูกทำโทษ พวกเรารีบไปรายงานเรื่องนี้ให้ในวังรู้กันเถอะ”
10 พวกเขาจึงไปร้องเรียกหาคนเฝ้าประตูเมืองและบอกว่า “พวกเราได้เข้าไปในค่ายของพวกอารัม และไม่พบใครเลยสักคนที่นั่น ไม่มีแม้แต่เสียงของคน มีเพียงเสียงฝีเท้าของม้าและลา และเต็นท์ก็ถูกทิ้งอยู่อย่างนั้น”
11 คนเฝ้าประตูตะโกนบอกข่าวดีและข่าวนั้นก็เข้าไปถึงในวัง 12 กษัตริย์จึงลุกขึ้นกลางดึกและพูดกับข้าราชการของเขาว่า “เราจะบอกให้พวกเจ้ารู้ว่า พวกอารัมจะทำอะไรกับพวกเรา พวกมันรู้ว่าพวกเรากำลังจะอดตาย พวกมันจึงแกล้งทำเป็นทิ้งค่ายไป แล้วไปแอบสุ่มอยู่ในทุ่งนา พวกมันคิดว่า ‘พวกนั้นจะต้องออกมาแน่ แล้วพวกเราจะได้จับพวกนั้นเป็นๆและบุกเข้าไปในเมือง’”
13 ข้าราชการคนหนึ่งของเขาตอบว่า “ให้บางคนเอาม้าห้าตัวที่ยังเหลืออยู่ในเมืองไป เพราะยังไงอีกไม่นานม้าพวกนี้ก็ต้องตายอยู่ดี เช่นเดียวกันกับชาวอิสราเอลทั้งหมดที่ยังคงเหลืออยู่ที่นี่ ให้ส่งคนพวกนี้ไปดูสิว่าเกิดอะไรขึ้น”
14 พวกเขาจึงเลือกรถรบมาสองคันพร้อมกับม้า และกษัตริย์ก็ส่งพวกเขาไปติดตามดูกองทัพของพวกอารัม เขาได้สั่งคนขับว่า “ไปดูสิว่าเกิดอะไรขึ้น”
15 พวกเขาได้ติดตามกองทัพของพวกอารัมไปไกลถึงแม่น้ำจอร์แดน และพวกเขาพบว่าตามถนนนั้นเกลื่อนกลาดไปด้วยเสื้อผ้าและอุปกรณ์ของพวกอารัมที่โยนทิ้งไว้จากการหลบหนีอย่างเร่งรีบ พวกที่ถูกส่งไปกลุ่มนั้น จึงกลับมารายงานกับกษัตริย์
16 แล้วประชาชนต่างก็กรูกันออกไปและไปริบเอาข้าวของจากค่ายของพวกอารัม ดังนั้น แป้งหนึ่งถังจึงขายกันในราคาเพียงหนึ่งเชเขลและข้าวบาร์เลย์สองถังก็ขายเพียงหนึ่งเชเขลเหมือนที่พระยาห์เวห์ได้พูดไว้
17 ขณะนั้นกษัตริย์ได้ตั้งเจ้าหน้าที่คนสนิทของกษัตริย์คนนั้น ให้ไปเฝ้าดูแลความเรียบร้อยที่ประตูเมือง แต่เขาถูกฝูงชนเหยียบย่ำจนตายอยู่ที่ประตูเมือง ตามที่เอลีชาคนของพระเจ้าได้บอกกับเขาไว้ ตอนที่กษัตริย์ลงมาหาเอลีชาที่บ้าน 18 และสิ่งที่เอลีชาคนของพระเจ้าได้บอกกับกษัตริย์ไว้ ก็เกิดขึ้นจริงตามนั้นที่ว่า “พรุ่งนี้ เวลานี้ ที่ประตูเมืองสะมาเรีย แป้งหนึ่งถังจะขายกันในราคาหนึ่งเชเขล และข้าวบาร์เลย์สองถังจะขายกันในราคาหนึ่งเชเขล” 19 เจ้าหน้าที่คนนั้นเคยพูดกับเอลีชา คนของพระเจ้าว่า “ต่อให้ พระยาห์เวห์เปิดช่องสวรรค์ สิ่งนี้ก็ไม่เกิดขึ้นแน่” เอลีชาตอบเขาไปว่า “ท่านจะได้เห็นมันด้วยตาของท่านเอง แต่ท่านจะไม่ได้กินมัน” 20 และมันก็เกิดขึ้นกับเขาจริง เพราะเขาถูกฝูงชนเหยียบย่ำจนตายอยู่ที่ประตูเมืองนั่นเอง
คำเตือนเรื่องครูจอมปลอม
4 พระวิญญาณพูดไว้ชัดเจนว่า ต่อไปในอนาคตจะมีบางคนทิ้งความเชื่อ แล้วหันไปเชื่อถือวิญญาณที่หลอกลวง รวมทั้งคำสอนต่างๆของพวกมารทั้งหลาย 2 และคำหลอกลวงของพวกหน้าซื่อใจคด ใจของพวกเขาชินชากับความผิดเสียแล้ว เหมือนถูกเหล็กร้อนนาบจนตายด้าน 3 พวกเขาสั่งว่าห้ามแต่งงานและห้ามกินอาหารบางชนิด อันที่จริงพระเจ้าได้สร้างอาหารขึ้นมาให้คนที่มีความเชื่อ และคนที่รู้จักความจริง กินกันด้วยความขอบคุณ 4 ทุกอย่างที่พระเจ้าสร้างขึ้นมานั้นดีหมด ถ้ารับมาด้วยการขอบคุณพระเจ้า ก็กินได้หมดทุกอย่าง 5 เพราะถ้อยคำของพระเจ้าและคำอธิษฐานทำให้สิ่งเหล่านั้นบริสุทธิ์แล้วในสายตาพระเจ้า
ผู้รับใช้ที่ดีของพระเยซูคริสต์
6 ถ้าคุณอธิบายเรื่องนี้ให้พี่น้องฟัง คุณก็จะเป็นผู้รับใช้ที่ดีของพระเยซูคริสต์ ซึ่งจะพิสูจน์ให้เห็นว่า คุณได้รับการเลี้ยงดูด้วยถ้อยคำแห่งความเชื่อ และด้วยคำสั่งสอนที่ดีที่คุณได้ทำตามอยู่นั้น 7 อย่าไปเสียเวลากับนิยายปรัมปราไร้สาระที่หญิงแก่ๆพวกนั้นชอบเล่ากัน แต่ให้ฝึกฝนตนเองเพื่อรับใช้พระเจ้า 8 เพราะการฝึกฝนทางร่างกายก็มีประโยชน์อยู่บ้าง แต่การรับใช้พระเจ้ามีประโยชน์ทุกอย่าง ทั้งในชีวิตนี้และชีวิตหน้า 9 นั่นเป็นความจริงที่เชื่อถือได้และคุ้มค่าที่จะรับเอาไว้ 10 ที่เรายอมทำงานหนัก และต่อสู้ดิ้นรนอยู่นี้ เพราะเรามีความหวังในพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่ พระองค์เป็นผู้ช่วยให้รอดของทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เชื่อ
11 ให้สั่งสอนเรื่องเหล่านี้ 12 อย่าให้ใครมาดูถูกคุณ เพราะเห็นว่าคุณเป็นแค่เด็กหนุ่ม แต่ให้คำพูด การกระทำ ความรัก ความเชื่อ และความบริสุทธิ์ของคุณ เป็นแบบอย่างให้กับทุกคนที่เชื่อ 13 ให้เอาใจใส่ทั้งในเรื่องการอ่านพระคัมภีร์ให้คนอื่นฟัง การให้กำลังใจและการสั่งสอนจนกว่าผมจะมา 14 อย่าละเลยที่จะใช้พรสวรรค์ของคุณที่ได้รับมาตอนที่พวกผู้พูดแทนพระเจ้าพูดเกี่ยวกับคุณและตอนที่พวกผู้นำอาวุโสได้วางมือ[a]บนคุณ 15 ให้เอาใจใส่และทุ่มเทในเรื่องเหล่านี้ ทุกคนจะได้เห็นชัดว่า คุณก้าวหน้าไปมากแค่ไหนแล้ว 16 ให้ระมัดระวังชีวิตและคำสอนของคุณให้ดี ยึดเรื่องเหล่านี้ไว้ให้มั่น เพราะถ้าทำอย่างนี้ คุณก็จะช่วยทั้งตัวคุณเองและคนที่ฟังคุณให้รอด
11 ในปีแรกที่ดาริอัสชาวมีเดียขึ้นเป็นกษัตริย์ เราเองได้ยืนอยู่กับมีคาเอลเพื่อสนับสนุนและช่วยเขา ในการต่อสู้กับเจ้าฟ้าแห่งเปอร์เซีย
2 ดาเนียล เราจะบอกความจริงกับเจ้าว่า ยังจะมีกษัตริย์อีกสามองค์ปกครองเปอร์เซีย หลังจากนั้นกษัตริย์องค์ที่สี่ก็จะมา กษัตริย์องค์ที่สี่นี้จะสะสมทรัพย์สมบัติอันมหาศาลนี้ จนทำให้เขาร่ำรวยกว่ากษัตริย์เปอร์เซียองค์อื่นๆ ความมั่งคั่งของเขาจะทำให้เขามีอำนาจมากขึ้น แล้วเขาก็จะระดมพลไปต่อสู้กับอาณาจักรกรีซ 3 แล้วจะมีกษัตริย์ผู้ทรงอำนาจอีกองค์หนึ่งขึ้นมา และจะมาสร้างอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ และกษัตริย์องค์นี้จะทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวเขาเองต้องการ
4 หลังจากที่เขามีอำนาจสูงสุดแล้ว อาณาจักรของเขาก็จะแตกและถูกแบ่งเป็นสี่ส่วน แยกออกไปสี่ทิศทาง แต่อาณาจักรของเขาจะไม่ตกเป็นของลูกหลานของเขาเอง มันจะไม่ใหญ่เหมือนตอนที่เขาปกครอง เพราะอาณาจักรของเขาจะถูกถอนรากถอนโคนและตกไปเป็นของคนอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัวของเขาเอง
5 กษัตริย์ฝ่ายใต้จะแข็งแกร่งขึ้น แต่แม่ทัพคนหนึ่งของเขาจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเขา และแม่ทัพคนนี้จะปกครองอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่กว่า
6 หลังจากนั้นอีกหลายสิบปี ก็จะมีการทำข้อตกลงเป็นพันธมิตรกัน ลูกสาวของกษัตริย์ฝ่ายใต้จะแต่งงานกับกษัตริย์ฝ่ายเหนือ เพื่อเป็นการผูกมัดข้อตกลงนั้น แต่นางจะไม่สามารถรักษาอิทธิพลของนางไว้ได้ และอำนาจของกษัตริย์นั้นก็จะไม่ยั่งยืน นางและคนใช้ที่ติดตามนางมา รวมทั้งลูกและสามีของนาง ก็จะถูกฆ่าทั้งหมด
7 จากนั้นญาติคนหนึ่งของนางจะขึ้นมามีอำนาจและครอบครองอาณาจักรฝ่ายใต้ เขาจะโจมตีกองทัพของกษัตริย์ฝ่ายเหนือ และบุกเข้ายึดป้อมปราการเอาไว้ได้
8 กษัตริย์ฝ่ายใต้จะยึดเอาพวกเทพเจ้า พวกรูปเคารพ และเครื่องใช้ที่มีค่าที่ทำจากทองและเงินของพวกเขา แล้วก็ขนไปที่อียิปต์ และจะไม่สู้รบกับกษัตริย์ฝ่ายเหนือไปอีกหลายปี
9 หลังจากนั้นกษัตริย์ฝ่ายเหนือก็จะบุกเข้าไปในอาณาจักรของกษัตริย์ฝ่ายใต้ แต่เขาจะแพ้และจะกลับไปยังแผ่นดินของเขาเอง
10 แล้วพวกลูกชายของกษัตริย์ฝ่ายเหนือก็จะเข้าทำสงคราม พวกเขาจะระดมกำลังเป็นกองทัพยิ่งใหญ่มหาศาล และพวกเขาก็บุกทำลายล้างเหมือนกับน้ำท่วมหลาก พวกเขาบุกไปไกลถึงป้อมปราการของกษัตริย์ฝ่ายใต้
11 กษัตริย์ฝ่ายใต้จะโกรธ และเดินทัพออกมาต่อสู้กับกษัตริย์ฝ่ายเหนือและกองทัพอันยิ่งใหญ่มหาศาลนั้น กษัตริย์ฝ่ายใต้จะรบชนะกองทัพที่ยิ่งใหญ่นั้น
12 หลังจากที่กองทัพอันยิ่งใหญ่นั้นพ่ายแพ้ไปแล้ว กษัตริย์ฝ่ายใต้ก็ผยองพองตัว และพระองค์จะฆ่าทหารของกษัตริย์ฝ่ายเหนือหลายพันคน แต่พระองค์จะไม่ไล่ตามพวกทหารนั้นไป 13 หลังจากนั้นอีกหลายปี กษัตริย์ฝ่ายเหนือก็จะกลับมาพร้อมกับกองทัพที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม พระองค์จะมีกองทัพที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรมากขึ้นพร้อมกับเสบียงและอาวุธมากมาย
14 ในเวลานั้นเอง คนมากมายจะต่อต้านกษัตริย์ฝ่ายใต้ แม้แต่คนที่ชอบความรุนแรงที่อยู่ในหมู่คนของเจ้า ดาเนียล ก็ยังกล้ากบฏเลย เพื่อทำให้เป็นจริงตามนิมิตนั้น แต่พวกเขาจะพ่ายแพ้
15 กษัตริย์ฝ่ายเหนือจะบุกมา และสร้างเนินดินขึ้นประชิดกำแพงเมือง และยึดเอาเมืองที่มีป้อมปราการแน่นหนาได้เมืองหนึ่ง กองกำลังของฝ่ายใต้จะไม่สามารถต่อต้านพวกนั้นไว้ได้ แม้แต่ทหารที่เก่งกล้าที่สุดก็ยังไม่สามารถต้านทานพวกมันไว้ได้
16 กษัตริย์ฝ่ายเหนือก็จะเข้าโจมตีตามชอบใจ เพราะไม่มีใครสามารถต้านทานเขาไว้ได้ เขาจะยึดเอาแผ่นดินที่สวยงาม[a]ไว้ และเขาก็จะมีอำนาจที่จะทำลายมันได้ 17 กษัตริย์ฝ่ายเหนือตั้งใจว่าจะยกกองทัพทั้งราชอาณาจักรของเขามา แต่เขาจะเซ็นสัญญาสงบศึก และส่วนหนึ่งของสัญญานั้นคือ เขาจะยกสาวคนหนึ่งให้กับกษัตริย์ฝ่ายใต้เป็นเมีย ซึ่งเป็นแผนของเขาที่จะทำลายกษัตริย์ฝ่ายใต้ แต่แผนนี้จะไม่สำเร็จ และจะไม่ช่วยอะไรพระองค์เลย
18 ดังนั้นกษัตริย์ฝ่ายเหนือจะหันเหความสนใจไปที่หมู่เกาะและชายฝั่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแทน แล้วก็จะยึดได้หลายเมือง แต่แม่ทัพคนหนึ่งจะหยุดความหยิ่งผยองของกษัตริย์ฝ่ายเหนือ เขาจะตอบแทนความหยิ่งผยองของกษัตริย์
19 เมื่อเป็นอย่างนี้ กษัตริย์ฝ่ายเหนือก็จะต้องมุ่งหน้ากลับไปที่พวกป้อมปราการในดินแดนของตน แต่พระองค์จะสะดุดล้มลง แล้วจะไม่มีใครพบเห็นพระองค์อีกเลย
20 ต่อมาก็จะมีกษัตริย์อีกองค์หนึ่งขึ้นมาแทนเขา กษัตริย์องค์นี้จะส่งคนไปเก็บภาษี เพื่อทำให้อาณาจักรของพระองค์ร่ำรวยยิ่งขึ้น แต่กษัตริย์องค์นี้ก็จะถูกโค่นไปในไม่ช้า แต่ไม่ใช่ในท่ามกลางการสู้รบที่ดุเดือด
21 คนต่อมาที่มาแทนพระองค์ เป็นคนที่น่ารังเกียจ ไม่มีเชื้อสายของกษัตริย์เลย เขาจะมาตอนที่ไม่มีใครคาดคิด แล้วใช้เล่ห์เหลี่ยมของเขาชิงเอาบัลลังก์ไป 22 เขาจะมีชัยเหนือกองทัพทั้งหลาย รวมทั้งเจ้าฟ้าแห่งข้อตกลง[b]
23 หลังจากที่เขาทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับหลายชนชาติ เขาก็จะหักหลังชนชาติเหล่านั้น เขาจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้จะมีคนน้อยที่อยู่ฝ่ายเขา
24 เขาจะมาอย่างเงียบๆพร้อมกับคนรวยจากจังหวัดหนึ่ง และเขาจะทำในสิ่งที่บรรพบุรุษของเขาไม่เคยทำมาก่อน เขาจะยกทรัพย์สมบัติที่ปล้นมาได้ให้กับคนร่ำรวยเหล่านั้น และเขาก็ยังวางแผนที่จะมีชัยเหนือป้อมปราการต่างๆ แต่ก็เป็นแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น
25 แล้วเขาจะกระตุ้นความกล้าของตัวเอง และเขาก็จะรวบรวมกองทัพใหญ่ไปต่อสู้กับกษัตริย์ฝ่ายใต้ กษัตริย์ฝ่ายใต้ก็จะโต้กลับด้วยกำลังพลที่ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งมหาศาลของเขา แต่กษัตริย์ฝ่ายใต้จะต้องพ่ายแพ้เพราะมีการปองร้ายเขา
26 พรรคพวกของกษัตริย์ฝ่ายใต้ ที่เคยกินอาหารโต๊ะเดียวกับพระองค์ จะพยายามทำลายพระองค์ ส่วนกองทัพของพระองค์ก็จะถูกทำลายย่อยยับ และทหารที่เก่งกล้าจำนวนมากต้องล้มตายเป็นซากศพ
27 กษัตริย์ทั้งสององค์นี้ที่มีแผนชั่วร้ายอยู่ในใจ จะนั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน และต่างคนต่างก็จะพูดโกหกใส่กัน แต่มันจะไม่สำเร็จหรอก เพราะเวลาที่กำหนดไว้นั้นยังไม่มาถึง
28 กษัตริย์ฝ่ายเหนือก็จะกลับไปบ้านเมืองของตน พร้อมกับทรัพย์สมบัติมหาศาล ในระหว่างทางนั้น เขาตั้งใจจะต่อต้านคนของข้อตกลงอันศักดิ์สิทธิ์ และเขาจะทำตามที่ได้ตั้งใจไว้นั้น แล้วถึงค่อยกลับไปแผ่นดินของเขา
29 เมื่อถึงเวลาที่ถูกกำหนดไว้ เขาก็จะไปรุกรานฝ่ายใต้อีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งหลังนี้จะไม่เหมือนครั้งแรก 30 จะมีเรือต่างๆจากชาวโรมัน[c] เข้ามาต่อสู้กับเขาและหยุดเขาไว้ ในตอนขากลับ เขาก็จะระบายความโกรธแค้นใส่คนของข้อตกลงอันศักดิ์สิทธิ์นั้น เขาจะทำตามที่ตั้งใจไว้ แล้วถึงค่อยกลับไปแผ่นดินของเขา และให้รางวัลกับคนพวกนั้นที่ทอดทิ้งข้อตกลงอันศักดิ์สิทธิ์
31 ทหารบางหน่วยของเขาจะยึดวิหารคือป้อมปราการและทำให้วิหารนั้นเสื่อมไป และพวกเขาจะสั่งยกเลิกการถวายเครื่องบูชาประจำวัน และตั้งสิ่งที่น่าขยะแขยงที่ก่อให้เกิดความน่าสะพรึงกลัวขึ้นมาแทน
32 เขาจะประจบสอพลอพวกทำชั่วที่ต่อต้านข้อตกลง เพื่อพวกนี้จะได้สนับสนุนเขา แต่คนที่ยังติดตามพระเจ้าของพวกเขาด้วยความจงรักภักดี จะมีความกล้าและตอบโต้กลับ
33 พวกผู้นำที่ฉลาด ก็จะช่วยให้คนเป็นจำนวนมากเข้าใจ ถึงแม้ว่าจะมีสักระยะหนึ่งที่ครูพวกนั้นอาจจะถูกฆ่าฟันด้วยดาบหรือถูกเผาไฟ หรือถูกจับไปเป็นเชลยและถูกแย่งชิงทรัพย์สินไป
34 เมื่อพวกผู้นำที่ฉลาดเหล่านั้นตกเป็นเหยื่อ พวกเขาจะได้ความช่วยเหลือเพียงเล็กน้อย แต่หลายคนที่มาร่วมกับพวกเขาจะไม่จริงใจ
35 พวกผู้นำที่เฉลียวฉลาดบางคนก็จะสะดุดล้มไป ซึ่งจะทำให้คนในกลุ่มที่เหลือได้รับการชำระล้างให้ขาวสะอาดบริสุทธิ์ จนกว่าจะถึงเวลาของจุดจบนั้น เพราะมันจะมีระยะเวลาหนึ่งก่อนจะถึงเวลาที่ได้กำหนดไว้
36 แล้วกษัตริย์ฝ่ายเหนือก็จะทำตามใจตนเอง เขาจะยกย่องเชิดชูตนเองให้สูงกว่าเทพเจ้าทุกองค์ จนถึงขั้นพูดสิ่งที่น่าขยะแขยงต่างๆต่อพระเจ้าสูงสุด เขาจะประสบความสำเร็จ จนกว่าพระเจ้าจะหายโกรธเกรี้ยวคนของพระองค์ เพราะพระเจ้าจะทำตามสิ่งที่พระองค์ได้ตัดสินใจไว้
37 กษัตริย์ฝ่ายเหนือจะไม่สนใจพวกเทพที่บรรพบุรุษของเขานับถือ เขาไม่สนใจเทพเจ้าที่พวกผู้หญิงหลงใหล เขาจะไม่สนใจไม่ว่าจะเป็นเทพองค์ไหนทั้งนั้น เพราะว่าเขาจะเชิดชูตัวเองไว้สูงกว่าเทพทั้งหมด
38 แทนที่จะเป็นเทพเจ้าพวกนี้ เขาจะยกย่องเทพองค์หนึ่ง ที่บรรพบุรุษของเขาไม่รู้จัก นั่นก็คือเทพเจ้าแห่งป้อมปราการ เขาจะยกย่องเทพองค์นี้ด้วยทองคำ เงิน พลอยที่มีค่า และสิ่งของต่างๆที่มีราคาแพง
39 เขาจะโจมตีพวกป้อมปราการที่แข็งแกร่งที่สุด ด้วยความช่วยเหลือจากเทพเจ้าต่างชาติของเขา[d] และเขาจะให้ความร่ำรวยกับคนที่เขาชอบใจ เขาจะตั้งให้คนเหล่านั้นดูแลคนเป็นจำนวนมาก และแบ่งที่ดินให้เป็นรางวัล
40 พอถึงเวลาของจุดจบนั้น กษัตริย์ฝ่ายใต้ก็จะสู้รบกับกษัตริย์ฝ่ายเหนือ แต่กษัตริย์ฝ่ายเหนือจะจู่โจมอาณาจักรของกษัตริย์ฝ่ายใต้ ด้วยรถรบ ทหารม้า และเรือจำนวนมาก กษัตริย์ฝ่ายเหนือจะบุกเข้าไปในแผ่นดินต่างๆเหมือนน้ำหลากที่กวาดแผ่นดิน
41 หลังจากนั้นกษัตริย์ฝ่ายเหนือก็จะรุกรานแผ่นดินที่สวยงาม และคนจำนวนมากจะล้มตาย คนพวกนี้คือคนเหล่านั้นที่จะรอดพ้นจากเงื้อมมือของเขา คือพวกเอโดม โมอับ และพวกหัวหน้าของชาวอัมโมน
42 จากนั้นกษัตริย์ฝ่ายเหนือก็จะบุกไปยังประเทศอื่นๆแม้แต่ประเทศอียิปต์ก็ไม่สามารถจะรอดพ้นเงื้อมมือของเขาไปได้ 43 เขาจะครอบครองทรัพย์สมบัติทั้งทอง เงิน และสิ่งของที่มีค่าอื่นๆในอียิปต์ ต่อจากนั้น ชาวลิเบียและชาวเอธิโอเปียก็ได้มายอมเชื่อฟังเขา
44 แต่แล้วก็มีข่าวจากทิศตะวันออกและทางทิศเหนือเข้ามารบกวนจิตใจเขา และด้วยความโกรธอย่างยิ่ง เขาก็จะเดินทัพออกไปบดขยี้และฆ่าฟันคนเป็นจำนวนมาก
45 เขาจะตั้งเต็นท์สำหรับกษัตริย์ไว้ระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์อันงดงาม แล้วเขาก็จะพบจุดจบของเขาที่นั่น และจะไม่มีใครมาช่วยเขา
ดาลิธ
25 แต่ตอนนี้ ข้าพเจ้ากำลังจะตาย
โปรดให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไปตามคำสัญญาของพระองค์
26 ข้าพเจ้าได้เล่าเรื่องชีวิตของข้าพเจ้าให้พระองค์ฟังและพระองค์ก็ตอบมา
โปรดสั่งสอนกฎระเบียบต่างๆของพระองค์ให้กับข้าพเจ้าด้วยเถิด
27 ช่วยให้ข้าพเจ้าเข้าใจคำสั่งต่างๆของพระองค์ด้วยเถิด
เพื่อข้าพเจ้าจะได้ใคร่ครวญถึงคำสอนอันน่าทึ่งต่างๆของพระองค์
28 ข้าพเจ้าเศร้าโศกจนหมดเรี่ยวแรงเลย
โปรดยกข้าพเจ้าขึ้น ตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้ด้วยเถิด
29 ขออย่าให้ข้าพเจ้าเป็นคนคดโกง
โปรดเมตตาให้คำสั่งสอนของพระองค์กับข้าพเจ้าด้วยเถิด
30 ข้าพเจ้าเลือกหนทางแห่งความสัตย์ซื่อ
ข้าพเจ้าจดจ่อกับกฎเกณฑ์ต่างๆของพระองค์
31 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้ายึดมั่นในกฎต่างๆของพระองค์
อย่าทำให้ข้าพเจ้าต้องอับอายเลย
32 ข้าพเจ้าวิ่งในทางแห่งบัญญัติต่างๆของพระองค์
เพราะพระองค์ได้ขยายความเข้าใจของข้าพเจ้า
เฮ
33 ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดสอนวิถีทางแห่งกฎระเบียบของพระองค์ให้กับข้าพเจ้า
แล้วข้าพเจ้าจะทำตามนั้นตลอดไป
34 โปรดให้ความเข้าใจกับข้าพเจ้าเพื่อข้าพเจ้าจะได้รักษาคำสั่งสอนของพระองค์
และทำตามอย่างสุดหัวใจ
35 นำข้าพเจ้าไปตามทางแห่งบัญญัติต่างๆของพระองค์
เพราะข้าพเจ้ามีความสุขในทางนั้น
36 โปรดหันใจของข้าพเจ้าไปหากฎต่างๆของพระองค์
ไม่ใช่ความร่ำรวย
37 โปรดหันสายตาของข้าพเจ้าไปจากสิ่งที่ไร้ค่า
โปรดให้ชีวิตใหม่กับข้าพเจ้าในขณะที่เดินในทางของพระองค์
38 โปรดรักษาคำสัญญาที่พระองค์ให้ไว้
กับข้าพเจ้าผู้รับใช้ของพระองค์ เพื่อคนจะได้นับถือพระองค์
39 ช่วยเอาคำเยาะเย้ยที่ข้าพเจ้ากลัวนั้นไปด้วย
เพราะกฎเกณฑ์ต่างๆของพระองค์นั้นดี
40 ข้าพเจ้าอยากจะทำตามคำสั่งต่างๆของพระองค์ยิ่งนัก
โปรดดีกับข้าพเจ้าและให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไปด้วย
วา
41 ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดแสดงความรักมั่นคงของพระองค์ต่อข้าพเจ้าด้วย
ช่วยข้าพเจ้าให้รอดตามที่พระองค์สัญญาด้วยเถิด
42 แล้วข้าพเจ้าจะได้มีคำตอบให้กับคนเหล่านั้นที่เยาะเย้ยข้าพเจ้า
เพราะข้าพเจ้าเชื่อพึ่งในคำสัญญาของพระองค์
43 ขอให้ข้าพเจ้าสามารถพูดความจริงเกี่ยวกับพระองค์เสมอ
เพราะข้าพเจ้าฝากความหวังของข้าพเจ้าไว้กับกฎเกณฑ์ต่างๆของพระองค์
44 ข้าพเจ้าจะเชื่อฟังคำสั่งสอนของพระองค์
ตลอดไปเป็นนิตย์
45 ข้าพเจ้าจะได้อยู่อย่างอิสระ
เพราะข้าพเจ้าพยายามรักษาคำสั่งต่างๆของพระองค์
46 ข้าพเจ้าจะอธิบายกฎต่างๆของพระองค์ให้กับพวกกษัตริย์
และข้าพเจ้าจะไม่อับอายขายหน้า
47 ข้าพเจ้าจะชื่นชมยินดี
ในบัญญัติต่างๆของพระองค์ที่ข้าพเจ้ารักยิ่ง
48 ข้าพเจ้ายำเกรงต่อบัญญัติต่างๆของพระองค์ที่ข้าพเจ้ารักยิ่ง
และข้าพเจ้าจะใคร่ครวญอยู่กับกฎระเบียบต่างๆของพระองค์
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International