Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
กันดารวิถี 32

ที่ดินฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน

(ฉธบ. 3:12-22)

32 เผ่าของรูเบนและกาดมีฝูงสัตว์จำนวนมากมายมหาศาล เมื่อพวกเขาเห็นที่ดินของยาเซอร์และที่ดินของกิเลอาด พวกเขาเห็นว่ามันเป็นที่ที่เหมาะกับการเลี้ยงสัตว์ ดังนั้น ประชาชนของกาดและรูเบนจึงไปพูดกับโมเสส นักบวชเอเลอาซาร์และบรรดาผู้นำชุมชนว่า 3-4 “พวกเราผู้รับใช้ของท่านมีสัตว์เลี้ยงอยู่มากมายมหาศาลและที่ดินที่พระยาห์เวห์ได้รบชนะเพื่อประชาชนชาวอิสราเอลนั้น เป็นแผ่นดินที่เหมาะกับการเลี้ยงสัตว์มาก โดยเฉพาะที่ดินบริเวณ อาทาโรท ดีโบน ยาเซอร์ นิมราห์ เฮชโบน เอเลอาเลห์

เสบาม เนโบ และเบโอน” พวกเขาพูดต่อไปว่า “ถ้าท่านพอใจพวกเรา ได้โปรดยกที่ดินนี้ให้กับพวกเรา ผู้รับใช้ของท่าน ไว้ครอบครองด้วยเถิด อย่าให้เราต้องข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปเลย”

โมเสสพูดกับประชาชนของกาดและรูเบนว่า “จะให้พี่น้องของท่านออกไปรบในขณะที่ท่านตั้งรกรากอยู่ที่นี่หรือ ทำไมพวกท่านถึงพยายามทำให้ประชาชนชาวอิสราเอลท้อแท้หมดกำลังใจที่จะข้ามแม่น้ำเข้าไปในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์ได้ยกให้กับพวกเขา รุ่นพ่อของพวกท่านก็ทำอย่างนี้เหมือนกัน ตอนที่เราส่งพวกเขาจากคาเดช-บารเนียให้ไปสำรวจแผ่นดินนั้น พวกเขาขึ้นไปไกลถึงหุบเขาเอชโคล์ และได้สำรวจแผ่นดินนั้น แต่พวกเขากลับทำให้ประชาชนชาวอิสราเอลท้อแท้หมดกำลังใจ ที่จะเข้าไปในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์ได้ให้พวกเขาไว้ 10 จึงทำให้พระองค์โกรธในวันนั้น และพระองค์ได้สาบานไว้ว่า 11 ‘ประชาชนชาวอิสราเอลที่ออกมาจากแผ่นดินอียิปต์และมีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป จะไม่มีสักคนเดียวที่จะได้เห็นแผ่นดินที่เราได้สัญญาว่าจะให้กับอับราฮัม อิสอัคและยาโคบ เพราะพวกเขาไม่ได้ติดตามเราอย่างเต็มที่ 12 ยกเว้นคาเลบลูกชายเยฟุนเนห์และโยชูวาลูกชายนูน เพราะพวกเขาตามพระยาห์เวห์อย่างเต็มที่’

13 พระยาห์เวห์จึงโกรธชาวอิสราเอล พระองค์ทำให้พวกเขาต้องรอนแรมอยู่ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งถึงสี่สิบปี จนกระทั่งคนในรุ่นที่ทำให้พระองค์ไม่พอใจตายไปจนหมดเกลี้ยง 14 และตอนนี้พวกเจ้าคนบาปอีกรุ่นหนึ่ง กลับจะมาแทนที่พ่อของเจ้า เพื่อจะทำให้พระยาห์เวห์โกรธมากขึ้นไปอีก 15 ถ้าเจ้าเปลี่ยนใจไม่ติดตามพระองค์ พระองค์ก็จะทอดทิ้งชาวอิสราเอลไว้ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งให้นานกว่านั้นอีก แล้วเจ้าก็จะเป็นเหตุให้คนพวกนี้ทั้งหมดถูกทำลายไป”

16 แล้วประชาชนของรูเบนและกาดก็ไปพบโมเสสและพูดว่า “ขอให้พวกเราสร้างรั้วสำหรับสัตว์เลี้ยงของพวกเราที่นี่และสร้างเมืองสำหรับลูกเมียของพวกเรา 17 แล้วพวกเราจะเกณฑ์[a] คนของพวกเราไปร่วมรบกับชาวอิสราเอลคนอื่นๆจนกว่าพวกเขาจะได้ดินแดนที่เป็นของพวกเขาเอง ในขณะที่ลูกเมียของพวกเราก็จะได้อาศัยอยู่ในเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบ จะได้ปลอดภัยจากคนอื่นที่อยู่ในแผ่นดินนี้ 18 พวกเราจะไม่กลับบ้าน จนกว่าชาวอิสราเอลทุกคนจะได้ส่วนแบ่งในที่ดินเป็นมรดก[b] ครบทุกคน 19 แต่พวกเราจะไม่รับส่วนแบ่งที่ดินของพวกเขาที่อยู่อีกฝั่งของแม่น้ำจอร์แดน และดินแดนนอกเหนือจากนั้นด้วย เพราะพวกเราจะเอาส่วนแบ่งที่ดินของพวกเราในฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน”

20 โมเสสจึงพูดกับพวกเขาว่า “ถ้าพวกท่านจะทำอย่างนี้ คือถ้าพวกท่านจะเกณฑ์คนไปช่วยทำสงครามต่อหน้าพระยาห์เวห์ 21 และคนที่ถูกเกณฑ์ทั้งหมดข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปต่อหน้าพระยาห์เวห์แทนพวกท่าน จนกระทั่งพระองค์ขับไล่ศัตรูของพระองค์ไปจนหมด 22 และแผ่นดินสงบลงต่อหน้าพระยาห์เวห์ แล้วพวกท่านถึงจะกลับบ้านได้ พวกท่านก็ได้ทำหน้าที่ของตัวเองให้พระยาห์เวห์และชาวอิสราเอลแล้ว และที่ดินนี้ก็จะตกเป็นสมบัติของพวกท่านต่อหน้าพระยาห์เวห์ 23 แต่ถ้าพวกท่านไม่ได้ทำตามนี้ ท่านก็ได้ทำบาปต่อพระยาห์เวห์ ก็ให้รู้ไว้เลยว่าพวกท่านจะต้องถูกลงโทษเพราะบาปของพวกท่าน 24 สร้างเมืองให้ลูกเมียของพวกท่านและสร้างรั้วให้ฝูงสัตว์ของพวกท่านเถิด และทำทุกอย่างตามที่ท่านได้พูดไว้”

25 ประชาชนชาวกาดและรูเบนพูดว่า “พวกเราคนรับใช้ท่านจะทำตามที่ท่านผู้เป็นเจ้านายของเราสั่ง 26 ลูกเมียของพวกเรา ฝูงแกะ และสัตว์ทุกตัวของพวกเราจะอยู่ในเมืองต่างๆของกิเลอาด 27 พวกเราคนรับใช้ท่านทุกคนที่ถูกเกณฑ์ไปสงคราม จะข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปทำสงครามต่อหน้าพระยาห์เวห์ ตามที่เจ้านายของเราสั่ง”

28 แล้วโมเสสก็ออกคำสั่งในเรื่องของพวกเขาให้กับนักบวชเอเลอาซาร์ โยชูวาลูกชายนูนและหัวหน้าเผ่าต่างๆของประชาชนชาวอิสราเอล 29 โมเสสบอกกับพวกเขาว่า “ถ้าประชาชนชาวกาดและชาวรูเบนข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปกับพวกท่าน คือพวกเขาทุกคนที่ถูกเกณฑ์มาทำสงครามต่อหน้าพระยาห์เวห์ จนแผ่นดินนั้นสงบลงต่อหน้าพวกท่านแล้ว ให้พวกท่านยกแผ่นดินกิเลอาดให้กับพวกเขาเป็นเจ้าของ 30 แต่ถ้าคนที่ถูกเกณฑ์นั้นไม่ข้ามไปกับท่าน พวกเขาจะต้องอยู่ในแผ่นดินคานาอันด้วยกันกับท่าน”

31 ประชาชนชาวกาดและชาวรูเบนตอบว่า “เราจะทำตามที่พระยาห์เวห์บอกพวกเรา คนรับใช้ของท่าน 32 เราที่ถูกเกณฑ์มานี้ จะข้ามไปแผ่นดินคานาอันต่อหน้าพระยาห์เวห์ แต่แผ่นดินของพวกเราจะอยู่อีกฝั่งของแม่น้ำจอร์แดน”

33 ดังนั้นอาณาจักรของกษัตริย์สิโหนชาวอาโมไรต์และอาณาจักรของกษัตริย์โอกจากบาชาน รวมทั้งแผ่นดินพร้อมกับเมืองต่างๆของมัน และอาณาเขตต่างๆของเมืองที่อยู่รอบๆ โมเสสได้ยกให้กับประชาชนชาวกาดและชาวรูเบนและประชาชนครึ่งหนึ่งของเผ่ามนัสเสห์ที่เป็นลูกชายโยเซฟ

34 แล้วประชาชนชาวกาดก็สร้างเมืองพวกนี้ขึ้นใหม่ คือ ดีโบน อาทาโรท อาโรเออร์ 35 อัทโรทโชฟาน ยาเซอร์ โยกเบฮาห์ 36 เบธนิมราห์และเบธฮาราน ทั้งกำแพงเมืองและรั้วสำหรับฝูงแกะของพวกเขา

37 ประชาชนชาวรูเบนสร้างเมืองพวกนี้ขึ้นใหม่ คือเมืองเฮชโบน เอเลอาเลห์ คิริยาธาอิม 38 เนโบ บาอัลเมโอนและสิบมาห์ พวกเขาใช้ชื่อเดิมเรียกชื่อเมืองที่สร้างขึ้นใหม่ ยกเว้นเมืองเนโบและเมืองบาอัลเมโอน พวกเขาเปลี่ยนชื่อให้ใหม่

39 ลูกหลานของมาคีร์ลูกชายมนัสเสห์ ได้บุกกิเลอาดและยึดมันไว้ได้ พวกเขาได้ขับไล่ชาวอาโมไรต์ที่อาศัยอยู่ในเมืองนั้น 40 ดังนั้น โมเสสจึงยกแคว้นกิเลอาดให้กับตระกูลมาคีร์ มาคีร์เป็นลูกชายของมนัสเสห์ และตระกูลมาคีร์ก็ได้ตั้งรกรากอยู่ที่นั่น 41 ยาอีร์สืบเชื้อสายมาจากมนัสเสห์ เขาได้ยึดหมู่บ้านหลายแห่งของชาวอาโมไรต์ เขาได้เรียกชื่อหมู่บ้านพวกนั้นว่าหมู่บ้านต่างๆของยาอีร์ 42 โนบาห์บุกเข้าไปยึดเคนาทและเมืองรอบๆมัน และเรียกมันว่าโนบาห์ตามชื่อของเขา

สดุดี 77

พระเจ้าจะทอดทิ้งคนของพระองค์ตลอดไปหรือ

ถึงหัวหน้านักร้อง ตามทำนองเพลงของเยดูธูน[a] เพลงสดุดีของอาสาฟ

ข้าพเจ้าร้องต่อพระเจ้า ร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์
    ข้าพเจ้าร้องต่อพระเจ้า และหวังว่าพระองค์จะฟังข้าพเจ้า
ในวันที่ทุกข์ยาก ข้าพเจ้าแสวงหาองค์เจ้าชีวิต
    ข้าพเจ้ายื่นมือขึ้นอธิษฐานโดยไม่วางมือลงเลยตลอดทั้งคืน
    ข้าพเจ้าไม่ยอมรับการปลอบโยนจนกว่าพระเจ้าจะช่วย
ข้าพเจ้าระลึกถึงพระเจ้าและร้องคร่ำครวญ
    ข้าพเจ้าบ่นแล้วก็สิ้นหวัง เซลาห์

พระองค์ถ่างหนังตาข้าพเจ้าไว้ ทำให้นอนไม่หลับ
    ข้าพเจ้าทุกข์ใจมากจนพูดไม่ออก
ข้าพเจ้าคิดถึงวันเวลาที่ผ่านมา
    และปีอันแสนยาวนานที่ผ่านไป
ในยามค่ำคืน ข้าพเจ้าหวนคิดถึงเพลงที่เคยร้อง
    ข้าพเจ้าครุ่นคิดถึงสิ่งเหล่านี้อยู่ในใจ จิตวิญญาณของข้าพเจ้าแสวงหาคำตอบ
องค์เจ้าชีวิตจะทอดทิ้งพวกเราตลอดไปหรือ
    พระองค์จะไม่มีวันยอมรับพวกเราอีกแล้วหรือ
ความรักมั่นคงของพระองค์สูญหายไปตลอดกาลแล้วหรือ
    สัญญาของพระองค์จะถูกยกเลิกไปตลอดชั่วลูกชั่วหลานหรือ
พระเจ้าลืมที่จะเมตตาแล้วหรือ
    พระองค์ดับความเมตตาเพราะพระองค์โกรธหรือ เซลาห์

10 ข้าพเจ้าพูดกับตัวเองว่า “สิ่งที่ทิ่มแทงใจข้าพเจ้าที่สุด
    คือ พระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุดหยุดแสดงฤทธิ์อำนาจของพระองค์”[b]

11 ข้าพเจ้าระลึกถึงสิ่งต่างๆที่พระยาห์เวห์ทำ
    ข้าพเจ้าจำได้ถึงสิ่งน่าทึ่งต่างๆที่พระองค์เคยทำในสมัยก่อนนานมาแล้ว
12 ข้าพเจ้าครุ่นคิดถึงการงานต่างๆของพระองค์
    และพิจารณาการกระทำทั้งหลายของพระองค์
13 ข้าแต่พระเจ้า ทางทั้งหลายของพระองค์ช่างบริสุทธิ์ยิ่งนัก
    ไม่มีพระเจ้าใดยิ่งใหญ่เท่ากับพระเจ้าของเรา
14 พระองค์คือพระเจ้าผู้ทำสิ่งที่น่าทึ่งทั้งหลาย
    พระองค์ทำให้ชนชาติต่างๆเห็นฤทธิ์อำนาจของพระองค์
15 พระองค์ได้ไถ่คนของพระองค์
    คือพวกลูกหลานของยาโคบและโยเซฟ[c] ด้วยแขนอันทรงพลังของพระองค์ เซลาห์

16 ข้าแต่พระเจ้า น้ำทั้งหลายได้เห็นพระองค์
    น้ำเห็นพระองค์ก็สั่นไหวด้วยความกลัว
    แม้แต่น้ำในทะเลลึกก็สั่นสะท้านไปด้วย
17 ฝนตกลงมาจากก้อนเมฆหนาทึบ
    ฟ้าได้ร้องคำรามออกมาจากหมู่เมฆ
    แม้แต่สายฟ้าก็แลบแปลบปลาบออกมาจากเมฆ
18 เสียงกึกก้องของพระองค์อยู่ในลมพายุ
    สายฟ้าแลบได้ทำให้ทั้งโลกสว่าง แผ่นดินโลกสั่นสะเทือน
19 พระองค์เดินทะลุผ่านทะเลไป
    ถนนของพระองค์แหวกผ่านน้ำอันยิ่งใหญ่
    แต่พระองค์ไม่ได้ทิ้งรอยเท้าไว้
20 พระองค์นำคนของพระองค์เหมือนฝูงแกะ
    ด้วยมือของโมเสสและอาโรน

อิสยาห์ 24

พระเจ้าจะลงโทษอิสราเอล

24 ดูสิ พระยาห์เวห์กำลังจะทำลายโลกนี้แล้วและปล่อยให้มันรกร้างว่างเปล่า
    พระองค์จะทำให้พื้นผิวโลกบิดเบี้ยวไปและทำให้พลเมืองของมันกระจัดกระจายไป
เรื่องนี้จะเกิดขึ้นกับทุกคนเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นคนทั่วไปหรือนักบวช
    ไม่ว่าจะเป็นทาสหรือเจ้านาย
    ไม่ว่าจะเป็นสาวใช้หรือนายผู้หญิง
ไม่ว่าจะเป็นคนซื้อหรือคนขาย
    ไม่ว่าจะเป็นคนยืมหรือคนให้ยืม
    ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหนี้หรือลูกหนี้
โลกจะถูกทำลายลงอย่างราบคาบทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกปล้นไปจนเกลี้ยง
    เพราะพระยาห์เวห์ได้พูดไว้ว่าอย่างนี้
โลกก็จะแห้งแล้งและเหี่ยวเฉาไป
    โลกก็จะอ่อนกำลังลงและเหี่ยวเฉาไป
    ฟ้าสวรรค์ก็จะอ่อนแอไปพร้อมกับโลก
ผู้ที่อาศัยอยู่ในโลกได้ทำให้แผ่นดินแปดเปื้อนไปในสายตาพระเจ้า
    พวกเขาได้ฝ่าฝืนกฎต่างๆและละเมิดคำสั่งทั้งหลาย
    และหักทิ้งคำมั่นสัญญานิรันดร์ที่เขากับพระเจ้ามีต่อกัน
เพราะอย่างนั้น โลกก็ถูกคำสาปกลืนกิน
    และคนที่อาศัยอยู่ในโลกก็ถูกลงโทษเพราะความผิดของพวกเขา
ดังนั้น ผู้ที่อาศัยอยู่ในโลกจึงได้ร่อยหลอไป เหลือไม่กี่คน
เหล้าองุ่นใหม่ก็เศร้าโศกเสียใจ
    เถาองุ่นก็อ่อนแอไป
    ทุกคนที่เคยร่าเริงก็ครวญคราง
การเฉลิมฉลองกันด้วยกลองได้หยุดไป
    เสียงของคนที่ดีอกดีใจก็ไม่มีอีกแล้ว
    การเฉลิมฉลองด้วยพิณก็ได้หยุดไป
พวกเขาไม่ดื่มเหล้าองุ่นพร้อมกับร้องเพลงอีกแล้ว
    รสชาติเบียร์ก็ขมเกินไปสำหรับคนที่ดื่มมัน
10 เมืองแตกกระจายและสับสนอลหม่านไป
    บ้านทุกหลังก็ปิดไม่ให้คนเข้า
11 ตามท้องถนนก็มีเสียงร้องเพราะขาดเหล้าองุ่นดื่ม
    ความสนุกสนานได้จางหายไป
    ความยินดีของโลก[a]ถูกกวาดต้อนไป
12 ในเมืองไม่เหลืออะไรเลยนอกจากความรกร้างว่างเปล่า
    ประตูเมืองก็โดนกระหน่ำซะเละไปหมด
13 มันจะเป็นอย่างนี้ในศูนย์กลางของโลก[b]
    ท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย
    จะเป็นเหมือนตอนที่กิ่งต้นมะกอกถูกตีไปแล้วในช่วงเก็บเกี่ยว
    หรือตอนที่เหลือองุ่นไม่กี่ลูกตอนที่ฤดูเก็บเกี่ยวองุ่นผ่านไปแล้ว

14 คนที่เหลือเหล่านั้นตะโกนเสียงดัง
    พวกเขาร้องสรรเสริญความยิ่งใหญ่ของพระยาห์เวห์อย่างมีความสุข พวกเขาร้องว่า
15 “ตะโกนจากตะวันตก เฉลิมฉลองในทางตะวันออกถวายเกียรติให้กับพระยาห์เวห์
    ที่แถบชายฝั่งทะเลถวายเกียรติให้กับชื่อของพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอล”

16 พวกเราได้ยินเสียงเพลงจากที่สุดปลายโลกว่า
    “ถวายเกียรติให้กับพระองค์ผู้สัตย์ซื่อนั้น”
แต่ผมพูดว่า “ผมกำลังจะตาย ผมกำลังจะตาย
    ผมรู้สึกอับอายขายหน้า
เพราะพวกที่ทรยศไม่สัตย์ซื่อ
    พวกทรยศ ไม่สัตย์ซื่อเลย”

17 คนที่อาศัยอยู่ในโลกเอ๋ย
    ถึงเวลาที่เจ้าจะต้องตื่นตระหนกตกใจ ตกหลุมพรางและติดตาข่ายแล้ว
18 คนที่วิ่งหนีเสียงที่น่าตกใจกลัวก็จะตกลงไปในหลุมพราง
    และคนที่ปีนขึ้นมาจากหลุมพรางก็จะติดตาข่ายอีก
เพราะพวกช่องสวรรค์ทั้งหลายถูกเปิดเทน้ำลงมา
    และรากฐานต่างๆของโลกก็สั่นสะเทือน
19 โลกแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
    โลกฉีกเป็นชิ้นๆ
    โลกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
20 โลกส่ายโซเซเหมือนคนเมา
    และมันเอนเอียงไปมาเหมือนเพิงใต้พายุ
มันแบกความผิดของมันไว้จนหนักอึ้ง
    และมันก็ล้มลงและจะไม่มีวันลุกขึ้นมาได้อีก

ชัยชนะของพระยาห์เวห์

21 ในเวลานั้น พระยาห์เวห์จะลงโทษพวกพระแห่งดวงดาวบนสวรรค์เบื้องบน
    และพวกกษัตริย์ในโลกเบื้องล่าง
22 และพวกเขาจะถูกรวบรวมเหมือนกับนักโทษในหลุม
    พวกเขาจะถูกขังไว้ในคุก
    และหลังจากนั้นอีกหลายวันพวกเขาก็จะถูกลงโทษ
23 พระจันทร์จะได้รับความอับอาย
    พระอาทิตย์จะถูกทำให้ขายหน้า
เพราะพระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นจะปกครองเป็นกษัตริย์บนภูเขาศิโยนในเมืองเยรูซาเล็ม
    และสง่าราศีของพระองค์จะปรากฏต่อหน้าพวกผู้อาวุโสของเมืองนั้น

1 ยอห์น 2

พระเยซูเป็นผู้ช่วยให้รอด

ลูกๆที่รัก ผมได้เขียนสิ่งเหล่านี้ถึงพวกคุณ เพื่อพวกคุณจะได้ไม่ทำบาป แต่ถ้าใครทำบาป เราก็มีพระเยซูคริสต์ผู้ซื่อสัตย์ที่แก้ตัวแทนเราต่อหน้าพระบิดา พระองค์เป็นเครื่องบูชาที่จัดการกับบาปของเรา และไม่ใช่แต่ความบาปของเราเท่านั้น แต่รวมถึงบาปของคนทั้งโลกด้วย

ถ้าเรารักษาคำสั่งของพระองค์ เราก็จะมั่นใจได้ว่าเรารู้จักพระองค์จริงๆ คนที่พูดว่า “ฉันรู้จักพระเจ้า” แต่ไม่ได้ทำตามคำสั่งของพระองค์ ก็เป็นคนโกหก เขาไม่ได้รู้จักความจริง แต่คนที่ทำตามคำสั่งสอนของพระเจ้านั้น ความรักของพระเจ้าก็สำเร็จครบถ้วนในคนๆนั้นอย่างแท้จริง สิ่งนี้ทำให้เราแน่ใจว่าเราอยู่ในพระองค์ คนที่บอกว่าตัวเองอยู่ในพระเจ้า ก็ต้องใช้ชีวิตเหมือนกับพระเยซูด้วย

คำสั่งให้เรารักคนอื่น

เพื่อนๆที่รัก ผมไม่ได้เขียนคำสั่งใหม่ให้กับคุณ แต่เป็นคำสั่งอันเก่าที่พวกคุณมีอยู่แล้วและเคยได้ยินมาแล้ว แต่จริงๆแล้ว สิ่งที่ผมกำลังเขียนถึงคุณนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นคำสั่งใหม่ก็ได้ คุณดูได้จากชีวิตของพระคริสต์ หรือดูจากชีวิตของพวกคุณเอง แล้วจะรู้ว่าคำสั่งใหม่นี้เป็นความจริงเพราะความมืดกำลังผ่านพ้นไป และความสว่างอันแท้จริงกำลังส่องแสงอยู่แล้ว

คนที่พูดว่าเขาอยู่ในความสว่างแต่ยังเกลียดชังพี่น้องอยู่ ก็แสดงว่าเขายังอยู่ในความมืด 10 คนที่รักพี่น้องของเขาก็อยู่ในความสว่าง ชีวิตของเขาจะไม่มีอะไรไม่ดีที่จะไปทำให้คนอื่นสะดุดทำบาป 11 แต่คนที่เกลียดชังพี่น้องของตนก็ยังอยู่ในความมืด เขายังเดินอยู่ในความมืด และก็ไม่รู้ว่าตัวเองเดินไปที่ไหน เพราะความมืดทำให้ตาของเขาบอด

12 ลูกเล็กๆที่รัก ผมได้เขียนถึงพวกคุณ ก็เพราะบาปที่พวกคุณได้ทำนั้น พระเจ้าได้ยกโทษแล้วผ่านทางพระคริสต์

13 คุณพ่อทั้งหลาย ผมได้เขียนถึงพวกคุณ ก็เพราะพวกคุณได้รู้จักกับพระองค์ ผู้ซึ่งเป็นอยู่ตั้งแต่เริ่มแรก คนหนุ่มๆทั้งหลาย ผมได้เขียนถึงพวกคุณ ก็เพราะพวกคุณได้เอาชนะมารร้ายนั้น

14 ลูกเล็กๆทั้งหลาย ผมได้เขียนถึงพวกคุณ ก็เพราะพวกคุณได้มารู้จักกับพระบิดา คุณพ่อทั้งหลาย ผมได้เขียนถึงพวกคุณ ก็เพราะพวกคุณได้มารู้จักกับพระองค์ผู้ซึ่งได้เป็นอยู่ตั้งแต่เริ่มแรก คนหนุ่มๆทั้งหลาย ผมได้เขียนถึงพวกคุณ ก็เพราะพวกคุณมีกำลังมาก และพระคำของพระเจ้าอยู่ในพวกคุณทั้งหลาย และพวกคุณก็ได้เอาชนะมารร้ายนั้น

15 อย่ารักโลกหรือรักสิ่งของในโลกนี้อีกต่อไป ถ้าคนไหนรักโลกนี้ คนนั้นก็ไม่ได้รักพระบิดา 16 เพราะทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ คือกิเลสตัณหาของสันดาน กิเลสตัณหาของตา และการโอ้อวดในสิ่งที่ทำหรือมี สิ่งเหล่านี้ไม่ได้มาจากพระบิดา แต่มาจากโลกนี้ 17 โลกนี้กำลังผ่านพ้นไปแล้ว พร้อมๆกับกิเลสตัณหาของมัน แต่คนที่ทำตามความต้องการของพระเจ้าจะยังอยู่ตลอดไป

อย่าติดตามศัตรูของพระคริสต์

18 ลูกๆเอ๋ย วันสุดท้ายใกล้มาถึงแล้ว อย่างที่พวกคุณได้ยินแล้วว่าศัตรูของพระคริสต์กำลังจะมา เดี๋ยวนี้พวกศัตรูนั้นก็ได้มากันมากมายแล้ว ซึ่งทำให้เรารู้ว่าวันสุดท้ายใกล้มาถึงแล้ว 19 ศัตรูพวกนี้เป็นพวกที่ได้เดินออกไปจากพวกเรา แต่ความจริงแล้วพวกเขาไม่ได้เป็นคนของพวกเราหรอก เพราะถ้าเป็นพวกเราจริงก็ต้องอยู่กับเราตลอดไป แต่พวกเขาได้ออกไปจากพวกเราแล้ว แสดงว่าไม่มีใครสักคน ในพวกเขาที่เป็นคนของพวกเรา

20 พระคริสต์ผู้บริสุทธิ์ได้เจิมพวกคุณด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทำให้พวกคุณทุกคนรู้ความจริง 21 ที่ผมเขียนจดหมายมาหาพวกคุณ ไม่ใช่เพราะพวกคุณไม่รู้ความจริงนี้ แต่เพราะพวกคุณรู้แล้ว และรู้ด้วยว่าไม่มีคำหลอกลวงออกมาจากความจริง

22 แล้วคนโกหกคือใคร คนโกหกก็คือคนที่พูดว่าพระเยซูไม่ใช่พระคริสต์ คนนี้แหละคือศัตรูของพระคริสต์และเป็นคนที่ปฏิเสธทั้งพระบิดาและพระบุตรด้วย 23 ทุกคนที่ปฏิเสธพระบุตรก็ไม่มีพระบิดา แต่คนที่ยอมรับพระบุตรอย่างเปิดเผยก็มีพระบิดาด้วย

24 ขอให้พวกคุณเก็บรักษาคำสั่งสอนที่คุณได้ยินมาตั้งแต่ต้น เพราะถ้าคุณเก็บรักษาคำสั่งสอนนี้ไว้ คำสั่งสอนนี้ก็จะเก็บรักษาคุณไว้ในพระบุตรและพระบิดาด้วย 25 นี่เป็นสิ่งที่พระเจ้าสัญญาว่าจะให้กับเรา คือชีวิตที่อยู่กับพระเจ้าตลอดไป

26 ทั้งหมดที่ผมเขียนมานี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการที่มีคนพยายามจะมาหลอกลวงพวกคุณ 27 พระคริสต์ได้เจิมพวกคุณด้วยพระวิญญาณ และพระวิญญาณก็ยังอยู่กับพวกคุณ คุณก็เลยไม่ต้องให้ใครมาสอนอีก เพราะพระวิญญาณนั้นได้สอนให้คุณรู้เกี่ยวกับทุกสิ่ง พระวิญญาณนั้นเป็นความจริงและจะไม่หลอกลวง ดังนั้นพวกคุณควรจะตั้งมั่นคงอยู่ในพระคริสต์เหมือนกับที่พระวิญญาณได้สอนนั้น

28 เดี๋ยวนี้ขอให้ลูกเล็กๆทั้งหลายตั้งมั่นคงอยู่ในพระคริสต์ เพื่อว่าเมื่อวันที่พระคริสต์มาปรากฏ เราจะได้มีความมั่นใจและไม่ต้องละอายเมื่อพระองค์กลับมา 29 เพราะพวกคุณรู้แล้วว่า พระเจ้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง และทุกคนที่ทำสิ่งที่ถูกต้องก็ได้เป็นลูกของพระเจ้า

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International