M’Cheyne Bible Reading Plan
24 ถ้าชายคนไหนรับผู้หญิงมาและแต่งงานกับนาง ต่อมาเขาเริ่มไม่พอใจนาง เพราะเขาค้นพบว่านางได้ไปทำสิ่งที่น่ารังเกียจ[a] และถ้าเขาเขียนใบหย่าให้กับนางและส่งนางออกจากบ้านเขาไป 2 นางก็ออกจากบ้านเขาและไปเป็นเมียของชายคนอื่น 3 และถ้าสามีคนใหม่ก็ไม่ชอบนางเหมือนกัน และเขียนใบหย่าให้กับนางและส่งนางออกจากบ้านเขาไป หรือถ้าสามีคนใหม่ตาย 4 สามีคนแรกที่ส่งนางออกไปจากบ้านนั้น จะรับนางกลับไปเป็นเมียอีกไม่ได้แล้ว เพราะนางกลายเป็นคนที่ไม่บริสุทธิ์สำหรับเขาแล้ว เพราะพระยาห์เวห์เกลียดการกระทำนี้ และท่านต้องไม่นำบาปเข้ามาบนแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้กับท่านไว้เป็นเจ้าของ
5 เมื่อผู้ชายแต่งงานใหม่ๆ เขาต้องไม่ออกไปทำสงคราม และต้องไม่ให้งานอื่นๆกับเขาทำด้วย เขาจะอยู่บ้านไม่ต้องทำอะไรเป็นเวลาหนึ่งปี และทำให้เมียที่เขาเพิ่งแต่งงานด้วยมีความสุข
6 ถ้าท่านให้ใครกู้ยืม ห้ามเอาโม่หินหรือแม้แต่หินก้อนบนของโม่นั้นเป็นเครื่องค้ำประกัน เพราะเป็นการเอาของที่สำคัญต่อชีวิตมาเป็นของค้ำประกัน[b]
7 ถ้าเจอว่าใครไปลักพาตัวพี่น้องชาวอิสราเอลของเขาเอง แล้วทำให้เขากลายเป็นทาสหรือขายเขาไป คนที่ลักพาตัวนั้นต้องถูกฆ่าตาย ท่านต้องขจัดสิ่งชั่วร้ายไปจากท่ามกลางพวกท่าน
8 ระวังให้ดี ในเรื่องเกี่ยวกับโรคผิวหนังร้ายแรง ให้ทำตามคำสั่งของนักบวชอย่างระมัดระวัง พวกท่านต้องทำตามสิ่งที่เราได้สั่งพวกเขาไว้อย่างระมัดระวัง 9 จำสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ทำกับมิเรียม[c] ในช่วงการเดินทางหลังจากที่พวกท่านออกมาจากอียิปต์
10 เมื่อท่านให้เพื่อนบ้านกู้ยืมอะไรก็แล้วแต่ ท่านต้องไม่เข้าไปหยิบของค้ำประกันในบ้านเขา 11 ท่านต้องยืนรออยู่ข้างนอก และชายคนที่กู้ยืมจากท่านจะเอาของค้ำประกันออกมาให้กับท่านนอกบ้าน 12 ถ้าคนกู้ยืมนั้นยากจน ท่านต้องไม่เก็บเสื้อคลุมของเขาข้ามคืน เสื้อคลุมที่เขาเอามาให้กับท่านเป็นของค้ำประกัน 13 ท่านต้องคืนเสื้อคลุมนั้นให้เขาเมื่อดวงอาทิตย์ตกดิน เขาจะได้ใส่นอน แล้วเขาจะอวยพรท่าน พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านก็จะยอมรับในการกระทำของท่านว่าถูกต้อง
14 ท่านต้องไม่โกงคนงานรับจ้างที่ยากจนและเดือดร้อน ไม่ว่าเขาจะเป็นพี่น้องชาวอิสราเอลของท่านหรือชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในเมืองใดเมืองหนึ่งในดินแดนของท่าน 15 ท่านต้องจ่ายค่าจ้างให้เขาในแต่ละวันก่อนดวงอาทิตย์ตกดิน เพราะเขายากจนและเขาต้องการค่าจ้างนั้น ไม่อย่างนั้นเขาจะมาฟ้องร้องท่านกับพระยาห์เวห์ ท่านก็จะมีความผิดจากบาป
16 ต้องไม่ฆ่าพ่อแม่แทนลูกๆและต้องไม่ฆ่าลูกๆแทนพ่อแม่ บาปของใครของมัน คนไหนทำบาปคนนั้นก็ต้องถูกฆ่า 17 ท่านต้องไม่ตัดสินคนต่างชาติหรือเด็กกำพร้าที่อยู่ท่ามกลางพวกท่านอย่างไม่ยุติธรรม ท่านต้องไม่รับเสื้อผ้าของแม่หม้ายเป็นของค้ำประกัน 18 ท่านต้องจำไว้ว่าท่านก็เคยเป็นทาสในแผ่นดินอียิปต์มาก่อน และพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ปลดปล่อยท่านจากที่นั่น นั่นเป็นเหตุที่เราถึงได้สั่งให้ท่านทำอย่างนี้
19 เมื่อท่านรวบรวมพืชผลในท้องทุ่งของท่าน และท่านลืมฟ่อนข้าวไว้ฟ่อนหนึ่งในทุ่ง ท่านต้องไม่กลับไปเอา ทิ้งมันไว้ตรงนั้นสำหรับชาวต่างชาติ เด็กกำพร้าหรือแม่หม้าย เพื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะได้อวยพรท่านในทุกสิ่งที่ท่านทำ 20 เมื่อท่านตีกิ่งมะกอกเพื่อเอาผลของมัน ท่านต้องไม่กลับไปตีกิ่งมันซ้ำอีก ผลมะกอกที่คาอยู่บนต้นจะเก็บไว้ให้ชาวต่างชาติ เด็กกำพร้าและแม่หม้าย 21 เมื่อท่านเก็บองุ่นจากไร่ อย่ากลับไปเก็บองุ่นที่คาอยู่บนต้น เหลือมันไว้ให้ชาวต่างชาติ เด็กกำพร้าและแม่หม้าย 22 จำไว้ว่าท่านก็เคยเป็นทาสในแผ่นดินอียิปต์ นั่นเป็นเหตุที่เราถึงได้สั่งให้ท่านทำอย่างนี้
การอัศจรรย์ของพระยาห์เวห์ตอนนำอิสราเอลออกจากอียิปต์
1 เมื่อคนอิสราเอลออกมาจากแผ่นดินอียิปต์
เมื่อครอบครัวของยาโคบออกมาจากดินแดนต่างชาตินั้น
2 ยูดาห์ก็กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
และอิสราเอลก็กลายเป็นอาณาจักรของพระองค์
3 ทะเลเห็นพวกเขา และวิ่งหนีไป
ส่วนแม่น้ำจอร์แดนก็หันกลับไป
4 ส่วนพวกภูเขาก็โลดเต้น ราวกับพวกแกะตัวผู้
พวกเนินเขาก็กระโดดโลดเต้น ราวกับพวกลูกแกะ
5 ทะเลเอ๋ย เกิดอะไรขึ้น เจ้าถึงต้องวิ่งหนีไป
แม่น้ำจอร์แดนเอ๋ย เกิดอะไรขึ้น เจ้าถึงต้องหันกลับไป
6 พวกภูเขาเอ๋ย ทำไมพวกเจ้าถึงโลดเต้น
ราวกับพวกแกะตัวผู้
พวกเนินเขาเอ๋ย ทำไมพวกเจ้าถึงโลดเต้น
ราวกับพวกลูกแกะ
7 แผ่นดินโลกเอ๋ย ให้สั่นคลอนอยู่ต่อหน้าองค์เจ้าชีวิต
ต่อหน้าพระเจ้าของยาโคบ
8 พระองค์คือผู้ที่เปลี่ยนหินให้กลายเป็นสระน้ำ
พระองค์เปลี่ยนหินผาให้กลายเป็นตาน้ำ
ไว้วางใจในพระยาห์เวห์ไม่ใช่ในรูปเคารพ
1 ข้าแต่พระยาห์เวห์ อย่าให้เกียรติกับพวกเราเลย เกียรตินั้นเป็นของพระองค์แต่เพียงผู้เดียว
เพราะพระองค์มีความรักมั่นคงและมีความสัตย์ซื่อ
2 คนต่างชาติพวกนั้น พูดกันได้ยังไงว่า
“พระเจ้าของพวกมันอยู่ที่ไหน”
3 พระเจ้าของเราอยู่ในสวรรค์
และพระองค์อยากจะทำอะไรพระองค์ก็จะทำอย่างนั้น
4 แต่พวกพระเจ้าของชนชาติต่างๆนั้นสิ
เป็นแค่รูปปั้นทองและเงิน เป็นแค่ฝีมือมนุษย์
5 พวกรูปปั้นนั้น
มีปากแต่พูดไม่ได้ มีตาแต่มองไม่เห็น
6 มีหูแต่ฟังไม่ได้
มีจมูกแต่ดมกลิ่นไม่ได้
7 มีมือแต่รู้สึกไม่ได้ มีเท้าแต่เดินไม่ได้
และไม่มีเสียงออกมาจากลำคอของพวกมัน
8 คนเหล่านั้นที่สร้างพวกรูปปั้นนั้น ในที่สุดก็จะเป็นอย่างรูปปั้นนั้น
คนเหล่านั้นที่ไว้วางใจในพวกรูปปั้นนั้น ก็จะจบลงอย่างนั้นเหมือนกัน
9 อิสราเอลเอ๋ย ฝากความไว้วางใจในพระยาห์เวห์เถิด
พระองค์เป็นผู้ช่วยและโล่ของเจ้า
10 ครอบครัวอาโรนเอ๋ย ฝากความไว้วางใจในพระยาห์เวห์เถิด
พระองค์เป็นผู้ช่วยและโล่ของเจ้า
11 พวกที่ยำเกรงพระยาห์เวห์เอ๋ย ฝากความไว้วางใจในพระยาห์เวห์เถิด
พระองค์เป็นผู้ช่วยและโล่ของเจ้า
12 พระยาห์เวห์ระลึกถึงพวกเรา พระองค์จะอวยพรเรา
พระองค์จะอวยพรครอบครัวของอิสราเอล
พระองค์จะอวยพรครอบครัวของอาโรน
13 พระยาห์เวห์จะอวยพรพวกนั้นที่ยำเกรงพระองค์
ตั้งแต่คนต่ำต้อยที่สุดไปถึงคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
14 ขอให้พระยาห์เวห์ทำให้พวกเจ้าเพิ่มพูน
ทั้งพวกเจ้าและลูกหลานของเจ้า
15 ขอให้พวกเจ้าได้รับพระพรจากพระยาห์เวห์ ผู้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
16 ฟ้าสวรรค์เป็นของพระยาห์เวห์
แต่พระองค์มอบแผ่นดินโลกให้กับพวกเราที่เป็นมนุษย์
17 คนตายแล้ว จะไม่สรรเสริญพระยาห์เวห์
คือทุกคนที่ล่วงลงสู่โลกแห่งความเงียบนั้น
18 แต่พวกเราจะสรรเสริญพระยาห์เวห์ตั้งแต่เดี๋ยวนี้ ไปจนตลอดกาล
สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
พระยาห์เวห์จะช่วยกู้คนของพระองค์อีกครั้ง
51 พระยาห์เวห์พูดว่า “ฟังเราให้ดี พวกเจ้าที่พยายามทำในสิ่งที่ถูกต้อง
พวกเจ้าที่แสวงหาพระยาห์เวห์
ให้ดูหินนั้น ที่เจ้าถูกสกัดออกมาสิ
ให้ดูบ่อหินนั้น ที่เจ้าถูกขุดออกมา
2 มองดู อับราฮัมบรรพบุรุษของพวกเจ้าและซาราห์คนที่คลอดเจ้ามาสิ
ตอนที่เราเรียกอับราฮัมนั้น เขายังอยู่ตัวคนเดียวเลย
แต่เราได้อวยพรเขา และทำให้เขามีลูกมากมาย”
3 พระยาห์เวห์จะปลอบโยนศิโยน
พระองค์จะมองพวกตึกที่พังทลายพวกนั้นของเธอ ด้วยความเห็นอกเห็นใจ
พระองค์จะทำให้ที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งของเธอกลายเป็นสวนเอเดน
พระองค์จะทำให้ทะเลทรายของเธอเป็นเหมือนสวนของพระยาห์เวห์
ที่นั่นจะเต็มไปด้วยความสุขและการเฉลิมฉลองกัน
พวกเขาจะขอบพระคุณและร้องเพลงสรรเสริญ
4 พระยาห์เวห์พูดว่า “คนของเราเอ๋ย ฟังเราให้ดี
ชนชาติของเราเอ๋ย ตั้งใจฟังเราให้ดี เพราะเราจะให้คำสั่งสอน
และความยุติธรรมของเราจะส่องสว่างออกไปให้กับชนชาติต่างๆ
5 ชัยชนะของเรากำลังเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว
ความรอดที่มาจากเรากำลังเดินทางมาแล้ว ฤทธิ์อำนาจของเราจะนำความยุติธรรมมาให้กับชนชาติต่างๆ
แผ่นดินแถบชายฝั่งทะเลและหมู่เกาะต่างๆกำลังเฝ้าคอยเรา
พวกเขาฝากความหวังไว้กับฤทธิ์อำนาจของเรา
6 เงยหน้าเงยตาขึ้นไปมองบนท้องฟ้าสิ
มองลงไปยังโลกเบื้องล่าง
ให้รู้ว่าท้องฟ้าจะสูญหายไปเหมือนควัน
โลกจะเปื่อยยุ่ยไปเหมือนเสื้อผ้า
และคนที่อาศัยอยู่บนโลกก็จะตายเหมือนแมลงวัน
แต่ความรอดของเราจะอยู่ตลอดไป
และการช่วยกู้อันยุติธรรมของเราจะไม่มีวันแตกสลายไป
7 ฟังเราให้ดี พวกเจ้าที่รู้ว่าอะไรถูกต้อง
พวกเจ้าที่เก็บคำสั่งสอนของเราไว้ในใจ
ไม่ต้องไปกลัวคำพูดเหยียดหยามของคนอื่น
ไม่ต้องไปวุ่นวายใจกับคำดูถูกทั้งหลายของเขา
8 เพราะพวกตัวมอดจะกัดกินพวกเขาเหมือนเสื้อผ้า
และพวกตัวแมลงจะกัดกินพวกเขาเหมือนผ้าขนแกะ
แต่การช่วยกู้อันยุติธรรมของเราจะอยู่ตลอดไป
และความรอดของเราจะอยู่ชั่วลูกชั่วหลาน”
พลังของพระยาห์เวห์เองจะช่วยกู้คนของพระองค์
9 ตื่นเถิด ตื่นเถิด พระยาห์เวห์เจ้าข้า สวมพลังไว้
ใช้พละกำลังของพระองค์เถิด[a]
ตื่นขึ้นเหมือนกับในสมัยก่อนนานมาแล้ว
เป็นพระองค์ไม่ใช่หรือ ที่ตัดราหับเป็นชิ้นๆ[b]
เป็นพระองค์ไม่ใช่หรือ ที่แทงมังกรทะลุไป[c]
10 เป็นพระองค์ไม่ใช่หรือ ที่ทำให้ทะเลแห้งไป
คือทำให้น้ำในมหาสมุทรที่ยิ่งใหญ่แห้งไป
เป็นพระองค์ไม่ใช่หรือ ที่ทำให้ส่วนลึกที่สุดของทะเล
กลายเป็นทางให้กับคนที่พระองค์ไถ่ให้เป็นอิสระเดินข้ามไป
11 คนที่พระยาห์เวห์ได้ไถ่ให้เป็นอิสระ
แล้วจะกลับมาที่ศิโยนด้วยเสียงโห่ร้องดีใจ
ความสุขจะสวมอยู่บนหัวของพวกเขาตลอดไป
ความชื่นชมยินดีก็จะท่วมท้นพวกเขา
ความเศร้าโศกและการครวญครางจะวิ่งหนีไปจากพวกเขา
12 พระยาห์เวห์พูดว่า “เรา คือเราเองเป็นผู้ที่ปลอบโยนพวกเจ้า
เยรูซาเล็ม ทำไมเจ้าถึงได้กลัวมนุษย์ที่จะต้องตาย
คือคนที่ถูกสร้างเป็นเหมือนหญ้า
13 ทำไมเจ้าถึงได้ลืมพระยาห์เวห์ผู้ที่สร้างเจ้ามา
ผู้ที่กางแผ่นฟ้าออก
ผู้ที่วางรากฐานของโลก
ทำไมเจ้าถึงได้หวาดกลัวคนพวกนั้นอยู่เรื่อยทั้งวัน คือพวกที่โกรธแค้นและข่มเหงเจ้า
พวกที่ตั้งใจจะทำลายเจ้า
แล้วตอนนี้ พวกที่โกรธแค้นและที่เคยข่มเหงเจ้าหายไปไหนกันหมดแล้ว
14 คนพวกนั้นที่ถูกข่มเหงในคุกจะได้รับการปลดปล่อยในไม่ช้า
พวกเขาจะไม่ตายในคุกใต้ดินหรอก
และพวกเขาก็จะไม่ขาดอาหาร
15 เราคือยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้า
เราเป็นผู้ที่ทำให้ทะเลสงบลงตอนที่เกิดคลื่นคะนอง
ชื่อของเราคือยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น”
16 “อิสราเอลเอ๋ย เราได้ใส่คำพูดของเราไว้ในปากของเจ้า
เราได้ซ่อนและปกป้องเจ้าไว้ใต้มือของเรา
เราคือผู้ที่กางท้องฟ้าออกและวางรากฐานของโลก
เราพูดกับศิโยนว่า ‘เจ้าเป็นชนชาติของเรา’”
ถึงตาคนอื่นถูกลงโทษแล้ว
17 เยรูซาเล็มเอ๋ย ตื่นเถิด ตื่นเถิด ลุกขึ้นเถิด
ตอนนั้นพระยาห์เวห์โกรธเจ้ามาก พระองค์ถึงได้ลงโทษเจ้า
เจ้าได้ดื่มจากถ้วยในมือของพระยาห์เวห์ เป็นถ้วยแห่งความโกรธแค้นของพระองค์
เจ้าได้ดื่มเข้าไปจนหมดถ้วย ถ้วยที่ทำให้ผู้คนต้องเมาโซเซ
18 จากลูกมากมายที่เยรูซาเล็มคลอด
ไม่เหลือซักคนที่นั่นที่จะนำทางเธอ
จากลูกมากมายที่เธอเลี้ยงจนเติบโตขึ้นมา
ไม่เหลือซักคนที่นั่นที่จะจูงมือเธอ
19 มีสองสิ่งที่ได้เกิดขึ้นกับเจ้าคือแผ่นดินได้ถูกล้างผลาญและพินาศไป
แล้วคนก็ตายจากกันดารอาหารและสงคราม
ไม่เหลือใครที่จะไว้ทุกข์ให้กับเจ้า
ไม่เหลือใครที่จะปลอบโยนเจ้า
20 ลูกๆของเจ้าได้เป็นลมไป
พวกเขาก็นอนอยู่ตามทุกหัวถนนเหมือนกับกวางที่ติดตาข่าย
ความโกรธแค้นของพระยาห์เวห์ตกบนพวกเขาอย่างเต็มที่
พวกเขาได้ยินพระเจ้าของเจ้าตะคอกใส่พวกเขา
21 ดังนั้น ฟังสิ่งนี้ไว้ให้ดี เจ้าที่ทนทุกข์ทรมาน
เจ้าที่เมา แต่ไม่ได้เมาด้วยเหล้าองุ่น
22 พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตของเจ้า
พระเจ้าของเจ้าที่ต่อสู้คดีให้กับคนของพระองค์
พูดว่าอย่างนี้ “เห็นไหม เราได้เอาถ้วยที่ทำให้ผู้คนเมาโซเซไปจากมือของเจ้าแล้ว
เจ้าจะไม่ต้องดื่มจากชามแห่งความโกรธแค้นของเราอีกแล้ว[d]
23 เราจะเอาถ้วยนั้นไปใส่ไว้ในมือของคนพวกนั้นที่เคยทรมานเจ้า
คนที่เคยสั่งเจ้าว่า ‘ก้มลงกับพื้น เราจะเหยียบเจ้าไป’
ในตอนนั้นเจ้าต้องยอมให้หลังของเจ้าเป็นเหมือนพื้น
และเป็นเหมือนถนน ให้พวกเขาเดินเหยียบย่ำไป”
เมืองเยรูซาเล็มแห่งใหม่
21 หลังจากนั้น ผมเห็นสวรรค์และโลกใหม่ เพราะสวรรค์และโลกแห่งแรกหายไปแล้ว และไม่มีทะเลอีกต่อไป 2 ผมเห็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งก็คือเมืองเยรูซาเล็มแห่งใหม่[a] กำลังลงจากสวรรค์และมาจากพระเจ้า เมืองนี้ได้เตรียมไว้พร้อมแล้ว เหมือนกับเจ้าสาวที่แต่งตัวสวยงามรอสามีของเธอ 3 ผมได้ยินเสียงอันดังจากบัลลังก์พูดว่า “ดูนั่นสิ บ้านของพระเจ้าก็อยู่กับมนุษย์แล้ว พระองค์จะอยู่กับพวกเขา และพวกเขาจะเป็นของพระองค์ พระเจ้าเองก็อยู่กับพวกเขา และเป็นพระเจ้าของพวกเขาด้วย 4 พระเจ้าจะเช็ดน้ำตาทุกหยดของเขา แล้วจะไม่มีความตาย ความเศร้าโศก การร้องไห้หรือความเจ็บปวดอีกต่อไป เพราะสิ่งเก่าๆที่เคยเป็นมาได้ผ่านพ้นไปแล้ว”
5 หลังจากนั้นผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์พูดว่า “โอ้โหดูสิ เรากำลังสร้างทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นมาใหม่” พระองค์พูดอีกว่า “เขียนเรื่องนี้ไว้ เพราะคำพูดเหล่านี้เชื่อถือได้และเป็นความจริง”
6 แล้วพระองค์พูดกับผมว่า “มันสำเร็จแล้ว เราคืออัลฟาและโอเมกา[b] เป็นจุดเริ่มต้นและจุดจบ ใครที่กระหาย เราก็จะให้น้ำดื่มจากแหล่งน้ำแห่งชีวิต โดยไม่ต้องจ่ายอะไรเลย 7 คนที่ได้รับชัยชนะจะเป็นคนที่ได้รับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด เราจะเป็นพระเจ้าของเขาและเขาจะเป็นลูกของเรา 8 แต่คนที่ขี้ขลาดตาขาว คนที่ทิ้งความเชื่อไป คนที่ทำสิ่งเลวร้าย คนที่ฆ่าคน คนที่ทำผิดทางเพศ คนที่ใช้เวทมนตร์คาถา คนที่กราบไหว้รูปปั้น และคนที่โกหกนั้นจะอยู่ในบึงไฟกำมะถันที่ลุกโชน นั่นจะเป็นความตายครั้งที่สอง”
9 มีทูตสวรรค์เจ็ดองค์ถือขันเจ็ดใบที่เต็มไปด้วยภัยพิบัติสุดท้ายเจ็ดอย่าง แล้วองค์หนึ่งพูดกับผมว่า “มานี่สิ เราจะให้คุณเห็นเจ้าสาวของลูกแกะ” 10 ในขณะที่พระวิญญาณครอบงำผมนั้น ทูตสวรรค์ได้พาผมไปยังภูเขาที่สูงและใหญ่มาก และให้ผมดูเมืองเยรูซาเล็มอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งกำลังลงมาจากสวรรค์และมาจากพระเจ้า 11 เมืองนั้นสว่างไสวด้วยรัศมีของพระเจ้า ซึ่งความสว่างไสวนั้นเหมือนกับเพชรพลอย ที่มีราคาแพงมากและเหมือนพลอยสีเขียวสดใสดั่งแก้วเจียระไน 12 เมืองนั้นมีกำแพงสูงใหญ่ที่มีประตูอยู่สิบสองบาน แต่ละบานมีทูตสวรรค์ยืนเฝ้าอยู่หนึ่งองค์ และแต่ละประตูก็มีชื่อหนึ่งจากสิบสองเผ่าของชนชาติอิสราเอลเขียนไว้ 13 แต่ละทิศมีประตูอยู่สามบาน ทั้งทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก 14 กำแพงเมืองถูกสร้างอยู่บนฐานหินสิบสองอัน และบนฐานหินแต่ละอันนั้นมีชื่อของศิษย์เอกแต่ละคนในสิบสองคนของลูกแกะเขียนอยู่
15 ทูตสวรรค์องค์ที่พูดกับผมมีไม้วัดซึ่งทำด้วยทองคำ เพื่อที่จะเอาไว้วัดขนาดของเมือง ประตู และกำแพงต่างๆ 16 เมืองนั้นถูกสร้างเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ซึ่งมีความยาวเท่ากับความกว้าง ทูตองค์นั้นจึงได้เอาไม้วัดทำการวัดขนาดของเมือง ซึ่งวัดความกว้าง ความยาวและความสูงได้เท่ากันหมด คือสองพันสองร้อยกิโลเมตร[c] 17 ทูตสวรรค์องค์นั้นยังวัดขนาดของกำแพง ซึ่งวัดได้หนาหกสิบห้าเมตร[d] หน่วยวัดที่ทูตสวรรค์ใช้นั้น เป็นหน่วยวัดแบบเดียวกับที่มนุษย์ใช้ 18 กำแพงนั้นสร้างขึ้นจากหินจำพวกโมรา และตัวเมืองนั้นทำจากทองคำบริสุทธิ์ ซึ่งสว่างไสวเหมือนแก้วเจียระไน 19 ฐานหินสิบสองฐานของกำแพงเมือง ทำด้วยเพชรพลอยต่างๆ ฐานที่หนึ่งเป็นหินจำพวกโมรา ฐานที่สองเป็นพลอยสีน้ำเงิน ฐานที่สามเป็นหินควอตซ์โปร่งใสมีหลายสี ฐานที่สี่เป็นมรกต 20 ฐานที่ห้าเป็นหินควอตซ์ชนิดหนึ่งมีแถบสีขนานสลับกัน ฐานที่หกเป็นพลอยสีแดงจำพวกโกเมน ฐานที่เจ็ดเป็นควอทซ์สีเหลือง ฐานที่แปดเป็นนิลสีน้ำเงินเขียว ฐานที่เก้าเป็นบุษราคัมสีเหลืองน้ำตาล ฐานที่สิบเป็นคริสโซเฟรสซึ่งเป็นพลอยเขียวชนิดหนึ่ง ฐานที่สิบเอ็ดเป็นโกเมนสีส้มอมแดง และฐานที่สิบสองเป็นอเมธิสสีม่วง 21 ประตูทั้งสิบสองประตูนั้นทำด้วยไข่มุกสิบสองเม็ด ประตูละเม็ด ถนนของเมืองทำจากทองคำบริสุทธิ์ซึ่งใสเหมือนแก้ว
22 ผมไม่เห็นวิหารในเมืองนั้นเลย เพราะองค์เจ้าชีวิต พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น และลูกแกะก็คือวิหารนั่นเอง 23 เมืองนี้ไม่จำเป็นต้องอาศัยแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ หรือดวงจันทร์ เพราะรัศมีของพระเจ้าทำให้เมืองนี้สว่าง และลูกแกะคือตะเกียงของเมืองนี้ 24 ทุกชนชาติก็จะเดินโดยใช้แสงจากตะเกียงนั้น และพวกกษัตริย์บนโลก จะนำเอาศักดิ์ศรีของตนเข้ามาสู่เมืองนั้น 25 ประตูเมืองจะเปิดตลอดเวลาไม่มีวันปิด เพราะไม่มีกลางคืนในเมืองนั้น 26 ชนชาติต่างๆจะนำทรัพย์สมบัติและความมั่งคั่งของเขาเข้ามาสู่เมืองนั้น 27 สิ่งที่ไม่บริสุทธิ์จะไม่สามารถเล็ดลอดเข้าไปได้เลย รวมทั้งคนที่ทำสิ่งน่าอายหรือพูดโกหกด้วย คนที่จะเข้าไปได้จะต้องเป็นคนที่มีรายชื่อจดอยู่ในสมุดแห่งชีวิตของลูกแกะเท่านั้น
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International