Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
เฉลยธรรมบัญญัติ 31

โยชูวาจะเป็นผู้นำคนใหม่

31 เมื่อโมเสสพูดสิ่งต่างๆเหล่านี้กับชาวอิสราเอลเสร็จแล้ว โมเสสก็พูดกับพวกเขาว่า “ตอนนี้เรามีอายุหนึ่งร้อยยี่สิบปีแล้ว เราไม่สามารถจะไปไหนมาไหนกับพวกท่านได้อีกแล้ว และพระยาห์เวห์พูดกับเราว่า ‘เจ้าจะไม่ได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนนี้ไป’ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะเป็นผู้นำท่านข้ามไป ไม่ใช่เรา พระองค์จะทำลายชนชาติพวกนี้ต่อหน้าท่าน และท่านจะได้ยึดแผ่นดินของพวกเขา โยชูวาจะเป็นคนที่นำท่านข้ามไป ตามที่พระยาห์เวห์สัญญาไว้

พระยาห์เวห์จะทำกับพวกเขา เหมือนกับที่พระองค์ได้ทำกับสิโหนและโอก กษัตริย์ชาวอาโมไรต์และกับแผ่นดินของพวกเขา ตอนที่พระองค์ทำลายพวกเขานั้น พระยาห์เวห์จะช่วยให้ท่านเอาชนะชนชาติเหล่านั้น และพวกท่านต้องทำกับพวกเขาตามที่เราสั่งทุกอย่าง ให้เข้มแข็งและกล้าหาญไว้ ไม่ต้องกลัวหรือตื่นตกใจเพราะพวกนั้น เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านคือผู้ที่จะไปกับท่าน พระองค์จะไม่ละท่านไปหรือทอดทิ้งท่านหรอก”

แล้วโมเสสก็เรียกโยชูวามาต่อหน้าประชาชนชาวอิสราเอล โมเสสพูดกับโยชูวาว่า “ให้เข้มแข็งและกล้าหาญ เพราะเจ้าจะต้องนำประชาชนเหล่านี้เข้าสู่แผ่นดินที่พระยาห์เวห์สัญญาว่าจะยกให้กับบรรพบุรุษของพวกเขา และเจ้าจะต้องจัดสรรปันส่วนที่ดินนั้นให้กับพวกเขา พระยาห์เวห์จะเป็นผู้ที่นำเจ้า พระองค์จะอยู่กับเจ้า พระองค์จะไม่ละเจ้าไปหรือทอดทิ้งเจ้า ไม่ต้องกลัวหรือตื่นตกใจ”

โมเสสเขียนคำสอน

แล้วโมเสสได้เขียนคำสอนนี้ และให้ไว้กับพวกนักบวช ที่เป็นลูกหลานของเลวี และให้กับพวกผู้นำอาวุโสของอิสราเอล พวกลูกหลานเลวีมีหน้าที่แบกหีบที่ใส่ข้อตกลงของพระยาห์เวห์ 10 โมเสสสั่งพวกเขาว่า “ทุกๆเจ็ดปี ซึ่งเป็นปีแห่งการยกหนี้ ในช่วงเทศกาลอยู่เพิง 11 เมื่อประชาชนชาวอิสราเอลมาอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านในสถานที่นั้นที่พระองค์จะเลือกไว้ ท่านต้องอ่านคำสอนนี้ต่อหน้าประชาชนชาวอิสราเอลทั้งหมด เพื่อมันจะได้เข้าหูพวกเขา 12 ให้รวบรวมประชาชนมาให้หมด ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง เด็กเล็กๆและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในเมืองของท่าน เพื่อพวกเขาจะได้ฟัง และจะได้เรียนรู้ เพื่อเขาจะได้เกรงกลัวพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน และจะได้เชื่อฟังคำสอนทั้งหมดนี้อย่างระมัดระวัง 13 เพื่อลูกหลานของพวกเขาที่ไม่เคยรู้จักคำสอนนี้จะได้ฟังและเรียนรู้ที่จะเกรงกลัวพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน นานตราบเท่าที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ในแผ่นดินที่ท่านกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปยึดเป็นเจ้าของนั้น”

พระยาห์เวห์เรียกโมเสสและโยชูวา

14 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “เจ้าใกล้จะตายแล้ว เรียกโยชูวาให้มายืนที่หน้าเต็นท์นัดพบ เพื่อเราจะได้มอบหมายงานให้กับเขา” โมเสสและโยชูวาจึงมายืนอยู่ที่หน้าเต็นท์นัดพบ

15 พระยาห์เวห์ได้มาปรากฏที่เต็นท์ในลำเมฆ และลำเมฆก็หยุดอยู่ที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ 16 แล้วพระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “อีกไม่นานเจ้าก็จะตาย และอีกไม่ช้าคนพวกนี้จะไม่ซื่อสัตย์กับเรา และไปบูชาพระอื่นในแผ่นดินที่พวกเขากำลังจะเข้าไป พวกเขาจะทิ้งเรา พวกเขาจะผิดสัญญาที่เราได้ทำไว้กับพวกเขา 17 ในเวลานั้นเราจะโกรธพวกเขามาก เราจะทอดทิ้งพวกเขา เราจะหลบหน้าไปจากพวกเขา พวกเขาจะถูกกลืนกิน ความหายนะล่มจม และความทุกข์ยากลำบากต่างๆจะเกิดขึ้นกับพวกเขา ในวันนั้นพวกเขาจะพูดว่า ‘ความหายนะล่มจมทั้งหมดนี้เกิดขึ้นกับเรา ก็เพราะพระเจ้าไม่ได้อยู่กับเรา’ 18 ในวันนั้นเราจะหลบหน้าไปจากพวกเขาอย่างแน่นอน เพราะความชั่วช้าที่พวกเขาได้ทำ ที่หันหน้าไปหาพระอื่นๆ

19 ตอนนี้ให้เขียนบทเพลงนี้ลงไป และให้สอนมันกับชาวอิสราเอล ให้พวกเขาร้องจนขึ้นใจ เพื่อว่าเพลงนี้จะได้เป็นพยานให้กับเราต่อว่าคนอิสราเอล 20 เมื่อเรานำพวกเขาเข้าสู่แผ่นดินที่เราได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของพวกเขา เป็นแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ และเขาก็กินทุกอย่างที่อยากกินจนอ้วน แล้วพวกเขาก็จะหันไปหาพระอื่นและรับใช้พระพวกนั้น พวกเขาจะปฏิเสธเรา และผิดสัญญาที่เราได้ทำไว้กับพวกเขา 21 แล้วเมื่อความหายนะล่มจมและความยากลำบากเกิดขึ้นกับพวกเขา ในเวลานั้นลูกหลานของพวกเขาก็ยังไม่ลืมเพลงนี้ เพลงนี้จึงทำให้พวกเขาเห็นว่าพวกเขาเป็นคนผิด แม้แต่เดี๋ยวนี้ ก่อนที่เราจะพาพวกเขาเข้าสู่แผ่นดินที่เราสัญญาไว้กับพวกเขา เราก็รู้แล้วว่าเขามีแนวโน้มที่จะทิ้งเรา”

22 โมเสสจึงเขียนเพลงนั้นในวันนั้น และเขาสอนมันให้กับชาวอิสราเอล

23 พระยาห์เวห์ได้มอบหมายงานให้กับโยชูวาลูกชายของนูน พระองค์พูดว่า “ให้เข้มแข็งและกล้าหาญไว้ เพราะเจ้าจะนำชาวอิสราเอลเข้าสู่แผ่นดินที่เราได้สัญญาไว้กับพวกเขา และเราจะอยู่กับเจ้า”

โมเสสเตือนประชาชนชาวอิสราเอล

24 หลังจากโมเสสได้เขียนคำสอนนี้ลงในแผ่นหนังเสร็จแล้ว 25 เขาได้สั่งให้ชาวเลวีที่ทำหน้าที่แบกหีบที่เก็บข้อตกลงของพระยาห์เวห์ว่า 26 “เอาแผ่นหนังคำสอนนี้ไปวางไว้ข้างหีบที่เก็บข้อตกลงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน มันจะอยู่ที่นั่นเพื่อเป็นพยานว่าท่านยอมรับข้อตกลงนี้แล้ว 27 เพราะเรารู้ดีว่า พวกท่านชอบแข็งข้อและหัวแข็ง นี่ขนาดเรายังมีชีวิตอยู่กับพวกท่าน พวกท่านยังแข็งข้อพระยาห์เวห์เลย แล้วถ้าเราตายไป พวกท่านจะยิ่งกว่านี้อีกขนาดไหน 28 พาพวกผู้นำอาวุโสของเผ่าต่างๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของพวกท่านมาหาเราหน่อย เพราะเราอยากจะให้แน่ใจว่าพวกเขาได้ยินเรื่องนี้ เราจะเรียกฟ้าและดินมาเป็นพยานต่อว่าพวกเขา 29 เพราะเรารู้ว่าหลังจากที่เราตายไปแล้ว พวกท่านจะทำชั่วอย่างเต็มที่ และจะหันไปจากทางที่เราได้สั่งไว้ ความหายนะล่มจมจะเกิดขึ้นกับพวกท่านในอนาคต เพราะพวกท่านจะทำในสิ่งที่พระยาห์เวห์เห็นว่าชั่วช้า และทำให้พระองค์โกรธเพราะสิ่งที่พวกท่านสร้างขึ้นมากับมือ”

เพลงของโมเสส

30 แล้วโมเสสก็ร้องบทเพลงให้ชาวอิสราเอลทั้งหมดฟัง

สดุดี 119:97-120

เม็ม

97 ข้าพเจ้ารักคำสั่งสอนของพระองค์เหลือเกิน
    และใคร่ครวญถึงคำสอนนั้นตลอดเวลา
98 บัญญัติต่างๆของพระองค์ทำให้ข้าพเจ้าฉลาดกว่าพวกศัตรูของข้าพเจ้า
    เพราะบัญญัติเหล่านั้นอยู่กับข้าพเจ้าเสมอ
99 พระองค์ทำให้ข้าพเจ้ารู้ลึกซึ้งกว่าพวกครูของข้าพเจ้า
    เพราะข้าพเจ้าใคร่ครวญถึงกฎต่างๆของพระองค์
100 ข้าพเจ้ามีความเข้าใจมากกว่าพวกผู้อาวุโส
    เพราะข้าพเจ้าเชื่อฟังคำสั่งต่างๆของพระองค์
101 ข้าพเจ้ายั้งเท้าของข้าพเจ้าจากทางชั่วทุกอย่าง
    เพื่อข้าพเจ้าจะได้เชื่อฟังคำบัญชาของพระองค์
102 ข้าพเจ้าไม่ได้หันเหไปจากกฎเกณฑ์ต่างๆของพระองค์เลย
    เพราะพระองค์เองสอนข้าพเจ้า
103 คำพูดต่างๆของพระองค์นั้นช่างมีรสชาติดีจริงๆ
    หวานยิ่งกว่าน้ำเชื่อมผลไม้
104 ข้าพเจ้าได้ความเข้าใจจากคำสั่งต่างๆของพระองค์
    ข้าพเจ้าจึงเกลียดชังการกระทำที่หลอกลวงทั้งปวง

นุน

105 คำบัญชาของพระองค์เป็นโคมไฟให้กับเท้าของข้าพเจ้า
    เป็นแสงสว่างให้กับทางของข้าพเจ้า
106 ข้าพเจ้าสาบานและยืนยันว่าจะรักษาคำสาบานนั้น
    ที่ว่าข้าพเจ้าจะเชื่อฟังกฎเกณฑ์ต่างๆที่ยุติธรรมของพระองค์
107 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าทนทุกข์ยิ่งนัก
    ช่วยให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไปตามที่พระองค์สัญญาไว้ด้วยเถิด
108 ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดยอมรับพวกเครื่องบูชาแห่งการสรรเสริญที่ออกจากปากของข้าพเจ้าด้วยเถิด
    ช่วยสอนกฎเกณฑ์ต่างๆของพระองค์ให้กับข้าพเจ้าด้วยเถิด
109 ชีวิตของข้าพเจ้าตกอยู่ในอันตรายเสมอ
    แต่ข้าพเจ้าไม่เคยลืมคำสั่งสอนของพระองค์
110 คนชั่ววางกับดักข้าพเจ้า
    แต่ข้าพเจ้าไม่เคยหลงไปจากคำสั่งต่างๆของพระองค์
111 กฎทั้งหลายของพระองค์เป็นมรดกของข้าพเจ้าตลอดไป
    เพราะใจของข้าพเจ้าชื่นชมยินดีในกฎเหล่านั้น
112 ข้าพเจ้าจะมุ่งมั่นในการเชื่อฟังกฎระเบียบของพระองค์อยู่เสมอ
    จนกว่าข้าพเจ้าจะตายไป

ซาเมค

113 ข้าพเจ้าเกลียดชังคนสองใจ
    แต่ข้าพเจ้ารักคำสั่งสอนของพระองค์
114 พระองค์เป็นที่ซ่อนและเป็นโล่ของข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าฝากความหวังไว้กับคำสัญญาของพระองค์
115 ไอ้พวกทำชั่วทั้งหลาย ไปให้ห่างจากข้า
    เพื่อข้าจะได้รักษาบัญญัติทั้งหลายของพระเจ้าของข้า
116 พระยาห์เวห์เจ้าข้า โปรดค้ำจุนข้าพเจ้าอย่างที่พระองค์สัญญาไว้
    แล้วข้าพเจ้าจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไป อย่าทำให้ข้าพเจ้าผิดหวังเลย
117 ช่วยเหลือข้าพเจ้าด้วยเถิดเพื่อข้าพเจ้าจะได้รอด
    และจะได้เรียนรู้กฎระเบียบของพระองค์เป็นประจำ
118 พระองค์ไม่ยอมรับคนเหล่านั้นที่หลงไปจากกฎระเบียบของพระองค์
    การหลอกลวงของพวกเขาไม่สามารถหลอกพระองค์ได้
119 คนชั่วทุกคนบนโลกนี้เป็นเหมือนขี้แร่ที่พระองค์เขี่ยทิ้งไป
    ข้าพเจ้าจึงรักกฎต่างๆของพระองค์
120 ข้าพเจ้ากลัวจนตัวสั่นอยู่ต่อหน้าพระองค์
    ข้าพเจ้าเคารพยำเกรงกฎเกณฑ์ต่างๆของพระองค์

อิสยาห์ 58

ศาสนกิจที่ถูกต้องและที่ผิด

58 พระยาห์เวห์พูดว่า ตะโกนออกมาดังๆเลย ไม่ต้องอั้นไว้ ยกเสียงขึ้นมาเหมือนกับเสียงแตร
    ประกาศกับคนของเราถึงการกบฏของพวกเขา
    ประกาศให้กับครอบครัวของยาโคบถึงความบาปของพวกเขา
พวกเขามาแสวงหาเราวันแล้ววันเล่า
    อย่างกับว่าพวกเขาอยากจะรู้ทางต่างๆของเรา
อย่างกับว่าเป็นชนชาติที่ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
    อย่างกับว่าไม่ได้ทอดทิ้งกฎอันยุติธรรมของพระเจ้าของพวกเขา
พวกเขาขอการตัดสินที่ยุติธรรมจากเรา
    พวกเขาแกล้งทำเป็นอยากเข้าใกล้พระเจ้า
และพวกเขาพูดว่า “ทำไมพระองค์ถึงไม่เห็นตอนที่พวกเราอดอาหารกัน
    ทำไมพระองค์ถึงไม่สังเกตว่าพวกเราถ่อมตัวลง”
แต่เราตอบว่า “ดูเอาสิ ในวันที่เจ้าอดอาหารนั้น
    เจ้าก็ยังมัวหาผลประโยชน์ของตนและเอาเปรียบคนงานทุกคนของเจ้า
ดูสิ พวกเจ้าถือศีลอดอาหารก็จริง แต่มีการถกเถียง ทะเลาะและชกต่อยกันแถมไปด้วย
    การอดอาหารอย่างที่พวกเจ้าทำในวันนี้จะไม่ทำให้คำอธิษฐานของเจ้าขึ้นไปถึงเบื้องบน
นี่หรือการถือศีลอดอาหารที่เราอยากได้
    เป็นวันที่แค่ถ่อมตัวลงพอเป็นพิธีอย่างนี้หรือ
เป็นแค่ก้มหัวลงเหมือนกับต้นอ้อลู่ลมหรือ
    เป็นแค่นอนลงบนผ้ากระสอบและขี้เถ้าหรือ
พวกเจ้าจะเรียกแบบนี้ว่าเป็นการถือศีลอดอาหารหรือ
    วันแบบนี้จะเป็นที่ยอมรับของพระยาห์เวห์จริงๆหรือ

การอดอาหารที่เราอยากได้เป็นอย่างนี้ไม่ใช่หรือ
    คือให้ปลดปล่อยโซ่ตรวนของความไม่ยุติธรรม
    ให้แก้เชือกแอกของการกดขี่ข่มเหงออก
และปล่อยให้คนที่ถูกกดขี่ขมเหงเป็นอิสระ
    ให้หักแอกทุกอัน
แล้วให้แบ่งปันอาหารของเจ้ากับคนที่หิวโหย ไม่ใช่หรือ
    ให้เอาคนยากจนที่ไม่มีบ้านอยู่เข้ามาอยู่ในบ้านของเจ้า
เมื่อเจ้าเห็นคนที่เปลือยเปล่าก็ให้คลุมตัวพวกเขา
    และไม่ซ่อนตัวจากญาติๆที่เดือดร้อนของเจ้า
ถ้าเจ้าทำอย่างนี้แสงของเจ้าก็จะส่องสว่างเหมือนรุ่งอรุณ
    บาดแผลต่างๆของเจ้าจะหายอย่างรวดเร็ว
พระองค์ผู้ให้ชัยชนะกับพวกเจ้าจะนำหน้าพวกเจ้าไป
    และสง่าราศีของพระยาห์เวห์ก็จะเป็นทหารเฝ้าระวังหลังให้กับเจ้า
แล้วเจ้าก็จะเรียกขอความช่วยเหลือและพระยาห์เวห์ก็จะตอบ
    เจ้าจะร้องขอ และพระองค์จะพูดว่า ‘เราอยู่นี่’
ถ้าเจ้าขจัดแอกของการกดขี่ไปจากสังคมของเจ้า
    หยุดชี้หน้ากัน และหยุดพูดใส่ร้ายป้ายสีกัน
10 ถ้าเจ้าให้อาหารของเจ้ากับคนหิวโหย และช่วยคนที่ถูกข่มเหงจนไม่ขาดอะไรเลย
    เมื่อนั้นแสงสว่างของเจ้าก็จะส่องขึ้นมาในความมืด และความมืดสลัวของเจ้าก็จะกลายเป็นเที่ยงวัน
11 พระยาห์เวห์จะนำทางเจ้าอยู่เสมอ
    และพระองค์จะดูแลความต้องการของเจ้าแม้ในแผ่นดินที่แห้งแล้ง
    และพระองค์จะเสริมกำลังกระดูกของเจ้า
เจ้าก็จะเป็นเหมือนสวนที่ได้รับน้ำ
    เหมือนกับตาน้ำที่น้ำไม่เคยแห้ง
12 เจ้าก็จะสร้างเมืองที่ถูกทำลายไปในสมัยโบราณขึ้นใหม่
    เจ้าจะก่อเมืองขึ้นมาบนพวกรากฐานอันเก่าแก่ของคนรุ่นก่อนๆ
และจะมีคนเรียกเจ้าว่า ผู้ซ่อมช่องโหว่ของกำแพง
    และผู้ซ่อมถนนให้คนได้มาอยู่อาศัยอีก
13 ถ้าเจ้าไม่เดินทางไกลในวันหยุดทางศาสนา
    และไม่ทำงานในวันอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา
และถ้าเจ้าเรียกวันหยุดของเราว่าเป็นวันอันชื่นบานและเรียกวันอันศักดิ์สิทธิ์ของพระยาห์เวห์ว่าเป็นวันอันมีเกียรติ
และถ้าเจ้าให้เกียรติวันนั้น โดยไม่เดินทางไปทำการค้าขาย
    โดยไม่วิ่งไล่ตามผลประโยชน์ของตนและโดยไม่เจรจาตกลงเรื่องธุรกิจกัน
14 เมื่อนั้นเจ้าจะชื่นชมยินดีในพระยาห์เวห์
    และเราจะทำให้เจ้าขี่ข้ามภูเขาสูงทั้งปวงในโลกนี้
และเราจะเลี้ยงเจ้าจากแผ่นดินที่เราได้ยกให้กับยาโคบบรรพบุรุษของเจ้า”
    ปากของพระยาห์เวห์ได้พูดว่าอย่างนั้น

มัทธิว 6

เรื่องการให้

ระวังให้ดี อย่าทำความดีเพื่ออวดคนอื่น เพราะคุณจะไม่ได้รับรางวัลจากพระบิดาของคุณที่อยู่บนสวรรค์ เวลาที่คุณช่วยเหลือคนจน ก็อย่าไปทำเหมือนกับพวกหน้าซื่อใจคด[a] ที่ชอบเป่าแตรในที่ประชุม หรือตามท้องถนนเพื่อให้คนมาดูและชมเชยเขา เพราะจริงๆแล้ว เราจะบอกให้รู้ว่า พวกเขาก็ได้รับคำชมนั้นเป็นรางวัลไปเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อช่วยเหลือคนจน ก็อย่าให้มือซ้ายรู้ว่ามือขวาทำอะไร ดังนั้นเมื่อคุณช่วยเหลือคนจน ก็ให้ทำเป็นความลับ และพระบิดาของคุณผู้เห็นสิ่งที่คุณทำเป็นความลับนี้ ก็จะให้รางวัลกับคุณ

เรื่องการอธิษฐาน

(ลก. 11:2-4)

เวลาที่คุณอธิษฐาน ก็อย่าทำเหมือนพวกหน้าซื่อใจคดพวกนั้น ที่ชอบยืนอธิษฐานในที่ประชุม หรือตามท้องถนนเพื่ออวดให้คนอื่นเห็น เราจะบอกให้รู้ว่า พวกเขาได้รับรางวัลไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนคุณ เมื่ออธิษฐานก็ให้เข้าไปในห้อง ปิดประตูและอธิษฐานต่อพระบิดาที่มองไม่เห็นด้วยตา และพระองค์จะมองเห็นสิ่งที่คุณทำเป็นความลับนี้ และให้รางวัลกับคุณ

เมื่อคุณอธิษฐาน ก็อย่าพูดซ้ำซากไร้สาระเหมือนคนที่ไม่รู้จักพระเจ้าทำกัน เพราะพวกเขาคิดว่า ถ้าเขาพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก พวกเขาจะได้รับคำตอบจากการอธิษฐานนั้น อย่าทำเหมือนคนพวกนั้น เพราะพระบิดารู้ว่าคุณขาดอะไรก่อนที่คุณจะขอเสียอีก คุณควรจะอธิษฐานอย่างนี้ว่า

‘พระบิดาของเราที่อยู่บนสวรรค์
    ขอให้ชื่อของพระองค์เป็นที่เคารพนับถืออยู่เสมอ
10 ขอให้อาณาจักรของพระองค์มาตั้งอยู่ในโลกนี้
    ขอให้คนในโลกนี้ทำตามใจพระองค์ เหมือนอย่างที่เป็นในสวรรค์
11 โปรดให้พวกเรามีอาหารกินในทุกๆวัน
12 และโปรดยกโทษให้กับความบาปของพวกเรา
    เหมือนกับที่พวกเรายกโทษให้กับคนอื่นที่ทำบาปต่อเรา
13 อย่าปล่อยให้เราแพ้ต่อการยั่วยวน
    แต่ขอช่วยเหลือพวกเราให้พ้นจากสิ่งชั่วร้าย[b][c]

14 ถ้าคุณยกโทษให้กับคนที่ทำบาปต่อคุณ พระบิดาของคุณที่อยู่บนสวรรค์ ก็จะยกโทษให้คุณด้วย 15 แต่ถ้าคุณไม่ยอมยกโทษให้คนอื่น พระบิดาของคุณก็จะไม่ยกโทษให้กับบาปของคุณเหมือนกัน

เรื่องการอดอาหาร

16 เมื่อคุณอดอาหารก็ไม่ต้องทำหน้าเศร้าเหมือนไอ้พวกหน้าซื่อใจคดทำกัน เพื่อให้คนเห็นว่าเขาอดอาหารอยู่ เราจะบอกให้รู้ว่า พวกเขาได้รับรางวัลของพวกเขาอย่างครบถ้วนแล้ว 17 แต่เมื่อคุณอดอาหาร ขอให้ล้างหน้าล้างตาให้แจ่มใส และใส่น้ำมันผม 18 จะได้ไม่มีใครรู้ว่าคุณกำลังอดอาหารอยู่ แต่พระบิดาของคุณที่มนุษย์มองไม่เห็น จะเห็นคุณโดยที่คุณไม่รู้และให้รางวัลกับคุณ

พระเจ้าสำคัญกว่าทรัพย์สินเงินทอง

(ลก. 12:33-34; 11:34-36; 16:13)

19 อย่าเก็บสะสมของมีค่าไว้ในโลกนี้ ซึ่งสนิมหรือแมลงทำลายได้ หรือที่ขโมยลักไปได้ 20 แต่ให้เก็บสะสมทรัพย์สมบัติไว้บนสวรรค์ ที่สนิมและแมลงไม่มีวันทำลายได้ หรือขโมยก็ลักเอาไปไม่ได้ 21 เพราะทรัพย์สมบัติของคุณอยู่ที่ไหน ใจของคุณก็จะอยู่ที่นั่นด้วย

22 ดวงตาเป็นตะเกียงของร่างกาย ถ้าดวงตาของคุณดี ร่างกายของคุณก็จะเต็มไปด้วยแสงสว่าง 23 แต่ถ้าดวงตาของคุณไม่ดี[d] ร่างกายของคุณก็จะเต็มไปด้วยความมืด และถ้าแสงสว่างในร่างกายของคุณกลายมาเป็นความมืด ความมืดนั้นจะน่ากลัวขนาดไหน

24 ไม่มีใครรับใช้นายสองนายได้ เพราะเขาจะเกลียดนายคนหนึ่ง และรักอีกคนหนึ่ง หรือไม่ก็จะทุ่มเทให้กับนายคนหนึ่ง และจะดูถูกนายอีกคนหนึ่ง คุณจะรับใช้พระเจ้าและเงินทองพร้อมๆกันไม่ได้หรอก

อย่ากังวล

(ลก. 12:22-34)

25 ดังนั้นเราขอบอกคุณว่า ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับชีวิตนี้ว่าจะมีอะไรกินอะไรดื่มไหม หรือเป็นห่วงร่างกายว่าจะมีอะไรสวมใส่ไหม เพราะชีวิตนั้นสำคัญยิ่งกว่าอาหารและร่างกายสำคัญยิ่งกว่าเสื้อผ้า 26 ดูนกที่บินอยู่ในอากาศสิ มันไม่ต้องหว่านหรือเก็บเกี่ยว หรือสะสมเมล็ดพืชไว้ในยุ้งฉาง แต่พระบิดาของคุณที่อยู่บนสวรรค์ก็ยังเลี้ยงดูพวกมันเลย แล้วพวกคุณมีค่ามากกว่านกพวกนั้นไม่ใช่หรือ 27 กังวลไปทำไม กังวลแล้วทำให้ชีวิตคุณยืดออกไปได้อีกสักชั่วโมงหรือเปล่าล่ะ 28 ถ้าอย่างนั้นจะไปกังวลเรื่องเสื้อผ้าทำไม ดูอย่างดอกไม้ป่าสิว่ามันโตได้ยังไง มันไม่ได้ทำงานและไม่ได้ปั่นด้ายเองแต่ก็ยังสวยกว่ากษัตริย์ซาโลมอนในชุดเต็มยศเสียอีก 29 เราจะบอกให้รู้ว่า แม้แต่กษัตริย์ซาโลมอนที่ร่ำรวยที่สุด ก็ยังแต่งตัวงดงามไม่เท่าดอกไม้พวกนี้สักดอก 30 ดูอย่างหญ้าในทุ่งสิ มันอยู่แค่วันนี้ พรุ่งนี้ก็ถูกเผาไฟแล้ว แต่พระเจ้ายังตกแต่งให้สวยถึงขนาดนี้ แล้วนับประสาอะไรกับพวกคุณเล่า พระองค์จะไม่ยิ่งตกแต่งให้มากกว่าทุ่งหญ้าหรือ พวกคุณนี่ช่างมีความเชื่อน้อยเสียจริงๆ 31 ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่า ‘จะมีอะไรกินไหม’ หรือ ‘จะมีอะไรดื่มไหม’ หรือ ‘จะมีอะไรใส่ไหม’ 32 พวกที่ไม่รู้จักพระเจ้าก็ดิ้นรนหาสิ่งเหล่านี้กัน แต่พระบิดาของคุณที่อยู่บนสวรรค์รู้อยู่แล้วว่าสิ่งเหล่านี้จำเป็นสำหรับคุณ 33 แต่ให้ดิ้นรนหาอาณาจักรของพระเจ้าและชีวิตที่ทำตามใจพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะให้สิ่งที่จำเป็นทั้งหมดนี้กับพวกคุณเอง 34 ดังนั้นไม่ต้องกังวลถึงวันพรุ่งนี้ เพราะพรุ่งนี้ก็มีเรื่องกังวลของมันอยู่แล้ว แต่ละวันก็มีปัญหามากพออยู่แล้วสำหรับวันนั้น

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International