M’Cheyne Bible Reading Plan
อุสซียาห์ปกครองยูดาห์
(2 พศด. 26:3-23)
15 อุสซียาห์[a] ลูกชายของกษัตริย์อามาซิยาห์แห่งยูดาห์ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ ตรงกับปีที่ยี่สิบเจ็ด ที่เยโรโบอัมเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล 2 อุสซียาห์มีอายุสิบหกปีเมื่อเขาขึ้นเป็นกษัตริย์ และเขาได้ครองราชย์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มห้าสิบสองปี แม่ของเขามีชื่อว่าเยโคลียาห์ นางมาจากเมืองเยรูซาเล็ม 3 เขาได้ทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระยาห์เวห์ เหมือนกับที่อามาซิยาห์พ่อของเขาทำ 4 แต่สถานนมัสการต่างๆก็ยังไม่ได้ถูกรื้อทิ้ง ประชาชนยังคงไปถวายเครื่องสัตวบูชาและเผาเครื่องหอม ที่นั่นอยู่เหมือนเดิม
5 พระยาห์เวห์ทำให้กษัตริย์อุสซียาห์ต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคผิวหนังร้ายแรงจนถึงวันตาย และอุสซียาห์ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านที่แยกออกมาต่างหาก โยธามลูกชายของเขา ได้ทำหน้าที่ดูแลวังและปกครองประชาชนในแผ่นดินนั้น
6 เหตุการณ์อื่นๆในยุคสมัยของอุสซียาห์และทุกสิ่งที่เขาได้ทำไป ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งยูดาห์ 7 อุสซียาห์ได้ตายไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขา และศพของเขาถูกฝังรวมกับบรรพบุรุษของเขาในเมืองของดาวิด และโยธามลูกชายของเขาก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา
เศคาริยาห์ปกครองอิสราเอล
8 เศคาริยาห์ลูกชายของเยโรโบอัมได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ในเมืองสะมาเรียของอิสราเอล ตรงกับปีที่สามสิบแปด ที่อุสซียาห์เป็นกษัตริย์ปกครองยูดาห์ เศคาริยาห์ได้ครองราชย์อยู่หกเดือน 9 เศคาริยาห์ได้ทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์เหมือนกับที่บรรพบุรุษของเขาทำ เขาไม่ยอมหันไปจากพวกบาปของเยโรโบอัม ลูกชายของเนบัท ที่ทำให้อิสราเอลพลอยทำบาปไปด้วย
10 ชัลลูมลูกชายของยาเบชได้กบฏต่อเศคาริยาห์ เขาได้ล้มเศคาริยาห์ลงต่อหน้าประชาชน และฆ่าเขา แล้วขึ้นเป็นกษัตริย์แทน 11 เหตุการณ์อื่นในยุคสมัยของเศคาริยาห์ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอล 12 เรื่องนี้เป็นไปตามคำสัญญาที่พระยาห์เวห์เคยให้ไว้กับกษัตริย์เยฮู ที่ว่า “ลูกหลานของเจ้าจะได้นั่งอยู่บนบัลลังก์อิสราเอลถึงสี่ชั่วคน”
ชัลลูมปกครองอิสราเอล
13 ชัลลูมลูกชายของยาเบชได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ ตรงกับปีที่สามสิบเก้าของกษัตริย์อุสซียาห์แห่งยูดาห์ และเขาได้ครองราชย์อยู่ในเมืองสะมาเรียเพียงหนึ่งเดือน
14 เมนาเฮมลูกชายของกาดีได้มาจากเมืองทีรซาห์ขึ้นไปที่เมืองสะมาเรีย เขาได้ล้มชัลลูมลูกชายของยาเบชลงและฆ่าเขาในสะมาเรีย และขึ้นเป็นกษัตริย์แทน
15 เหตุการณ์อื่นๆในสมัยของชัลลูมและการสมคบกันกบฏที่มีเขาเป็นผู้นำนั้น ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอล
เมนาเฮมปกครองอิสราเอล
16 ในเวลานั้น เมนาเฮมที่ออกเดินทางมาจากเมืองทีรซาห์ ได้เข้าโจมตีเมืองทิฟสาห์และผู้คนที่อยู่ในเมืองนั้น รวมทั้งเมืองที่อยู่รอบๆเพราะคนเหล่านั้นไม่ยอมเปิดประตูเมืองให้ เขาปล้นเมืองเหล่านั้นและแหวกท้องของหญิงมีครรภ์ทุกคน
17 เมนาเฮมลูกชายของกาดีได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล ตรงกับปีที่สามสิบเก้าที่กษัตริย์อุสซียาห์ปกครองยูดาห์ เขาได้ครองราชย์อยู่ในเมืองสะมาเรียเป็นเวลาสิบปี 18 เขาได้ทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ ตลอดเวลาที่เขาครองราชย์อยู่ เขาไม่เคยหันไปจากพวกบาปของเยโรโบอัมลูกชายของเนบัท ที่ทำให้อิสราเอลพลอยทำบาปไปด้วย
19 แล้วกษัตริย์ปูล[b] แห่งอัสซีเรียได้มาบุกอิสราเอล กษัตริย์เมนาเฮมได้ให้เงินสามหมื่นสี่พันกิโลกรัม[c] แก่กษัตริย์ปูล เพื่อให้กษัตริย์ปูลสนับสนุนเขา และช่วยให้เขากุมอำนาจในการเป็นกษัตริย์ต่อไป 20 เมนาเฮมได้เรี่ยไรเงินจากคนอิสราเอลที่เป็นคนรวย เขาให้คนรวยจ่ายภาษีคนละห้าสิบเชเขล[d] แล้วเอาเงินนั้นมาให้กับกษัตริย์ปูลของอัสซีเรีย ดังนั้น กษัตริย์ปูลของอัสซีเรียจึงยอมถอยทัพกลับ ไม่อยู่ในแผ่นดินอิสราเอลอีกต่อไป
21 เหตุการณ์อื่นๆในสมัยของเมนาเฮม และสิ่งที่เขาได้ทำทั้งหมด ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์ของอิสราเอล 22 เมนาเฮมได้ตายไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขา และเปคาหิยาห์ลูกชายของเขาก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา
เปคาหิยาห์ปกครองอิสราเอล
23 เปคาหิยาห์ลูกชายของเมนาเฮมได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ของอิสราเอลอยู่ในเมืองสะมาเรีย ตรงกับปีที่ห้าสิบที่กษัตริย์อุสซียาห์ปกครองยูดาห์ เปคาหิยาห์ได้ครองราชย์อยู่สองปี 24 เปคาหิยาห์ได้ทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ เขาไม่ได้หันไปจากพวกบาปทั้งหลายของเยโรโบอัมลูกชายของเนบัท ที่ทำให้อิสราเอลพลอยทำบาปไปด้วย
25 แม่ทัพคนหนึ่งของเปคาหิยาห์ ชื่อเปคาห์ลูกชายของเรมาลิยาห์ได้คิดวางแผนกบฏต่อเขา เปคาห์ได้รวบรวมคนห้าสิบคนมาจากกิเลอาด และได้ฆ่าเปคาหิยาห์พร้อมกับอารโกบและอาริเอห์ตายที่ป้อมของวังกษัตริย์ที่เมืองสะมาเรีย ดังนั้น เปคาห์ได้ฆ่าเปคาหิยาห์และขึ้นเป็นกษัตริย์แทน
26 ส่วนเหตุการณ์อื่นๆในยุคสมัยของเปคาหิยาห์และทุกสิ่งที่เขาได้ทำไป ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์ของอิสราเอล
เปคาห์ปกครองอิสราเอล
27 เปคาห์ลูกชายของเรมาลิยาห์ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ของอิสราเอลในเมืองสะมาเรีย ตรงกับปีที่ห้าสิบสอง ที่กษัตริย์อุสซียาห์ปกครองยูดาห์ เปคาห์ได้ครองราชย์อยู่ยี่สิบปี 28 เขาได้ทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ เขาไม่ได้หันไปจากบาปทั้งหลายของเยโรโบอัมลูกชายของเนบัท ซึ่งทำให้อิสราเอลพลอยทำบาปไปด้วย
29 ในช่วงที่กษัตริย์เปคาห์ปกครองอิสราเอลอยู่นั้น กษัตริย์ทิกลัท-ปิเลเสอร์[e] แห่งอัสซีเรียได้ลงมายึดเมืองอิโยน อาเบล-เบธมาอาคาห์ ยาโนอาห์ เคเดช ฮาโซร์ กิเลอาด กาลิลี รวมทั้งแผ่นดินนัฟทาลีทั้งหมดและได้กวาดต้อนผู้คนไปที่อัสซีเรีย
30 แล้วโฮเชยา ลูกชายของเอลาห์ก็ได้วางแผนกบฏต่อเปคาห์ลูกชายของเรมาลิยาห์ โฮเชยาฆ่าเปคาห์ตาย และขึ้นเป็นกษัตริย์แทนเขา ตรงกับปีที่ยี่สิบที่โยธามลูกชายของอุสซียาห์เป็นกษัตริย์ของยูดาห์
31 ส่วนเหตุการณ์อื่นๆในยุคสมัยของเปคาห์และสิ่งที่เขาได้ทำไปทั้งหมด ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์ของอิสราเอล
โยธามปกครองยูดาห์
(2 พศด. 27:1-9)
32 โยธามลูกชายของกษัตริย์อุสซียาห์แห่งยูดาห์ขึ้นเป็นกษัตริย์ ตรงกับปีที่สองที่กษัตริย์เปคาห์ลูกชายของเรมาลิยาห์ปกครองอิสราเอล 33 โยธามมีอายุยี่สิบห้าปี ตอนที่เขาขึ้นเป็นกษัตริย์ และเขาครองราชย์อยู่ในเยรูซาเล็มเป็นเวลาสิบหกปี แม่ของเขามีชื่อว่าเยรูชา นางเป็นลูกสาวของศาโดก 34 โยธามได้ทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระยาห์เวห์ เหมือนกับที่อุสซียาห์พ่อของเขาทำ 35 แต่สถานนมัสการต่างๆก็ยังไม่ได้ถูกรื้อทิ้ง ประชาชนยังคงไปถวายเครื่องสัตวบูชาและเผาเครื่องหอมที่นั่นอยู่เหมือนเดิม โยธามได้สร้างประตูชั้นบนของวิหาร ของพระยาห์เวห์ขึ้นใหม่อีกครั้ง 36 ส่วนเหตุการณ์อื่นๆในยุคสมัยของโยธาม และสิ่งที่เขาได้ทำไป ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์ของยูดาห์
37 ในเวลานั้น พระยาห์เวห์ได้ส่งกษัตริย์เรซีนของชาวอารัมและเปคาห์ลูกชายของเรมาลิยาห์มาสู้รบกับยูดาห์
38 โยธามตายไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขาและศพของเขาถูกฝังรวมอยู่กับพวกบรรพบุรุษของเขาในเมืองของดาวิด และอาหัสลูกชายของเขาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา
1 จาก เปาโล ทาสของพระเจ้าและศิษย์เอกของพระเยซูคริสต์ หน้าที่ของผมคือช่วยส่งเสริมความเชื่อของคนที่พระเจ้าได้เลือกไว้ และช่วยให้พวกเขาเข้าใจความจริงมากขึ้น ความจริงนี้จะทำให้พวกเขาใช้ชีวิตที่ให้เกียรติกับพระเจ้า 2 หน้าที่ของผมนี้ตั้งอยู่บนความหวังที่ว่า เราจะมีชีวิตกับพระเจ้าตลอดไปตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้ ก่อนที่โลกนี้จะเกิดเสียอีก พระเจ้าไม่เคยโกหก 3 เมื่อถึงเวลาที่พระเจ้าผู้ช่วยให้รอดของเราได้กำหนดไว้ พระองค์ก็ได้เปิดเผยถ้อยคำของพระองค์ผ่านทางการประกาศ พระองค์ได้มอบข่าวดีนี้กับผม และสั่งให้ผมออกไปประกาศ
4 ผมจึงได้เขียนจดหมายนี้มาให้ทิตัส ลูกแท้ๆในความเชื่อที่เรามีร่วมกัน
ขอให้พระเจ้าพระบิดาและพระเยซูคริสต์ผู้ช่วยให้รอดของเรา ให้ความเมตตากรุณาและสันติสุขกับคุณ
หน้าที่ของทิตัสบนเกาะครีต
5 ที่ผมได้ทิ้งคุณไว้ที่เกาะครีต ก็เพื่อคุณจะได้สะสางงานที่ยังค้างอยู่ให้เสร็จ และจะได้แต่งตั้งผู้นำอาวุโสตามเมืองต่างๆตามที่ผมได้สั่งกำชับไว้แล้ว 6 ผู้นำอาวุโสนั้น จะต้องไม่มีข้อเสื่อมเสีย มีเมียเพียงคนเดียว มีลูกๆที่มีความเชื่อ ไม่ใช่เด็กเสเพลที่ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ 7 เนื่องจากผู้ดูแลนี้ จะต้องรับผิดชอบครอบครัวของพระเจ้า เขาจะต้องไม่มีอะไรเสื่อมเสียในชีวิต ไม่ทำตัวเป็นเผด็จการ ไม่ขี้โมโห ไม่ขี้เหล้า ไม่ชอบต่อยตี ไม่ขี้โกง 8 แต่เขาจะต้องชอบรับแขกแปลกหน้า รักความดี สุขุมรอบคอบ ยุติธรรม บริสุทธิ์ และต้องรู้จักควบคุมตนเอง 9 เขาจะต้องมีความเชื่อที่มั่นคงในคำสอนที่เป็นประโยชน์ที่เราได้สอนไปนั้น เพื่อจะได้เอาคำสอนนี้ไปให้กำลังใจคนอื่น และเอาไปพิสูจน์ให้คนที่ต่อต้านคำสอนนี้เห็นว่าพวกตนผิด
10 เรื่องนี้สำคัญ เพราะมีหลายคนที่ดื้อดึงไม่ยอมเชื่อฟัง พูดแต่เรื่องไร้สาระ และชักนำคนอื่นให้หลงผิด พวกที่ผมพูดถึงนี้ส่วนใหญ่จะเป็นพวกยิวที่มาเชื่อในพระเยซู 11 จะต้องทำให้คนพวกนี้หยุดพูดให้ได้ เพราะคนพวกนี้โลภ เห็นแก่เงิน จึงสอนในสิ่งที่ไม่ควรสอน เลยทำให้หลายครัวเรือนต้องถูกทำลายไป 12 ขนาดคนหนึ่งของเขาเองที่เป็นคนพูดแทนพวกพระเจ้าของพวกเขายังพูดเลยว่า
“ชาวเกาะครีต พูดโกหกเสมอ
เป็นเหมือนสัตว์ป่าที่ดุร้าย
เป็นคนขี้เกียจและตะกละตะกลาม”
13 แล้วเขาก็เป็นอย่างที่พูดนั้นจริงๆ คุณต้องต่อว่าพวกนี้ให้เจ็บๆ เพื่อเขาจะได้เจริญขึ้นในความเชื่อ 14 จะได้ไม่ไปสนใจนิยายปรัมปราเหลวไหลของยิว และกฎต่างๆของคนที่หันหน้าหนีจากความจริง 15 สำหรับคนที่บริสุทธิ์ อะไรๆก็บริสุทธิ์ไปหมด ส่วนคนที่สกปรกและไม่เชื่อ ก็ไม่มีอะไรบริสุทธิ์เลย เพราะความคิดและใจที่ฟ้องถูกผิดของเขาสกปรกไปหมดแล้ว 16 พวกนี้อ้างว่ารู้จักพระเจ้า แต่การกระทำนั้นตรงกันข้าม พวกนี้น่ารังเกียจ ไม่เชื่อฟัง และไม่เหมาะที่จะทำความดีอะไรเลย
การกราบไหว้รูปเคารพทำให้ล่มจม
8 เอาแตรวางไว้ที่ริมฝีปากของเจ้าแล้วเป่าเตือน
นกอีแร้งตัวหนึ่งบินวนเวียนอยู่เหนือแผ่นดินของพระยาห์เวห์
เพราะว่าคนอิสราเอลหักข้อตกลงของเรา
และฝ่าฝืนกฎของเรา
2 พวกเขาร้องต่อเราว่า
“พระเจ้าเจ้าข้า พวกเราที่อิสราเอลนี้รู้จักพระองค์”
3 แต่อิสราเอลทอดทิ้งสิ่งที่ดีไป
ดังนั้นศัตรูจะไล่ล่าพวกเขา
4 พวกเขาได้แต่งตั้งพวกกษัตริย์ขึ้นมาโดยไม่ได้ปรึกษาเรา
พวกเขาตั้งพวกผู้นำขึ้นมาแต่เราไม่รู้เรื่อง
พวกเขาสร้างรูปเคารพขึ้นมาจากทองและเงินของพวกเขา
ดังนั้นอิสราเอลจะถูกตัดออกไป
5 สะมาเรีย ลูกวัวของเจ้าถูกทอดทิ้งไปแล้ว[a] ความโกรธของเราได้เผาผลาญใส่เจ้า
อีกนานแค่ไหน ที่พวกเจ้าจะไม่สามารถทำตัวให้บริสุทธิ์
6 ช่างฝีมือจากอิสราเอลสร้างลูกวัวตัวนั้นขึ้นมา
มันไม่ใช่พระเจ้า
ลูกวัวของสะมาเรียตัวนั้นจะถูกทุบให้แตกเป็นชิ้นๆ
7 พวกเขาจะหว่านพืชตอนลมพัด
และเก็บเกี่ยวตอนมีพายุแรง
สิ่งที่ปลูกจะงอกขึ้นมา
แต่จะไม่แตกหน่อและไม่ออกรวง
แต่ถ้าออกรวงบ้าง
คนต่างชาติก็จะมาเก็บกินหมด
8 อิสราเอลถูกกลืนไปแล้ว
ตอนนี้พวกเขาถูกทอดทิ้งท่ามกลางชนชาติอื่นๆ
เหมือนกับหม้อที่ไม่มีใครอยากได้
9 เพราะอิสราเอลยืนกรานที่จะขึ้นไปอัสซีเรีย
พวกเขาเป็นเหมือนลาป่าที่เดินหาคู่อยู่ลำพัง
คนเอฟราอิมต้องจ้างคู่รักมา
10 ถึงพวกเขาจะจ้างชนชาติอื่นๆให้มาช่วยพวกเขา
เราจะรวบรวมพวกเขาไว้เดี๋ยวนี้
ในไม่ช้า พวกเขาจะอ่อนแอเพราะเครื่องบรรณาการที่พวกเขาต้องให้กับกษัตริย์อัสซีเรียที่ยิ่งใหญ่
อิสราเอลลืมพระเจ้าและนมัสการพวกรูปเคารพ
11 ถึงแม้เอฟราอิมได้สร้างแท่นบูชาเพิ่มขึ้นเพื่อลบล้างบาปต่างๆของพวกเขา
แต่แท่นบูชาพวกนั้นกลับกลายเป็นแท่นบูชาสำหรับการทำบาป
12 ถึงแม้เราได้เขียนคำสั่งสอนมากมายให้กับเอฟราอิม
แต่พวกเขากลับมองว่าเป็นเรื่องของคนอื่น
13 คนอิสราเอลชอบถวายเครื่องบูชา
พวกเขาเอาเนื้อมาถวายและกินมัน
แต่พระยาห์เวห์ไม่ชอบเครื่องบูชาพวกนั้นเลย
พระองค์ระลึกถึงความชั่วช้าของพวกเขาเดี๋ยวนี้
และพระองค์จะลงโทษพวกเขาเพราะความบาปพวกนั้น
พระองค์จะส่งพวกเขากลับไปที่อียิปต์[b]
14 พวกคนอิสราเอลลืมผู้ที่สร้างพวกเขาขึ้นมา
แต่กลับสร้างวังขึ้นมากมายสำหรับกษัตริย์ของเขา
ยูดาห์สร้างป้อมปราการขึ้นมามากมาย
แต่เราจะส่งไฟลงมายังเมืองทั้งหลายของพวกเขา
และไฟจะเผาผลาญป้อมปราการต่างๆเหล่านั้น
อธิษฐานขอความเมตตา
บทเพลงที่ร้องในระหว่างทางที่ขึ้นไปยังวิหาร
1 ข้าพเจ้ามองขึ้นไปยังพระองค์
พระองค์ผู้นั่งอยู่บนบัลลังก์ในสวรรค์นั้น
2 เหมือนทาสที่มองไปยังเจ้านายเพื่อเจ้านายจะได้ให้ในสิ่งที่เขาต้องการ
เหมือนสาวใช้ที่คอยพึ่งนายหญิง
พวกเราก็เหมือนกันที่เฝ้ามองพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา
คอยให้พระองค์เมตตาพวกเรา
3 ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดเมตตาพวกเราด้วย โปรดเมตตาพวกเราด้วยเถิด
เพราะพวกเราเต็มกลืนแล้วกับคำดูถูกนั้น
4 พวกเราเต็มกลืนกับคำเยาะเย้ยจากพวกคนที่เย่อหยิ่ง
และคำดูถูกจากคนจองหอง
พระยาห์เวห์อยู่ฝ่ายเรา
เพลงที่ร้องในระหว่างทางที่ขึ้นไปยังวิหาร บทเพลงของดาวิด
1 “ถ้าพระยาห์เวห์ไม่ได้อยู่ฝ่ายเรา”
ขอให้อิสราเอลพูดว่า
2 “ถ้าพระยาห์เวห์ไม่ได้อยู่ฝ่ายเรา
ตอนที่ผู้คนโจมตีพวกเรานั้น
3 ศัตรูของพวกเราก็คงกลืนกินเราทั้งเป็น
ตอนที่พวกเขาโกรธเกรี้ยวเรา
4 แล้วพวกเขาก็คงจะซัดเราซะเรียบเหมือนน้ำท่วม
กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวก็คงท่วมท้นหัวเรา
5 น้ำที่ไหลเชี่ยวกรากก็คงท่วมท้นหัวเราไปแล้ว”
6 สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
ที่พระองค์ไม่ปล่อยให้เราเป็นเหยื่อของเขี้ยวศัตรู
7 เราเป็นเหมือนนกที่หนีรอดออกมาจากตาข่ายดักนกของนายพราน
ตาข่ายนั้นฉีกขาด เราจึงหนีออกมาได้
8 ความช่วยเหลือของเรามาจากพระยาห์เวห์
ผู้สร้างสวรรค์และแผ่นดินโลก
พระยาห์เวห์ปกป้องคนของพระองค์
เพลงที่ร้องในระหว่างทางที่ขึ้นไปยังวิหาร
1 คนเหล่านั้นที่ไว้วางใจในพระยาห์เวห์จะเป็นเหมือนภูเขาศิโยน
ที่ไม่สั่นคลอนและคงอยู่ตลอดไป
2 พระยาห์เวห์ล้อมรอบและปกป้องคนของพระองค์ทั้งเดี๋ยวนี้และตลอดไป
เหมือนที่ภูเขาล้อมรอบเยรูซาเล็ม
3 พวกคนชั่วช้าจะไม่ได้ครอบครองแผ่นดินของคนดีเสมอไป
เพราะไม่อย่างนั้นคนดีจะเริ่มทำชั่ว
4 ข้าแต่พระยาห์เวห์
ขอช่วยทำดีกับคนดีด้วยเถิด คือคนที่มีจิตใจซื่อตรง
5 ข้าแต่พระยาห์เวห์
ช่วยกำจัดคนคดโกง พร้อมกับคนอื่นๆที่ทำชั่วด้วยเถิด
ขอให้อิสราเอลมีความสงบสุขเถิด
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International