Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
1 พงศาวดาร 3-4

ลูกๆของดาวิด

(2 ซมอ. 3:2-5; 5:13-16; 1 พศด. 14:3-7)

ต่อไปนี้คือลูกชายของดาวิดที่เกิดในเมืองเฮโบรน

คนแรกคือ อัมโนน มีแม่ชื่อ อาหิโนอัมเป็นชาวยิสเรเอล

คนที่สองคือ ดาเนียล มีแม่ชื่อ อาบีกายิล เป็นชาวคารเมล

คนที่สามคืออับซาโลม มีแม่ชื่อ มาอาคาห์ เป็นลูกสาวของกษัตริย์ทัลมัยแห่งเกชูร์

คนที่สี่คืออาโดนียาห์ มีแม่ชื่อฮักกีท

คนที่ห้าคือเชฟาทิยาห์ มีแม่ชื่อ อาบีตัล

คนที่หกคือ อิทเรอัม จากเมียของดาวิดที่ชื่อเอกลาห์

ลูกชายทั้งหกคนนี้ของดาวิดล้วนเกิดในเมืองเฮโบรน ซึ่งเป็นเมืองที่เขาเป็นกษัตริย์อยู่เป็นเวลาเจ็ดปีกับอีกหกเดือน

ดาวิดครองราชย์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มเป็นเวลาสามสิบสามปี ต่อไปนี้คือลูกชายของดาวิดที่เกิดในเมืองเยรูซาเล็ม

ชิเมอา โชบับ นาธันและซาโลมอน พวกเขาทั้งสี่คนมีแม่ชื่อบัทชูวา[a] นางเป็นลูกสาวของของอัมมีเอล และยังมีอิบฮาร์ เอลีชามา เอลีเฟเลท โนกาห์ เนเฟก ยาเฟีย เอลีชามา เอลียาดาและเอลีเฟเลท รวมทั้งหมดเก้าคน

ทั้งเก้าคนนี้คือลูกชายของดาวิด และพวกเขามีพี่สาวชื่อทามาร์[b] ดาวิดยังมีลูกชายคนอื่นๆอีกจากเมียน้อยทั้งหลายของเขา

พวกกษัตริย์ยูดาห์ต่อจากดาวิด

10 ลูกชายของซาโลมอนคือ เรโหโบอัม ลูกชายของเรโหโบอัมคืออาบียาห์ ลูกชายของอาบียาห์คืออาสา ลูกชายของอาสาคือเยโฮชาฟัท 11 ลูกชายของเยโฮชาฟัทคือโยรัม[c] ลูกชายของโยรัมคืออาหัสยาห์ ลูกชายของอาหัสยาห์คือโยอาช 12 ลูกชายของโยอาชคืออามาซิยาห์ ลูกชายของอามาซิยาห์คืออาซาริยาห์ ลูกชายของอาซาริยาห์คือโยธาม 13 ลูกชายของโยธามคืออาหัส ลูกชายของอาหัสคือเฮเซคียาห์ ลูกชายของเฮเซคียาห์คือมนัสเสห์ 14 ลูกชายของมนัสเสห์คืออาโมน ลูกชายของอาโมนคือโยสิยาห์

15 พวกลูกชายของโยสิยาห์ประกอบไปด้วย โยฮานันซึ่งเป็นลูกหัวปี คนที่สองชื่อเยโฮยาคิม คนที่สามชื่อเศเดคียาห์ คนที่สี่ชื่อชัลลูม

16 ลูกชายของเยโฮยาคิมคือ เยโฮยาคีน[d] และลูกชายของเยโฮยาคีน คือ เศเดคียาห์[e]

เชื้อสายของดาวิดในบาบิโลน

17 ต่อไปนี้คือลูกชายของเยโคนิยาห์[f] หลังจากที่เขาถูกจับไปเป็นเชลยในบาบิโลน คือ เชอัลทิเอล 18 มัลคีราม เปดายาห์ เชนาสซาร์ เยคามิยาห์ โฮชามา และเนดาบียาห์

19 ลูกชายของเปดายาห์คือ เศรุบบาเบล และชิเมอี ลูกชายของเศรุบบาเบลคือ เมชุลลาม ฮานันยาห์และน้องสาวของพวกเขาชื่อเชโลมิท 20 เศรุบบาเบลยังมีลูกชายอีกห้าคน คือ ฮาชูบาห์ โอเฮล เบเรคิยาห์ ฮาสาดิยาห์ และยูชับเฮเสด

21 ลูกชายของฮานันยาห์คือ เปลาทิยาห์ที่มีลูกชายชื่อ เยชายาห์[g] ที่มีลูกชายชื่อเรไฟยาห์ ที่มีลูกชายชื่ออารนัน ที่มีลูกชายชื่อโอบาดียาห์ ที่มีลูกชายชื่อเชคานิยาห์[h]

22 ลูกชาย ของเชคานิยาห์คือ เชไมอาห์ ฮัทธัช อิกาล บารียาห์ เนอารียาห์และชาฟัท รวมทั้งหมดหกคน[i]

23 ลูกชายของเนอารียาห์ คือ เอลีโอเอนัย ฮีสคียาห์และอัสรีคัม รวมทั้งหมดสามคน

24 ลูกชายของเอลีโอเอนัยคือ โฮดาวิยาห์ เอลียาชีบ เปไลยาห์ อักขูบ โยฮานัน เดไลยาห์และอานานี รวมทั้งหมดเจ็ดคนด้วยกัน

เชื้อสายของชาวยูดาห์

ลูกหลานของยูดาห์คือ

เปเรศลูกของเขา และ ลูกของเปเรศคือเฮสโรน ที่มีลูกชายคือคารมี ที่มีลูกชายคือเฮอร์ที่มีลูกชายคือโชบาล

เรอายาห์ที่เป็นลูกชายของโชบาลเป็นพ่อของยาหาท และยาหาทเป็นพ่อของอาหุมัยและลาฮาด ชาวโศราห์สืบเชื้อสายมาจากอาหุมัยและลาฮาด

ต่อไปนี้คือพวกลูกชายของเอตาม คือยิสเรเอล อิชมาและอิดบาช พวกเขามีน้องสาวชื่อฮัสเซเลลโพนี

เปนูเอลเป็นพ่อของเกโดร์ และเอเซอร์เป็นพ่อของหุชาห์

พวกเขาเป็นลูกชายของเฮอร์ซึ่งเป็นลูกชายหัวปีของนางเอฟราธาห์ผู้ก่อตั้ง[j] เมืองเบธเลเฮม

อัชฮูร์ พ่อของเทโคอา มีเมียสองคนชื่อเฮลาห์และนาอาราห์ นางนาอาราห์มีลูกชายกับเขาชื่อ อาหุสซาม เฮเฟอร์ เทเมนีและฮาอาหัชทารี พวกเขาเป็นลูกชายของนางนาอาราห์ ลูกชายของนางเฮลาห์คือ เศเรท อิสฮาร์ เอทนาน และโขส โขสเป็นพ่อของอานูบและโศเบบาห์ โขสยังเป็นต้นตระกูลของอาหารเฮล อาหารเฮลเป็นลูกชายของฮารูม

ยาเบสเป็นคนที่น่านับถือมากกว่าพี่น้องของเขา ที่แม่ของเขาตั้งชื่อเขาว่ายาเบสนั้น นางบอกว่า “เพราะเราคลอดเขาออกมาด้วยความเจ็บปวด[k] 10 ยาเบสได้อธิษฐานกับพระเจ้าของอิสราเอลว่า “ขอพระองค์อวยพรข้าพเจ้าด้วยเถิด ขอช่วยขยายเขตแดนของข้าพเจ้าด้วยเถิด ขอพระองค์สถิตกับข้าพเจ้าด้วยเถิด ขอพระองค์ประทานทุ่งหญ้าเพิ่มให้กับข้าพเจ้า โดยไม่ต้องทำให้ใครเดือดร้อนด้วยเถิด”[l] และพระเจ้าก็ได้ให้สิ่งที่เขาขอ

11 เคลูบเป็นพี่ชายของชูฮาห์และเป็นพ่อของเมหิร์ เมหิร์เป็นพ่อของเอชโทน 12 เอชโทนเป็นพ่อของเบธราฟา ปาเสอาห์และเทหินนาห์ เทหินนาห์เป็นพ่อของอิรนาหาช[m] พวกเขาล้วนเป็นคนเมืองเรคาห์

13 ลูกชายของเคนัสคือ โอทนีเอลและเสไรอาห์ ลูกชายของโอทนีเอลคือ ฮาธาทและเมโอโนธัย 14 เมโอโนธัยเป็นพ่อของโอฟราห์

เสไรอาห์เป็นพ่อของโยอาบ โยอาบเป็นผู้ก่อตั้งเกหะราชิม[n] ที่เรียกอย่างนี้ก็เพราะว่าพวกเขาเป็นช่างฝีมือนั่นเอง

15 คาเลบเป็นลูกชายของเยฟุนเนห์ ลูกชายของคาเลบคือ อิรู เอลาห์และนาอัม ลูกชายของเอลาห์คือเคนัส

16 ลูกชายของเยฮาลเลเลลคือ ศีฟ ศิฟาห์ ทิรียาและอาสาเรล

17 ลูกชายของเอสราห์ คือ เยเธอร์ เมเรด เอเฟอร์และยาโลน เยเธอร์เป็นพ่อของ[o] มิเรียม ชัมมัย และอิชบาห์ อิชบาห์เป็นพ่อของเอชเทโมอา 18 เมเรดมีเมียมาจากอียิปต์ชื่อบิทิยาห์ ที่เป็นลูกสาวของกษัตริย์ฟาโรห์ บิทิยาห์ คลอดลูกชายออกมาชื่อ เยเรด เฮเบอร์ และเยคูธีเอล เยเรดเป็นพ่อของเกโดร์ เฮเบอร์เป็นพ่อของโสโค และเยคูธีเอลเป็นพ่อของศาโนอาห์

19 เมเรดมีเมียอีกคนหนึ่งจากยูดาห์[p] ซึ่งเป็นน้องสาวของนาฮัม พวกลูกชายของหญิงยูดาห์คนนั้น เป็นพ่อของเคอีลาห์ชาวเกเรม และเป็นพ่อของเอชเทโมอาชาวมาอาคาห์ 20 ลูกชายของชิโมนคือ อัมโนน รินนาห์ เบนฮานันและทิโลน ลูกชายของอิชอีคือ โศเหทและเบนโศเหท

21 ลูกหลานของเชลาห์ที่เป็นลูกชายของยูดาห์ คือ เอร์พ่อของเลคาห์ ลาอาดาห์พ่อของมาเรชาห์ รวมทั้งพวกตระกูลของคนที่ทำผ้าลินินที่เบธชัชเบอา 22 โยคิมและคนของเมืองโคเซบา เมืองโยอาช รวมทั้งเมืองสาราฟที่เป็นเจ้าหน้าที่ของโมอับ[q]และได้ย้ายกลับมาที่เบธเลเฮม (เรื่องนี้มาจากบันทึกฉบับที่เก่าแก่มาก) 23 พวกลูกหลานของเชลาห์นี้เป็นช่างปั้นหม้อและอาศัยอยู่ในเมืองเนทาอิมและเกเดราห์ พวกเขาอยู่ที่นั่นเพื่อทำงานให้กับกษัตริย์

เชื้อสายของสิเมโอน

24 ลูกชายของสิเมโอนคือ เนมูเอล ยามีน ยารีบ เศราห์ และชาอูล 25 ลูกชายของชาอูลคือชัลลูม ลูกชายของชัลลูมคือมิบสัม ลูกชายของมิบสัมคือมิชมา

26 ลูกชายของมิชมาคือ ฮัมมูเอล และลูกชายของฮัมมูเอลคือศักเกอร์ ลูกชายของศักเกอร์คือชิเมอี 27 ชิเมอีมีลูกชายสิบหกคนและมีลูกสาวหกคน แต่พี่น้องของเขาไม่มีลูกมากมายเหมือนเขา ดังนั้น ตระกูลของพวกเขาจึงไม่ได้เป็นตระกูลที่มีคนมากนักในยูดาห์

28 ลูกหลานของชิเมอีได้อาศัยอยู่ในเบเออร์เชบา โมลาดาห์ ฮาซารชูอาล 29 บิลฮาห์ เอเซม โทลัด 30 เบธูเอล โฮรมาห์ ศิกลาก 31 เบธมารคาโบท ฮาซารสูสิม เบธบิรี และที่ชาอาราอิม เมืองเหล่านี้เป็นของพวกเขา จนกระทั่งดาวิดได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ 32 หมู่บ้านต่างๆในแถบนั้น ประกอบไปด้วย เอตาม อายิน ริมโมน โทเคนและอาชัน รวมทั้งหมดห้าเมือง 33 ยังมีหมู่บ้านอื่นๆอีกไกลไปจนถึงเมืองบาอัล นี่คือสถานที่ที่พวกเขาได้ไปตั้งรกราก แล้วพวกเขาได้เก็บรักษารายชื่อของบรรพบุรุษไว้

34 นี่คือรายชื่อของผู้นำเผ่าต่างๆคือ เมโชบับ ยัมเลค โยชาห์ คือลูกชายของอามาซิยาห์ 35 โยเอล และเยฮูที่เป็นลูกชายของโยชิบียาห์ที่เป็นลูกชายของเสไรอาห์ที่เป็นลูกชายของอาสิเอล 36 เอลีโอเอนัย ยาอาโคบาห์ เยโชฮายาห์ อาสายาห์ อาดีเอล เยสิมีเอล เบไนยาห์ 37 และศีศาเป็นลูกชายของชิฟีที่เป็นลูกชายของอาโลนที่เป็นลูกชายของเยดายาห์ที่เป็นลูกชายของชิมรีที่เป็นลูกชายของเชไมอาห์ 38 รายชื่อเหล่านั้นเป็นรายชื่อของพวกผู้นำตระกูลต่างๆ

และตระกูลของพวกเขาได้ขยายเพิ่มขึ้นอย่างมาก 39 แล้วพวกเขาได้เดินทางไปยังบริเวณที่อยู่นอกเมืองเกโดร์ไปทางทิศตะวันออกของหุบเขา เพื่อค้นหาทุ่งหญ้าให้กับฝูงสัตว์เลี้ยงของพวกเขา 40 และที่นั่นพวกเขาได้พบทุ่งหญ้าที่ดีและอุดมสมบูรณ์ เป็นแผ่นดินที่กว้างขวาง เงียบสงบสุข ซึ่งพวกเชื้อสายของฮามเคยอยู่มาก่อน 41 ในสมัยของกษัตริย์เฮเซคียาห์ของยูดาห์ พวกที่มีชื่ออยู่ดังกล่าวข้างต้นนั้นได้เข้ามา และได้มาโจมตีพวกฮามและทำลายเต็นท์ของพวกฮามทิ้ง และพวกนี้ก็ยังได้ต่อสู้กับพวกเมอูนิมด้วย และได้ทำลายพวกเมอูนิมจนสิ้นซากอย่างที่เห็นมาจนถึงทุกวันนี้ และพวกนี้ก็ได้ตั้งรกรากอยู่ที่นั่นแทน เพราะว่ามันเป็นสถานที่ที่มีทุ่งหญ้าให้กับสัตว์เลี้ยงของพวกเขา

42 มีพวกสิเมโอนประมาณห้าร้อยคนได้ไปที่ภูเขาเสอีร์ โดยมีเปลาทิยาห์ เนอารียาห์ เรไฟยาห์และอุสซีเอล ลูกชายทั้งหลายของอิชอีเป็นผู้นำ 43 พวกเขาได้ทำลายพวกอามาเลคที่ยังหลงเหลืออยู่และหลบหนีอยู่ที่นั่น และชาวสิเมโอนเหล่านั้นก็ได้อาศัยอยู่ที่ภูเขาเสอีร์นั้นมาจนถึงทุกวันนี้

ฮีบรู 9

การนมัสการแบบเก่า

คำสัญญาเดิมนั้น มีกฎระเบียบสำหรับการนมัสการ และมีสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ในโลกนี้ เพราะมีเต็นท์ที่กางขึ้นมา เต็นท์นี้มีสองห้อง ห้องแรกเรียกว่า “ห้องที่ศักดิ์สิทธิ์” ภายในห้องแรกนี้มีโคมไฟตั้งพื้น มีโต๊ะและขนมปังศักดิ์สิทธิ์วางอยู่ ส่วนห้องที่สองนั้นมีม่านกั้นอยู่ ห้องนี้มีชื่อเรียกว่า “ห้องที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด” ภายในห้องที่สองนี้ มีแท่นบูชาทองคำ[a] เอาไว้เผาเครื่องหอม และมีหีบแห่งคำสัญญา หีบนี้หุ้มด้วยทองคำทั้งหมด ภายในหีบมีโถทองคำที่ใส่อาหารทิพย์[b]ไว้ มีไม้เท้าของอาโรนที่มีใบอ่อนงอกออกมา และมีแผ่นหินสองแผ่นของคำสัญญาที่สลักกฎปฏิบัติสิบประการไว้ บนหีบนั้นมีรูปปั้นเครูบ ที่อยู่ต่อหน้าสง่าราศีของพระเจ้า ปีกทั้งสองของทูตสวรรค์นั้นกางออกคลุมฝาหีบตรงที่ที่บาปได้รับการยกโทษ[c] ตอนนี้เราไม่สามารถอธิบายถึงเรื่องนี้อย่างละเอียดได้

เมื่อจัดสิ่งพวกนี้เข้าที่แล้ว พวกนักบวชจะเข้าไปในห้องแรก ทำหน้าที่รับใช้พระเจ้าเป็นประจำ ส่วนในห้องที่สองนั้น มีแต่หัวหน้านักบวชสูงสุดคนเดียวที่เข้าไปได้ แต่เข้าไปปีละครั้งเท่านั้น และเขาจะต้องเอาเลือดเข้าไปด้วย เพื่อจัดการกับบาปของตัวเอง และบาปของประชาชนอิสราเอลที่ได้ทำไปโดยไม่รู้ตัว จากเรื่องนี้ พระวิญญาณบริสุทธิ์ชี้ให้เห็นว่า ทางที่จะเข้าไปในห้องที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดนั้น จะยังไม่เปิดเผยให้รู้ ตราบใดที่ห้องแรกยังใช้ทำพิธีศาสนากันอยู่ นี่เป็นเรื่องเปรียบเทียบให้เห็นว่าของถวายและเครื่องบูชาที่เอามาถวายให้กับพระเจ้านั้น ไม่สามารถชำระจิตใจของคนที่เอาเครื่องบูชามา ให้บริสุทธิ์ได้หรอก 10 เพราะมันเป็นแค่เรื่องของอาหาร เครื่องดื่มและพิธีชำระล้างต่างๆซึ่งล้วนแต่เป็นกฎที่เกี่ยวกับเรื่องภายนอกที่ใช้กันจนกว่าจะถึงเวลาของระบบใหม่

การนมัสการแบบใหม่

11 แต่ตอนนี้พระคริสต์ได้มาในฐานะหัวหน้านักบวชสูงสุด สิ่งดีๆพวกนี้ที่มาถึงแล้ว พระองค์ได้นำเข้าไปในเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่สมบูรณ์แบบกว่า เป็นเต็นท์ที่ไม่ได้ทำด้วยมือมนุษย์ และไม่ได้เป็นของโลกที่ถูกสร้างมานี้ 12 พระองค์เข้าไปในห้องที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดนั้นเพียงครั้งเดียวก็พอสำหรับตลอดไป พระองค์ไม่ได้เอาเลือดแพะและเลือดลูกวัวเข้าไป แต่ได้ถวายเลือดของพระองค์เอง พระองค์จึงทำให้เราเป็นอิสระจากบาปตลอดไป 13 ถ้าเลือดของแพะและวัวตัวผู้ และขี้เถ้าของวัวตัวเมียที่เอามาประพรมลงบนคนที่ไม่สะอาดตามพิธีทางศาสนา ยังทำให้เขาสะอาดภายนอกได้ 14 แล้วเลือดของพระคริสต์ล่ะ จะชำระเรายิ่งกว่านั้นอีกขนาดไหน พระองค์ได้ถวายตัวเองให้กับพระเจ้า เป็นเครื่องบูชาที่ไม่มีตำหนิ ผ่านทางพระวิญญาณที่คงอยู่ตลอดไป ดังนั้นเลือดของพระองค์จะชำระล้างจิตใจของเราจากการกระทำที่นำไปถึงความตาย เพื่อเราจะได้มารับใช้พระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่

15 นี่เป็นเหตุที่พระคริสต์ได้นำคำสัญญาใหม่[d]มาให้ พระองค์เป็นคนกลางระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ เพื่อให้คนที่พระเจ้าเรียกมานั้น ได้รับมรดกถาวรตามที่พระเจ้าได้สัญญาไว้ ความตายของพระเยซูทำให้มนุษย์ได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระพ้นจากบาปที่ได้ทำไปภายใต้คำสัญญาแรก[e]แล้ว

16 มีพินัยกรรมอยู่ที่ไหนก็จำเป็นจะต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า คนทำพินัยกรรมนั้นตายแล้ว 17 เพราะพินัยกรรมจะมีผลบังคับใช้ก็ต่อเมื่อคนทำตายแล้วเท่านั้น แต่ถ้าคนทำพินัยกรรมนั้นยังอยู่ มันก็ไม่มีผลบังคับอะไรเลย 18 นั่นเป็นเหตุที่ถ้าไม่มีเลือด คำสัญญาแรกก็ยังไม่มีผลบังคับใช้ 19 เมื่อโมเสสได้ประกาศคำสั่งทุกข้อให้กับประชาชนแล้ว ท่านก็เอาเลือดของลูกวัวและแพะพร้อมกับน้ำและขนแกะสีแดงและกิ่งหุสบมาประพรมหนังสือม้วนของคำสัญญาและประชาชนทุกคน 20 โมเสสพูดว่า “นี่คือเลือดแห่งคำสัญญา คำสัญญานี้พระเจ้าได้สั่งให้พวกคุณรักษาไว้”[f] 21 แล้วโมเสสก็ได้ประพรมเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ และของทุกอย่างที่ใช้ในการนมัสการพระเจ้า 22 อันที่จริง ตามกฎของโมเสสนั้นถือว่าเกือบทุกอย่างที่จะต้องใช้เลือดชำระล้างให้บริสุทธิ์ และถ้าไม่มีการหลั่งเลือดออกมาก็จะไม่มีการยกโทษให้

พระคริสต์กำจัดบาปได้

23 ดังนั้น ของพวกนี้ที่จำลองแบบมาจากของจริงในสวรรค์ จำเป็นที่ต้องเอาเลือดของสัตว์มาชำระมัน แต่กับของจริงที่อยู่ในสวรรค์นั้นจะต้องใช้เครื่องบูชาที่ดีกว่านี้ชำระ 24 เพราะพระคริสต์ไม่ได้เข้าไปในห้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุดที่มือมนุษย์สร้าง หรือที่จำลองแบบจากของจริง แต่ตอนนี้พระองค์ได้เข้าไปอยู่ต่อหน้าพระเจ้าในสวรรค์ที่แท้จริงเพื่อเรา 25 พระองค์ไม่ได้เข้าไปถวายพระองค์เองซ้ำแล้วซ้ำอีก เหมือนกับที่หัวหน้านักบวชสูงสุดต้องเอาเลือดที่ไม่ใช่ของเขาเองเข้าไปในห้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุดทุกๆปี 26 เพราะไม่อย่างนั้น พระคริสต์ก็ต้องถวายตัวเองหลายต่อหลายครั้งแล้ว นับตั้งแต่สร้างโลกมา แต่ตอนนี้ซึ่งเป็นยุคสุดท้ายแล้ว พระองค์ได้ปรากฏตัวเพียงครั้งเดียวก็พอสำหรับตลอดไป เพื่อถวายพระองค์เองเป็นเครื่องบูชากำจัดบาปให้หมดไป 27 มนุษย์ตายแค่ครั้งเดียวแล้วเจอกับการพิพากษา 28 พระคริสต์ก็เหมือนกัน ที่ถวายตัวเองเพียงครั้งเดียว เพื่อกำจัดบาปของคนเป็นจำนวนมาก และพระองค์จะมาปรากฏตัวอีกเป็นครั้งที่สอง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อมากำจัดบาป แต่มาช่วยคนพวกนั้นให้รอด คือคนที่กำลังรอพระองค์อย่างใจจดใจจ่ออยู่

อาโมส 3

คำเตือนต่อคนอิสราเอล

คนอิสราเอล ฟังไว้ให้ดี นี่เป็นคำพูดของพระยาห์เวห์ ที่พระองค์พูดต่อต้านพวกเจ้า ต่อต้านครอบครัวของอิสราเอลทั้งหมด ที่พระยาห์เวห์เคยนำออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ จากชนชาติทั้งหมดในโลกนี้ มีแต่พวกเจ้าเท่านั้นที่เราเอาใจใส่เป็นพิเศษ แต่เจ้ากลับไม่เชื่อฟังเรา เพราะอย่างนี้ เราจะลงโทษพวกเจ้า สำหรับความผิดบาปที่เจ้าทำ

ถ้าไม่ได้นัดพบกันก่อน
    คนสองคนจะเดินทางไปด้วยกันได้หรือ
ถ้าสิงโตยังไม่เจอเหยื่อของมัน
    มันจะแผดเสียงร้องในป่าหรือ
ถ้าสิงโตหนุ่มยังจับอะไรไม่ได้
    มันจะแผดเสียงจากถ้ำของมันหรือ
ถ้าไม่มีเหยื่อมาล่อนก
    มันจะติดกับดักที่พื้นหรือ
ถ้าไม่มีอะไรมาติดกับดักนั้น
    กับดักจะเด้งขึ้นมาจากพื้นหรือ
ถ้ามีเสียงแตรเตือนในเมือง
    คนจะไม่กลัวหรือ
ถ้ามีความหายนะเกิดขึ้นกับเมือง
    ก็ไม่ใช่เพราะพระยาห์เวห์ทำให้มันเกิดขึ้นหรอกหรือ

พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตจะไม่ทำอะไร
    จนกว่าพระองค์จะเปิดเผยแผนการนั้นให้กับพวกผู้รับใช้ของพระองค์ที่เป็นพวกผู้พูดแทนพระเจ้ารู้เสียก่อน
เมื่อสิงโตคำราม
    คนจะไม่กลัวหรือ
ถ้าพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด
    คนของพระองค์จะไม่ประกาศออกไปหรือ
9-10 ให้บอกสิ่งนี้กับผู้คนที่อาศัยอยู่ตามป้อมปราการต่างๆของเมืองอัชโดด และของแผ่นดินอียิปต์
ให้บอกกับพวกเขาว่า “มารวมตัวกันที่ภูเขาต่างๆของสะมาเรีย
    แล้วเจ้าจะเห็นความโหดร้ายทารุณที่มีต่อกัน
    และเห็นการกดขี่ข่มเหงกันและกัน
เพราะผู้คนไม่รู้ว่าจะทำดียังไง
    คนเหล่านั้นไปแย่งชิงและปล้นสิ่งของของคนอื่น แล้วเอามาเก็บสะสมไว้ในป้อมปราการต่างๆของพวกเขา”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
11 ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต พูด คือ “ศัตรูจะมาปิดล้อมแผ่นดินนี้ไว้ทุกด้าน
    และทำลายแนวป้องกันต่างๆของเจ้า
    และปล้นเอาทรัพย์สมบัติที่อยู่ตามป้อมปราการต่างๆของเจ้าไป”

12 พระยาห์เวห์พูดว่า
“เราจะช่วยคนอิสราเอลที่อยู่ในสะมาเรียเหมือนกับที่ผู้เลี้ยงแกะพยายามช่วยแกะให้รอดจากปากสิงโต แต่ช่วยออกมาได้แค่ขาสองขาและหูหนึ่งข้าง
    พวกเขาเหลือรอดแค่เสี้ยวหนึ่งของเก้าอี้นอนยาวและขาเตียงข้างหนึ่ง”

13 ฟังให้ดี และให้เป็นพยานถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของยาโคบ
    นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูด

14 “ในวันที่เราจะลงโทษอิสราเอล สำหรับความผิดบาปของเขานั้น
    เราจะทำลายแท่นบูชาที่เมืองเบธเอล[a] ด้วย
และจะตัดมุมทั้งสี่ของแท่นบูชานั้นทิ้ง
    และมันก็จะล่วงลงกับพื้น
15 เราจะทำลายบ้านพักฤดูหนาวและบ้านพักฤดูร้อน
    และจะทำลายบ้านที่ตกแต่งด้วยงาช้าง
    และทำลายบ้านอื่นๆอีกมากมาย”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้

สดุดี 146-147

สรรเสริญพระยาห์เวห์ที่ช่วยคนอ่อนแอ

สรรเสริญพระยาห์เวห์
    จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย สรรเสริญพระองค์เถิด
ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระยาห์เวห์ตราบเท่าที่ข้าพเจ้ายังมีชีวิตอยู่
    ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญแด่พระเจ้าของข้าพเจ้าตราบเท่าที่ข้าพเจ้ายังมีลมหายใจอยู่

อย่าได้เชื่อพึ่งในพวกผู้นำทั้งหลาย
    เพราะพวกเขาเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาๆไม่มีฤทธิ์อำนาจที่จะช่วยให้รอดได้
จิตวิญญาณของพวกเขาจะออกจากร่างและร่างกายของพวกเขาจะกลับสู่ดิน
    แล้วในวันนั้น แผนงานทั้งหลายของพวกเขาก็จะสูญสิ้นไป

คนที่มีพระเจ้าของยาโคบเป็นผู้ช่วยให้รอด ถือว่ามีเกียรติจริงๆ
    พวกเขาฝากความหวังไว้ในพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา
พระองค์สร้างฟ้าสวรรค์ แผ่นดินโลก ทะเลและทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในพวกมัน
    พระองค์ยังคงรักษาความสัตย์ซื่อของพระองค์ตลอดกาล
พระองค์ให้ความยุติธรรมกับคนที่ถูกกดขี่ข่มเหง
    พระองค์ให้อาหารกับคนเหล่านั้นที่หิวโหย
พระยาห์เวห์ปลดปล่อยคนเหล่านั้นที่ถูกขังคุก
    พระยาห์เวห์ช่วยคนตาบอดให้มองเห็น
พระยาห์เวห์ช่วยคนเหล่านั้นที่หลังคดงอให้ยืนตรง
    พระยาห์เวห์รักคนเหล่านั้นที่ทำถูกต้อง
พระยาห์เวห์คุ้มครองคนต่างด้าว
    พระองค์ค้ำจุนเด็กกำพร้าและหญิงหม้าย
    และพระองค์ทำลายแผนการของคนชั่ว
10 พระยาห์เวห์จะปกครองตลอดไป
    ศิโยนเอ๋ย พระเจ้าของเจ้าจะปกครองไปตลอดรุ่นแล้วรุ่นเล่า

สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด

พระยาห์เวห์พระผู้สร้างช่วยคนของพระองค์

สรรเสริญพระยาห์เวห์ มันเป็นการดีที่จะร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าของเรา
    เป็นสิ่งที่น่ายินดีและถูกต้องที่จะสรรเสริญพระองค์
พระยาห์เวห์กำลังสร้างเยรูซาเล็มขึ้นมาใหม่
    และพระองค์กำลังนำพวกชาวอิสราเอลที่ถูกต้อนไป กลับมา
พระองค์เยียวยาผู้ที่ใจแตกสลาย
    และพันแผลให้พวกเขา
พระองค์นับจำนวนดวงดาว
    และตั้งชื่อให้กับดวงดาวทุกดวง
องค์เจ้าชีวิตของพวกเรานั้นยิ่งใหญ่และเกรียงไกร
    และความเข้าใจของพระองค์นั้นไม่มีขีดจำกัด
พระยาห์เวห์ค้ำจุนคนต่ำต้อย
    แต่พระองค์ผลักไสคนชั่วลงสู่ดิน

ให้ร้องเพลงขอบคุณพระยาห์เวห์
    ร้องเพลงสดุดีแด่พระเจ้าด้วยพิณสี่สาย
พระองค์คลุมท้องฟ้าด้วยเมฆ พระองค์ให้ฝนตกบนแผ่นดิน
    พระองค์ให้หญ้างอกขึ้นตามเนินเขาต่างๆ
พระองค์ให้อาหารกับสัตว์ทั้งหลาย
    และเลี้ยงแม้แต่ลูกกาตัวเล็กๆที่ร้องขออาหารจากพระองค์
10 พระองค์ไม่สนใจเรื่องพละกำลังของม้า
    ไม่ชื่นชมกับพลังขาของนักรบ
11 แต่พระยาห์เวห์ชื่นชมในคนเหล่านั้นที่ยำเกรงพระองค์
    คือคนเหล่านั้นที่ฝากความหวังไว้กับความรักมั่นคงของพระองค์

12 เยรูซาเล็มเอ๋ย ยกย่องพระยาห์เวห์เถิด
    ศิโยนเอ๋ย สรรเสริญพระเจ้าของเจ้าเถิด
13 เพราะพระองค์ทำให้สลักประตูเมืองของเจ้าแข็งแรง
    พระองค์ได้อวยพรลูกๆของเจ้าภายในเมืองของเจ้า
14 พระองค์ทำให้สันติภาพเกิดขึ้นในเขตแดนของเจ้า
    และให้เมล็ดพืชชั้นดีกับเจ้าอย่างเหลือเฟือ
15 พระองค์ส่งคำสั่งของพระองค์ออกไปทั่วโลก
    และคำสั่งนั้นก็วิ่งไปยังจุดหมายของมันอย่างรวดเร็ว
16 พระองค์ทำให้หิมะตกขาวเหมือนกับขนแกะ
    พระองค์หว่านน้ำค้างที่แข็งขาวไปทั่วเหมือนขี้เถ้า
17 พระองค์โยนลูกเห็บลงมาเป็นก้อนๆ
    จะมีใครทนความหนาวเหน็บที่พระองค์ส่งมาได้
18 พระองค์ส่งคำสั่งของพระองค์ออกไป แล้วสิ่งเหล่านี้ก็เริ่มละลาย
    พระองค์ระบายลมหายใจออกมา สายน้ำก็เริ่มไหล
19 พระองค์ให้บัญญัติต่างๆของพระองค์กับคนของยาโคบ
    พระองค์ให้พวกกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆของพระองค์กับคนอิสราเอล
20 พระองค์ไม่ได้ทำอย่างนี้กับชนชาติอื่นๆ
    ไม่มีชนชาติไหนที่รู้กฎระเบียบของพระองค์

สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International