Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
เฉลยธรรมบัญญัติ 19

เมืองสำหรับลี้ภัย

(กดว. 35:9-28; ยชว. 20:1-9)

19 เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ทำลายชนชาติที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะยกให้กับท่าน และเมื่อท่านได้ขับไล่พวกเขาออกไป และเข้าไปตั้งรกรากในบ้านเมืองของพวกเขาแล้ว ท่านต้องแยกสามเมืองออกมาจากดินแดนที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะยกให้กับท่าน ท่านต้องคำนวณระยะทางที่จะไปสามเมืองนั้น[a] และแบ่งดินแดนที่พระยาห์เวห์ยกให้กับท่านออกเป็นสามส่วน เพื่อคนที่ฆ่าคนตายจะได้หนีไปอยู่ที่นั่น

มีกฎอยู่ว่า คนที่ฆ่าคนอื่นตายและหนีไปอยู่ที่นั่นเพื่อเอาชีวิตรอดนั้น จะต้องเป็นคนที่ฆ่าคนอื่นโดยไม่ได้เจตนา และเขาต้องไม่เคยเป็นศัตรูกับผู้ตายมาก่อน ตัวอย่างเช่น มีคนๆหนึ่งเข้าไปตัดต้นไม้ในป่ากับเพื่อนอีกคน ตอนที่เขาเงื้อขวานขึ้นเพื่อตัดต้นไม้ เผอิญหัวขวานหลุดจากด้าม ลอยไปโดนอีกคน ทำให้เพื่อนเขาตาย เขาต้องหนีไปอยู่หนึ่งในสามเมืองนี้ เพื่อเอาชีวิตรอด ไม่อย่างนั้น ญาติของคนตาย[b] จะไล่ตามคนฆ่า ถ้าระยะทางไปสามเมืองนั้นไกลเกินไป เขาก็จะจับคนฆ่านั้นได้ และด้วยความโกรธเขาก็จะฆ่าคนนั้น ทั้งๆที่คนฆ่านั้นไม่สมควรได้รับโทษถึงตาย เพราะคนฆ่านั้นไม่เคยเป็นศัตรูกับผู้ตายมาก่อน นั่นเป็นเหตุที่เราสั่งให้ท่านแยกเมืองออกมาสามเมือง

แต่ถ้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ขยายเขตแดนของท่านออกไป เหมือนกับที่พระองค์ได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของท่าน และพระองค์ให้แผ่นดินทั้งหมดกับท่าน ตามที่พระองค์สัญญาว่าจะยกให้กับบรรพบุรุษของท่าน พระองค์จะทำอย่างนี้ ถ้าท่านทำตามทุกอย่างที่เราได้สั่งท่านในวันนี้อย่างระมัดระวัง คือรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านและเดินในทางของพระองค์เสมอ เมื่อพระองค์ขยายเขตแดนของท่าน ท่านต้องหาเมืองลี้ภัยเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกสามเมือง 10 ด้วยวิธีนี้ จะได้ไม่มีผู้บริสุทธิ์ถูกฆ่าในแผ่นดินของท่าน ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้กับท่านเป็นมรดก และท่านจะได้ไม่มีความผิดเพราะทำให้คนบริสุทธิ์ต้องตาย

11 แต่ถ้ามีคนหนึ่งเป็นศัตรูกับอีกคนหนึ่ง แล้วคนนั้นมาดักซุ่มคอยทำร้าย หลังจากลอบตีอีกคนจนตายแล้ว ก็วิ่งหนีเข้าไปในเมืองลี้ภัยพวกนี้ 12 พวกผู้นำของเมืองที่เขาอยู่ จะต้องส่งคนไปเอาตัวเขาออกมาจากเมืองลี้ภัยนั้น และส่งเขาไปให้กับญาติของผู้ตายเพื่อเอาไปฆ่า 13 ท่านต้องไม่สงสารเขา ท่านต้องกำจัดความผิดบาปที่ฆ่าคนบริสุทธิ์ให้ออกไปจากอิสราเอล เพื่อทุกสิ่งจะได้เป็นไปด้วยดีสำหรับท่าน

เส้นแบ่งเขตที่ดิน

14 ท่านต้องไม่โยกย้ายหลักเขตหิน ที่แบ่งเขตแดนของเพื่อนบ้านท่าน ที่คนรุ่นก่อนๆได้ปักไว้ในที่ดินที่ท่านจะได้รับ ในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้กับท่าน

พยาน

15 พยานแค่คนเดียวไม่เพียงพอที่จะตัดสินโทษคนๆหนึ่งที่อาจจะไปทำความผิดบาปมา แต่จะต้องมีพยานสองหรือสามคนมายืนยันเรื่องนั้นถึงจะตัดสินได้

16 ถ้ามีพยานเท็จเกิดขึ้น กล่าวหาอีกคนหนึ่งอย่างผิดๆ 17 และทั้งสองคนที่ทะเลาะกันได้มาอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ ต่อหน้านักบวชและผู้ตัดสินที่เข้าเวรในวันนั้น 18 ผู้ตัดสินจะสอบถามอย่างละเอียด และถ้าพยานใส่ร้ายพี่น้องของเขา 19 พวกท่านต้องลงโทษเขาอย่างที่เขาวางแผนจะให้พี่น้องคนนั้นถูกลงโทษ ท่านต้องกำจัดความชั่วร้ายออกไปจากท่ามกลางท่าน 20 คนที่เหลือจะได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วจะได้กลัว และพวกเขาจะได้ไม่กล้าทำสิ่งชั่วร้ายอย่างนั้นอีกในหมู่พวกท่าน 21 ท่านต้องไม่สงสารเขา ชีวิตต้องชดใช้ด้วยชีวิต ตาต่อตา ฟันต่อฟัน มือต่อมือ เท้าต่อเท้า

สดุดี 106

การเนรคุณของคนอิสราเอลต่อพระยาห์เวห์

สรรเสริญพระยาห์เวห์
    ให้ขอบคุณพระยาห์เวห์เพราะพระองค์นั้นดี
    และความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
ใครจะบรรยายถึงการกระทำอันทรงฤทธิ์ทั้งหลายของพระยาห์เวห์ได้หมด
    ใครจะเล่าถึงการกระทำอันน่าสรรเสริญของพระองค์ได้หมด
ถือว่ามีเกียรติจริงๆคนเหล่านั้นที่รักษาความยุติธรรม
    และทำแต่สิ่งถูกต้องอยู่เสมอ

ข้าแต่พระยาห์เวห์ เมื่อพระองค์แสดงความเมตตากรุณาต่อคนของพระองค์ โปรดระลึกถึงข้าพเจ้าด้วย
    โปรดนับข้าพเจ้าเข้าไปกับหมู่คนที่พระองค์ช่วยให้รอดด้วย
ขอให้ข้าพเจ้ามีส่วนร่วมในพระพรต่างๆของคนที่พระองค์ได้เลือกไว้
    และมีส่วนร่วมในความยินดีที่คนของพระองค์มี
    และร่วมสรรเสริญพระองค์กับคนเหล่านั้นที่เป็นสมบัติของพระองค์

พวกเราทำผิดบาปเหมือนกับบรรพบุรุษของเรา
    พวกเราทำผิดและทำตัวชั่วร้าย
พวกบรรพบุรุษของเราในอียิปต์
    ไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยจากการอัศจรรย์ของพระองค์
พวกเขาไม่ได้คิดถึงสิ่งทั้งหลายที่พระองค์ได้ทำไปด้วยความรักที่มั่นคงของพระองค์
    พวกเขากบฏต่อพระองค์ที่ทะเลแดง
แต่พระองค์ก็ยังช่วยเหลือพวกเขาเพื่อเห็นแก่หน้าของพระองค์เอง
    และเพื่อแสดงพลังอันยิ่งใหญ่ของพระองค์
เมื่อพระองค์ตะโกนใส่ทะเลแดง ทะเลแดงก็เหือดแห้งไป
    และพระองค์ก็นำพวกเขาเดินผ่านทะเลลึกเหมือนเดินผ่านทะเลทราย
10 พระองค์ช่วยพวกเขาให้พ้นจากคนที่เกลียดชังพวกเขา
    พระองค์ไถ่พวกเขาให้เป็นอิสระจากศัตรูของพวกเขา
11 แล้วพระองค์ก็ทำให้น้ำกลบท่วมศัตรูของพวกเขา
    ไม่มีใครรอดสักคนเดียว
12 แล้วพวกเขาก็เชื่อในสิ่งทั้งหลายที่พระองค์สัญญา
    และร้องเพลงสรรเสริญพระองค์

13 แต่ไม่นานนักพวกเขาก็ลืมสิ่งทั้งหลายที่พระองค์ได้ทำให้กับพวกเขา
    และไม่ยอมคอยฟังว่าพระองค์จะให้พวกเขาทำอะไร
14 พวกเขาก็ใคร่อยากจะกินเนื้อจนตัวสั่นในทะเลทรายนั้น
    และท้าทายพระเจ้าในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งนั้น
15 ดังนั้นพระองค์จึงให้สิ่งที่พวกเขาร้องขอ
    แต่พระองค์ก็แถมโรคร้ายมาให้ด้วย

16 บางคนในค่ายพักอิจฉาริษยาโมเสส
    และอาโรนนักบวชผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระยาห์เวห์
17 ดังนั้นแผ่นดินได้แยกออกดูดกลืนดาธานลงไป
    และกลบพรรคพวกของอาบีรัม
18 มีไฟลุกลามใหญ่โตท่ามกลางพรรคพวกที่เหลือของเขา
    เปลวไฟได้เผาผลาญคนชั่วเหล่านั้น

19 แล้วบรรพบุรุษก็สร้างลูกวัวทองคำขึ้นมาที่ภูเขาโฮเรบ
    และก้มกราบนมัสการรูปที่หล่อจากโลหะนั้น
20 พวกเขาเอาพระเจ้าผู้เต็มไปด้วยบารมี
    ไปแลกกับรูปหล่อของวัวตัวผู้ที่กินหญ้า
21 พวกเขาลืมพระเจ้าผู้ที่ช่วยชีวิตพวกเขาให้รอด
    และผู้ที่ทำสิ่งยิ่งใหญ่ทั้งหลายในอียิปต์
22 พระเจ้าทำสิ่งที่น่าทึ่งทั้งหลายในดินแดนของฮาม
    และทำสิ่งที่น่ายำเกรงหลายอย่างที่ทะเลแดง
23 พระเจ้าบอกว่าพระองค์จะทำลายอิสราเอล
    แต่โมเสส ผู้นำที่พระองค์เลือกมาได้มายืนขวางไว้
ทำให้อารมณ์โกรธแค้นของพระองค์สงบลง
    พระองค์ก็เลยไม่ทำลายล้างอิสราเอล

24 แล้วพวกเขาก็ปฏิเสธไม่ยอมเข้าไปในดินแดนคานาอันที่น่าอยู่
    พวกเขาไม่เชื่อคำสัญญาของพระองค์ที่จะช่วยเขา
25 พวกเขานั่งบ่นต่อว่าพระเจ้าอยู่ในเต็นท์ของพวกเขา
    และไม่ยอมฟังเสียงของพระยาห์เวห์
26 ดังนั้นพระองค์จึงยกมือขึ้นสาบานว่า
    พระองค์จะทำให้พวกเขาล้มตายไปในทะเลทราย
27 และพระองค์ทำให้ลูกหลานของพวกเขากระจัดกระจายไปตามชนชาติต่างๆ
    และไล่พวกเขาให้ไปอยู่ตามดินแดนต่างๆที่ห่างไกล

28 แล้วพวกเขาก็ไปร่วมนมัสการพระบาอัลที่เมืองเปโอร์
    และกินเครื่องเซ่นไหว้คนตาย[a]
29 การกระทำของพวกเขาทำให้พระยาห์เวห์โกรธ
    พระองค์จึงทำให้เกิดโรคระบาดขึ้นในหมู่พวกเขา
30 แล้วฟีเนหัสได้จัดการกับคนที่ทำผิด
    แล้วโรคระบาดนั้นก็หยุดลง
31 สิ่งที่ฟีเนหัสทำนี้ ทำให้พระเจ้าพอใจ
    และเป็นที่จดจำไปตลอดชั่วลูกชั่วหลาน

32 แต่แล้ว พวกอิสราเอลก็ทำให้พระองค์โกรธอีกที่ตาน้ำเมรีบาห์
    และพวกเขาก่อปัญหาให้กับโมเสสด้วย
33 คนพวกนั้นทำให้โมเสสโกรธ
    เขาจึงพูดโดยไม่ได้ยั้งคิด

34 แล้วพวกอิสราเอลก็ไม่ได้ทำลายชนชาติอื่นๆ
    ตามที่พระยาห์เวห์บอกให้พวกเขาทำ
35 แต่พวกเขากลับไปคลุกคลีอยู่กับคนพวกนั้น
    และไปหัดทำตามสิ่งที่คนพวกนั้นทำ
36 พวกเขาเริ่มไปบูชาพวกเทวรูปทั้งหลายของคนพวกนั้น
    และสิ่งนี้ได้กลายเป็นกับดักที่ทำให้พวกเขาล้มไป
37 พวกเขายอมแม้กระทั่งเอาลูกชายลูกสาวของตัวเอง
    มาบูชายัญพวกปีศาจ
38 พวกเขาทำให้เลือดของผู้บริสุทธิ์ต้องหลั่งไหล
    คือเลือดของลูกชายลูกสาวของพวกเขาเอง
    ที่เอามาบูชายัญต่อพวกเทวรูปของคานาอัน
    และแผ่นดินของพวกเขาเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ไปเพราะเลือดของคนเหล่านั้น
39 และพวกเขาเองก็เป็นมลทินเพราะการกระทำของพวกเขา
    พวกเขาไม่สัตย์ซื่อเหมือนกับหญิงโสเภณี

40 ดังนั้น พระยาห์เวห์จึงโกรธคนของพระองค์
    และสะอิดสะเอียนพวกเขา
41 พระองค์จึงมอบคนพวกนั้นให้กับชนชาติอื่นๆ
    และคนเหล่านั้นที่เกลียดพวกเขาเริ่มปกครองเหนือพวกเขา
42 พวกศัตรูข่มเหงพวกเขา
    และปราบพวกเขาให้ตกอยู่ใต้อำนาจ
43 พระองค์ช่วยกู้พวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
    แต่พวกเขาก็กบฏและทำตามใจตัวเอง
    พวกเขาตกต่ำลงเพราะความผิดบาปของพวกเขา
44 แต่เมื่อพวกเขาตกอยู่ในความทุกข์ยากและอธิษฐานต่อพระองค์
    พระองค์ก็ฟังและดูแลพวกเขา
45 พระองค์ระลึกถึงข้อตกลงที่ทำกับพวกเขา
    และด้วยความรักอันมั่นคงของพระองค์ พระองค์จึงสงสารพวกเขา
46 พระองค์ทำให้ทุกคนที่กวาดต้อนพวกเขาไป
    เกิดความเมตตากับพวกเขา

47 ตอนนี้ ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา
    โปรดช่วยกู้พวกเราด้วยเถิด รวบรวมพวกเราจากชนชาติต่างๆ
เราจะขอบคุณชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
    และโอ้อวดถึงสิ่งที่น่าสรรเสริญทั้งหลายที่พระองค์ได้ทำ

48 ขอสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล
    ผู้เป็นอยู่ตลอดมาและจะคงอยู่ตลอดไป
ขอให้ชนชาติทั้งหมดพูดว่า “อาเมน”

    สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด

อิสยาห์ 46

พวกพระจอมปลอมไม่มีประโยชน์

46 ต่อหน้าพระเจ้า พระเบลต้องก้มกราบลง พระเนโบ ต้องหมอบตัวลง
    รูปเคารพของพระทั้งสองนี้จะต้องวางอยู่บนพวกสัตว์และวัว
พวกรูปเคารพที่เจ้าหามแห่แหนไปมานั้น
    ตอนนี้กำลังถูกบรรทุกอยู่บนพวกสัตว์ที่เหน็ดเหนื่อยนั้น
พวกมันต้องหมอบตัวลงและต้องก้มกราบลงด้วยกัน
    พวกพระนั้นไม่สามารถช่วยกู้รูปปั้นของตนเองได้
    พระพวกนั้นเองก็ตกไปเป็นเชลยเหมือนกัน
พระยาห์เวห์พูดว่า “ครอบครัวยาโคบเอ๋ย
    คือพวกที่ยังเหลือรอดในครอบครัวของอิสราเอล ฟังเราให้ดี
เราได้แบกพวกเจ้าตั้งแต่เจ้าเกิดมา
    เราได้แบกพวกเจ้าตั้งแต่เจ้าคลอดจากครรภ์มา
จนกระทั่งเจ้าแก่เฒ่า เราก็คือพระองค์นั้น
    ถึงแม้ผมของเจ้าจะขาวไป เราก็ยังจะแบกเจ้าอยู่
เราได้สร้างเจ้ามา เราจะดูแลเจ้า
    เราจะแบกเจ้าและช่วยเจ้าให้รอด
เจ้าจะเอาเราไปเปรียบกับใคร ใครจะมาเทียบเทียมกับเราได้
    เจ้าจะเปรียบเทียบเรากับใคร และทำยังกับว่าเหมือนกันอย่างนั้นหรือ
คนพวกนั้นที่เททองมากมายออกจากถุง
    และเอาเงินมาชั่งบนตราชั่ง
ได้จ้างช่างทองมาคนหนึ่งมาสร้างมันขึ้นเป็นพระ
    แล้วพวกเขาก็ก้มกราบนมัสการมัน
พวกเขายกมันใส่บ่าและแบกมันไป
    แล้วไปวางไว้ในที่ของมัน
    มันก็ตั้งอยู่ที่นั่นไม่กระดุกกระดิกไปไหน
ถ้ามีคนมาร้องขอความช่วยเหลือจากมัน
    มันก็ไม่ตอบ
    มันไม่สามารถช่วยใครให้พ้นจากความเดือดร้อนได้เลย
เจ้าพวกชอบกบฏทั้งหลาย จดจำเรื่องนี้ไว้ให้ดี และกล้าหาญไว้
    ให้หวนคิดอยู่เสมอในใจ
คือให้จดจำเรื่องเหล่านั้นที่เราได้ทำตั้งแต่สมัยโบราณ
    เพราะเราเป็นพระเจ้า ไม่มีพระเจ้าอื่นอีก
    เราเป็นพระเจ้า ไม่มีใครเหมือนเรา
10 เราได้ทำนายตอนจบไว้ตั้งแต่เริ่มต้นเลย
    ตั้งแต่สมัยโบราณ เราได้บอกเจ้าถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น
เราบอกว่า ‘เมื่อเราวางแผน มันก็จะเกิดขึ้นตามนั้น
    เราจะทำทุกสิ่งที่เราอยากจะทำ’
11 เราได้เรียกนกอินทรีตัวหนึ่งมาจากทางตะวันออก
    คือเรียกชายคนหนึ่งจากแดนไกลให้มาทำตามแผน
เราได้พูดเอาไว้ และเราจะทำให้มันเกิดตามนั้น
    เราได้วางแผนไว้ และเราจะทำมัน
12 พวกเจ้าหัวดื้อ
    พวกเจ้าที่คิดว่าความรอดอยู่ห่างไกล ฟังเราให้ดี
13 เราได้เอาความรอดของเรามาใกล้แล้ว มันอยู่ไม่ไกล
    และความรอดของเราก็ไม่ล่าช้าด้วย
เราจะเอาความรอดมาไว้ที่ศิโยน
    และเราจะให้สง่าราศีของเรากับอิสราเอล”

วิวรณ์ 16

ขันเจ็ดใบที่เต็มไปด้วยความโกรธของพระเจ้า

16 แล้วผมก็ได้ยินเสียงที่ดังออกมาจากวิหารพูดกับพวกทูตสวรรค์ทั้งเจ็ดองค์ว่า “ไปเทขันทั้งเจ็ดที่ใส่ความโกรธของพระเจ้านั้นลงบนแผ่นดินโลก”

ทูตสวรรค์องค์แรกจึงออกไปเทขันของตนลงบนแผ่นดินโลก ทำให้คนที่มีเครื่องหมายของสัตว์ร้ายและกราบไหว้รูปปั้นของมันเป็นแผลพุพองปวดแสบปวดร้อนไปทั้งตัว

ทูตสวรรค์องค์ที่สองเทขันของตนลงในทะเล ทำให้ทะเลกลายเป็นเลือดเหมือนเลือดของคนตาย สิ่งมีชีวิตในทะเลจึงตายหมด

ทูตสวรรค์องค์ที่สามเทขันของตนลงในแม่น้ำและแหล่งน้ำพุทั้งหลาย แล้วน้ำพวกนั้นก็กลายเป็นเลือด

ผมได้ยินทูตสวรรค์ที่ดูแลน้ำพวกนั้น พูดว่า

“พระองค์เป็นพระเจ้า ผู้ดำรงอยู่ในปัจจุบัน และในอดีต
    พระองค์เป็นผู้บริสุทธิ์ พระองค์ทำถูกต้องแล้วที่ได้ตัดสินลงโทษอย่างนี้
เพราะพวกเขาได้ทำให้เลือดของคนของพระองค์
    และพวกผู้พูดแทนพระเจ้าไหลออกมา สมควรแล้วที่พระองค์ได้ให้พวกเขาดื่มเลือด”

ผมได้ยินแท่นบูชาร้องว่า

“ถูกแล้ว องค์เจ้าชีวิต พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
    การตัดสินลงโทษของพระองค์ถูกต้องและยุติธรรมแล้ว”

จากนั้นทูตสวรรค์องค์ที่สี่ก็เทขันของตนลงที่ดวงอาทิตย์ ซึ่งทำให้ดวงอาทิตย์มีอำนาจที่จะเผาคนทั้งหลายด้วยไฟ ความร้อนอันแรงกล้าได้แผดเผาคนทั้งหลาย และพวกเขาก็สาปแช่งพระนามของพระเจ้าผู้มีฤทธิ์อำนาจเหนือภัยพิบัติเหล่านี้ แต่พวกเขาก็ยังไม่กลับตัวกลับใจเลิกทำบาป และไม่ได้สรรเสริญพระเจ้า

10 ทูตสวรรค์องค์ที่ห้าเทขันของตนลงบนบัลลังก์ของสัตว์ร้าย และแผ่นดินของมันก็ตกอยู่ในความมืด คนพวกนั้นกัดลิ้นของตนเองเพราะความเจ็บปวด

11 พวกเขาสาปแช่งพระเจ้าแห่งสวรรค์ เพราะความเจ็บปวดจากแผลพุพองของพวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่ได้หันไปจากสิ่งผิดๆที่เขากำลังทำอยู่

12 ทูตสวรรค์องค์ที่หกเทขันของตนลงในแม่น้ำใหญ่ คือแม่น้ำยูเฟรติส[a] ทำให้น้ำแห้งขอดไป เพื่อเตรียมทางสำหรับพวกกษัตริย์จากตะวันออก 13 ผมเห็นวิญญาณชั่วสามตัวที่ดูเหมือนกบ วิญญาณตัวหนึ่งออกมาจากปากพญานาค วิญญาณตัวหนึ่งออกมาจากปากสัตว์ร้าย และวิญญาณอีกตัวหนึ่งออกมาจากปากของคนที่ปลอมตัวเป็นผู้พูดแทนพระเจ้า 14 วิญญาณชั่วพวกนั้นทำการอัศจรรย์ พวกมันออกไปหากษัตริย์ทั้งหมดที่อยู่ในโลก เพื่อรวบรวมกษัตริย์พวกนั้นไปร่วมทำสงครามในวันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น

15 “ฟังให้ดี เราจะมาเหมือนกับขโมยอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด คนที่ตื่นตัวและเตรียมเสื้อผ้าของตัวเองไว้พร้อมที่จะใส่ เป็นคนมีเกียรติ เขาจะได้ไม่ต้องเดินแก้ผ้าและอับอายขายหน้าเมื่อคนอื่นเห็น”

16 แล้ววิญญาณชั่วทั้งสามนี้ ก็ได้ระดมพวกกษัตริย์ทั้งหลาย ให้มาชุมนุมกันในสถานที่แห่งหนึ่ง ที่ในภาษาฮีบรูเรียกว่า “อารมาเกดโดน”[b]

17 ทูตสวรรค์องค์ที่เจ็ดเทขันของตนลงไปในอากาศ มีเสียงดังออกมาจากบัลลังก์ในวิหาร ว่า “สำเร็จแล้ว” 18 หลังจากนั้นก็เกิดฟ้าแลบฟ้าร้อง เสียงดังกึกก้อง และเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เป็นแผ่นดินไหวครั้งที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่มีมนุษย์อาศัยอยู่ในโลกนี้

19 เมืองใหญ่ถูกแยกออกเป็นสามส่วน เมืองต่างๆของชนชาติต่างๆได้ถูกทำลายลง พระเจ้าไม่ลืมลงโทษเมืองบาบิโลนที่ยิ่งใหญ่ พระองค์ให้เธอดื่มถ้วยที่ใส่เหล้าองุ่นแห่งความโกรธแค้นของพระองค์จนหมด 20 เกาะทุกเกาะหายไป และภูเขาก็ไม่เหลือให้เห็นอีกต่อไป 21 มีลูกเห็บก้อนใหญ่หล่นลงมาจากฟ้าใส่คนทั้งหลาย แต่ละก้อนหนักประมาณสี่สิบกิโลกรัม คนทั้งหลายพากันสาปแช่งพระเจ้า เพราะภัยพิบัติที่เกิดจากลูกเห็บนี้ร้ายแรงมาก

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International