Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
โยชูวา 2

การสอดแนมเมืองเยริโค

ต่อมาโยชูวาลูกชายของนูน จึงแอบส่งชายสองคน ที่เป็นชาวเมืองชิทธิม[a] เข้าไปสอดแนม พร้อมกำชับว่า “เข้าไปสำรวจแผ่นดินนั้นให้ทั่ว โดยเฉพาะเมืองเยริโค”

แล้วสองคนนั้นก็ไป และได้เข้าไปในบ้านของหญิงโสเภณีชื่อราหับ และค้างคืนที่นั่น

มีคนไปแจ้งกับกษัตริย์เมืองเยริโคว่า “มีชายอิสราเอลบางคนได้เข้ามาในเมืองคืนนี้ เพื่อสอดแนมแผ่นดินนี้”

กษัตริย์เมืองเยริโคได้ส่งข้อความนี้ไปถึงราหับว่า “ให้ส่งชายพวกนั้นที่มาหาเจ้าที่อยู่บ้านเจ้าออกมา เพราะพวกมันมาสอดแนมแผ่นดินนี้”

แต่ราหับได้พาชายสองคนนั้นเข้าไปข้างใน และซ่อนพวกเขาไว้ นางพูดว่า “ใช่แล้วค่ะ ชายพวกนั้นได้มาหาฉันจริง แต่ฉันไม่รู้ว่าพวกเขามาจากไหน และในตอนกลางคืนเมื่อถึงเวลาปิดประตูเมือง พวกเขาก็ออกไป ฉันไม่รู้ว่าชายพวกนั้นไปไหนกัน รีบๆตามพวกเขาไปเถอะ อาจจะไปทันจับพวกเขาก็ได้” (นางได้พาชายทั้งสองขึ้นไปบนดาดฟ้า และให้ซ่อนอยู่ใต้ต้นป่าน[b] ที่นางได้ตัดเอามาตากเรียงกันไว้บนดาดฟ้านั้น)

ดังนั้น พวกคนของกษัตริย์แห่งเยริโคก็ได้ไปไล่ตามคนสอดแนมชาวอิสราเอลสองคนนั้นตามถนน จนไปถึงบริเวณที่ตื้นเขินของแม่น้ำจอร์แดนที่สามารถลุยข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งได้ เมื่อพวกคนที่ไล่ล่าออกไป ประตูเมืองก็ปิดลงทันที

ก่อนที่ชายชาวอิสราเอลสองคนนั้นจะนอน นางราหับได้ขึ้นไปหาพวกเขาที่บนดาดฟ้า นางพูดกับพวกเขาว่า “ฉันรู้ว่าพระยาห์เวห์ได้ยกแผ่นดินนี้ให้กับพวกท่าน พวกเราต่างก็พากันหวาดกลัวท่าน และทุกคนที่อยู่ในแผ่นดินต่างก็อ่อนปวกเปียกไปเพราะพวกท่าน 10 เพราะพวกเราเคยได้ยินมาว่า ตอนที่พวกท่านออกมาจากประเทศอียิปต์นั้น พระยาห์เวห์ได้ทำให้น้ำในทะเลแดงเหือดแห้งไปต่อหน้าพวกท่าน[c] และได้ยินเรื่องที่พวกท่านได้ทำต่อกษัตริย์สององค์ของชาวอาโมไรต์คือ กษัตริย์สิโหนและกษัตริย์โอก[d] ที่พวกท่านได้ทำลายจนราบคาบ ที่ฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนโน้น 11 เมื่อพวกเราได้ยินข่าวพวกนี้ พวกเราต่างก็ขวัญหนีดีฝ่อ ไม่มีความกล้าหลงเหลืออยู่ในพวกเราเลยสักคน เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านองค์นี้นี่แหละที่เป็นพระเจ้าในสวรรค์เบื้องบนและบนแผ่นดินโลกเบื้องล่าง 12 ดังนั้นตอนนี้ให้สาบานกับฉันต่อหน้าพระยาห์เวห์ว่า พวกท่านจะมีน้ำใจต่อครอบครัวของฉันอย่างที่ฉันมีน้ำใจต่อพวกท่าน ขอให้ปฏิญาณกับฉันว่า 13 พวกท่านจะไว้ชีวิต พ่อแม่ พี่น้องทั้งหลายของฉัน รวมทั้งทุกคนที่เป็นของพวกเขา และช่วยพวกเราให้รอดพ้นจากความตายด้วย”

14 ชายทั้งสองนั้นได้ตอบนางว่า “ขอให้พระเจ้าฆ่าพวกเรา ถ้ามีคนหนึ่งในพวกท่านเป็นอะไรไป ถ้าท่านไม่บอกเรื่องนี้ให้ใครรู้ เราจะเมตตาและซื่อสัตย์กับท่านตอนที่พระเจ้ามอบแผ่นดินนี้ให้กับพวกเรา”

15 ดังนั้น นางจึงหย่อนทั้งสองลงทางหน้าต่าง เพราะบ้านของนางชิดกับกำแพงเมืองและตัวนางก็อาศัยอยู่ที่ตรงกำแพงเมืองนั้น 16 นางได้บอกกับพวกเขาว่า “ไปหลบอยู่ที่แถบเนินเขาก่อน เพื่อคนที่กษัตริย์ส่งมาค้นหาพวกท่านจะได้หาไม่เจอ ให้ซ่อนอยู่ที่นั่นสามวัน จนกว่าพวกที่ไล่ล่ากลับเข้ามาในเมือง หลังจากนั้น พวกท่านถึงค่อยเดินทางต่อ”

17 ชายทั้งสองนั้นได้พูดกับนางว่า “เราจะไม่รับผิดชอบต่อคำสาบานที่ท่านให้เราทำนี้ หากท่านไม่ทำตามนี้ คือ 18 เมื่อพวกเรายกเข้ามาในเมือง ให้ท่านเอาเชือกแดงนี้ผูกไว้ที่หน้าต่างที่ท่านหย่อนเราลงมา และให้ท่านรวบรวม พ่อแม่ พี่น้อง และครอบครัวทั้งหมดของท่านมาไว้ในบ้านท่าน 19 คนที่ออกจากประตูบ้านท่านไปอยู่ตามท้องถนน เขาต้องรับผิดชอบต่อการตายของเขาเอง พวกเราจะไม่มีความผิดด้วย แต่ถ้าใครถูกทำร้ายในบ้านหลังนี้ พวกเราจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อความตายของคนๆนั้นเอง 20 แต่ถ้าท่านไปบอกเรื่องของเราให้คนอื่นรู้ เราก็ไม่ต้องรับผิดชอบต่อคำสาบานที่ท่านให้เราทำนี้”

21 นางราหับพูดตอบว่า “ตกลงตามที่ท่านพูด” แล้วนางก็ส่งพวกเขาจากไป และเอาเชือกแดงผูกไว้ที่หน้าต่าง

22 ส่วนชายทั้งสองนั้น เมื่อออกจากบ้านของนางราหับแล้ว ก็ตรงไปยังแถบเนินเขา พวกเขาได้หลบซ่อนอยู่ที่นั่นสามวัน ขณะที่พวกไล่ล่าของกษัตริย์ค้นหาพวกเขาตามถนนหนทาง แต่ก็ไม่พบ จนต้องกลับเข้าเมืองไป 23 ชายสองคนนั้นจึงกลับลงมาจากเนินเขา และข้ามแม่น้ำจอร์แดนกลับไปหาโยชูวาลูกชายของนูน และได้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับพวกเขาให้โยชูวาฟัง 24 พวกเขาได้พูดกับโยชูวาว่า “พระยาห์เวห์ได้ยกแผ่นดินทั้งหมดนั้นให้กับพวกเราแน่ ยิ่งกว่านั้นผู้คนที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินนี้ล้วนหวาดกลัวพวกเราเป็นอย่างมาก”

สดุดี 123-125

อธิษฐานขอความเมตตา

บทเพลงที่ร้องในระหว่างทางที่ขึ้นไปยังวิหาร

ข้าพเจ้ามองขึ้นไปยังพระองค์
    พระองค์ผู้นั่งอยู่บนบัลลังก์ในสวรรค์นั้น
เหมือนทาสที่มองไปยังเจ้านายเพื่อเจ้านายจะได้ให้ในสิ่งที่เขาต้องการ
    เหมือนสาวใช้ที่คอยพึ่งนายหญิง
พวกเราก็เหมือนกันที่เฝ้ามองพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา
    คอยให้พระองค์เมตตาพวกเรา

ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดเมตตาพวกเราด้วย โปรดเมตตาพวกเราด้วยเถิด
    เพราะพวกเราเต็มกลืนแล้วกับคำดูถูกนั้น
พวกเราเต็มกลืนกับคำเยาะเย้ยจากพวกคนที่เย่อหยิ่ง
    และคำดูถูกจากคนจองหอง

พระยาห์เวห์อยู่ฝ่ายเรา

เพลงที่ร้องในระหว่างทางที่ขึ้นไปยังวิหาร บทเพลงของดาวิด

“ถ้าพระยาห์เวห์ไม่ได้อยู่ฝ่ายเรา”
    ขอให้อิสราเอลพูดว่า
“ถ้าพระยาห์เวห์ไม่ได้อยู่ฝ่ายเรา
    ตอนที่ผู้คนโจมตีพวกเรานั้น
ศัตรูของพวกเราก็คงกลืนกินเราทั้งเป็น
    ตอนที่พวกเขาโกรธเกรี้ยวเรา
แล้วพวกเขาก็คงจะซัดเราซะเรียบเหมือนน้ำท่วม
    กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวก็คงท่วมท้นหัวเรา
น้ำที่ไหลเชี่ยวกรากก็คงท่วมท้นหัวเราไปแล้ว”

สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
    ที่พระองค์ไม่ปล่อยให้เราเป็นเหยื่อของเขี้ยวศัตรู
เราเป็นเหมือนนกที่หนีรอดออกมาจากตาข่ายดักนกของนายพราน
    ตาข่ายนั้นฉีกขาด เราจึงหนีออกมาได้

ความช่วยเหลือของเรามาจากพระยาห์เวห์
    ผู้สร้างสวรรค์และแผ่นดินโลก

พระยาห์เวห์ปกป้องคนของพระองค์

เพลงที่ร้องในระหว่างทางที่ขึ้นไปยังวิหาร

คนเหล่านั้นที่ไว้วางใจในพระยาห์เวห์จะเป็นเหมือนภูเขาศิโยน
    ที่ไม่สั่นคลอนและคงอยู่ตลอดไป
พระยาห์เวห์ล้อมรอบและปกป้องคนของพระองค์ทั้งเดี๋ยวนี้และตลอดไป
    เหมือนที่ภูเขาล้อมรอบเยรูซาเล็ม
พวกคนชั่วช้าจะไม่ได้ครอบครองแผ่นดินของคนดีเสมอไป
    เพราะไม่อย่างนั้นคนดีจะเริ่มทำชั่ว
ข้าแต่พระยาห์เวห์
    ขอช่วยทำดีกับคนดีด้วยเถิด คือคนที่มีจิตใจซื่อตรง
ข้าแต่พระยาห์เวห์
    ช่วยกำจัดคนคดโกง พร้อมกับคนอื่นๆที่ทำชั่วด้วยเถิด

ขอให้อิสราเอลมีความสงบสุขเถิด

อิสยาห์ 62

ชัยชนะของเมืองเยรูซาเล็ม

62 เพื่อจะช่วยศิโยน ผมจะไม่ยอมเก็บตัวเงียบ
    เพื่อจะช่วยเยรูซาเล็ม ผมจะไม่ยอมอยู่เฉย
จนกว่าชัยชนะของนางจะส่องสว่างออกมาเหมือนกับแสงรุ่งอรุณ
    และความรอดของนางส่องสว่างเหมือนกับคบเพลิง
แล้วชนชาติต่างๆจะได้เห็นชัยชนะของเจ้า
    กษัตริย์ทั้งหลายจะได้เห็นสง่าราศีของเจ้า
เจ้าจะมีชื่อใหม่ที่พระยาห์เวห์เองจะเป็นผู้ตั้งให้
เจ้าจะเป็นมงกุฎที่สวยงามในมือของพระยาห์เวห์
    เป็นมงกุฎของกษัตริย์ในมือของพระเจ้าของเจ้า
คนจะไม่เรียกเจ้าว่า ผู้ถูกผัวทิ้ง
    และแผ่นดินของเจ้าก็จะไม่ถูกเรียกว่าร้างเปล่าอีกต่อไป
เพราะคนจะเรียกเจ้าว่า คนที่พระเจ้ารัก
    และคนจะเรียกแผ่นดินของเจ้าว่า
    เจ้าสาวของพระเจ้า
เพราะพระยาห์เวห์รักเจ้า
    และแผ่นดินของเจ้าจะแต่งงานกับพระยาห์เวห์
ผู้ที่จะสร้างเจ้าขึ้นมาใหม่ก็จะแต่งงานกับเจ้า
    เหมือนกับที่ชายหนุ่มแต่งงานกับหญิงสาว
พระเจ้าของเจ้าจะชื่นชมในตัวเจ้า
    เหมือนกับเจ้าบ่าวชื่นชมในตัวเจ้าสาว
เยรูซาเล็มเอ๋ย เราได้ตั้งพวกยามไว้บนกำแพงทั้งหลายของเจ้า
    เขาจะร้องอธิษฐานตลอดวันตลอดคืนไม่นิ่งเงียบ
    พวกเจ้าที่ร้องขอให้พระยาห์เวห์ช่วยเหลือ อย่ายอมหยุดพักเลย
และอย่าให้พระองค์หยุดพักด้วย
    จนกว่าพระองค์จะตั้งเยรูซาเล็มขึ้นมาใหม่
    จนกว่าพระองค์จะทำให้เยรูซาเล็มเป็นเมืองที่คนทั่วโลกยกย่อง
พระยาห์เวห์ได้สาบานด้วยการยกมือขวาและแขนอันทรงพลังของพระองค์ว่า
    “เราจะไม่ให้เมล็ดข้าวของเจ้าตกไปเป็นอาหารของพวกศัตรูของเจ้าอีกต่อไป
เราจะไม่ให้พวกคนต่างชาติได้ดื่มเหล้าองุ่นใหม่ของเจ้า ที่เจ้าได้มาจากการทำงานอย่างหนัก
แต่พวกที่เก็บเกี่ยวเมล็ดข้าวก็จะได้กินมัน และพวกเขาจะสรรเสริญพระยาห์เวห์
    และคนพวกนั้นที่เก็บผลองุ่นจะได้ดื่มเหล้าองุ่นในลานวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา”

10 ออกไป ออกไปทางประตูเมือง
    ไปเตรียมถนนให้กับประชาชน
สร้างมันขึ้นมา สร้างทางหลวงขึ้นมา
    เก็บหินทิ้งข้างทางให้หมด
    ยกธงขึ้นเป็นสัญญาณให้ชนชาติทั้งหลายเห็น
11 ดูสิ พระยาห์เวห์ได้ประกาศไปถึงสุดปลายโลกว่า “ให้บอกนางสาวศิโยนว่า
    ‘ดูสิ ความรอดของเธอกำลังมา
พระองค์เอารางวัลมาให้
    พระองค์จะจ่ายค่าตอบแทนให้’
12 คนจะเรียกพวกเขาว่าคนของพระเจ้าโดยเฉพาะ
    พวกที่พระยาห์เวห์ได้ปลดปล่อยให้เป็นอิสระ
และศิโยน เจ้าจะได้ชื่อว่าผู้ที่พระเจ้าอยากได้
    เมืองที่พระเจ้าไม่ได้ทอดทิ้ง”

มัทธิว 10

พระเยซูส่งศิษย์ทั้งสิบสองคนออกไป

(มก. 3:13-19; 6:7-13; ลก. 6:12-16; 9:1-6)

10 พระเยซูเรียกศิษย์เอกทั้งสิบสองคนมา และให้สิทธิอำนาจกับพวกเขาเหนือวิญญาณชั่ว เพื่อจะขับพวกมันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บทุกชนิดได้

นี่คือรายชื่อศิษย์เอกทั้งสิบสองคนคือ

ซีโมน หรือเรียกกันว่า เปโตร

อันดรูว์น้องชายของเขา

ยากอบลูกของเศเบดี

ยอห์นน้องชายของเขา

ฟีลิป

บารโธโลมิว

โธมัส

มัทธิวคนเก็บภาษี

ยากอบลูกของอัลเฟอัส

ธัดเดอัส

ซีโมน ผู้มีใจจดจ่อกับพระเจ้า[a]

และยูดาส อิสคาริโอท คนที่ต่อมาได้หักหลังพระองค์

พระเยซูส่งสิบสองคนนี้ออกไป พร้อมกับสั่งว่า “อย่าไปหาพวกคนที่ไม่ใช่ชาวยิว อย่าเข้าไปในเมืองของพวกชาวสะมาเรีย แต่ให้ไปหาคนอิสราเอล แกะของพระเจ้าที่หลงหาย ไปประกาศว่า ‘อาณาจักรแห่งสวรรค์ใกล้มาถึงแล้ว’ และรักษาคนป่วยให้หาย ทำให้คนตายฟื้น รักษาคนเป็นโรคผิวหนังร้ายแรงให้หายสะอาด และไล่ผีออกจากคน คุณได้รับฤทธิ์อำนาจนี้มาเปล่าๆก็ให้ช่วยคนอื่นเปล่าๆด้วย เวลาเดินทาง ไม่ต้องเอาเงินทองติดตัวไป ไม่ต้องเอากระเป๋า หรือเสื้อผ้าสำรอง หรือรองเท้าสาน หรือไม้เท้าไปด้วย 10 เพราะคนทำงานก็สมควรจะได้รับการเลี้ยงดูในสิ่งที่เขาจำเป็น

11 เมื่อคุณเข้าไปบ้านไหนเมืองไหนก็ตาม ให้หาคนที่เต็มใจต้อนรับคุณ และพักอยู่ที่บ้านของคนนั้นตลอดจนกว่าจะจากเมืองนั้นไป 12 เมื่อคุณเข้าไปในบ้าน ก็ขอพระเจ้าอวยพรให้เขาอยู่เย็นเป็นสุข 13 ถ้าคนในบ้านนั้นยินดีต้อนรับคุณ พรนั้นก็จะตกอยู่กับบ้านนั้น แต่ถ้าเขาไม่ต้อนรับคุณ พรนั้นก็จะกลับคืนมาหาคุณ 14 และถ้าบ้านไหนเมืองไหนไม่ต้อนรับคุณ และไม่ฟังสิ่งที่คุณพูด ก็ออกจากที่นั่นเสีย และสะบัดฝุ่นจากเท้า[b]ออกเสียด้วย 15 เราขอบอกให้รู้ว่า ในวันพิพากษา ชาวเมืองนั้นจะได้รับโทษหนักกว่าชาวเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์[c] เสียอีก

พระเยซูเตือนว่าจะเกิดเรื่องเดือดร้อน

(มก. 13:9-13; ลก. 21:12-17)

16 ฟังให้ดีนะ เราส่งพวกคุณออกไปเหมือนส่งแกะไปอยู่ท่ามกลางฝูงหมาป่า ดังนั้นพวกคุณต้องฉลาดเหมือนงู และซื่อบริสุทธิ์เหมือนนกพิราบ 17 ระวังให้ดีเพราะคนพวกนั้นจะจับพวกคุณไปขึ้นศาล และเฆี่ยนคุณในที่ประชุม 18 พวกคุณจะถูกนำตัวไปยืนต่อหน้าเจ้าเมืองและกษัตริย์ เพราะคุณเป็นศิษย์ของเรา พวกคุณจะต้องเป็นพยานเล่าเรื่องของเราให้กษัตริย์ เจ้าเมือง และคนที่ไม่ใช่ชาวยิวฟัง 19 เมื่อโดนจับ ไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะพูดอะไร หรือจะพูดอย่างไร เพราะเมื่อถึงเวลา พระเจ้าจะบอกเองว่าจะให้คุณพูดอะไร 20 จริงๆแล้ว คนที่พูดจะไม่ใช่ตัวพวกคุณ แต่เป็นพระวิญญาณของพระบิดาพูดผ่านทางคุณ

21 พี่น้องจะหักหลังกันเองให้ไปถูกฆ่า พ่อจะหักหลังลูกให้ไปถูกฆ่า ลูกๆจะต่อต้านพ่อแม่ และส่งพ่อแม่ไปให้ถูกฆ่า 22 ทุกคนจะเกลียดพวกคุณ เพราะพวกคุณเป็นศิษย์ของเรา แต่ใครที่ทนได้จนถึงที่สุดก็จะได้รับความรอด 23 เมื่อเขาข่มเหงคุณในเมืองหนึ่ง ก็ให้หนีไปเมืองอื่น เราขอบอกให้รู้ว่า บุตรมนุษย์จะมาถึงก่อนที่พวกคุณจะเดินทางไปทั่วทุกเมืองของอิสราเอลเสียอีก

24 ศิษย์ไม่เหนือกว่าครู และทาสก็ไม่เหนือกว่าเจ้านาย 25 ศิษย์น่าจะพอใจแล้ว ที่เป็นได้เหมือนครู และทาสก็น่าจะพอใจแล้ว ที่เป็นได้เหมือนเจ้านาย ถ้าขนาดเจ้าของบ้านยังถูกเรียกว่าซาตาน[d] แล้วลูกบ้านจะไม่ถูกเรียกด้วยชื่อที่เลวร้ายกว่านั้นอีกหรือ

กลัวพระเจ้า ไม่ต้องกลัวมนุษย์

(ลก. 12:2-7)

26 ดังนั้น ไม่ต้องกลัวคนพวกนั้น เพราะทุกอย่างที่ปิดบังไว้ก็จะถูกเปิดโปงออกมา และทุกอย่างที่เป็นความลับก็จะถูกเปิดเผย 27 สิ่งที่เราได้บอกคุณในที่มืด ก็ขอให้ไปพูดในที่สว่าง สิ่งที่เรากระซิบบอกคุณ ก็ให้ไปประกาศจากบนดาดฟ้า 28 อย่ากลัวคนพวกนี้ที่ฆ่าได้แต่ร่างกาย แต่ไม่สามารถฆ่าวิญญาณของคุณได้ แต่ให้เกรงกลัวพระองค์ผู้ที่สามารถทำลายได้ทั้งร่างกายและวิญญาณของคุณในนรก 29 ถ้าพระบิดาของคุณไม่ยอม แม้แต่นกกระจอกตัวเล็กๆสองตัวที่มีค่าแค่บาทเดียวจะตกลงมาบนพื้นไม่ได้เลย 30 แม้แต่เส้นผมทุกเส้นบนหัวคุณ พระองค์ก็นับไว้หมดแล้ว 31 อย่ากลัวเลย เพราะพวกคุณมีค่ามากกว่านกกระจอกทั้งฝูงมากนัก

บอกคนถึงความเชื่อของคุณ

(ลก. 12:8-9)

32 ถ้าใครยอมรับเราต่อหน้าคนในโลกนี้ เราก็จะยอมรับเขาต่อหน้าพระบิดาของเราบนสวรรค์ด้วย 33 แต่ถ้าใครไม่ยอมรับเราต่อหน้าคนในโลกนี้ เราก็จะไม่ยอมรับเขาต่อหน้าพระบิดาของเราบนสวรรค์เหมือนกัน

การติดตามพระเยซูอาจจะทำให้คุณเดือดร้อน

(ลก. 12:51-53; 14:26-27)

34 อย่าคิดว่าเรามาเพื่อนำความสงบสุขมาให้กับโลกนี้ เราไม่ได้นำความสงบสุขมา แต่เรานำดาบมาให้ 35-36 เพราะเรามาเพื่อทำให้

‘ลูกชายต่อต้านพ่อ ลูกสาวต่อต้านแม่
ลูกสะใภ้ต่อต้านแม่ผัว
ศัตรูของเขาก็คือคนในครอบครัวของเขานั่นเอง’[e]

37 คนที่รักพ่อหรือแม่ของตัวเองมากกว่าเรา ก็ไม่เหมาะที่จะเป็นศิษย์ของเรา คนที่รักลูกชายหรือลูกสาวของตัวเองมากกว่าเรา ก็ไม่เหมาะที่จะเป็นศิษย์ของเรา 38 คนที่ไม่ยอมแบกไม้กางเขนของตัวเอง แล้วตามเรามา ก็ไม่เหมาะที่จะเป็นศิษย์ของเรา 39 คนที่พยายามเอาตัวรอด จะไม่รอด แต่คนที่สละตัวเองเพื่อเราจะค้นพบตัวเอง

พระเจ้าจะอวยพรคนที่ต้อนรับคุณ

(มก. 9:41)

40 คนที่ต้อนรับคุณ ก็ต้อนรับเราด้วย และคนที่ต้อนรับเรา ก็ได้ต้อนรับผู้ที่ส่งเรามาด้วย 41 คนที่ต้อนรับผู้พูดแทนพระเจ้า เพราะเขาเป็นผู้พูดแทนพระเจ้า ก็จะได้รับรางวัลแบบเดียวกับที่ผู้พูดแทนพระเจ้านั้นได้รับ และคนที่ต้อนรับคนที่เชื่อฟังพระเจ้าเพราะเขาเชื่อฟังพระเจ้า ก็จะได้รับรางวัลแบบเดียวกับคนที่เชื่อฟังพระเจ้านั้นได้รับ 42 แม้แต่คนที่ให้แค่น้ำเย็นแก้วเดียวกับศิษย์ที่ต่ำต้อยที่สุดคนหนึ่งของเรา เราขอบอกให้รู้ว่า คนๆนั้นจะได้รับรางวัลตอบแทนอย่างแน่นอน”

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International