M’Cheyne Bible Reading Plan
สถานที่สำหรับนมัสการพระเจ้า
12 นี่คือกฎและข้อบังคับที่พวกท่านต้องทำตามอย่างระมัดระวังในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษท่านได้ยกให้กับท่าน ท่านต้องทำตามกฎเหล่านั้นตราบเท่าที่พวกท่านยังอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้น 2 เมื่อพวกท่านยึดเอาแผ่นดินของชนชาติเหล่านี้มาได้แล้ว พวกท่านต้องทำลายสถานที่ทุกแห่งที่พวกเขาใช้นมัสการพระต่างๆของพวกเขาให้หมดเกลี้ยง ตามภูเขาสูง ตามเนินเขาและตามใต้ต้นไม้ทุกต้น 3 พวกท่านต้องรื้อแท่นบูชาต่างๆของพวกเขาทิ้งให้หมด พวกท่านต้องทุบเสา[a]หินศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาให้แตกเป็นชิ้นๆ พวกท่านต้องเผาเสาเจ้าแม่อาเชราห์ของพวกเขา และต้องตัดพวกรูปปั้นพระต่างๆของพวกเขาให้เป็นชิ้นๆ เพื่อจะได้ลบชื่อของพระเทียมเท็จเหล่านั้นให้หมดไปจากสถานที่นั้น
4 พวกท่านต้องไม่นมัสการพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านแบบเดียวกับที่คนพวกนั้นเขาทำกัน 5 แต่พวกท่านต้องไปยังสถานที่แห่งหนึ่งที่พระยาห์เวห์จะเลือกออกมาจากท่ามกลางเผ่าทั้งหลายของพวกท่าน พระองค์จะสถิตอยู่ที่นั่นเหมือนบ้านของพระองค์ และท่านต้องไปนมัสการพระองค์ที่นั่น 6 ท่านต้องเอาเครื่องเผาบูชา เครื่องสัตวบูชา พืชผลและสัตว์ต่างๆหนึ่งในสิบส่วนจากของที่ท่านหามาได้ รวมทั้งให้เอาของขวัญพิเศษ[b] ของแก้บนที่ท่านเคยบนไว้กับพระยาห์เวห์ เครื่องบูชาตามความสมัครใจ และลูกตัวแรกจากฝูงวัวและฝูงแพะแกะของพวกท่าน ไปในสถานที่นั้นด้วย 7 ท่านและครอบครัวของท่านจะกินกันที่นั่นต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน พวกท่านจะยินดีกับสิ่งดีๆทั้งหมดที่พวกท่านได้ลงมือลงแรงทำไป เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้อวยพรท่าน
8 เมื่อถึงเวลานั้น พวกท่านต้องไม่นมัสการแบบเดียวกับที่พวกเรากำลังทำอยู่ในวันนี้ คือแต่ละคนก็ทำตามใจของตัวเอง 9 ที่เป็นอย่างนี้เพราะพวกท่านยังไม่ได้เข้าไปในสถานที่แห่งการพักผ่อนและแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้กับท่าน 10 แต่อีกไม่ช้าพวกท่านก็จะข้ามแม่น้ำจอร์แดนแล้ว พวกท่านจะได้อยู่ในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้กับท่าน พระองค์จะให้พวกท่านได้หยุดพักจากการสู้รบกับศัตรูทั้งหมดที่อยู่ล้อมรอบท่าน และพวกท่านจะอยู่อย่างปลอดภัย 11 แล้วพวกท่านต้องเอาทุกอย่างที่เราได้สั่งพวกท่านไว้ ไปยังสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์จะเลือกขึ้นมาสำหรับนมัสการพระองค์ คือท่านต้องเอาเครื่องเผาบูชา เครื่องสัตวบูชา พืชผลและสัตว์ต่างๆหนึ่งในสิบส่วนจากของที่ท่านหามาได้ รวมทั้งให้เอาของขวัญพิเศษ ของแก้บนที่ท่านเคยบนไว้กับพระยาห์เวห์ 12 ให้พวกท่านชื่นชมยินดีกันต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ทั้งพวกท่าน ลูกชายลูกสาวของพวกท่าน ทาสชายหญิงของพวกท่าน และชาวเลวี ในเมืองของพวกท่านด้วย เพราะพวกนี้ไม่มีส่วนแบ่งในที่ดินเหมือนกับพวกท่าน 13 ท่านต้องระวังให้ดี ที่จะไม่ถวายเครื่องเผาบูชาที่ไหนก็ได้ที่ท่านเห็น 14 แต่ให้เอาเครื่องเผาบูชาของท่านไปถวายในสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์จะเลือกออกมาจากท่ามกลางเผ่าใดเผ่าหนึ่งของท่าน และทุกอย่างที่เราได้สั่งท่านไว้ให้เอาไปทำที่นั่น
15 แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ท่านอยากจะฆ่าสัตว์ และเอาเนื้อมากินในเมืองหนึ่งเมืองใดของท่าน ท่านก็ทำได้ ตามขนาดที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอวยพรท่าน คนที่บริสุทธิ์และไม่บริสุทธิ์ทางพิธีกรรม ก็กินได้ทั้งนั้น เหมือนกินเนื้อทราย[c] หรือเนื้อกวาง 16 แต่ท่านต้องไม่กินเลือดของมัน ต้องเอาเลือดไปเททิ้งบนพื้นเหมือนเทน้ำ
17 ท่านต้องไม่กินของพวกนี้ในเมือง คือ พืชผลของท่านที่แบ่งออกมาหนึ่งในสิบ[d]ส่วน หรือเหล้าองุ่นใหม่หรือน้ำมัน ลูกสัตว์ตัวแรกทุกตัวที่เกิดจากฝูงวัวและฝูงแพะแกะของท่าน และของทุกอย่างที่ท่านได้บนไว้ว่าจะให้กับพระยาห์เวห์ เครื่องบูชาตามความสมัครใจของท่าน และของขวัญพิเศษของท่าน 18 ท่านจะต้องกินเครื่องบูชาเหล่านี้ต่อหน้าพระยาห์เวห์ในสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะเลือกไว้เท่านั้น ท่านต้องไปกินกันที่นั่นกับลูกชายลูกสาวของท่าน ทาสชายหญิงของท่าน และชาวเลวีที่อาศัยอยู่ในเมืองของท่าน ให้ชื่นชมยินดีอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ให้ชื่นชมยินดีกับสิ่งดีๆที่ท่านได้ลงมือทำลงไป 19 ระวังให้ดี อย่าลืมที่จะแบ่งอาหารนี้ให้กับชาวเลวี ตราบเท่าที่ท่านยังมีชีวิตอยู่บนแผ่นดินของท่านนั้น
20-21 เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ขยายเขตแดนของท่านตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้ ท่านอาจจะอยู่ไกลเกินไปจากสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์จะเลือกไว้สำหรับนมัสการพระองค์ แล้วท่านเกิดอยากจะกินเนื้อขึ้นมา ท่านก็กินเท่าไหร่ก็ได้ตามที่ท่านต้องการ ท่านสามารถฆ่าสัตว์จากฝูงวัวและฝูงแพะแกะที่พระยาห์เวห์ได้ให้ท่านไว้ ให้ทำตามวิธีที่เราได้สั่งท่านไว้แล้ว และท่านก็กินเท่าไหร่ก็ได้ตามที่ท่านต้องการในเมืองต่างๆของท่าน 22 ท่านสามารถที่จะกินมันได้เหมือนกับที่ท่านกินเนื้อทรายหรือเนื้อกวาง ทั้งคนที่บริสุทธิ์และไม่บริสุทธิ์ทางพิธีกรรม ก็กินได้เหมือนกันหมด 23 แต่ต้องให้แน่ใจว่าท่านจะไม่กินเลือด เพราะเลือดคือชีวิต ดังนั้นอย่าได้กินชีวิตพร้อมกับเนื้อสัตว์ 24 ท่านต้องไม่กินเลือดของมัน ท่านต้องเทเลือดของมันลงบนพื้นเหมือนเทน้ำ 25 ท่านต้องไม่กินเลือดของมันเพื่อท่านและลูกหลานของท่านจะได้เจริญรุ่งเรือง เพราะท่านจะต้องทำในสิ่งที่พระยาห์เวห์เห็นว่าถูกต้อง
26 แต่อย่างไรก็ตาม ท่านต้องเอาของขวัญศักดิ์สิทธิ์และของขวัญแก้บนของท่านไปยังสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์จะเลือกขึ้นมา 27 ท่านต้องถวายเครื่องเผาบูชาของท่าน รวมทั้งเนื้อสัตว์และเลือดบนแท่นบูชาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เลือดของเครื่องสัตวบูชาอื่นต้องถูกเทลงบนแท่นบูชาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน แต่ท่านกินเนื้อของมันได้ 28 ท่านต้องระมัดระวังที่จะรักษาและเชื่อฟังคำสั่งทั้งหมดนี้ที่เราให้กับท่านในวันนี้ เพื่อท่านและลูกหลานของท่านจะได้เจริญรุ่งเรืองตลอดไป เพราะท่านกำลังจะทำในสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเห็นว่าดีและถูกต้อง
29 เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทำลายชนชาติที่อยู่ต่อหน้าท่าน เป็นชนชาติที่ท่านกำลังจะเข้าไปขับไล่ และเมื่อท่านขับไล่พวกเขาออกไปแล้ว และท่านได้ตั้งรกรากอยู่ในแผ่นดินของพวกเขาแล้ว 30 ระวังให้ดี อย่าไปติดกับโดยไปลอกเลียนแบบพวกเขา หลังจากที่พวกเขาถูกทำลายไปต่อหน้าท่านแล้ว ระวังให้ดี อย่าไปถามเกี่ยวกับพระต่างๆของพวกเขา อย่าไปถามว่า ‘ชนชาตินี้เขาบูชาพวกพระของพวกเขายังไง เราจะได้ทำตาม’ 31 ท่านต้องไม่นมัสการพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านตามแบบพวกเขา เพราะพวกเขาได้ทำสิ่งชั่วร้ายทุกอย่างถวายให้กับพวกพระของพวกเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่พระยาห์เวห์เกลียดชัง พวกเขาถึงขนาดเผาลูกชายและลูกสาวเป็นเครื่องบูชายัญให้กับพวกพระของพวกเขา
32 พวกท่านต้องระวัง ให้ทำตามทุกสิ่งที่เรากำลังสั่งพวกท่าน ท่านต้องไม่เพิ่มอะไรเข้าไปหรือตัดอะไรออกไปจากนี้
พระยาห์เวห์เป็นกษัตริย์เหนือทุกสิ่ง
1 พระยาห์เวห์เป็นกษัตริย์
ขอให้แผ่นดินโลกชื่นชมยินดี ขอให้หมู่เกาะทั้งหลายเฉลิมฉลองกัน
2 หมู่เมฆและความมืดทึบอยู่ล้อมรอบพระองค์
ความยุติธรรมและความเป็นธรรมเป็นรากฐานแห่งบัลลังก์ของพระองค์
3 เปลวไฟนำอยู่เบื้องหน้าพระองค์
และเผาไหม้ศัตรูของพระองค์ทุกด้าน
4 สายฟ้าของพระองค์ทำให้โลกสว่างไสว
แผ่นดินโลกเห็นและสั่นเทิ้ม
5 ภูเขาก็หลอมละลายราวกับขี้ผึ้งอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์
ผู้เป็นองค์เจ้าชีวิตของแผ่นดินโลก
6 ฟ้าสวรรค์เล่าขานคุณความดีของพระองค์
และทุกชนชาติเห็นรัศมีของพระองค์
7 คนเหล่านั้นที่นมัสการรูปบูชาและภาคภูมิใจในรูปเคารพของเขาจะถูกทำให้อับอายขายหน้า
และพวกพระเจ้าทั้งหลายจะต้องก้มลงกราบพระองค์
8 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ศิโยนได้ยินพวกคำตัดสินต่างๆของพระองค์และเฉลิมฉลอง
หมู่บ้านทั้งหลายของยูดาห์ต่างชื่นชมยินดีด้วยเหมือนกัน
9 เพราะ พระยาห์เวห์เจ้าข้า พระองค์เป็นพระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุดเหนือแผ่นดินโลกทั้งสิ้น
พระองค์นั้นยิ่งใหญ่กว่าพระเจ้าทั้งปวงมากนัก
10 พวกเจ้าที่รักพระยาห์เวห์ ให้เกลียดชังความชั่วสิ
พระองค์ปกป้องชีวิตของคนที่จงรักภักดีต่อพระองค์
พระองค์ช่วยกู้เขาจากเงื้อมมือของคนชั่ว
11 แสงสว่างส่องลงมายังคนที่ทำสิ่งถูกต้อง
และคนใจซื่อตรงจะมีความสุข
12 พวกเจ้าคนดีทั้งหลาย ให้เฉลิมฉลองกันในพระยาห์เวห์
ให้สรรเสริญชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
ให้ทุกสิ่งทุกอย่างสรรเสริญพระยาห์เวห์
บทเพลงสดุดี
1 ร้องเพลงบทใหม่ให้กับพระยาห์เวห์เพราะพระองค์ทำสิ่งที่น่าทึ่งทั้งหลาย
มือขวาอันทรงฤทธิ์และแขนอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ได้นำชัยชนะมาสู่พระองค์
2 พระยาห์เวห์แสดงอำนาจในการช่วยกู้ของพระองค์
พระองค์ได้แสดงความยุติธรรมของพระองค์ให้ชนชาติต่างๆเห็น
3 พระองค์ระลึกถึงความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์ที่พระองค์มีต่ออิสราเอล
ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกต่างก็เห็นอำนาจในการช่วยกู้ของพระเจ้าของเรา
4 ชาวโลกทั้งหลายให้ตะโกนเรียกพระยาห์เวห์
ให้เปล่งเสียงออกมาเป็นเพลงแห่งความสุขและเล่นดนตรีกันเถิด
5 ให้เล่นดนตรีเพื่อเป็นเกียรติแด่พระยาห์เวห์
โดยใช้พิณและเครื่องดนตรีอื่นๆ
6 ให้เป่าปี่และแตรเขาสัตว์
ต่อหน้าพระยาห์เวห์ผู้เป็นกษัตริย์
7 ให้ท้องทะเลและทุกชีวิตในทะเลนั้นร้องคำราม
ให้แผ่นดินโลกและทุกชีวิตบนโลกนั้นโห่ร้อง
8 ให้แม่น้ำทั้งหลายปรบมือ
ให้ภูเขาทั้งหลายเต้นรำด้วยความยินดีต่อหน้าพระยาห์เวห์
9 พระองค์กำลังมาตัดสินแผ่นดินโลกนี้ พระองค์จะตัดสินโลกนี้อย่างยุติธรรม
และตัดสินชนชาติต่างๆอย่างเป็นธรรม
การลงโทษของอิสราเอลจะสิ้นสุดลง
40 พระเจ้าของพวกเจ้าพูดว่า
“ให้ปลอบโยน ให้ปลอบโยนชนชาติของเรา
2 ให้พูดกับคนเยรูซาเล็มอย่างอ่อนโยน
และให้บอกกับเธอว่าการเป็นทาสรับใช้ของเธอนั้นได้สิ้นสุดลงแล้ว
เธอได้ใช้หนี้บาปของเธอแล้ว
พระยาห์เวห์ได้ลงโทษเธอเป็นสองเท่าแล้วสำหรับบาปทั้งหมดของเธอ”
3 มีเสียงหนึ่งร้องว่า
“ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง ให้เตรียมทางสำหรับพระยาห์เวห์
ให้สร้างทางหลวงให้ตรงไปให้กับพระเจ้าของเราในทะเลทราย
4 ทุกๆหุบเขาจะถูกถมให้สูงขึ้น
ทุกๆภูเขาและเนินเขาจะถูกปราบให้แบนราบลง
พื้นที่ลุ่มๆดอนๆจะเสมอกันไปหมด
พื้นที่ที่ขรุขระจะราบเรียบ
5 แล้วสง่าราศีของพระยาห์เวห์ก็จะถูกเปิดเผยออกมา
และมนุษย์ทุกคนก็จะได้เห็นมันพร้อมๆกัน
เพราะปากของพระยาห์เวห์ได้ลั่นวาจาออกมาอย่างนี้”
6 มีเสียงหนึ่งบอกว่า “ตะโกนสิ”
แต่ข้าบอกว่า “จะให้ข้าตะโกนอะไรหรือ
มนุษย์ทุกคนก็เป็นเหมือนหญ้า
และความจงรักภักดีของเขาเป็นเหมือนดอกไม้ในทุ่ง
7 หญ้าเหี่ยวแห้งไป ดอกไม้ก็ร่วงโรยไป
เมื่อลมจากพระยาห์เวห์เป่าไปถูกมัน”
เสียงนั้นตอบว่า “ใช่แล้ว มนุษย์เป็นเหมือนหญ้า
8 หญ้าก็เหี่ยวแห้งไป ดอกไม้ก็ร่วงโรยไป
แต่พระคำของพระเจ้าของเราจะยั่งยืนตลอดกาล”
9 ศิโยนเอ๋ย ผู้นำข่าวดี
ขึ้นไปบนภูเขาสูงสิ แล้วตะโกนให้สุดเสียงของเจ้า
เยรูซาเล็มเอ๋ย ผู้นำข่าวดี
ร้องตะโกนให้ดังๆไม่ต้องกลัว บอกเมืองต่างๆของยูดาห์ว่า
“นี่ไง พระเจ้าของพวกเจ้า”
10 ดูสิ พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตกำลังมาด้วยพลังอันเกรียงไกร
พระองค์จะปกครองด้วยแขนอันทรงพลังของพระองค์
พระองค์เอารางวัลมาให้
และพระองค์จะจ่ายค่าตอบแทนให้แต่ละคน
11 พระองค์จะนำหน้าฝูงแกะของพระองค์อย่างผู้เลี้ยงแกะ
พระองค์จะรวบรวมลูกแกะไว้ในอ้อมแขนของพระองค์
และอุ้มพวกมันไว้ในอ้อมอกและนำแม่แกะไปหาน้ำ
ใครเล่าเป็นเหมือนพระยาห์เวห์
12 ใครหนอ ที่ตวงน้ำทั้งทะเลได้ด้วยอุ้งมือเดียวหรือวัดท้องฟ้าได้ในหนึ่งคืบ
และใครกันที่สามารถถือฝุ่นทั้งโลกในถ้วยตวงเดียว
หรือชั่งพวกภูเขาบนตาชั่งและพวกเนินเขาบนตราชู
13 มีใครหรือที่ชี้ทางให้กับพระวิญญาณของพระยาห์เวห์
และสั่งสอนพระองค์เหมือนเป็นที่ปรึกษาของพระองค์
14 พระองค์ต้องปรึกษาใครหรือ เพื่อจะได้เข้าใจอย่างถ่องแท้
พระองค์ต้องให้ใครมาสอนพระองค์เรื่องความยุติธรรมหรือ
ใครสอนให้พระองค์มีความรู้
ใครเล่าเรื่องทางแห่งสติปัญญาให้พระองค์เข้าใจหรือ
15 ดูสิ ชนชาติทั้งหลายเปรียบเหมือนน้ำหยดเดียวในถัง
หรือถือเป็นแค่ขี้ฝุ่นบนตราชั่ง
ดูสิ พระองค์ยกเกาะทั้งหลายเหมือนผงฝุ่น
16 จะเอาไม้ทั้งป่าเลบานอนมาเป็นฟืนเผาเครื่องบูชาให้กับพระองค์
และสัตว์ทั้งหมดของเลบานอนมาเผาเป็นเครื่องบูชาก็ยังไม่สมกับเกียรติของพระองค์
17 ต่อหน้าพระองค์ ชนชาติทั้งหมดอย่างกับเป็นศูนย์เลย
พระองค์ถือว่าชนชาติทั้งหมดนั้นน้อยกว่าศูนย์และไร้ค่า
18 เจ้าจะเปรียบพระเจ้าเหมือนใครหรือ
จะเอารูปอะไรมาเปรียบกับพระองค์หรือ
19 จะเปรียบพระองค์เหมือนรูปเคารพหรือ
ที่ช่างหล่อขึ้นมาแล้วช่างทองก็เอาทองมาหุ้มไว้
และทำสร้อยเงินให้กับมัน
20 ส่วนคนที่ยากจนก็จะเลือกไม้ที่จะไม่ผุมา
แล้วหาช่างไม้ที่เก่งๆมาแกะสลักรูปเคารพที่จะไม่ล้มคว่ำลงมา
21 พวกเจ้าไม่เคยรู้หรือ
พวกเจ้าไม่เคยได้ยินหรือ
ไม่เคยมีใครบอกพวกเจ้าตั้งแต่แรกหรือ
พวกเจ้าไม่เคยเข้าใจเรื่องที่เป็นจริงตั้งแต่วางรากสร้างโลกมาหรือ
22 คือพระองค์เป็นผู้นั้นที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ของพระองค์
เหนือวงกลมของโลกนี้
และเมื่อพระองค์มองลงมา
พวกที่อาศัยอยู่บนมันก็เป็นเหมือนกับตั๊กแตน
พระองค์เป็นผู้ที่ขึงฟ้าสวรรค์ออกเหมือนขึงผ้าเต็นท์
และกางมันออกเหมือนกางเต็นท์ให้อยู่
23 พระองค์เป็นผู้ที่ทำให้พวกผู้ครอบครองหมดสภาพไป
และทำให้พวกผู้พิพากษาของโลกนี้กลายเป็นศูนย์
24 พวกนั้นเป็นเหมือนกับพวกพืชที่เพิ่งจะหว่านยังไม่ทันลงรากเลย
พระองค์ก็เป่าพวกมันซะแล้ว
แล้วพวกเขาก็เหี่ยวแห้งไป
แล้วพายุก็มาพัดพวกเขาไปเหมือนฟาง
25 องค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์พูดว่า “พวกเจ้าจะเปรียบเรากับใครหรือ
ใครจะมาเทียบกับเราได้หรือ”
26 เงยหน้าขึ้นและมองซะ
ใครเป็นผู้ที่สร้างสิ่งเหล่านี้
พระองค์ได้นำกองทัพหมู่ดาวเหล่านั้นออกมาทีละดวง
และเรียกชื่อมันแต่ละดวง ไม่มีสักดวงที่ขัดขืนไม่ออกมา
เพราะพระองค์มีพลังอันมหาศาล
และฤทธิ์อำนาจอันยิ่งใหญ่
27 ยาโคบเอ๋ย ทำไมเจ้าถึงบ่นอย่างนี้
อิสราเอลเอ๋ย ทำไมเจ้าถึงพูดว่า
“พระยาห์เวห์มองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับข้า
และพระเจ้าของข้าก็ไม่เห็นสนใจที่จะให้ความยุติธรรมกับข้าเลย”
28 เจ้าไม่รู้หรือ เจ้าไม่เคยได้ยินหรือ ที่ว่า
พระยาห์เวห์เป็นพระเจ้าตลอดมาและตลอดไป เป็นผู้สร้างทั้งโลก
พระองค์ไม่เคยเหนื่อยหรือหมดเรี่ยวแรง
ไม่มีใครหยั่งรู้ถึงสติปัญญาของพระองค์ได้
29 พระองค์ให้เรี่ยวแรงกับคนที่เหน็ดเหนื่อย
และเพิ่มกำลังให้กับคนที่หมดเรี่ยวแรง
30 แม้คนหนุ่มๆจะเหนื่อยและหมดเรี่ยวแรง
และชายหนุ่มจะสะดุดล้มลง
31 แต่คนเหล่านั้นที่ฝากความหวังไว้กับพระยาห์เวห์จะมีกำลังขึ้นมาใหม่
และจะบินสูงขึ้นไปเหมือนติดปีกนกอินทรี[a]
พวกเขาจะวิ่งและจะไม่หมดเรี่ยวแรง
พวกเขาจะเดินและจะไม่เหนื่อย
ทูตสวรรค์และหนังสือม้วน
10 ผมได้เห็นทูตสวรรค์ที่มีฤทธิ์มากอีกองค์หนึ่งลงมาจากสวรรค์ มีเมฆปกคลุมตัวและมีรุ้งอยู่รอบหัว ใบหน้าเหมือนดวงอาทิตย์ และมีขาเหมือนเสาไฟ 2 ในมือของท่านมีหนังสือม้วนเล็กๆที่คลี่เปิดอยู่ เท้าขวาของท่านเหยียบอยู่บนทะเล ส่วนเท้าซ้ายเหยียบอยู่บนแผ่นดิน 3 ท่านร้องเสียงดังเหมือนสิงโตคำราม และเมื่อร้อง เสียงฟ้าร้องทั้งเจ็ดเสียงก็ดังขึ้น 4 เมื่อเสียงฟ้าร้องทั้งเจ็ดดังขึ้น ผมเริ่มจะเขียน แต่ผมได้ยินเสียงจากสวรรค์ดังขึ้นเสียก่อนว่า “เก็บสิ่งที่ฟ้าร้องทั้งเจ็ดได้พูดไว้เป็นความลับ อย่าได้เขียนลงไป”
5 จากนั้นทูตสวรรค์ที่ผมเห็นยืนอยู่ทั้งบนทะเลและบนแผ่นดินนั้น ได้ชูมือขวาของท่านขึ้นฟ้า 6 สาบานโดยอ้างถึงพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่ตลอดไป ผู้สร้างฟ้าสวรรค์ แผ่นดินโลก ทะเล และทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในพวกมันด้วย ทูตสวรรค์สาบานว่า “พระเจ้าจะไม่รอช้าอีกต่อไปแล้วที่จะทำตามแผนของพระองค์” 7 ในเวลาที่ทูตสวรรค์องค์ที่เจ็ดจะเป่าแตรนั้น พระเจ้าจะทำให้แผนการอันลึกลับของพระองค์สำเร็จตามที่พระองค์ได้ประกาศไว้กับพวกผู้พูดแทนพระเจ้า ผู้รับใช้ของพระองค์
8 จากนั้นเสียงที่ผมได้ยินจากสวรรค์ก็บอกผมอีกครั้งหนึ่งว่า “ไปรับม้วนหนังสือที่คลี่เปิดอยู่ในมือของทูตสวรรค์ที่ยืนอยู่ทั้งบนทะเลและบนแผ่นดินสิ” 9 ผมจึงไปหาทูตสวรรค์องค์นั้นและขอหนังสือม้วนเล็กนั้น ท่านบอกว่า “เอาไปกิน มันจะมีรสขมเมื่ออยู่ในท้อง แต่เมื่ออยู่ในปากมันจะมีรสหวานเหมือนน้ำผึ้ง” 10 ผมจึงรับหนังสือม้วนจากมือทูตสวรรค์มากิน เมื่อมันอยู่ในปากผมก็มีรสหวานเหมือนน้ำผึ้ง แต่เมื่อตกถึงท้องก็กลับกลายเป็นขม 11 มีผู้หนึ่งบอกผมว่า “เจ้าจะต้องประกาศคำตัดสินของพระเจ้าต่อเชื้อชาติทั้งหลาย ชนชาติต่างๆ ภาษาต่างๆและพวกกษัตริย์ทั้งหลาย”
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International