Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
2 พงศ์กษัตริย์ 5

นาอามานหายจากโรคผิวหนังร้ายแรง

ในเวลานั้น นาอามานเป็นแม่ทัพของกษัตริย์แห่งอารัม เขาคือผู้ยิ่งใหญ่ในสายตาของเจ้านาย[a] ของเขาและเขาได้รับความนับถืออย่างสูง เพราะพระยาห์เวห์ได้ให้ชัยชนะแก่อารัมผ่านทางเขา เขาเป็นทหารกล้า แต่เขาเป็นโรคผิวหนังร้ายแรง

ขณะนั้นเองมีกองโจรจากอารัมออกไปที่อิสราเอล และจับหญิงสาวคนหนึ่งมาจากที่นั่น และนางได้มารับใช้เมียของนาอามาน นางพูดกับนายหญิงของนางว่า “ถ้านายผู้ชายของข้าพเจ้าได้พบกับผู้พูดแทนพระเจ้าคนนั้นที่อยู่ในสะมาเรีย เขาก็จะช่วยให้นายผู้ชายหายจากโรคนั้นได้”

นาอามานไปพบกษัตริย์เจ้านายของเขา และบอกกับกษัตริย์ในสิ่งที่หญิงสาวจากอิสราเอลคนนั้นพูดไว้ กษัตริย์ของอารัมตอบว่า “ไปเถิด เราจะส่งจดหมายไปถึงกษัตริย์ของอิสราเอลให้”

นาอามานจึงออกเดินทางไปและนำเงินไปด้วยสิบตะลันต์[b] ทองคำหนักหกพันเชเขล[c] และเสื้อผ้าอีกสิบชุด จดหมายที่เขานำไปให้กับกษัตริย์ของอิสราเอลนั้น เขียนว่า “เมื่อท่านได้รับจดหมายฉบับนี้ ขอให้ท่านรู้ไว้ว่า เราได้ส่งนาอามานผู้รับใช้ของเรามาพบท่าน เพื่อว่าท่านจะได้รักษาเขาให้หายจากโรคผิวหนังร้ายแรงของเขา”

ทันทีที่กษัตริย์ของอิสราเอลอ่านจดหมายฉบับนั้น เขาก็ฉีกเสื้อคลุมของเขาและพูดว่า “เราเป็นพระเจ้าหรือยังไง คิดว่าเรามีฤทธิ์เหนือความตายและชีวิตหรือ ทำไมชายคนนี้ถึงได้ส่งคนผู้นี้ที่เป็นโรคผิวหนังร้ายแรงมาให้เรารักษา ดูสิ เขากำลังหาเรื่องกับเราชัดๆ”

เมื่อเอลีชาคนของพระเจ้าได้ยินว่ากษัตริย์ของอิสราเอลได้ฉีกเสื้อคลุมของเขา เขาจึงส่งข้อความนี้มาให้ว่า “ทำไมท่านถึงต้องฉีกเสื้อผ้าของท่านด้วยเล่า ให้ชายคนนั้นมาหาข้าพเจ้าเถิด และเขาจะได้รู้ว่า ในอิสราเอล ยังมีผู้พูดแทนพระเจ้าหลงเหลืออยู่อีกคนหนึ่ง”

นาอามานจึงเดินทางไปพร้อมกับบรรดาทหารม้าและรถรบของเขา และไปหยุดอยู่ที่ประตูบ้านของเอลีชา 10 เอลีชาส่งผู้ส่งข่าวคนหนึ่งออกมาบอกกับเขาว่า “ไปล้างตัวของท่านเจ็ดครั้งในแม่น้ำจอร์แดน และผิวหนังของท่านก็จะกลับคืนสู่สภาพเดิมและท่านก็จะหายจากโรค”

11 แต่นาอามานจากไปด้วยความโกรธและพูดว่า “ข้าคิดว่าอย่างน้อยเขาจะออกมาพบกับข้า และยืนอยู่ต่อหน้าข้า พร้อมกับเรียกชื่อของพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเขา แล้วก็โบกมือของเขาเหนือจุดที่เป็นโรค แล้วรักษาโรคของข้า 12 ถ้ารู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ แม่น้ำอาบานา และแม่น้ำฟารปาร์ของเมืองดามัสกัส ไม่ดีกว่าแม่น้ำทั้งหลายของอิสราเอลหรอกหรือ ทำไมข้าจะไปล้างตัวในแม่น้ำเหล่านั้นแล้วหายจากโรคไม่ได้หรือยังไง” เขาจึงหันกลับออกไปด้วยความโกรธ

13 แต่พวกคนรับใช้ของนาอามานเข้าไปหาเขาและพูดว่า “พ่อของเรา[d] ถ้าผู้พูดแทนพระเจ้าคนนั้นสั่งให้ท่านไปทำสิ่งที่ยากๆท่านก็ยังจะไปทำไม่ใช่หรือ ถ้าอย่างนั้น เมื่อเขาแค่สั่งท่านว่า ‘ไปล้างตัวท่านและหายจากโรค’ ท่านก็ยิ่งน่าจะทำตามนะ”

14 เขาจึงลงไปจุ่มตัวในแม่น้ำจอร์แดนถึงเจ็ดครั้ง ตามที่คนของพระเจ้าได้บอกกับเขาไว้ และผิวหนังของเขาก็กลับคืนเป็นเหมือนกับเด็ก และเขาก็หายจากโรค

15 แล้วนาอามานและคนทั้งหมดของเขาก็ได้กลับไปหาคนของพระเจ้า เขาไปยืนต่อหน้าเอลีชา และพูดว่า “ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าไม่มีพระเจ้าองค์อื่นอีกในโลกนี้นอกจากพระเจ้าของอิสราเอล ได้โปรดยอมรับของขวัญจากข้าผู้รับใช้ท่านด้วยเถิด”

16 แต่เอลีชาผู้พูดแทนพระเจ้าตอบว่า “พระยาห์เวห์ ผู้ที่เรารับใช้ มีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า เราจะไม่ยอมรับอะไรสักอย่างจากท่าน”

และถึงแม้ว่านาอามานจะรบเร้าตื้อให้เขารับของขวัญ เขาก็ไม่ยอมรับอยู่ดี 17 นาอามานจึงพูดว่า “ถ้าท่านไม่ยอมรับของขวัญจากเรา ก็ขอได้โปรดให้เราผู้รับใช้ท่านเอาดินที่นี่กลับไป ขอเอาไปมากที่สุดเท่าที่ล่อทั้งสองตัวนี้ของเราจะแบกไปได้[e] เพราะเราผู้รับใช้ท่านจะไม่ถวายเครื่องเผาบูชาและเครื่องสัตวบูชาให้กับพระอื่นอีกแล้ว นอกจากพระยาห์เวห์เท่านั้น 18 แต่ขอให้พระยาห์เวห์ยกโทษให้กับข้าผู้รับใช้ท่านเรื่องหนึ่ง เมื่อกษัตริย์เจ้านายของข้าเข้าไปในวิหารของพระริมโมนเพื่อนมัสการพระนั้น เขาจะต้องพิงแขนของข้าทำให้ข้าต้องก้มลงด้วย เมื่อข้าก้มลงในวิหารของพระริมโมน ขอให้พระยาห์เวห์ยกโทษให้กับข้าผู้รับใช้ท่าน ที่ทำสิ่งนี้ด้วยเถิด”

19 เอลีชาตอบเขาว่า “ไปเป็นสุขเถิด”

ความโลภของเกหะซี

แต่เมื่อนาอามานเดินทางไปได้สักระยะหนึ่ง 20 เกหะซีคนรับใช้ของเอลีชาที่เป็นคนของพระเจ้า คิดในใจว่า “เจ้านายของเรา ปล่อยให้นาอามานชาวอารัมคนนั้นไปง่ายๆอย่างนี้หรือ โดยไม่ยอมรับสิ่งที่เขาเสนอให้ พระยาห์เวห์มีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า เราจะต้องวิ่งไปขออะไรจากเขาสักอย่าง” 21 เกหะซีจึงตามหลังนาอามานไป

เมื่อนาอามานเห็นคนวิ่งตามหลังเขามา เขาจึงกระโดดลงมาจากรถรบเพื่อมาพบกับเขา และถามว่า “ทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือเปล่า”

22 เกหะซีตอบว่า “ทุกอย่างเรียบร้อยดี เพียงแต่เจ้านายของข้าพเจ้าได้ส่งข้าพเจ้ามาเพื่อบอกว่า ‘มีชายหนุ่มสองคนจากกลุ่มของผู้พูดแทนพระเจ้า[f] เพิ่งมาหาเราจากเทือกเขาเอฟราอิม ขอได้โปรดให้เงินแก่พวกเขาสักหนึ่งตะลันต์[g] และเสื้อผ้าสักสองชุดด้วยเถิด’”

23 นาอามานจึงพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น เอาไปสองตะลันต์[h] เลย” เขารบเร้าให้เกหะซียอมรับเงินเหล่านั้น และเอาเงินสองตะลันต์ใส่ไว้ในถุงสองใบพร้อมกับเสื้อผ้าสองชุด เขาได้ให้มันกับคนรับใช้สองคนของเขาและพวกเขาก็แบกเดินนำหน้าเกหะซีไป 24 เมื่อเกหะซีมาถึงเนินเขาของเมืองที่มีป้อม เขารับเอาของเหล่านั้นมาจากคนรับใช้ทั้งสองคนนั้น และเขาก็ได้ให้ชายสองคนนั้นกลับไป แล้วเขาก็เอาของเหล่านั้นไปเก็บที่บ้าน

25 แล้วเกหะซีก็เข้าไปยืนอยู่ต่อหน้าเอลีชาเจ้านายของเขา เอลีชาได้ถามเขาว่า “เกหะซี เจ้าไปไหนมา”

เกหะซีตอบว่า “ผู้รับใช้ท่านไม่ได้ไปไหนเลย”

26 แต่เอลีชาพูดกับเขาว่า “เจ้าไม่รู้หรือว่า วิญญาณของเราอยู่กับเจ้า ตอนที่ชายคนนั้นลงมาจากรถรบของเขาเพื่อมาพบกับเจ้า นี่ไม่ใช่เวลาที่จะไปรับเงินหรือเสื้อผ้า หรือสวนมะกอก หรือสวนองุ่น หรือฝูงแกะ ฝูงวัวหรือทาสชาย-หญิง 27 โรคผิวหนังร้ายแรงของนาอามานจะติดอยู่กับเจ้าและลูกหลานของเจ้าตลอดไป”

แล้วเกหะซีก็ออกไปจากหน้าเอลีชา และเขาก็เป็นโรคผิวหนังร้ายแรงขาวอย่างหิมะ

1 ทิโมธี 2

คำแนะนำในการอธิษฐานและนมัสการพระเจ้า

เรื่องแรกที่ผมขอให้ทำก็คือ ให้อ้อนวอน อธิษฐาน ขอร้อง และขอบคุณพระเจ้าสำหรับทุกๆคน รวมทั้งกษัตริย์ทั้งหลายและผู้มีอำนาจทุกคน ที่ให้ทำอย่างนี้ก็เพื่อเราจะได้อยู่กันอย่างสงบสุขและมีสันติ มีชีวิตที่ให้เกียรติกับพระเจ้าอย่างเต็มที่ และเป็นที่น่านับถือ การทำอย่างนี้ดีและเป็นที่พอใจพระเจ้าผู้ช่วยให้รอดของเรา พระองค์อยากให้ทุกคนรอดและรู้จักความจริง เพราะมีพระเจ้าเพียงองค์เดียวเท่านั้น และมีคนกลางเพียงคนเดียวระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ คือพระเยซูคริสต์ผู้เป็นมนุษย์ พระองค์ได้สละชีวิตของพระองค์เองเพื่อไถ่ทุกคนให้เป็นอิสระจากการเป็นทาส เรื่องนี้พิสูจน์ให้เห็นถึงความต้องการของพระเจ้าที่จะช่วยทุกคนให้รอดในเวลาที่เหมาะสม นี่เป็นเหตุที่พระเจ้าได้แต่งตั้งผมให้เป็นผู้ประกาศ และเป็นศิษย์เอกของพระเยซู (ผมพูดความจริง ไม่ได้โกหก) นอกจากนี้พระเจ้ายังได้แต่งตั้งให้ผมไปเป็นครูสอนเรื่องความเชื่อและความจริงนี้กับคนที่ไม่ใช่ยิวอีกด้วย

ดังนั้น ผมอยากให้ผู้ชายในทุกที่อธิษฐานด้วยการยกมืออันบริสุทธิ์ขึ้น คือไม่โกรธหรือเถียงกัน

ส่วนผู้หญิงก็เหมือนกัน แต่งตัวให้ดูดี สุภาพเรียบร้อยและถูกกาลเทศะ ไม่ใช่ทำผมซะหรูหรา หรือใส่ทอง ไข่มุก หรือเสื้อผ้าแพงๆ 10 แต่ให้แต่งตัวด้วยความดีจะดีกว่า ให้เหมาะสมกับเป็นผู้หญิงที่นับถือพระเจ้า 11 ผู้หญิงควรจะเรียนอย่างสงบเสงี่ยมและเชื่อฟัง 12 ผมไม่อนุญาตให้ผู้หญิงสั่งสอนหรือใช้อำนาจกดขี่ผู้ชาย แต่ให้พวกเธออยู่อย่างสงบสุข 13 เพราะพระเจ้าสร้างอาดัมก่อน แล้วถึงสร้างเอวา 14 และคนที่ถูกล่อลวงไม่ใช่อาดัม[a] แต่เป็นผู้หญิงที่ถูกล่อลวงแล้วกลายเป็นคนบาป 15 อย่างไรก็ตามผู้หญิงจะรอดได้ด้วยการคลอดลูก ถ้าพวกเขายังรักษาความเชื่อไว้ มีความรัก มีความบริสุทธิ์ และรู้จักควบคุมตนเองอย่างดี

ดาเนียล 9

ดาเนียลอธิษฐาน

ในช่วงปีแรกของดาริอัส (ดาริอัสคนนี้เป็นลูกของเซอร์เซส[a]ผู้สืบเชื้อสายมาจากชาวมีเดียน ดาริอัสได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์ของพวกคาสดิม) ในช่วงปีแรกที่ดาริอัสปกครองนั้น ผม ดาเนียลได้สังเกตในเอกสารต่างๆเกี่ยวกับเรื่องที่พระยาห์เวห์บอกกับเยเรมียาห์ ผู้พูดแทนพระองค์ ที่ว่า “เมืองเยรูซาเล็มจะต้องเป็นซากปรักหักพังอยู่อย่างนั้นไปจนกว่าจะครบเจ็ดสิบปี[b] ถึงจะมีการสร้างขึ้นมาใหม่”

ดังนั้นผมจึงตัดสินใจแสวงหาพระเจ้าองค์เจ้าชีวิตของผม ด้วยการอธิษฐาน ขอความเมตตาจากพระองค์ ในขณะที่ผมอดอาหาร สวมใส่ผ้ากระสอบไว้ทุกข์ และโรยขี้เถ้าบนหัว ผมอธิษฐานกับพระยาห์เวห์ พระเจ้าของผม และสารภาพบาป ผมพูดว่า

“ได้โปรดเถิด องค์เจ้าชีวิตของข้าพเจ้า พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่และน่าเกรงขาม ผู้ที่รักษาข้อตกลงของพระองค์ และแสดงความรักที่ซื่อสัตย์ของพระองค์ กับคนที่รักพระองค์ ซึ่งก็คือคนที่ทำตามคำสั่งของพระองค์

พวกเราทำบาป ทำผิด และทำสิ่งที่ชั่วร้าย เราได้กบฏและเบือนหน้าหนีจากคำสั่งและกฎเกณฑ์ของพระองค์ เราไม่ยอมฟังพวกผู้รับใช้ของพระองค์ พวกผู้พูดแทนพระเจ้า ที่มาพูดตามคำสั่งของพระองค์ ที่พระองค์สั่งให้มาพูดกับกษัตริย์ของเรา พวกผู้นำ พวกพ่อของเรา และทุกคนในประเทศ

องค์เจ้าชีวิตเจ้าข้า พระองค์ทำถูกต้องแล้ว แต่เรานำความอับอายขายหน้ามาสู่พวกเราเองจนถึงทุกวันนี้ คือมาสู่คนยูดาห์ พลเมืองของเยรูซาเล็ม และชาวอิสราเอลทุกคน ทั้งใกล้และไกล มาสู่คนในทุกประเทศที่พระองค์ทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปนั้น หลังจากที่พวกเขาทรยศต่อพระองค์

ใช่แล้วพระยาห์เวห์ เราได้นำความอับอายมาสู่พวกเราเอง ทั้งพวกเรา พวกกษัตริย์ พวกผู้นำ และพวกพ่อของเรา เพราะพวกเราทุกคนได้ทำบาปต่อพระองค์

แต่องค์เจ้าชีวิตพระเจ้าของเรามีความเมตตาและให้อภัยพวกเราที่ได้กบฏต่อพระองค์ 10 เราไม่เชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา นั่นคือเราไม่ได้ใช้ชีวิตตามคำสอนของพระองค์ ที่พระองค์ให้กับเรา ผ่านมาทางพวกผู้รับใช้ของพระองค์ คือพวกผู้พูดแทนพระเจ้านั่นเอง 11 คนอิสราเอลทุกคนละเมิดคำสั่งสอนของพระองค์ และทำผิดที่ไม่ฟังพระองค์ ดังนั้นคำสาปแช่งและคำปฏิญาณ[c] ที่เขียนไว้ในกฎของโมเสส ผู้รับใช้ของพระเจ้า ได้ตกอยู่บนเรา เพราะเราได้ทำบาปต่อพระองค์

12 พระองค์ก็เลยทำตามที่พระองค์ขู่ไว้ว่า จะให้เกิดขึ้นกับพวกเรา และกับพวกผู้นำของเรา พระองค์นำความหายนะครั้งใหญ่มาใส่เรา ความหายนะที่เกิดขึ้นกับเยรูซาเล็มนั้นร้ายแรงมาก ไม่เหมือนกับความหายนะอันไหนเลยที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนทั่วใต้ฟ้านี้ 13 ความทุกข์ยากที่ได้เขียนไว้ในกฎของโมเสส ก็ได้เกิดขึ้นกับเรา เหมือนกับที่ได้เขียนไว้ในกฎทุกอย่าง แต่พวกเราก็ไม่ได้พยายามที่จะทำให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราพอใจ ด้วยการหันจากการทำชั่วของเรา และเรียนรู้จากความซื่อสัตย์ของพระองค์

14 พระยาห์เวห์ได้เตรียมความหายนะนี้สำหรับเวลาที่เหมาะสม แล้วพระองค์ก็ให้มันตกลงมาบนเรา ทุกอย่างที่พระยาห์เวห์พระเจ้าได้ทำไปนั้นยุติธรรมแล้ว แต่เราไม่ยอมเชื่อฟังพระองค์

15 และบัดนี้ ข้าแต่องค์เจ้าชีวิต พระเจ้าของเรา พระองค์เป็นผู้ที่นำคนของพระองค์ออกจากอียิปต์

ด้วยมืออันทรงพลังของพระองค์ ด้วยพลังอำนาจที่พระองค์ได้แสดงให้เห็นนั้น ทำให้พระองค์มีชื่อเสียงดังกระฉ่อนไปทั่วจนถึงทุกวันนี้ เราได้ทำบาปและทำสิ่งที่ชั่วร้าย 16 องค์เจ้าชีวิตของข้าพระองค์ เพื่อเห็นแก่ความเมตตาปรานี ขอได้โปรดเลิกโกรธเยรูซาเล็มเมืองของพระองค์ ภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ด้วยเถิด เพราะความเลวทรามของบรรพบุรุษของเราและความบาปของพวกเรานี่เองที่ทำให้ชนชาติอื่นๆทั้งหมดที่อยู่รอบข้างเกลียดชังเยรูซาเล็มและคนของพระองค์

17 บัดนี้ พระเจ้าของพวกเราได้โปรดฟังคำอธิษฐานของผู้รับใช้ของพระองค์ และคำอ้อนวอนขอความเมตตาของเขาด้วยเถิด ขอให้ใบหน้าของพระองค์ส่องสว่างลงมาบนวิหารที่ปรักหักพังนี้ด้วย เพื่อเห็นแก่พระองค์เอง 18 พระเจ้าของข้าพระองค์ โปรดเงี่ยหูฟัง โปรดเปิดตาดู ซากปรักหักพังของเมืองที่ผู้คนรู้ว่าเป็นของพระองค์ ที่เราขอความเมตตาต่อพระองค์นี้ ไม่ใช่เพราะเราดีและสมควรจะได้รับ แต่เพราะพระองค์มีความเมตตาสงสารต่างหาก 19 องค์เจ้าชีวิตของผม ได้โปรดฟังด้วย องค์เจ้าชีวิตของข้าพเจ้า ได้โปรดยกโทษให้ด้วย องค์เจ้าชีวิตของข้าพเจ้า ได้โปรดสนใจด้วย พระเจ้าของข้าพเจ้า โปรดทำตามที่ขอด้วย เพื่อเห็นแก่พระองค์เอง และโปรดอย่ารอช้าเลย ได้โปรดทำสิ่งนี้ เพราะผู้คนรู้ว่าทั้งคนพวกนี้และเมืองนี้เป็นของพระองค์”

นิมิตเรื่องเจ็ดสิบอาทิตย์

20 ในขณะที่ผมกำลังพูด อธิษฐาน และสารภาพความผิดบาปของผมเองและของชาวอิสราเอลคนของผมนั้น ขณะที่กำลังวิงวอนขอความเมตตาต่อหน้าพระยาห์เวห์ พระเจ้าของผม ให้กับภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์นั้น 21 ในขณะที่ผมกำลังร้องอธิษฐานนั้นเอง กาเบรียล ผู้ชายคนที่ผมเห็นในนิมิตของผมก่อนหน้านี้ ก็ลอยมาหาผม ในช่วงการถวายเครื่องบูชาตอนเย็น 22 เขามาพูดกับผม เพื่อช่วยให้ผมเข้าใจ เขาพูดว่า “ดาเนียล เราได้มาที่นี่เดี๋ยวนี้ เพื่อช่วยให้เจ้าเข้าใจ 23 ในตอนที่เจ้าเริ่มอธิษฐานขอความเมตตานั้น พระเจ้าให้คำตอบ และเราก็ได้มาบอกมัน เพราะพระเจ้ารักเจ้ามาก ดังนั้นตั้งใจฟังคำตอบให้ดี และให้เข้าใจนิมิตนั้น

24 พระเจ้าให้เวลากับคนของเจ้าและเมืองศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าเจ็ดสิบอาทิตย์[d] เจ็ดสิบอาทิตย์นี้มีไว้เพื่อให้พวกเจ้าหยุดการกบฏ ทำให้บาปนั้นสิ้นสุดลง ชำระความผิดบาปของพวกเจ้า และนำความยุติธรรมอันถาวรกลับมา ทำให้คนเห็นว่านิมิตที่ผู้พูดแทนพระเจ้ามาบอกนั้นเป็นจริง และเพื่อจะเจิมสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด

25 ดาเนียล ให้รู้และเข้าใจไว้ด้วยว่า นับตั้งแต่เวลาที่ได้ออกคำสั่ง ให้ฟื้นฟูและสร้างเยรูซาเล็มขึ้นมาใหม่ ไปจนถึงเวลาที่ผู้นำที่ถูกเจิมไว้มานั้น มีเจ็ดอาทิตย์ แล้วเวลาที่ใช้สร้างเยรูซาเล็มขึ้นมาใหม่ รวมทั้งในลานกลางเมือง พร้อมกับคูป้องกันเมือง จะใช้เวลาหกสิบสองอาทิตย์ ในช่วงนี้จะเต็มไปด้วยปัญหามากมาย 26 และผู้นำที่ถูกเจิมไว้ก็จะถูกกำจัดไปและผู้นำคนนั้นจะไม่มีอำนาจเหนือเมืองและวิหารอีกต่อไป คนที่ติดตามผู้นำคนใหม่ในอนาคตก็จะทำตัวเลวร้าย จุดจบของผู้นำคนใหม่นั้นจะมาเหมือนกับน้ำท่วมทะลัก

พระเจ้าได้ออกคำสั่งให้เกิดการทำลายมากมายจนกว่าสงครามจะสิ้นสุดลง

27 ผู้นำคนใหม่นั้นจะทำสนธิสัญญาที่เข็มแข็งกับคนจำนวนมาก และในกลางอาทิตย์นั้น การถวายเครื่องบูชาและเซ่นไหว้จะถูกหยุดไป และจะมีสิ่งที่น่าขยะแขยงมาแทนที่ จนถึงจุดจบที่พระเจ้าสั่งให้มาท่วมท้นผู้ทำลายคนนั้น”

สดุดี 117-118

สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด

ชนชาติทั้งหลายเอ๋ย สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
    ประชาชาติทั้งหลายเอ๋ย ถวายเกียรติแด่พระองค์เถิด
เพราะความรักมั่นคงที่พระองค์มีต่อพวกเรานั้นยิ่งใหญ่
    และความสัตย์ซื่อของพระยาห์เวห์นั้นจะคงอยู่ตลอดไป

สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด

ขอบคุณพระยาห์เวห์สำหรับชัยชนะ

ให้ขอบคุณพระยาห์เวห์ เพราะพระองค์ดี
    ความรักมั่นคงของพระองค์จะคงอยู่ตลอดไป

ให้ชนชาติอิสราเอล พูดว่า
    “ความรักมั่นคงของพระองค์จะคงอยู่ตลอดไป”
ให้ครอบครัวของอาโรน พูดว่า
    “ความรักมั่นคงของพระองค์จะคงอยู่ตลอดไป”
ให้พวกผู้ที่ยำเกรงพระยาห์เวห์ พูดว่า
    “ความรักมั่นคงของพระองค์จะคงอยู่ตลอดไป”

ตอนที่ข้าพเจ้าจนตรอก ข้าพเจ้าร้องเรียกพระยาห์เวห์
    แล้วพระองค์ตอบและช่วยให้ข้าพเจ้าหลุดพ้นออกมา
พระยาห์เวห์อยู่ฝ่ายข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงไม่หวาดกลัว
    มนุษย์จะทำอะไรข้าพเจ้าได้
พระยาห์เวห์อยู่ฝ่ายข้าพเจ้า เป็นผู้ช่วยเหลือข้าพเจ้า
    และข้าพเจ้าจะเห็นคนที่เกลียดชังข้าพเจ้าพ่ายแพ้
ลี้ภัยในพระยาห์เวห์
    ย่อมดีกว่าพึ่งพาในมนุษย์
ลี้ภัยในพระยาห์เวห์
    ย่อมดีกว่าพึ่งพาในพวกผู้นำที่ยิ่งใหญ่

10 ชนชาติทั้งหมดเคยล้อมข้าพเจ้าไว้
    แต่ด้วยฤทธิ์อำนาจของพระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าได้ขับไล่พวกมันไปหมด
11 ถูกแล้ว พวกนั้นเคยล้อมข้าพเจ้าไว้ทุกด้าน
    แต่ด้วยฤทธิ์อำนาจของพระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าขับไล่พวกมันไปหมด
12 พวกศัตรูล้อมรอบข้าพเจ้าไว้เหมือนกับฝูงผึ้ง
    แต่แล้ว พวกมันก็มอดดับไปอย่างรวดเร็วเหมือนกับไฟไหม้พงหนาม
    ด้วยฤทธิ์อำนาจของพระยาห์เวห์ข้าพเจ้าขับไล่พวกมันไปหมด
13 พวกมันพยายามอย่างหนักที่จะทำลายข้าพเจ้า
    แต่พระยาห์เวห์ช่วยข้าพเจ้าไว้
14 พระองค์เป็นพละกำลังและเป็นที่คุ้มภัยของข้าพเจ้า
    พระองค์มาเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้า

15 เสียงโห่ร้องชื่นชมยินดีและเสียงเพลงแห่งชัยชนะดังอยู่ในเต็นท์ของพวกผู้ที่ทำตามใจพระเจ้า
    มือขวาของพระยาห์เวห์ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกร
16 มือขวาของพระยาห์เวห์นำชัยชนะมาให้
    มือขวาของพระยาห์เวห์ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกร
17 ข้าพเจ้าจะไม่ตายแต่จะอยู่ต่อไป
    แล้วข้าพเจ้าจะเล่าถึงสิ่งต่างๆที่พระยาห์เวห์ทำ
18 พระยาห์เวห์ลงโทษข้าพเจ้าอย่างหนัก
    แต่ไม่ถึงตาย
19 เปิดประตูสำหรับผู้ที่ทำตามใจพระเจ้า[a] ให้กับข้าพเจ้าด้วย
    เพื่อข้าพเจ้าจะได้เข้าไปและขอบคุณพระยาห์เวห์

20 นี่คือประตูของพระยาห์เวห์
    เฉพาะพวกคนที่ทำตามใจพระเจ้าเท่านั้นถึงจะผ่านเข้าไปได้

21 ข้าแต่พระยาห์เวห์ข้าพเจ้าขอบคุณพระองค์
    เพราะพระองค์ตอบข้าพเจ้าและช่วยกู้ข้าพเจ้า
22 ก้อนหินที่พวกผู้ก่อสร้างโยนทิ้งไป
    ตอนนี้กลายเป็นหินหัวมุมไปเสียแล้ว
23 พระยาห์เวห์ทำให้มันเป็นอย่างนั้น
    และเป็นเรื่องน่าทึ่งในสายตาเรา
24 พระยาห์เวห์ได้ทำให้วันนี้เกิดขึ้น
    ให้พวกเราชื่นชมยินดีและมีความสุขในวันนี้เถิด
25 ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดช่วยเราให้รอดด้วย
    ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดให้เราประสบความสำเร็จด้วยเถิด

26 ขอให้คนที่มาในนามของพระยาห์เวห์ ได้รับการอวยพร
    พวกเราอวยพรให้กับพวกท่านจากวิหารของพระยาห์เวห์
27 พระยาห์เวห์คือพระเจ้า พระองค์ได้ส่องใบหน้าของพระองค์ลงมาบนพวกเรา
    ดังนั้น ให้มัดลูกแกะที่เป็นเครื่องบูชาและนำมาถวายที่แท่น

28 พระองค์คือพระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะขอบคุณพระองค์
    ข้าแต่พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะยกย่องเชิดชูพระองค์

29 ให้ขอบคุณพระยาห์เวห์ เพราะพระองค์ดี
    ความรักมั่นคงของพระองค์จะคงอยู่ตลอดไป

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International