Beginning
เยโฮรัมครองราชย์ในยูดาห์
21 เยโฮชาฟัทสิ้นชีวิตและถูกนำไปวางรวมกับบรรพบุรุษของท่าน ศพถูกบรรจุไว้ในเมืองของดาวิด และเยโฮรัมบุตรของท่านครองราชย์แทนท่าน 2 ท่านมีพี่น้องที่เป็นบุตรของเยโฮชาฟัทคือ อาซาริยาห์ เยฮีเอล เศคาริยาห์ อาซาริยาห์ มีคาเอล และเชฟาทิยาห์ พวกเขาเป็นบุตรของเยโฮชาฟัทกษัตริย์แห่งอิสราเอล[a] 3 สิ่งที่บิดาของพวกเขามอบให้ก็คือ เงิน ทองคำ และของมีค่า พร้อมทั้งเมืองในยูดาห์ที่คุ้มกันไว้อย่างแข็งแกร่ง แต่ท่านมอบอาณาจักรให้แก่เยโฮรัมเพราะว่าท่านเป็นบุตรหัวปี 4 เมื่อเยโฮรัมขึ้นครองบัลลังก์ของบิดา และมั่นคงแล้ว ท่านก็สังหารพี่น้องของท่านทุกคนด้วยดาบ และยังสังหารผู้นำบางคนของอิสราเอลด้วย 5 เยโฮรัมมีอายุ 32 ปีเมื่อเริ่มเป็นกษัตริย์ และท่านครองราชย์ 8 ปีในเยรูซาเล็ม 6 และท่านดำเนินชีวิตตามแบบอย่างบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอล เหมือนกับที่พงศ์พันธุ์ของอาหับได้กระทำ เพราะว่าบุตรหญิงของอาหับเป็นภรรยาของท่าน และท่านกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า 7 ถึงกระนั้นพระผู้เป็นเจ้าก็ไม่ต้องการทำลายพงศ์พันธุ์ของดาวิด เพราะพระองค์ได้ทำพันธสัญญาไว้กับดาวิด และในเมื่อพระองค์ได้สัญญาว่าจะมอบผู้สืบเชื้อสายให้แก่ท่าน และแก่บุตรหลานของท่านตลอดไป[b]
8 ในรัชสมัยของเยโฮรัม เอโดมขัดขืนต่อการปกครองของยูดาห์ และแต่งตั้งกษัตริย์ปกครองพวกของตน 9 ครั้นแล้วเยโฮรัมจึงยกทัพไปพร้อมกับผู้บัญชาการและขบวนรถศึกของท่าน ชาวเอโดมก็มาล้อมท่านและผู้บัญชาการรถศึก แต่ท่านตีฝ่าชาวเอโดมออกไปได้ในเวลากลางคืน 10 ดังนั้นเอโดมไม่ยอมอยู่ใต้การปกครองของยูดาห์มาจนถึงทุกวันนี้ ในเวลาเดียวกันลิบนาห์ก็ไม่ยอมอยู่ใต้การปกครองของท่านเช่นกัน เพราะท่านได้ละทิ้งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของท่าน
11 ยิ่งกว่านั้น ท่านสร้างสถานบูชาบนภูเขาสูงที่แถบภูเขายูดาห์ และทำให้บรรดาผู้อยู่อาศัยของเยรูซาเล็มปันใจประหนึ่งหญิงแพศยา และนำยูดาห์ให้หลงผิด
12 และมีจดหมายจากเอลียาห์ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าเขียนถึงท่านว่า “พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของดาวิดบิดาของท่านกล่าวว่า ‘เพราะเจ้าไม่ได้ดำเนินตามวิถีทางของเยโฮชาฟัทบิดาของเจ้า หรือตามวิถีทางของอาสาผู้เป็นกษัตริย์แห่งยูดาห์ 13 แต่ได้ดำเนินตามวิถีทางของบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอล และเป็นเหตุให้ยูดาห์และผู้อยู่อาศัยของเยรูซาเล็มปันใจประหนึ่งหญิงแพศยา เหมือนกับที่พงศ์พันธุ์ของอาหับกระทำ และเจ้าได้ฆ่าพวกน้องชายของเจ้า ผู้เป็นพงศ์พันธุ์ของบิดาของเจ้า ซึ่งพวกเขาก็ยังดีกว่าเจ้า 14 ดูเถิด พระผู้เป็นเจ้าจะให้เกิดภัยพิบัติรุนแรงกับประชาชนของเจ้า ลูกๆ และภรรยาของเจ้า และทุกสิ่งที่เจ้ามี 15 และตัวเจ้าเองจะเป็นโรคขั้นร้ายแรงในลำไส้ ถึงกับลำไส้หลุดออกมาเพราะโรคเรื้อรังนั้น’”
16 พระผู้เป็นเจ้าทำให้ชาวฟีลิสเตียและชาวอาหรับที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงกับชาวคูชรู้สึกขุ่นเคืองต่อเยโฮรัม 17 พวกเขาจึงขึ้นมาบุกรุกยูดาห์ และริบของที่อยู่ในวังของกษัตริย์ไป จับตัวบุตรชายและภรรยาของท่านไปด้วย ดังนั้นท่านไม่มีบุตรชายเหลืออยู่ ยกเว้นเยโฮอาหาส[c]บุตรชายคนสุดท้อง
18 หลังจากนั้นแล้วพระผู้เป็นเจ้าทำให้ท่านเป็นโรคลำไส้ที่รักษาไม่ได้ 19 เวลาผ่านไปประมาณ 2 ปี ลำไส้ของท่านก็หลุดออกมาเพราะโรคนั้น และท่านสิ้นชีวิตด้วยความทรมานมาก ประชาชนไม่ได้จุดไฟเป็นการให้เกียรติท่าน อย่างที่จุดให้แก่บรรพบุรุษของท่าน 20 ท่านมีอายุ 32 ปีเมื่อเริ่มเป็นกษัตริย์ และท่านครองราชย์ 8 ปีในเยรูซาเล็ม และท่านจากไปโดยที่ไม่มีใครเศร้าสลดใจเลย พวกเขาเก็บศพท่านไว้ในเมืองของดาวิด แต่ไม่ใช่ในถ้ำเก็บศพของบรรดากษัตริย์
อาหัสยาห์ครองราชย์ในยูดาห์
22 บรรดาผู้อยู่อาศัยของเยรูซาเล็มแต่งตั้งอาหัสยาห์บุตรชายคนสุดท้องให้เป็นกษัตริย์แทนท่าน เพราะโจรกลุ่มหนึ่งมาที่ค่ายพร้อมกับชาวอาหรับ และฆ่าพี่ชายทั้งหมด ดังนั้นอาหัสยาห์บุตรของเยโฮรัมกษัตริย์แห่งยูดาห์จึงขึ้นครองราชย์ 2 อาหัสยาห์มีอายุ 22 ปีเมื่อเริ่มเป็นกษัตริย์ และท่านครองราชย์ 1 ปีในเยรูซาเล็ม มารดาของท่านชื่อ อาธาลิยาห์ นางเป็นหลานสาวของอมรี 3 ท่านดำเนินชีวิตตามแบบอย่างพงศ์พันธุ์ของอาหับ เพราะมารดาของท่านหนุนหลังให้ทำความชั่ว 4 ท่านกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า เหมือนกับที่พงศ์พันธุ์ของอาหับได้กระทำ เพราะหลังจากบิดาของท่านสิ้นชีวิตแล้ว พวกเขาเป็นที่ปรึกษาของท่าน และนำท่านไปสู่ความพินาศ 5 ท่านยังทำตามคำแนะนำของพวกเขา ไปกับโยรัมบุตรอาหับกษัตริย์แห่งอิสราเอล เพื่อทำสงครามต่อสู้กับฮาซาเอลกษัตริย์แห่งอารัมที่ราโมทกิเลอาด ชาวอารัมทำให้โยรัมได้รับบาดเจ็บ 6 และท่านกลับไปรับการรักษาที่ยิสเรเอลเพราะพวกเขาทำให้ท่านบาดเจ็บที่รามาห์เมื่อต่อสู้กับฮาซาเอลกษัตริย์แห่งอารัม และอาหัสยาห์บุตรเยโฮรัมกษัตริย์แห่งยูดาห์จึงไปเยี่ยมโยรัมบุตรอาหับที่ยิสเรเอล เพราะท่านป่วย
7 แต่พระเจ้ากำหนดให้อาหัสยาห์ถึงความพินาศเมื่อท่านไปเยี่ยมโยรัม เพราะเมื่อท่านไปที่นั่น ท่านออกไปกับโยรัมเพื่อพบกับเยฮูบุตรของนิมชี ผู้ที่พระผู้เป็นเจ้าเจิมเพื่อทำลายพงศ์พันธุ์ของอาหับ 8 เมื่อเยฮูพิพากษาโทษพงศ์พันธุ์ของอาหับ ท่านพบบรรดาผู้นำของยูดาห์และบรรดาบุตรของพี่น้องอาหัสยาห์ ซึ่งรับใช้อาหัสยาห์ และท่านก็ฆ่าพวกเขา 9 ท่านค้นหาอาหัสยาห์ และจับตัวได้ขณะที่กำลังซ่อนอยู่ในสะมาเรีย จึงถูกนำตัวมาให้เยฮูสังหาร พวกเขาฝังท่าน เพราะพวกเขาพูดว่า “ท่านเป็นหลานของเยโฮชาฟัทผู้แสวงหาพระผู้เป็นเจ้าอย่างสุดจิตสุดใจ” ไม่มีใครในพงศ์พันธุ์ของอาหัสยาห์ที่สามารถปกครองอาณาจักรได้เลย
อาธาลิยาห์ขึ้นครองในยูดาห์
10 เมื่ออาธาลิยาห์มารดาของอาหัสยาห์เห็นว่าบุตรของนางสิ้นชีวิตแล้ว นางก็เริ่มตามฆ่าบรรดาเชื้อพระวงศ์ของพงศ์พันธุ์ยูดาห์ทุกคน 11 แต่เยโฮชาเบอาทบุตรหญิงของกษัตริย์ ได้ลักพาโยอาชบุตรชายของอาหัสยาห์ออกมา เพื่อไม่ให้ถูกฆ่าไปพร้อมกับบุตรทั้งปวงของกษัตริย์ นางซ่อนโยอาชและพี่เลี้ยงไว้ในห้องนอน เยโฮชาเบอาทบุตรหญิงของกษัตริย์เยโฮรัม ซึ่งเป็นภรรยาของเยโฮยาดาปุโรหิต และนางก็เป็นน้องสาวของอาหัสยาห์ด้วย นางได้ซ่อนโยอาชให้พ้นจากอาธาลิยาห์ เพื่อไม่ให้นางฆ่าท่านได้ 12 ท่านอยู่กับพวกเขาเป็นเวลา 6 ปี โดยถูกซ่อนอยู่ในพระตำหนักของพระเจ้า ในขณะที่อาธาลิยาห์ปกครองแผ่นดิน
โยอาชเป็นกษัตริย์
23 แต่ในปีที่เจ็ด เยโฮยาดามีใจกล้าขึ้น และไปทำสนธิสัญญากับผู้บัญชากองร้อยคือ อาซาริยาห์บุตรเยโรฮัม อิชมาเอลบุตรเยโฮฮานัน อาซาริยาห์บุตรโอเบด มาอาเสยาห์บุตรอาดายาห์ และเอลีชาฟัทบุตรศิครี 2 เขาทั้งหลายออกไปทั่วยูดาห์ และรวบรวมชาวเลวีในยูดาห์จากทุกเมือง รวมทั้งหัวหน้าครอบครัวของพงศ์พันธุ์อิสราเอล และพวกเขาพากันมายังเยรูซาเล็ม 3 ที่ประชุมทั้งหมดทำสนธิสัญญากับกษัตริย์ในพระตำหนักของพระเจ้า เยโฮยาดาพูดกับพวกเขาว่า “นี่คือบุตรของกษัตริย์ ให้ท่านครองราชย์ตามที่พระผู้เป็นเจ้าได้กล่าวถึงเรื่องบุตรทั้งหลายของดาวิดเถิด 4 สิ่งที่ท่านควรปฏิบัติก็คือ พวกท่านที่เป็นปุโรหิตและชาวเลวีต้องมาเริ่มเข้าเวรในวันสะบาโต หนึ่งในสามของพวกท่านจะเป็นคนเฝ้าประตู 5 และหนึ่งในสามจะอยู่ที่วังของกษัตริย์ อีกหนึ่งในสามประจำที่ประตูฐานราก และประชาชนทั้งปวงจะอยู่ที่ลานพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า 6 อย่าปล่อยให้ใครเข้าไปในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า นอกจากปุโรหิตและชาวเลวีที่ปฏิบัติงาน พวกเขาเข้าไปได้ เพราะเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ประชาชนทั้งปวงจะต้องคุ้มกันสิ่งที่เป็นของพระผู้เป็นเจ้า 7 ชาวเลวีต้องประจำการอยู่รอบข้างกษัตริย์ แต่ละคนถืออาวุธไว้พร้อม และใครก็ตามที่เข้าไปในตำหนักจะต้องถูกฆ่า พวกท่านจงอยู่ใกล้ชิดกษัตริย์ ไม่ว่าท่านจะไปที่ใดก็ตาม”
8 ชาวเลวีและยูดาห์ทั้งปวงปฏิบัติตามทุกสิ่งที่เยโฮยาดาปุโรหิตสั่ง และแต่ละกลุ่มก็ได้นำคนของตนมา ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่จะออกเวรหรือที่จะเข้าเวรในวันสะบาโต เพราะเยโฮยาดาปุโรหิตยังไม่ได้ปล่อยกองเวร 9 และเยโฮยาดาปุโรหิตมอบหอกและโล่ทั้งขนาดใหญ่และเล็กที่เป็นของกษัตริย์ดาวิด ซึ่งเก็บไว้ในพระตำหนักของพระเจ้าให้แก่บรรดาผู้บัญชากองร้อย 10 และท่านจัดตำแหน่งให้ทุกคนอยู่ประจำที่ และแต่ละคนถืออาวุธไว้พร้อม ตั้งแต่ด้านใต้จรดด้านเหนือของพระตำหนัก รอบแท่นบูชาและพระตำหนัก เพื่อความปลอดภัยของกษัตริย์ 11 แล้วเขาทั้งหลายก็นำบุตรของกษัตริย์ออกมา สวมมงกุฎ และมอบพันธสัญญาให้แก่ท่าน และพวกเขาประกาศให้ท่านเป็นกษัตริย์ เยโฮยาดาและบรรดาบุตรก็เจิมท่าน และกล่าวว่า “ขอกษัตริย์มีอายุยืนนาน”
อาธาลิยาห์ถูกประหาร
12 เมื่ออาธาลิยาห์ได้ยินเสียงประชาชนวิ่งและสรรเสริญกษัตริย์ นางจึงออกไปหาประชาชนที่พระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า 13 เมื่อนางมองดู ก็เห็นกษัตริย์ยืนที่ข้างเสาของท่านที่ทางเข้า บรรดาผู้บัญชากองร้อยและผู้เป่าแตรยาว[d]ยืนอยู่ข้างๆ และประชาชนทั้งปวงของแผ่นดินกำลังร่าเริงและเป่าแตรยาว บรรดานักร้องก็ร้องนำไปกับเครื่องดนตรีในงานฉลอง อาธาลิยาห์ก็ฉีกเสื้อของตน และร้องว่า “กบฏ กบฏ” 14 เยโฮยาดาปุโรหิตสั่งบรรดาผู้บัญชากองร้อยที่ควบคุมกำลังกองทัพว่า “นำนางออกมาระหว่างแถวทหาร และผู้ใดตามนางไป จงฆ่าเสียด้วยคมดาบ” เพราะปุโรหิตพูดว่า “อย่าฆ่านางในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า” 15 ดังนั้นพวกเขาจึงจับกุมนาง ขณะที่นางไปถึงทางเข้าประตูม้า ที่ประตูวังของกษัตริย์ พวกเขาก็ประหารนางที่นั่น
เยโฮยาดาปฏิรูป
16 เยโฮยาดาทำพันธสัญญาระหว่างตนเองกับประชาชนและกษัตริย์ว่า ให้พวกเขาเป็นชนชาติของพระผู้เป็นเจ้า 17 ครั้นแล้ว ประชาชนทั้งปวงจึงเข้าไปทลายวิหารเทพเจ้าบาอัลลง พวกเขาทุบแท่นบูชาและเทวรูปบาอัลจนแตกเป็นชิ้นๆ และฆ่ามัทธานปุโรหิตของเทพเจ้าบาอัลที่หน้าแท่นบูชา 18 แล้วเยโฮยาดาปุโรหิตก็กำหนดให้มียามเฝ้าพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า ภายใต้การควบคุมของปุโรหิตที่เป็นชาวเลวี และชาวเลวีที่ดาวิดได้จัดระบบให้เป็นผู้ดูแลพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า เพื่อมอบสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า ตามกฎบัญญัติของโมเสส ด้วยความร่าเริงใจและด้วยการร้องเพลง ตามคำสั่งของดาวิด 19 ท่านให้ผู้เฝ้าประตูประจำการที่ประตูพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า เพื่อกั้นไม่ให้ผู้มีมลทินเข้าไป 20 ท่านให้บรรดาผู้บัญชากองร้อย เจ้าหน้าที่ชั้นสูง ผู้นำประชาชน และประชาชนทั้งปวงของแผ่นดิน ร่วมกันเชิญกษัตริย์ลงมาจากพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า เขาทั้งปวงเดินผ่านประตูเหนือ ไปจนถึงวังของกษัตริย์ และเชิญกษัตริย์นั่งบนบัลลังก์ 21 ดังนั้นประชาชนทั้งปวงของแผ่นดินต่างยินดี และบ้านเมืองนั้นก็สงบสุขหลังจากที่อาธาลิยาห์ถูกดาบสังหาร
โยอาชปฏิสังขรณ์พระตำหนัก
24 โยอาชมีอายุ 7 ปี เมื่อท่านเริ่มเป็นกษัตริย์ และท่านครองราชย์ 40 ปีในเยรูซาเล็ม มารดาของท่านชื่อศิบียาห์แห่งเบเออร์เช-บา 2 โยอาชกระทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระผู้เป็นเจ้าตลอดทั้งชีวิตของเยโฮยาดาปุโรหิต 3 เยโฮยาดาหาภรรยา 2 คนให้ท่าน และท่านมีบุตรชายและบุตรหญิง
4 ต่อมาโยอาชตัดสินใจปฏิสังขรณ์พระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า 5 ท่านเรียกบรรดาปุโรหิตและชาวเลวีมาเข้าเฝ้า และกล่าวกับพวกเขาว่า “จงไปยังเมืองต่างๆ ของยูดาห์ และเก็บเงินจากอิสราเอลมาซ่อมแซมพระตำหนักของพระเจ้าของท่าน เป็นเงินรายปี จงปฏิบัติงานให้รวดเร็วด้วย” แต่ชาวเลวีไม่ได้ทำอย่างรวดเร็ว 6 กษัตริย์จึงเรียกเยโฮยาดามหาปุโรหิตมา และถามว่า “ทำไมท่านจึงไม่ได้สั่งให้ชาวเลวีนำเงินภาษีที่เก็บมาจากยูดาห์และเยรูซาเล็มเข้ามา โมเสสผู้รับใช้ของพระผู้เป็นเจ้า และที่ประชุมของอิสราเอลได้กำหนดเงินภาษีนั้น เพื่อใช้สำหรับกระโจมแห่งพันธสัญญา”[e] 7 เนื่องจากบรรดาบุตรของอาธาลิยาห์หญิงผู้ชั่วร้าย ได้บุกเข้ามาในพระตำหนักของพระเจ้า และนำภาชนะอันบริสุทธิ์ทั้งสิ้นของพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้าไปใช้กับเทวรูปบาอัล
8 ดังนั้นกษัตริย์จึงออกคำสั่ง ให้สร้างหีบใบหนึ่ง เอาไปตั้งไว้ที่ด้านนอกประตูพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า 9 มีคำสั่งออกไปทั่วยูดาห์และเยรูซาเล็มให้ประชาชนนำภาษีซึ่งโมเสสผู้รับใช้ของพระเจ้า กำหนดให้เก็บจากอิสราเอลเพื่อถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า ขณะที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร 10 บรรดาผู้นำและประชาชนทั้งปวงต่างมีความยินดีและนำภาษีมามอบไว้ในหีบจนเต็ม 11 เมื่อใดที่ชาวเลวีนำหีบมาให้เจ้าหน้าที่ของกษัตริย์ และเขาเห็นว่ามีเงินมากมายในหีบ เลขาและผู้ช่วยของมหาปุโรหิตก็จะมาเก็บเงินไป และวางหีบไว้ที่เดิม พวกเขาทำเช่นนี้ทุกวัน และสะสมเงินได้เป็นจำนวนมาก 12 กษัตริย์และเยโฮยาดามอบเงินให้แก่บรรดาผู้มีหน้าที่ปฏิบัติงานของพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า และจ้างช่างก่ออิฐและช่างไม้มาปฏิสังขรณ์พระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า และช่างเหล็กและทองสัมฤทธิ์ซ่อมแซมพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า 13 ดังนั้นบรรดาผู้ที่รับผิดชอบก็ปฏิบัติงาน และงานซ่อมแซมก็ก้าวหน้า พวกเขาปฏิสังขรณ์พระตำหนักของพระเจ้า ให้ได้รูปแบบดังเดิม และทำให้แข็งแรงขึ้น 14 เมื่องานเสร็จสิ้นแล้ว พวกเขาก็นำเงินที่เหลือมามอบคืนกษัตริย์และเยโฮยาดา และใช้เงินนั้นทำเครื่องใช้สำหรับพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า ภาชนะเครื่องใช้สำหรับงานปฏิบัติรับใช้และสำหรับเผาสัตว์เป็นของถวาย ภาชนะเครื่องหอม ภาชนะเครื่องทองคำและเงิน และพวกเขามอบสัตว์ที่เผาเป็นของถวายในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า เป็นประจำตลอดชั่วอายุของเยโฮยาดา
15 เยโฮยาดาชราลงและมีอายุมากแล้ว และเขาก็เสียชีวิตเมื่อมีอายุ 130 ปี 16 พวกเขาเก็บร่างของเขาไว้ในเมืองของดาวิดร่วมกับบรรดากษัตริย์ เพราะเขาได้กระทำความดีในอิสราเอล และกระทำดีต่อพระเจ้าและพงศ์พันธุ์ของเขา
17 หลังจากเยโฮยาดาเสียชีวิตแล้ว บรรดาผู้นำของยูดาห์มาแสดงคารวะต่อกษัตริย์โยอาช และกษัตริย์ฟังพวกเขา 18 พวกเขาทอดทิ้งพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา และบูชาเทวรูปอาเชราห์และพวกรูปเคารพ ความโกรธของพระเจ้าจึงตกอยู่กับยูดาห์และเยรูซาเล็มเพราะความผิดของพวกเขาครั้งนี้ 19 ถึงกระนั้น พระองค์ก็ยังส่งบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า ให้มาเตือนพวกเขา เพื่อให้กลับใจเข้าหาพระผู้เป็นเจ้า แต่พวกเขาก็ไม่สนใจฟัง
ความใจร้ายของโยอาช
20 เศคาริยาห์บุตรของเยโฮยาดาปุโรหิตเปี่ยมด้วยพระวิญญาณพระเจ้า เขายืนต่อหน้าประชาชน และพูดว่า “พระเจ้ากล่าวดังนี้ ‘ทำไมพวกเจ้าจึงละเมิดพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า พวกเจ้าไม่เจริญเพราะเจ้าละทิ้งพระผู้เป็นเจ้า พระองค์ได้ละทิ้งพวกเจ้าแล้ว’” 21 แต่พวกเขาคบคิดทำร้ายเขา และได้ใช้หินขว้างเขาที่ลานพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า ตามคำสั่งของกษัตริย์ 22 กษัตริย์โยอาชไม่ได้นึกถึงความกรุณาที่เยโฮยาดาบิดาของเศคาริยาห์เคยมีต่อท่าน แต่กลับฆ่าบุตรของเขา ขณะที่เขากำลังจะสิ้นลม เขาพูดว่า “ขอพระผู้เป็นเจ้าเห็นสิ่งที่ท่านทำและคิดบัญชีกับท่าน”
โยอาชถูกลอบสังหาร
23 ตอนปลายปีนั้น กองทัพชาวอารัมขึ้นมาโจมตีโยอาช พวกเขามายังยูดาห์และเยรูซาเล็ม และได้ฆ่าบรรดาผู้นำของประชาชนทั้งหมด และขนของที่ริบได้ไปให้กษัตริย์แห่งดามัสกัส 24 แม้ว่ากองทัพของชาวอารัมมีจำนวนน้อย พระผู้เป็นเจ้าก็มอบกองทัพที่ใหญ่กว่ามากไว้ในมือของพวกเขา เพราะยูดาห์ได้ละทิ้งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา โยอาชจึงถูกลงโทษดังกล่าว
25 เมื่อพวกอารัมยกทัพกลับไป โยอาชได้รับบาดเจ็บสาหัส บรรดาผู้รับใช้ของท่านคบคิดทำร้ายท่านจากการที่บุตรของเยโฮยาดาปุโรหิตถูกฆ่า และก็ได้สังหารท่านบนที่นอน ท่านสิ้นชีวิต พวกเขาเก็บร่างของท่านไว้ในเมืองของดาวิด แต่ไม่ได้บรรจุไว้ในถ้ำบรรจุศพของบรรดากษัตริย์ 26 บรรดาผู้ที่คบคิดทำร้ายท่านคือ ศาบาดบุตรนางชิเมอัทชาวอัมโมน และเยโฮซาบาดบุตรนางชิมริทชาวโมอับ 27 เรื่องราวของบรรดาบุตรของท่าน และคำพยากรณ์มากมายที่ต่อต้านท่าน และเรื่องปฏิสังขรณ์พระตำหนักของพระเจ้า ก็ได้มีบันทึกไว้แล้วในหนังสือแห่งพงศาวดารของบรรดากษัตริย์ และอามาซิยาห์บุตรของท่านครองราชย์แทนท่าน
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation