Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
กันดารวิถี 19

ขี้เถ้าของวัวแดง

19 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสและอาโรนว่า “นี่เป็นกฎข้อบังคับที่พระยาห์เวห์ได้สั่งไว้ ให้บอกกับประชาชนชาวอิสราเอลว่า ให้พวกเขาเอาวัวตัวเมียสีแดงหนึ่งตัวที่ไม่มีตำหนิหรือรอยฟกช้ำใดๆมาให้กับเจ้า และต้องเป็นวัวที่ไม่เคยถูกเทียมแอก[a] มาก่อน พวกเจ้าต้องเอาวัวตัวนั้นมาให้กับนักบวชเอเลอาซาร์ เขาจะจูงมันออกไปนอกค่าย และฆ่ามันต่อหน้าเขา แล้วนักบวชเอเลอาซาร์ต้องเอานิ้วมือจุ่มลงไปในเลือดของมัน และพรมเลือดไปที่หน้าเต็นท์นัดพบเจ็ดครั้ง แล้วต้องเผาวัวแดงนั้นต่อหน้าเขา ต้องเผาหนัง เนื้อและเลือด รวมทั้งขี้ของมันไปพร้อมๆกัน นักบวชต้องนำไม้สนซีดาร์ กิ่งหุสบ[b] และด้ายสีแดงเข้ม โยนลงไปในไฟที่กำลังเผาวัวแดงนั้น นักบวชต้องซักเสื้อผ้าของเขา และล้างตัวในน้ำ หลังจากนั้น นักบวชถึงกลับเข้ามาในค่ายได้ แต่เขาจะยังไม่บริสุทธิ์ทางพิธีกรรมจนกว่าจะถึงตอนเย็น คนที่เผาวัวแดงต้องเอาเสื้อผ้าไปซักและล้างตัวในน้ำ และเขาจะไม่บริสุทธิ์ทางพิธีกรรมไปจนถึงตอนเย็นเหมือนกัน

แล้วให้ผู้ชายคนหนึ่งที่ยังบริสุทธิ์ทางพิธีกรรมไปโกยขี้เถ้าของวัวแดง และเอาไปเก็บไว้ในที่ที่สะอาดนอกค่าย ขี้เถ้านั้นจะถูกเก็บไว้ ผสมน้ำสำหรับชำระชุมชนชาวอิสราเอลให้บริสุทธิ์ มันคือเครื่องบูชาที่ทำให้คนบริสุทธิ์

10 คนที่ไปโกยขี้เถ้าวัวแดงนั้น ต้องซักเสื้อผ้าของเขา และจะไม่บริสุทธิ์ทางพิธีกรรมไปจนถึงตอนเย็น นี่จะเป็นกฎข้อบังคับที่จะใช้ตลอดไป ทั้งกับชาวอิสราเอลและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ร่วมกับพวกเขา 11 คนที่ไปแตะต้องร่างคนตายมา ไม่ว่าจะเป็นร่างของใครก็ตาม คนๆนั้นจะไม่บริสุทธิ์ทางพิธีกรรมไปเป็นเวลาเจ็ดวัน 12 เขาจะต้องล้างตัวเองให้บริสุทธิ์ทางพิธีกรรมด้วยน้ำสำหรับชำระล้างนั้น แล้วเขาจะบริสุทธิ์ แต่ถ้าเขาไม่ล้างตัวเองให้บริสุทธิ์ในวันที่สามและในวันที่เจ็ด เขาจะยังคงไม่บริสุทธิ์ 13 คนที่ไปถูกศพมา และไม่ได้ชำระล้างตัวเองให้บริสุทธิ์ทางพิธีกรรม เขาก็จะทำให้เต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ของพระยาห์เวห์ไม่บริสุทธิ์ไปด้วย คนๆนั้นจะต้องถูกตัดออกจากคนอิสราเอล ถ้าไม่ได้เอาน้ำสำหรับชำระล้างลาดลงบนตัวเขา เขาก็จะยังคงไม่บริสุทธิ์ทางพิธีกรรมต่อไป ความไม่บริสุทธิ์ยังคงติดตัวเขาอยู่

14 นี่เป็นกฎที่ใช้ เมื่อมีคนตายในเต็นท์ คนที่เข้าไปในเต็นท์นั้น หรือคนที่อยู่ในเต็นท์นั้น จะไม่บริสุทธิ์ไปเจ็ดวัน 15 หม้อทุกใบที่เปิดฝาทิ้งไว้หรือไม่มีฝาปิดก็จะไม่บริสุทธิ์ 16 ใครก็ตามที่อยู่ในท้องทุ่ง แล้วเกิดไปแตะต้องถูกคนที่ถูกฟันตาย หรือคนที่ตายตามธรรมชาติ หรือกระดูกคนหรือหลุมศพ คนๆนั้นก็จะไม่บริสุทธิ์ไปเจ็ดวัน

17 ดังนั้นเจ้าต้องเอาขี้เถ้าของวัวแดงจากเครื่องบูชาชำระล้างนั้น มาให้กับคนที่ไม่บริสุทธิ์และเอาน้ำบริสุทธิ์[c] มาเทผสมเข้ากับขี้เถ้านั้นที่อยู่ในชาม 18 ให้คนที่บริสุทธิ์เอากิ่งหุสบจุ่มลงในน้ำและพรมไปที่เต็นท์ และพวกถ้วยชามต่างๆ รวมทั้งคนที่อยู่ในเต็นท์นั้นด้วย และพรมให้กับคนที่ไปแตะต้องถูกของพวกนี้คือกระดูกคนตาย หรือคนที่ถูกฟันตาย หรือคนที่ตายตามธรรมชาติ หรือหลุมฝังศพ

19 คนที่บริสุทธิ์คนนั้น จะต้องพรมน้ำนั้นให้กับคนที่ไม่บริสุทธิ์ในวันที่สามและวันที่เจ็ด ด้วยวิธีนี้ เขาจะทำให้คนๆนั้นบริสุทธิ์ในวันที่เจ็ด แล้วคนที่ไม่บริสุทธิ์นั้นต้องซักล้างเสื้อผ้า และล้างตัวเองในน้ำ และเขาจะบริสุทธิ์ในตอนเย็น

20 คนที่กลายเป็นคนไม่บริสุทธิ์ และไม่ได้ทำให้ตัวเองบริสุทธิ์ คนๆนั้นจะต้องถูกตัดออกจากชุมชน เพราะคนๆนั้นทำให้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระยาห์เวห์ไม่บริสุทธิ์ เพราะยังไม่ได้เอาน้ำสำหรับการชำระล้างราดบนตัวเขา คนๆนั้นก็ยังไม่บริสุทธิ์อยู่ 21 กฎนี้จะใช้กับพวกเขาตลอดไป คนที่พรมน้ำชำระล้างให้กับคนอื่นนั้น จะต้องซักเสื้อผ้าของเขา และคนที่แตะถูกน้ำสำหรับชำระล้าง จะไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงตอนเย็น 22 คนที่ไม่บริสุทธิ์ไปแตะถูกอะไรก็ตาม สิ่งนั้นก็จะไม่บริสุทธิ์ไปด้วย และคนอื่นที่ไปแตะถูกตัวเขาก็จะไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงเย็น”

สดุดี 56-57

ไว้วางใจในพระเจ้าเมื่อถูกตามรังควาน

ถึงหัวหน้านักร้อง ให้ร้องเพลงนี้ตามทำนอง “นกเขาบนต้นโอ๊กที่ไกลโพ้น” เพลง มิคทาม[a] ของดาวิด เมื่อครั้งที่ชาวฟีลิสเตียจับดาวิดในเมืองกัท[b]

ข้าแต่พระเจ้า โปรดเมตตาข้าพเจ้าด้วยเถิด เพราะคนตามรังควานข้าพเจ้า
    ศัตรูของข้าพเจ้าโจมตีข้าพเจ้าตลอดเวลา
คนพวกนั้นที่คอยจับตาดูข้าพเจ้า ตามรังควานข้าพเจ้าตลอดเวลา
    มีหลายคนสู้รบกับข้าพเจ้าอยู่
พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด
เมื่อข้าพเจ้าหวาดกลัว
    ข้าพเจ้าจะไว้วางใจในพระองค์
ข้าพเจ้าไว้วางใจพระเจ้า และโอ้อวดในคำสัญญาของพระองค์
    ข้าพเจ้าไว้วางใจพระเจ้า ข้าพเจ้าก็เลยไม่กลัว
    มนุษย์จะทำอะไรข้าพเจ้าได้

พวกเขาต่างบิดเบือนคำพูดของข้าพเจ้าตลอดเวลา
    พวกเขาคิดแต่เรื่องที่ว่าจะทำร้ายข้าพเจ้ายังไง
ศัตรูของข้าพเจ้ารวมตัวกันเฝ้าติดตามดูข้าพเจ้าอยู่ทุกฝีก้าว
    เพื่อหวังจะฆ่าข้าพเจ้าเสีย
ข้าแต่พระเจ้า อย่าปล่อยให้พวกที่ทำชั่วนั้นลอยนวลไปได้
    เหวี่ยงพวกเขาลงกับพื้นด้วยความโกรธของพระองค์

พระองค์จดบันทึกความทุกข์โศกของข้าพเจ้า
    พระองค์เก็บน้ำตาทุกหยดของข้าพเจ้าไว้ในขวดของพระองค์
    เรื่องนี้จดอยู่ในหนังสือม้วนของพระองค์ ไม่ใช่หรือ
เมื่อข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์ พวกศัตรูของข้าพเจ้าก็จะหันหลังวิ่งหนีไป
    ข้าพเจ้ารู้ดีว่าพระเจ้าอยู่ฝ่ายข้าพเจ้า
10 ข้าพเจ้าไว้วางใจพระเจ้าและโอ้อวดในคำสัญญาของพระองค์
    ข้าพเจ้าไว้วางใจพระยาห์เวห์และโอ้อวดในคำสัญญาของพระองค์
11 ข้าพเจ้าไว้วางใจพระเจ้า
    ข้าพเจ้าไม่กลัว มนุษย์จะทำอะไรข้าพเจ้าได้

12 ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าจะแก้บนทั้งหลายที่บนบานไว้กับพระองค์
    ข้าพเจ้าจะถวายเครื่องบูชาขอบคุณแด่พระองค์
13 เพราะพระองค์ได้ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากความตาย
    พระองค์ช่วยให้เท้าของข้าพเจ้าไม่สะดุดล้ม
เพื่อข้าพเจ้าจะได้เดินอยู่ต่อหน้าพระเจ้าในความสว่างที่ส่องลงมายังคนที่มีชีวิต

อธิษฐานขอให้รอดพ้นจากศัตรูที่ดุร้าย

(สดด. 108:1-5)

ถึงหัวหน้านักร้อง ให้ร้องเพลงด้วยทำนอง “อย่าทำลาย” เพลงมิคทาม[c]ของดาวิด เมื่อครั้งที่ดาวิดหนีซาอูลไปอยู่ในถ้ำ

ข้าแต่พระเจ้า โปรดเมตตาด้วย โปรดเมตตาด้วยเถิด
    เพราะข้าพเจ้าแสวงหาที่ลี้ภัยในพระองค์
และแสวงหาที่กำบังภายใต้ปีกของพระองค์
    จนกว่าเรื่องอันตรายนี้จะผ่านพ้นไป
ข้าพเจ้าร้องเรียกหาพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด
    ข้าพเจ้าอธิษฐานถึงพระเจ้าผู้ที่แก้แค้นแทนข้าพเจ้า
ขอให้พระองค์ส่งความช่วยเหลือมาจากสวรรค์มาช่วยกู้ข้าพเจ้า
    ขอให้พระองค์ทำให้ศัตรูของข้าพเจ้าอับอาย เซลาห์
ขอให้พระเจ้าส่งความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์ที่เชื่อถือได้ของพระองค์ลงมาให้

ข้าพเจ้าจะต้องนอนลงท่ามกลางศัตรูที่เหมือนสิงโตกินคน
    พวกเขามีฟันเหมือนคมหอกคมธนูและมีลิ้นเหมือนดาบที่คมกริบ

ข้าแต่พระเจ้า ขอให้พระองค์ขึ้นมาเหนือฟ้าสวรรค์
    ขอให้รัศมีของพระองค์ส่องไปทั่วโลก

พวกศัตรูวางตาข่ายดักขาข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้ารู้สึกเครียดมาก
พวกเขาขุดหลุมพรางให้ข้าพเจ้าตกลงไป
    แต่พวกเขากลับตกลงไปในกับดักของเขาเอง เซลาห์

ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าพร้อมแล้ว
    ใจของข้าพเจ้าเตรียมพร้อมแล้ว
ข้าพเจ้าจะร้องเพลง และเล่นดนตรีเพื่อสรรเสริญพระองค์
จิตวิญญาณของข้า ตื่นเถิด
พิณใหญ่ และพิณโบราณ ตื่นเถิด
    แล้วข้าพเจ้าจะใช้เพลงปลุกอรุณรุ่ง
องค์เจ้าชีวิต ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย
    และจะร้องเพลงเกี่ยวกับพระองค์ให้ทุกคนฟัง
10 เพราะความรักมั่นคงของพระองค์นั้นสูงเทียมฟ้าสวรรค์
    ความสัตย์ซื่อของพระองค์นั้นขึ้นสูงเสียดเมฆ

11 ข้าแต่พระเจ้า ขอให้พระองค์ขึ้นมาเหนือฟ้าสวรรค์
    ขอให้รัศมีของพระองค์ส่องไปทั่วโลก

อิสยาห์ 8:1-9:7

อัสซีเรียจะมาบุกในเร็วๆนี้

พระยาห์เวห์พูดกับผมว่า “ให้เอาแผ่นดินเหนียว[a] แผ่นใหญ่มาแผ่นหนึ่งแล้วเอาปากกาปลายแหลมที่คนใช้กันทั่วไป[b] เขียนลงไปว่า ‘มาเฮอร์ชาลาลหัชบัส’”[c]

แล้วผมก็ได้เอาอุรียาห์ที่เป็นนักบวช และเศคาริยาห์ลูกของเยเบเรคียาห์ มาเป็นพยานที่เชื่อถือได้ว่าผมเขียนอย่างนั้น จากนั้นผมก็เข้าไปร่วมหลับนอนกับเมียผมหญิงที่เป็นผู้พูดแทนพระเจ้านั้น และนางก็ตั้งท้องและคลอดลูกชาย แล้วพระยาห์เวห์ก็พูดกับผมว่า “ตั้งชื่อเด็กคนนี้ว่า มาเฮอร์ชาลาลหัชบัส” ก่อนที่เด็กจะร้องเรียกพ่อจ๋า แม่จ๋าได้นั้น ทหารอัสซีเรียก็จะมาขนเอาทรัพย์สมบัติของเมืองดามัสกัสและริบเอาความร่ำรวยของเมืองสะมาเรีย[d] ไปให้กับกษัตริย์อัสซีเรีย

แล้วพระยาห์เวห์ก็พูดกับผมอีกว่า “คนพวกนี้ไม่ยอมรับน้ำที่ไหลเรื่อยๆจากทางส่งน้ำแห่งชิโลอาห์[e] แต่กลับไปชื่นชมเรซีน และเปคาห์ลูกของเรมาลิยาห์ เพราะอย่างนั้น ดูไว้ให้ดี เราผู้เป็นองค์เจ้าชีวิต กำลังจะนำกษัตริย์ของอัสซีเรียมาพร้อมกับกำลังอันเกรียงไกรของเขา มาต่อสู้กับพวกเจ้า มันจะเป็นเหมือนกับน้ำที่ไหลทะลักมาจากแม่น้ำยูเฟรติส ที่ท่วมท้นลำคลองต่างๆและริมฝั่งทั้งหมดของพวกมัน มันจะไหลเข้าไปในยูดาห์ และท่วมทุกสิ่งทุกอย่าง และไหลต่อไปเรื่อยๆจนสูงถึงคอ” แต่พระองค์จะกางปีก[f] ออกปกคลุมแผ่นดินทั้งหมดของเจ้า อิมมานูเอล[g]

ชนชาติทั้งหลาย รวมตัวกันไว้
    และให้หวาดกลัว
    ฟังไว้ให้ดี พวกเจ้าทั้งหมดที่อยู่ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป
เตรียมตัวออกรบและให้หวาดกลัวไว้
    เตรียมตัวออกรบและให้หวาดกลัวไว้
10 วางแผนกันไปเลยแต่จะไม่สำเร็จหรอก ออกคำสั่งไปเลยแต่จะไร้ผล
    เพราะพระเจ้าอยู่กับเรา

พระเจ้าเตือนอิสยาห์

11 พระยาห์เวห์พูดกับผม ในขณะที่มือของพระองค์จับผมไว้ และยับยั้งผมไว้ไม่ให้ไปตามทางของคนพวกนี้ พระองค์พูดว่า 12 “สิ่งที่คนพวกนี้เรียกว่าเป็นการวางแผนกบฏ ก็อย่าไปเรียกอย่างนั้นตามพวกมัน และเจ้าก็ไม่ต้องไปกลัวในสิ่งที่พวกมันกลัวหรอก หรือไปยำเกรงอย่างนั้น 13 มีแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นเท่านั้น ที่เจ้าควรจะถือว่าศักดิ์สิทธิ์ ให้พระองค์เป็นผู้ที่พวกเจ้าเกรงกลัว และให้พระองค์เป็นผู้ที่พวกเจ้ายำเกรง 14 แล้วพระองค์จะเป็นที่ลี้ภัยสำหรับเจ้า แต่สำหรับครอบครัวของอิสราเอลและครอบครัวของยูดาห์แล้ว พระองค์จะเป็นเหมือนก้อนหินที่ทำให้พวกเขาสะดุด เป็นศิลาที่ทำให้พวกเขาล้มลง และพระองค์จะเป็นกับดักและตาข่ายต่อคนที่อาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม 15 พวกเขาจำนวนมากจะสะดุดแล้วก็ล้มแตกหัก และพวกเขาจะติดกับดักและถูกจับไป”

16 อิสยาห์พูดว่า “ให้มัดคำพยานนี้ไว้ให้ดี และให้ปิดผนึกคำสั่งสอนนี้ แล้วเก็บไว้กับพวกลูกศิษย์ของผม” 17 ผมจะรอคอยพระยาห์เวห์ พระองค์ได้แอบใบหน้าของพระองค์เองไปจากครอบครัวของยาโคบ แต่ผมจะมีความหวังในพระองค์

18 ดูสิ ผมอยู่นี่พร้อมกับลูกๆที่พระยาห์เวห์ได้ให้กับผม พวกเราเป็นเครื่องเตือนใจและรางบอกเหตุต่างๆในอิสราเอล พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ผู้ที่อาศัยอยู่บนภูเขาศิโยนได้ส่งพวกเรามา

19 เมื่อมีคนมาบอกกับพวกเจ้าว่า “ไปปรึกษากับพวกคนทรงเจ้าและพวกหมอดู ที่กระซิบเบาๆและพึมพำอยู่ในลำคอ แต่ละชนชาติน่าจะไปปรึกษากับพวกพระของเขาไม่ใช่หรือ น่าจะไปปรึกษากับคนตายให้กับคนเป็นไม่ใช่หรือ”

20 เจ้าควรนึกถึงคำสั่งสอนและคำพยานนั้นต่างหาก ถ้าพวกคนทรงเจ้าและพวกหมอดูนี้พูดไม่ตรงกับที่ผมพูด พวกเขาก็จะไม่มีวันเจอกับความสว่าง

21 พวกเขาจะเดินไปมาในแผ่นดิน ด้วยความทุกข์และความหิวโหย[h] เมื่อเขาหิวโหยและโกรธ เขาก็จะเงยหน้าขึ้นมาสาปแช่ง[i] กษัตริย์ของเขาและพวกพระของเขาด้วย 22 แล้วเมื่อพวกเขามองไปที่แผ่นดิน พวกเขาจะเห็นแต่ความทุกข์ยากและความมืด และมีแต่ความกลัดกลุ้มอย่างแสนสาหัส และพวกเขาก็จะถูกผลักไสให้เข้าไปสู่ความมืดมิด

วันใหม่กำลังมา

แต่จะไม่มีความเหน็ดเหนื่อยอีกต่อไป สำหรับคนเหล่านั้นที่ตั้งมั่นคงอยู่ในคำสอนนั้น ในอดีตนั้น พระองค์ทำให้ดินแดนของเศบูลุนและนัฟทาลีถูกดูหมิ่น แต่ในอนาคต พระองค์จะทำให้ดินแดนเหล่านั้นยิ่งใหญ่ คือดินแดนที่อยู่ใกล้ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ดินแดนทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน และแคว้นกาลิลี อันเป็นที่อาศัยของคนต่างชาติ

คนที่เคยเดินอยู่ในความมืดได้เห็นความสว่างอันยิ่งใหญ่แล้ว
    คนเหล่านั้นที่เคยอยู่ในแผ่นดินที่มืดมน แสงสว่างก็ได้ส่องลงมายังพวกเขาแล้ว
พระองค์เจ้าข้า พระองค์ได้ทำให้ชนชาติทวีคูณ
    พระองค์ได้เพิ่มความสุขให้กับพวกเขา
พวกเขาชื่นชมยินดีต่อหน้าพระองค์
    อย่างกับความสุขที่คนมีกันในยามเก็บเกี่ยว
    อย่างกับความสุขที่คนมีกันตอนแบ่งของที่ยึดมาได้จากสงคราม
เพราะพระองค์ได้หักแอกที่เป็นภาระของพวกเขาทิ้ง
    และเอาคานที่พวกเขาแบกอยู่บนบ่าออกไป
    และเอาไม้ตะบองที่ศัตรูใช้ลงโทษพวกเขาไป อย่างกับตอนที่พระองค์รบชนะชาวมีเดียน[j]
เพราะรองเท้าทหารทุกคู่ที่มุ่งหน้าสู่สนามรบอย่างกึกก้อง
    และเสื้อทหารทุกตัวที่เกลือกกลิ้งเลือดมา จะต้องถูกเผาทิ้ง เป็นเชื้อเพลิงสำหรับไฟ
เพราะมีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา
    พระองค์ให้ลูกชายคนหนึ่งกับเรา
และสิทธิอำนาจก็จะตกอยู่ที่บ่าของเด็กคนนี้
    และเขามีชื่อว่า “ที่ปรึกษาอันมหัศจรรย์ นักรบที่ทรงพลังเหมือนพระเจ้า พระบิดาตลอดกาล เจ้าชายแห่งสันติสุข”
สิทธิอำนาจของพระองค์ จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
    และจะมีสันติสุขสำหรับบัลลังก์ของดาวิดและอาณาจักรของพระองค์อย่างไม่มีวันสิ้นสุด
พระองค์จะก่อตั้งอาณาจักรของพระองค์ขึ้นและพยุงมันไว้ด้วยความยุติธรรมและความชอบธรรมตั้งแต่เดี๋ยวนี้ไปจนตลอดกาล
    ความรักอันหวงแหนของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นจะทำให้สิ่งนี้สำเร็จ

ยากอบ 2

ความรักต่อผู้อื่น

พี่น้องครับ ในฐานะที่คุณเป็นผู้ที่เชื่อในพระเยซูคริสต์องค์เจ้าชีวิตผู้ยิ่งใหญ่ของเรา อย่าลำเอียง สมมุติว่า มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในที่ประชุมของคุณ เขาสวมใส่แหวนทองคำและเสื้อผ้าอย่างดี และมีคนจนคนหนึ่งเข้ามา สวมใส่เสื้อผ้าที่สกปรกมอมแมม แล้วคุณก็เอาใจใส่คนที่แต่งตัวดีเป็นพิเศษ และพูดกับเขาว่า “เชิญนั่งตรงนี้ครับ” แต่คุณพูดกับคนยากจนว่า “ยืนอยู่นั่นแหละ” หรือ “มานั่งตรงพื้นนี่มา” ถ้าคุณทำอย่างนั้น คุณก็แบ่งชนชั้นและตัดสินคนด้วยความคิดที่ชั่วร้าย

ฟังให้ดีนะ พี่น้องที่รัก พระเจ้าได้เลือกคนที่คนอื่นเห็นว่ายากจน ให้มาเป็นคนร่ำรวยในความเชื่อ และให้มารับอาณาจักรที่พระเจ้าได้สัญญาว่าจะให้กับคนที่รักพระองค์ แต่คุณกลับดูถูกคนยากจนเหล่านั้น ก็ไม่ใช่พวกคนรวยหรอกหรือ ที่ข่มเหงและลากคอคุณไปขึ้นศาล แล้วยังดูหมิ่นองค์เจ้าชีวิตของพวกคุณอีกด้วย

พระคัมภีร์ว่า “ให้รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง”[a] ถ้าพวกคุณทำตามกฎข้อนี้ คุณก็ทำถูกต้องแล้ว แต่ถ้าคุณลำเอียง คุณก็ทำบาปและถือว่าเป็นผู้ฝ่าฝืนกฎ 10 เพราะเมื่อคุณพยายามรักษากฎทุกข้อ แต่ผิดแค่ข้อเดียวก็ถือว่าผิดกฎทั้งหมดด้วย 11 เพราะพระเจ้าที่พูดว่า “อย่าเป็นชู้ผัวเมียเขา”[b] ก็พูดว่า “อย่าฆ่าคน”[c]ด้วย ถ้าคุณไม่ได้เป็นชู้ผัวเมียเขา แต่กลับไปฆ่าคน คุณก็กลายเป็นผู้ฝ่าฝืนกฎอยู่ดี 12 ไม่ว่าคุณจะพูดหรือทำอะไรก็ตาม ก็ให้จำเอาไว้ว่า พระเจ้าจะตัดสินคุณด้วยกฎที่จะทำให้คุณเป็นอิสระ 13 เพราะฉะนั้น คุณก็ควรมีเมตตากับคนอื่นด้วย ไม่อย่างนั้นพระเจ้าก็จะไม่เมตตาคุณเหมือนกัน แต่ถ้าคุณมีความเมตตา คุณก็ไม่ต้องกลัวคำตัดสินของพระเจ้า

ความเชื่อและการกระทำ

14 พี่น้องครับ มันจะมีประโยชน์อะไรกันถ้าคนหนึ่งอ้างว่า เขามีความเชื่อ แต่เขาไม่ทำอะไรเลย แล้วความเชื่อนั้นจะช่วยให้เขารอดได้หรือ เป็นไปไม่ได้ 15 ถ้าพี่น้องไม่มีเสื้อผ้าใส่ และไม่มีอาหารกิน 16 แล้วคุณคนหนึ่งพูดว่า “ขอให้มีความสุข ขอให้อบอุ่นกายและขอให้อิ่มหนำสำราญ” แต่ไม่ช่วยอะไรเลย แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร 17 ความเชื่อก็เหมือนกัน ถ้าไม่มีการกระทำด้วย ก็ตายแล้วในตัวของมันเอง

18 อาจจะมีบางคนพูดว่า “คนหนึ่งมีความเชื่อ อีกคนมีการกระทำ” ผมจะบอกเขาว่า “ไหน แสดงความเชื่อของคุณที่ไม่ต้องทำอะไรเลยให้ดูหน่อย แล้วเดี๋ยวผมจะแสดงความเชื่อที่คู่กับการกระทำของผมให้คุณดู” 19 คุณเชื่อว่ามีพระเจ้าเพียงองค์เดียวหรือ ดีจังเลย โธ่เอ๋ย แม้แต่พวกปีศาจก็เชื่ออย่างนั้นเหมือนกัน แล้วมันก็กลัวจนตัวสั่นด้วย

20 เจ้าคนโง่ อยากรู้หรือว่าความเชื่อที่ไม่ต้องทำอะไรเลยนั้น มันไม่ดีตรงไหน 21 พระเจ้ายอมรับอับราฮัมบรรพบุรุษของเรา ก็เพราะการกระทำของท่าน ตอนที่ท่านถวายลูกชายคืออิสอัคบนแท่นบูชา 22 เห็นไหมว่า ความเชื่อกับการกระทำของท่านนั้นไปด้วยกัน และเพราะการกระทำนั้นเอง จึงทำให้ความเชื่อของท่านสมบูรณ์ 23 นี่ทำให้เห็นชัดเจนถึงความหมายของข้อพระคัมภีร์ที่ว่า “อับราฮัมเชื่อพระเจ้า และความเชื่อของท่าน ก็ทำให้พระเจ้ายอมรับท่าน”[d] และด้วยเหตุนี้ ท่านถึงได้ชื่อว่าเป็น “เพื่อนของพระเจ้า”[e] 24 เห็นไหมว่า คนที่พระเจ้าจะยอมรับนั้น จะต้องมีการกระทำด้วย ไม่ใช่มีแต่ความเชื่อเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

25 ดูอย่างราหับสิ เธอเป็นหญิงโสเภณี แต่พระเจ้าก็ยอมรับเธอเพราะการกระทำของเธอ ตอนที่เธอให้ที่พักกับพวกผู้สอดแนม และช่วยให้พวกเขาหลบหนีไปทางอื่น

26 ดูอย่างร่างกายที่ไม่มีวิญญาณสิ ก็ตายแล้ว ความเชื่อที่ไม่มีการกระทำก็ตายแล้วเหมือนกัน

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International