Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
เฉลยธรรมบัญญัติ 6

รักและเชื่อฟังพระเจ้าอยู่เสมอ

นี่คือคำสั่ง กฎและข้อบังคับต่างๆที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านได้สั่งให้เราเอามาสอนพวกท่าน ให้พวกท่านทำตามกฎต่างๆเหล่านี้ ในดินแดนที่พวกท่านกำลังจะข้ามไปยึดเอานั้น เพื่อท่าน และลูกๆหลานๆของท่านจะได้เกรงกลัวพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านตลอดชีวิต และรักษากฎและคำสั่งทั้งหมดที่เราได้สั่งท่านไว้ แล้วท่านจะได้มีอายุยืนยาว ชาวอิสราเอลเอ๋ย ฟังไว้ให้ดี และให้ทำตามกฎเหล่านี้ด้วยความระมัดระวังด้วย เพื่อท่านจะได้เจริญรุ่งเรืองและมีลูกหลานมากมาย กลายเป็นชนชาติที่ยิ่งใหญ่ บนแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ เหมือนกับที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกท่านได้สัญญาไว้กับท่าน

ประชาชนชาวอิสราเอลเอ๋ย ฟังไว้ให้ดี มีแต่พระยาห์เวห์เท่านั้นที่เป็นพระเจ้าของเรา[a] ท่านต้องรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ด้วยการทุ่มสุดใจ[b] สุดชีวิต[c] และสุดตัว[d] ของท่านให้กับพระองค์ คำสั่งเหล่านี้ที่เราได้สั่งท่านในวันนี้ ให้จดจำไว้ในใจเสมอ ท่องให้กับลูกๆฟัง และพูดถึงคำสั่งเหล่านี้ ไม่ว่าจะนั่งอยู่ในบ้านหรือเดินอยู่บนท้องถนน หรือนอนหรือลุกขึ้น เขียนผูกไว้ที่แขนเพื่อย้ำเตือน และผูกไว้ที่หน้าผากเหมือนผ้าโพกหัว เขียนไว้ที่เสาประตูบ้านและที่ประตูเมืองของท่าน

10 เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน นำท่านเข้าสู่แผ่นดินที่พระองค์ได้สัญญาไว้กับอับราฮัม อิสอัคและยาโคบ บรรพบุรุษของท่าน ว่าจะให้กับท่าน เป็นแผ่นดินที่เต็มไปด้วยเมืองที่ร่ำรวยยิ่งใหญ่ ที่ท่านไม่ได้สร้าง 11 และบ้านเรือนที่เต็มไปด้วยของดีๆมากมาย ที่ท่านไม่ต้องหามาใส่ไว้ และบ่อน้ำที่ท่านไม่ต้องขุด ไร่องุ่นและไร่มะกอกที่ท่านไม่ต้องปลูก เมื่อท่านได้กินจนอิ่มหนำสำราญแล้ว 12 ระวังตัวให้ดี เพื่อท่านจะไม่ลืมพระยาห์เวห์ ผู้ที่นำท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์พ้นจากการเป็นทาสนั้น 13 ท่านต้องเกรงกลัวพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และรับใช้พระองค์ และสาบานโดยอ้างชื่อของพระองค์ว่า 14 พวกท่านจะไม่ไปติดตามพระอื่น ไม่ว่าจะเป็นพระองค์ไหนก็ตามที่เป็นของชนชาติที่อยู่รอบข้างเจ้า 15 เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านที่อยู่ท่ามกลางท่านเป็นพระเจ้าที่หึงหวง ดังนั้นให้ระวังตัวให้ดี เพื่อว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะไม่โกรธท่านและทำลายท่านไปจากโลกนี้

16 พวกท่านต้องไม่ลองดีกับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เหมือนกับที่พวกท่านเคยลองดีกับพระองค์มาแล้วที่มัสสาห์ 17 พวกท่านต้องเชื่อฟังคำสั่งของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน รวมทั้งคำสั่งและกฎของพระองค์ที่พระองค์ได้สั่งท่านไว้ 18 ท่านต้องทำในสิ่งที่พระยาห์เวห์เห็นว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องและดี เพื่อท่านจะได้เจริญรุ่งเรือง และได้เข้าไปเป็นเจ้าของแผ่นดินที่ดีที่พระยาห์เวห์ได้สัญญาไว้ว่าจะยกให้กับบรรพบุรุษของท่าน 19 โดยที่พระองค์จะขับไล่ศัตรูของท่านออกไปต่อหน้าท่าน ตามที่พระยาห์เวห์ได้สัญญาไว้

สอนสิ่งที่พระเจ้าได้ทำ

20 ในอนาคตเมื่อลูกของท่านถามท่านว่า ‘คำสั่ง กฎและข้อบังคับต่างๆที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเราสั่งพวกท่านไว้มีความหมายว่าอะไร’ 21 แล้วท่านจะได้ตอบกับลูกของท่านว่า ‘พวกเราเคยเป็นทาสของกษัตริย์ฟาโรห์ในประเทศอียิปต์มาก่อน แต่พระยาห์เวห์ได้นำพวกเราออกมาจากอียิปต์ด้วยมือที่เต็มไปด้วยฤทธิ์อำนาจของพระองค์ 22 เราได้เห็นพระยาห์เวห์ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่และน่าสะพรึงกลัวต่างๆ รวมทั้งสิ่งมหัศจรรย์กับประเทศอียิปต์ กับกษัตริย์ฟาโรห์และกับทุกคนที่อยู่ในบ้านของเขา 23 และพระยาห์เวห์ได้นำพวกเราออกจากที่นั่น เพื่อจะนำพวกเรามาถึงแผ่นดินที่พระองค์เคยสัญญาไว้กับบรรพบุรุษของพวกเรา และยกแผ่นดินนั้นให้กับเราด้วย 24 พระยาห์เวห์สั่งให้พวกเราเชื่อฟังกฎเหล่านี้ทั้งหมดและให้เกรงกลัวพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเรา เพราะมันจะดีสำหรับพวกเราเสมอ และจะทำให้เรามีชีวิตอยู่เหมือนกับที่เราเป็นอยู่เดี๋ยวนี้ 25 ถ้าพวกเราทำตามคำสั่งของพระองค์ที่ได้สั่งเราไว้อย่างระมัดระวัง พระยาห์เวห์พระเจ้าของเราก็จะพอใจเรา’

สดุดี 89

พระยาห์เวห์จะรักษาคำมั่นสัญญาที่ให้กับดาวิดหรือเปล่า

บทเพลงมัสคิลของเอธาน จากตระกูลเอศราค

ข้าพเจ้าจะร้องเพลงถึงความรักมั่นคงของพระยาห์เวห์อยู่เสมอ
    ข้าพเจ้าจะป่าวประกาศด้วยปากของข้าพเจ้าถึงความสัตย์ซื่อของพระองค์ให้กับคนรุ่นแล้วรุ่นเล่า
เพราะข้าพเจ้าว่า “ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
    ความสัตย์ซื่อของพระองค์จะอยู่นานตราบเท่าท้องฟ้า”
พระองค์พูดว่า “เราทำข้อตกลงกับผู้ที่เราเลือกไว้
    เราให้คำสัตย์สาบานไว้กับดาวิดผู้รับใช้ของเราว่า
เราจะตั้งราชวงศ์ของเจ้าตลอดไป
    เราจะสร้างบัลลังก์ของเจ้าให้คงอยู่ตลอดชั่วลูกชั่วหลาน” เซลาห์

ข้าแต่พระยาห์เวห์ ชาวสวรรค์จะสรรเสริญพระองค์สำหรับการอัศจรรย์ต่างๆที่พระองค์ทำ
    ที่ชุมนุมของทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์จะสรรเสริญความสัตย์ซื่อของพระองค์
มีใครบ้างในฟ้าสวรรค์ที่จะมาเท่าเทียมกับพระยาห์เวห์ได้
    มีใครท่ามกลางเทพเจ้าทั้งหลายที่จะมาเปรียบกับพระยาห์เวห์ได้
เมื่อทูตสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์มาชุมนุมกันที่สภา พวกเขาต่างยำเกรงพระยาห์เวห์
    พระองค์นั้นยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามกว่าทูตสวรรค์เหล่านั้นที่อยู่ล้อมรอบพระองค์
ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ไม่มีผู้ใดเหมือนกับพระองค์
    ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์มีฤทธิ์อำนาจและสัตย์ซื่อในทุกเรื่อง
พระองค์ปกครองทะเลที่ปั่นป่วน
    และเมื่อคลื่นโหมกระหน่ำพระองค์ปราบพวกมันให้สงบลง
10 พระองค์บดขยี้สัตว์ประหลาดในทะเลที่ชื่อ ราหับ[a]
    พระองค์ทำให้พวกศัตรูของพระองค์แตกกระเจิงด้วยแขนอันทรงพลังของพระองค์
11 ฟ้าสวรรค์เป็นของพระองค์ รวมทั้งทุกสิ่งในโลกเป็นของพระองค์
    พระองค์สร้างพวกมันขึ้นมาทั้งสิ้น
12 พระองค์สร้างทิศเหนือและทิศใต้
    ภูเขาทาโบร์ และภูเขาเฮอร์โมนเต้นและร้องสรรเสริญชื่อของพระองค์ด้วยความยินดี
13 พระองค์มีแขนอันทรงพลัง
    มือของพระองค์เต็มเปี่ยมไปด้วยฤทธิ์เดช มือขวาของพระองค์ชูขึ้นในชัยชนะ
14 อาณาจักรของพระองค์ตั้งอยู่บนความดีงามและความยุติธรรม
    ความจงรักภักดีและความเชื่อถือได้เดินแถวอยู่ตรงหน้าพระองค์
15 คนเหล่านั้นที่เรียนรู้ที่จะร้องสรรเสริญพระองค์ มีเกียรติจริงๆ
    ข้าแต่พระยาห์เวห์ พวกเขาดำเนินชีวิตในความสว่างที่ส่องออกมาจากใบหน้าของพระองค์
16 พวกเขาชื่นชมยินดีที่จะสรรเสริญชื่อของพระองค์ตลอดทั้งวัน
    พวกเขาได้รับชัยชนะเนื่องจากความยุติธรรมของพระองค์
17 เพราะพระองค์เป็นพละกำลังอันทรงเกียรติของพวกเขา
    และพวกเราได้รับชัยชนะ[b] เมื่อพระองค์พอใจพวกเรา
18 เพราะโล่กำบัง[c] ของพวกเรามาจากพระยาห์เวห์
    กษัตริย์ของพวกเรามาจากองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล[d]

19 ครั้งหนึ่ง พระองค์พูดในนิมิตกับพวกที่สัตย์ซื่อกับพระองค์ว่า “เราได้ให้ความช่วยเหลือกับนักรบคนหนึ่ง
    เรายกย่องคนหนุ่มคนหนึ่งจากคนธรรมดาทั่วไป
20 เราพบดาวิด ผู้รับใช้ของเรา
    และเราเจิมเขาด้วยน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ของเรา
21 มือของเราจะค้ำจุนเขาไว้
    แขนของเราจะทำให้เขาแข็งแรง
22 พวกศัตรูของเขาจะไม่ชนะเขาด้วยเล่ห์เพทุบาย
    ไม่มีทางที่คนชั่วจะสามารถชนะเขาได้
23 เราจะบดขยี้ศัตรูของเขาต่อหน้าเขา
    เราจะฟาดคนเหล่านั้นที่เกลียดชังเขาให้ล้มลง
24 ความสัตย์ซื่อและความรักมั่นคงของเราจะคงอยู่กับเขา
    และเขาจะได้รับชัยชนะจากฤทธิ์อำนาจของเรา
25 เราจะแผ่ขยายอำนาจของเขาให้อยู่เหนือทะเลและแม่น้ำ[e]
26 เขาจะพูดกับเราว่า ‘พระองค์คือพ่อของข้าพเจ้า
    พระเจ้าของข้าพเจ้าและหินกำบังที่ช่วยข้าพเจ้าให้รอด’
27 เราจะให้เขาเป็นลูกชายหัวปีของเรา
    เป็นผู้สูงสุดเหนือกษัตริย์ทั้งปวงบนโลกนี้
28 ความรักมั่นคงของเราจะอยู่กับเขาตลอดไป
    ข้อตกลงระหว่างเรากับเขาจะมั่นคง
29 เราจะตั้งราชวงศ์ของเขาไว้ตลอดไป
    อาณาจักรของเขาจะคงอยู่ต่อไปนานตราบเท่ากับฟ้าสวรรค์
30 ถึงแม้ลูกหลานของเขาจะละทิ้งกฎของเรา
    และไม่เชื่อฟังกฎระเบียบของเรา
31 ถึงแม้พวกเขาจะละเมิดกฎเกณฑ์ต่างๆของเรา
    และไม่รักษาคำสั่งต่างๆของเรา
32 แล้วเราจะลงโทษพวกเขาสำหรับความผิดต่างๆของเขา
    และหวดเขาสำหรับความผิดบาปของเขา
33 แต่เราก็จะไม่มีวันเอาความรักมั่นคงของเราไปจากดาวิด
    เราจะไม่มีวันหักหลังหรือไม่สัตย์ซื่อต่อเขา
34 เราจะไม่มีวันละเมิดคำมั่นสัญญาที่เราทำกับเขา
    เราจะไม่มีวันกลับคำพูดในสิ่งที่เราสัญญากับเขา
35 เราได้สาบานครั้งเดียวตลอดไปโดยอ้างความศักดิ์สิทธิ์ของเราเป็นประกัน
    และเราจะไม่โกหกดาวิด
36 ราชวงศ์ของเขาจะคงอยู่ตลอดไป
    บัลลังก์ของเขาจะคงอยู่ต่อหน้าเราตลอดไปเหมือนดวงอาทิตย์
37 มันจะคงอยู่ตลอดไปเหมือนดวงจันทร์
    มันจะมั่นคงเหมือนท้องฟ้า” เซลาห์

38 แต่พระเจ้า พระองค์ได้ละทิ้งกษัตริย์และจากไป
    พระองค์โกรธผู้ที่พระองค์ได้เจิมไว้
39 พระองค์ยกเลิกข้อตกลงที่ทำไว้กับผู้รับใช้ของพระองค์
    พระองค์ลบหลู่มงกุฎของเขาด้วยการโยนทิ้งลงดิน
40 พระองค์พังกำแพงรอบเมืองของเขาจนหมดสิ้น
    พระองค์ทำให้พวกป้อมปราการของเขากลายเป็นซากปรักหักพัง
41 คนที่เดินผ่านไปมาก็ได้ปล้นเขา
    ชนชาติทั้งหลายที่อยู่ล้อมรอบต่างพากันพูดเหยียดหยามเขา
42 พระองค์ทำให้พวกศัตรูของเขาชูมือ-ขวาขึ้นในชัยชนะ
    และทำให้ศัตรูทั้งหลายของเขาเฉลิมฉลองกัน
43 พระองค์หันคมดาบของเขาไปจากศัตรูของเขา
    และไม่ยอมช่วยเขาสู้รบ
44 พระองค์ทำให้สง่าราศีของเขาจบสิ้นลง
    และขว้างบัลลังก์ของเขาจากที่ของมันลงบนดิน
45 พระองค์ทำให้เขาแก่ก่อนวัย
    และห่อเขาไว้ในความละอาย เซลาห์

46 ข้าแต่พระยาห์เวห์ มันจะเป็นอย่างนี้ไปอีกนานแค่ไหน พระองค์จะซ่อนตัวพระองค์ตลอดไปหรือ
    ความโกรธของพระองค์จะเผาผลาญไปอีกนานแค่ไหน
47 อย่าลืมว่า ชีวิตข้าพเจ้านั้นสั้นเหลือเกิน
    พระองค์สร้างมนุษย์ทุกคนให้มาพบกับจุดจบที่ว่างเปล่า
48 จะมีใครมีชีวิตอยู่โดยไม่ต้องตาย
    ใครจะเอาตัวรอดจากอำนาจของความตาย เซลาห์

49 ข้าแต่องค์เจ้าชีวิต ความรักมั่นคงของพระองค์ที่พระองค์แสดงในอดีตหายไปไหน
    เป็นความรักที่พระองค์เคยสาบานไว้กับดาวิดด้วยความสัตย์ซื่อ
50 ข้าแต่องค์เจ้าชีวิต โปรดระลึกถึงความอับอายที่พวกผู้รับใช้ของพระองค์ต้องทน
    คำเยาะเย้ยจากชนชาติทั้งหลายที่ข้าพเจ้าต้องแบกรับไว้เต็มอก
51 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ศัตรูของพระองค์เยาะเย้ย
    พวกเขาเยาะเย้ยกษัตริย์ที่พระองค์ได้เจิมไว้

52 สรรเสริญพระยาห์เวห์ ตลอดไป
    เอเมน[f] และเอเมน

อิสยาห์ 34

พระเจ้าจะลงโทษศัตรูของพระองค์

34 ชนชาติทั้งหลาย เข้ามาฟังใกล้ๆ
    ผู้คนทั้งหลาย ตั้งใจฟังให้ดี
ให้โลกนี้และทุกอย่างในโลกนี้ได้ยิน
    ให้แผ่นดินโลกและทุกอย่างที่เกิดบนมันได้ยินเถิด
เพราะพระยาห์เวห์โกรธชนชาติทั้งหมด
    พระองค์เดือดดาลต่อกองทัพทั้งหมดของพวกเขา
พระองค์กำหนดให้พวกมันถูกทำลายจนหมดสิ้น
    พระองค์ได้มอบพวกมันให้ไปโดนฆ่า
คนของพวกนั้นที่ถูกฆ่าก็จะถูกโยนทิ้ง
    ซากศพนั้นก็จะส่งกลิ่นเหม็นฟุ้งไปหมด
    เลือดของพวกเขาจะไหลนองทั่วภูเขา
พวกดวงดาวทั้งสิ้นจะสลายหายไป
    ท้องฟ้าก็จะม้วนไปเหมือนหนังสือม้วน
พวกดวงดาวนั้นก็จะร่วงหล่นไปเหมือนกับใบไม้แห้งที่ร่วงหล่นจากเถาองุ่น
    หรือเหมือนลูกมะเดื่อเหี่ยวที่ร่วงหล่นจากต้นมะเดื่อ
เมื่อดาบของเราได้สำเร็จภารกิจในฟ้าสวรรค์แล้ว
    มันก็จะฟาดลงมาที่เอโดม[a]
    ลงมาบนผู้คนที่เราได้กำหนดให้ถูกทำลายและถูกลงโทษ
พระยาห์เวห์มีดาบเล่มหนึ่ง
    มันอาบไปด้วยเลือดและไขมัน
    มันเป็นเลือดของพวกลูกแกะและแพะ
    และไขมันจากไตของพวกแกะตัวผู้
เพราะพระยาห์เวห์กำลังฆ่าเครื่องบูชานี้ที่โบสราห์[b]
    มีการฆ่าครั้งยิ่งใหญ่เกิดขึ้นในแผ่นดินเอโดม
วัวป่า[c] จะล้มไปด้วย
    และลูกวัวผู้จะล้มไปกับวัวผู้อันแข็งแรง
แผ่นดินของพวกเขาจะโชกไปด้วยเลือด
    และพื้นดินของเขาก็จะอาบไปด้วยไขมันสัตว์
เพราะพระยาห์เวห์ได้เลือกวันแห่งการลงโทษ
    และปีสำหรับการแก้แค้นให้กับคดีของศิโยน
ลำธารต่างๆของเอโดมจะกลายเป็นยางมะตอย
    และดินของมันก็จะกลายเป็นกำมะถัน
    แผ่นดินของมันจะกลายเป็นเหมือนยางมะตอยที่ลุกไหม้อยู่
10 ไฟของมันจะเผาทั้งวันทั้งคืนไม่มีวันดับ
    ควันก็จะลอยขึ้นมาอยู่ตลอดไป
เอโดมจะกลายเป็นที่ร้างว่างเปล่าตลอดชั่วลูกชั่วหลาน
    และจะไม่มีใครเดินทางผ่านมันอีกตลอดไป
11 แต่พวกเหยี่ยวและพวกเม่นจะมาเป็นเจ้าของ
    พวกนกฮูกและพวกอีกาก็จะมาอยู่กันที่นั่น
พระเจ้าก็จะสำรวจรังวัดแผ่นดินเอโดม
    และทำให้มันว่างเปล่าและมีสภาพยุ่งเหยิงเหมือนกับตอนที่ยังไม่ได้สร้างโลกนี้
12 จะไม่มีอะไรหลงเหลือให้เรียกว่าเป็นอาณาจักรอีกเลย
    พวกเจ้านายของมันก็จะกลายเป็นสิ่งไร้ค่า
13 พวกพงหนามก็จะขึ้นตามป้อมปราการของมัน
    พวกต้นตำแยและพวกต้นไมยราบก็จะขึ้นในเมืองที่มีกำแพง
มันจะกลายเป็นบริเวณที่หมาป่าอยู่กัน
    เป็นที่อยู่ของนกฮูก
14 พวกแมวป่าก็จะมาเจอกับพวกหมาป่า
    พวกแพะป่าก็ส่งเสียงเรียกกัน
พวกสัตว์กลางคืน[d] ก็จะมาอยู่กันที่นั่นด้วย
    เพื่อหาที่พักผ่อน
15 พวกนกฮูก[e] ก็จะมาทำรังและวางไข่และกกไข่ไว้และรวบรวมลูกๆไว้ใต้ปีกของพวกมัน
    อีแร้งก็จะมารวมกันที่นั่น อยู่คู่ใครคู่มัน
16 ให้ค้นหาในหนังสือม้วนของพระยาห์เวห์และอ่านดู
    จะไม่มีสัตว์สักตัวที่ขาดไป
    จะไม่มีสักตัวเลยที่ขาดคู่ของมัน
เพราะพระยาห์เวห์ได้พูดไว้ว่าอย่างนั้น
    และพระวิญญาณของพระองค์ได้รวบรวมพวกมันไว้
17 พระองค์ได้จัดสรรที่ดินให้กับพวกมัน
    และมือของพระองค์ได้ใช้สายวัดแบ่งแผ่นดินให้กับพวกมัน
พวกมันจะเป็นเจ้าของแผ่นดินนั้นตลอดไป
    พวกมันจะอยู่ที่นั่นรุ่นแล้วรุ่นเล่า

วิวรณ์ 4

ยอห์นเห็นสวรรค์

หลังจากนั้นผมเห็นประตูสวรรค์เปิดอ้าอยู่ตรงหน้า และผมได้ยินเสียงที่พูดกับผมครั้งแรก ที่ดังคล้ายกับเสียงแตรพูดว่า “ขึ้นมาบนนี้เถิด แล้วเราจะแสดงให้เจ้าเห็นเหตุการณ์ที่จะต้องเกิดขึ้นต่อจากนี้ไป” ทันใดนั้นพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ครอบงำผมไว้ แล้วคุณเชื่อไหม สิ่งที่ผมเห็นตรงหน้านั้น คือบัลลังก์ซึ่งตั้งอยู่ในสวรรค์และมีผู้หนึ่งนั่งอยู่บนนั้นด้วย ผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์นั้นมีรูปร่างที่ส่องประกายเหมือนแก้วเจียระไนที่มีค่าทั้งสีเขียวและสีแดง และรอบบัลลังก์นั้นมีรุ้งสีสว่างสดใสเหมือนแก้วมรกตล้อมอยู่ นอกจากนี้ยังมีบัลลังก์อีกยี่สิบสี่บัลลังก์ล้อมรอบบัลลังก์นั้น และมีผู้อาวุโสยี่สิบสี่องค์[a] นั่งอยู่บนแต่ละบัลลังก์ พวกเขาแต่งชุดสีขาวและสวมมงกุฎทองคำ มีฟ้าแลบและฟ้าร้องดังออกมาจากบัลลังก์ และมีคบเพลิงเจ็ดอันลุกโชติช่วงอยู่หน้าบัลลังก์ ซึ่งคือพระวิญญาณทั้งเจ็ดของพระเจ้า ตรงหน้าบัลลังก์นั้น มองดูแล้วเหมือนทะเลแก้วที่ใสดั่งแก้วเจียระไน

ส่วนตรงกลางบริเวณรอบบัลลังก์ มีสิ่งมีชีวิตสี่ตน ซึ่งมีดวงตาอยู่รอบตัวเต็มไปหมด ทั้งข้างหน้าและข้างหลัง สิ่งมีชีวิตตนแรกเหมือนสิงโต ตนที่สองเหมือนวัวตัวผู้ ตนที่สามมีหน้าตาเหมือนมนุษย์ และตนที่สี่เหมือนนกอินทรีที่กำลังโผบิน[b] สิ่งมีชีวิตทั้งสี่ตนนี้ แต่ละตนมีปีกหกปีกและมีดวงตารอบตัวและใต้ปีกด้วย ตลอดทั้งวันทั้งคืน พวกเขาไม่เคยหยุดพูดว่า

“ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ คือพระเจ้าองค์เจ้าชีวิตผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
    เป็นผู้ที่อยู่ในปัจจุบัน ในอดีต และกำลังจะมาในอนาคต”

เมื่อสิ่งมีชีวิตทั้งสี่กล่าวคำสรรเสริญถวายพระเกียรติ และขอบคุณพระองค์ผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ ผู้ซึ่งจะมีชีวิตอยู่ตลอดไป 10 ผู้อาวุโสทั้งยี่สิบสี่องค์ ก็ก้มลงกราบนมัสการพระองค์ผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ และผู้มีชีวิตอยู่ตลอดไป พวกเขาถอดมงกุฎของตัวเองวางลงตรงหน้าบัลลังก์ของพระองค์ แล้วพูดว่า

11 “พระเจ้าองค์เจ้าชีวิตของพวกเราทั้งหลาย
    พระองค์สมควรที่จะได้รับคำสรรเสริญ ได้รับเกียรติและฤทธิ์อำนาจ
เพราะพระองค์เป็นผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่าง
    และทุกสิ่งทุกอย่างได้ถูกสร้างขึ้น และมีขึ้นมาตามใจพระองค์”

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International