Beginning
ศัตรูขัดขวางการสร้างพระวิหาร
4 เมื่อศัตรูของยูดาห์และเบนยามินทราบว่า บรรดาผู้ที่ถูกเนรเทศซึ่งได้กลับมา กำลังสร้างพระวิหารถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอล 2 พวกเขาจึงไปหาเศรุบบาเบลและบรรดาหัวหน้าตระกูล และบอกว่า “ให้พวกเราสร้างด้วยกันกับท่าน เพราะเรานมัสการพระเจ้าของท่านเหมือนกับท่าน และนับจากสมัยของกษัตริย์เอสาร์ฮัดโดนแห่งอัสซีเรียผู้นำพวกเรามาที่นี่ พวกเราก็ได้มอบเครื่องสักการะแด่พระองค์เสมอมา” 3 แต่เศรุบบาเบล เยชูอา และหัวหน้าตระกูลทั้งปวงในอิสราเอล ก็ตอบพวกเขาว่า “พวกท่านไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเราในการสร้างพระตำหนักถวายแด่พระเจ้าของเรา แต่พวกเราเท่านั้นที่จะสร้างถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอล ตามที่ไซรัสกษัตริย์แห่งเปอร์เซียได้บัญชาพวกเรา”
4 แล้วประชาชนของแผ่นดินนั้นก็ทำให้ประชาชนของยูดาห์ท้อถอยและกลัวที่จะสร้างพระวิหาร 5 และยังได้จ้างเจ้าหน้าที่ให้ต่อต้านพวกเขา ซึ่งทำให้อึดอัดใจกับการก่อสร้าง ตลอดทั้งสมัยของไซรัสกษัตริย์แห่งเปอร์เซีย จนถึงสมัยการปกครองของกษัตริย์ดาริอัสแห่งเปอร์เซีย
6 ในระยะต้นสมัยการปกครองของอาหสุเอรัส พวกเขาเขียนจดหมายกล่าวหาประชาชนของยูดาห์และเยรูซาเล็ม
จดหมายถึงกษัตริย์อาร์ทาเซอร์ซีส
7 ในสมัยของอาร์ทาเซอร์ซีส บิชลาม มิทเรดาท ทาเบเอล และผู้ร่วมงานทั้งปวงของพวกเขามีจดหมายไปถึงกษัตริย์อาร์ทาเซอร์ซีสแห่งเปอร์เซีย จดหมายนั้นเขียนเป็นภาษาอาราเมค และแปลเป็นภาษาอาราเมค 8 เรฮูมผู้บังคับบัญชา และชิมชัยเลขา เขียนจดหมายถึงกษัตริย์อาร์ทาเซอร์ซีส เป็นการต่อต้านเยรูซาเล็มว่า 9 เรฮูมผู้บังคับบัญชา ชิมชัยเลขา และผู้ร่วมงานทั้งปวงของพวกเขาคือ บรรดาผู้พิพากษา ผู้ว่าราชการ เจ้าหน้าที่ ชาวเปอร์เซีย คนจากเอเรก ชาวบาบิโลน คนจากสุสาคือชาวเอลาม 10 และชนชาติทั้งปวงที่โอสนัปปาร์ผู้ยิ่งใหญ่และมีเกียรติได้เนรเทศให้ออกไปตั้งหลักแหล่งอยู่ในเมืองของสะมาเรียและในส่วนอื่นๆ ของแคว้นทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส
11 (นี่เป็นสำเนาจดหมายที่พวกเขาส่งไป) “ถึงกษัตริย์อาร์ทาเซอร์ซีส จากบรรดาผู้รับใช้ของท่าน คนของแคว้นทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส 12 ขอกษัตริย์ทราบด้วยว่า บรรดาชาวยิวที่ท่านปล่อยให้ขึ้นมาถึงที่นี่ ได้ไปยังเยรูซาเล็ม และพวกเขากำลังสร้างเมืองขึ้นใหม่ซึ่งเป็นเมืองที่ชั่วร้ายและแข็งข้อ พวกเขากำลังสร้างกำแพงเมืองจนเกือบเสร็จแล้ว และกำลังซ่อมฐานรากอยู่
13 บัดนี้ขอกษัตริย์ทราบด้วยว่า ถ้าเมืองนี้ถูกสร้างขึ้นใหม่ และกำแพงเมืองสร้างเสร็จ พวกเขาจะไม่มอบของกำนัล ค่าธรรมเนียม หรือภาษี และจะทำให้รายได้ของกษัตริย์ลดน้อยลง 14 เป็นเพราะพวกเราอยู่ในสังกัดของวังกษัตริย์ และไม่สมควรที่เราจะเห็นกษัตริย์เสื่อมเกียรติ ฉะนั้นพวกเราจึงส่งข้อมูลแจ้งมายังกษัตริย์ 15 เพื่อจะได้ค้นดูในบันทึกเอกสารของบรรพบุรุษของท่าน ท่านจะทราบจากสมุดบันทึกว่า เมืองนี้แข็งข้อและก่อปัญหาให้กับบรรดากษัตริย์และแว่นแคว้น ก่อความกระด้างกระเดื่องต่อผู้มีอำนาจปกครองนับตั้งแต่สมัยก่อน เมืองนี้จึงได้ถูกทำลายสิ้น 16 พวกเราแจ้งให้กษัตริย์ทราบว่า ถ้าเมืองนี้ถูกสร้างขึ้นใหม่ และกำแพงเมืองเสร็จเมื่อใด ท่านจะไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่ในแคว้นทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส”
กษัตริย์บัญชาให้หยุดงานก่อสร้าง
17 กษัตริย์ส่งคำตอบว่า “ถึงเรฮูมผู้บังคับบัญชา และชิมชัยเลขา และเพื่อนร่วมงานทั้งปวงของพวกเขาที่อาศัยอยู่ในสะมาเรียและในแคว้นทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส เราส่งคำทักทายมา 18 จดหมายที่ท่านส่งถึงเรานั้นมีคนแปลและอ่านต่อหน้าเราแล้ว 19 และเราออกคำสั่ง และให้ค้นดูแล้ว เราพบว่าตั้งแต่สมัยก่อน เมืองนี้ได้ลุกขึ้นต่อต้านบรรดากษัตริย์ มีการต่อต้านและปลุกปั่นให้กระด้างกระเดื่องต่อผู้มีอำนาจปกครอง 20 เยรูซาเล็มมีบรรดากษัตริย์ที่มีอำนาจปกครองทั่วแคว้นทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส ซึ่งได้รับทั้งของกำนัล ค่าธรรมเนียม และภาษี 21 ฉะนั้น จงออกคำสั่งว่า ให้คนเหล่านั้นหยุดปฏิบัติงาน อย่าสร้างเมืองนี้ขึ้นใหม่ จนกว่าเราจะเป็นผู้ออกคำสั่ง 22 จงแน่ใจว่าไม่ละเลยในเรื่องนี้ ทำไมจะปล่อยให้เกิดความเสียหายยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นการขัดผลประโยชน์ของกษัตริย์”
23 ครั้นได้อ่านสำเนาจดหมายของกษัตริย์อาร์ทาเซอร์ซีสต่อหน้าเรฮูม ชิมชัยเลขา และบรรดาผู้ร่วมงานของพวกเขาแล้ว เขาทั้งปวงจึงรีบไปหาพวกชาวยิวที่เยรูซาเล็ม และใช้กำลังและอำนาจบังคับให้พวกเขาหยุดก่อสร้าง 24 ฉะนั้นงานพระตำหนักของพระเจ้าในเยรูซาเล็มจึงหยุดพักไป จนกระทั่งปีที่สองแห่งการปกครองของกษัตริย์ดาริอัสแห่งเปอร์เซีย
การสร้างเริ่มขึ้นใหม่
5 ฮักกัยและเศคาริยาห์บุตรอิดโดเป็นผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า ได้กล่าวเผยความแก่บรรดาชาวยิวที่อยู่ในยูดาห์และเยรูซาเล็ม ในพระนามพระเจ้าของอิสราเอลผู้คุ้มครองพวกเขา 2 เศรุบบาเบลบุตรเชอัลทิเอล และเยชูอาบุตรโยซาดัก ก็เริ่มสร้างพระตำหนักของพระเจ้าขึ้นใหม่ในเยรูซาเล็ม ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าอยู่กับพวกเขา และสนับสนุนพวกเขา
3 ในเวลาเดียวกัน ทัทเธนัยผู้ว่าราชการของแคว้นทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส และเชธาร์โบเซนัย และบรรดาผู้ร่วมงานของพวกเขาก็มาหาพวกเขา และพูดว่า “ใครเป็นผู้ออกคำสั่งให้สร้างพระตำหนักนี้ให้เสร็จ” 4 พวกเขาถามอีกว่า “ระบุรายชื่อมาเถิดว่า ใครบ้างที่เป็นผู้สร้างตึกนี้” 5 แต่พระเจ้าของพวกเขาคุ้มครองบรรดาผู้ใหญ่ของชาวยิว พวกเขาจึงห้ามการก่อสร้างไม่ได้ จนกระทั่งมีรายงานไปยังดาริอัส และมีคำตอบกลับมาเป็นจดหมายเรื่องการสร้างในครั้งนั้น
ทัทเธนัยมีจดหมายถึงกษัตริย์ดาริอัส
6 ทัทเธนัยผู้ว่าราชการแคว้นทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส เชธาร์โบเซนัยและบรรดาผู้ร่วมงานของเขา บรรดาผู้ว่าราชการที่อยู่ในแคว้นทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส มีสำเนาจดหมายส่งไปยังกษัตริย์ดาริอัส 7 ในจดหมายที่พวกเขาส่งไปมีใจความว่า “ถึงกษัตริย์ดาริอัส ขอสันติสุขจงมีแก่ท่าน 8 ขอกษัตริย์โปรดทราบว่า พวกเราไปยังแคว้นยูดาห์ ยังพระตำหนักของพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ เห็นว่ากำลังใช้หินก้อนมหึมาในการก่อสร้าง และใช้ไม้สร้างกำแพง พวกเขาทำงานครั้งนี้ด้วยความขยันขันแข็งและบรรลุผลได้ดี
9 พวกเราจึงถามพวกผู้ใหญ่เหล่านั้นว่า ‘ใครออกคำสั่งให้สร้างพระตำหนักนี้ให้เสร็จ’ 10 พวกเราถามรายชื่อของพวกเขาเพื่อเป็นข้อมูลให้ท่านด้วย เพื่อจะได้บันทึกชื่อหัวหน้าของพวกเขา 11 และเขาตอบพวกเราว่า ‘พวกเราเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์และโลก พวกเรากำลังสร้างพระตำหนักที่ถูกสร้างหลายปีมาแล้วขึ้นใหม่ ซึ่งกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งอิสราเอลท่านหนึ่งได้สร้างจนเสร็จ 12 แต่เป็นเพราะบรรพบุรุษของเราทำให้พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์กริ้ว พระองค์จึงมอบพวกเขาไว้ในมือของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน ซึ่งเป็นชาวเคลเดีย และได้ทำลายพระตำหนักนี้ และเนรเทศประชาชนไปยังบาบิโลน
13 อย่างไรก็ตาม ในปีแรกของไซรัสกษัตริย์แห่งบาบิโลน กษัตริย์ไซรัสออกคำสั่งว่าควรจะสร้างพระตำหนักของพระเจ้าขึ้นใหม่ 14 ดังนั้น เครื่องใช้ทองคำและเงินของพระตำหนักของพระเจ้า ซึ่งเนบูคัดเนสซาร์ได้ขนไปจากพระวิหารในเยรูซาเล็ม ไปไว้ในวิหารของบาบิโลน กษัตริย์ไซรัสจึงได้ย้ายเครื่องใช้เหล่านี้ออกจากวิหารของบาบิโลน และส่งต่อให้บุคคลผู้หนึ่งชื่อเชชบัสซาร์ซึ่งท่านได้แต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าราชการ 15 และกษัตริย์สั่งว่า “จงเอาเครื่องใช้เหล่านี้ไปไว้ในพระวิหารในเยรูซาเล็ม และจงสร้างพระตำหนักของพระเจ้าในที่เดิม” 16 เชชบัสซาร์ผู้นี้จึงมาและวางฐานรากพระตำหนักของพระเจ้าในเยรูซาเล็ม และตั้งแต่นั้นมาจนถึงบัดนี้ก็ได้ถูกสร้างขึ้น แต่ยังไม่เสร็จ’
17 ฉะนั้นถ้ากษัตริย์เห็นสมควร ขอท่านโปรดค้นดูในบันทึกเอกสารของราชวงศ์ในบาบิโลน เพื่อดูว่ามีคำสั่งจากกษัตริย์ไซรัสให้สร้างพระตำหนักของพระเจ้าขึ้นใหม่ในเยรูซาเล็มหรือไม่ และขอกษัตริย์รับสั่งพวกเราตามความประสงค์ในเรื่องนี้เถิด”
ดาริอัสออกคำสั่ง
6 กษัตริย์ดาริอัสออกคำสั่งให้ค้นหาในบาบิโลน ในตำหนักที่มีบันทึกเอกสารเก็บรักษาไว้ 2 และก็พบหนังสือม้วนหนึ่งในป้อมปราการที่อัคมะทาในแคว้นมีเดีย มีใจความเขียนไว้ดังนี้ 3 “ในปีแรกของกษัตริย์ไซรัส กษัตริย์ไซรัสออกคำสั่งว่า เรื่องพระตำหนักของพระเจ้าที่เยรูซาเล็ม ให้สร้างพระวิหารขึ้นใหม่ เพื่อเป็นสถานที่สำหรับถวายเครื่องสักการะ ให้วางฐานรากพระวิหาร ให้มีความสูง 60 ศอก และกว้าง 60 ศอก 4 ใช้หินขนาดใหญ่ก่อ 3 ชั้นกับไม้ 1 ชั้น ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างก็เก็บจากคลังของกษัตริย์ 5 เครื่องใช้ทองคำและเงินจากพระตำหนักของพระเจ้า ซึ่งเนบูคัดเนสซาร์ขนจากพระวิหารในเยรูซาเล็มไปยังบาบิโลน ก็จงนำกลับมาเก็บในที่เดิมที่พระวิหารในเยรูซาเล็ม เจ้าจงนำไปเก็บไว้ในพระตำหนักของพระเจ้า
6 ฉะนั้น บัดนี้ทัทเธนัยผู้ว่าราชการของแคว้นทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส เชธาร์โบเซนัย และบรรดาผู้ร่วมงานของท่าน ซึ่งเป็นผู้ว่าราชการแคว้นทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส อย่ามาเกี่ยวข้องด้วยเลย 7 อย่าแตะต้องงานพระตำหนักของพระเจ้า ปล่อยให้ผู้ว่าราชการของชาวยิวและบรรดาผู้ใหญ่ของชาวยิวสร้างพระตำหนักของพระเจ้าขึ้นใหม่ในที่เดิม
8 ยิ่งกว่านั้น เรามีคำสั่งในเรื่องที่ท่านจะต้องทำเพื่อบรรดาผู้ใหญ่ของชาวยิวเหล่านี้ เพื่อสร้างพระตำหนักของพระเจ้าขึ้นใหม่ จงให้คลังกษัตริย์ชำระค่าใช้จ่ายแก่ชายเหล่านี้เต็มจำนวน และอย่ารอช้า ใช้เงินภาษีจากแคว้นทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส 9 และอะไรอื่นอีกที่จำเป็นต้องใช้เช่น โคตัวผู้ แกะตัวผู้ หรือแกะที่ใช้เผาเป็นของถวายแด่พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ ข้าวสาลี เกลือ เหล้าองุ่น หรือน้ำมัน ตามที่ปุโรหิตที่เยรูซาเล็มกำหนด จงให้สิ่งเหล่านี้แก่พวกเขาในแต่ละวัน อย่าให้บกพร่อง 10 เพื่อพวกเขาจะมอบเครื่องสักการะอันน่าพอใจแด่พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ และให้เขาอธิษฐานเพื่อชีวิตของกษัตริย์และบุตรทั้งหลายด้วย
11 เราออกกฤษฎีกาด้วยว่า หากผู้ใดเปลี่ยนแปลงคำสั่งนี้ คานไม้ที่บ้านของเขาจะถูกถอนออกมา และร่างของเขาจะถูกตรึงบนคานนั้น และบ้านของเขาจะกลายเป็นกองมูลสัตว์ 12 พระเจ้าผู้ทำให้พระนามของพระองค์สถิตที่นั่น ขอพระองค์ปลดกษัตริย์หรือประชาชนคนใดที่ยื่นมือมาเปลี่ยนแปลงคำสั่งนี้ หรือถ้าใครทำลายพระตำหนักของพระเจ้าแห่งนี้ที่เยรูซาเล็ม เราดาริอัสเป็นผู้ออกคำสั่ง ขอให้ปฏิบัติตามนั้นอย่างเคร่งครัด”
สร้างพระวิหารเสร็จ
13 ทัทเธนัยผู้ว่าราชการของแคว้นทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส เชธาร์โบเซนัย และเพื่อนร่วมงานของพวกเขาทำตามคำสั่งของกษัตริย์ดาริอัสอย่างเคร่งครัด 14 และบรรดาผู้ใหญ่ของชาวยิวก็สร้างและประสบผลสำเร็จ ตามการเผยความของฮักกัยผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า และเศคาริยาห์บุตรอิดโด พวกเขาสร้างเสร็จตามคำบัญชาของพระเจ้าของอิสราเอล และตามคำสั่งของไซรัส ดาริอัส และกษัตริย์อาร์ทาเซอร์ซีสแห่งเปอร์เซีย 15 พระตำหนักนี้สร้างเสร็จในวันที่สามของเดือนอาดาร์ ในปีที่หกของการปกครองของกษัตริย์ดาริอัส
16 ประชาชนของอิสราเอล บรรดาปุโรหิต ชาวเลวี และพวกที่ถูกเนรเทศที่กลับมา จึงฉลองการถวายพระตำหนักของพระเจ้าแห่งนี้ด้วยความยินดี 17 ในงานถวายพระตำหนักของพระเจ้าแห่งนี้ พวกเขามอบโคตัวผู้ 100 ตัว แกะตัวผู้ 200 ตัว ลูกแกะ 400 ตัว และแพะตัวผู้ 12 ตัว เป็นเครื่องสักการะชดใช้บาปสำหรับอิสราเอลทั้งปวง ตามจำนวนเผ่าของอิสราเอล 18 แล้วเขาเหล่านั้นกำหนดบรรดาปุโรหิตและชาวเลวีประจำกองเวรของพวกเขา เพื่องานรับใช้พระเจ้าที่เยรูซาเล็ม ตามที่บันทึกไว้ในหนังสือของโมเสส
ฉลองเทศกาลปัสกา
19 ในวันที่สิบสี่ของเดือนแรก บรรดาผู้ถูกเนรเทศที่กลับมาก็ถือกฎปัสกา 20 เพราะบรรดาปุโรหิตและชาวเลวีได้ชำระตัวให้บริสุทธิ์ด้วยกัน ทุกคนจึงบริสุทธิ์ ดังนั้นพวกเขาจึงฆ่าลูกแกะปัสกาสำหรับบรรดาผู้ถูกเนรเทศที่กลับมา สำหรับพี่น้องที่เป็นปุโรหิต และสำหรับพวกเขาเอง 21 ดังนั้นชาวอิสราเอลที่ถูกเนรเทศและได้กลับมาจึงรับประทานปัสกาด้วย พร้อมกับคนทั้งปวงที่ได้แยกตนออกจากคนนอกซึ่งปฏิบัติตนในหนทางที่เป็นมลทินของแผ่นดิน เพื่อนมัสการพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอล 22 และพวกเขาถือกฎเทศกาลขนมปังไร้เชื้อด้วยความยินดีเป็นเวลา 7 วัน เพราะพระผู้เป็นเจ้าได้ทำให้พวกเขาชื่นชมยินดี และได้เปลี่ยนใจกษัตริย์แห่งอัสซีเรียให้มาสนใจพวกเขา ดังนั้นท่านจึงช่วยเหลือในเรื่องงานพระตำหนักของพระเจ้า พระเจ้าของอิสราเอล
เอสราสอนประชาชน
7 หลังจากนั้น คือในรัชกาลของกษัตริย์อาร์ทาเซอร์ซีสแห่งเปอร์เซีย เอสราบุตรเสไรยาห์ ผู้เป็นบุตรอาซาริยาห์ ผู้เป็นบุตรฮิลคียาห์ 2 ผู้เป็นบุตรชัลลูม ผู้เป็นบุตรศาโดก ผู้เป็นบุตรอาหิทูบ 3 ผู้เป็นบุตรอามาริยาห์ ผู้เป็นบุตรอาซาริยาห์ ผู้เป็นบุตรเมราโยท 4 ผู้เป็นบุตรเศรัคยาห์ ผู้เป็นบุตรอุสซี ผู้เป็นบุตรบุคคี 5 ผู้เป็นบุตรอาบีชูวา ผู้เป็นบุตรฟีเนหัส ผู้เป็นบุตรเอเลอาซาร์ ผู้เป็นบุตรอาโรนมหาปุโรหิต 6 เอสราผู้นี้ขึ้นไปจากบาบิโลน ท่านเป็นผู้สอนกฎบัญญัติ ผู้ชำนาญในเรื่องกฎบัญญัติของโมเสส ซึ่งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอลได้มอบไว้ และกษัตริย์ประทานทุกสิ่งที่ท่านขอ ด้วยว่ามือของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านสถิตกับท่าน
7 และประชาชนของอิสราเอลบางคน ปุโรหิตและชาวเลวีบางคน พวกนักร้องและคนเฝ้าประตู และพวกผู้รับใช้พระวิหาร ต่างก็ขึ้นไปยังเยรูซาเล็ม ในปีที่เจ็ดของกษัตริย์อาร์ทาเซอร์ซีส 8 เอสราไปยังเยรูซาเล็มในเดือนที่ห้า ปีที่เจ็ดของกษัตริย์ 9 ในวันแรกของเดือนแรก ท่านเริ่มเดินทางขึ้นไปจากบาบิโลน และในวันแรกของเดือนที่ห้า ท่านมาถึงเยรูซาเล็ม ด้วยว่ามืออันประเสริฐของพระเจ้าของท่านสถิตกับท่าน 10 เอสราได้ปักใจในการเรียนกฎบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า และปฏิบัติตาม และสอนคำบัญชาและกฎเกณฑ์ในอิสราเอล
11 ต่อไปนี้เป็นสำเนาจดหมายที่กษัตริย์อาร์ทาเซอร์ซีสให้แก่เอสราปุโรหิต ผู้สอนกฎบัญญัติและเรียนรู้ในเรื่องพระบัญญัติและกฎเกณฑ์ของพระองค์เพื่ออิสราเอลว่า 12 “อาร์ทาเซอร์ซีสกษัตริย์ของบรรดากษัตริย์ส่งคำทักทายถึงเอสราปุโรหิต ผู้สอนกฎบัญญัติของพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์
13 เราออกคำสั่งว่า ประชาชนของอิสราเอลคนใดที่อยู่ในอาณาจักรของเรา หรือบรรดาปุโรหิตของพวกเขา หรือชาวเลวี ที่ปรารถนาที่จะไปยังเยรูซาเล็มกับท่าน ก็ให้เขาไปได้ 14 เพราะกษัตริย์และที่ปรึกษาทั้งเจ็ดคนเป็นผู้ส่งท่านไป เพื่อสอบถามยูดาห์และเยรูซาเล็มในเรื่องกฎบัญญัติของพระเจ้าของท่าน ซึ่งเป็นกฎที่อยู่ในมือท่าน 15 และนำเงินกับทองคำซึ่งกษัตริย์และที่ปรึกษาได้ถวายด้วยใจสมัครแด่พระเจ้าของอิสราเอล ผู้พำนักในเยรูซาเล็ม 16 พร้อมกับเงินและทองคำทั้งหมดที่ท่านได้รับจากแคว้นบาบิโลน พร้อมทั้งของถวายด้วยใจสมัครของประชาชนและปุโรหิต เพื่อพระตำหนักของพระเจ้าของพวกเขาในเยรูซาเล็ม 17 จงแน่ใจว่าท่านจะใช้เงินที่ได้นี้ซื้อโคผู้ แกะผู้ และลูกแกะ กับเครื่องธัญญบูชาและเครื่องดื่มบูชา และถวายสิ่งเหล่านี้บนแท่นบูชาที่พระวิหารของพระเจ้าของท่านในเยรูซาเล็ม
18 สิ่งใดที่ท่านและพี่น้องของท่านเห็นสมควรกับการใช้เงินและทองคำที่เหลือ ก็จงทำตามความปรารถนาของพระเจ้าของท่านเถิด 19 เครื่องใช้ที่มอบให้ท่านเพื่องานรับใช้ในพระวิหารของพระเจ้าของท่าน ท่านก็จงเอาไปถวายแด่พระเจ้าของเยรูซาเล็ม 20 และสิ่งใดที่ควรมีสำหรับพระวิหารของพระเจ้าของท่าน ซึ่งท่านรับผิดชอบต้องจัดหาไว้ ท่านก็จงจัดหาได้จากคลังของกษัตริย์
21 และเราผู้เป็นกษัตริย์อาร์ทาเซอร์ซีสบัญชาผู้ดูแลกองคลังทั้งปวงของแคว้นทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติสว่า สิ่งใดที่เอสราต้องการ เขาเป็นทั้งปุโรหิตและผู้สอนกฎบัญญัติของพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ ก็จงปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด 22 เราอนุมัติให้เขาได้มากตามนี้คือ เงินหนัก 100 ตะลันต์[a] ข้าวสาลี 100 โคร์[b] เหล้าองุ่น 100 บัท[c] น้ำมัน 100 บัท และเกลือไม่จำกัดปริมาณ 23 สิ่งใดที่พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์บัญชา จงทำอย่างเคร่งครัดสำหรับพระวิหารของพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ มิฉะนั้นพระองค์จะกริ้วกษัตริย์และบรรดาบุตรด้วย 24 พวกเราแจ้งท่านด้วยว่า เป็นการผิดกฎที่จะรับของกำนัล ค่าธรรมเนียม หรือภาษีจากบรรดาปุโรหิต ชาวเลวี คนร้องเพลง คนเฝ้าประตู ผู้รับใช้พระวิหาร หรือผู้รับใช้อื่นๆ ในพระวิหารของพระเจ้า
25 เอสรา ท่านเองมีสติปัญญาที่ได้รับจากพระเจ้าของท่าน จงแต่งตั้งเจ้าหน้าที่บังคับคดีและผู้พิพากษา ที่จะตัดสินประชาชนทั้งปวงของแคว้นทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส ทุกคนควรรู้กฎบัญญัติของพระเจ้าของท่าน ส่วนพวกที่ไม่รู้ ท่านทั้งหลายก็จงสอนพวกเขา 26 ใครก็ตามที่ไม่เชื่อฟังกฎบัญญัติของพระเจ้าของท่าน และกฎของกษัตริย์ ก็จงลงโทษเขา ไม่ว่าจะเป็นโทษถึงแก่ความตาย หรือถูกเนรเทศ ถูกยึดสมบัติ หรือการถูกจำคุก”
27 สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของเรา พระองค์ดลใจกษัตริย์ในเรื่องดังกล่าว เพื่อทำให้พระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้าในเยรูซาเล็มงดงาม 28 และมอบความรักอันมั่นคงของพระองค์แก่ข้าพเจ้า ต่อหน้ากษัตริย์และที่ปรึกษาของท่าน และต่อหน้าบรรดาขุนนางทั้งปวงที่มีอำนาจของกษัตริย์ ข้าพเจ้ามีใจกล้าหาญเพราะมือของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้าสถิตกับข้าพเจ้า และข้าพเจ้ารวบรวมผู้นำชายชาวอิสราเอลขึ้นไปกับข้าพเจ้า
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation