Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
1 พงศาวดาร 1-2

เชื้อสายของอาดัม

(ปฐม. 5:1-32; 10:1-32; 11:10-32)

อาดัม เสท เอโนช

เคนัน มาหะลาเลล ยาเรด

เอโนค เมธูเสลาห์ ลาเมค โนอาห์

ลูกชายของโนอาห์ คือ เชม ฮาม ยาเฟท

เชื้อสายของยาเฟท

(ปฐม. 10:2-4)

ลูกชายของยาเฟท คือ โกเมอร์ มาโกก มาดัย ยาวาน ทูบัล เมเชคและทิราส

ลูกชายของโกเมอร์ คือ อัชเคนัส ดีฟัท[a] และโทการมาห์

ลูกชายของยาวาน คือ เอลีชาห์ ทารชิช คิทธิมและโรดานิม

เชื้อสายของฮาม

(ปฐม. 10:6-8, 13-18)

ลูกชายของฮามคือ คูช มิสราอิม[b] พูตและคานาอัน

ลูกชายของคูช คือ เสบา ฮาวิลาห์ สับทา ราอามาและสับเทคา ลูกชายของราอามา คือ เชบาและเดดาน

10 คูชเป็นพ่อของนิมโรด นิมโรดเป็นนักรบที่เกรียงไกรคนแรกในโลก

11 มิสราอิมเป็นต้นตระกูลของชาวลูด ชาวอานามิม ชาวเลหับ ชาวนัฟทูฮิม 12 ชาวปัทรุ ชาวคัสลูห์ (พวกฟีลิสเตียเกิดมาจากคนเผ่านี้) และชาวคัฟโทร์

13 คานาอันเป็นพ่อของไซดอน ลูกชายหัวปี ตามมาด้วยเฮท[c] 14 และชาวเยบุส ชาวอาโมไรต์ ชาวเกอร์กาชี 15 ชาวฮีไวต์ ชาวอารคีและชาวสินี 16 ชาวอารวัด ชาวเศเมอร์และชาวฮามัท

เชื้อสายของเชม

(ปฐม. 10:22-29; 11:10-26)

17 ลูกชายของเชมคือ เอลาม อัสชูร อารปัคชาด ลูด พวกลูกชายของอารัมคือ[d] อูส ฮูล เกเธอร์และเมเชค

18 อารปัคชาดเป็นพ่อของเชลาห์ และเชลาห์ก็เป็นพ่อของเอเบอร์

19 เอเบอร์มีลูกชายสองคน คนหนึ่งชื่อ เปเลก[e] (เพราะว่าในช่วงชีวิตของเขา ได้มีการแบ่งดินแดนออกตามภาษาที่แตกต่างกัน) และน้องชายของเขาชื่อว่าโยกทาน 20 โยกทานเป็นพ่อของอัลโมดัด เชเลฟ ฮาซารมาเวท เยราห์ 21 ฮาโดรัม อุซาล ดิคลาห์ 22 เอบาล[f] อาบีมาเอล เชบา 23 โอฟีร์ ฮาวิลาห์และโยบับ พวกเขาล้วนเป็นลูกชายของโยกทาน

เชื้อสายของเชม

(ปฐม. 11:10-26)

24 เชม อารปัคชาด เชลาห์ 25 เอเบอร์ เปเลก เรอู 26 เสรุก นาโฮร์ เทราห์ 27 และอับราม (ก็คืออับราฮัม)

เชื้อสายอับราฮัม

(ปฐม. 25:1-4, 12-16)

28 ลูกชายของอับราฮัมคือ อิสอัคและอิชมาเอล

29 และต่อไปนี้ก็คือพวกลูกหลานของพวกเขา

ลูกหลานของนางฮักกากับอับราฮัม

(ปฐม. 25:13-15)

ลูกชายหัวปีของอิชมาเอล คือเนบาโยธ ต่อด้วยเคดาร์ อัดบีเอล มิบสัม 30 มิชมา ดูมาห์ มัสสา ฮาดัด เทมา 31 เยทูร์ นาฟิชและเคเดมาห์ พวกเขาล้วนเป็นลูกชายของอิชมาเอล

ลูกหลานของนางเคทูราห์กับอับราฮัม

(ปฐม. 25:1-4)

32 เคทูราห์เป็นเมียน้อยของอับราฮัม นางได้คลอดลูกชายออกมา มีชื่อดังต่อไปนี้คือ ศิมราน โยกชาน เมดาน มีเดียน อิชบากและชูอาห์

ลูกชายของโยชานคือ เชบาและเดดาน

33 ลูกชายของมีเดียนคือ เอฟาห์ เอเฟอร์ ฮาโนค อาบีดา และเอลดาอาห์

พวกเขาล้วนเป็นลูกหลานของนางเคทูราห์

ลูกหลานของนางซาราห์กับอับราฮัม

34 อับราฮัมเป็นพ่อของอิสอัค ลูกชายของอิสอัคคือ เอซาวและอิสราเอล

ลูกหลานของเอซาว

(ปฐม. 36:10-18)

35 ลูกชายของเอซาว คือ เอลีฟัส เรอูเอล เยอูช ยาลาม และโคราห์

36 ลูกชายของเอลีฟัสคือ เทมาน โอมาห์ เศโฟ[g] กาทาม เคนัส ทิมนาและอามาเลค

37 ลูกชายของเรอูเอล คือ นาหัท เศราห์ ชัมมาห์และมิสซาห์

ลูกหลานของเสอีร์

(ปฐม. 36:20-28)

38 ลูกชายของเสอีร์ คือ โลทาน โชบาล ศิเบโอน อานาห์ ดีโชน เอเซอร์ และดีชาน

39 ลูกชายของโลทาน คือ โฮรีและโฮมัม[h] และน้องสาวของโลทานคือทิมนา

40 ลูกชายของโชบาลคือ เอลียัน มานาฮาท เอบาล เชฟีและโอนัม

ลูกชายของศิเบโอน คืออัยยาห์และอานาห์

41 ลูกชายของอานาห์ คือ ดีโชน

ลูกชายของดีโชน คือ ฮัมราน เอชบาน อิธรานและเคราน

42 ลูกชายของเอเซอร์ คือ บิลฮาน ศาวานและยาอาคาน

ลูกชายของดีชานคือ อูส และอารัน

พวกกษัตริย์ของเอโดม

(ปฐม. 36:31-43)

43 ต่อไปนี้คือบรรดากษัตริย์ที่ได้ปกครองอยู่ในแผ่นดินของเอโดม ก่อนที่จะมีกษัตริย์ปกครองชาวอิสราเอล

คือ เบลาที่เป็นลูกชายของเบโอร์ เมืองของเขามีชื่อว่าดินฮาบาห์

44 เมื่อเบลาตาย โยบับลูกชายของเศราห์ที่มาจากโบสราห์ก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์แทน

45 เมื่อโยบับตาย หุชามที่มาจากแผ่นดินของชาวเทมานก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์แทน

46 เมื่อหุชามตาย ฮาดัดลูกชายของเบดัดก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์แทน ฮาดัดเป็นผู้ที่รบชนะชาวมีเดียนในประเทศของพวกโมอับ เมืองของเขามีชื่อว่าอาวีท

47 หลังจากที่ฮาดัดตาย สัมลาห์ที่มาจากมัสเรคาห์ก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์แทน

48 เมื่อสัมลาห์ตาย ชาอูลที่มาจากเรโหโบทซึ่งตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำยูเฟรติสก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์แทน

49 เมื่อชาอูลตาย บาอัลฮานันลูกชายของอัคโบร์ก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์แทน

50 เมื่อบาอัลฮานันตาย ฮาดัดก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์แทน เมืองของเขามีชื่อว่าปาอี[i] เมียของเขาชื่อว่าเมเหทาเบล นางเป็นลูกสาวของนางมัทเรด ซึ่งเป็นลูกสาวของเมซาหับ 51 แล้วฮาดัดก็ตาย

พวกหัวหน้าเผ่าของเอโดมคือ ทิมนา อาลียาห์ เยเธท 52 โอโฮลีบามาห์ เอลาห์ ปิโนน 53 เคนัส เทมาน มิบซาร์ 54 มักดีเอล อิราม พวกเขาล้วนเป็นหัวหน้าเผ่าของเอโดม

ลูกชายของอิสราเอล

ต่อไปนี้คือพวกลูกชายของอิสราเอลคือ รูเบน สิเมโอน เลวี ยูดาห์ อิสสาคาร์ เศบูลุน ดาน โยเซฟ เบนยามิน นัฟทาลี กาดและอาเชอร์

เชื้อสายของยูดาห์

ลูกชายของยูดาห์ คือ เอร์ โอนันและเชลาห์ ทั้งสามคนนี้มีแม่ชื่อนางบัทชูวา[j] ซึ่งเป็นชาวคานาอัน เอร์ซึ่งเป็นลูกชายหัวปีของยูดาห์นั้นได้ทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ พระองค์จึงฆ่าเขา ส่วนทามาร์ซึ่งเป็นลูกสะใภ้ของยูดาห์ได้คลอดลูกชายชื่อเปเรศและเศราห์ให้กับยูดาห์[k] ยูดาห์มีลูกชายทั้งหมดห้าคน

ลูกชายของเปเรศ คือ เฮสโรนและฮามูล

ลูกชายของเศราห์ คือ ศิมรี เอธาน เฮมาน คาลโคล์ และดารา รวมทั้งหมดห้าคน

ลูกชายของศิมรี คือ คารมี ลูกชายของคารมีคืออาคาน[l] อาคานเป็นผู้ที่นำความยากลำบากมาให้กับอิสราเอล เมื่อเขาไม่ซื่อสัตย์ เขาแอบยักยอกของที่ต้องเผาอุทิศให้กับพระยาห์เวห์ เอาไว้เอง

ลูกชายของเอธานคืออาซาริยาห์

ลูกชายของเฮสโรนที่เกิดจากเขา คือ เยราเมเอล ราม และเคลุบัย[m]

เชื้อสายของราม

10 รามเป็นพ่อของอัมมีนาดับ อัมมีนาดับเป็นพ่อของนาโชนซึ่งเป็นผู้นำของประชาชนชาวยูดาห์ 11 นาโชนเป็นพ่อของสัลมา สัลมาเป็นพ่อของโบอาส 12 โบอาสเป็นพ่อของโอเบด โอเบดเป็นพ่อของเจสซี 13 เจสซีเป็นพ่อของเอลีอับ ลูกชายหัวปีของเขา ลูกชายคนที่สองคืออาบีนาดับ และคนที่สามคือชิเมอา 14 ลูกชายคนที่สี่คือเนธันเอล คนที่ห้าคือรัดดัย 15 คนที่หกคือโอเซม คนที่เจ็ดคือดาวิด 16 และพี่สาวของพวกเขาคือนางเศรุยาห์ และอาบีกัล ลูกชายของนางเศรุยาห์ คือ อาบีชัย โยอาบและอาสาเฮล รวมทั้งหมดสามคน 17 นางอาบีกัลมีลูกคืออามาสาและพ่อของอามาสาคือเยเธอร์ เป็นชาวอิชมาเอล

เชื้อสายของคาเลบ

18 คาเลบลูกชายของเฮสโรน มีลูกสาวกับนางอาซูบาห์เมียของเขา คือนางเยรีโอท[n] พวกลูกชายของนางเยรีโอท คือ เยเชอร์ โชบับและอารโดน 19 เมื่อนางอาซูบาห์ตาย คาเลบได้แต่งงานกับนางเอฟราธาห์และนางก็ได้คลอดลูกชายชื่อเฮอร์ 20 เฮอร์เป็นพ่อของอุรีและอุรีก็เป็นพ่อของเบซาเลล

21 ต่อมา เฮสโรนได้ไปมีเพศสัมพันธ์กับลูกสาวของมาคีร์ มาคีร์เป็นพ่อของกิเลอาด[o] (เฮสโรนได้แต่งงานกับนางเมื่อเขามีอายุได้หกสิบปี) นางได้คลอดลูกชายชื่อว่าเสกุบให้กับเขา 22 เสกุบเป็นพ่อของยาอีร์ ยาอีร์ได้ครอบครองเมืองถึงยี่สิบสามเมืองอยู่ในแผ่นดินกิเลอาด 23 แต่เกชูร์และอารัมได้เข้ามายึดหมู่บ้านต่างๆของยาอีร์ และเมืองเคนาทกับหมู่บ้านต่างๆของมัน รวมทั้งหมดถึงหกสิบหมู่บ้าน เมืองต่างๆเหล่านี้เป็นของพวกลูกชายของมาคีร์พ่อของกิเลอาด

24 ภายหลังจากที่เฮสโรนตาย คาเลบได้ไปมีเพศสัมพันธ์กับนางเอฟราธาห์ (เมียของเฮสโรนคือนางอาบียาห์) และนางเอฟราธาร์ได้คลอดลูกชายชื่ออัชฮูร์ให้กับเขา อัชฮูร์คือผู้ก่อตั้งเทโคอา

เชื้อสายของเยราเมเอล

25 เฮสโรนมีลูกชายหัวปีคือเยราเมเอล เยราเมเอลมีลูกชายหัวปีคือ ราม ต่อจากรามคือ บุนาห์ โอเรน โอเซม และอาหิยาห์ 26 เยราเมเอลมีเมียอีกคนหนึ่งชื่ออาทาราห์ นางเป็นแม่ของโอนัม

27 ราม ลูกชายหัวปีของเยราเมเอล มีลูกชายคือมาอัส ยามีนและเอเคอร์

28 ลูกชายของโอนัมคือ ชัมมัยและยาดา ลูกชายของชัมมัยคือนาดับและอาบีชูร์

29 เมียของอาบีชูร์มีชื่อว่าอาบีฮาอิล นางคลอดลูกชายให้เขาสองคนคือ อัคบานและโมลิด

30 ลูกชายของนาดับคือ เสเลดและอัปปาอิม เสเลดตายไปโดยไม่มีลูก

31 ลูกชายของอัปปาอิมคือ อิชอี ลูกชายของอิชอีคือเชชัน และลูกชายของเชชันคืออัคลัย

32 ลูกชายของยาดา ที่เป็นน้องชายของชัมมัย คือ เยเธอร์และโยนาธาน เยเธอร์ตายไปโดยไม่มีลูก

33 ลูกชายของโยนาธานคือ เปเลทและศาซา คนเหล่านี้คือลูกหลานของเยราเมเอล

34 เชชันไม่มีลูกชาย เขามีแต่ลูกสาว เขามีทาสชาวอียิปต์คนหนึ่งชื่อยารฮา 35 เชชันจึงได้ยกลูกสาวของเขาให้เป็นเมียของยารฮาซึ่งเป็นทาสของเขา และนางก็คลอดลูกชายชื่อว่าอัททัย

36 อัททัยเป็นพ่อของนาธัน และนาธันก็เป็นพ่อของศาบาด 37 ศาบาดเป็นพ่อของเอฟลาล และเอฟลาลเป็นพ่อของโอเบด 38 โอเบดเป็นพ่อของเยฮู และเยฮูเป็นพ่อของอาซาริยาห์ 39 อาซาริยาห์เป็นพ่อของเฮเลส และเฮเลสเป็นพ่อของเอเลอาสาห์ 40 เอเลอาสาห์เป็นพ่อของสิสะมัย และสิสะมัยเป็นพ่อของชัลลูม 41 ชัลลูมเป็นพ่อของเยคามิยาห์ และเยคามิยาห์เป็นพ่อของเอลีชามา

เชื้อสายของคาเลบ

42 พวกลูกชายของคาเลบน้องชายของเยราเมเอล คือเมชาห์บุตรหัวปี ผู้ที่ได้ก่อตั้งเมืองศีฟ และมาเรชาห์ลูกชายคนที่สองที่ได้ก่อตั้งเมืองเฮโบรน

43 ลูกชายของเฮโบรน คือ โคราห์ ทัปปูวาห์ เรเคมและเชมา 44 เชมาเป็นพ่อของราฮัม ราฮัม เป็นผู้ก่อตั้งโยรเคอัม เรเคมเป็นพ่อของชัมมัย 45 มาโอนเป็นลูกชายของชัมมัย และมาโอนเป็นผู้ก่อตั้งเบธซูร์

46 นางเอฟาห์ซึ่งเป็นเมียน้อยของคาเลบ ได้คลอดลูกชายชื่อ ฮาราน โมซาและกาเซส ฮารานเป็นพ่อของกาเซส

47 ลูกชายของยาห์ดัย คือ เรเกม โยธาม เกชาน เปเลท เอฟาห์และชาอัฟ

48 นางมาอาคาห์ซึ่งเป็นเมียน้อยของคาเลบ ได้คลอดลูกชายชื่อว่าเชเบอร์และทีรหะนาห์ 49 นางมาอาคาห์ยังเป็นแม่ของชาอัฟซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งมัดมันนาห์ และนางยังเป็นแม่ของเชวาซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งมัคเบนาห์และกิเบอาด้วย ลูกสาวของคาเลบมีชื่อว่าอัคสาห์

50 คนเหล่านี้เป็นลูกหลานของคาเลบ พวกลูกชายของเฮอร์ที่เป็นลูกชายหัวปีของนางเอฟราธาห์ คือโชบาลผู้ก่อตั้งคิริยาทเยอาริม 51 สัลมาผู้ก่อตั้งเบธเลเฮม และฮาเรฟผู้ก่อตั้งเบธกาเดอร์

52 ลูกหลานของโชบาลผู้ก่อตั้งคิริยาท-เยอาริม คือ ฮาโรเอห์ และประชาชนครึ่งหนึ่งของชาวมานาฮาท 53 พวกตระกูลของคิริยาทเยอาริม ประกอบไปด้วย ชาวอิทไรต์ ชาวปุไท ชาวชุมัท ชาวมิชรา คนเหล่านี้ได้มีลูกหลานสืบทอดเป็นชาวโศราห์และชาวเอชทาโอล

54 พวกลูกหลานของสัลมาคือ ชาวเมืองเบธเลเฮม พวกเนโทฟาห์ ชาวเมืองอัทโรทเบธโยอาบ และครึ่งหนึ่งของพวกมานาฮาไทต์ และพวกโศราห์ 55 คนในตระกูลผู้จดบันทึก[p] ซึ่งอาศัยอยู่ในยาเบสประกอบด้วย ตระกูลทิรา ตระกูลชิเมอีและตระกูลสุคา พวกเขาเป็นชาวเคไนต์ที่สืบทอดมาจากฮัมมัทซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง[q] เบธเรคาบ

ฮีบรู 8

พระเยซูเป็นหัวหน้านักบวชสูงสุดตลอดไป

ประเด็นที่เรากำลังพูดถึงคือ เรามีหัวหน้านักบวชสูงสุดอย่างนี้ ผู้ที่นั่งอยู่ทางขวาของบัลลังก์พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ในสวรรค์ หัวหน้านักบวชสูงสุดนี้ ทำหน้าที่รับใช้อยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด คือในเต็นท์[a]ที่แท้จริง ที่มนุษย์ไม่ได้ตั้งขึ้นแต่องค์เจ้าชีวิตตั้งขึ้นเอง

หัวหน้านักบวชสูงสุดทุกคนได้รับการแต่งตั้งให้เอาของขวัญและเครื่องบูชามาถวาย ดังนั้นจึงจำเป็นที่หัวหน้านักบวชสูงสุดของเราคนนี้ จะต้องมีของที่จะเอามาถวายด้วย ถ้าพระองค์อยู่ในโลก พระองค์คงไม่ได้เป็นนักบวชหรอก เพราะนักบวชที่คอยถวายของขวัญตามกฎของโมเสสมีอยู่แล้ว แต่พวกเขาทำงานรับใช้ในที่ที่เป็นแค่สิ่งที่เลียนแบบ และเป็นเงาของสิ่งที่อยู่ในสวรรค์ เหมือนกับเมื่อโมเสสกำลังจะตั้งเต็นท์ พระเจ้าได้เตือนว่า “ระวังให้ดี ให้ทำทุกอย่างตามแบบที่ได้แสดงให้เจ้าดูบนภูเขา[b]นั้น” แต่งานในหน้าที่ของนักบวชที่พระเยซูได้รับนั้น ยิ่งใหญ่กว่างานของนักบวชพวกนั้นมากนัก เช่นเดียวกับคำสัญญาของพระเจ้าที่พระเยซูได้เป็นคนกลางนำมานั้น ก็ดีกว่าคำสัญญาเดิมมากนัก เพราะพระเจ้าได้ตั้งคำสัญญาใหม่นี้ไว้บนคำสัญญาที่ชี้ถึงสิ่งที่ดีกว่า

ถ้าหากคำสัญญาเดิมนั้นไม่บกพร่องแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องหาคำสัญญาอันที่สองมาแทน แต่พระเจ้าติเตียนประชาชนชาวอิสราเอลว่า

“องค์เจ้าชีวิตพูดว่า ‘เวลาที่เราจะทำสัญญาใหม่
    กับชาวอิสราเอลและชาวยูดาห์กำลังจะมาถึงแล้ว
ซึ่งจะไม่เหมือนกับคำสัญญา ที่เราเคยทำไว้กับบรรพบุรุษของพวกเขา
    ตอนที่เราจูงมือพวกเขาออกมาจากประเทศอียิปต์
เพราะพวกเขาไม่ซื่อสัตย์ต่อคำสัญญาของเราอีกต่อไป
    เราจึงหันหลังไม่สนใจพวกเขา’ องค์เจ้าชีวิตพูดอย่างนี้แหละ
10 นี่เป็นคำสัญญาใหม่ที่เราจะทำกับประชาชนชาวอิสราเอล
หลังจากเวลานั้น องค์เจ้าชีวิตพูดอย่างนี้
    เราจะใส่กฎของเราเข้าไปในจิตใจของพวกเขา
    เราจะเขียนพวกมันลงไปในหัวใจของพวกเขา
    เราจะเป็นพระเจ้าของพวกเขา และพวกเขาจะเป็นคนของเรา
11 เขาจะไม่ต้องมาสอนเพื่อนบ้าน หรือพี่น้องของเขาว่า
‘มารู้จักองค์เจ้าชีวิตสิ’ เพราะตั้งแต่คนต่ำต้อยที่สุด
    จนถึงคนยิ่งใหญ่ที่สุด พวกเขาทุกคนก็จะรู้จักเรา
12 เพราะเราจะยกโทษให้กับความชั่วของพวกเขา
    และเราจะไม่จดจำความบาปของพวกเขาอีกต่อไป”[c]

13 เมื่อพระองค์เรียกคำสัญญานี้ว่า “อันใหม่” แสดงว่าพระองค์เคยทำให้คำสัญญาเดิม[d]นั้นล้าสมัยไปแล้ว สิ่งที่ล้าสมัยและเก่าแก่ไปแล้ว ก็กำลังจะสูญหายไปในไม่ช้า

อาโมส 2

การลงโทษคนโมอับ

พระยาห์เวห์บอกว่า
“เราจะลงโทษคนโมอับอย่างแน่นอน
    เพราะพวกเขาทำผิดบาปซ้ำแล้วซ้ำอีก
ถึงขนาดเผากระดูกของกษัตริย์เอโดมไปทำปูนขาว
ดังนั้นเราจะส่งไฟมาบนโมอับ
    และมันก็จะเผาผลาญพวกป้อมปราการของเมืองเคริโอทลงจนราบคาบ
แล้วโมอับก็จะตายไปท่ามกลางเสียงรบ
    ในท่ามกลางเสียงโห่ร้องและเสียงแตรเขาสัตว์
เราจะกำจัดผู้นำของโมอับ
    และเราจะฆ่าพวกเจ้าฟ้าทั้งหมดของเขาไปพร้อมๆกับเขา”
นั่นคือสิ่งที่พระยาห์เวห์บอก

การลงโทษคนยูดาห์

พระยาห์เวห์บอกว่า “เราจะลงโทษคนยูดาห์อย่างแน่นอน
    เพราะพวกเขาทำผิดบาปซ้ำแล้วซ้ำอีก
คือเขาไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งสอนของเรา
    และไม่ยอมรักษากฎต่างๆของเราด้วย
พระเทียมเท็จที่บรรพบุรุษของพวกเขาเฝ้าติดตามนั้น นำพวกเขาให้ทิ้งเราไป
ดังนั้นเราจะส่งไฟลงมาบนยูดาห์
    และมันจะเผาผลาญพวกป้อมปราการของเมืองเยรูซาเล็มลงจนราบคาบ”

การลงโทษคนอิสราเอล

พระยาห์เวห์บอกว่า “เราจะลงโทษคนอิสราเอลอย่างแน่นอน
    เพราะพวกเขาทำผิดบาปซ้ำแล้วซ้ำอีก
อย่างเช่น พวกเขาขายคนที่ซื่อสัตย์ไปเป็นทาส เพราะคนซื่อสัตย์ไม่มีเงินมาชดใช้หนี้
    ขายคนยากจนไปเป็นทาสเพราะคนยากจนไม่มีเงินมาจ่ายหนี้ หนี้ที่มีค่าแค่รองเท้าสานคู่เดียว
พวกเขาเหยียบย่ำกดหัวคนจนจมลงในดิน
    และผลักไสพวกคนจนไปให้พ้นทาง
พ่อกับลูกชายก็ร่วมเพศกับหญิงสาวคนเดียวกัน
    ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา
พวกเขาเอาเสื้อผ้าของคนจนๆมาปูนอนอยู่ข้างๆแท่นบูชาของพวกเขา
    เสื้อผ้าพวกนี้เป็นเสื้อผ้าที่คนจนเอามาค้ำประกันหนี้
และพวกเขาทำให้ผู้คนต้องจ่ายค่าปรับเป็นเหล้าองุ่น
    แล้วพวกเขาก็เอามาดื่มกินกันในวิหารของพระเจ้าของพวกเขา
เป็นเราเองที่ทำลายคนต่อหน้าพวกเขา
    คนอาโมไรต์[a]นี้สูงเหมือนกับพวกต้นสนซีดาร์
    และแข็งแรงเหมือนกับพวกต้นโอ๊ค
เราได้ทำลายทั้งผลบนต้น
    และรากในดิน
10 เป็นเราเองที่นำเจ้าออกมาจากแผ่นดินอียิปต์
    และนำทางเจ้าในช่วงที่เจ้าอยู่ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งเป็นเวลาสี่สิบปี
    เราเองที่ทำให้เจ้าได้ยึดครองแผ่นดินของคนอาโมไรต์
11 เราได้เลือกลูกของเจ้าบางคนให้เป็นพวกผู้พูดแทนพระเจ้า
    และเลือกคนหนุ่มของเจ้าบางคนเป็นพวกนาศีร์[b]
    ว่าไง คนอิสราเอล เจ้าว่ามันจริงตามนี้หรือเปล่า”
พระยาห์เวห์บอกไว้ว่าอย่างนี้
12 “แต่พวกเจ้าทำให้พวกนาศีร์ดื่มเหล้าองุ่น
    และเจ้าก็สั่งพวกผู้พูดแทนพระเจ้า ไม่ให้พูดแทนพระเจ้า
13 ดังนั้น ตอนนี้เราจะทำให้พวกเจ้าติดหนึบอยู่ในที่ของพวกเจ้า
    เหมือนกับรถที่บรรทุกข้าวสารเกินน้ำหนัก ติดอยู่ในโคลน
14 พวกนักวิ่งลมกรดก็จะยังวิ่งหนีไม่ทัน
    คนที่แข็งแรงก็จะยังแข็งแรงไม่พอ
    พวกทหารก็จะไม่สามารถปกป้องตัวเองได้
15 พวกยิงธนูก็จะไม่สามารถยืนหยัดต่อสู้
    และพวกนักวิ่งลมกรดก็จะยังวิ่งหนีไม่ทัน
    และพวกทหารม้าก็จะไม่สามารถรักษาชีวิตของตนเองได้
16 แม้แต่นักรบผู้กล้าก็ยังจะต้องวิ่งหนีตัวล่อนจ้อนในวันนั้น”
พระยาห์เวห์บอกไว้ว่าอย่างนี้

สดุดี 145

ขอให้ทุกชีวิตสรรเสริญพระยาห์เวห์

[a] บทเพลงสรรเสริญจากดาวิด

พระเจ้าของข้าพเจ้าผู้เป็นกษัตริย์ ข้าพเจ้าจะยกย่องพระองค์
    ข้าพเจ้าจะสรรเสริญชื่อของพระองค์ไปตลอดกาล
ข้าพเจ้าจะยกย่องพระองค์ทุกๆวัน
    ข้าพเจ้าจะสรรเสริญชื่อของพระองค์ไปตลอดกาล
พระยาห์เวห์นั้นยิ่งใหญ่และควรค่าแก่การสรรเสริญยิ่งนัก
    ไม่มีใครสามารถเข้าใจความยิ่งใหญ่ของพระองค์ได้ทั้งหมด

คนรุ่นแล้วรุ่นเล่า จะสรรเสริญพระองค์ สำหรับสิ่งที่พระองค์ทำ
    พวกเขาจะประกาศถึงการกระทำอันทรงฤทธิ์ทั้งหลายของพระองค์
ข้าพเจ้าจะใคร่ครวญครุ่นคิดถึงพระบารมีและสง่าราศีอันรุ่งโรจน์ของพระองค์
    และการกระทำอันน่าทึ่งทั้งหลายของพระองค์
ผู้คนจะกล่าวถึงฤทธิ์อำนาจที่พระองค์ใช้ทำสิ่งอันน่าเกรงขามทั้งหลาย
    ข้าพเจ้าจะเล่าถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์
พวกเขาจะเฉลิมฉลองคุณความดีอันยิ่งใหญ่ของพระองค์
    พวกเขาจะร้องเพลงเกี่ยวกับความยุติธรรมของพระองค์ด้วยความยินดี

พระยาห์เวห์ใจดีและมีเมตตา
    พระองค์โกรธช้า และเต็มไปด้วยความรักที่มั่นคง
พระยาห์เวห์ดีกับทุกคน
    และพระองค์มีเมตตากับทุกอย่างที่พระองค์สร้างขึ้นมา

10 ข้าแต่พระยาห์เวห์ทุกอย่างที่พระองค์สร้างขึ้นมา จะขอบคุณพระองค์
    ทุกคนที่สัตย์ซื่อต่อพระองค์ จะสรรเสริญพระองค์
11 พวกเขาจะเล่าถึงอาณาจักรอันรุ่งเรืองของพระองค์
    พวกเขาจะพูดถึงความเกรียงไกรของพระองค์
12 เพื่อให้ทุกๆคนรู้ถึงการกระทำอันทรงฤทธิ์ทั้งหลายของพระองค์
    และสง่าราศีอันรุ่งโรจน์แห่งอาณาจักรของพระองค์
13 อาณาจักรของพระองค์จะคงอยู่ตลอดไป
    พระองค์จะปกครองไปตลอดรุ่นแล้วรุ่นเล่า
คำพูดทุกคำของพระยาห์เวห์นั้นเชื่อถือได้
    การกระทำทุกอย่างของพระองค์นั้นเปิดเผยถึงความรักมั่นคงของพระองค์[b]
14 พระยาห์เวห์ช่วยประคองคนเหล่านั้นที่กำลังจะล้มลง
    พระองค์ช่วยยกคนเหล่านั้นที่หลังคดงอให้ยืนตรง
15 ทุกชีวิตเฝ้ามองพระองค์อย่างรอคอย
    และพระองค์ก็ให้อาหารในเวลาอันเหมาะ
16 พระองค์แบมือออก
    และทำให้ทุกชีวิตอิ่มหนำกับอาหารที่พวกมันอยากกิน
17 ทางทั้งสิ้นของพระยาห์เวห์นั้นยุติธรรม
    การกระทำทุกอย่างของพระยาห์เวห์นั้นเปิดเผยถึงความรักมั่นคงของพระองค์
18 พระยาห์เวห์อยู่ใกล้ชิดกับทุกคนที่เรียกหาพระองค์
    คือ ทุกคนที่ร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์ด้วยใจจริง
19 คนที่ยำเกรงพระองค์อยากได้อะไร พระยาห์เวห์ก็ทำให้
    พระองค์ฟังเสียงร้องขอความช่วยเหลือของพวกเขาและช่วยพวกเขาให้รอด
20 พระยาห์เวห์เฝ้าดูแลทุกคนที่รักพระองค์
    แต่พระองค์จะทำลายคนชั่วทุกคน

21 ปากข้าพเจ้าพูดสรรเสริญพระยาห์เวห์
    และสิ่งมีชีวิตทั้งหมดจะยกย่องชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ไปตลอดกาล

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International