M’Cheyne Bible Reading Plan
การเก็บเกี่ยวพืชผลครั้งแรก
26 เมื่อท่านเข้าไปในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้ท่านเป็นเจ้าของ เมื่อท่านได้เป็นเจ้าของและตั้งรกรากในแผ่นดินนั้นแล้ว 2 ผลผลิตที่ท่านเก็บเกี่ยวได้เป็นครั้งแรกจากแผ่นดินนั้นของท่าน แผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้ท่าน ท่านต้องแบ่งผลผลิตนั้นมาส่วนหนึ่ง แล้วนำมาใส่ไว้ในตะกร้า แล้วเอาไปในสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะเลือกไว้สำหรับนมัสการพระองค์ 3 ให้ไปหานักบวชที่รับใช้อยู่ในวันนั้น และพูดกับเขาว่า ‘วันนี้ผมจะมาแจ้งให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านรู้ว่า ผมได้มาถึงดินแดนที่พระยาห์เวห์ได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของเราว่าจะยกให้กับเราแล้ว’
4 แล้วนักบวชจะรับตะกร้าจากมือของท่าน ไปตั้งไว้หน้าแท่นบูชาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน 5 แล้วท่านจะพูดต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านว่า ‘บรรพบุรุษของข้าพเจ้าเป็นชาวอารัม[a] ที่เร่ร่อน และเขาได้ลงไปถึงอียิปต์และอยู่ที่นั่นอย่างคนต่างชาติกับคนในครอบครัวอีกไม่กี่คน แต่ที่นั่นเขาได้กลายเป็นชนชาติที่ยิ่งใหญ่ มีอำนาจและมีจำนวนมหาศาล 6 ชาวอียิปต์โหดร้ายกับพวกเรา และทำให้พวกเราต้องทนทุกข์ทรมาน พวกเขาบังคับให้พวกเราทำงานอย่างหนัก 7 พวกเราจึงร้องขอความช่วยเหลือต่อพระยาห์เวห์ พระเจ้าของบรรพบุรุษพวกเรา และพระยาห์เวห์ก็ได้ยินเสียงของพวกเรา และพระองค์เห็นถึงความทุกข์ยากของพวกเรา เห็นถึงงานหนักที่พวกเราทำและการถูกกดขี่ข่มเหง 8 แล้วพระยาห์เวห์ก็นำพวกเราออกจากอียิปต์ด้วยมือที่เต็มไปด้วยฤทธิ์อำนาจ และแขนที่ยื่นออกมาทำลายศัตรู และการกระทำที่น่ากลัว เหตุการณ์พิเศษต่างๆและการอัศจรรย์ 9 แล้วพระองค์ก็นำพวกเรามาถึงที่นี่และให้แผ่นดินนี้กับพวกเรา แผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ 10 และตอนนี้ ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าได้เอาพืชผลที่เก็บเกี่ยวได้เป็นครั้งแรกในแผ่นดินที่พระองค์ยกให้กับข้าพเจ้ามา’ แล้วให้ท่านวางตะกร้านั้นไว้ต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และก้มกราบพระองค์ 11 แล้วท่านต้องร่วมเฉลิมฉลองยินดีกับสิ่งดีๆเหล่านั้น ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ให้กับท่านและครอบครัว ท่านต้องแบ่งสิ่งต่างๆพวกนั้นกับชาวเลวีและชาวต่างชาติที่อยู่ท่ามกลางท่านด้วย
12 ทุกๆสามปี เป็นปีของการแบ่งปันหนึ่งส่วนในสิบส่วน ในปีนั้นท่านต้องแบ่งหนึ่งในสิบของพืชผลที่เก็บเกี่ยวได้ทั้งหมดให้กับชาวเลวี ชาวต่างชาติ เด็กกำพร้าและแม่หม้าย เพื่อพวกเขาจะได้มีกินอย่างเหลือเฟือตามเมืองต่างๆของท่าน 13 แล้วท่านต้องพูดกับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านว่า ‘ข้าพเจ้าได้แยกส่วนที่เป็นของพระยาห์เวห์ ออกจากพืชผลที่เก็บเกี่ยวได้ แล้วนำมันออกมาจากบ้าน เอาไปให้กับชาวเลวี ชาวต่างชาติ เด็กกำพร้าและแม่หม้าย ตามที่พระองค์ได้สั่งให้ข้าพเจ้าทำ ข้าพเจ้าไม่ได้ขัดคำสั่ง หรือว่าลืมคำสั่งใดๆของพระองค์เลย 14 ข้าพเจ้าไม่ได้กินส่วนที่เป็นของพระยาห์เวห์นี้ ตอนที่ข้าพเจ้าเศร้าโศกเสียใจ[b] ข้าพเจ้าไม่ได้แยกส่วนใดส่วนหนึ่งของมันออกมา ตอนที่ข้าพเจ้าไม่บริสุทธิ์[c] ข้าพเจ้าไม่ได้เอาส่วนใดส่วนหนึ่งของมันมาไหว้คนตาย ข้าพเจ้าเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้ทำทุกอย่างที่พระองค์สั่งข้าพเจ้าไว้ 15 ได้โปรดมองลงมาจากบ้านอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ จากบนสวรรค์ และอวยพรชาวอิสราเอลคนของพระองค์ และแผ่นดินที่พระองค์ยกให้กับพวกเรา ตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของเรา เป็นแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์’
เชื่อฟังคำสั่งของพระยาห์เวห์
16 วันนี้ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้สั่งให้ท่านเชื่อฟังกฎและข้อบังคับเหล่านี้ ท่านต้องเชื่อฟังสิ่งเหล่านี้อย่างระมัดระวังด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน 17 วันนี้ท่านกำลังทำข้อตกลงกับพระยาห์เวห์[d] ว่าพระองค์จะเป็นพระเจ้าของท่าน และท่านจะเดินในทางของพระองค์และรักษากฎ คำสั่งและข้อบังคับต่างๆและเชื่อฟังพระองค์ 18 และในวันนี้ พระยาห์เวห์กำลังทำข้อตกลงกับท่าน[e]ว่า ท่านจะเป็นของรักของหวงที่มีค่าของพระองค์ ตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้กับท่าน และท่านจะเชื่อฟังกฎบัญญัติของพระองค์ทุกข้อ 19 และพระองค์จะทำให้ท่านยิ่งใหญ่กว่าทุกๆชนชาติที่พระองค์สร้าง พระองค์จะทำให้ท่านได้รับการสรรเสริญ มีชื่อเสียงและเกียรติยศ[f] และท่านจะเป็นคนที่ถูกแยกออกมาเพื่อเป็นของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ตามที่พระองค์สัญญาไว้”
สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
1 ชนชาติทั้งหลายเอ๋ย สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
ประชาชาติทั้งหลายเอ๋ย ถวายเกียรติแด่พระองค์เถิด
2 เพราะความรักมั่นคงที่พระองค์มีต่อพวกเรานั้นยิ่งใหญ่
และความสัตย์ซื่อของพระยาห์เวห์นั้นจะคงอยู่ตลอดไป
สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
ขอบคุณพระยาห์เวห์สำหรับชัยชนะ
1 ให้ขอบคุณพระยาห์เวห์ เพราะพระองค์ดี
ความรักมั่นคงของพระองค์จะคงอยู่ตลอดไป
2 ให้ชนชาติอิสราเอล พูดว่า
“ความรักมั่นคงของพระองค์จะคงอยู่ตลอดไป”
3 ให้ครอบครัวของอาโรน พูดว่า
“ความรักมั่นคงของพระองค์จะคงอยู่ตลอดไป”
4 ให้พวกผู้ที่ยำเกรงพระยาห์เวห์ พูดว่า
“ความรักมั่นคงของพระองค์จะคงอยู่ตลอดไป”
5 ตอนที่ข้าพเจ้าจนตรอก ข้าพเจ้าร้องเรียกพระยาห์เวห์
แล้วพระองค์ตอบและช่วยให้ข้าพเจ้าหลุดพ้นออกมา
6 พระยาห์เวห์อยู่ฝ่ายข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงไม่หวาดกลัว
มนุษย์จะทำอะไรข้าพเจ้าได้
7 พระยาห์เวห์อยู่ฝ่ายข้าพเจ้า เป็นผู้ช่วยเหลือข้าพเจ้า
และข้าพเจ้าจะเห็นคนที่เกลียดชังข้าพเจ้าพ่ายแพ้
8 ลี้ภัยในพระยาห์เวห์
ย่อมดีกว่าพึ่งพาในมนุษย์
9 ลี้ภัยในพระยาห์เวห์
ย่อมดีกว่าพึ่งพาในพวกผู้นำที่ยิ่งใหญ่
10 ชนชาติทั้งหมดเคยล้อมข้าพเจ้าไว้
แต่ด้วยฤทธิ์อำนาจของพระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าได้ขับไล่พวกมันไปหมด
11 ถูกแล้ว พวกนั้นเคยล้อมข้าพเจ้าไว้ทุกด้าน
แต่ด้วยฤทธิ์อำนาจของพระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าขับไล่พวกมันไปหมด
12 พวกศัตรูล้อมรอบข้าพเจ้าไว้เหมือนกับฝูงผึ้ง
แต่แล้ว พวกมันก็มอดดับไปอย่างรวดเร็วเหมือนกับไฟไหม้พงหนาม
ด้วยฤทธิ์อำนาจของพระยาห์เวห์ข้าพเจ้าขับไล่พวกมันไปหมด
13 พวกมันพยายามอย่างหนักที่จะทำลายข้าพเจ้า
แต่พระยาห์เวห์ช่วยข้าพเจ้าไว้
14 พระองค์เป็นพละกำลังและเป็นที่คุ้มภัยของข้าพเจ้า
พระองค์มาเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้า
15 เสียงโห่ร้องชื่นชมยินดีและเสียงเพลงแห่งชัยชนะดังอยู่ในเต็นท์ของพวกผู้ที่ทำตามใจพระเจ้า
มือขวาของพระยาห์เวห์ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกร
16 มือขวาของพระยาห์เวห์นำชัยชนะมาให้
มือขวาของพระยาห์เวห์ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกร
17 ข้าพเจ้าจะไม่ตายแต่จะอยู่ต่อไป
แล้วข้าพเจ้าจะเล่าถึงสิ่งต่างๆที่พระยาห์เวห์ทำ
18 พระยาห์เวห์ลงโทษข้าพเจ้าอย่างหนัก
แต่ไม่ถึงตาย
19 เปิดประตูสำหรับผู้ที่ทำตามใจพระเจ้า[a] ให้กับข้าพเจ้าด้วย
เพื่อข้าพเจ้าจะได้เข้าไปและขอบคุณพระยาห์เวห์
20 นี่คือประตูของพระยาห์เวห์
เฉพาะพวกคนที่ทำตามใจพระเจ้าเท่านั้นถึงจะผ่านเข้าไปได้
21 ข้าแต่พระยาห์เวห์ข้าพเจ้าขอบคุณพระองค์
เพราะพระองค์ตอบข้าพเจ้าและช่วยกู้ข้าพเจ้า
22 ก้อนหินที่พวกผู้ก่อสร้างโยนทิ้งไป
ตอนนี้กลายเป็นหินหัวมุมไปเสียแล้ว
23 พระยาห์เวห์ทำให้มันเป็นอย่างนั้น
และเป็นเรื่องน่าทึ่งในสายตาเรา
24 พระยาห์เวห์ได้ทำให้วันนี้เกิดขึ้น
ให้พวกเราชื่นชมยินดีและมีความสุขในวันนี้เถิด
25 ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดช่วยเราให้รอดด้วย
ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดให้เราประสบความสำเร็จด้วยเถิด
26 ขอให้คนที่มาในนามของพระยาห์เวห์ ได้รับการอวยพร
พวกเราอวยพรให้กับพวกท่านจากวิหารของพระยาห์เวห์
27 พระยาห์เวห์คือพระเจ้า พระองค์ได้ส่องใบหน้าของพระองค์ลงมาบนพวกเรา
ดังนั้น ให้มัดลูกแกะที่เป็นเครื่องบูชาและนำมาถวายที่แท่น
28 พระองค์คือพระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะขอบคุณพระองค์
ข้าแต่พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะยกย่องเชิดชูพระองค์
29 ให้ขอบคุณพระยาห์เวห์ เพราะพระองค์ดี
ความรักมั่นคงของพระองค์จะคงอยู่ตลอดไป
53 ผู้คนพูดว่า ใครจะไปเชื่อว่าเรื่องที่เราได้ยินมาจะเกิดขึ้นได้
ตอนนั้นใครจะไปเห็นฤทธิ์อำนาจของพระยาห์เวห์ในเหตุการณ์นี้
2 เขาเติบโตขึ้นมาเหมือนกับต้นไม้เล็กๆต่อหน้าพระยาห์เวห์
เหมือนกับรากที่แตกหน่อในดินแห้งแล้ง
เขาไม่ได้หล่อเหลาหรือมีสง่าราศีถึงกับทำให้เราอยากมองเขา
เขาไม่ได้มีอะไรน่าดึงดูดถึงกับทำให้เราชอบเขา
3 ผู้คนต่างพากันดูถูกและไม่คบด้วย
เขาเป็นผู้ชายที่เจอกับความเจ็บปวดมากมายและคุ้นเคยกับความทุกข์ทรมาน
เป็นเหมือนคนหนึ่งที่คนทนดูไม่ได้
เขาเป็นที่ดูถูกและเราไม่ได้เห็นว่าเขาสำคัญอะไรเลย
4 เขาได้แบกรับความทุกข์ทรมานของพวกเราอย่างแน่นอน
เขาหอบหิ้วความเจ็บปวดของพวกเรา
แต่เรามองว่าพระเจ้าลงโทษเขา
โบยตีเขา และทำให้เขาเจ็บปวด
5 เขาถูกแทงก็เพราะความผิดต่างๆที่เราทำไป
เขาฟกช้ำก็เพราะความชั่วต่างๆที่พวกเราทำ
การตีสอนที่ทำให้เราหายดีก็ตกอยู่บนเขา
พวกเราได้รับการรักษาเพราะบาดแผลทั้งหลายของเขา
6 พวกเราทุกคนได้หลงหายไปเหมือนแกะ
พวกเราแต่ละคนต่างหลงไปคนละทิศละทาง
แต่พระยาห์เวห์ปล่อยให้ความผิดของพวกเราทุกคนโจมตีเขา
7 เขาถูกกดขี่ข่มเหง และถูกทำให้เจ็บปวด
แต่เขาก็ไม่ปริปากบ่นเลย
เหมือนกับลูกแกะที่ถูกนำไปฆ่า
เหมือนกับแกะที่นิ่งเงียบอยู่ต่อหน้าคนที่ตัดขนของมัน
เขาไม่ได้ปริปากของเขาเลย
8 เขาก็ถูกเอาตัวไปหลังจากที่ถูกจับและถูกตัดสินอย่างไม่เป็นธรรม[a]
และไม่มีใครสนใจในชะตากรรมของเขา[b]
เพราะเขาถูกตัดออกจากโลกของคนเป็น
เขาถูกลงโทษเพราะความผิดที่คนของเขาทำ[c]
9 พวกเขาได้ทำหลุมฝังศพของเขาไว้กับหลุมของคนชั่ว
และทำอุโมงค์ฝังศพของเขาไว้กับอุโมงค์ของคนรวย[d]
ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้ก่อความรุนแรง
และเขาไม่ได้พูดหลอกลวง
10 แต่พระยาห์เวห์ก็ตัดสินใจที่จะบดขยี้คนของพระองค์
และทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมาน
ถ้าผู้รับใช้ของพระองค์ยอมให้ชีวิตตัวเขาเองเป็นของถวายชดใช้ความผิด
เขาก็จะได้เห็นลูกหลานของเขาและจะมีอายุยืนยาว
ความตั้งใจของพระยาห์เวห์ก็จะสำเร็จผ่านทางมือของเขา
11 หลังจากความทุกข์ทรมานอันเลวร้ายของเขาแล้ว เขาก็จะเห็นความสว่าง[e]
และสิ่งที่เขาประสบมานั้นจะทำให้เขาพึงพอใจ
พระยาห์เวห์พูดว่า “ผู้รับใช้ของเราผู้ที่ทำในสิ่งที่ถูกต้องเสมอ
ทำให้หลายๆคนได้รับการตัดสินให้พ้นผิด
และเขาก็จะแบกรับโทษสำหรับความผิดที่คนพวกนั้นทำ
12 ดังนั้น เราจะให้รางวัลกับเขาร่วมกับพวกผู้ยิ่งใหญ่
และเขาก็จะได้รับส่วนแบ่งจากของที่ยึดมาได้ร่วมกับคนที่แข็งแรง
เพราะเขาได้เทตัวเองออกมาจนตาย
เขาถูกนับรวมเข้ากับพวกคนบาป
และเขาก็แบกรับบาปของคนจำนวนมาก
และได้ขอร้องอ้อนวอนแทนพวกคนบาป”
ประวัติบรรพบุรุษของพระเยซู
(ลก. 3:23-38)
1 นี่คือรายชื่อบรรพบุรุษของพระเยซูกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ พระองค์เป็นลูกหลานของดาวิด และ อับราฮัม
2 อับราฮัม มีลูกชื่อ อิสอัค อิสอัคมีลูกชื่อ ยาโคบ ยาโคบมีลูกชื่อยูดาห์ และพี่น้องคนอื่นๆของยูดาห์
3 ยูดาห์มีลูกกับนางทามาร์ชื่อ เปเรศ และเศราห์ เปเรศมีลูกชื่อเฮสโรน และเฮสโรนมีลูกชื่อราม
4 รามมีลูกชื่อ อัมมีนาดับ อัมมีนาดับมีลูกชื่อนาโชน และนาโชนมีลูกชื่อสัลโมน
5 สัลโมน มีลูกกับนางราหับชื่อโบอาส โบอาสมีลูกกับนางรูธชื่อโอเบด และโอเบด มีลูกชื่อ เจสซี
6 เจสซีมีลูกเป็นกษัตริย์ดาวิด ดาวิดมีลูกชื่อซาโลมอน แม่ของซาโลมอนเคยเป็นภรรยาของอุรียาห์มาก่อน
7 ซาโลมอนมีลูกชื่อเรโหโบอัม เรโหโบอัมมีลูกชื่ออาบียาห์ และอาบียาห์มีลูกชื่ออาสา
8 อาสามีลูกชื่อเยโฮชาฟัท เยโฮชาฟัทมีลูกชื่อโยรัม โยรัมมีลูกชื่ออุสซียาห์
9 อุสซียาห์มีลูกชื่อโยธาม โยธามมีลูกชื่ออาหัส และอาหัสมีลูกชื่อเฮเซคียาห์
10 เฮเซคียาห์มีลูกชื่อมนัสเสห์ มนัสเสห์มีลูกชื่ออาโมนและอาโมนมีลูกชื่อโยสิยาห์
11 โยสิยาห์มีลูกคือเยโคนิยาห์และพี่น้องคนอื่นๆของเขา ในเวลานั้นพวกชาวยิวก็ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยที่เมืองบาบิโลน
12 หลังจากถูกกวาดต้อนไปที่เมืองบาบิโลนแล้ว เยโคนิยาห์มีลูกชื่อเชอัลทิเอล และเชอัลทิเอลก็มีลูกชื่อเศรุบบาเบล
13 เศรุบบาเบลมีลูกชื่ออาบียุด อาบียุดมีลูกชื่อเอลียาคิม และเอลียาคิมมีลูกชื่ออาซอร์
14 อาซอร์มีลูกชื่อศาโดก ศาโดกมีลูกชื่ออาคิม และอาคิมมีลูกชื่อเอลีอูด
15 เอลีอูดมีลูกชื่อเอเลอาซาร์ เอเลอาซาร์มีลูกชื่อมัทธาน และมัทธานมีลูกชื่อยาโคบ
16 ยาโคบมีลูกชื่อโยเซฟซึ่งเป็นสามีของนางมารีย์ และนางมารีย์ก็เป็นแม่ของพระเยซูหรือที่เรียกกันว่าพระคริสต์
17 ดังนั้นนับตั้งแต่อับราฮัมลงมาจนถึงดาวิดมีสิบสี่รุ่น นับจากดาวิดลงมาจนถึงเมื่อถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยที่เมืองบาบิโลนก็มีสิบสี่รุ่น และนับตั้งแต่ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยจนถึงพระคริสต์ก็มีสิบสี่รุ่น
พระเยซูคริสต์มาเกิด
(ลก. 2:1-7)
18 เรื่องราวที่พระเยซูกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่มาเกิดนั้นมีอยู่ว่า มารีย์ ซึ่งเป็นแม่ของพระเยซู ได้หมั้นกับโยเซฟ แต่ก่อนที่เขาจะแต่งงานกัน มารีย์ก็ตั้งท้องขึ้นมาโดยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ 19 โยเซฟคู่หมั้นของมารีย์นั้นเป็นคนดี ไม่อยากให้นางต้องอับอายขายหน้า จึงได้ตัดสินใจที่จะถอนหมั้นกับนางอย่างเงียบๆ 20 ในขณะที่โยเซฟกำลังคิดเรื่องนี้อยู่ ทูตขององค์เจ้าชีวิตมาเข้าฝันโยเซฟ และบอกว่า “โยเซฟ ลูกหลานของดาวิด[a] ไม่ต้องกลัวที่จะรับมารีย์มาเป็นภรรยาหรอก เพราะเด็กในท้องของนางนั้น เกิดจากฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ 21 มารีย์จะคลอดลูกชาย ให้ตั้งชื่อเด็กนั้นว่า ‘เยซู’[b] เพราะเขาจะช่วยคนของเขาให้พ้นจากบาปทั้งหลายของพวกเขา”
22 เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพื่อจะได้เป็นไปตามที่องค์เจ้าชีวิตเคยพูดผ่านมาทางผู้พูดแทนพระเจ้า ที่ว่า
23 “จะมีหญิงพรหมจารีตั้งท้อง และคลอดลูกชาย
ซึ่งคนจะเรียกเขาว่า ‘อิมมานูเอล’[c]
ที่แปลว่า ‘พระเจ้าอยู่กับเรา’”
24 เมื่อโยเซฟตื่นขึ้นมา เขาก็ทำตามคำสั่งของทูตองค์นั้น และรับมารีย์มาเป็นภรรยา 25 แต่โยเซฟไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับเธอ จนกระทั่งมารีย์คลอดลูกชายแล้ว โยเซฟตั้งชื่อเด็กว่า “เยซู”
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International