Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Beginning

Read the Bible from start to finish, from Genesis to Revelation.
Duration: 365 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
เอสรา 8-10

ลำดับวงศ์ของผู้ที่ไปกับเอสรา

ต่อไปนี้เป็นหัวหน้าตระกูล และเป็นลำดับวงศ์ของบรรดาผู้ที่ขึ้นไปจากบาบิโลนกับข้าพเจ้า ในสมัยการปกครองของกษัตริย์อาร์ทาเซอร์ซีส จากเชื้อสายของฟีเนหัสคือ เกอร์โชม จากเชื้อสายของอิธามาร์คือ ดาเนียล จากเชื้อสายของดาวิดคือ ฮัทธัช จากเชื้อสายของเชคานิยาห์ผู้เป็นเชื้อสายของปาโรชคือ เศคาริยาห์ พร้อมกับชายที่ลงทะเบียน 150 คน จากเชื้อสายของปาหัทโมอับคือ เอลีโฮเอนัยบุตรของเศรัคยาห์ พร้อมกับชายที่ลงทะเบียน 200 คน จากเชื้อสายของศัทธูคือ เชคานิยาห์บุตรของยาฮาซีเอล พร้อมกับชาย 300 คน จากเชื้อสายของอาดีนคือ เอเบดบุตรของโยนาธาน พร้อมกับชาย 50 คน จากเชื้อสายของเอลามคือ เยชายาห์บุตรของอาธาลิยาห์ พร้อมกับชาย 70 คน จากเชื้อสายของเชฟาทิยาห์คือ เศบาดิยาห์บุตรของมีคาเอล พร้อมกับชาย 80 คน จากเชื้อสายของโยอาบคือ โอบาดีห์บุตรของเยฮีเอล พร้อมกับชาย 218 คน 10 จากเชื้อสายของบานีคือ เชโลมิทบุตรของโยสิฟียาห์ พร้อมกับชาย 160 คน 11 จากเชื้อสายของเบบัยคือ เศคาริยาห์บุตรของเบบัย พร้อมกับชาย 28 คน 12 จากเชื้อสายของอัสกาดคือ โยฮานานบุตรฮักคาทาน พร้อมกับชาย 110 คน 13 คนรุ่นหลังจากเชื้อสายของอาโดนีคัมคือ เอลีเฟเลท เยอูเอล และเชไมยาห์ พร้อมกับชาย 60 คน 14 จากเชื้อสายของบิกวัยคือ อุธัยและศัคเคอร์ พร้อมกับชาย 70 คน

กลับไปยังเยรูซาเล็ม

15 ข้าพเจ้าเรียกประชุมเขาเหล่านั้นที่แม่น้ำซึ่งไหลไปทางอาหะวา และพวกเราตั้งค่าย 3 วัน ขณะที่ข้าพเจ้าตรวจดูประชาชนและบรรดาปุโรหิต ข้าพเจ้าพบว่าไม่มีเชื้อสายของเลวีที่นั่นเลย 16 ข้าพเจ้าจึงให้ไปเรียกเอลีเอเซอร์ อารีเอล เชไมยาห์ เอลนาธาน ยารีบ เอลนาธาน นาธาน เศคาริยาห์ และเมชุลลาม ซึ่งเป็นผู้นำ และให้เรียกโยยาริบและเอลนาธาน ผู้สามารถหยั่งรู้ 17 และให้เขาไปหาอิดโดซึ่งเป็นผู้นำที่คาสิเฟีย ทั้งกำกับว่าจะพูดอย่างไรกับอิดโดและพี่น้องของเขา และกับผู้รับใช้ของพระวิหารที่คาสิเฟีย เพื่อให้พวกเขาส่งผู้ปฏิบัติงานสำหรับพระตำหนักของพระเจ้าของเรามาให้พวกเรา 18 เพราะมืออันประเสริฐของพระเจ้าของเราสถิตกับพวกเรา พวกเขานำชายผู้หนึ่งที่กอปรด้วยปฏิภาณมาให้พวกเรา เขาเป็นเชื้อสายของมัคลีบุตรชาวเลวี บุตรของอิสราเอล กับบุตรชายและพี่น้องของเชเรบิยาห์ รวมได้ 18 คน 19 ฮาชาบิยาห์ กับเยชายาห์จากเชื้อสายของเมรารี พร้อมด้วยพี่น้องและบรรดาบุตร รวมได้ 20 คน 20 บรรดาผู้รับใช้พระวิหารจำนวน 220 คนที่ดาวิดและพวกเจ้าหน้าที่ของท่านได้เลือกให้เป็นผู้ช่วยชาวเลวี ทุกคนก็มีชื่อระบุไว้

อดอาหารและอธิษฐาน

21 แล้วข้าพเจ้าก็ประกาศให้มีการอดอาหารที่นั่น ที่แม่น้ำอาหะวา เพื่อเราจะถ่อมตนลง ณ เบื้องหน้าพระเจ้าของเรา เพื่อขอพระองค์ให้ความปลอดภัยแก่พวกเรา แก่ลูกหลาน และทรัพย์สมบัติของเราทั้งหมด 22 ข้าพเจ้าละอายที่จะขอกองทัพทหารและทหารม้าจากกษัตริย์ให้มาปกป้องพวกเราจากศัตรูในระหว่างการเดินทาง เพราะเราได้บอกกษัตริย์แล้วว่า “มือของพระเจ้าของเราปกป้องทุกคนที่แสวงหาพระองค์ตลอดกาล แต่ความโกรธของพระองค์พลุ่งขึ้นต่อทุกคนที่ละทิ้งพระองค์” 23 ดังนั้น เราจึงอดอาหารและอ้อนวอนพระเจ้าของเราในเรื่องนี้ และพระองค์ฟังคำอธิษฐานของเรา

ปุโรหิตดูแลของถวาย

24 ข้าพเจ้าจึงกำหนดปุโรหิตระดับผู้นำจำนวน 12 คนคือ เชเรบิยาห์ ฮาชาบิยาห์ และญาติพี่น้องของพวกเขาอีก 10 คน 25 และข้าพเจ้าได้ชั่งเงิน ทองคำ และเครื่องใช้สำหรับพระตำหนักของพระเจ้าของเรา และมอบให้แก่เขาทั้งหลาย ซึ่งกษัตริย์และบรรดาที่ปรึกษาของท่าน บรรดาเจ้าหน้าที่ของท่านและอิสราเอลทั้งปวงที่อยู่ที่นั่นได้ถวายไว้ 26 ข้าพเจ้าชั่งและมอบให้เป็นเงิน 650 ตะลันต์ เครื่องใช้เครื่องเงิน 200 ตะลันต์ ทองคำ 100 ตะลันต์ 27 ชามทองคำ 20 ใบมีค่าหนัก 1,000 ดาริค[a] และเครื่องใช้ 2 ชิ้นเป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อบริสุทธิ์สุกใสและมีค่าดั่งทองคำ 28 ข้าพเจ้าพูดกับพวกเขาว่า “พวกท่านบริสุทธิ์ต่อพระผู้เป็นเจ้า และเครื่องใช้ก็บริสุทธิ์ เงินและทองคำเป็นของถวายด้วยใจสมัครแด่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของท่าน 29 จงรักษาสิ่งเหล่านี้ และเก็บไว้จนกว่าท่านจะชั่งต่อหน้ามหาปุโรหิตและชาวเลวีและบรรดาผู้นำบรรพบุรุษของอิสราเอลที่เยรูซาเล็ม ในห้องที่พระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า 30 ดังนั้น บรรดาปุโรหิตและชาวเลวีจึงรับเอาเงิน ทองคำ และเครื่องใช้ที่ชั่งแล้วเพื่อนำไปยังพระตำหนักของพระเจ้าของเราที่เยรูซาเล็ม

31 ในวันที่สิบสองของเดือนแรก เราก็ออกไปจากแม่น้ำอาหะวา เพื่อไปยังเยรูซาเล็ม มือของพระเจ้าของเราสถิตกับเรา และพระองค์ช่วยเราให้พ้นจากมือของศัตรู และจากกองดักซุ่มตามทางที่ไป 32 เรามาถึงเยรูซาเล็ม และเราอยู่ที่นั่น 3 วัน 33 ในวันที่สี่ ในพระตำหนักของพระเจ้าของเรา มีการชั่งเงิน ทองคำ และเครื่องใช้ ต่อหน้าเมเรโมทปุโรหิตบุตรอุรียาห์ และเอเลอาซาร์บุตรฟีเนหัส และชาวเลวีที่อยู่ด้วยก็คือ โยซาบาดบุตรเยชูอา และโนอัดยาห์บุตรบินนุย 34 พวกเขานับและชั่งของทุกชิ้น และบันทึกน้ำหนักของสิ่งเหล่านั้นไว้

35 ในเวลานั้นบรรดาผู้ที่ถูกเนรเทศไปเป็นเชลย และได้กลับมา ก็มอบสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวายแด่พระเจ้าของอิสราเอล มีโคตัวผู้ 12 ตัวสำหรับอิสราเอลทั้งปวง แกะตัวผู้ 96 ตัว ลูกแกะ 77 ตัว และแพะตัวผู้ 12 ตัวเป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป ทั้งหมดนี้เป็นสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวาย 36 พวกเขาส่งสาสน์ของกษัตริย์ไปยังผู้ปกครองแคว้นของเปอร์เซีย และแก่บรรดาผู้ว่าราชการของแคว้นทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส และคนเหล่านี้ก็ช่วยเหลือประชาชนและพระตำหนักของพระเจ้า

เอสราอธิษฐานเรื่องการแต่งงานข้ามชาติ

หลังจากเสร็จสิ้นเรื่องเหล่านั้นแล้ว บรรดาเจ้าหน้าที่จึงมาหาข้าพเจ้าและพูดว่า “ประชาชนของอิสราเอล บรรดาปุโรหิต และชาวเลวี ยังไม่ได้แยกตนออกจากประชาชนของแผ่นดินเหล่านั้นด้วยการกระทำอันน่ารังเกียจ ซึ่งเหมือนกับบรรดาชาวคานาอัน ชาวฮิต ชาวเปริส ชาวเยบุส ชาวอัมโมน ชาวโมอับ ชาวอียิปต์ และชาวอาโมร์ เพราะชาวอิสราเอลได้รับบุตรหญิงของพวกเขามาเพื่อเป็นภรรยาของตน และยังรับมาเพื่อบุตรของพวกเขาด้วย ดังนั้นเชื้อสายบริสุทธิ์ก็ได้ปะปนกับประชาชนของแผ่นดินเหล่านั้น บรรดาผู้นำและหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ได้กระทำตนเป็นตัวอย่างในความไม่ภักดีต่อพระเจ้ามากที่สุด” ทันทีที่ข้าพเจ้าทราบเรื่อง ข้าพเจ้าก็ฉีกเสื้อผ้าและเสื้อคลุมของข้าพเจ้า ทึ้งผมและเคราของข้าพเจ้า และนั่งตกตะลึง เนื่องจากพวกเชลยที่กลับมาแสดงความไม่ภักดี ทุกคนที่เกรงกลัวคำกล่าวของพระเจ้าของอิสราเอลจึงมาหาข้าพเจ้าขณะที่ข้าพเจ้ายังนั่งนิ่งงันอยู่จนถึงเวลาถวายเครื่องสักการะตอนเย็น และเมื่อถึงเวลาถวายเครื่องสักการะตอนเย็น ข้าพเจ้าหยุดการอดอาหาร แต่ยังสวมเสื้อผ้าและเสื้อคลุมที่ขาดอยู่ ข้าพเจ้าคุกเข่าลง และชูมือขึ้นต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า และพูดว่า

“โอ พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าละอายใจและอับอายที่จะเงยหน้าขึ้นสู่พระองค์ พระเจ้าของข้าพเจ้า เพราะบาปของเราทวีขึ้นสูงเหนือศีรษะของเรา และความผิดของเรากองสูงถึงฟ้าสวรรค์ นับจากสมัยของบรรพบุรุษของเราจนถึงวันนี้ เรามีความผิดที่ยิ่งใหญ่เรื่อยมา และเป็นเพราะการผิดบาปของเรา บรรดากษัตริย์และปุโรหิตของเราจึงถูกมอบไว้ในมือของบรรดากษัตริย์ของแผ่นดินเหล่านั้น ถูกฆ่าฟัน ถูกจับไปเป็นเชลย ถูกริบข้าวของ และถูกเหยียดหยามเป็นที่สุด อย่างทุกวันนี้ แต่บัดนี้ เพียงช่วงเวลาอันสั้น พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเราได้แสดงความกรุณา โดยให้พวกเรามีชีวิตเหลืออยู่จำนวนหนึ่ง และให้ที่อยู่อันมั่นคงในสถานที่บริสุทธิ์ของพระองค์ เพื่อพระเจ้าของเราจะให้ความกระจ่างแก่ตาของเรา และบรรเทาการเป็นทาสของเรา พวกเราเป็นทาส ถึงกระนั้นพระเจ้าของเราก็มิได้ทอดทิ้งเรายามที่เราเป็นทาส แต่ได้มอบความรักอันมั่นคงของพระองค์ ณ เบื้องหน้าบรรดากษัตริย์ของเปอร์เซีย พระองค์ได้โปรดให้เรามีชีวิตขึ้นใหม่ เพื่อสร้างพระตำหนักของพระเจ้าของเรา เพื่อซ่อมแซมสิ่งที่หักพัง และพระองค์ได้ให้มีกำแพงคุ้มกันเราในยูเดียและเยรูซาเล็ม

10 และบัดนี้ โอ พระเจ้าของเรา นอกจากนี้แล้วเราจะพูดอะไรได้อีก เพราะเราได้ทอดทิ้งพระบัญญัติของพระองค์ 11 ซึ่งพระองค์บัญชาผ่านบรรดาผู้เผยคำกล่าวซึ่งเป็นผู้รับใช้ของพระองค์ว่า ‘แผ่นดินที่เจ้ากำลังเข้าไปยึดครอง เป็นแผ่นดินที่ไม่บริสุทธิ์ด้วยมลทินของประชาชนในแผ่นดินเหล่านั้น ด้วยการกระทำอันน่ารังเกียจของพวกเขาทั่วทั้งแผ่นดินด้วยบาปของพวกเขา 12 ฉะนั้น อย่ายกบุตรหญิงของเจ้าให้แก่บุตรชายของพวกเขา และอย่ารับบุตรหญิงของพวกเขามาให้บุตรชายของเจ้า และอย่าแสวงหาสันติสุขหรือความรุ่งเรืองของพวกเขา เพื่อเจ้าจะเข้มแข็งและรับประทานได้จากความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน และมีมรดกเก็บไว้ให้ลูกหลานของเจ้าตลอดไปเป็นนิตย์’ 13 พวกเราได้รับโทษก็เพราะความชั่วและความผิดอันใหญ่หลวงของพวกเรา แต่พระเจ้าของเรา พระองค์ได้ลงโทษเราน้อยกว่าบาปของเราที่สมควรจะได้รับ และได้ให้พวกเราบางคนมีชีวิตเหลืออยู่จำนวนหนึ่งเช่นนี้ 14 พวกเรายังจะขัดต่อกฎบัญญัติของพระองค์ และแต่งงานกับชนชาติที่กระทำสิ่งอันน่ารังเกียจอยู่อีกหรือ พระองค์จะไม่กริ้วพวกเราจนกว่าพระองค์จะทำให้พวกเราพินาศ จนไม่ให้มีผู้ใดมีชีวิตเหลืออยู่หรือหนีรอดไปได้อย่างนั้นหรือ 15 โอ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอล พระองค์ยุติธรรม พวกเราจึงมีคนจำนวนหนึ่งเหลืออยู่ได้อย่างทุกวันนี้ ดูเถิด เราอยู่ ณ เบื้องหน้าพระองค์ด้วยความผิดของเรา และไม่มีผู้ใดในพวกเราที่สมควรจะยืน ณ เบื้องหน้าพระองค์ได้”

ประชาชนสารภาพบาป

10 ขณะที่เอสราอธิษฐานและสารภาพ ร้องไห้ และทรุดตัวลงที่หน้าพระตำหนักของพระเจ้า ชาวอิสราเอลกลุ่มใหญ่ รวมทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก ก็มาชุมนุมอยู่กับท่าน และต่างก็ร้องไห้ด้วยความปวดร้าวใจ เชคานิยาห์บุตรเยฮีเอลจากเชื้อสายของเอลาม กล่าวกับเอสราว่า “พวกเราไม่ภักดีต่อพระเจ้าของเรา และได้แต่งงานกับหญิงต่างชาติจากชนชาติในแผ่นดิน กระทั่งบัดนี้ ก็ยังมีความหวังในอิสราเอลทั้งๆ ที่เป็นเช่นนี้ ฉะนั้นขอพวกเราทำพันธสัญญากับพระเจ้าของเราว่า เราจะส่งภรรยาเหล่านี้กับลูกๆ ของพวกนางกลับไป ตามคำปรึกษาของเจ้านายของเรา และของบรรดาผู้ที่เกรงกลัวพระบัญญัติของพระเจ้าของเรา และให้เป็นไปตามกฎบัญญัติเถิด ลุกขึ้นเถิด นี่เป็นเรื่องของท่าน และเราก็เห็นด้วยกับท่าน จงเข้มแข็งและลงมือทำ” ครั้นแล้ว เอสราจึงลุกขึ้น และให้บรรดาปุโรหิตคนสำคัญ ชาวเลวี และอิสราเอลทั้งปวง สาบานว่า พวกเขาจะทำตามที่พูดไว้ และเขาทั้งปวงก็สาบานตน

ครั้นแล้ว เอสราก็ผละตัวออกไปจากพระตำหนักของพระเจ้า และไปยังห้องของเยโฮฮานันบุตรเอลียาชีบ อยู่ที่นั่นโดยไม่ได้รับประทานอาหารหรือดื่มน้ำ เพราะท่านไว้อาลัยในความไม่ภักดีของพวกเชลย มีการประกาศทั่วยูดาห์และเยรูซาเล็ม ถึงพวกที่ถูกจับไปเป็นเชลยซึ่งกลับมา ให้มาประชุมกันที่เยรูซาเล็ม และถ้าหากว่าผู้ใดไม่มาภายใน 3 วัน เขาก็จะสูญเสียที่ดินตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ชั้นสูงและพวกผู้ใหญ่ และเขาจะถูกขับไล่ออกจากที่ประชุมของกลุ่มเชลย

ดังนั้น พวกผู้ชายทั้งปวงของยูดาห์และเบนยามินจึงประชุมกันที่เยรูซาเล็มภายใน 3 วัน เป็นเดือนที่เก้า วันที่ยี่สิบของเดือน และประชาชนทั้งปวงนั่งอยู่บนลานกว้างที่หน้าพระตำหนักของพระเจ้า ตัวสั่นเทาเพราะเรื่องนี้และเพราะมีฝนตกหนัก 10 เอสราปุโรหิตยืนขึ้นและกล่าวว่า “พวกท่านสิ้นความภักดี และแต่งงานกับหญิงต่างชาติ จึงได้เพิ่มความผิดให้แก่อิสราเอล 11 บัดนี้จงสารภาพต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของท่าน และทำตามความประสงค์ของพระองค์ จงแยกตนให้ห่างจากประชาชนของแผ่นดิน และจากภรรยาต่างชาติ” 12 และที่ประชุมทั้งหมดก็ตอบด้วยเสียงอันดังว่า “เป็นจริงตามนั้น พวกเราต้องปฏิบัติตามที่ท่านกล่าว 13 แต่มีประชาชนมากมาย และขณะนี้เป็นฤดูที่ฝนตกหนัก พวกเราจะยืนอยู่กลางแจ้งไม่ได้ และเราไม่สามารถทำเสร็จในวันสองวันได้ เพราะพวกเราได้ล่วงละเมิดในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก 14 ให้พวกเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ของเราเป็นตัวแทนให้ที่ประชุมทั้งหมด และให้ทุกคนในเมืองที่แต่งงานกับหญิงต่างชาติมาตามเวลานัดหมาย พร้อมด้วยบรรดาผู้ใหญ่และตุลาการของแต่ละเมือง จนกระทั่งความกริ้วอันร้อนแรงของพระเจ้าของเรา ที่พลุ่งขึ้นเพราะเรื่องนี้จะหันไปจากพวกเรา” 15 โยนาธานบุตรอาสาเฮล และยาไซอาห์บุตรทิกวาห์คัดค้านขึ้นมา และเมชุลลามกับชับเบธัยชาวเลวีก็สนับสนุนในการคัดค้านนี้

16 แล้วพวกเชลยที่กลับมาก็ทำตามข้อเสนอนั้น เอสราปุโรหิตจึงเลือกชายที่เป็นหัวหน้าครอบครัว ตามตระกูลของพวกเขา กำหนดพวกเขาแต่ละคนตามรายชื่อ ในวันแรกของเดือนที่สิบ พวกเขาก็นั่งลงพิจารณาเรื่องนี้ 17 ภายในวันแรกของเดือนแรก พวกเขาก็จัดการเรื่องของชายทุกคนที่ได้แต่งงานกับหญิงต่างชาติเสร็จสิ้น

ผู้มีความผิดเรื่องการแต่งงาน

18 พวกเขาพบว่าบุตรของปุโรหิตบางคนที่ได้แต่งงานกับหญิงต่างชาติ จากเชื้อสายของเยชูอาบุตรโยซาดัก และพี่น้องของเยชูอาคือ มาอาเสยาห์ เอลีเอเซอร์ ยารีบ และเก-ดาลิยาห์ 19 พวกเขาได้สาบานตนว่าจะส่งภรรยาของเขากลับไป และมอบของถวายเพื่อไถ่โทษเป็นแกะตัวผู้ตัวหนึ่งจากฝูงแพะแกะสำหรับความผิดของเขา 20 จากเชื้อสายของอิมเมอร์คือ ฮานานีและเศบาดิยาห์ 21 จากเชื้อสายของฮาริมคือ มาอาเสยาห์ เอลียาห์ เชไมยาห์ เยฮีเอล และอุสซียาห์ 22 จากเชื้อสายของปาชเฮอร์คือ เอลีโอนัย มาอาเสยาห์ อิชมาเอล เนธันเอล โยซาบาด และเอลอาสาห์

23 จากชาวเลวีคือ โยซาบาด ชิเมอี เค-ลายาห์ (คือเคลิทา) เปธาหิยาห์ ยูดาห์ และเอลีเอเซอร์ 24 จากพวกนักร้องคือ เอลียาชีบ จากคนเฝ้าประตูคือ ชัลลูม เทเลม และอุรี

25 และจากชาวอิสราเอลคือ จากเชื้อสายของปาโรชคือ รามียาห์ อิสซียาห์ มัลคิยาห์ มิยามิน เอเลอาซาร์ มัลคิยาห์ และเบไนยาห์ 26 จากเชื้อสายของเอลามคือ มัทธานิยาห์ เศคาริยาห์ เยฮีเอล อับดี เยเรโมท เอลียาห์ 27 จากเชื้อสายของศัทธูคือ เอลีโอนัย เอลียาชีบ มัทธานิยาห์ เยเรโมท ศาบาด และอาซีซา 28 จากเชื้อสายของเบบัยคือ เยโฮฮานัน ฮานันยาห์ ศับบัย อัทลัย 29 จากเชื้อสายของบานีคือ เมชุลลาม มัลลูค อาดายาห์ ยาชูบ เชอัล และเยเรโมท 30 จากเชื้อสายของปาหัทโมอับคือ อัดนา เคลาล เบไนยาห์ มาอาเสยาห์ มัทธานิยาห์ เบซาเลล บินนุย และมนัสเสห์ 31 จากเชื้อสายของฮาริมคือ เอลีเอเซอร์ อิสชียาห์ มัลคิยาห์ เชไมยาห์ ชิเมโอน 32 เบนยามิน มัลลูค เช-มาริยาห์ 33 จากเชื้อสายของฮาชูมคือ มัทเธนัย มัทธัตตาห์ ศาบาด เอลีเฟเลท เยเรมัย มนัสเสห์และชิเมอี 34 จากเชื้อสายของบานีคือ มาอาดัย อัมราม อูเอล 35 เบไนยาห์ เบดัยยาห์ เคลุฮี 36 วานิยาห์ เมเรโมท เอลียาชีบ 37 มัทธานิยาห์ มัทเธนัย ยาอาสุ 38 บานี จากเชื้อสายของบินนุยคือ ชิเมอี 39 เชเลมิยาห์ นาธาน อาดายาห์ 40 มัคนาเดบัย ชาชัย ชารัย 41 อาซาร์เอล เชเลมิยาห์ เช-มาริยาห์ 42 ชัลลูม อามาริยาห์ และโยเซฟ 43 จากเชื้อสายของเนโบคือ เยอีเอล มัททีธิยาห์ ศาบาด เศบินา ยาดดัย โยเอล และเบไนยาห์ 44 ชายเหล่านี้ได้แต่งงานกับหญิงต่างชาติ และผู้หญิงบางคนก็ได้ให้กำเนิดบุตรด้วย

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation