Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
2 พงศ์กษัตริย์ 15

อุสซียาห์ปกครองยูดาห์

(2 พศด. 26:3-23)

15 อุสซียาห์[a] ลูกชายของกษัตริย์อามาซิยาห์แห่งยูดาห์ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ ตรงกับปีที่ยี่สิบเจ็ด ที่เยโรโบอัมเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล อุสซียาห์มีอายุสิบหกปีเมื่อเขาขึ้นเป็นกษัตริย์ และเขาได้ครองราชย์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มห้าสิบสองปี แม่ของเขามีชื่อว่าเยโคลียาห์ นางมาจากเมืองเยรูซาเล็ม เขาได้ทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระยาห์เวห์ เหมือนกับที่อามาซิยาห์พ่อของเขาทำ แต่สถานนมัสการต่างๆก็ยังไม่ได้ถูกรื้อทิ้ง ประชาชนยังคงไปถวายเครื่องสัตวบูชาและเผาเครื่องหอม ที่นั่นอยู่เหมือนเดิม

พระยาห์เวห์ทำให้กษัตริย์อุสซียาห์ต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคผิวหนังร้ายแรงจนถึงวันตาย และอุสซียาห์ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านที่แยกออกมาต่างหาก โยธามลูกชายของเขา ได้ทำหน้าที่ดูแลวังและปกครองประชาชนในแผ่นดินนั้น

เหตุการณ์อื่นๆในยุคสมัยของอุสซียาห์และทุกสิ่งที่เขาได้ทำไป ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งยูดาห์ อุสซียาห์ได้ตายไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขา และศพของเขาถูกฝังรวมกับบรรพบุรุษของเขาในเมืองของดาวิด และโยธามลูกชายของเขาก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา

เศคาริยาห์ปกครองอิสราเอล

เศคาริยาห์ลูกชายของเยโรโบอัมได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ในเมืองสะมาเรียของอิสราเอล ตรงกับปีที่สามสิบแปด ที่อุสซียาห์เป็นกษัตริย์ปกครองยูดาห์ เศคาริยาห์ได้ครองราชย์อยู่หกเดือน เศคาริยาห์ได้ทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์เหมือนกับที่บรรพบุรุษของเขาทำ เขาไม่ยอมหันไปจากพวกบาปของเยโรโบอัม ลูกชายของเนบัท ที่ทำให้อิสราเอลพลอยทำบาปไปด้วย

10 ชัลลูมลูกชายของยาเบชได้กบฏต่อเศคาริยาห์ เขาได้ล้มเศคาริยาห์ลงต่อหน้าประชาชน และฆ่าเขา แล้วขึ้นเป็นกษัตริย์แทน 11 เหตุการณ์อื่นในยุคสมัยของเศคาริยาห์ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอล 12 เรื่องนี้เป็นไปตามคำสัญญาที่พระยาห์เวห์เคยให้ไว้กับกษัตริย์เยฮู ที่ว่า “ลูกหลานของเจ้าจะได้นั่งอยู่บนบัลลังก์อิสราเอลถึงสี่ชั่วคน”

ชัลลูมปกครองอิสราเอล

13 ชัลลูมลูกชายของยาเบชได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ ตรงกับปีที่สามสิบเก้าของกษัตริย์อุสซียาห์แห่งยูดาห์ และเขาได้ครองราชย์อยู่ในเมืองสะมาเรียเพียงหนึ่งเดือน

14 เมนาเฮมลูกชายของกาดีได้มาจากเมืองทีรซาห์ขึ้นไปที่เมืองสะมาเรีย เขาได้ล้มชัลลูมลูกชายของยาเบชลงและฆ่าเขาในสะมาเรีย และขึ้นเป็นกษัตริย์แทน

15 เหตุการณ์อื่นๆในสมัยของชัลลูมและการสมคบกันกบฏที่มีเขาเป็นผู้นำนั้น ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอล

เมนาเฮมปกครองอิสราเอล

16 ในเวลานั้น เมนาเฮมที่ออกเดินทางมาจากเมืองทีรซาห์ ได้เข้าโจมตีเมืองทิฟสาห์และผู้คนที่อยู่ในเมืองนั้น รวมทั้งเมืองที่อยู่รอบๆเพราะคนเหล่านั้นไม่ยอมเปิดประตูเมืองให้ เขาปล้นเมืองเหล่านั้นและแหวกท้องของหญิงมีครรภ์ทุกคน

17 เมนาเฮมลูกชายของกาดีได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล ตรงกับปีที่สามสิบเก้าที่กษัตริย์อุสซียาห์ปกครองยูดาห์ เขาได้ครองราชย์อยู่ในเมืองสะมาเรียเป็นเวลาสิบปี 18 เขาได้ทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ ตลอดเวลาที่เขาครองราชย์อยู่ เขาไม่เคยหันไปจากพวกบาปของเยโรโบอัมลูกชายของเนบัท ที่ทำให้อิสราเอลพลอยทำบาปไปด้วย

19 แล้วกษัตริย์ปูล[b] แห่งอัสซีเรียได้มาบุกอิสราเอล กษัตริย์เมนาเฮมได้ให้เงินสามหมื่นสี่พันกิโลกรัม[c] แก่กษัตริย์ปูล เพื่อให้กษัตริย์ปูลสนับสนุนเขา และช่วยให้เขากุมอำนาจในการเป็นกษัตริย์ต่อไป 20 เมนาเฮมได้เรี่ยไรเงินจากคนอิสราเอลที่เป็นคนรวย เขาให้คนรวยจ่ายภาษีคนละห้าสิบเชเขล[d] แล้วเอาเงินนั้นมาให้กับกษัตริย์ปูลของอัสซีเรีย ดังนั้น กษัตริย์ปูลของอัสซีเรียจึงยอมถอยทัพกลับ ไม่อยู่ในแผ่นดินอิสราเอลอีกต่อไป

21 เหตุการณ์อื่นๆในสมัยของเมนาเฮม และสิ่งที่เขาได้ทำทั้งหมด ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์ของอิสราเอล 22 เมนาเฮมได้ตายไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขา และเปคาหิยาห์ลูกชายของเขาก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา

เปคาหิยาห์ปกครองอิสราเอล

23 เปคาหิยาห์ลูกชายของเมนาเฮมได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ของอิสราเอลอยู่ในเมืองสะมาเรีย ตรงกับปีที่ห้าสิบที่กษัตริย์อุสซียาห์ปกครองยูดาห์ เปคาหิยาห์ได้ครองราชย์อยู่สองปี 24 เปคาหิยาห์ได้ทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ เขาไม่ได้หันไปจากพวกบาปทั้งหลายของเยโรโบอัมลูกชายของเนบัท ที่ทำให้อิสราเอลพลอยทำบาปไปด้วย

25 แม่ทัพคนหนึ่งของเปคาหิยาห์ ชื่อเปคาห์ลูกชายของเรมาลิยาห์ได้คิดวางแผนกบฏต่อเขา เปคาห์ได้รวบรวมคนห้าสิบคนมาจากกิเลอาด และได้ฆ่าเปคาหิยาห์พร้อมกับอารโกบและอาริเอห์ตายที่ป้อมของวังกษัตริย์ที่เมืองสะมาเรีย ดังนั้น เปคาห์ได้ฆ่าเปคาหิยาห์และขึ้นเป็นกษัตริย์แทน

26 ส่วนเหตุการณ์อื่นๆในยุคสมัยของเปคาหิยาห์และทุกสิ่งที่เขาได้ทำไป ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์ของอิสราเอล

เปคาห์ปกครองอิสราเอล

27 เปคาห์ลูกชายของเรมาลิยาห์ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ของอิสราเอลในเมืองสะมาเรีย ตรงกับปีที่ห้าสิบสอง ที่กษัตริย์อุสซียาห์ปกครองยูดาห์ เปคาห์ได้ครองราชย์อยู่ยี่สิบปี 28 เขาได้ทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ เขาไม่ได้หันไปจากบาปทั้งหลายของเยโรโบอัมลูกชายของเนบัท ซึ่งทำให้อิสราเอลพลอยทำบาปไปด้วย

29 ในช่วงที่กษัตริย์เปคาห์ปกครองอิสราเอลอยู่นั้น กษัตริย์ทิกลัท-ปิเลเสอร์[e] แห่งอัสซีเรียได้ลงมายึดเมืองอิโยน อาเบล-เบธมาอาคาห์ ยาโนอาห์ เคเดช ฮาโซร์ กิเลอาด กาลิลี รวมทั้งแผ่นดินนัฟทาลีทั้งหมดและได้กวาดต้อนผู้คนไปที่อัสซีเรีย

30 แล้วโฮเชยา ลูกชายของเอลาห์ก็ได้วางแผนกบฏต่อเปคาห์ลูกชายของเรมาลิยาห์ โฮเชยาฆ่าเปคาห์ตาย และขึ้นเป็นกษัตริย์แทนเขา ตรงกับปีที่ยี่สิบที่โยธามลูกชายของอุสซียาห์เป็นกษัตริย์ของยูดาห์

31 ส่วนเหตุการณ์อื่นๆในยุคสมัยของเปคาห์และสิ่งที่เขาได้ทำไปทั้งหมด ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์ของอิสราเอล

โยธามปกครองยูดาห์

(2 พศด. 27:1-9)

32 โยธามลูกชายของกษัตริย์อุสซียาห์แห่งยูดาห์ขึ้นเป็นกษัตริย์ ตรงกับปีที่สองที่กษัตริย์เปคาห์ลูกชายของเรมาลิยาห์ปกครองอิสราเอล 33 โยธามมีอายุยี่สิบห้าปี ตอนที่เขาขึ้นเป็นกษัตริย์ และเขาครองราชย์อยู่ในเยรูซาเล็มเป็นเวลาสิบหกปี แม่ของเขามีชื่อว่าเยรูชา นางเป็นลูกสาวของศาโดก 34 โยธามได้ทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระยาห์เวห์ เหมือนกับที่อุสซียาห์พ่อของเขาทำ 35 แต่สถานนมัสการต่างๆก็ยังไม่ได้ถูกรื้อทิ้ง ประชาชนยังคงไปถวายเครื่องสัตวบูชาและเผาเครื่องหอมที่นั่นอยู่เหมือนเดิม โยธามได้สร้างประตูชั้นบนของวิหาร ของพระยาห์เวห์ขึ้นใหม่อีกครั้ง 36 ส่วนเหตุการณ์อื่นๆในยุคสมัยของโยธาม และสิ่งที่เขาได้ทำไป ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์ของยูดาห์

37 ในเวลานั้น พระยาห์เวห์ได้ส่งกษัตริย์เรซีนของชาวอารัมและเปคาห์ลูกชายของเรมาลิยาห์มาสู้รบกับยูดาห์

38 โยธามตายไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขาและศพของเขาถูกฝังรวมอยู่กับพวกบรรพบุรุษของเขาในเมืองของดาวิด และอาหัสลูกชายของเขาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา

ทิตัส 1

จาก เปาโล ทาสของพระเจ้าและศิษย์เอกของพระเยซูคริสต์ หน้าที่ของผมคือช่วยส่งเสริมความเชื่อของคนที่พระเจ้าได้เลือกไว้ และช่วยให้พวกเขาเข้าใจความจริงมากขึ้น ความจริงนี้จะทำให้พวกเขาใช้ชีวิตที่ให้เกียรติกับพระเจ้า หน้าที่ของผมนี้ตั้งอยู่บนความหวังที่ว่า เราจะมีชีวิตกับพระเจ้าตลอดไปตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้ ก่อนที่โลกนี้จะเกิดเสียอีก พระเจ้าไม่เคยโกหก เมื่อถึงเวลาที่พระเจ้าผู้ช่วยให้รอดของเราได้กำหนดไว้ พระองค์ก็ได้เปิดเผยถ้อยคำของพระองค์ผ่านทางการประกาศ พระองค์ได้มอบข่าวดีนี้กับผม และสั่งให้ผมออกไปประกาศ

ผมจึงได้เขียนจดหมายนี้มาให้ทิตัส ลูกแท้ๆในความเชื่อที่เรามีร่วมกัน

ขอให้พระเจ้าพระบิดาและพระเยซูคริสต์ผู้ช่วยให้รอดของเรา ให้ความเมตตากรุณาและสันติสุขกับคุณ

หน้าที่ของทิตัสบนเกาะครีต

ที่ผมได้ทิ้งคุณไว้ที่เกาะครีต ก็เพื่อคุณจะได้สะสางงานที่ยังค้างอยู่ให้เสร็จ และจะได้แต่งตั้งผู้นำอาวุโสตามเมืองต่างๆตามที่ผมได้สั่งกำชับไว้แล้ว ผู้นำอาวุโสนั้น จะต้องไม่มีข้อเสื่อมเสีย มีเมียเพียงคนเดียว มีลูกๆที่มีความเชื่อ ไม่ใช่เด็กเสเพลที่ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ เนื่องจากผู้ดูแลนี้ จะต้องรับผิดชอบครอบครัวของพระเจ้า เขาจะต้องไม่มีอะไรเสื่อมเสียในชีวิต ไม่ทำตัวเป็นเผด็จการ ไม่ขี้โมโห ไม่ขี้เหล้า ไม่ชอบต่อยตี ไม่ขี้โกง แต่เขาจะต้องชอบรับแขกแปลกหน้า รักความดี สุขุมรอบคอบ ยุติธรรม บริสุทธิ์ และต้องรู้จักควบคุมตนเอง เขาจะต้องมีความเชื่อที่มั่นคงในคำสอนที่เป็นประโยชน์ที่เราได้สอนไปนั้น เพื่อจะได้เอาคำสอนนี้ไปให้กำลังใจคนอื่น และเอาไปพิสูจน์ให้คนที่ต่อต้านคำสอนนี้เห็นว่าพวกตนผิด

10 เรื่องนี้สำคัญ เพราะมีหลายคนที่ดื้อดึงไม่ยอมเชื่อฟัง พูดแต่เรื่องไร้สาระ และชักนำคนอื่นให้หลงผิด พวกที่ผมพูดถึงนี้ส่วนใหญ่จะเป็นพวกยิวที่มาเชื่อในพระเยซู 11 จะต้องทำให้คนพวกนี้หยุดพูดให้ได้ เพราะคนพวกนี้โลภ เห็นแก่เงิน จึงสอนในสิ่งที่ไม่ควรสอน เลยทำให้หลายครัวเรือนต้องถูกทำลายไป 12 ขนาดคนหนึ่งของเขาเองที่เป็นคนพูดแทนพวกพระเจ้าของพวกเขายังพูดเลยว่า

“ชาวเกาะครีต พูดโกหกเสมอ
    เป็นเหมือนสัตว์ป่าที่ดุร้าย
    เป็นคนขี้เกียจและตะกละตะกลาม”

13 แล้วเขาก็เป็นอย่างที่พูดนั้นจริงๆ คุณต้องต่อว่าพวกนี้ให้เจ็บๆ เพื่อเขาจะได้เจริญขึ้นในความเชื่อ 14 จะได้ไม่ไปสนใจนิยายปรัมปราเหลวไหลของยิว และกฎต่างๆของคนที่หันหน้าหนีจากความจริง 15 สำหรับคนที่บริสุทธิ์ อะไรๆก็บริสุทธิ์ไปหมด ส่วนคนที่สกปรกและไม่เชื่อ ก็ไม่มีอะไรบริสุทธิ์เลย เพราะความคิดและใจที่ฟ้องถูกผิดของเขาสกปรกไปหมดแล้ว 16 พวกนี้อ้างว่ารู้จักพระเจ้า แต่การกระทำนั้นตรงกันข้าม พวกนี้น่ารังเกียจ ไม่เชื่อฟัง และไม่เหมาะที่จะทำความดีอะไรเลย

โฮเชยา 8

การกราบไหว้รูปเคารพทำให้ล่มจม

เอาแตรวางไว้ที่ริมฝีปากของเจ้าแล้วเป่าเตือน
    นกอีแร้งตัวหนึ่งบินวนเวียนอยู่เหนือแผ่นดินของพระยาห์เวห์
เพราะว่าคนอิสราเอลหักข้อตกลงของเรา
    และฝ่าฝืนกฎของเรา
พวกเขาร้องต่อเราว่า
    “พระเจ้าเจ้าข้า พวกเราที่อิสราเอลนี้รู้จักพระองค์”
แต่อิสราเอลทอดทิ้งสิ่งที่ดีไป
    ดังนั้นศัตรูจะไล่ล่าพวกเขา
พวกเขาได้แต่งตั้งพวกกษัตริย์ขึ้นมาโดยไม่ได้ปรึกษาเรา
    พวกเขาตั้งพวกผู้นำขึ้นมาแต่เราไม่รู้เรื่อง
พวกเขาสร้างรูปเคารพขึ้นมาจากทองและเงินของพวกเขา
    ดังนั้นอิสราเอลจะถูกตัดออกไป
สะมาเรีย ลูกวัวของเจ้าถูกทอดทิ้งไปแล้ว[a] ความโกรธของเราได้เผาผลาญใส่เจ้า
    อีกนานแค่ไหน ที่พวกเจ้าจะไม่สามารถทำตัวให้บริสุทธิ์
ช่างฝีมือจากอิสราเอลสร้างลูกวัวตัวนั้นขึ้นมา
    มันไม่ใช่พระเจ้า
ลูกวัวของสะมาเรียตัวนั้นจะถูกทุบให้แตกเป็นชิ้นๆ
พวกเขาจะหว่านพืชตอนลมพัด
    และเก็บเกี่ยวตอนมีพายุแรง
สิ่งที่ปลูกจะงอกขึ้นมา
    แต่จะไม่แตกหน่อและไม่ออกรวง
แต่ถ้าออกรวงบ้าง
    คนต่างชาติก็จะมาเก็บกินหมด
อิสราเอลถูกกลืนไปแล้ว
    ตอนนี้พวกเขาถูกทอดทิ้งท่ามกลางชนชาติอื่นๆ
    เหมือนกับหม้อที่ไม่มีใครอยากได้
เพราะอิสราเอลยืนกรานที่จะขึ้นไปอัสซีเรีย
    พวกเขาเป็นเหมือนลาป่าที่เดินหาคู่อยู่ลำพัง
    คนเอฟราอิมต้องจ้างคู่รักมา
10 ถึงพวกเขาจะจ้างชนชาติอื่นๆให้มาช่วยพวกเขา
    เราจะรวบรวมพวกเขาไว้เดี๋ยวนี้
ในไม่ช้า พวกเขาจะอ่อนแอเพราะเครื่องบรรณาการที่พวกเขาต้องให้กับกษัตริย์อัสซีเรียที่ยิ่งใหญ่

อิสราเอลลืมพระเจ้าและนมัสการพวกรูปเคารพ

11 ถึงแม้เอฟราอิมได้สร้างแท่นบูชาเพิ่มขึ้นเพื่อลบล้างบาปต่างๆของพวกเขา
    แต่แท่นบูชาพวกนั้นกลับกลายเป็นแท่นบูชาสำหรับการทำบาป
12 ถึงแม้เราได้เขียนคำสั่งสอนมากมายให้กับเอฟราอิม
    แต่พวกเขากลับมองว่าเป็นเรื่องของคนอื่น
13 คนอิสราเอลชอบถวายเครื่องบูชา
    พวกเขาเอาเนื้อมาถวายและกินมัน
    แต่พระยาห์เวห์ไม่ชอบเครื่องบูชาพวกนั้นเลย
พระองค์ระลึกถึงความชั่วช้าของพวกเขาเดี๋ยวนี้
    และพระองค์จะลงโทษพวกเขาเพราะความบาปพวกนั้น
    พระองค์จะส่งพวกเขากลับไปที่อียิปต์[b]
14 พวกคนอิสราเอลลืมผู้ที่สร้างพวกเขาขึ้นมา
    แต่กลับสร้างวังขึ้นมากมายสำหรับกษัตริย์ของเขา
ยูดาห์สร้างป้อมปราการขึ้นมามากมาย
    แต่เราจะส่งไฟลงมายังเมืองทั้งหลายของพวกเขา
    และไฟจะเผาผลาญป้อมปราการต่างๆเหล่านั้น

สดุดี 123-125

อธิษฐานขอความเมตตา

บทเพลงที่ร้องในระหว่างทางที่ขึ้นไปยังวิหาร

ข้าพเจ้ามองขึ้นไปยังพระองค์
    พระองค์ผู้นั่งอยู่บนบัลลังก์ในสวรรค์นั้น
เหมือนทาสที่มองไปยังเจ้านายเพื่อเจ้านายจะได้ให้ในสิ่งที่เขาต้องการ
    เหมือนสาวใช้ที่คอยพึ่งนายหญิง
พวกเราก็เหมือนกันที่เฝ้ามองพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา
    คอยให้พระองค์เมตตาพวกเรา

ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดเมตตาพวกเราด้วย โปรดเมตตาพวกเราด้วยเถิด
    เพราะพวกเราเต็มกลืนแล้วกับคำดูถูกนั้น
พวกเราเต็มกลืนกับคำเยาะเย้ยจากพวกคนที่เย่อหยิ่ง
    และคำดูถูกจากคนจองหอง

พระยาห์เวห์อยู่ฝ่ายเรา

เพลงที่ร้องในระหว่างทางที่ขึ้นไปยังวิหาร บทเพลงของดาวิด

“ถ้าพระยาห์เวห์ไม่ได้อยู่ฝ่ายเรา”
    ขอให้อิสราเอลพูดว่า
“ถ้าพระยาห์เวห์ไม่ได้อยู่ฝ่ายเรา
    ตอนที่ผู้คนโจมตีพวกเรานั้น
ศัตรูของพวกเราก็คงกลืนกินเราทั้งเป็น
    ตอนที่พวกเขาโกรธเกรี้ยวเรา
แล้วพวกเขาก็คงจะซัดเราซะเรียบเหมือนน้ำท่วม
    กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวก็คงท่วมท้นหัวเรา
น้ำที่ไหลเชี่ยวกรากก็คงท่วมท้นหัวเราไปแล้ว”

สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
    ที่พระองค์ไม่ปล่อยให้เราเป็นเหยื่อของเขี้ยวศัตรู
เราเป็นเหมือนนกที่หนีรอดออกมาจากตาข่ายดักนกของนายพราน
    ตาข่ายนั้นฉีกขาด เราจึงหนีออกมาได้

ความช่วยเหลือของเรามาจากพระยาห์เวห์
    ผู้สร้างสวรรค์และแผ่นดินโลก

พระยาห์เวห์ปกป้องคนของพระองค์

เพลงที่ร้องในระหว่างทางที่ขึ้นไปยังวิหาร

คนเหล่านั้นที่ไว้วางใจในพระยาห์เวห์จะเป็นเหมือนภูเขาศิโยน
    ที่ไม่สั่นคลอนและคงอยู่ตลอดไป
พระยาห์เวห์ล้อมรอบและปกป้องคนของพระองค์ทั้งเดี๋ยวนี้และตลอดไป
    เหมือนที่ภูเขาล้อมรอบเยรูซาเล็ม
พวกคนชั่วช้าจะไม่ได้ครอบครองแผ่นดินของคนดีเสมอไป
    เพราะไม่อย่างนั้นคนดีจะเริ่มทำชั่ว
ข้าแต่พระยาห์เวห์
    ขอช่วยทำดีกับคนดีด้วยเถิด คือคนที่มีจิตใจซื่อตรง
ข้าแต่พระยาห์เวห์
    ช่วยกำจัดคนคดโกง พร้อมกับคนอื่นๆที่ทำชั่วด้วยเถิด

ขอให้อิสราเอลมีความสงบสุขเถิด

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International