Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
เฉลยธรรมบัญญัติ 33-34

โมเสสอวยพรประชาชน

33 นี่คือคำอวยพรที่โมเสสคนของพระเจ้าให้กับชาวอิสราเอลก่อนที่เขาจะตาย โมเสสพูดว่า

“พระยาห์เวห์มาจากซีนาย
    เหมือนแสงอาทิตย์ที่ส่องจากเสอีร์มายังเรา
    เหมือนแสงอาทิตย์ที่ส่องจากภูเขาของปาราน
และมีทูตสวรรค์อีกหนึ่งหมื่นองค์มากับพระองค์
    ทหารของพระองค์อยู่ข้างขวาของพระองค์
แน่นอน พระยาห์เวห์รักประชาชนชาวอิสราเอล
    คนที่ถูกแยกออกมาทั้งหมดอยู่ในมือของพระองค์
พวกเขานั่นเองที่ก้มกราบอยู่ที่เท้าของพระองค์
    และให้ความสนใจในคำสั่งสอนของพระองค์
โมเสสได้ให้คำสอนกับพวกเรา
    เป็นสมบัติของที่ชุมนุมของยาโคบ
แล้วพระยาห์เวห์ก็กลายเป็นกษัตริย์ในเยชุรูน[a]
    เมื่อบรรดาผู้นำของประชาชนมารวมกัน
    เมื่อคนเผ่าต่างๆของอิสราเอลมารวมตัวกัน”

คำอวยพรสำหรับรูเบน

“ให้รูเบนมีชีวิตอยู่และไม่ตาย
    แต่ให้เผ่าของเขามีคนน้อย”

คำอวยพรสำหรับยูดาห์

โมเสสพูดถึงเผ่าของยูดาห์ว่า

“พระยาห์เวห์ ขอช่วยฟังเสียงร้องของผู้นำเผ่ายูดาห์
    ขอช่วยนำเขากลับมาหาคนของเขาอย่างปลอดภัย
เขาต่อสู้ป้องกันตัวเองด้วยมือของเขา[b]
    ขอให้พระองค์ช่วยให้เขาเอาชนะศัตรูของเขา”

คำอวยพรสำหรับชาวเลวี

โมเสสพูดถึงเผ่าเลวีว่า

“เลวีเป็นผู้ติดตามที่แท้จริงของพระองค์
    เขาเก็บรักษาทูมมิมกับอูริม
ที่แถวมัสสาห์ พระองค์ได้ทดสอบเขา
    ที่แหล่งน้ำเมรีบาห์[c] พระองค์ได้พิสูจน์แล้วว่าพวกเขาเป็นของพระองค์
พวกเขาถือว่าการเชื่อฟังคำสั่งสอนของพระองค์
    และการรักษาข้อตกลงของพระองค์นั้นสำคัญยิ่งกว่าครอบครัว
พวกเขาพูดถึงพ่อแม่ว่า เขาไม่รู้จัก
    พวกเขาไม่รู้จักพี่น้อง
    พวกเขาไม่สนใจลูกๆ
10 พวกเขาจะสอนกฎของพระองค์ให้ยาโคบ
    พวกเขาจะสอนคำสอนของพระองค์ให้อิสราเอล
พวกเขาจะเผาเครื่องหอมต่อหน้าพระองค์
    พวกเขาจะถวายเครื่องเผาบูชาบนแท่นบูชาของพระองค์

11 พระยาห์เวห์ ขออวยพรให้เขาร่ำรวย
    ขอให้ยอมรับงานที่เขาทำ
ขอพระองค์โจมตีศัตรูที่เกลียดเขา
    เพื่อคนพวกนั้นจะได้ไม่ลุกขึ้นมาต่อสู้กับเขาอีก”

คำอวยพรสำหรับเบนยามิน

12 โมเสสพูดถึงเผ่าของเบนยามินว่า

“พระยาห์เวห์รักเบนยามิน
    เบนยามินจะมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยใกล้พระองค์[d]
พระยาห์เวห์จะปกป้องเขาตลอดเวลา
    และพระยาห์เวห์จะอาศัยอยู่ระหว่างเส้นเขตแดนของเขา[e]

คำอวยพรสำหรับโยเซฟ

13 โมเสสพูดถึงประชาชนของโยเซฟว่า

“ขอพระยาห์เวห์อวยพรแผ่นดินของโยเซฟ
    ด้วยของขวัญที่ดีที่สุดบนฟ้าข้างบน
    และของน้ำใต้พื้นดิน
14 และของขวัญที่ดีที่สุดจากผลผลิตของดวงอาทิตย์
    และของขวัญที่ดีที่สุดจากผลผลิตของดวงจันทร์
15 และที่ดีที่สุดของภูเขาที่เก่าแก่
    และของขวัญที่ดีที่สุดของเทือกเขาที่ไม่มีวันจบสิ้น
16 และของขวัญที่ดีที่สุดของแผ่นดินและความอุดมสมบูรณ์ทั้งสิ้นของมัน
    และความชื่นชอบของพระองค์ผู้ที่ปรากฏอยู่ในพุ่มไม้ที่ลุกเป็นไฟ
ขอให้คำอวยพรไปถึงหัวของโยเซฟ
    บนหน้าผากของหัวหน้าในหมู่พี่น้องของเขา
17 โยเซฟเปรียบเหมือนวัวตัวผู้ที่แข็งแรง
    ลูกทั้งสองของเขาเปรียบเหมือนเขาทั้งสองข้าง
ด้วยเขาทั้งสองข้างของมัน เขาโจมตีคนชาติอื่น
    และดันพวกนั้นไปจนสุดขอบโลก
ใช่แล้ว มนัสเสห์ มีคนเป็นพันๆ
    และเอฟราอิม มีคนเป็นหมื่นๆ”

คำอวยพรสำหรับเศบูลุนและอิสสาคาร์

18 โมเสสพูดถึงเผ่าของเศบูลุนว่า

“เศบูลุน มีความสุขเถิด ในการเดินทางของท่าน
    และอิสสาคาร์ มีความสุขในเต็นท์ของท่านเถิด
19 พวกเขาจะเรียกประชาชนไปบนภูเขา
    พวกเขาจะถวายเครื่องสัตวบูชาที่ถูกต้อง
เพราะพวกเขาจะดูดความมั่งคั่งจากทะเล
    และสมบัติที่ซ่อนอยู่จากพื้นทราย”

คำอวยพรสำหรับกาด

20 โมเสสพูดถึงเผ่าของกาดว่า

สรรเสริญพระองค์ผู้ที่ขยายแผ่นดินของกาด
    กาดหมอบลงเหมือนสิงโตและเฝ้าคอย
    แล้วจู่โจม ฉีกแขนและถลกหนังหัว
21 เขาได้เลือกส่วนที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง
    เพราะส่วนของผู้บังคับการได้เก็บไว้เพื่อเขา
และเขามาในฐานะผู้นำของประชาชน
    เขาได้ทำในสิ่งที่พระยาห์เวห์เห็นว่าถูกต้องแล้ว
    และเชื่อฟังกฎของพระยาห์เวห์ที่มีไว้สำหรับชาวอิสราเอล

คำอวยพรสำหรับดาน

22 โมเสสได้พูดเกี่ยวกับเผ่าของดานว่า

“ดานเป็นเหมือนลูกสิงโต
    ที่กระโดดออกจากบาชาน”[f]

คำอวยพรสำหรับนัฟทาลี

23 โมเสสพูดถึงเผ่าของนัฟทาลีว่า

“นัฟทาลีเอ๋ย ท่านอุดมไปด้วยสิ่งดีๆอย่างล้นเหลือ
    พระยาห์เวห์อวยพรท่านอย่างเต็มที่
    ท่านได้แผ่นดินที่ติดกับทะเลสาบกาลิลี”

คำอวยพรสำหรับอาเชอร์

24 โมเสสพูดถึงเผ่าของอาเชอร์ว่า

“อาเชอร์เป็นลูกชายที่ได้รับการอวยพรมากที่สุด
    ขอให้เขาเป็นที่ชื่นชอบที่สุดในบรรดาพี่น้องของเขา
    และขอให้เขาจุ่มเท้าของเขาลงในน้ำมันมะกอก
25 ขอให้กลอนประตูท่านทำด้วยเหล็กและทองสัมฤทธิ์
    และขอให้ท่านแข็งแรงตราบเท่าที่มีชีวิตอยู่”

โมเสสชื่นชมพระเจ้า

26 “เยชุรูนเอ๋ย ไม่มีใครเหมือนพระเจ้า
    ผู้ที่ลอยผ่านฟ้ามาช่วยท่าน
    และลอยผ่านเมฆมาด้วยความสง่างามของพระองค์
27 พระเจ้าผู้อยู่ชั่วนิรันดร์
    เป็นที่ที่ปลอดภัย
แขนทั้งสองข้างของพระองค์ ผู้ที่อยู่ตลอดกาล
    จะอุ้มท่านไว้
พระองค์ขับไล่ศัตรูที่อยู่ต่อหน้าท่าน
    และพูดว่า ‘ทำลายมัน’
28 ดังนั้น อิสราเอลจะอยู่อย่างปลอดภัย
    ยาโคบจะมีชีวิตอย่างสงบ
ในดินแดนแห่งข้าวและเหล้าองุ่น
    เป็นดินแดนที่มีฝนโปรยปรายจากท้องฟ้า
29 อิสราเอล ท่านจะได้รับการอวยพร
    ใครจะเป็นเหมือนท่าน
ประชาชนผู้ได้รับการช่วยเหลือจากพระเจ้า
    พระยาห์เวห์คือโล่ที่ปกป้องท่าน
    และดาบที่จะให้ชัยชนะแก่ท่าน
ศัตรูของท่านจะหมอบต่อหน้าท่านด้วยความกลัว
    และท่านจะเหยียบบนหลังพวกเขา”

โมเสสตาย

34 โมเสสปีนขึ้นไปบนเขาเนโบ จากที่ราบโมอับไปถึงยอดเขาปิสกาห์ซึ่งอยู่ตรงข้ามเยริโค พระยาห์เวห์แสดงแผ่นดินทั้งหมดให้โมเสสเห็น ตั้งแต่กิเลอาดไปจนถึงดาน พระองค์แสดงให้เขาเห็นทั้งหมดของนัฟทาลีและแผ่นดินของเอฟราอิม มนัสเสห์และทั้งหมดของยูดาห์ไปจนถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน พระองค์ยังแสดงให้เขาเห็นเนเกบและที่ราบที่อยู่ในหุบเขาของเยริโค เมืองของต้นปาล์มไปถึงโศอาร์ แล้วพระยาห์เวห์ก็พูดกับโมเสสว่า “นี่คือแผ่นดินที่เราสัญญาไว้กับอับราฮัม อิสอัคและยาโคบ เราบอกว่า ‘เราจะให้แผ่นดินนี้กับลูกหลานของเจ้า’ เราได้ให้เจ้าเห็นมันกับตาตัวเองแล้ว แต่เจ้าจะไม่ได้ข้ามไปที่นั่น”

แล้วโมเสส ผู้รับใช้พระยาห์เวห์ก็ตายอยู่ที่นั่นในแผ่นดินของโมอับตามที่พระยาห์เวห์ได้พูดไว้ พระยาห์เวห์ฝังโมเสสไว้ในหุบเขาในแผ่นดินของโมอับใกล้เบธเปโอร์ แต่จนกระทั่งทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้เลยว่าหลุมฝังศพของโมเสสอยู่ที่ไหนกันแน่ ตอนที่โมเสสตาย เขามีอายุหนึ่งร้อยยี่สิบปี ตาของเขายังไม่อ่อนล้าและตัวเขาก็ยังไม่เหี่ยวย่น ชาวอิสราเอลร้องไห้ให้โมเสสเป็นเวลาสามสิบวันในที่ราบโมอับ จนกระทั่งเวลาแห่งการไว้ทุกข์สิ้นสุดลง

โยชูวาเป็นผู้นำคนใหม่

แล้วโยชูวาลูกชายของนูนก็เต็มไปด้วยวิญญาณของความเฉลียวฉลาด เพราะโมเสสได้วางมือลงบนโยชูวาและแต่งตั้งเขาเป็นผู้นำคนใหม่แล้ว ดังนั้นชาวอิสราเอลจึงเชื่อฟังเขา และทำตามที่พระยาห์เวห์ได้สั่งโมเสสไว้

10 แต่ยังไม่เคยมีผู้พูดแทนพระเจ้าคนไหนในอิสราเอลที่เหมือนโมเสสเลย เพราะพระยาห์เวห์รู้จักโมเสสแบบตัวต่อตัว 11 ไม่มีใครเหมือนโมเสส เพราะพระยาห์เวห์ส่งเขาไปทำเหตุการณ์พิเศษต่างๆและสิ่งมหัศจรรย์ต่อฟาโรห์ในแผ่นดินอียิปต์ และต่อคนของฟาโรห์และประเทศนั้นทั้งประเทศ 12 และไม่มีใครเคยมีฤทธิ์อำนาจที่จะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่น่าเกรงขามพวกนี้ เหมือนกับที่โมเสสได้ทำให้กับทุกคนเห็น

สดุดี 119:145-176

โคฟ

145 ข้าพเจ้าร้องออกมาอย่างสุดใจว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดตอบข้าพเจ้าด้วย
    ข้าพเจ้าจะเชื่อฟังกฎระเบียบต่างๆของพระองค์”
146 ข้าพเจ้าร้องออกมาต่อพระองค์ว่า “โปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดด้วย
    เพื่อข้าพเจ้าจะได้เชื่อฟังกฎต่างๆของพระองค์”
147 ข้าพเจ้าตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์
    ข้าพเจ้าฝากความหวังไว้กับคำสัญญาของพระองค์
148 ถึงแม้จะดึกดื่น ข้าพเจ้าก็ยังตื่นอยู่
    เพื่อจะใคร่ครวญถึงคำสัญญาของพระองค์
149 โปรดฟังเสียงข้าพเจ้า เพราะพระองค์มีความรักมั่นคง
    ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไป เพราะพระองค์ยุติธรรม
150 คนเหล่านั้นที่ไล่ตามความชั่วได้เข้ามาใกล้แล้ว
    พวกเขาอยู่ห่างไกลจากคำสั่งสอนของพระองค์
151 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์นั้นอยู่ใกล้
    และบัญญัติทุกข้อของพระองค์นั้นเป็นความจริงและเชื่อถือได้
152 นานมาแล้ว ข้าพเจ้าได้เรียนรู้กฎต่างๆของพระองค์
    เป็นกฎที่พระองค์ตั้งไว้ให้อยู่ตลอดไป

เรช

153 โปรดมองดูความทุกข์ของข้าพเจ้าและช่วยชีวิตข้าพเจ้าด้วยเถิด
    เพราะข้าพเจ้าไม่ได้ลืมคำสั่งสอนของพระองค์
154 โปรดสู้คดีให้กับข้าพเจ้าและไถ่ชีวิตข้าพเจ้าด้วยเถิด
    โปรดช่วยให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไปตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้
155 ความรอดอยู่ห่างไกลจากคนชั่วช้า
    เพราะพวกเขาไม่อยากเชื่อฟังกฎระเบียบของพระองค์
156 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ความเมตตากรุณาของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่
    ขอโปรดช่วยชีวิตของข้าพเจ้าด้วยเถิด เพราะพระองค์นั้นยุติธรรม
157 ข้าพเจ้ามีศัตรูมากมายที่ไล่ล่าข้าพเจ้าอยู่
    แต่ข้าพเจ้าไม่ได้หันเหไปจากกฎทั้งหลายของพระองค์
158 เมื่อข้าพเจ้ามองดูคนทรยศเหล่านั้นข้าพเจ้ารู้สึกสะอิดสะเอียน
    เพราะพวกเขาไม่เชื่อฟังคำพูดของพระองค์
159 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ดูเอาเถิดว่าข้าพเจ้ารักคำสั่งทั้งหลายของพระองค์ขนาดไหน
    ดังนั้น ช่วยชีวิตข้าพเจ้าด้วยเถิด เพราะพระองค์มีความรักมั่นคง
160 คำบัญชาทั้งหมดของพระองค์นั้นเชื่อถือได้
    กฎเกณฑ์อันยุติธรรมทุกข้อของพระองค์จะคงอยู่ตลอดไป

ฉิน

161 เหล่าผู้นำที่มีอำนาจโจมตีข้าพเจ้าทั้งๆที่ข้าพเจ้าไม่ได้ทำอะไรผิดต่อพวกเขา
    แต่ข้าพเจ้ากลัวอย่างเดียวคือกลัวทำผิดต่อคำบัญชาของพระองค์
162 ข้าพเจ้ามีความสุขกับคำสัญญาของพระองค์
    เหมือนทหารที่พบกับสิ่งที่จะยึดได้จำนวนมากมาย
163 ข้าพเจ้าเกลียดชังและขยะแขยงการหลอกลวง
    แต่ข้าพเจ้ารักคำสั่งสอนของพระองค์
164 ข้าพเจ้าสรรเสริญพระองค์วันละเจ็ดครั้ง
    สำหรับพวกกฎเกณฑ์อันยุติธรรมของพระองค์
165 คนเหล่านั้นที่รักคำสั่งสอนของพระองค์จะมีชีวิตที่เป็นสุขปลอดภัย
    และไม่มีสิ่งใดจะทำให้เขาสะดุดล้มได้
166 ข้าแต่พระยาห์เวห์ข้าพเจ้าเฝ้ารอคอยความรอดจากพระองค์
    ข้าพเจ้าทำตามบัญญัติทั้งหลายของพระองค์
167 ข้าพเจ้ารักษากฎต่างๆของพระองค์
    เพราะข้าพเจ้ารักมันมาก
168 ข้าพเจ้ารักษาคำสั่งทั้งหลายและกฎทั้งหลายของพระองค์
    เพราะพระองค์เห็นการกระทำทั้งสิ้นของข้าพเจ้า

ทาฟ

169 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอพระองค์โปรดฟังเสียงร้องให้ช่วยของข้าพเจ้า
    โปรดให้ความเข้าใจกับข้าพเจ้าตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้
170 ขอให้คำอธิษฐานของข้าพเจ้ามาอยู่ต่อหน้าพระองค์
    ช่วยกู้ข้าพเจ้าตามที่พระองค์สัญญาด้วยเถิด
171 ขอให้ริมฝีปากของข้าพเจ้าเทคำสรรเสริญออกมา
    เพราะพระองค์สอนกฎระเบียบทั้งหลายของพระองค์ให้กับข้าพเจ้า
172 ขอให้ลิ้นข้าพเจ้าร้องเพลงถึงคำพูดของพระองค์
    เพราะบัญญัติทั้งสิ้นของพระองค์นั้นเที่ยงตรง
173 ขอให้มือของพระองค์ช่วยเหลือข้าพเจ้า
    เพราะข้าพเจ้าเลือกที่จะเชื่อฟังคำสั่งต่างๆของพระองค์
174 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าอยากให้พระองค์ช่วยกู้ข้าพเจ้าเหลือเกิน
    เพราะข้าพเจ้ามีความสุขในคำสั่งสอนของพระองค์
175 ขอให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อจะได้สรรเสริญพระองค์
    ขอให้กฎเกณฑ์ต่างๆของพระองค์ช่วยข้าพเจ้า
176 ข้าพเจ้าเสี่ยงอันตรายมากเหมือนแกะที่หลงทาง โปรดตามหาข้าพเจ้าผู้รับใช้ของพระองค์ด้วยเถิด
    เพราะข้าพเจ้าไม่ได้ลืมบัญญัติต่างๆของพระองค์

อิสยาห์ 60

เพลงเรื่องสง่าราศีที่เมืองเยรูซาเล็มกำลังจะได้รับ

60 ลุกขึ้น ส่องสว่างซะ เพราะแสงสว่างของเจ้ามาถึงแล้ว
    รัศมีของพระยาห์เวห์ขึ้นมาส่องลงบนเจ้า
ความมืดปกคลุมแผ่นดิน
    ความมืดมิดปกคลุมชนชาติต่างๆอยู่
แต่พระยาห์เวห์ได้ส่องสว่างอยู่บนเจ้า
    และรัศมีของพระองค์จะปรากฏอยู่เหนือเจ้า
ชนชาติต่างๆจะมาหาแสงสว่างของเจ้า
    และกษัตริย์ต่างๆจะมาถึงแสงรุ่งอรุณอันเจิดจ้าของเจ้า
เงยหน้าเงยตาขึ้น มองไปรอบๆ
    พวกเขาทุกคนกำลังรวบรวมกันเข้ามาหาเจ้า
พวกลูกชายของเจ้ากำลังมาจากแดนไกล
    พวกพี่เลี้ยงกำลังหนีบพวกลูกสาวของเจ้ามาบนเอว
เจ้าจะเห็นสิ่งเหล่านี้และเจ้าจะส่องประกายแห่งความสุขออกมา
    ใจของเจ้าจะตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความสุข
เพราะความร่ำรวยของชนชาติต่างๆที่อยู่อีกฟากหนึ่งของทะเลจะมาถึงเจ้า
    ใช่แล้ว ทรัพย์สมบัติของชนชาติต่างๆจะถูกยกให้กับเจ้า
พวกฝูงอูฐทั้งหลายจะปกคลุมแผ่นดินของเจ้า
    คืออูฐหนุ่มสาวจากมีเดียนและเอฟาห์
    ทุกคนจากเชบาจะมาหาเจ้า
พวกเขาจะนำทองและกำยานมาให้
    แล้วเล่าเรื่องการกระทำอันน่าสรรเสริญของพระยาห์เวห์
ฝูงแพะแกะทั้งหมดจากเคดาร์จะถูกรวบรวมมาหาเจ้า
    รวมทั้งพวกแกะตัวผู้จากเนบาโยธด้วย
พวกมันจะเป็นเครื่องสัตวบูชาที่เราจะยอมรับบนแท่นของเจ้า
และเราจะทำให้พระวิหารของเราสง่างามยิ่งขึ้นไปอีก
พวกนี้เป็นใครกันนะ ที่บินมาหาเจ้าอย่างกับเมฆ
    บินมาเหมือนฝูงนกเขา ที่กำลังบินกลับรังของมัน
เรือทั้งหลายจากชายฝั่งทะเลอันไกลโพ้นกำลังรวบรวมกัน
    พวกเรือจากทารชิช จะมาเป็นกลุ่มแรก
เพื่อนำพวกลูกๆของพวกเจ้าจากแดนไกล
    พร้อมกับเงินทองของพวกเขาด้วย
เพื่อเป็นเกียรติให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
    เพื่อให้กับองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอล
    เพราะพระองค์ได้ให้เกียรติกับพวกเจ้า
10 พวกคนต่างชาติจะมาสร้างกำแพงต่างๆของเจ้าขึ้นมา
    และพวกกษัตริย์ของพวกเขาจะมาเป็นทาสเจ้า
ตอนที่เราโกรธเจ้านั้น เราได้ลงโทษเจ้า
    แต่ตอนนี้เราจะมีน้ำใจต่อเจ้าและเมตตาต่อเจ้า
11 พวกประตูเมืองของเจ้า จะเปิดต้อนรับเสมอ จะไม่ปิดทั้งวันทั้งคืน
    เพื่อความร่ำรวยของชนชาติทั้งหลายจะถูกนำมามอบให้กับเจ้า
    และพวกกษัตริย์ของพวกเขาจะถูกนำเข้าไปด้วย
12 ถ้าชนชาติไหนหรืออาณาจักรไหนไม่ยอมรับใช้เจ้า มันจะพินาศไป
    ชนชาติเหล่านั้นจะถูกทำลายอย่างสิ้นซาก
13 ความร่ำรวยของเลบานอนจะมาถึงเจ้า
    ทั้งไม้สน ไม้เฟอร์ และไม้ไซปรัสของมัน
เพื่อจะใช้ตกแต่งที่ศักดิ์สิทธิ์ของเรา
    เราจะทำให้ที่วางเท้าของเราดูสง่างาม
14 ลูกหลานของพวกที่เคยกดขี่ข่มเหงเจ้าจะก้มลงเข้ามาหาเจ้า
    ทุกคนที่เคยดูหมิ่นเจ้าจะกราบอยู่แทบเท้าเจ้า
เขาจะเรียกเจ้าว่า “เมืองของพระยาห์เวห์
    เมืองศิโยน ขององค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล”
15 แต่ก่อนเจ้าถูกทอดทิ้ง คนเกลียดชัง
    และไม่มีใครเดินผ่านแผ่นดินเจ้า
แต่ตอนนี้เราจะทำให้เจ้ามีศักดิ์ศรีตลอดไป
    และคนจะชื่นชมในตัวเจ้าตลอดชั่วลูกชั่วหลาน
16     ชนชาติทั้งหลายจะให้สิ่งที่เจ้าต้องการเหมือนแม่ให้นมลูก
พวกเจ้าจะดื่มความร่ำรวยจากบรรดากษัตริย์
    แล้วเจ้าจะได้รู้ว่าเรา ยาห์เวห์ เป็นผู้ช่วยให้รอดของเจ้า เป็นผู้ไถ่เจ้าให้เป็นอิสระ เป็นองค์ผู้ทรงฤทธิ์ของยาโคบ
17 เราจะให้เจ้ามีทองคำแทนทองสัมฤทธิ์
    มีเงินแทนเหล็ก
มีทองสัมฤทธิ์แทนไม้
    และมีเหล็กแทนหิน
เราจะตั้งสันติสุขเป็นเจ้านายเหนือเจ้า
    และความยุติธรรมจะเป็นนายของพวกเจ้า
18 จะไม่มีความโหดร้ายทารุณในแผ่นดินของเจ้า
    จะไม่มีซากปรักหักพังหรือการทำลายภายในเขตแดนของเจ้า
เจ้าจะตั้งชื่อพวกกำแพงของเจ้าว่า “ความรอด”
    จะตั้งชื่อพวกประตูเมืองว่า “คำสรรเสริญ”
19 เจ้าจะไม่ต้องพึ่งแสงแดดในตอนกลางวันอีกแล้ว
    หรือแสงจันทร์ในตอนกลางคืน
เพราะพระยาห์เวห์จะเป็นแสงสว่างให้กับเจ้าตลอดไป
    พระเจ้าของเจ้าจะเป็นรัศมีของพวกเจ้า
20 ดวงอาทิตย์ของเจ้าจะไม่ตกอีกแล้ว
    หรือดวงจันทร์ของเจ้าจะไม่หายไป
เพราะพระยาห์เวห์จะเป็นแสงสว่างให้กับเจ้าตลอดไป
    วันเวลาแห่งความโศกเศร้าของเจ้านั้นจะจบสิ้นไป
21 คนของเจ้า หมดทุกคนจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง
    แล้วพวกเขาจะได้แผ่นดินเป็นกรรมสิทธิ์ตลอดไป
พวกเขาเป็นต้นไม้ที่เราปลูกไว้
    เป็นฝีมือของเราที่แสดงว่าเรายิ่งใหญ่
22 ครอบครัวที่เล็กที่สุดจะกลายเป็นตระกูลที่มีพันคน
    ตระกูลที่เล็กที่สุดจะกลายเป็นชนชาติที่ยิ่งใหญ่
เราคือยาห์เวห์
    พอถึงเวลา เราจะรีบจัดการเรื่องนี้ให้

มัทธิว 8

พระเยซูรักษาคนป่วย

(มก. 1:40-45; ลก. 5:12-16)

เมื่อพระเยซูลงมาจากภูเขาแล้ว ก็มีคนกลุ่มใหญ่ติดตามพระองค์ไป มีคนหนึ่งเป็นโรคผิวหนังร้ายแรง ได้มาคุกเข่าลงต่อหน้าพระองค์และพูดว่า “นายท่าน ถ้าท่านอยากช่วย ท่านก็ทำให้ผมหายได้”

พระองค์ยื่นมือออกไปแตะตัวเขา และพูดว่า “เราอยากช่วย หายเถิด” แล้วเขาก็หายทันที พระเยซูจึงบอกเขาว่า “อย่าไปเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง แต่ไปให้นักบวชตรวจดูและให้ถวายเครื่องบูชาตามที่โมเสสสั่งไว้ คนอื่นจะได้รู้ว่าเจ้าหายแล้ว”

พระเยซูรักษาคนใช้ของนายร้อย

(ลก. 7:1-10; ยน. 4:43-54)

เมื่อพระเยซูเข้าไปในเมืองคาเปอรนาอุม มีนายร้อยคนหนึ่งเข้ามาหา เพื่อขอให้พระองค์ช่วย เขาพูดว่า “นายท่าน คนใช้ของผมนอนเป็นอัมพาตอยู่ที่บ้าน ต้องทนทุกข์ทรมานมาก”

พระเยซูบอกนายร้อยว่า “เราจะไปรักษาให้”

นายร้อยจึงบอกพระองค์ว่า “นายท่าน ผมไม่ดีพอที่จะให้ท่านเข้าไปในบ้านของผม ท่านแค่สั่งเท่านั้น คนใช้ของผมก็จะหาย ที่ผมรู้ก็เพราะผมเป็นทหาร มีทั้งหัวหน้าที่สั่งผม และมีลูกน้องที่ต้องเชื่อฟังคำสั่งผม เมื่อผมสั่งให้ ‘ไป’ เขาก็ไป สั่งให้ ‘มา’ เขาก็มา และถ้าสั่งให้ทาสของผม ‘ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้’ เขาก็ทำ”

10 เมื่อพระเยซูได้ยินอย่างนั้นก็แปลกใจมาก และพูดกับคนที่ติดตามมาว่า “เราจะบอกให้รู้ว่า ยังไม่เคยพบใครในอิสราเอล ที่มีความเชื่อยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาก่อนเลย 11 เราจะบอกให้รู้ว่า จะมีคนจำนวนมากมาจากตะวันออกและตะวันตก เพื่อมาร่วมในงานเลี้ยงเฉลิมฉลองกับอับราฮัม อิสอัค และยาโคบ ในอาณาจักรแห่งสวรรค์ 12 แต่คนที่น่าจะได้อยู่ในอาณาจักรของพระองค์นั้น กลับจะต้องถูกโยนออกไปอยู่ในที่มืด ที่มีแต่เสียงร้องไห้โหยหวนอย่างเจ็บปวด”

13 แล้วพระเยซูก็พูดกับนายร้อยว่า “กลับไปบ้านเถอะ มันจะเป็นไปตามที่คุณเชื่อ” และคนใช้ของเขาก็หายทันทีในเวลานั้น

พระเยซูรักษาคนป่วยมากมาย

(มก. 1:29-34; ลก. 4:38-41)

14 เมื่อพระเยซูมาถึงบ้านของเปโตร ก็เห็นแม่ยายของเปโตรนอนป่วยเป็นไข้อยู่บนเตียง 15 พอพระองค์แตะมือเธอ เธอก็หายจากไข้ทันที และลุกขึ้นมารับใช้พระองค์

16 ในเย็นนั้น มีคนพาพวกที่ถูกผีสิงมาหาพระเยซูเป็นจำนวนมาก พระองค์ได้สั่งให้ผีเหล่านั้นออกจากร่างพวกนั้นไป และยังได้รักษาคนป่วยทุกคนด้วย 17 สิ่งนี้เกิดขึ้นเพื่อให้เป็นจริงตามที่อิสยาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าได้พูดไว้ว่า

“พระองค์เอาความเจ็บป่วยของพวกเราไปเสีย
    และแบกรับเอาโรคภัยของเราไว้”[a]

การติดตามพระเยซู

(ลก. 9:57-62)

18 เมื่อพระเยซูเห็นฝูงชนที่อยู่ล้อมรอบพระองค์ พระองค์จึงสั่งให้พวกศิษย์ข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งของทะเลสาบ 19 ครูสอนกฎปฏิบัติคนหนึ่งเข้ามาบอกพระองค์ว่า “อาจารย์ ไม่ว่าอาจารย์จะไปที่ไหน ผมจะติดตามไปด้วย”

20 พระเยซูบอกเขาว่า “หมาจิ้งจอกยังมีโพรง นกยังมีรัง แต่บุตรมนุษย์ไม่มีแม้แต่ที่จะซุกหัวนอน”

21 ลูกศิษย์คนหนึ่งของพระองค์ได้ขอพระองค์ว่า “อาจารย์ ขออนุญาตไปฝังศพพ่อก่อนนะครับ”

22 พระเยซูตอบเขาว่า “ตามเรามา ปล่อยให้คนตายฝังคนตายกันเองเถอะ”

พระเยซูห้ามพายุ

(มก. 4:35-41; ลก. 8:22-25)

23 เมื่อพระองค์ลงเรือ พวกศิษย์ก็ตามพระองค์ไปด้วย 24 ทันใดนั้นมีพายุใหญ่เกิดขึ้นในทะเลสาบ คลื่นซัดจนน้ำเข้าเต็มเรือ แต่พระเยซูยังนอนหลับอยู่ 25 พวกศิษย์มาปลุกพระองค์และบอกว่า “อาจารย์ช่วยด้วย เรากำลังจะจมน้ำตายกันอยู่แล้ว”

26 พระเยซูพูดกับพวกเขาว่า “ทำไมขี้ขลาดอย่างนี้ ช่างไม่มีความเชื่อเอาเสียเลย” แล้วพระองค์ก็ลุกขึ้นมาห้ามลมและคลื่น มันก็สงบลงอย่างราบคาบ

27 พวกเขาก็ประหลาดใจ พูดกันว่า “เขาเป็นใครกัน แม้แต่ลมและคลื่นยังเชื่อฟังเขาเลย”

พระเยซูขับไล่ผีออกจากชายสองคน

(มก. 5:1-20; ลก. 8:26-39)

28 เมื่อพระเยซูข้ามฟากมาถึงอีกฝั่งหนึ่งของทะเลสาบในเขตแดนของชาวกาดารา[b] ก็มีชายสองคนที่ถูกผีสิง เดินออกมาจากหลุมฝังศพตรงเข้ามาหาพระองค์ สองคนนี้ดุร้ายมากจนไม่มีใครกล้าเดินผ่านไปแถวนั้น 29 สองคนนั้นตะโกนว่า “บุตรของพระเจ้า มายุ่งกับพวกเราทำไม จะมาทรมานพวกเราก่อนเวลาที่พระเจ้าได้กำหนดไว้หรือ”

30 ห่างจากที่นั่นไปไม่ไกล มีหมูฝูงใหญ่ถูกปล่อยทิ้งไว้ให้หากินกันอยู่ 31 ผีพวกนั้นขอร้องพระองค์ว่า “ถ้าจะไล่พวกเราออกไป ก็ช่วยส่งพวกเราเข้าไปอยู่ในฝูงหมูพวกนั้นด้วยเถอะ”

32 พระเยซูพูดกับผีพวกนั้นว่า “ออกไป” แล้วพวกผีก็ออกจากชายสองคนนั้นไปเข้าสิงในฝูงหมูแทน และหมูทั้งฝูงก็วิ่งกรูกันจากไหล่เขาที่สูงชัน ลงสู่ทะเลสาบ แล้วจมน้ำตายหมด 33 ส่วนคนเลี้ยงหมูก็วิ่งเข้าไปในเมือง และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้คนในเมืองฟัง โดยเฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้นกับชายสองคนนั้นที่ถูกผีสิง 34 คนทั้งเมืองก็เลยแห่กันออกมาหาพระเยซู เมื่อเจอพระองค์ ต่างก็ขอร้องให้พระองค์ไปจากเขตแดนของเขา

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International