Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
เฉลยธรรมบัญญัติ 12

สถานที่สำหรับนมัสการพระเจ้า

12 นี่คือกฎและข้อบังคับที่พวกท่านต้องทำตามอย่างระมัดระวังในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษท่านได้ยกให้กับท่าน ท่านต้องทำตามกฎเหล่านั้นตราบเท่าที่พวกท่านยังอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้น เมื่อพวกท่านยึดเอาแผ่นดินของชนชาติเหล่านี้มาได้แล้ว พวกท่านต้องทำลายสถานที่ทุกแห่งที่พวกเขาใช้นมัสการพระต่างๆของพวกเขาให้หมดเกลี้ยง ตามภูเขาสูง ตามเนินเขาและตามใต้ต้นไม้ทุกต้น พวกท่านต้องรื้อแท่นบูชาต่างๆของพวกเขาทิ้งให้หมด พวกท่านต้องทุบเสา[a]หินศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาให้แตกเป็นชิ้นๆ พวกท่านต้องเผาเสาเจ้าแม่อาเชราห์ของพวกเขา และต้องตัดพวกรูปปั้นพระต่างๆของพวกเขาให้เป็นชิ้นๆ เพื่อจะได้ลบชื่อของพระเทียมเท็จเหล่านั้นให้หมดไปจากสถานที่นั้น

พวกท่านต้องไม่นมัสการพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านแบบเดียวกับที่คนพวกนั้นเขาทำกัน แต่พวกท่านต้องไปยังสถานที่แห่งหนึ่งที่พระยาห์เวห์จะเลือกออกมาจากท่ามกลางเผ่าทั้งหลายของพวกท่าน พระองค์จะสถิตอยู่ที่นั่นเหมือนบ้านของพระองค์ และท่านต้องไปนมัสการพระองค์ที่นั่น ท่านต้องเอาเครื่องเผาบูชา เครื่องสัตวบูชา พืชผลและสัตว์ต่างๆหนึ่งในสิบส่วนจากของที่ท่านหามาได้ รวมทั้งให้เอาของขวัญพิเศษ[b] ของแก้บนที่ท่านเคยบนไว้กับพระยาห์เวห์ เครื่องบูชาตามความสมัครใจ และลูกตัวแรกจากฝูงวัวและฝูงแพะแกะของพวกท่าน ไปในสถานที่นั้นด้วย ท่านและครอบครัวของท่านจะกินกันที่นั่นต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน พวกท่านจะยินดีกับสิ่งดีๆทั้งหมดที่พวกท่านได้ลงมือลงแรงทำไป เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้อวยพรท่าน

เมื่อถึงเวลานั้น พวกท่านต้องไม่นมัสการแบบเดียวกับที่พวกเรากำลังทำอยู่ในวันนี้ คือแต่ละคนก็ทำตามใจของตัวเอง ที่เป็นอย่างนี้เพราะพวกท่านยังไม่ได้เข้าไปในสถานที่แห่งการพักผ่อนและแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้กับท่าน 10 แต่อีกไม่ช้าพวกท่านก็จะข้ามแม่น้ำจอร์แดนแล้ว พวกท่านจะได้อยู่ในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้กับท่าน พระองค์จะให้พวกท่านได้หยุดพักจากการสู้รบกับศัตรูทั้งหมดที่อยู่ล้อมรอบท่าน และพวกท่านจะอยู่อย่างปลอดภัย 11 แล้วพวกท่านต้องเอาทุกอย่างที่เราได้สั่งพวกท่านไว้ ไปยังสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์จะเลือกขึ้นมาสำหรับนมัสการพระองค์ คือท่านต้องเอาเครื่องเผาบูชา เครื่องสัตวบูชา พืชผลและสัตว์ต่างๆหนึ่งในสิบส่วนจากของที่ท่านหามาได้ รวมทั้งให้เอาของขวัญพิเศษ ของแก้บนที่ท่านเคยบนไว้กับพระยาห์เวห์ 12 ให้พวกท่านชื่นชมยินดีกันต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ทั้งพวกท่าน ลูกชายลูกสาวของพวกท่าน ทาสชายหญิงของพวกท่าน และชาวเลวี ในเมืองของพวกท่านด้วย เพราะพวกนี้ไม่มีส่วนแบ่งในที่ดินเหมือนกับพวกท่าน 13 ท่านต้องระวังให้ดี ที่จะไม่ถวายเครื่องเผาบูชาที่ไหนก็ได้ที่ท่านเห็น 14 แต่ให้เอาเครื่องเผาบูชาของท่านไปถวายในสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์จะเลือกออกมาจากท่ามกลางเผ่าใดเผ่าหนึ่งของท่าน และทุกอย่างที่เราได้สั่งท่านไว้ให้เอาไปทำที่นั่น

15 แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ท่านอยากจะฆ่าสัตว์ และเอาเนื้อมากินในเมืองหนึ่งเมืองใดของท่าน ท่านก็ทำได้ ตามขนาดที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอวยพรท่าน คนที่บริสุทธิ์และไม่บริสุทธิ์ทางพิธีกรรม ก็กินได้ทั้งนั้น เหมือนกินเนื้อทราย[c] หรือเนื้อกวาง 16 แต่ท่านต้องไม่กินเลือดของมัน ต้องเอาเลือดไปเททิ้งบนพื้นเหมือนเทน้ำ

17 ท่านต้องไม่กินของพวกนี้ในเมือง คือ พืชผลของท่านที่แบ่งออกมาหนึ่งในสิบ[d]ส่วน หรือเหล้าองุ่นใหม่หรือน้ำมัน ลูกสัตว์ตัวแรกทุกตัวที่เกิดจากฝูงวัวและฝูงแพะแกะของท่าน และของทุกอย่างที่ท่านได้บนไว้ว่าจะให้กับพระยาห์เวห์ เครื่องบูชาตามความสมัครใจของท่าน และของขวัญพิเศษของท่าน 18 ท่านจะต้องกินเครื่องบูชาเหล่านี้ต่อหน้าพระยาห์เวห์ในสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะเลือกไว้เท่านั้น ท่านต้องไปกินกันที่นั่นกับลูกชายลูกสาวของท่าน ทาสชายหญิงของท่าน และชาวเลวีที่อาศัยอยู่ในเมืองของท่าน ให้ชื่นชมยินดีอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ให้ชื่นชมยินดีกับสิ่งดีๆที่ท่านได้ลงมือทำลงไป 19 ระวังให้ดี อย่าลืมที่จะแบ่งอาหารนี้ให้กับชาวเลวี ตราบเท่าที่ท่านยังมีชีวิตอยู่บนแผ่นดินของท่านนั้น

20-21 เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ขยายเขตแดนของท่านตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้ ท่านอาจจะอยู่ไกลเกินไปจากสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์จะเลือกไว้สำหรับนมัสการพระองค์ แล้วท่านเกิดอยากจะกินเนื้อขึ้นมา ท่านก็กินเท่าไหร่ก็ได้ตามที่ท่านต้องการ ท่านสามารถฆ่าสัตว์จากฝูงวัวและฝูงแพะแกะที่พระยาห์เวห์ได้ให้ท่านไว้ ให้ทำตามวิธีที่เราได้สั่งท่านไว้แล้ว และท่านก็กินเท่าไหร่ก็ได้ตามที่ท่านต้องการในเมืองต่างๆของท่าน 22 ท่านสามารถที่จะกินมันได้เหมือนกับที่ท่านกินเนื้อทรายหรือเนื้อกวาง ทั้งคนที่บริสุทธิ์และไม่บริสุทธิ์ทางพิธีกรรม ก็กินได้เหมือนกันหมด 23 แต่ต้องให้แน่ใจว่าท่านจะไม่กินเลือด เพราะเลือดคือชีวิต ดังนั้นอย่าได้กินชีวิตพร้อมกับเนื้อสัตว์ 24 ท่านต้องไม่กินเลือดของมัน ท่านต้องเทเลือดของมันลงบนพื้นเหมือนเทน้ำ 25 ท่านต้องไม่กินเลือดของมันเพื่อท่านและลูกหลานของท่านจะได้เจริญรุ่งเรือง เพราะท่านจะต้องทำในสิ่งที่พระยาห์เวห์เห็นว่าถูกต้อง

26 แต่อย่างไรก็ตาม ท่านต้องเอาของขวัญศักดิ์สิทธิ์และของขวัญแก้บนของท่านไปยังสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์จะเลือกขึ้นมา 27 ท่านต้องถวายเครื่องเผาบูชาของท่าน รวมทั้งเนื้อสัตว์และเลือดบนแท่นบูชาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เลือดของเครื่องสัตวบูชาอื่นต้องถูกเทลงบนแท่นบูชาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน แต่ท่านกินเนื้อของมันได้ 28 ท่านต้องระมัดระวังที่จะรักษาและเชื่อฟังคำสั่งทั้งหมดนี้ที่เราให้กับท่านในวันนี้ เพื่อท่านและลูกหลานของท่านจะได้เจริญรุ่งเรืองตลอดไป เพราะท่านกำลังจะทำในสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเห็นว่าดีและถูกต้อง

29 เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทำลายชนชาติที่อยู่ต่อหน้าท่าน เป็นชนชาติที่ท่านกำลังจะเข้าไปขับไล่ และเมื่อท่านขับไล่พวกเขาออกไปแล้ว และท่านได้ตั้งรกรากอยู่ในแผ่นดินของพวกเขาแล้ว 30 ระวังให้ดี อย่าไปติดกับโดยไปลอกเลียนแบบพวกเขา หลังจากที่พวกเขาถูกทำลายไปต่อหน้าท่านแล้ว ระวังให้ดี อย่าไปถามเกี่ยวกับพระต่างๆของพวกเขา อย่าไปถามว่า ‘ชนชาตินี้เขาบูชาพวกพระของพวกเขายังไง เราจะได้ทำตาม’ 31 ท่านต้องไม่นมัสการพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านตามแบบพวกเขา เพราะพวกเขาได้ทำสิ่งชั่วร้ายทุกอย่างถวายให้กับพวกพระของพวกเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่พระยาห์เวห์เกลียดชัง พวกเขาถึงขนาดเผาลูกชายและลูกสาวเป็นเครื่องบูชายัญให้กับพวกพระของพวกเขา

32 พวกท่านต้องระวัง ให้ทำตามทุกสิ่งที่เรากำลังสั่งพวกท่าน ท่านต้องไม่เพิ่มอะไรเข้าไปหรือตัดอะไรออกไปจากนี้

สดุดี 97-98

พระยาห์เวห์เป็นกษัตริย์เหนือทุกสิ่ง

พระยาห์เวห์เป็นกษัตริย์
    ขอให้แผ่นดินโลกชื่นชมยินดี ขอให้หมู่เกาะทั้งหลายเฉลิมฉลองกัน
หมู่เมฆและความมืดทึบอยู่ล้อมรอบพระองค์
    ความยุติธรรมและความเป็นธรรมเป็นรากฐานแห่งบัลลังก์ของพระองค์
เปลวไฟนำอยู่เบื้องหน้าพระองค์
    และเผาไหม้ศัตรูของพระองค์ทุกด้าน
สายฟ้าของพระองค์ทำให้โลกสว่างไสว
    แผ่นดินโลกเห็นและสั่นเทิ้ม
ภูเขาก็หลอมละลายราวกับขี้ผึ้งอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์
    ผู้เป็นองค์เจ้าชีวิตของแผ่นดินโลก

ฟ้าสวรรค์เล่าขานคุณความดีของพระองค์
    และทุกชนชาติเห็นรัศมีของพระองค์
คนเหล่านั้นที่นมัสการรูปบูชาและภาคภูมิใจในรูปเคารพของเขาจะถูกทำให้อับอายขายหน้า
    และพวกพระเจ้าทั้งหลายจะต้องก้มลงกราบพระองค์
ข้าแต่พระยาห์เวห์ ศิโยนได้ยินพวกคำตัดสินต่างๆของพระองค์และเฉลิมฉลอง
    หมู่บ้านทั้งหลายของยูดาห์ต่างชื่นชมยินดีด้วยเหมือนกัน
เพราะ พระยาห์เวห์เจ้าข้า พระองค์เป็นพระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุดเหนือแผ่นดินโลกทั้งสิ้น
    พระองค์นั้นยิ่งใหญ่กว่าพระเจ้าทั้งปวงมากนัก

10 พวกเจ้าที่รักพระยาห์เวห์ ให้เกลียดชังความชั่วสิ
    พระองค์ปกป้องชีวิตของคนที่จงรักภักดีต่อพระองค์
    พระองค์ช่วยกู้เขาจากเงื้อมมือของคนชั่ว
11 แสงสว่างส่องลงมายังคนที่ทำสิ่งถูกต้อง
    และคนใจซื่อตรงจะมีความสุข
12 พวกเจ้าคนดีทั้งหลาย ให้เฉลิมฉลองกันในพระยาห์เวห์
    ให้สรรเสริญชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์

ให้ทุกสิ่งทุกอย่างสรรเสริญพระยาห์เวห์

บทเพลงสดุดี

ร้องเพลงบทใหม่ให้กับพระยาห์เวห์เพราะพระองค์ทำสิ่งที่น่าทึ่งทั้งหลาย
    มือขวาอันทรงฤทธิ์และแขนอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ได้นำชัยชนะมาสู่พระองค์
พระยาห์เวห์แสดงอำนาจในการช่วยกู้ของพระองค์
    พระองค์ได้แสดงความยุติธรรมของพระองค์ให้ชนชาติต่างๆเห็น
พระองค์ระลึกถึงความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์ที่พระองค์มีต่ออิสราเอล
    ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกต่างก็เห็นอำนาจในการช่วยกู้ของพระเจ้าของเรา

ชาวโลกทั้งหลายให้ตะโกนเรียกพระยาห์เวห์
    ให้เปล่งเสียงออกมาเป็นเพลงแห่งความสุขและเล่นดนตรีกันเถิด
ให้เล่นดนตรีเพื่อเป็นเกียรติแด่พระยาห์เวห์
    โดยใช้พิณและเครื่องดนตรีอื่นๆ
ให้เป่าปี่และแตรเขาสัตว์
    ต่อหน้าพระยาห์เวห์ผู้เป็นกษัตริย์

ให้ท้องทะเลและทุกชีวิตในทะเลนั้นร้องคำราม
    ให้แผ่นดินโลกและทุกชีวิตบนโลกนั้นโห่ร้อง
ให้แม่น้ำทั้งหลายปรบมือ
    ให้ภูเขาทั้งหลายเต้นรำด้วยความยินดีต่อหน้าพระยาห์เวห์
พระองค์กำลังมาตัดสินแผ่นดินโลกนี้ พระองค์จะตัดสินโลกนี้อย่างยุติธรรม
    และตัดสินชนชาติต่างๆอย่างเป็นธรรม

อิสยาห์ 40

การลงโทษของอิสราเอลจะสิ้นสุดลง

40 พระเจ้าของพวกเจ้าพูดว่า
    “ให้ปลอบโยน ให้ปลอบโยนชนชาติของเรา
ให้พูดกับคนเยรูซาเล็มอย่างอ่อนโยน
    และให้บอกกับเธอว่าการเป็นทาสรับใช้ของเธอนั้นได้สิ้นสุดลงแล้ว
เธอได้ใช้หนี้บาปของเธอแล้ว
    พระยาห์เวห์ได้ลงโทษเธอเป็นสองเท่าแล้วสำหรับบาปทั้งหมดของเธอ”
มีเสียงหนึ่งร้องว่า
    “ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง ให้เตรียมทางสำหรับพระยาห์เวห์
    ให้สร้างทางหลวงให้ตรงไปให้กับพระเจ้าของเราในทะเลทราย
ทุกๆหุบเขาจะถูกถมให้สูงขึ้น
    ทุกๆภูเขาและเนินเขาจะถูกปราบให้แบนราบลง
พื้นที่ลุ่มๆดอนๆจะเสมอกันไปหมด
    พื้นที่ที่ขรุขระจะราบเรียบ
แล้วสง่าราศีของพระยาห์เวห์ก็จะถูกเปิดเผยออกมา
    และมนุษย์ทุกคนก็จะได้เห็นมันพร้อมๆกัน
    เพราะปากของพระยาห์เวห์ได้ลั่นวาจาออกมาอย่างนี้”

มีเสียงหนึ่งบอกว่า “ตะโกนสิ”
    แต่ข้าบอกว่า “จะให้ข้าตะโกนอะไรหรือ
มนุษย์ทุกคนก็เป็นเหมือนหญ้า
    และความจงรักภักดีของเขาเป็นเหมือนดอกไม้ในทุ่ง
หญ้าเหี่ยวแห้งไป ดอกไม้ก็ร่วงโรยไป
    เมื่อลมจากพระยาห์เวห์เป่าไปถูกมัน”
    เสียงนั้นตอบว่า “ใช่แล้ว มนุษย์เป็นเหมือนหญ้า
หญ้าก็เหี่ยวแห้งไป ดอกไม้ก็ร่วงโรยไป
    แต่พระคำของพระเจ้าของเราจะยั่งยืนตลอดกาล”

ศิโยนเอ๋ย ผู้นำข่าวดี
    ขึ้นไปบนภูเขาสูงสิ แล้วตะโกนให้สุดเสียงของเจ้า
เยรูซาเล็มเอ๋ย ผู้นำข่าวดี
    ร้องตะโกนให้ดังๆไม่ต้องกลัว บอกเมืองต่างๆของยูดาห์ว่า
    “นี่ไง พระเจ้าของพวกเจ้า”
10 ดูสิ พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตกำลังมาด้วยพลังอันเกรียงไกร
    พระองค์จะปกครองด้วยแขนอันทรงพลังของพระองค์
พระองค์เอารางวัลมาให้
    และพระองค์จะจ่ายค่าตอบแทนให้แต่ละคน
11 พระองค์จะนำหน้าฝูงแกะของพระองค์อย่างผู้เลี้ยงแกะ
    พระองค์จะรวบรวมลูกแกะไว้ในอ้อมแขนของพระองค์
    และอุ้มพวกมันไว้ในอ้อมอกและนำแม่แกะไปหาน้ำ

ใครเล่าเป็นเหมือนพระยาห์เวห์

12 ใครหนอ ที่ตวงน้ำทั้งทะเลได้ด้วยอุ้งมือเดียวหรือวัดท้องฟ้าได้ในหนึ่งคืบ
    และใครกันที่สามารถถือฝุ่นทั้งโลกในถ้วยตวงเดียว
    หรือชั่งพวกภูเขาบนตาชั่งและพวกเนินเขาบนตราชู
13 มีใครหรือที่ชี้ทางให้กับพระวิญญาณของพระยาห์เวห์
    และสั่งสอนพระองค์เหมือนเป็นที่ปรึกษาของพระองค์
14 พระองค์ต้องปรึกษาใครหรือ เพื่อจะได้เข้าใจอย่างถ่องแท้
    พระองค์ต้องให้ใครมาสอนพระองค์เรื่องความยุติธรรมหรือ
ใครสอนให้พระองค์มีความรู้
    ใครเล่าเรื่องทางแห่งสติปัญญาให้พระองค์เข้าใจหรือ
15 ดูสิ ชนชาติทั้งหลายเปรียบเหมือนน้ำหยดเดียวในถัง
    หรือถือเป็นแค่ขี้ฝุ่นบนตราชั่ง
    ดูสิ พระองค์ยกเกาะทั้งหลายเหมือนผงฝุ่น
16 จะเอาไม้ทั้งป่าเลบานอนมาเป็นฟืนเผาเครื่องบูชาให้กับพระองค์
    และสัตว์ทั้งหมดของเลบานอนมาเผาเป็นเครื่องบูชาก็ยังไม่สมกับเกียรติของพระองค์
17 ต่อหน้าพระองค์ ชนชาติทั้งหมดอย่างกับเป็นศูนย์เลย
    พระองค์ถือว่าชนชาติทั้งหมดนั้นน้อยกว่าศูนย์และไร้ค่า
18 เจ้าจะเปรียบพระเจ้าเหมือนใครหรือ
    จะเอารูปอะไรมาเปรียบกับพระองค์หรือ
19 จะเปรียบพระองค์เหมือนรูปเคารพหรือ
    ที่ช่างหล่อขึ้นมาแล้วช่างทองก็เอาทองมาหุ้มไว้
    และทำสร้อยเงินให้กับมัน
20 ส่วนคนที่ยากจนก็จะเลือกไม้ที่จะไม่ผุมา
    แล้วหาช่างไม้ที่เก่งๆมาแกะสลักรูปเคารพที่จะไม่ล้มคว่ำลงมา
21 พวกเจ้าไม่เคยรู้หรือ
    พวกเจ้าไม่เคยได้ยินหรือ
ไม่เคยมีใครบอกพวกเจ้าตั้งแต่แรกหรือ
    พวกเจ้าไม่เคยเข้าใจเรื่องที่เป็นจริงตั้งแต่วางรากสร้างโลกมาหรือ
22 คือพระองค์เป็นผู้นั้นที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ของพระองค์
    เหนือวงกลมของโลกนี้
และเมื่อพระองค์มองลงมา
    พวกที่อาศัยอยู่บนมันก็เป็นเหมือนกับตั๊กแตน
พระองค์เป็นผู้ที่ขึงฟ้าสวรรค์ออกเหมือนขึงผ้าเต็นท์
    และกางมันออกเหมือนกางเต็นท์ให้อยู่
23 พระองค์เป็นผู้ที่ทำให้พวกผู้ครอบครองหมดสภาพไป
    และทำให้พวกผู้พิพากษาของโลกนี้กลายเป็นศูนย์
24 พวกนั้นเป็นเหมือนกับพวกพืชที่เพิ่งจะหว่านยังไม่ทันลงรากเลย
    พระองค์ก็เป่าพวกมันซะแล้ว
แล้วพวกเขาก็เหี่ยวแห้งไป
    แล้วพายุก็มาพัดพวกเขาไปเหมือนฟาง
25 องค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์พูดว่า “พวกเจ้าจะเปรียบเรากับใครหรือ
    ใครจะมาเทียบกับเราได้หรือ”
26 เงยหน้าขึ้นและมองซะ
    ใครเป็นผู้ที่สร้างสิ่งเหล่านี้
พระองค์ได้นำกองทัพหมู่ดาวเหล่านั้นออกมาทีละดวง
    และเรียกชื่อมันแต่ละดวง ไม่มีสักดวงที่ขัดขืนไม่ออกมา
เพราะพระองค์มีพลังอันมหาศาล
    และฤทธิ์อำนาจอันยิ่งใหญ่

27 ยาโคบเอ๋ย ทำไมเจ้าถึงบ่นอย่างนี้
    อิสราเอลเอ๋ย ทำไมเจ้าถึงพูดว่า
“พระยาห์เวห์มองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับข้า
    และพระเจ้าของข้าก็ไม่เห็นสนใจที่จะให้ความยุติธรรมกับข้าเลย”
28 เจ้าไม่รู้หรือ เจ้าไม่เคยได้ยินหรือ ที่ว่า
    พระยาห์เวห์เป็นพระเจ้าตลอดมาและตลอดไป เป็นผู้สร้างทั้งโลก
พระองค์ไม่เคยเหนื่อยหรือหมดเรี่ยวแรง
    ไม่มีใครหยั่งรู้ถึงสติปัญญาของพระองค์ได้
29 พระองค์ให้เรี่ยวแรงกับคนที่เหน็ดเหนื่อย
    และเพิ่มกำลังให้กับคนที่หมดเรี่ยวแรง
30 แม้คนหนุ่มๆจะเหนื่อยและหมดเรี่ยวแรง
    และชายหนุ่มจะสะดุดล้มลง
31 แต่คนเหล่านั้นที่ฝากความหวังไว้กับพระยาห์เวห์จะมีกำลังขึ้นมาใหม่
    และจะบินสูงขึ้นไปเหมือนติดปีกนกอินทรี[a]
พวกเขาจะวิ่งและจะไม่หมดเรี่ยวแรง
    พวกเขาจะเดินและจะไม่เหนื่อย

วิวรณ์ 10

ทูตสวรรค์และหนังสือม้วน

10 ผมได้เห็นทูตสวรรค์ที่มีฤทธิ์มากอีกองค์หนึ่งลงมาจากสวรรค์ มีเมฆปกคลุมตัวและมีรุ้งอยู่รอบหัว ใบหน้าเหมือนดวงอาทิตย์ และมีขาเหมือนเสาไฟ ในมือของท่านมีหนังสือม้วนเล็กๆที่คลี่เปิดอยู่ เท้าขวาของท่านเหยียบอยู่บนทะเล ส่วนเท้าซ้ายเหยียบอยู่บนแผ่นดิน ท่านร้องเสียงดังเหมือนสิงโตคำราม และเมื่อร้อง เสียงฟ้าร้องทั้งเจ็ดเสียงก็ดังขึ้น เมื่อเสียงฟ้าร้องทั้งเจ็ดดังขึ้น ผมเริ่มจะเขียน แต่ผมได้ยินเสียงจากสวรรค์ดังขึ้นเสียก่อนว่า “เก็บสิ่งที่ฟ้าร้องทั้งเจ็ดได้พูดไว้เป็นความลับ อย่าได้เขียนลงไป”

จากนั้นทูตสวรรค์ที่ผมเห็นยืนอยู่ทั้งบนทะเลและบนแผ่นดินนั้น ได้ชูมือขวาของท่านขึ้นฟ้า สาบานโดยอ้างถึงพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่ตลอดไป ผู้สร้างฟ้าสวรรค์ แผ่นดินโลก ทะเล และทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในพวกมันด้วย ทูตสวรรค์สาบานว่า “พระเจ้าจะไม่รอช้าอีกต่อไปแล้วที่จะทำตามแผนของพระองค์” ในเวลาที่ทูตสวรรค์องค์ที่เจ็ดจะเป่าแตรนั้น พระเจ้าจะทำให้แผนการอันลึกลับของพระองค์สำเร็จตามที่พระองค์ได้ประกาศไว้กับพวกผู้พูดแทนพระเจ้า ผู้รับใช้ของพระองค์

จากนั้นเสียงที่ผมได้ยินจากสวรรค์ก็บอกผมอีกครั้งหนึ่งว่า “ไปรับม้วนหนังสือที่คลี่เปิดอยู่ในมือของทูตสวรรค์ที่ยืนอยู่ทั้งบนทะเลและบนแผ่นดินสิ” ผมจึงไปหาทูตสวรรค์องค์นั้นและขอหนังสือม้วนเล็กนั้น ท่านบอกว่า “เอาไปกิน มันจะมีรสขมเมื่ออยู่ในท้อง แต่เมื่ออยู่ในปากมันจะมีรสหวานเหมือนน้ำผึ้ง” 10 ผมจึงรับหนังสือม้วนจากมือทูตสวรรค์มากิน เมื่อมันอยู่ในปากผมก็มีรสหวานเหมือนน้ำผึ้ง แต่เมื่อตกถึงท้องก็กลับกลายเป็นขม 11 มีผู้หนึ่งบอกผมว่า “เจ้าจะต้องประกาศคำตัดสินของพระเจ้าต่อเชื้อชาติทั้งหลาย ชนชาติต่างๆ ภาษาต่างๆและพวกกษัตริย์ทั้งหลาย”

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International