Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
เฉลยธรรมบัญญัติ 3

การต่อสู้กับชนชาวบาชาน

(กดว. 21:31-35)

พวกเราจึงออกเดินทางไปตามถนนที่ตรงไปบาชาน กษัตริย์โอกของเมืองบาชานและกองทัพของเขาออกมาต่อสู้กับพวกเราที่เอเดรอี พระยาห์เวห์พูดกับเราว่า ‘ไม่ต้องกลัวมัน เพราะเราได้มอบมันและกองทัพของมัน รวมทั้งแผ่นดินของมันไว้ในกำมือของเจ้าแล้ว เจ้าจะทำกับมันเหมือนกับที่เจ้าได้ทำกับกษัตริย์สิโหนชาวอาโมไรต์ที่เคยปกครองเฮชโบน’

แล้วพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเราได้ทำให้กษัตริย์โอกแห่งบาชานและกองทัพทั้งหมดของเขาตกอยู่ในกำมือของพวกเรา พวกเราได้ฆ่าเขาและคนอื่นๆจนไม่เหลือใครเลย พวกเรายึดเมืองต่างๆไว้จนหมดเกลี้ยง ไม่เหลือแม้แต่เมืองเดียว เรายึดได้ทั้งหกสิบเมืองในแคว้นอารโกบทั้งหมดที่เป็นอาณาจักรของโอกในบาชาน เมืองพวกนี้ล้วนมีกำแพงที่สูงใหญ่ล้อมรอบ มีทั้งประตูและกลอนเหล็ก นอกจากนี้ยังมีเมืองอื่นๆอีกมากมายที่ไม่มีกำแพงเมือง พวกเราได้ทำลายพวกเขาเหมือนกับที่ได้ทำลายกษัตริย์สิโหนแห่งเฮชโบน พวกเราทำลายทั้งผู้ชาย ผู้หญิงและเด็กในทุกๆเมืองจนหมดสิ้น แต่พวกวัวควายและของมีค่าในเมืองต่างๆที่ริบมานั้น พวกเราได้ยึดเอาไว้เอง

ดังนั้น ในตอนนั้นพวกเราได้ยึดเอาดินแดนจากมือของกษัตริย์ชาวอาโมไรต์ทั้งสอง เป็นดินแดนที่อยู่ทางทิศตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน จากหุบเขาอารโนนไปจนถึงภูเขาเฮอร์โมน (ชาวไซดอนเรียกเฮอร์โมนว่า ‘สีรีออน’ แต่ชาวอาโมไรต์เรียกเฮอร์โมนว่า ‘เสนีร์’) 10 พวกเรายึดเมืองต่างๆบนที่ราบตอนบน กิเลอาดทั้งหมดและบาชานทั้งหมด ขึ้นไปจนถึงสาเลคาห์และเอเดรอี เมืองพวกนี้เป็นของอาณาจักรโอกแห่งบาชาน”

11 (มีชาวเรฟาอิมหลงเหลืออยู่น้อยมาก กษัตริย์โอกแห่งบาชานก็เป็นชาวเรฟาอิมคนหนึ่งที่ยังหลงเหลืออยู่ เตียง[a]ของเขามีขนาดยาวเก้าศอก กว้างสี่ศอก ตอนนี้มันยังตั้งอยู่ที่เมืองรับบาห์ของชาวอัมโมนอยู่เลย)

ที่ดินของกาด รูเบนและมนัสเสห์ครึ่งเผ่า

(กดว. 32:1-42)

12 “ในตอนนั้นพวกเราได้ยึดเอาแผ่นดินนี้เป็นของพวกเรา เริ่มจากอาโรเออร์ซึ่งอยู่ในหุบเขาอารโนน เราได้มอบดินแดนครึ่งหนึ่งบนเขากิเลอาดและเมืองต่างๆของมัน ให้กับชาวรูเบนและชาวกาด 13 ส่วนอีกครึ่งหนึ่งของกิเลอาดและบาชานทั้งหมดในอาณาจักรโอก เราได้มอบให้กับเผ่ามนัสเสห์ครึ่งเผ่า”

(แคว้นอารโกบทั้งหมด ทั้งส่วนของเมืองบาชานรวมเรียกว่าแผ่นดินของชาวเรฟาอิม 14 ยาอีร์จากเผ่ามนัสเสห์ได้ยึดแคว้นอารโกบทั้งหมดไปจนถึงริมเขตแดนของชาวเกชูร์และชาวมาอาคาห์ แล้วยาอีร์ก็ได้ตั้งชื่อเมืองต่างๆเหล่านั้นตามชื่อของเขามาจนถึงทุกวันนี้)

15 “เราได้มอบกิเลอาดให้มาคีร์ 16 ส่วนชาวรูเบนและชาวกาด เราได้ให้ดินแดนตั้งแต่กิเลอาดลงไปถึงหุบเขาอารโนน ตรงกลางหุบเขาคือเส้นแบ่งแดน ขึ้นไปถึงแม่น้ำยับบอกซึ่งเป็นเส้นเขตแดนของชาวอัมโมน 17 หุบเขาจอร์แดนและแม่น้ำจอร์แดนเองเป็นเส้นแบ่งเขตแดนทางตะวันตก เริ่มจากทะเลสาบกาลิลี[b] ลงไปจนถึงฝั่งตะวันออกของทะเลตาย[c] ตรงก้นของหน้าผาปิสกาห์

18 ในตอนนั้นเราได้สั่งพวกท่านว่า ‘พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านได้ยกแผ่นดินฝั่งนี้ให้พวกท่านเป็นเจ้าของ แต่ตอนนี้ให้พวกท่านนักรบผู้กล้าที่ถืออาวุธพร้อมมือ นำหน้าญาติพี่น้องชาวอิสราเอลข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปฝั่งโน้น 19 เว้นแต่พวกเมียๆและลูกๆ รวมทั้งฝูงสัตว์ของพวกท่าน (เรารู้ว่าพวกท่านมีฝูงสัตว์มากมาย) ให้ยังคงอยู่ในเมืองต่างๆที่เราได้ยกให้กับพวกท่าน 20 พวกท่านต้องช่วยญาติพี่น้องของพวกท่าน จนกว่าพวกเขาจะได้เป็นเจ้าของดินแดนที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน ได้ยกให้กับพวกเขา คือดินแดนที่อยู่ฝั่งโน้นของแม่น้ำจอร์แดน และให้ช่วยพวกเขาจนกว่าพระยาห์เวห์จะให้สันติสุขกับพวกเขา เหมือนกับที่พระองค์ให้กับพวกท่าน เมื่อถึงตอนนั้น พวกท่านจึงค่อยกลับมาดินแดนฝั่งนี้ที่เราได้ยกให้กับพวกท่าน’

21 ในตอนนั้นเราได้สั่งโยชูวาว่า ‘ท่านก็ได้เห็นกับตาแล้วว่า พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านได้ทำยังไงกับกษัตริย์สององค์นั้น พระองค์ก็จะทำอย่างนั้นกับอาณาจักรต่างๆที่ท่านกำลังจะบุกเข้าไปด้วย 22 ไม่ต้องกลัวพวกมัน เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านจะต่อสู้แทนท่าน’

โมเสสอดเข้าแผ่นดินคานาอัน

23 ในตอนนั้นเราได้อ้อนวอนต่อพระยาห์เวห์ว่า 24 ‘ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต พระองค์เริ่มแสดงให้ข้าพเจ้าผู้รับใช้ของพระองค์ เห็นถึงความยิ่งใหญ่ และมือที่เต็มไปด้วยฤทธิ์อำนาจของพระองค์ ไม่มีพระเจ้าอื่นอีกแล้วไม่ว่าในสวรรค์หรือบนโลก ที่จะทำในสิ่งที่พระองค์ทำหรือแสดงฤทธิ์อำนาจได้เหมือนกับที่พระองค์แสดง 25 ขอให้ข้าพเจ้าได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนไป เพื่อจะได้เห็นดินแดนที่ดีซึ่งอยู่ฝั่งโน้น ขอให้ข้าพเจ้าได้เห็นเนินเขาที่สวยงามและแคว้นเลบานอนด้วยเถิด’

26 แต่พระยาห์เวห์โกรธเรามาก ก็เพราะพวกท่านนี่แหละ และพระองค์ก็ไม่ฟังคำขอร้องของเรา พระองค์พูดกับเราว่า ‘พอแล้ว อย่าพูดเรื่องนี้ให้ได้ยินอีก 27 ขึ้นไปบนยอดเขาปิสกาห์และมองไปรอบๆทั้งทิศตะวันตก ทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันออก แต่เจ้าจะไม่ได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนนี้ไป 28 ให้คำแนะนำกับโยชูวา ทำให้เขากล้าหาญและเข้มแข็ง เพราะเขาจะเป็นคนนำประชาชนพวกนี้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนไป และเขาจะพาพวกนั้นไปยึดเอาแผ่นดินที่เจ้าเห็นนั้น’ 29 ดังนั้นพวกเราจึงอยู่ในหุบเขาตรงข้ามกับเบธเปโอร์

สดุดี 85

โปรดให้เรามีชีวิตใหม่อีกครั้ง

ถึงหัวหน้านักร้อง เพลงสดุดีของตระกูลโคราห์

ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์แสดงความชอบต่อแผ่นดินของพระองค์
    และทำให้คนของยาโคบกลับมามีสภาพดีเหมือนเดิม
พระองค์อภัยให้กับความผิดของคนของพระองค์
    และกลบเกลื่อนความบาปทั้งหมดของพวกเขา เซลาห์

พระองค์ถอนความโกรธทั้งหมดของพระองค์ไป
    พระองค์กลับหันหลังให้กับความเดือดดาลของพระองค์
ตอนนี้ พระเจ้า องค์เจ้าชีวิตของพวกเรา โปรดช่วยให้เรากลับไปมีสภาพดีเหมือนเดิม
    หยุดโกรธเคืองพวกเราด้วยเถิด
พระองค์จะเกรี้ยวกราดพวกเราอยู่อย่างนี้ไปตลอดหรือ
    พระองค์จะกริ้วโกรธไปตลอดชั่วลูกชั่วหลานหรือ
พระองค์จะให้ชีวิตใหม่กับเราอีกครั้ง ใช่ไหม
    แล้วคนของพระองค์จะได้มีความสุขในพระองค์
ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดแสดงความรักมั่นคงของพระองค์ต่อพวกเรา
    และช่วยพวกเราให้รอดด้วยเถิด

ข้าพเจ้าจะฟังสิ่งที่พระเจ้าพูด
    แน่นอน พระยาห์เวห์จะสัญญาให้คนที่จงรักภักดีต่อพระองค์อยู่เย็นเป็นสุข
    แต่พวกเขาจะต้องไม่หันกลับไปทำเรื่องโง่ๆของพวกเขาอีก
ในไม่ช้าพระองค์จะช่วยกู้คนที่ยำเกรงพระองค์อย่างแน่นอน
    และแผ่นดินของเราจะเต็มไปด้วยสง่าราศีของพระองค์

10 ความรักมั่นคงของพระเจ้าและความสัตย์ซื่อของพระองค์จะมาพบกัน
    ความชอบธรรมและสันติสุขของพระองค์จะมาจูบกัน
11 ความสัตย์ซื่อของพระองค์จะงอกขึ้นมาจากแผ่นดิน
    และความดีงามของพระองค์จะมองลงมาจากฟ้าสวรรค์
12 พระยาห์เวห์เองจะให้สิ่งดีๆกับพวกเรา
    และแผ่นดินของเราก็จะผลิตผลของมัน
13 ความชอบธรรมจะเดินอยู่เบื้องหน้าพระองค์
    และจัดเตรียมทางให้กับเท้าของพระองค์

อิสยาห์ 31

ให้พึ่งพระเจ้าไม่ใช่พึ่งอียิปต์

31 เฮ้ย ไอ้พวกที่ลงไปอียิปต์เพื่อขอความช่วยเหลือ
    ไอ้พวกที่หวังพึ่งในม้าศึก
ไอ้พวกที่ไว้วางใจในรถรบอียิปต์เพราะมันมีมากมาย
    ไอ้พวกที่ไว้วางใจในทหารม้าเพราะมันมีมากมหาศาล
    แต่ไม่ได้คิดจะพึ่งพาพระองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอลและปรึกษาพระยาห์เวห์
แต่พระยาห์เวห์ก็ฉลาดเหมือนกันนะ และพระองค์สามารถนำความหายนะมาให้
    แล้วพระองค์ไม่เคยกลับคำ
พระองค์จะลุกขึ้นมาต่อสู้กับพวกที่ทำชั่ว
    และต่อสู้กับคนที่ช่วยเหลือพวกที่ทำบาปนั้น
ชาวอียิปต์เป็นแค่มนุษย์ไม่ใช่พระเจ้า
    และม้าศึกของพวกเขาก็เป็นแค่เนื้อหนังไม่ได้เป็นวิญญาณซักหน่อย
เมื่อพระยาห์เวห์เงื้อมือขึ้นเตรียมฟาด อียิปต์ที่เป็นผู้ช่วยนั้นก็จะล้มลุกคลุกคลาน
    และคนที่รับความช่วยเหลือนั้นก็จะล้มลง
    และทั้งสองก็จะถูกทำลายไปพร้อมๆกัน

เพราะนี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์บอกกับผม
“เมื่อสิงโตร้องคำราม หรือสิงห์หนุ่มยืนขู่คำรามอยู่เหนือเหยื่อของมัน
    แล้วมีพวกผู้เลี้ยงแกะออกมาสู้กับมัน
สิงโตไม่กลัวต่อเสียงร้องตะโกนของพวกเขาและเสียงของพวกเขาไม่ได้ทำให้สิงโตนั้นสะทกสะท้านเลย
    เช่นเดียวกัน พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นก็ไม่กลัวอะไรเลย พระองค์จะลงมาต่อสู้บนภูเขาศิโยน
พวกนกบินโฉบไปโฉบมาเพื่อเฝ้าระวังรังของพวกมัน
    พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นก็จะปกป้องเยรูซาเล็มอย่างนั้นเหมือนกัน
พระองค์จะปกป้องและช่วยกู้พวกเขา
    พระองค์จะไว้ชีวิตพวกเขาและช่วยให้พวกเขารอด

ชาวอิสราเอลเอ๋ย ให้หันกลับไปหาพระองค์ที่เจ้าได้ทรยศอย่างร้ายแรงนั้น ในเวลานั้น พวกเจ้าแต่ละคนก็จะละทิ้งรูปเคารพเงินและทองของเจ้าที่พวกเจ้าได้ทำบาปสร้างขึ้นมากับมือเจ้า

แล้วอัสซีเรียจะล้มลงด้วยดาบแต่ไม่ใช่ดาบของคน
    อัสซีเรียจะถูกทำลายแต่ไม่ใช่ด้วยดาบของมนุษย์
อัสซีเรียจะวิ่งหนีจากดาบ
    แต่หนุ่มๆของเขาจะถูกจับไปเป็นทาส
และหินกำบัง[a] ของอัสซีเรีย ก็จะสาบสูญไป พวกเขาจะตื่นตระหนก
    และพวกเจ้านายของเขาก็จะทิ้งธงออกศึกวิ่งหนีไปด้วยความหวาดกลัว”
พระยาห์เวห์พูดไว้ว่าอย่างนั้น ไฟของพระองค์อยู่ในเมืองศิโยน
    และเตาหลอมของพระองค์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม

วิวรณ์ 1

ยอห์นพูดเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้

นี่คือสิ่งที่พระเจ้ามอบให้พระเยซูคริสต์นำมาเปิดเผยเพื่อพระองค์จะได้นำไปแสดงให้พวกทาสของพระองค์รู้ถึงสิ่งต่างๆที่จะต้องเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ พระเยซูคริสต์ได้ส่งทูตสวรรค์ไปบอกเรื่องราวต่างๆนี้กับยอห์นทาสของพระองค์ ยอห์นได้เป็นพยานถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเห็น เขาได้รายงานถ้อยคำที่มาจากพระเจ้า และเหตุการณ์ที่พระเยซูเปิดเผยให้รู้ คนที่ได้อ่านถ้อยคำที่มาจากพระเจ้านี้ให้หมู่ประชุมฟัง ถือว่าได้รับเกียรติจริงๆ คนทั้งหลายที่ได้ฟังและทำตามสิ่งที่ได้เขียนไว้นั้น ก็ได้รับเกียรติเช่นกัน เรื่องที่ได้เขียนไว้ในหนังสือเล่มนี้จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้

ยอห์นทักทายหมู่ประชุมทั้งเจ็ด

จากยอห์น

ถึงหมู่ประชุมทั้งเจ็ดที่ตั้งอยู่ในแคว้นเอเชีย

ขอให้ได้รับความเมตตากรุณาและสันติสุขจากพระเจ้าผู้ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ในอดีตและกำลังจะมาในอนาคต และจากพระวิญญาณทั้งเจ็ดที่อยู่ต่อหน้าบัลลังก์ของพระองค์ และจากพระเยซูผู้เป็นพยานที่ซื่อสัตย์ เป็นคนแรกที่ฟื้นขึ้นจากความตายและเป็นผู้มีอำนาจเหนือกษัตริย์ทั้งหลายในโลกนี้

พระเยซูคริสต์รักเรา และได้ปลดปล่อยให้เราเป็นอิสระจากบาปของเราด้วยเลือดของพระองค์ พระองค์ทำให้เราเป็นพวกกษัตริย์และเป็นพวกนักบวชที่รับใช้พระเจ้าพระบิดาของพระองค์ ขอให้พระเยซูคริสต์ได้รับเกียรติและมีฤทธิ์อำนาจตลอดกาล อาเมน

ดูนั่นสิ พระเยซูกำลังมาพร้อมกับกลุ่มเมฆนั้น[a] ทุกคนจะเห็นพระองค์ แม้แต่คนที่แทงพระองค์[b] ทุกเผ่าพันธุ์ในโลกจะโศกเศร้าเพราะพระองค์ และจะเป็นตามนั้นอย่างแน่นอน อาเมน

พระเจ้าองค์เจ้าชีวิตพูดว่า “เราคือจุดเริ่มต้นและจุดจบ[c] พระเจ้าผู้ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ในอดีต และกำลังจะมาในอนาคต พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น”

ยอห์นเห็นพระคริสต์

ผมคือยอห์น พี่ชายของพวกคุณ ที่ร่วมทุกข์ ร่วมครอบครองเป็นกษัตริย์ และร่วมอดทนกับพวกคุณในพระเยซู ที่ผมเป็นนักโทษอยู่บนเกาะปัทมอส[d]นี้ ก็เพราะผมได้ประกาศถ้อยคำของพระเจ้า และเป็นพยานเกี่ยวกับพระเยซู 10 ในวันขององค์เจ้าชีวิต[e]นั้น พระวิญญาณได้ครอบงำผมไว้ และผมได้ยินเสียงดังเหมือนเสียงแตรมาจากข้างหลัง 11 เสียงนั้นพูดว่า “ให้เขียนทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าได้เห็นลงไปในหนังสือม้วน แล้วส่งไปให้หมู่ประชุมทั้งเจ็ดแห่งที่อยู่ในเมืองเอเฟซัส เมืองสเมอร์นา เมืองเปอร์กามัม เมืองธิยาทิรา เมืองซาร์ดิส เมืองฟิลาเดลเฟีย และเมืองเลาดีเซีย”

12 เมื่อผมหันไปเพื่อดูว่าใครพูดกับผม ผมเห็นตะเกียงทองคำตั้งไว้เจ็ดอัน 13 ท่ามกลางตะเกียงทั้งเจ็ดนั้น ผมเห็นผู้หนึ่งซึ่งดูเหมือนกับคนสวมเสื้อคลุมยาวถึงเท้า และมีสายสะพายทองคำคาดอยู่รอบอก 14 ศีรษะและผมของพระองค์ขาวเหมือนกับขนแกะหรือหิมะ และตาของพระองค์เหมือนเปลวไฟ 15 เท้าของพระองค์เหมือนทองสัมฤทธิ์ที่ถูกหลอมในเตาไฟจนบริสุทธิ์และมันวาววับ เสียงของพระองค์เหมือนกับเสียงน้ำตกที่ดังสนั่นหวั่นไหว 16 ในมือขวาของพระองค์มีดาวอยู่เจ็ดดวง มีดาบสองคมออกมาจากปากพระองค์[f] และใบหน้าของพระองค์เหมือนกับแสงอาทิตย์อันแรงกล้า

17 เมื่อผมเห็นพระองค์ ผมก็ล้มลงแทบเท้าของพระองค์เหมือนกับคนตาย พระองค์วางมือขวาแตะลงบนตัวผมแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกลัว เราคือจุดเริ่มต้นและจุดจบ 18 เราเป็นผู้ที่มีชีวิตอยู่ เราเคยตาย แต่ดูสิ ตอนนี้เรามีชีวิตอยู่ตลอดไป เราถือกุญแจที่ให้เรามีอำนาจที่จะเปิดหรือปิดที่อยู่ของคนตาย และสามารถนำพวกเขาให้มามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง 19 ให้เขียนสิ่งที่เจ้าได้เห็น ให้เขียนถึงเหตุการณ์ที่เป็นอยู่และเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป 20 นี่คือความหมายอันลึกลับของดาวทั้งเจ็ดดวงที่เจ้าเห็นในมือขวาของเรา รวมทั้งตะเกียงทองคำที่มีขาตั้งทั้งเจ็ดอัน ดาวทั้งเจ็ดดวงนั้น หมายถึงทูตสวรรค์[g]ของหมู่ประชุมทั้งเจ็ดแห่ง และตะเกียงที่มีขาตั้งทั้งเจ็ดอันนั้น หมายถึงหมู่ประชุมทั้งเจ็ดแห่งนั่นเอง”

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International