M’Cheyne Bible Reading Plan
พวกลูกสาวของเศโลเฟหัด
27 เศโลเฟหัดเป็นลูกชายของเฮเฟอร์ เฮเฟอร์เป็นลูกชายของกิเลอาด กิเลอาดเป็นลูกชายของมาคีร์ มาคีร์เป็นลูกชายของมนัสเสห์ จากเผ่ามนัสเสห์ มนัสเสห์เป็นลูกชายของโยเซฟ เศโลเฟหัดมีลูกสาวห้าคน คือ มาลาห์ โนอาห์ โฮกลาห์ มิลคาห์ และทีรซาห์ 2 พวกนางยืนอยู่ต่อหน้าโมเสส นักบวชเอเลอาซาร์ บรรดาผู้นำและประชาชนทั้งหมดที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ
พวกนางพูดว่า 3 “พ่อของพวกเราได้ตายไปในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง เขาไม่ได้เป็นพรรคพวกของโคราห์ ที่ร่วมต่อต้านพระยาห์เวห์ แต่เขาตายเพราะบาปของเขาเอง และเขาไม่มีลูกชาย 4 แล้วทำไมชื่อของพ่อพวกเราจะต้องถูกตัดออกจากตระกูลของเขา เพียงเพราะเขาไม่มีลูกชายด้วย โปรดแบ่งที่ดินให้กับพวกเราให้เท่าเทียมกับที่ท่านจะแบ่งให้กับพี่น้องคนอื่นของพ่อพวกเราด้วยเถิด”
5 โมเสสจึงได้นำเรื่องนี้ไปถามพระยาห์เวห์ 6 พระองค์พูดกับโมเสสว่า 7 “คำร้องขอของลูกสาวเศโลเฟหัดถูกต้อง เจ้าต้องแบ่งที่ดิน[a] ให้กับพวกนางท่ามกลางพี่น้องของพ่อพวกนาง พวกนางจะได้มอบที่ดินนั้นให้กับลูกหลานของพวกนางสืบต่อไป ให้ส่วนแบ่งของพ่อพวกนางกับพวกนางไป 8 และบอกกับประชาชนชาวอิสราเอลว่า ‘ถ้าชายคนหนึ่งตายไปโดยที่ไม่มีลูกชาย พวกเจ้าต้องให้ส่วนแบ่งที่ดินของเขากับลูกสาวของเขา 9 และถ้าเขาไม่มีลูกสาว เจ้าต้องให้ส่วนแบ่งที่ดินของเขากับพี่น้องของเขา 10 ถ้าเขาไม่มีพี่น้อง ก็ให้ส่วนแบ่งที่ดินของเขากับพี่น้องของพ่อเขา 11 ถ้าพ่อของเขาไม่มีพี่น้อง ก็ให้ส่วนแบ่งที่ดินของเขากับญาติที่สนิทที่สุดของเขา ที่อยู่ในตระกูลของเขา และคนๆนั้นก็จะเป็นเจ้าของมัน นี่จะเป็นกฎที่ใช้ในการตัดสิน สำหรับประชาชนชาวอิสราเอล ตามที่พระยาห์เวห์ได้สั่งโมเสสไว้’”
โยชูวาคือผู้นำคนใหม่
(ฉธบ. 31:1-8)
12 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ให้ขึ้นไปบนภูเขาอาบาริมและมองดูแผ่นดินที่เรากำลังจะให้กับประชาชนชาวอิสราเอล 13 เมื่อเจ้าได้เห็นมันแล้ว เจ้าก็จะได้ไปอยู่ร่วมกับบรรพบุรุษของเจ้าเหมือนที่อาโรนพี่ชายของเจ้าได้ไปอยู่ร่วมกับบรรพบุรุษของเขา 14 เพราะเจ้าทั้งสองไม่เชื่อฟังคำสั่งของเราในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งศิน เมื่อครั้งที่ประชาชนถกเถียงกับเรา เพราะเจ้าทั้งสองไม่ได้ให้เกียรติว่าเราศักดิ์สิทธิ์ เมื่อมีน้ำไหลออกมาต่อหน้าประชาชนเหล่านั้น” (น้ำนั้นคือน้ำของเมรีบาห์ที่เคเดชในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งศิน)
15 โมเสสพูดกับพระยาห์เวห์ว่า 16 “ขอพระยาห์เวห์พระเจ้าผู้รู้ความคิดของประชาชนทั้งหมด แต่งตั้งคนๆหนึ่งเป็นผู้นำของชุมชนนี้ 17 เพื่อคอยนำพวกเขาในสนามรบและนำพาพวกเขาเข้าออกเหมือนแกะ เพื่อว่าประชาชนของพระองค์จะได้ไม่เป็นเหมือนฝูงแกะที่ไม่มีคนเลี้ยง”
18 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “นำตัวโยชูวาลูกชายของนูน ผู้มีพรสวรรค์มาและวางมือของเจ้าลงบนเขา 19 ให้เขายืนอยู่หน้านักบวชเอเลอาซาร์และชุมชนทั้งหมด และมอบภารกิจให้เขาต่อหน้าคนพวกนั้น
20 ให้อำนาจของเจ้ากับเขาเพื่อชุมชนชาวอิสราเอลทั้งหมดจะได้เชื่อฟังเขา 21 แต่ถ้าโยชูวาต้องการตัดสินใจอะไร เขาจะต้องไปหานักบวชเอเลอาซาร์ และเอเลอาซาร์ก็จะใช้อูริมและทูมมิมขอคำตอบจากพระยาห์เวห์ ถ้าพระยาห์เวห์สั่งให้บุก โยชูวา ชาวอิสราเอลทั้งหมดและคนทั้งชุมชนก็จะบุก และถ้าพระยาห์เวห์สั่งให้ถอย พวกเขาก็จะถอย”
22 โมเสสจึงทำตามที่พระยาห์เวห์สั่งเขา เขาพาโยชูวามาและให้มายืนอยู่ต่อหน้านักบวชเอเลอาซาร์และชุมชนทั้งหมด 23 แล้วโมเสสก็วางมือลงบนโยชูวาและมอบภารกิจให้เขาตามที่พระยาห์เวห์ได้บอกกับโมเสส
พระยาห์เวห์รีบมาช่วยข้าพเจ้าด้วย
(สดด. 40:13-17)
ถึงหัวหน้านักร้อง เพลงของดาวิด เพื่อเรียกความสนใจจากพระเจ้า
1 ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยกู้ข้าพเจ้าด้วยเถิด
ข้าแต่พระยาห์เวห์ รีบมาช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด
2 ขอให้คนเหล่านั้นที่มุ่งเอาชีวิตของข้าพเจ้าได้รับความอับอาย และพบกับความพ่ายแพ้
ขอให้คนเหล่านั้นที่อยากจะทำร้ายข้าพเจ้าพากันล่าถอยกลับไปและได้รับความอัปยศอดสู
3 ขอให้คนพวกนั้นที่พูดเยาะเย้ยว่า “เสร็จแน่ เสร็จแน่”
ได้รับความอับอายมากซะจนพูดไม่ออก
4 ขอให้คนเหล่านั้นที่เสาะแสวงหาพระองค์ มีความชื่นชมยินดี และมีความสุข
ขอให้คนเหล่านั้นที่รักความรอดที่มาจากพระองค์ ได้พูดแล้วพูดอีกว่า “พระเจ้านั้นยิ่งใหญ่”
5 ข้าพเจ้านั้นยากจนและไม่มีใครช่วยเหลือ
ข้าแต่พระเจ้า รีบมาหาข้าพเจ้าด้วย
พระองค์ เป็นผู้ที่ช่วยเหลือข้าพเจ้าและผู้ช่วยกู้ข้าพเจ้า
ข้าแต่พระยาห์เวห์ อย่าได้ชักช้าอยู่เลย
คนแก่อธิษฐานขอความช่วยเหลือ
1 ข้าแต่พระยาห์เวห์
ข้าพเจ้าลี้ภัยในพระองค์ อย่าให้ข้าพเจ้าต้องเสียหน้าเลย
2 ขอช่วยข้าพเจ้าและกู้ข้าพเจ้าด้วยเถิด เพราะพระองค์ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
โปรดเอียงหูฟังคำร้องขอให้ช่วยของข้าพเจ้า และช่วยข้าพเจ้าให้รอดด้วยเถิด
3 ขอให้พระองค์เป็นหินกำบัง และที่ลี้ภัยของข้าพเจ้า
เป็นป้อมปราการที่ช่วยข้าพเจ้าให้รอด[a]
เพราะพระองค์คือหินผาและป้อมปราการของข้าพเจ้า
4 พระเจ้าของข้าพเจ้า ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากมือคนชั่ว
และพ้นจากเงื้อมมือของคนเลวและคนโหดเหี้ยม
5 ข้าแต่องค์เจ้าชีวิต พระองค์เป็นความหวังของข้าพเจ้า
ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าไว้วางใจในพระองค์ตั้งแต่ข้าพเจ้าเป็นเด็ก
6 ข้าพเจ้าพึ่งพาพระองค์ตั้งแต่อยู่ในท้องแล้ว
พระองค์ช่วยดึงข้าพเจ้าออกมาจากท้องแม่
ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์อยู่เสมอ
7 มีหลายคนเอาข้าพเจ้าเป็นแบบอย่าง
เพราะพระองค์เป็นที่ลี้ภัยอันมั่นคงของข้าพเจ้า
8 ปากของข้าพเจ้าเต็มไปด้วยคำสรรเสริญต่อพระองค์
ปากข้าพเจ้าพูดถึงความสง่างามยิ่งใหญ่ของพระองค์ตลอดทั้งวัน
9 ตอนนี้ที่ข้าพเจ้าแก่แล้ว ขออย่าได้โยนข้าพเจ้าทิ้งไป
ขออย่าได้ทอดทิ้งข้าพเจ้าเมื่อข้าพเจ้าหมดเรี่ยวแรง
10 พวกศัตรูของข้าพเจ้า
จ้องเอาชีวิตข้าพเจ้า ต่างปรึกษาวางแผนกันทำร้ายข้าพเจ้า
11 พวกเขาพากันพูดว่า “พระเจ้าทอดทิ้งมันแล้ว
ดังนั้นให้พวกเราไล่ล่าและตะครุบมันไว้เพราะไม่มีใครช่วยมันหรอก”
12 ข้าแต่พระเจ้า อย่าได้อยู่ห่างไกลจากข้าพเจ้า
พระเจ้าของข้าพเจ้า รีบมาช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด
13 ขอให้คนเหล่านั้นที่กล่าวหาข้าพเจ้าได้รับความอับอายขายหน้าและพบกับจุดจบ
ขอให้ผู้ที่จ้องจะทำร้ายข้าพเจ้าต้องทนทุกข์กับความอับอายและเสื่อมเกียรติ
14 แต่ข้าพเจ้ายังจะหวังในพระองค์ต่อไป
และจะสรรเสริญพระองค์มากยิ่งขึ้น
15 ปากของข้าพเจ้าจะเล่าถึงความยุติธรรมอันถูกต้องของพระองค์
ข้าพเจ้าจะเล่าทั้งวันถึงกิจกรรมการช่วยกู้ของพระองค์
ถึงแม้ว่ามันจะมีมากกว่าที่ข้าพเจ้ารู้ก็ตาม
16 พระยาห์เวห์เจ้าข้า ข้าพเจ้าจะมาพูดถึงเรื่องการกระทำอันทรงฤทธิ์ของพระองค์
ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์สำหรับความยุติธรรมอันถูกต้องของพระองค์
จะสรรเสริญแต่พระองค์เพียงผู้เดียว
17 ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ได้ฝึกสอนข้าพเจ้าตั้งแต่ข้าพเจ้าเป็นเด็ก
แล้วจนถึงวันนี้ข้าพเจ้ายังคงบอกคนอื่นเกี่ยวกับการกระทำที่น่าทึ่งของพระองค์
18 ข้าแต่พระเจ้า โปรดอย่าทอดทิ้งคนแก่คนนี้ที่ผมหงอกแล้ว
โปรดให้ข้าพเจ้าได้มีโอกาสประกาศเรื่องพลังอำนาจของพระองค์กับคนรุ่นต่อไปด้วยเถิด
และได้เล่าถึงฤทธิ์เดชของพระองค์กับทุกคนที่มาภายหลัง
19 ข้าแต่พระเจ้า ความยุติธรรมอันถูกต้องของพระองค์ขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์เบื้องบน
ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ มีใครเล่าเป็นเหมือนพระองค์
20 พระองค์ทำให้ข้าพเจ้าเจอกับความทุกข์ยากและความเดือดร้อนหลายครั้ง
โปรดให้ชีวิตใหม่กับข้าพเจ้าอีกที โปรดดึงข้าพเจ้าขึ้นมาจากที่เหวลึกของโลกอีกครั้ง
21 โปรดให้ข้าพเจ้ามีเกียรติมากกว่าเดิม
โปรดหันกลับมาช่วยปลอบโยนข้าพเจ้าอีกครั้ง
22 พระเจ้าของข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าจะเล่นพิณสิบสายและ สรรเสริญความซื่อสัตย์ของพระองค์ที่มีต่อเรา
ข้าแต่องค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ด้วยพิณสี่สาย
23 ริมฝีปากของข้าพเจ้าจะชื่นชมยินดีและร้องเพลงสรรเสริญพระองค์
เพราะพระองค์ได้ช่วยกู้ข้าพเจ้า
24 ลิ้นของข้าพเจ้าจะเล่าทั้งวันถึงความยุติธรรมอันถูกต้องของพระองค์
เพราะคนที่จ้องจะทำร้ายข้าพเจ้านั้นต่างได้รับความอับอายและเสื่อมเสียเกียรติ
ข่าวสารของพระเจ้าเกี่ยวกับดามัสกัส
17 นี่คือข่าวสาร[a]เกี่ยวกับดามัสกัส[b]
“ดูสิ ในไม่ช้าดามัสกัสจะไม่เป็นเมืองอีกแล้ว
มันจะกลายเป็นกองซากปรักหักพัง
2 หมู่บ้านต่างๆของเมืองอาร์โรเออร์[c] จะถูกทอดทิ้งตลอดไป
มันจะเป็นที่สำหรับฝูงแพะแกะ
ฝูงแพะแกะจะนอนกันอยู่ที่นั่นและจะไม่มีใครมายุ่งกับพวกมัน
3 ป้อมปราการของเมืองเอฟราอิมจะหายไป
และจะไม่มีกษัตริย์ปกครองในดามัสกัสอีกแล้ว
พวกอารัม[d] ที่ยังหลงเหลืออยู่จะถูกหยามเกียรติเหมือนกับที่คนอิสราเอลกำลังเป็นอยู่”
พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดไว้ว่าอย่างนั้น
4 “ในเวลานั้นศักดิ์ศรีของยาโคบจะตกต่ำ
และความอ้วนของเขาก็จะกลายเป็นผอมขี้ก้าง
5 อิสราเอลจะถูกตัดลงเหมือนกับคนเกี่ยวข้าวเกี่ยวต้นที่ยังยืนต้นอยู่และมือของพวกเขาเกี่ยวรวงข้าว
อิสราเอลจะว่างเปล่าเหมือนกับท้องทุ่งในหุบเขาเรฟาอิม[e] หลังจากที่คนมาเก็บเอาเศษรวงข้าวไปหมดแล้ว
6 จะมีคนเหลืออยู่ในอิสราเอลน้อยมาก เหมือนกับตอนที่ต้นมะเดื่อถูกตี
แล้วเหลือแค่สองสามลูกอยู่บนกิ่งบนสุดหรือเหลือสี่ห้าลูกบนกิ่งที่ออกลูกดกนั้น”
พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดไว้ว่าอย่างนี้
7 ในวันนั้นผู้คนก็จะวางใจในพระเจ้าผู้สร้างพวกเขา พวกเขาจะพึ่งพาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอล 8 พวกเขาจะไม่วางใจในแท่นบูชาต่างๆที่พวกเขาสร้างขึ้นมากับมือ และพวกเขาก็จะไม่พึงพาพวกเสาเจ้าแม่อาเชราห์ และแท่นบูชาสำหรับเผาเครื่องหอมที่พวกเขาสร้างขึ้นมากับนิ้วของพวกเขาเอง
9 ในเวลานั้น เมืองป้อมปราการต่างๆของพวกเขาก็จะรกร้าง เหมือนตอนที่คนฮีไวต์และคนอาโมไรต์ได้ทิ้งแผ่นดินของพวกเขาไปเมื่อคนอิสราเอลมาถึงและมันจะกลายเป็นที่รกร้างว่างเปล่า
10 เจ้าได้ลืมพระเจ้าที่ช่วยกู้เจ้าไว้
เจ้าจำไม่ได้ว่าพระเจ้าได้ปกป้องเจ้าเป็นเหมือนหินหลบภัยของเจ้า
เพราะอย่างนี้ ถึงเจ้าจะปลูกต้นไม้ที่สวยงาม ถึงเจ้าจะปลูกเถาองุ่นที่แปลกๆมาจากแดนไกล
11 ถึงเจ้าจะพยายามทำให้มันโตขึ้นในวันที่เจ้าปลูกมัน
ถึงเจ้าพยายามจะทำให้มันงอกขึ้นมาในวันที่เจ้าหว่าน
แต่ผลของมันจะหายไปในวันที่โรคร้ายมาทำลาย
และในวันที่ความเจ็บปวดที่ไม่สามารถรักษาเยียวยามาถึง
12 ฟังสิ เสียงกึกก้องของคนเป็นจำนวนมาก
พวกเขาทำเสียงดังกึกก้องเหมือนกับเสียงกึกก้องของทะเล
ฟังนั่นสิ เสียงดังสนั่นหวั่นไหวของชนชาติทั้งหลาย
พวกเขาดังสนั่นเหมือนเสียงดังสนั่นของน้ำที่มีกำลังมหาศาล
13 ชนชาติต่างๆดังสนั่นเหมือนกับเสียงดังสนั่นของน้ำเป็นจำนวนมาก
แต่พระเจ้าจะร้องเข้าใส่พวกเขาและพวกเขาจะวิ่งหนีไปไกลๆ
พวกเขาจะเป็นเหมือนแกลบบนพวกภูเขาที่ถูกลมพัดปลิวไป
หรือเป็นเหมือนพุ่มไม้แห้งที่ถูกพายุพัดกลิ้งไป
14 ในตอนเย็น พวกเขาน่าสยดสยอง
แต่ก่อนรุ่งเช้า พวกเขาก็หายไปหมดแล้ว
นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับคนพวกนั้นที่พยายามจะยึดเอาของๆเราไป
นี่คือกรรมของคนพวกนั้นที่พยายามจะปล้นเอาทรัพย์สมบัติของพวกเราไป
ข่าวสารของพระเจ้าเกี่ยวกับชาวเอธิโอเปีย
18 เฮ้ย แผ่นดินที่เต็มไปด้วยเสียงหึ่งๆของปีกแมลง[f]
เป็นดินแดนที่อยู่เหนือพวกแม่น้ำของเอธิโอเปีย[g]
2 แผ่นดินนั้นส่งพวกทูตมาทางแม่น้ำไนล์ด้วยเรือที่ทำจากต้นกกที่แล่นมาบนน้ำนั้น
ไป พวกผู้ส่งข่าวที่ว่องไวทั้งหลาย
ไปหาชนชาตินั้นที่ร่างสูงและมีผิวเรียบ ไปหาคนพวกนี้ที่คนทั้งไกลและใกล้ต่างก็พากันเกรงกลัว
เป็นชนชาติเข้มแข็งที่ชอบเหยียบย่ำชนชาติอื่นๆ
เป็นแผ่นดินที่มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่าน
3 พวกเจ้าทุกคนที่อาศัยอยู่บนโลกนี้
พวกเจ้าที่อยู่บนแผ่นดินโลก
เมื่อมีธงสัญญาณยกขึ้นบนพวกภูเขา ดูให้ดี
และเมื่อได้ยินเสียงแตรเป่า ฟังให้ดี
4 เพราะพระยาห์เวห์ได้พูดกับผมว่าอย่างนี้
“จากที่อาศัยของเรา เราจะคอยสังเกตอย่างเงียบๆ
เงียบเหมือนกับความร้อนที่เพิ่มขึ้นในตอนกลางวันของฤดูร้อน
หรือเงียบเหมือนกับน้ำค้างที่ก่อตัวขึ้นในตอนเช้าของฤดูเก็บเกี่ยว
5 เพราะก่อนที่จะถึงฤดูเก็บเกี่ยว
เมื่อดอกบานหมดแล้วและดอกได้กลายเป็นผลองุ่นสุก
พระองค์ก็จะลิดพวกแขนงด้วยขอลิด
และพระองค์จะตัดกิ่งใหญ่ทิ้งไป
6 พวกเถาองุ่นนี้จะถูกทิ้งไว้ให้พวกนกจากภูเขา
และพวกสัตว์บนแผ่นดินมากินกัน
พวกนกนี้ก็จะพากันมากินในช่วงฤดูร้อน
และพวกสัตว์ทั้งหมดบนแผ่นดินก็จะพากันมากินในช่วงฤดูหนาว”
7 ในเวลานั้น ชนชาตินั้นที่มีรูปร่างสูงและผิวเรียบที่คนทั้งไกลและใกล้หวาดกลัว ก็จะนำพวกของขวัญมาถวายให้กับพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น คนพวกนี้ที่เป็นชนชาติที่เข้มแข็งที่ชอบเหยียบย่ำชนชาติอื่นๆที่มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่านจะเอาพวกของขวัญมาถวายในสถานที่ซึ่งประชาชนร้องออกชื่อของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นคือภูเขาศิโยน
ฝูงแกะของพระเจ้า
5 ผมเขียนมาขอร้องพวกผู้นำอาวุโสที่อยู่กับพวกคุณ ในฐานะที่ผมก็เป็นผู้นำอาวุโสคนหนึ่ง เป็นคนหนึ่งที่เป็นพยานถึงเรื่องที่พระคริสต์ต้องทนทุกข์ทรมาน และเป็นคนหนึ่งที่จะมีส่วนร่วมในสง่าราศีของพระคริสต์เมื่อพระองค์กลับมา 2 ขอให้เลี้ยงดูฝูงแกะของพระเจ้าที่พระเจ้าฝากให้คุณดูแลอยู่นี้ ไม่ใช่ฝืนใจทำ แต่ให้ทำด้วยความเต็มใจอย่างที่พระเจ้าต้องการให้คุณทำ ไม่ใช่เพราะเห็นแก่เงิน แต่เพราะคุณอยากจะทำจริงๆ 3 ไม่ทำตัวเป็นนายเหนือคนพวกนั้นที่พระองค์ได้ฝากให้คุณดูแล แต่ให้ทำตัวเป็นแบบอย่างกับฝูงแกะนั้น 4 เพื่อเมื่อพระคริสต์ผู้เป็นหัวหน้าคนเลี้ยงแกะกลับมา คุณก็จะได้รับรางวัลอันมีเกียรติ ที่ไม่มีวันร่วงโรยไป
5 ในทำนองเดียวกัน คนที่มีอายุน้อยกว่า ก็ให้เชื่อฟังพวกผู้นำอาวุโส แต่ความจริงแล้ว ทุกๆคนควรจะอ่อนน้อมถ่อมตัวรับใช้ซึ่งกันและกันเหมือนกับที่พระคัมภีร์เขียนไว้ว่า
“พระเจ้าต่อต้านคนที่เย่อหยิ่งจองหอง
แต่มีความเมตตากรุณาต่อคนที่อ่อนน้อมถ่อมตน”[a]
6 ถ้าอย่างนั้น ให้พวกคุณอ่อนน้อมถ่อมตัวลงใต้อำนาจที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้า เพื่อพระเจ้าจะได้ยกคุณขึ้นเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม 7 ให้เอาความกังวลทั้งหมดของคุณฝากไว้กับพระเจ้า เพราะพระองค์ห่วงใยคุณ
8 ให้รู้จักบังคับตนเอง ระวังตัวให้ดี เพราะศัตรูของคุณคือมาร กำลังเดินด้อมๆมองๆเหมือนสิงโตที่คำรามจ้องตะครุบเหยื่อมากิน 9 ให้ขัดขืนมารนั้น และยึดมั่นในความเชื่อ เพราะคุณรู้อยู่แล้วว่า พี่น้องทั่วโลกก็เจอความทุกข์ยากเหมือนคุณ
10 พระเจ้าผู้เป็นแหล่งของความเมตตาทุกอย่างได้เรียกคุณผ่านทางพระเยซูคริสต์ ให้คุณเข้ามามีส่วนร่วมในเกียรติของพระองค์ที่ไม่มีวันหมด คุณจะต้องทนทุกข์อยู่ประเดี๋ยวหนึ่ง แล้วหลังจากนั้นพระเจ้าก็จะช่วยให้คุณกลับคืนสู่สภาพสมบูรณ์แบบ จะให้คุณเข้มแข็ง มีกำลังมากขึ้นและมั่นคง 11 ขอให้ฤทธิ์เดชเป็นของพระองค์ตลอดไปอาเมน
คำทักทายสุดท้าย
12 ผมได้เขียนจดหมายสั้นๆฉบับนี้ และได้ฝากสิลาสมาให้กับคุณ เขาเป็นพี่น้องที่ซื่อสัตย์ในพระคริสต์ ผมเขียนมาเพื่อให้กำลังใจพวกคุณ และยืนยันว่าทุกอย่างที่เขียนมานี้เป็นความเมตตากรุณาที่แท้จริงของพระเจ้า ให้คุณยืนหยัดมั่นคงในความเมตตากรุณานี้
13 หมู่ประชุมที่เมืองบาบิโลน[b]ที่พระเจ้าได้เลือกไว้เหมือนกับที่พระองค์ได้เลือกพวกคุณ ได้ฝากความคิดถึงมาให้กับคุณ มาระโกลูกของผมก็ฝากความคิดถึงมาเหมือนกัน 14 เมื่อเจอกันก็ขอให้จูบทักทายกันด้วยความรัก
ขอให้ทุกคนที่มีส่วนในพระคริสต์ได้รับสันติสุข
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International