Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
กันดารวิถี 17-18

ไม้เท้าอาโรนแตกหน่อ

17 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ให้พูดกับประชาชนชาวอิสราเอลและให้หัวหน้าของแต่ละเผ่าเอาไม้เท้าของพวกเขามา รวมเป็นสิบสองอัน และให้เขียนชื่อของหัวหน้าเผ่าแต่ละคนลงไปบนไม้เท้าของเขานั้น ให้เขียนชื่อของอาโรนลงบนไม้เท้าของเผ่าเลวี เพราะจะมีไม้เท้าหนึ่งอันสำหรับหัวหน้าเผ่าแต่ละเผ่า ให้เอาไม้เท้าพวกนี้มาวางไว้ในเต็นท์นัดพบ ตรงหน้าหีบเก็บข้อตกลงเป็นสถานที่ที่เราพบกับพวกเจ้า เราเลือกคนไหน ไม้เท้าของคนนั้นก็จะแตกหน่อออกมา ด้วยวิธีนี้ เราจะได้หยุดการบ่นต่อว่าของประชาชนชาวอิสราเอลที่มีต่อพวกเจ้า”

โมเสสจึงพูดกับประชาชนชาวอิสราเอล และพวกผู้นำของเขาทุกคนก็เอาไม้เท้าของตัวเองมาให้กับโมเสส รวมเป็นสิบสองอัน จากเผ่าละอัน ไม้เท้าของอาโรนก็อยู่ท่ามกลางไม้เท้าของพวกเขาด้วย โมเสสวางไม้เท้าพวกนั้นไว้ต่อหน้าพระยาห์เวห์ในเต็นท์ที่เก็บข้อตกลง

วันต่อมา โมเสสได้เข้าไปในเต็นท์ที่เก็บข้อตกลง เขาเห็นไม้เท้าของอาโรนจากเผ่าเลวีแตกใบ แตกหน่อและมีดอกบาน พร้อมกับผลอัลมอนด์ด้วย โมเสสจึงเอาไม้เท้าทั้งหมดจากด้านหน้าของพระยาห์เวห์ ออกมาให้กับ ประชาชนอิสราเอล หัวหน้าแต่ละคนก็หาและหยิบไม้เท้าของตนเอง

10 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “เอาไม้เท้าของอาโรนกลับไปวางไว้ด้านหน้าหีบข้อตกลง เพื่อเก็บไว้ให้เป็นสิ่งคอยเตือนพวกนี้ที่ทรยศเรา เพื่อพวกเขาจะได้หยุดบ่นต่อว่าเรา และพวกเขาจะได้ไม่ตาย” 11 โมเสสจึงทำตามที่พระยาห์เวห์สั่งเขาทุกอย่าง

12 แต่ประชาชนชาวอิสราเอลพูดกับโมเสสว่า “ดูสิ พวกเราจะตาย พวกเราจะถูกทำลาย พวกเราจะถูกทำลายกันหมด 13 ทุกคนที่แค่เข้าไปใกล้เต็นท์ที่เก็บข้อตกลงของพระยาห์เวห์ ก็ต้องตายแล้ว พวกเราจะตายกันหมดหรือเปล่านี่”

งานของนักบวชเลวี

18 พระยาห์เวห์พูดกับอาโรนว่า “ตัวเจ้า ลูกชายของเจ้าและคนในตระกูลของเจ้า จะต้องรับโทษ ถ้ามีใครมาทำให้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์เสื่อมเสีย ตัวเจ้าและลูกชายจะต้องรับโทษ ถ้าทำหน้าที่นักบวชบกพร่องทำให้เกิดความเสื่อมเสีย ให้พาพี่น้องชาวเลวีคนอื่นๆที่อยู่เผ่าพันธุ์เดียวกับพ่อของเจ้ามาด้วย พวกเขาจะได้มาร่วมงานและช่วยเหลือเจ้าตอนที่เจ้าและลูกชายของเจ้าอยู่ต่อหน้าเต็นท์เก็บข้อตกลง พวกเขาจะต้องทำหน้าที่เป็นยามคอยเฝ้าระวังให้กับเจ้า คอยดูแลเต็นท์ที่เก็บข้อตกลง แต่พวกเขาต้องไม่เข้าไปใกล้เครื่องใช้ต่างๆที่ศักดิ์สิทธิ์ในเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์หรือแท่นบูชานั้น เพื่อว่าทั้งพวกเขาและเจ้าจะได้ไม่ตาย พวกเขาจะร่วมงานกับเจ้าและทำหน้าที่เป็นยามคอยเฝ้าระวังเต็นท์นัดพบ รวมทั้งงานหนักต่างๆที่เกี่ยวกับเต็นท์ด้วย แต่ห้ามคนที่ไม่มีสิทธิ์เข้ามาใกล้เจ้า

เจ้าต้องทำหน้าที่เป็นยามคอยเฝ้าระวังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และแท่นบูชา เพื่อเราจะได้ไม่โกรธประชาชนชาวอิสราเอล ดูสิ เราได้เลือกพวกพี่น้องชาวเลวีของเจ้า ออกมาจากประชาชนชาวอิสราเอล พวกเขาเป็นของขวัญสำหรับเจ้า ที่มอบให้กับพระยาห์เวห์ เพื่อทำงานหนักในเต็นท์นัดพบ อาโรน มีแต่เจ้าและลูกชายของเจ้าเท่านั้นที่จะทำหน้าที่นักบวช คอยดูแลทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับแท่นบูชาและที่อยู่หลังม่านนั้น และเจ้าก็ต้องทำงานด้วย เราจะให้งานเจ้าให้สมกับฐานะนักบวช แต่คนที่ไม่มีสิทธิ์ แล้วบุกรุกเข้ามาจะต้องถูกฆ่า”

พระยาห์เวห์พูดกับอาโรนว่า “ดูสิ เราเองได้มอบหมายงานให้เจ้าเป็นยามคอยเฝ้าระวังของขวัญต่างๆที่คนเอามาให้กับเรา รวมทั้งของขวัญอันศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดที่ประชาชนชาวอิสราเอลเอามา เราจะแบ่งสิ่งเหล่านั้นให้เจ้าและลูกชายของเจ้า เป็นส่วนแบ่งที่พวกเจ้าจะได้ตลอดไป ผู้คนจะเอาเครื่องบูชาต่างๆมาถวายเรา มีทั้งเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช เครื่องบูชาชำระล้าง เครื่องบูชาชดใช้ เครื่องบูชาพวกนี้ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด เจ้าจะได้ส่วนแบ่งจากเครื่องบูชาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดนี้ จากส่วนที่เก็บไว้ ที่ไม่ได้เอาไปเผาบนแท่นบูชา ส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดสำหรับเจ้าและพวกลูกชายของเจ้า 10 เจ้าต้องกินมันในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ผู้ชายในครอบครัวเจ้ากินได้หมดทุกคน มันเป็นของศักดิ์สิทธิ์สำหรับเจ้า

11 และของขวัญพิเศษอื่นๆที่ชาวอิสราเอลนำมายื่นถวายกับเรา ก็จะเป็นของเจ้าด้วย เราจะให้ของพวกนั้นกับเจ้า ลูกชายของเจ้าและลูกสาวของเจ้า นั่นเป็นส่วนแบ่งของเจ้า ในครอบครัวเจ้า ทุกคนที่บริสุทธิ์ตามพิธีกรรมก็กินได้

12 เมื่อชาวอิสราเอลนำผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้เป็นครั้งแรกมาถวายให้กับพระยาห์เวห์ มีน้ำมันมะกอกอย่างดี เหล้าองุ่นใหม่และเมล็ดข้าวทั้งหมด เราจะยกให้กับเจ้า 13 เมื่อพวกเขานำพืชผลที่สุกเป็นครั้งแรกในที่ดินของพวกเขามาถวายพระยาห์เวห์ ของถวายนั้นก็จะเป็นของพวกเจ้า ในครอบครัวเจ้า ทุกคนที่บริสุทธิ์ตามพิธีกรรม ก็กินได้

14 ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขานำมาถวายในอิสราเอล ก็จะเป็นของเจ้า

15 ลูกหัวปีไม่ว่าจะเป็นลูกคนหรือลูกสัตว์ ที่พวกเขาเอามาถวายให้กับพระยาห์เวห์จะเป็นของเจ้า แต่เจ้าจะต้องรับเงินที่เขาจ่ายเป็นค่าไถ่สำหรับลูกหัวปีของคน และลูกหัวปีของสัตว์ที่ไม่บริสุทธิ์[a] 16 เมื่อลูกหัวปีนั้นมีอายุได้หนึ่งเดือน เจ้าจะต้องมาซื้อคืนไปเป็นเงินหนักห้าเชเขล[b] ตายตัวตามมาตรฐานอย่างเป็นทางการ[c] โดยคิดหนึ่งเชเขลเท่ากับยี่สิบเกราห์[d]

17 แต่ลูกวัวหัวปี ลูกแกะหัวปี และลูกแพะหัวปี ห้ามไม่ให้เจ้าซื้อคืนไป พวกมันเป็นของศักดิ์สิทธิ์ เจ้าต้องเอาเลือดของพวกมันมาพรมลงบนแท่นบูชาและต้องเผาไขมันของพวกมัน เป็นของขวัญ ที่มีกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์ 18 แต่ส่วนที่เป็นเนื้อจะเป็นของเจ้า รวมทั้งส่วนอกของเครื่องยื่นบูชา และส่วนสะโพกข้างขวา ก็เป็นของเจ้าด้วย 19 พวกของขวัญศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดที่ชาวอิสราเอลเอามายื่นถวายให้กับพระยาห์เวห์ เรามอบให้กับเจ้า ลูกชายและลูกสาวของเจ้า มันเป็นส่วนของเจ้าตลอดไป มันจะเป็นข้อตกลง[e] ของพระยาห์เวห์ สำหรับเจ้าและลูกหลานรุ่นหลังจากเจ้าตลอดไป”

20 พระยาห์เวห์พูดกับอาโรนว่า “เจ้าจะไม่ได้รับส่วนแบ่งอะไรเลยในที่ดินของพวกเขา และเจ้าจะไม่ได้เป็นเจ้าของในส่วนแบ่งที่ดินท่ามกลางพวกเขา เราคือส่วนแบ่งของเจ้าและมรดกของเจ้าในท่ามกลางประชาชนชาวอิสราเอล

21 พวกชาวอิสราเอลจะถวายสิบเปอร์เซ็นต์ของพืชผลและสัตว์ที่เกิดใหม่ เรายกส่วนนี้ให้กับชาวเลวี นี่จะเป็นส่วนแบ่งของพวกเขา เป็นค่าตอบแทน ที่พวกเขาทำงานหนักในเต็นท์นัดพบ 22 ตั้งแต่นี้ไป ชาวอิสราเอลต้องไม่เข้าไปใกล้เต็นท์นัดพบ ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะถูกลงโทษ เพราะบาปของพวกเขาและจะตาย 23 มีแต่ชาวเลวีเท่านั้นที่จะทำงานให้เต็นท์นัดพบ และพวกเขาจะต้องรับผิดชอบต่อความบาปที่เกิดขึ้น นี่จะเป็นกฎของพวกเจ้าตลอดไป และพวกเลวีก็จะไม่ได้ส่วนแบ่งอะไรเลยในที่ดินของชาวอิสราเอล 24 ชาวอิสราเอลจะถวายสิบเปอร์เซ็นต์ของรายได้เป็นของขวัญให้กับพระยาห์เวห์ แล้วเราจะให้ส่วนนี้กับชาวเลวี เป็นส่วนแบ่งแทนที่ดิน เพราะอย่างนี้ เราถึงได้บอกชาวเลวีว่า พวกเขาจะไม่ได้ส่วนแบ่งอะไรเลยในที่ดิน ท่ามกลางประชาชนชาวอิสราเอล”

25 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 26 “ให้บอกชาวเลวีว่า ‘เมื่อคนอิสราเอลเอาสิบเปอร์เซ็นต์ของรายได้มาถวายให้กับเรา เราก็ได้มอบส่วนนี้ให้เป็นส่วนแบ่งของเจ้า เมื่อเจ้าได้รับส่วนแบ่งนี้แล้ว เจ้าต้องถวายสิบเปอร์เซ็นต์ของส่วนแบ่งนั้นให้กับพระยาห์เวห์ด้วย 27 ของขวัญของเจ้านี้ พระเจ้าก็จะนับให้กับเจ้าเหมือนกับว่ามันเป็นเมล็ดข้าวจากลานนวดข้าวและน้ำองุ่นที่เต็มล้นในบ่อย่ำองุ่น 28 ดังนั้น เมื่อเจ้าได้รับสิบเปอร์เซ็นต์ที่ชาวอิสราเอลเอามาถวายพระยาห์เวห์ เจ้าก็ต้องถวายของขวัญให้กับพระยาห์เวห์เหมือนกัน จากของขวัญที่เจ้าเอามาถวายให้กับพระยาห์เวห์นี้ เจ้าต้องเอาไปให้กับนักบวชอาโรน 29 เจ้าจะต้องแยกส่วนที่ดีที่สุดจากของขวัญแต่ละอย่างทั้งหมดที่เจ้าได้รับมา เอาไว้เป็นของขวัญจากเจ้าที่ให้พระยาห์เวห์’

30 และให้บอกกับพวกเลวีว่า ‘เมื่อเจ้าเอาส่วนที่ดีที่สุดของมันมาถวายแล้ว พระเจ้าก็จะถือว่าส่วนที่เหลือนั้น เป็นของเจ้าชาวเลวี เหมือนกับตอนที่เอาผลผลิตจากลานนวดข้าว และผลผลิตจากบ่อย่ำองุ่น มาถวายนั่นเอง 31 เจ้าและครอบครัวของเจ้าจะกินมันที่ไหนก็ได้ เพราะมันเป็นค่าแรงของเจ้าที่ทำงานในเต็นท์นัดพบ 32 และถ้าเจ้าถวายส่วนที่ดีที่สุดของมันให้กับพระยาห์เวห์ เจ้าจะไม่ต้องรับโทษบาปเพราะมัน เจ้าต้องไม่ทำให้ของขวัญอันศักดิ์สิทธิ์ของประชาชนชาวอิสราเอล เสื่อมเสียไป เพื่อเจ้าจะได้ไม่ตาย’”

สดุดี 55

โดนเพื่อนหักหลัง

ถึงหัวหน้านักร้อง ให้ใช้เครื่องดนตรีประกอบเพลง บทกวีมัสคิลของดาวิด

ข้าแต่พระเจ้า โปรดเงี่ยหูฟังคำอธิษฐานของข้าพเจ้า
    โปรดอย่าเพิกเฉยต่อคำอธิษฐานขอความเมตตาของข้าพเจ้าเลย
โปรดรับฟังและตอบข้าพเจ้าด้วย
    เมื่อข้าพเจ้าเล่าถึงสิ่งที่ทำให้จิตใจข้าพเจ้าว้าวุ่น
ข้าพเจ้ากลัวมากเพราะศัตรูของข้าพเจ้าข่มขู่ข้าพเจ้าอยู่
    และคนชั่วกดขี่ข้าพเจ้า
เขาเอาเรื่องร้ายๆมาโยนใส่หัวข้าพเจ้า
    พวกเขาโกรธแค้นข้าพเจ้า

หัวใจของข้าพเจ้าเต้นแรงอยู่ภายใน
    ข้าพเจ้ากลัวจะต้องตาย
ข้าพเจ้ากลัวจนตัวสั่น
    กลัวจับใจ
และข้าพเจ้าคิดในใจว่า ถ้าข้าพเจ้ามีปีกอย่างนกเขา
    ข้าพเจ้าจะบินหนีไปสู่ที่ที่ปลอดภัย
ข้าพเจ้าจะบินไปไกลลิบ
    ถึงทะเลทรายและอาศัยอยู่ที่นั่น เซลาห์

ข้าพเจ้าจะหนีไปสู่ที่ที่ปลอดภัย
    ข้าพเจ้าจะหนีจากมรสุมร้ายในชีวิต
ข้าแต่องค์เจ้าชีวิต ช่วยทำให้คำพูดและแผนของพวกเขาสับสนอลหม่านไป
    เพราะข้าพเจ้าเห็นความรุนแรงและการขัดแย้งกันในเมือง
10 ความรุนแรงและความขัดแย้งนั้นเป็นเหมือนยามเดินตรวจเวรอยู่บนกำแพงทั้งวันทั้งคืน
    ในขณะที่เมืองเต็มไปด้วยอาชญากรรมและการกระทำชั่วร้าย
11 มีแต่อาชญากรรมทั่วเมือง
    คนที่พูดโกหกและคดโกงไม่เคยขาดหายไปจากท้องถนน

12 ถ้าศัตรูดูถูกเหยียดหยามข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็ทนได้
    ถ้าคนที่เกลียดข้าพเจ้ารังแกข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็ไปแอบซ่อนได้
13 แต่นี่เป็นเจ้า เพื่อนที่มีใจตรงกัน
    เพื่อนสนิทและเพื่อนรู้ใจ ที่กำลังโจมตีข้าพเจ้า
14 ในอดีต เราสนุกสนานกับการพูดคุยกันอย่างสนิทสนม
    และเดินด้วยกันท่ามกลางฝูงชนในวิหารของพระเจ้า
15 ข้าพเจ้าอยากให้พวกศัตรูของข้าพเจ้าตายอย่างไม่ทันรู้ตัว
    ข้าพเจ้าอยากให้แผ่นดินแยกออก และกลืนพวกเขาทั้งเป็น[a]
    เพราะสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายสิงสถิตอยู่ในใจของพวกเขา

16 ส่วนข้าพเจ้าจะร้องขอให้พระเจ้าช่วย
    และพระยาห์เวห์จะช่วยกู้ข้าพเจ้า
17 ข้าพเจ้าร้องทุกข์และคร่ำครวญทั้งเช้า เที่ยง เย็น
    และพระองค์ก็ได้ยินเสียงของข้าพเจ้า
18 พระองค์นำข้าพเจ้ากลับมาจากการรบอย่างปลอดภัย
    ถึงแม้มีข้าศึกมากมายต่อสู้กับข้าพเจ้า
19 พระเจ้าผู้ครอบครองเป็นกษัตริย์มาตั้งแต่โบราณกาลนั้น
    พระองค์จะฟังเสียงของข้าพเจ้าและพระองค์จะทำให้คนพวกนั้น อับอายขายหน้า เซลาห์
ศัตรูของข้าพเจ้าไม่ยอมเปลี่ยนวิถีทางของเขา
    และไม่ยำเกรงพระเจ้า

20 เพื่อนของข้าพเจ้าหักหลังข้าพเจ้า
    เขาไม่ได้รักษาคำพูดเลย
21 คำพูดของเขานุ่มเหมือนเนยแต่ใจของเขามีแต่สงคราม
    คำพูดของเขาลื่นเหมือนน้ำมัน แต่เชือดเฉือนเหมือนดาบ

22 มอบภาระของเจ้าไว้กับพระยาห์เวห์สิ แล้วพระองค์จะดูแลเจ้า
    พระองค์ไม่เคยปล่อยให้คนดีลื่นล้ม

23 ข้าแต่พระเจ้า ส่วนพระองค์นั้นพระองค์จะโยนพวกฆาตกรและพวกโกหกหลอกลวงทั้งหลายลงไปในหลุมศพให้เน่าเปื่อย
    ทั้งๆที่เขายังใช้ชีวิตไม่ถึงครึ่งหนึ่งเลย
    ส่วนข้าพเจ้านั้น ข้าพเจ้าจะไว้วางใจในพระองค์

อิสยาห์ 7

อารามก่อปัญหาให้กับยูดาห์

ในช่วงที่อาหัส[a] ลูกของโยธาม ที่เป็นลูกของอุสซียาห์[b] ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ของยูดาห์ กษัตริย์เรซีนของอาราม[c] และเปคาห์ลูกของเรมาลิยาห์เป็นกษัตริย์ของอิสราเอล ทั้งเรซีนและเปคาห์ได้บุกขึ้นไปโจมตีเมืองเยรูซาเล็ม แต่ไม่สามารถเอาชนะเมืองนั้นได้ กษัตริย์อาหัสของยูดาห์[d] ได้รับรายงานเรื่องนี้ว่า อารามได้ตั้งค่ายอยู่ในเขตแดนของเอฟราอิม กษัตริย์อาหัสและคนของพระองค์ก็กลัวจนตัวสั่น เหมือนต้นไม้ในป่าที่ถูกลมพัดสั่นไหวไปมา

พระยาห์เวห์พูดกับอิสยาห์ว่า “ให้เจ้าและเชอารยาชูบ[e] ลูกของเจ้า ออกไปหาอาหัส ตรงบริเวณปลายรางน้ำของสระด้านบน ตรงถนนที่มุ่งไปยังทุ่งของคนซักผ้าใหม่ ให้บอกกับอาหัสว่า ‘ระวังตัวให้ดี และใจเย็นๆไม่ต้องกลัว และไม่ต้องใจฝ่อไป เรื่องสองคนนั้นที่ตอนนี้เป็นเหมือนเศษดุ้นฟืนสองดุ้นที่ใกล้จะมอดแล้ว ไม่ต้องไปกลัวที่เรซีน อาราม และเปคาห์ลูกของเรมาลิยาห์โกรธแค้นเจ้า หรือที่อาราม พร้อมกับเอฟราอิม และเปคาห์ลูกของเรมาลิยาห์ ได้วางแผนต่อต้านเจ้า และพูดกันว่า “พวกเราไปบุกยูดาห์กันเถอะ ไปทำให้มันขวัญหนีดีฝ่อ และเอาชนะมัน แล้วตั้งลูกของทาเบเอลขึ้นเป็นกษัตริย์ที่นั่น”’”

พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า

“แผนของพวกมันจะไม่สำเร็จ
    และมันจะไม่เกิดขึ้นตามนั้น
เพราะหัวของอารามก็เป็นแค่เมืองดามัสกัสนั่น
    และหัวของดามัสกัสก็เป็นแค่ไอ้เรซีนนั่น
(ภายในหกสิบห้าปี เอฟราอิมจะถูกทำลายแตกเป็นชิ้นๆจนไม่เป็นชนชาติอีกต่อไป)
ส่วนหัวของเอฟราอิมก็เป็นแค่เมืองสะมาเรีย
    และหัวของเมืองสะมาเรียก็เป็นแค่ไอ้ลูกของเรมาลิยาห์คนนั้น
ถ้าเจ้าไม่ยืนหยัดในพระเจ้า
    เจ้าก็จะไม่มีทางยืนอยู่ได้เลย”

อิมมานูเอล พระเจ้าอยู่กับเรา

10 พระยาห์เวห์พูดกับอาหัสอีกครั้งว่า 11 “ขอเราพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าให้ทำอะไรก็ได้ที่พิสูจน์ว่าที่เราพูดนั้นเป็นจริง ขอมาเลย อะไรก็ได้ ไม่ว่าจะมาจากที่ลึกของแดนผู้ตาย หรือมาจากที่สูงถึงฟ้าสวรรค์”

12 แต่อาหัสตอบว่า “ข้าพเจ้าจะไม่ขอหรอกครับ ข้าพเจ้าจะไม่ทดสอบพระยาห์เวห์”

13 แล้วอิสยาห์ก็พูดว่า “อย่างนั้น ฟังให้ดี ครอบครัวของดาวิด ที่เจ้าทำให้มนุษย์หมดความอดทนนั้นยังไม่พออีกหรือ ยังจะต้องมาทำให้พระเจ้าของผมหมดความอดทนไปด้วยหรือ 14 เพราะอย่างนี้แหละ องค์เจ้าชีวิตเองจะให้สิ่งที่พิสูจน์กับเจ้า

ดูนะ หญิงสาวคนนั้น[f]
    ตั้งท้องอยู่
    และกำลังจะคลอดลูกชาย
    เธอจะตั้งชื่อลูกว่า อิมมานูเอล[g]
15 เด็กคนนั้นจะกินเนยและน้ำผึ้ง[h]
    จนถึงเวลาที่เขาเริ่มปฏิเสธอาหารที่ไม่ชอบ
    และเลือกอาหารที่ชอบ[i]
16 เพราะก่อนที่เด็กจะเริ่มปฏิเสธอาหารที่ไม่ชอบ
    และเลือกอาหารที่ชอบเป็น
    แผ่นดินของกษัตริย์สององค์นั้นที่ท่านกลัว
    ก็จะถูกทิ้งให้รกร้างไปแล้ว

17 แต่พระยาห์เวห์จะนำวันเวลาแห่งความเดือดร้อนมาให้กับเจ้ากับคนของเจ้าและกับครอบครัวของเจ้าอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตั้งแต่เอฟราอิมแยกออกมาจากยูดาห์ พระยาห์เวห์จะนำกษัตริย์อัสซีเรีย[j] มาต่อสู้กับเจ้า”

18 ในวันนั้น พระยาห์เวห์จะผิวปากเรียกแมลงวันตัวนั้น ที่อยู่ตามต้นน้ำทั้งหลายของลำธารต่างๆของอียิปต์ และจะผิวปากเรียกผึ้งตัวนั้นที่อยู่ในแผ่นดินของอัสซีเรีย 19 แมลงวันและผึ้งพวกนั้น ก็จะมาตั้งค่ายอยู่ในหุบเขาลึก ตามถ้ำตามหน้าผาต่างๆตามพงหนามและตามหลุมน้ำต่างๆ 20 ในวันนั้น องค์เจ้าชีวิตจะโกนหัวเจ้าและขนที่เท้า[k][l] ด้วยมีดโกนที่เช่ามาจากอีกฝั่งของแม่น้ำยูเฟรติสคือกษัตริย์อัสซีเรียนั่นเอง

21 ในวันนั้น คนหนึ่งจะเหลือได้แค่วัวสาวตัวหนึ่งและแพะสองตัว 22 และเพราะพวกมันให้นมจำนวนมาก คนนั้นก็เอามาทำเนยกิน คนที่ยังคงเหลืออยู่ในแผ่นดินนั้นก็จะกินเนยและน้ำเชื่อมผลไม้ 23 ในวันนั้น สวนองุ่นที่เคยมีเถาองุ่นหนึ่งพันเถาที่มีค่าหนึ่งพันเหรียญเงิน จะมีหญ้าคาและหนามขึ้นรกไปหมด 24 คนก็จะเอาธนูและลูกธนูเข้าไปล่าสัตว์ที่นั่น เพราะทั้งแผ่นดินก็มีแต่พงหญ้าและหนามขึ้นเต็มไปหมด 25 คนจะไม่ขึ้นไปตามเนินเขาพวกนั้นที่เคยมีการถางด้วยจอบอีกต่อไป เพราะจะกลัวความรกของพงหญ้าและหนาม มันจะกลายเป็นที่สำหรับปล่อยฝูงสัตว์ไปหากินและให้ฝูงแพะแกะไปเหยียบย่ำ

ยากอบ 1

จากยากอบผู้รับใช้ของพระเจ้า และของพระเยซูผู้เป็นพระคริสต์และองค์เจ้าชีวิต

ถึงคนทั้งสิบสองเผ่าของพระเจ้าที่ได้กระจัดกระจายไปทั่วโลก

สวัสดีครับ

ความซื่อสัตย์และความเฉลียวฉลาด

พี่น้องครับ เมื่อคุณถูกลองใจในเรื่องต่างๆ ก็ให้ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะคุณก็รู้อยู่แล้วว่า การถูกลองใจนั้นจะทดสอบความเชื่อของคุณ ซึ่งจะช่วยให้คุณเกิดความอดทนอดกลั้น คุณต้องเรียนรู้ที่จะอดทนอดกลั้นกับทุกอย่าง เพื่อจะได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ จะได้ไม่ขาดตกบกพร่องอะไรเลย แต่ถ้าคนไหนในพวกคุณขาดความฉลาด ก็ให้ขอจากพระเจ้า แล้วพระองค์จะให้ เพราะพระองค์ใจดีและจะให้กับทุกคนโดยไม่ต่อว่าเลย แต่คนนั้นจะต้องขอด้วยความเชื่อ อย่าสงสัยเลย เพราะคนที่สงสัยพระเจ้าก็เหมือนกับคลื่นในทะเลที่ถูกลมพัดซัดไปซัดมา คนอย่างนั้นไม่ต้องหวังว่าจะได้รับอะไรจากองค์เจ้าชีวิตเลย เพราะเป็นคนโลเล เอาแน่เอานอนไม่ได้สักเรื่อง

ความร่ำรวยที่แท้จริง

พี่น้องที่ยากจนก็ควรจะโอ้อวดที่พระเจ้าได้ทำให้เขาร่ำรวยฝ่ายวิญญาณ 10 ส่วนคนที่ร่ำรวย เมื่อพระเจ้าทำให้เขาตกต่ำลง ก็ควรจะโอ้อวดด้วยเหมือนกัน เพราะคนร่ำรวยนี้จะร่วงโรยไปเหมือนดอกหญ้า 11 เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น แสงแดดก็จะแผดเผาต้นหญ้าให้เหี่ยวแห้งไป ดอกของมันร่วงโรยไป และความสวยงามของมันก็ถูกทำลายไปจนหมดสิ้น คนรวยก็เหมือนกัน จะต้องตายไปในขณะที่กำลังวุ่นอยู่กับงานของเขา

การล่อลวงไม่ได้มาจากพระเจ้า

12 สำหรับคนที่ทนต่อการทดลองและการล่อลวงต่างๆได้ ก็ถือว่ามีเกียรติจริงๆเพราะเมื่อเขาผ่านการทดลองนี้ไปได้ เขาจะได้รับรางวัล[a]แห่งชีวิตแท้ เป็นรางวัลที่พระเจ้าได้สัญญาว่าจะให้กับคนที่รักพระองค์ 13 อย่าให้คนที่กำลังถูกล่อลวงพูดว่า “พระเจ้าล่อลวงฉัน” เพราะพระเจ้าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องชั่วร้ายและพระองค์ก็ไม่เคยล่อลวงใครด้วย 14 แต่เป็นเพราะกิเลสของตัวเองต่างหากที่มาล่อลวงและชักนำให้หลงไป 15 เมื่อกิเลสตั้งท้อง มันก็จะคลอดความบาปออกมา แล้วเมื่อความบาปโตเต็มที่ มันก็จะคลอดความตายออกมา

16 พี่น้องที่รัก อย่าให้ถูกหลอกเอาล่ะ 17 ของดีๆและยอดเยี่ยมทุกอย่างลงมาจากพระเจ้าเบื้องบน พระองค์เป็นผู้สร้างดวงสว่างต่างๆในฟ้าสวรรค์ แต่พระองค์ไม่เหมือนกับดวงสว่างเหล่านั้นหรือเงาของมันที่เคลื่อนไหวไปมา เพราะพระองค์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง 18 พระเจ้าได้เลือกเราให้เกิดเป็นลูกของพระองค์ โดยถ้อยคำแห่งความจริง เพื่อในสิ่งสารพัดที่พระเจ้าได้สร้างขึ้นมาแล้วนั้น เราจะเป็นสิ่งแรก[b]ที่ได้รับการสร้างขึ้นมาใหม่

ให้รับฟังและเชื่อฟัง

19 พี่น้องที่รัก จำไว้ว่าให้ทุกคนว่องไวในการฟัง ช้าในการพูด และช้าในการโกรธ 20 เพราะความโกรธนั้น ไม่ได้ช่วยทำให้ใครมีชีวิตที่พระเจ้าชอบใจหรอก 21 กำจัดความสกปรกเลวทรามทุกชนิดและความชั่วร้ายอันล้นเหลือออกจากชีวิตให้หมดสิ้น แล้วยอมรับให้ถ้อยคำของพระเจ้าฝังลงไปในใจคุณแทนอย่างสุภาพนอบน้อม เพราะถ้อยคำของพระเจ้าสามารถช่วยให้คุณรอดได้ 22 ให้ทำตามคำสั่งสอนของพระเจ้าอยู่เสมอ อย่าเอาแต่ฟังเฉยๆเพราะนั่นเป็นการหลอกตัวเอง 23 เพราะคนที่ฟังคำสั่งสอนของพระเจ้า แล้วไม่ทำตาม ก็เหมือนกับคนที่ส่องหน้าตัวเองในกระจก 24 พอส่องเสร็จ เดินไปก็ลืมแล้วว่าหน้าตาเป็นอย่างไร 25 แต่คนที่เอาใจใส่ในกฎของพระเจ้า เป็นกฎที่สมบูรณ์แบบและให้เสรีภาพ แล้วสำรวจมันอย่างถี่ถ้วน ไม่ใช่เป็นคนฟังที่ขี้หลงขี้ลืม แต่ทำตามคำสั่งสอน คนนั้นจะได้รับเกียรติในสิ่งที่เขาทำ

ศาสนาที่แท้จริง

26 ถ้าใครคิดว่าเขาเป็นคนเคร่งศาสนา แต่ไม่รู้จักควบคุมลิ้นของตัวเอง เขาก็หลอกลวงตัวเอง การเคร่งศาสนาของเขา ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย

27 ศาสนาที่บริสุทธิ์ และแท้จริงตามแบบของพระเจ้าพระบิดา คือ การช่วยเหลือเด็กกำพร้าและแม่ม่ายที่เดือดร้อน และการรักษาตัวเองไม่ให้แปดเปื้อนกับความชั่วร้ายของโลกนี้

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International