Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
กันดารวิถี 23

บทกลอนแรกของบาลาอัม

23 บาลาอัมพูดกับบาลาคว่า “สร้างแท่นบูชาเจ็ดแท่นให้กับข้าพเจ้าที่นี่และให้เตรียมวัวผู้เจ็ดตัวและแกะผู้เจ็ดตัวไว้ให้กับข้าพเจ้า” บาลาคจึงทำตามที่บาลาอัมบอก แล้วบาลาคและบาลาอัมก็บูชาวัวผู้หนึ่งตัวและแกะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องเผาบูชา บนแท่นบูชาแต่ละแท่น

บาลาอัมพูดกับบาลาคว่า “ไปยืนอยู่ข้างๆเครื่องเผาบูชาของท่าน ข้าพเจ้าจะปลีกตัวออกไปอยู่ตามลำพัง บางทีพระยาห์เวห์อาจจะมาพบข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าจะมาบอกท่านว่าพระองค์แสดงอะไรให้กับข้าพเจ้าบ้าง” บาลาอัมจึงขึ้นไปบนยอดเขา

พระเจ้าได้มาพบบาลาอัม บาลาอัมพูดกับพระองค์ว่า “ข้าพเจ้าได้ทำแท่นบูชาขึ้นเจ็ดแท่น และได้บูชาวัวผู้ตัวหนึ่งกับแกะผู้ตัวหนึ่งให้เป็นเครื่องเผาบูชาบนแท่นแต่ละแท่น”

พระยาห์เวห์ได้ใส่คำพูดเข้าไปในปากของบาลาอัม พระองค์บอกเขาว่า “ให้กลับไปหาบาลาคและพูดสิ่งนี้”

บาลาอัมจึงกลับไปหาบาลาค บาลาคยืนอยู่ข้างเครื่องเผาบูชากับบรรดาผู้นำของโมอับ บาลาอัมจึงพูดกลอนนี้ออกมาว่า

“บาลาคนำตัวข้าพเจ้ามาจากอารัม
    กษัตริย์ของโมอับนำข้าพเจ้ามาที่นี่จากภูเขาทางตะวันออก
บาลาคพูดว่า ‘มาเถิด มาสาปแช่งยาโคบให้เรา
    มาเถิด มาพูดต่อต้านประชาชนชาวอิสราเอล’
ข้าพเจ้าจะพูดสาปแช่งคนที่พระเจ้าไม่ได้สาปแช่งได้อย่างไร
    จะให้ข้าพเจ้าพูดต่อต้านคนที่พระยาห์เวห์ไม่ได้พูดต่อต้านได้อย่างไร
เพราะจากยอดเขาข้าพเจ้ามองเห็นพวกเขา
    และจากเนินเขาข้าพเจ้ามองเห็นพวกเขา
ดูสิ พวกเขาตั้งเต็นท์อยู่แต่เพียงลำพัง
    และไม่ได้เป็นพันธมิตรกับคนชาติอื่นๆ
10 มีใครสามารถนับคนของยาโคบได้บ้าง
    พวกเขามีจำนวนมากพอๆกับเม็ดฝุ่น
หรือมีใครที่สามารถนับจำนวนแม้เพียงหนึ่งในสี่ของชาวอิสราเอลได้บ้าง
ปล่อยให้ข้าพเจ้าตายเหมือนคนดีๆพวกนี้เขาตายกันเถิด
    และปล่อยให้จุดจบข้าพเจ้าเป็นเหมือนกับจุดจบของพวกเขาเถิด”

11 บาลาคพูดกับบาลาอัมว่า “ท่านทำอะไรกับเรานี่ เราเอาท่านมาที่นี่เพื่อสาปแช่งศัตรูของเรา แต่ดูสิ ท่านกลับมาอวยพรพวกเขา”

12 บาลาอัมจึงตอบว่า “ข้าพเจ้าต้องระวังที่จะพูดในสิ่งที่พระยาห์เวห์ใส่ไว้ในปากของข้าพเจ้า ไม่ใช่หรือ”

13 บาลาคจึงพูดกับเขาว่า “ไปกับเราอีกที่หนึ่ง ท่านจะเห็นคนเหล่านั้น ท่านจะมองเห็นพวกเขาเพียงบางส่วน ท่านจะไม่เห็นพวกเขาทั้งหมด สาปแช่งพวกเขาให้เราจากที่นั่น” 14 บาลาคจึงพาบาลาอัมไปที่ทุ่งโศฟิม[a] บนยอดเขาปิสกาห์ บาลาคสร้างแท่นบูชาขึ้นเจ็ดแท่น และบูชาวัวผู้หนึ่งตัวกับแกะผู้หนึ่งตัว ให้เป็นเครื่องเผาบูชาบนแท่นบูชาแต่ละแท่น

15 บาลาอัมพูดกับบาลาคว่า “ยืนอยู่ที่นี่ข้างๆเครื่องเผาบูชาของท่าน ขณะที่ข้าพเจ้าไปพบพระยาห์เวห์ที่โน่น”

16 พระยาห์เวห์ได้มาพบบาลาอัม และใส่คำพูดเข้าไปในปากของเขา พระองค์พูดว่า “กลับไปหาบาลาคและพูดสิ่งนี้” 17 บาลาอัมจึงไปหาบาลาค ที่นั่น เขายังคงยืนอยู่ข้างเครื่องเผาบูชาพร้อมกับพวกผู้นำของโมอับ แล้วบาลาคก็ถามเขาว่า “พระยาห์เวห์พูดอะไร”

บทกลอนที่สองของบาลาอัม

18 บาลาอัมจึงพูดออกมาเป็นกลอนว่า

“ยืนขึ้น บาลาค และฟัง
    ฟังข้าพเจ้า ลูกชายของศิปโปร์
19 พระเจ้าไม่ใช่มนุษย์ที่พูดโกหก
    และก็ไม่ใช่มนุษย์ที่ชอบเปลี่ยนใจ
มีหรือที่พระองค์พูดแล้วไม่ทำ
    หรือสัญญาแล้วไม่ทำตามสัญญานั้น
20 ฟังนะ ข้าพเจ้าได้รับคำสั่งให้อวยพร
    พระเจ้าได้อวยพรอิสราเอลไว้ ข้าพเจ้าจึงไม่สามารถกลับคำของพระองค์ได้
21 ท่านจะไม่เห็นความโชคร้ายในประชาชนของยาโคบ
    ท่านจะไม่เห็นความยากลำบากใดๆในประชาชนชาวอิสราเอล
พระยาห์เวห์ผู้เป็นพระเจ้าของชาวอิสราเอลจะอยู่กับพวกเขา
    พระองค์ได้รับการยกย่องสรรเสริญให้เป็นกษัตริย์ของพวกเขา
22 พระเจ้าผู้นำพวกเขาออกจากอียิปต์
    เข้มแข็งเหมือนกับเขาของกระทิงสำหรับพวกเขา
23 ไม่มีการดูฤกษ์ยามในหมู่ประชาชนของยาโคบ
    ไม่มีการทำนายโชคชะตาในหมู่ประชาชนของอิสราเอล
พระเจ้าส่งตัวแทนพระองค์มาพูดกับยาโคบ
    และบอกอิสราเอลทันทีว่าพระองค์มีแผนอะไร[b]
24 คนเหล่านี้ก็ลุกขึ้นเหมือนกับสิงห์ตัวเมีย
    มันยืนขึ้นตรงเหมือนสิงห์ตัวผู้ตัวหนึ่ง
มันจะไม่ยอมนอนจนกระทั่งมันกินเหยื่อของมัน
    และดื่มเลือดของสัตว์ที่มันฆ่าแล้ว”

25 บาลาคพูดกับบาลาอัมว่า “ถ้าท่านไม่สาปแช่งพวกเขา ก็อย่าอวยพรพวกเขาสิ”

26 บาลาอัมจึงตอบบาลาคว่า “ข้าพเจ้าไม่ได้บอกท่านก่อนแล้วหรือว่า ‘ข้าพเจ้าจะทำทุกอย่างที่พระยาห์เวห์บอกให้ข้าพเจ้าทำ’”

27 บาลาคจึงพูดกับบาลาอัมว่า “มาเถิด เราจะพาท่านไปอีกที่หนึ่ง บางทีอาจทำให้พระเจ้าพอใจที่ท่านจะสาปแช่งชาวอิสราเอลให้เราจากที่นั่น” 28 บาลาคจึงพาบาลาอัมไปบนยอดเขาเปโอร์ซึ่งมองเห็นไปทั่วทั้งที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง

29 บาลาอัมพูดกับบาลาคว่า “สร้างแท่นบูชาเจ็ดแท่นให้กับข้าพเจ้าที่นี่ และเตรียมวัวผู้เจ็ดตัวกับแกะผู้เจ็ดตัวไว้ให้กับข้าพเจ้าด้วย” 30 บาลาคจึงทำตามที่บาลาอัมบอก และเขาก็บูชาวัวผู้หนึ่งตัวกับแกะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องเผาบูชาบนแท่นบูชาแต่ละแท่น

สดุดี 64-65

พระเจ้าจะลงโทษพวกวางแผนชั่ว

ถึงหัวหน้านักร้อง เพลงสดุดีของดาวิด

ข้าแต่พระเจ้า โปรดฟังข้าพเจ้าด้วยเมื่อข้าพเจ้าร้องทุกข์
    โปรดปกป้องข้าพเจ้าจากการขู่เข็ญของศัตรู[a] ด้วยเถิด
โปรดปกป้องคุ้มครองข้าพเจ้าจากแผนการของคนชั่วร้ายเหล่านั้น
    โปรดซ่อนข้าพเจ้าจากกลุ่มชนที่อึกทึกชั่วช้านั้น
ลิ้นพวกเขาเหมือนดาบแหลมคม
    คำพูดอันขมขื่นของพวกเขาเหมือนธนูที่ง้างพร้อมยิง
อยู่ๆพวกเขาก็ยิงธนูใส่คนบริสุทธิ์
    พวกเขายิงจากที่หลบซ่อนอย่างไม่กลัวใคร
พวกคนชั่วให้กำลังใจต่อกันในการทำชั่ว
    พวกเขาพูดกันถึงเรื่องการวางกับดัก
    เขาพูดกันว่า “ไม่มีใครเห็นสิ่งที่พวกเรา[b] กำลังทำอยู่นี้หรอก”
พวกเขาวางแผนทำเรื่องร้ายๆที่ไม่ยุติธรรม
    แล้วพูดกันว่า “เราคิดแผนการที่ไม่มีช่องโหว่เลย”
    จิตใจของมนุษย์นั้นสุดลึกล้ำหยั่งถึง

แต่พระเจ้าจะยิงธนูใส่พวกเขา
    และคนเหล่านั้นจะถูกยิงในพริบตา
พระองค์จะทำให้คนพวกนั้นสะดุดลิ้นของตัวเอง
    และทุกคนที่พบเห็นพวกเขาก็จะสั่นสะท้าน
ทุกคนจะเกรงกลัว
    พวกเขาจะคิดถึงและเล่าเรื่องสิ่งที่พระเจ้าได้ทำไปนั้น
10 คนที่ทำตามใจพระยาห์เวห์จะชื่นชมยินดีและลี้ภัยในพระองค์
    ทุกคนที่มีใจซื่อตรงจะโอ้อวดเรื่องพระองค์

ขอบคุณพระเจ้าสำหรับการเก็บเกี่ยวอันอุดม

ถึงหัวหน้านักร้อง เพลงสดุดีของดาวิด

ข้าแต่พระเจ้า ถูกต้องแล้วที่พวกเราจะร้องเพลงสรรเสริญพระองค์บนภูเขาศิโยน
    และถวายเครื่องบูชาตามที่พวกเราได้สาบานไว้กับพระองค์
พระองค์รับฟังคำอธิษฐาน
    มนุษย์ทุกคนสามารถมาอยู่ต่อหน้าพระองค์
เมื่อการกระทำผิดท่วมท้นพวกเรา
    พระองค์คือผู้ที่กลบเกลื่อนการกบฏของพวกเรา
ช่างมีเกียรติจริงๆคนที่พระองค์เลือกให้เข้าใกล้พระองค์ และพักอาศัยในลานของพระองค์
    ขอให้เราอิ่มเอมกับสิ่งดีๆในบ้านของพระองค์ซึ่งคือวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์

ข้าแต่พระเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดของพวกเรา
    พระองค์ตอบคำอธิษฐานของเราและนำชัยชนะมาสู่พวกเราด้วยอำนาจอันน่าเกรงขามของพระองค์
ทุกคนที่อาศัยอยู่ในทั่วทุกมุมโลกรวมทั้งคนที่อยู่ข้ามน้ำข้ามทะเลอันไกลโพ้น
    ต่างก็พากันไว้วางใจในพระองค์
พระองค์ตั้งภูเขาทั้งหลายในที่ของพวกมันด้วยฤทธิ์อำนาจของพระองค์
    พระองค์สำแดงให้เห็นถึงพลังของพระองค์
พระองค์สามารถทำให้ทะเลและคลื่นที่คำรามอย่างสนั่นหวั่นไหว
    และชนชาติต่างๆที่จลาจลวุ่นวาย สงบลงได้
คนที่อยู่ในแผ่นดินทั้งหลายที่อยู่ไกลโพ้นต่างตกตะลึงในสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆที่พระองค์ทำ
    พระองค์ทำให้ผู้คนที่อยู่ทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตกร้องเพลงฉลองกัน

ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงเอาใจใส่แผ่นดินและรดน้ำให้มัน
    พระองค์ทำให้ลำธารเต็มไปด้วยน้ำซึ่งทำให้แผ่นดินอุดมสมบูรณ์
    พระองค์จัดหาเมล็ดข้าวให้กับผู้คนกินกัน
    พระองค์เตรียมแผ่นดินให้เกิดพืชผล
10 พระองค์ส่งฝนห่าใหญ่ลงมาในทุ่งนาที่ไถพรวนแล้ว
    น้ำฝนทำให้ก้อนดินที่พรวนแล้วนั้นอ่อนนุ่มราบเรียบเสมอกัน
    พระองค์อวยพรให้ต้นพืชในทุ่งนั้นเจริญเติบโต
11 พระองค์สวมมงกุฎให้กับปีนั้นด้วยพืชผลอย่างล้นหลาม
    ไม่ว่าพระองค์จะไปที่ไหนก็ตาม พระองค์ก็ทิ้งความอุดมสมบูรณ์ไว้ให้
12 ทุ่งหญ้าในชนบท มีน้ำค้างหยาดเยิ้ม
    เนินเขาก็ปกคลุมไปด้วยความชื่นชมยินดี
13 ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ เต็มไปด้วยฝูงแกะ
    หุบเขาถูกปกคลุมไปด้วยเมล็ดข้าว
    พวกมันต่างเปล่งเสียงร้องออกมาเป็นเพลง

อิสยาห์ 13

ข่าวสารของพระเจ้าเกี่ยวกับบาบิโลน

13 อิสยาห์ลูกของอามอส ได้รับข้อความนี้เกี่ยวกับบาบิโลนผ่านทางนิมิต พระยาห์เวห์พูดว่า

“ยกธงขึ้นบนภูเขาที่ไม่มีต้นไม้ขึ้นนั้น
    ให้ร้องตะโกนเรียกทหารทั้งหลาย
กวักมือเรียกพวกเขาให้เข้าไป
    ทางประตูเหล่านั้นของพวกสูงศักดิ์
เราได้ออกคำสั่งกับคนพวกนั้นที่เราได้แยกออกมาโดยเฉพาะสำหรับเรา
    เราได้เรียกพวกนักรบของเราที่มีความภาคภูมิใจและมีความมั่นใจให้ไปลงโทษคนพวกนั้นที่เราโกรธ”

“ฟังดูสิ มีเสียงดังอึกทึกบนภูเขาพวกนั้น มันฟังดูเหมือนเสียงของคนเป็นจำนวนมาก
    ฟังดูสิ มีเสียงอึกทึกครึกโครมท่ามกลางอาณาจักรต่างๆ
ชนชาติทั้งหลายต่างก็มารวมตัวกัน
    พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นกำลังรวบรวมพลเพื่อทำสงคราม
พวกเขามาจากดินแดนอันแสนไกลมาจากสุดขอบฟ้า
    พระยาห์เวห์และอาวุธแห่งความโกรธของพระองค์กำลังมา เพื่อทำลายแผ่นดินนี้ทั้งหมด”

ร้องร่ำไห้สิ เพราะวันของพระยาห์เวห์ใกล้มาถึงแล้ว
    วันนั้นจะมากับความหายนะที่มาจากพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์
ดังนั้น มือทุกมือก็จะหมดแรง
    ความกล้าของทุกคนก็จะหลอมละลายไป
และพวกเขาจะขวัญหนีดีฝ่อและพบกับความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมาน
    พวกเขาจะเจ็บปวดเหมือนกับผู้หญิงที่กำลังคลอดลูก
พวกเขาจะมองหน้ากันอย่างตกตะลึง
    ใบหน้าของพวกเขาจะแดงเหมือนเปลวเพลิง
ดูสิ วันของพระยาห์เวห์กำลังมา
    เป็นวันอันโหดร้าย เพราะความโกรธแค้น ความโกรธที่ลุกเป็นไฟ
เพื่อทำให้แผ่นดินนี้รกร้างว่างเปล่า
    เพื่อกำจัดพวกคนบาปให้หมดไปจากมัน
10 ดวงดาวต่างๆในท้องฟ้าและหมู่ดาวนั้นจะไม่ส่องแสงของพวกมัน
    ดวงอาทิตย์ก็จะมืดเมื่อมันขึ้นมาและดวงจันทร์จะไม่ฉายแสงของมัน
11 พระยาห์เวห์พูดว่า
“เราจะลงโทษโลกนี้สำหรับความชั่วช้าของมัน
    เราจะลงโทษคนเลวทรามสำหรับความผิดบาปของมัน
เราจะทำให้ความเย่อหยิ่งของคนจองหองจบสิ้นไป
    และเราจะทำลายความหยิ่งยโสของคนโหดร้าย
12 เราจะทำให้มนุษย์นี้หายากยิ่งกว่าทองคำเนื้อดี
    และทำให้ผู้คนหายากยิ่งกว่าทองคำแห่งโอฟีร์
13 ดังนั้นเราจะทำให้ท้องฟ้าสะเทือนสะท้าน
    และแผ่นดินโลกก็จะถูกสั่นสะเทือนหลุดออกจากที่ของมัน”
ด้วยความโกรธแค้นของพระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
    สิ่งนี้จะเกิดขึ้นในวันที่ความโกรธของพระองค์ลุกเป็นไฟขึ้นมา
14 แล้วคนต่างชาติที่อยู่ในบาบิโลนก็จะกลับไปหาคนของตัวเองและวิ่งหนีกลับไปยังดินแดนของตัวเอง
    เหมือนกวางที่ถูกล่า และเหมือนแกะที่ไม่มีผู้เลี้ยง
15 เมื่อศัตรูเจอคนที่หลบซ่อนอยู่ คนนั้นก็จะถูกแทงตาย
    ใครที่ถูกจับได้ก็จะถูกฆ่าด้วยดาบ
16 ลูกเล็กเด็กแดงของพวกเขาก็จะถูกฟาดเป็นชิ้นๆต่อหน้าต่อตาพวกเขา
    บ้านของพวกเขาก็จะถูกปล้นและภรรยาของพวกเขาก็จะถูกข่มขืน

17 พระยาห์เวห์พูดว่า
“ดูไว้ เรากำลังยุแหย่ชาวมีเดียให้โจมตีบาบิโลน
    พวกชาวมีเดียนี้ไม่สนเรื่องเงินทอง
18 คันธนูของพวกเขาจะฆ่าคนหนุ่มๆ
    พวกเขาจะไม่เมตตาต่อเด็กๆและพวกเขาไม่มองเด็กด้วยความสงสาร
19 บาลิโลน อาณาจักรที่สวยงามที่สุดในท่ามกลางอาณาจักรทั้งหลาย เมืองที่คนบาบิโลน[a]ภาคภูมิใจมาก[b]
    บาบิโลนก็จะเป็นเหมือนเมืองโสโดมและโกโมราห์ ตอนที่พระเจ้าโค่นล้มสองเมืองนั้น
20 จะไม่มีใครอยู่ที่นั่นได้อีกต่อไปและจะไม่มีใครตั้งรกรากที่นั่นได้อีกตลอดชั่วลูกชั่วหลาน
    คนอาหรับก็จะไม่ตั้งเต็นท์ที่นั่นและพวกคนเลี้ยงแกะก็จะไม่เอาแกะมานอนลงที่นั่น
21 แต่สัตว์ป่าจะมานอนลงที่นั่น
    และพวกบ้านในเมืองบาบิโลนจะเต็มไปด้วยพวกหมาป่า
พวกนกกระจอกเทศจะมาอาศัยอยู่ที่นั่น
    และพวกปีศาจในรูปแพะจะมาวิ่งเล่นอยู่แถวนั้น
22 พวกหมาไนก็จะมาเห่าหอนอยู่บนหอคอยของบาบิโลน
    และพวกหมาป่าก็จะมาเห่าหอนในวังอันสวยงามของบาบิโลน
จุดจบของบาบิโลนใกล้มาถึงแล้ว
    และพระองค์จะไม่ต่อเวลาให้กับพวกเขาอีกแล้ว”

1 เปโตร 1

จากเปโตรศิษย์เอกของพระเยซูคริสต์

ถึงคนที่พระเจ้าได้เลือกไว้ที่เป็นคนต่างด้าวในโลกนี้ ถึงคนที่ได้กระจัดกระจายไปอยู่ตามแคว้นปอนทัส กาลาเทีย คัปปาโดเซีย เอเชีย และบิธีเนีย พระเจ้าพระบิดาได้เลือกคุณมาตามแผนการที่พระองค์ได้วางไว้ตั้งนานมาแล้ว โดยให้พระวิญญาณชำระล้างคุณให้บริสุทธิ์ พระเจ้าทำอย่างนี้เพื่อคุณจะได้เชื่อฟังพระเจ้า และเข้าเป็นคนของพระองค์เพราะความตายของพระเยซูคริสต์[a]

ขอพระเจ้าให้ความเมตตากรุณาและสันติสุขกับพวกคุณอย่างล้นเหลือ

เรามีความหวังอันยั่งยืน

สรรเสริญพระเจ้าพระบิดาของพระเยซูคริสต์องค์เจ้าชีวิตของเรา พระองค์ได้ทำให้พวกเราเกิดใหม่เพราะความเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ เรื่องนี้เป็นไปได้ก็เพราะพระเยซูได้ฟื้นขึ้นจากความตาย พวกเราก็เลยมีความหวังที่แน่นอน พระเจ้าได้เก็บมรดกไว้ให้กับคุณที่สวรรค์ เป็นมรดกที่ไม่มีวันผุพัง เน่าเปื่อย หรือจางหายไป เพราะคุณไว้วางใจพระเจ้า พระองค์จึงคุ้มครองคุณด้วยฤทธิ์เดชของพระองค์ จนกว่าคุณจะได้รับความรอดที่จะเปิดเผยให้เห็นในวันสุดท้ายนั้น เรื่องนี้ทำให้พวกคุณมีความชื่นชมยินดีมาก ถึงแม้จะต้องทนทุกข์ด้วยปัญหาสารพัดชั่วประเดี๋ยวหนึ่ง นี่เป็นการทดสอบดูความเชื่อของคุณ ความเชื่อที่แท้จริงมีค่ามากกว่าทองคำ เพราะขนาดทองคำที่ถูกไฟหลอมจนบริสุทธิ์แล้ว ยังถูกทำลายได้ เมื่อคุณผ่านการทดสอบแล้ว คุณก็จะได้รับการยกย่องสรรเสริญ จะเต็มไปด้วยสง่าราศีและเกียรติยศ ในวันที่พระเยซูคริสต์กลับมา ถึงแม้คุณยังไม่เคยเห็นพระองค์ แต่ก็ยังรักพระองค์อยู่ ตอนนี้คุณยังไม่เห็นพระองค์ แต่ก็ยังไว้วางใจและยังมีความสุขมากเกินกว่าจะพูดได้ สิ่งที่พวกคุณกำลังจะได้รับและที่เป็นเป้าหมายของความเชื่อของพวกคุณด้วย คือความรอดของพวกคุณนั่นเอง

10 พวกผู้พูดแทนพระเจ้าได้พูดถึงความเมตตาของพระเจ้าที่จะมีมาถึงพวกคุณ พวกเขาได้พยายามสืบเสาะค้นหาเกี่ยวกับความรอดนี้อย่างละเอียด 11 พระวิญญาณของพระคริสต์ที่อยู่ในพวกผู้พูดแทนพระเจ้านี้ ได้บอกกับพวกเขาล่วงหน้าถึงความทุกข์ทรมานของพระคริสต์ และถึงเกียรติยศที่พระองค์จะได้รับในภายหลัง พวกเขาก็เลยอยากจะรู้ว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แล้วเวลานั้นจะเป็นอย่างไร 12 แต่พระเจ้าได้เปิดเผยให้พวกเขารู้ว่า เรื่องที่เขาเอามาบอกพวกคุณนี้ ไม่ใช่สำหรับพวกเขา แต่มีไว้สำหรับพวกคุณ แล้วตอนนี้ก็มีคนมาประกาศข่าวดีนี้ด้วยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ส่งมาจากสวรรค์ให้พวกคุณรู้แล้ว ขนาดทูตสวรรค์ยังอยากจะรู้เรื่องนี้เลย

ใช้ชีวิตอย่างบริสุทธิ์

13 พวกคุณต้องตั้งสติไว้ให้พร้อม บังคับตัวเองไว้ให้ดี ตั้งความหวังให้เต็มที่ในความเมตตากรุณาของพระเจ้าที่คุณจะได้รับในวันที่พระเยซูคริสต์มาปรากฏ 14 ให้เป็นเหมือนกับลูกๆที่เชื่อฟัง อย่าไปทำตามกิเลสตัณหาเหมือนกับเมื่อก่อน คือตอนที่คุณยังไม่รู้เรื่องพระเจ้า 15 พวกคุณจะต้องใช้ชีวิตอย่างแตกต่างจากผู้อื่น เพราะพระเจ้าผู้ที่เรียกคุณนั้น ก็แตกต่างจากผู้อื่น 16 เหมือนที่พระคัมภีร์เขียนไว้ว่า “ให้รักษาตัวเองให้แตกต่างจากคนอื่น เพราะเราเองก็แตกต่างจากผู้อื่น”[b]

17 ในเมื่อพระเจ้าผู้ที่คุณเรียกว่าพระบิดาตอนที่คุณอธิษฐานนั้น ตัดสินไปตามการกระทำของแต่ละคนโดยไม่ลำเอียง ก็ให้คุณมีชีวิตที่เกรงกลัวพระองค์ ในฐานะที่พวกคุณเป็นคนต่างด้าวในสังคมรอบข้างคุณนี้ 18 เพราะคุณก็รู้ว่าเมื่อพระองค์ปลดปล่อยพวกคุณให้เป็นอิสระจากชีวิตที่ไร้สาระที่คุณได้รับสืบทอดมาจากบรรพบุรุษนั้น พระองค์ไม่ได้ใช้สิ่งที่เสื่อมสลายได้ อย่างเช่นเงินและทอง 19 แต่ใช้เลือดอันมีค่าของพระคริสต์ เหมือนกับเลือดของลูกแกะที่ไม่มีรอยตำหนิหรือจุดด่างพร้อยเลย 20 พระเจ้าได้เลือกพระคริสต์ไว้ก่อนที่จะสร้างโลกนี้เสียอีก แต่เพิ่งให้พระคริสต์มาปรากฏในช่วงสุดท้ายนี้เพื่อพวกคุณ 21 เพราะพระคริสต์นี่แหละ พวกคุณถึงมาไว้วางใจพระเจ้าได้ พระเจ้าได้ทำให้พระคริสต์ฟื้นขึ้นจากความตาย และให้เกียรติยศกับพระองค์ด้วย นี่เป็นเหตุผลที่พวกคุณฝากความไว้วางใจและความหวังไว้กับพระเจ้า

22 ตอนที่คุณเชื่อฟังความจริงนั้น คุณก็ได้ชำระตัวเองให้บริสุทธิ์แล้ว ตอนนี้เป้าหมายของคุณก็คือการมีความรักที่จริงใจให้กับพี่น้อง เพราะฉะนั้นขอให้รักกันและกันอย่างสุดหัวใจ 23 พวกคุณควรจะรักกันเพราะได้เกิดใหม่แล้ว ไม่ใช่จากเมล็ดที่เน่าเปื่อยได้ แต่จากเมล็ดที่ไม่มีวันเน่าเปื่อย เมล็ดนั้นคือถ้อยคำของพระเจ้าที่มีชีวิตถาวรตลอดไป

24 เหมือนกับที่พระคัมภีร์ เขียนไว้ว่า

“คนทุกคนเป็นเหมือนกับหญ้า
    เกียรติยศของเขาเป็นเหมือนดอกไม้ป่าในทุ่ง
หญ้าก็เหี่ยวแห้งไป
    และดอกไม้ก็ร่วงโรยไป
25 แต่ถ้อยคำของพระเจ้า ยืนยงถาวรตลอดไป”[c]

และถ้อยคำของพระเจ้านี้ก็คือข่าวดีที่เอามาประกาศให้คุณรู้แล้ว

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International