Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
2 พงศ์กษัตริย์ 8

กษัตริย์กับผู้หญิงชาวชูเนม

ในเวลานั้นเอลีชาพูดกับหญิงชาวชูเนมที่เขาได้ทำให้ลูกชายของนางฟื้นคืนชีพขึ้นมา[a] ว่า “ให้ท่านกับครอบครัวของท่านย้ายไปอยู่ที่อื่นที่ท่านจะสามารถเลี้ยงชีพอยู่ได้ เพราะพระยาห์เวห์ได้สั่งให้เกิดความอดอยากขึ้นในแผ่นดินนี้ มันจะยาวนานถึงเจ็ดปี”

หญิงคนนั้นทำตามที่คนของพระเจ้าบอก นางและครอบครัวของนางได้ย้ายออกจากเมืองและไปอยู่ในดินแดนของชาวฟีลิสเตียเป็นเวลาเจ็ดปี และเมื่อครบเจ็ดปี นางก็กลับมาจากดินแดนของชาวฟีลิสเตีย

และนางได้ไปพบกับกษัตริย์เพื่อขอบ้านและที่ดินของนางคืน

กษัตริย์กำลังคุยอยู่กับเกหะซีคนรับใช้ของคนของพระเจ้าว่า “ช่วยเล่าให้เราฟังหน่อย ถึงเรื่องยิ่งใหญ่ต่างๆที่เอลีชาเคยทำไป”

ในขณะที่เกหะซีกำลังเล่าให้กษัตริย์ฟังว่า เอลีชาทำให้คนที่ตายไปแล้วฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้อย่างไร หญิงคนที่เอลีชาได้ทำให้ลูกชายของนางฟื้นขึ้น ก็ได้เข้ามาหากษัตริย์ นางมาขอบ้านและที่ดินของนางคืนจากกษัตริย์ เกหะซีพูดว่า “กษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้า หญิงคนนี้แหละ ที่เอลีชาได้ทำให้ลูกชายของนางฟื้นขึ้นมา”

กษัตริย์ถามหญิงคนนั้นว่านางต้องการอะไร และนางได้บอกกับเขาไป

กษัตริย์จึงมอบหมายเรื่องของนางให้เจ้าหน้าที่คนหนึ่งจัดการ กษัตริย์สั่งเขาว่า “คืนทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเป็นของนางให้กับนาง รวมทั้งรายได้จากที่ดินของนางนับตั้งแต่วันที่นางออกจากประเทศนี้ไปจนถึงวันนี้”

เบนฮาดัดถูกฆ่าตาย

เอลีชาไปที่เมืองดามัสกัส ตอนที่กษัตริย์เบนฮาดัดของชาวอารัมกำลังไม่สบาย เมื่อมีคนมาบอกกษัตริย์ว่า “คนของพระเจ้ามาถึงที่นี่แล้ว”

กษัตริย์จึงพูดกับฮาซาเอลว่า “ให้ท่านนำของขวัญไปพบกับคนของพระเจ้าคนนั้น และให้เขาถามพระยาห์เวห์ว่า เราจะหายป่วยในครั้งนี้หรือไม่”

ฮาซาเอลไปพบเอลีชา และเอาของขวัญที่ดีที่สุดหลายอย่างในดามัสกัส บรรทุกเต็มหลังอูฐสี่สิบตัว เขาได้เข้าไปยืนอยู่ต่อหน้าเอลีชาและพูดว่า “กษัตริย์เบนฮาดัดของอารัมลูกชายของท่านส่งเรามาถามท่านว่า ‘เราจะหายป่วยหรือไม่’”

10 เอลีชาตอบว่า “ให้ไปบอกเขาว่า ‘ท่านจะหายป่วยแน่’ แต่พระยาห์เวห์ได้เปิดเผยให้เรารู้ว่าจริงๆแล้วเขาจะตาย”

11 เอลีชาจ้องมองฮาซาเอลด้วยสายตาเขม็งไม่ขยับเขยื้อนอยู่นานจนกระทั่งฮาซาเอลเริ่มรู้สึกอึดอัด แล้วคนของพระเจ้าก็เริ่มร้องไห้ออกมา 12 ฮาซาเอลถามเขาว่า “เจ้านายของเราร้องไห้ทำไม” เขาตอบว่า “ก็เพราะเรารู้ว่าท่านจะเป็นอันตรายกับชาวอิสราเอลทั้งหลายอย่างไรบ้างนะสิ ท่านจะเผาป้อมปราการทุกแห่ง ท่านจะฆ่าคนหนุ่มของพวกเขาด้วยดาบ ท่านจะฟาดเด็กเล็กลงบนพื้นเป็นชิ้นๆและจะแหวกท้องหญิงที่มีครรภ์”

13 ฮาซาเอลพูดว่า “ผู้รับใช้ของท่านที่เป็นเพียงหมาตัวหนึ่งจะทำร้ายพวกท่านถึงขนาดนั้นได้อย่างไรกัน”

เอลีชาตอบไปว่า “พระยาห์เวห์ได้แสดงให้เราเห็นว่าท่านจะได้เป็นกษัตริย์ของชาวอารัม”

14 แล้วฮาซาเอลก็จากเอลีชาและกลับไปหาเจ้านายของเขา เมื่อเบนฮาดัดถามเขาว่า “เอลีชาได้พูดอะไรกับเจ้าบ้าง”

ฮาซาเอลตอบเขาไปว่า “เขาบอกกับข้าพเจ้าว่าท่านจะหายป่วยอย่างแน่นอน”

15 แต่ในวันต่อมา ฮาซาเอลเอาผ้าหนาๆชุบน้ำจนเปียกชุ่มและเอามันโปะไว้บนหน้าของกษัตริย์จนกระทั่งเขาขาดใจตาย แล้วฮาซาเอลก็ขึ้นเป็นกษัตริย์ต่อจากเบนฮาดัด

เยโฮรัมปกครองยูดาห์

(2 พศด. 21:1-20)

16 เยโฮรัมลูกชายของเยโฮชาฟัทขึ้นเป็นกษัตริย์ของยูดาห์ ตรงกับปีที่ห้าที่โยรัมเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล โยรัมเป็นลูกชายของอาหับ[b] 17 ตอนที่เยโฮรัมขึ้นเป็นกษัตริย์นั้น เขามีอายุสามสิบสองปี และเขาครองราชย์อยู่แปดปีในเมืองเยรูซาเล็ม 18 เยโฮรัมเดินตามรอยของกษัตริย์อิสราเอลองค์ก่อนๆ เขาใช้ชีวิตเหมือนกับที่ครอบครัวของอาหับเคยทำไว้ เพราะเขาแต่งงานกับลูกสาวของอาหับ เขาได้ทำชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ 19 อย่างไรก็ตาม เพราะพระยาห์เวห์เห็นแก่ดาวิดผู้รับใช้พระองค์ พระองค์จึงไม่ทำลายยูดาห์ พระองค์เคยสัญญาว่าจะรักษาตะเกียงไว้ดวงหนึ่งสำหรับดาวิดและลูกหลานของเขาตลอดไป

20 ในยุคของเยโฮรัม ชาวเอโดมได้กบฏต่อยูดาห์และตั้งกษัตริย์ของตัวเองขึ้น

21 เยโฮรัม[c] กับกองทัพรถรบของเขาจึงยกไปที่ศาอีร์ ชาวเอโดมเข้าล้อมเขาและล้อมพวกผู้บังคับบัญชารถรบทั้งหลายของเขาไว้ แต่เขาลุกขึ้นและตีฝ่าออกมาได้ในตอนกลางคืน แต่กองทัพของเขาหนีกลับบ้านไป 22 พวกเอโดมจึงได้กบฏ และแยกตัวออกจากยูดาห์จนถึงทุกวันนี้

และในช่วงเดียวกันนั้น พวกลิบนาห์ก็ได้กบฏ แยกตัวออกจากยูดาห์ด้วย

23 เหตุการณ์ต่างๆในยุคสมัยของเยโฮรัม และทุกๆอย่างที่เขาได้ทำไป ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งยูดาห์

24 เยโฮรัมล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขาและถูกฝังอยู่กับพวกเขาในเมืองของดาวิด และอาหัสยาห์ลูกชายของเขาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา

อาหัสยาห์ปกครองยูดาห์

(2 พศด. 22:1-6)

25 อาหัสยาห์ ลูกชายของเยโฮรัมขึ้นเป็นกษัตริย์ของยูดาห์ ตรงกับปีที่สิบสองที่โยรัมเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล โยรัมเป็นลูกชายของอาหับ 26 ตอนที่อาหัสยาห์ขึ้นเป็นกษัตริย์นั้น เขามีอายุยี่สิบสองปี และเขาครองราชย์อยู่หนึ่งปีในเมืองเยรูซาเล็ม แม่ของเขาชื่อว่านางอาธาลิยาห์ เป็นหลานสาวของกษัตริย์อมรีแห่งอิสราเอล 27 อาหัสยาห์เดินตามรอยของครอบครัวอาหับ และได้ทำชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ เหมือนกับที่ครอบครัวของอาหับเคยทำไว้ เพราะเขาได้แต่งงานกับครอบครัวของอาหับ

28 อาหัสยาห์ร่วมกับโยรัม ลูกชายของอาหับ ออกไปสู้รบกับกษัตริย์ฮาซาเอลของชาวอารัม ที่ราโมท-กิเลอาด ชาวอารัมทำให้โยรัมได้รับบาดเจ็บ 29 กษัตริย์โยรัมจึงกลับไปที่ยิสเรเอล เพื่อรักษาบาดแผลที่ชาวอารัมได้ทำร้ายเขาไว้ที่ราโมท-กิเลอาดตอนที่เขาสู้รบกับกษัตริย์ฮาซาเอลของชาวอารัม อาหัสยาห์กษัตริย์ของยูดาห์ ลูกชายของเยโฮรัมได้ไปที่ยิสเรเอลเพื่อเยี่ยมเยียนกษัตริย์โยรัมลูกชายของอาหับที่บาดเจ็บอยู่

1 ทิโมธี 5

กฎการอยู่ร่วมกัน

อย่าด่าว่าคนที่สูงอายุ แต่ให้เตือนเหมือนคนๆนั้นเป็นพ่อ ส่วนพวกหนุ่มๆก็ให้เตือนเหมือนพวกเขาเป็นพี่น้อง ส่วนหญิงสูงอายุก็ให้เตือนเหมือนเธอเป็นแม่ ส่วนสาวๆ ก็ให้เตือนเหมือนพวกเธอเป็นพี่น้อง ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง ให้เกียรติพวกแม่ม่ายที่ไม่มีญาติพี่น้อง แต่ถ้าแม่ม่ายคนไหนมีลูกหรือหลาน ให้ลูกหลานพวกนั้นเรียนรู้ที่จะทำตามศาสนาคือ ให้ดูแลครอบครัวของพวกเขา ซึ่งเป็นการตอบแทนบุญคุณผู้ที่เลี้ยงดูเขามา เพราะพระเจ้าชอบให้ทำอย่างนี้ ส่วนแม่ม่ายที่ถูกทอดทิ้งให้อยู่คนเดียว เขาฝากความหวังไว้กับพระเจ้าและอธิษฐานอ้อนวอนทั้งวันทั้งคืน แต่แม่ม่ายที่ปล่อยตัวปล่อยใจก็ถือว่าตายทั้งเป็นแล้ว ให้สั่งเรื่องเหล่านี้ด้วย จะได้ไม่มีใครโดนตำหนิ แต่ถ้ามีใครไม่ยอมเลี้ยงดูญาติพี่น้องโดยเฉพาะครอบครัวของตัวเอง เขาก็ได้ทิ้งความเชื่อแล้ว และแย่ยิ่งกว่าคนที่ไม่เชื่อเสียอีก

ส่วนแม่ม่ายที่จะขึ้นทะเบียนแม่ม่ายที่หมู่ประชุมสนับสนุนได้นั้น จะต้องมีอายุไม่น้อยกว่าหกสิบปี มีสามีเพียงคนเดียว 10 ต้องมีชื่อเสียงดีในหลายด้าน เช่น เคยเลี้ยงดูลูกๆ เคยต้อนรับแขกแปลกหน้า เคยล้างเท้าให้กับคนเหล่านั้นที่เป็นของพระเจ้า เคยช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก และทุ่มเทในการทำความดีทุกอย่าง

11 แต่อย่าให้แม่ม่ายที่ยังสาวๆอยู่ ขึ้นทะเบียนแม่ม่ายเลย เพราะเมื่อพวกเธอได้อุทิศตัวให้กับพระคริสต์แล้ว แต่เกิดราคะตัณหาขึ้นมาอยากจะแต่งงานใหม่อีก 12 ก็จะถูกประณามได้ว่าผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับพระเจ้าตั้งแต่แรก 13 นอกจากนั้น ยังจะทำให้พวกเธอเป็นคนขี้เกียจสันหลังยาว เที่ยวไปบ้านโน้นบ้านนี้ ไม่ใช่แต่จะขี้เกียจเท่านั้น แต่ยังชอบนินทา ยุ่งเรื่องของชาวบ้านอีกด้วย และชอบพูดในเรื่องที่ไม่ควรพูด 14 ดังนั้น ผมจึงอยากให้แม่ม่ายที่ยังสาวนั้นแต่งงานใหม่และมีลูกเสีย และดูแลบ้านเรือนของพวกเธอเพื่อไม่ให้คนที่ต่อต้านเราตำหนิได้ 15 ที่ผมพูดอย่างนี้เพราะมีแม่ม่ายบางคนได้หันตามซาตานไปแล้ว

16 ถ้าผู้หญิงคนไหนที่เป็นผู้เชื่อ และมีญาติพี่น้องเป็นแม่ม่าย ก็ขอให้เขาช่วยเหลือญาติพวกนั้นด้วย จะได้ไม่เป็นภาระให้กับหมู่ประชุมของพระเจ้า เพื่อหมู่ประชุมนั้นจะได้ไปช่วยเหลือแม่ม่ายที่ต้องการความช่วยเหลือจริงๆ

17 ผู้นำอาวุโสที่เป็นผู้นำที่ดีนั้น สมควรจะได้รับเกียรติเป็นสองเท่า โดยเฉพาะคนที่ทุ่มเทให้กับการเทศนาและสั่งสอน 18 เพราะมีข้อพระคัมภีร์พูดไว้ว่า “อย่าเอาตะกร้อครอบปากวัว ขณะที่มันกำลังนวดข้าว”[a] และ “คนงานก็สมควรจะได้รับค่าจ้างของตน”[b]

19 ถ้ามีใครมากล่าวหาผู้นำอาวุโสก็อย่าเพิ่งเชื่อ นอกจากจะมีพยานสองสามคนยืนยัน 20 ถ้าผู้นำอาวุโสนั้นยังคงทำบาปต่อไป ให้ประณามเขาต่อหน้าคนทั้งหมู่ประชุมของพระเจ้า เพื่อคนอื่นๆจะได้กลัว 21 ผมขอสั่งอย่างเด็ดขาดต่อหน้าพระเจ้า พระเยซูคริสต์และพวกทูตสวรรค์ที่พระองค์ได้เลือกไว้ว่า คุณจะต้องรักษาและทำตามสิ่งเหล่านี้โดยไม่เลือกที่รักมักที่ชังและไม่เล่นพรรคเล่นพวก

22 ไม่ต้องรีบร้อนวางมือบนใครเพื่อจะแต่งตั้งเขาในการทำงานขององค์เจ้าชีวิต อย่ามีส่วนร่วมในบาปของคนอื่น หมั่นรักษาตนเองให้บริสุทธิ์อยู่เสมอ

23 อย่าดื่มแต่น้ำเปล่าอย่างเดียว แต่ให้ดื่มเหล้าองุ่นบ้างเล็กน้อย เพื่อประโยชน์ในการย่อยอาหารและอาการเจ็บป่วยที่คุณเป็นอยู่บ่อยๆ

24 บาปของบางคนก็เห็นชัดเจน ใครๆก็รู้ว่าเขาจะต้องถูกตัดสินลงโทษ แต่บาปของบางคนจะเห็นได้ทีหลัง 25 ก็เหมือนกับความดีของบางคนก็เห็นชัดเจนทันที แต่ความดีที่ยังไม่เห็นก็จะไม่ถูกซ่อนไว้ตลอดไป

ดาเนียล 12

12 ในเวลานั้นเอง เจ้าชายมีคาเอลผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ที่เฝ้ารักษาประชาชนของเจ้าก็จะยืนขึ้น แล้วก็จะถึงเวลาแห่งความทุกข์ยากลำบาก ชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตั้งแต่คนพวกนี้เป็นชนชาติขึ้นมาจนถึงเวลานั้น แต่ ดาเนียล ในเวลานั้นคนของเจ้าทุกคน ที่มีชื่อเขียนอยู่ในหนังสือแห่งชีวิตก็จะรอดชีวิต

และคนเป็นจำนวนมากที่ถูกฝังอยู่ในดินก็จะฟื้นขึ้นมา บางคนฟื้นขึ้นมาสู่ชีวิตนิรันดร์ และบางคนฟื้นขึ้นมาสู่ความอับอายและถูกปฏิเสธตลอดนิรันดร์

พวกผู้นำที่เฉลียวฉลาด จะส่องสว่างจ้าเหมือนกับท้องฟ้าที่สว่างไสว คนพวกนี้ที่ได้นำคนจำนวนมากมาใช้ชีวิตอย่างที่พระเจ้าพอใจ ก็จะส่องสว่างเหมือนหมู่ดาวตลอดชั่วนิรันดร์

ส่วนเจ้า ดาเนียล ให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ และปิดผนึกหนังสือเอาไว้จนกว่าจะถึงเวลาของจุดจบนั้น คนเป็นจำนวนมากจะเดินทางไปโน่นไปนี่ และความรู้ก็จะเพิ่มขึ้น”

หลังจากนั้น ขณะที่ผม ดาเนียล กำลังจ้องมองอยู่นั้น จู่ๆก็มีคนอีกสองคนยืนอยู่ตรงนั้น คนหนึ่งอยู่บนฝั่งแม่น้ำด้านนี้ ส่วนอีกคนอยู่ที่ฝั่งตรงข้าม

คนหนึ่งในสองคนนั้น ถามคนที่สวมชุดผ้าลินิน (คือคนที่ยืนอยู่เหนือน้ำ) ว่า “อีกนานไหมกว่าเรื่องเลวร้ายพวกนี้จะเกิดขึ้น”

ผมได้ยินเสียงผู้ชายคนที่สวมชุดผ้าลินิน (คือคนที่ยืนอยู่เหนือน้ำ) เขาชูมือทั้งสองข้างขึ้นไปบนสวรรค์ และสาบานโดยอ้างชื่อของพระองค์ผู้ดำรงอยู่เป็นนิจว่า

“อีกหนึ่งปี สองปี และครึ่งปี เมื่ออำนาจของเหล่าผู้ศักดิ์สิทธิ์แตกสลายจบสิ้นแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็จะเกิดขึ้น”

ผมได้ยินแต่ไม่เข้าใจ ผมก็เลยถามว่า “ท่านครับ แล้วเหตุการณ์เหล่านี้จะจบลงยังไงครับ”

เขาพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ดาเนียล ให้เจ้าดำเนินชีวิตของเจ้าต่อไป เพราะว่าเรื่องพวกนี้เป็นความลับ เรื่องนี้จะถูกปิดผนึกไว้จนกว่าจะถึงเวลาของจุดจบนั้น

10 คนจำนวนมากจะได้รับการชำระล้างให้ขาวสะอาดบริสุทธิ์ คนชั่วจะทำชั่ว จะไม่มีคนชั่วสักคนที่เข้าใจ แต่พวกผู้นำที่เฉลียวฉลาดจะเข้าใจ

11 นับตั้งแต่วันที่การถวายเครื่องบูชาประจำวันถูกยกเลิกไป จนถึงวันที่สิ่งน่าขยะแขยงที่ก่อให้เกิดความน่าสะพรึงกลัวถูกตั้งขึ้นมา รวมเวลาทั้งสิ้นหนึ่งพันสองร้อยเก้าสิบวัน

12 คนที่รอและยังรอดชีวิตอยู่จนถึงหนึ่งพันสามร้อยสามสิบห้าวันก็จะเป็นคนที่จะได้รับเกียรติ

13 เอาละ ดาเนียล สำหรับเจ้า ให้ดำเนินชีวิตของเจ้าต่อไปอย่างซื่อสัตย์จนถึงจุดจบ เจ้าจะได้พักผ่อน แล้วตอนสุดท้ายนั้นเจ้าก็จะฟื้นขึ้นมารับรางวัลของเจ้า”

สดุดี 119:49-72

ไซอิน

49 โปรดระลึกถึงคำสัญญาที่ให้กับข้าพเจ้าผู้รับใช้ของพระองค์
    คำสัญญานั้นทำให้ข้าพเจ้ามีความหวัง
50 คำสัญญาของพระองค์ทำให้ข้าพเจ้ามีชีวิต
    นี่แหละคือคำปลอบโยนของข้าพเจ้าในยามทุกข์ยาก
51 แม้ว่า คนหยิ่งยโสจะหัวเราะเยาะข้าพเจ้าอย่างไม่หยุดหย่อนก็ตาม
    แต่ข้าพเจ้าก็ไม่เคยหันไปจากคำสั่งสอนของพระองค์
52 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้ายังระลึกถึงกฎเกณฑ์ต่างๆที่พระองค์ให้นานมาแล้วนั้น
    และมันก็ปลอบใจข้าพเจ้า
53 ข้าพเจ้าโกรธจับใจต่อคนชั่วช้าเหล่านั้น
    ที่ละทิ้งคำสั่งสอนของพระองค์ไป
54 ข้าพเจ้าร้องเพลงเรื่องกฎระเบียบต่างๆของพระองค์
    ในทุกหนแห่งที่ข้าพเจ้าพักอาศัย
55 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ในยามค่ำคืน ข้าพเจ้าก็ยังระลึกถึงชื่อเสียงของพระองค์
    ข้าพเจ้าก็เลยรักษาคำสั่งสอนของพระองค์
56 ชีวิตของข้าพเจ้าก็เป็นอย่างนี้แหละ
    คือที่ข้าพเจ้ารักษาคำสั่งต่างๆของพระองค์

เฮธ

57 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์เป็นส่วนแบ่งของข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าสัญญาว่าจะเชื่อฟังคำบัญชาทั้งหลายของพระองค์
58 ข้าพเจ้าอ้อนวอนพระองค์อย่างสุดจิตสุดใจ
    โปรดเมตตาข้าพเจ้าอย่างที่พระองค์ได้สัญญาไว้
59 ข้าพเจ้าคิดถึงทางทั้งหลายของข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจหันเท้าของข้าพเจ้ากลับมาหากฎต่างๆของพระองค์
60 ข้าพเจ้ารีบทำตามบัญญัติต่างๆของพระองค์
    อย่างไม่รอช้า
61 ถึงข้าพเจ้าจะติดอยู่ในกับดักของคนชั่ว
    ข้าพเจ้าก็ไม่เคยลืมคำสั่งสอนของพระองค์
62 ในตอนกลางคืน ข้าพเจ้าลุกขึ้นมา
    เพื่อขอบคุณพระองค์สำหรับกฎเกณฑ์ต่างๆอันยุติธรรมของพระองค์
63 ข้าพเจ้าเป็นเพื่อนกับทุกคนที่ยำเกรงพระองค์
    เป็นเพื่อนกับทุกคนที่เชื่อฟังคำสั่งต่างๆของพระองค์
64 ข้าแต่พระยาห์เวห์ โลกนี้เต็มไปด้วยความรักมั่นคงของพระองค์
    โปรดสอนกฎระเบียบต่างๆของพระองค์ให้กับข้าพเจ้าด้วย

เท็ธ

65 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ดีต่อข้าพเจ้าผู้รับใช้ของพระองค์
    เหมือนกับที่พระองค์ได้สัญญาไว้
66 โปรดสอนสติปัญญาและความรู้ให้กับข้าพเจ้า
    เพราะข้าพเจ้าวางใจในบัญญัติของพระองค์
67 เมื่อก่อนนั้น ข้าพเจ้าทุกข์ทรมานและกำลังหลงทางไป
    แต่เดี๋ยวนี้ ข้าพเจ้าเชื่อฟังสิ่งที่พระองค์บอก
68 พระองค์ดีและทำดี
    ช่วยสอนกฎระเบียบต่างๆของพระองค์ให้กับข้าพเจ้าด้วยเถิด
69 คนหยิ่งจองหองที่โกหกใส่ร้ายป้ายสีข้าพเจ้า
    แต่ข้าพเจ้ายังรักษาคำสั่งต่างๆของพระองค์อย่างสุดหัวใจ
70 คนพวกนั้นโง่เขลา
    แต่ข้าพเจ้าเพลิดเพลินกับคำสั่งสอนของพระองค์
71 มันเป็นสิ่งที่ดี ที่ข้าพเจ้าต้องทนทุกข์นั้น
    เพราะมันทำให้ข้าพเจ้าได้เรียนรู้กฎระเบียบต่างๆของพระองค์
72 คำสั่งสอนจากปากของพระองค์
    ก็มีค่ายิ่งกว่าทองคำและเงินหลายพันชั่ง

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International