Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Beginning

Read the Bible from start to finish, from Genesis to Revelation.
Duration: 365 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
2 พงศาวดาร 28-31

อาหัสครองราชย์ในยูดาห์

28 อาหัสมีอายุ 20 ปีเมื่อเริ่มเป็นกษัตริย์ และท่านครองราชย์ 16 ปีในเยรูซาเล็ม ท่านไม่ได้กระทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า อย่างที่ดาวิดบรรพบุรุษของท่านได้กระทำ แต่ท่านดำเนินชีวิตตามแบบอย่างบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอล โดยลงมือหล่อเทวรูปบาอัล และท่านมอบเครื่องสักการะในหุบเขาแห่งบุตรของฮินโนม และเผาบรรดาบุตรชายของท่านเป็นเครื่องสักการะ ตามอย่างการกระทำอันน่าชังของบรรดาประชาชาติที่พระผู้เป็นเจ้าขับไล่ออกไปต่อหน้าชาวอิสราเอล และท่านได้ถวายเครื่องสักการะ และเผาเครื่องหอมที่สถานบูชาบนภูเขาสูง บนเนินเขา และใต้ต้นไม้เขียวชอุ่มทุกต้น

ยูดาห์พ่ายแพ้

ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน จึงมอบท่านไว้ในมือของกษัตริย์แห่งอารัม ท่านพ่ายแพ้ และประชาชนจำนวนมากถูกจับไปเป็นเชลยที่ดามัสกัส ท่านถูกมอบไว้ในมือของกษัตริย์แห่งอิสราเอลด้วย ผู้คนบาดเจ็บและล้มตายแสนสาหัส เปคาห์บุตรของเรมาลิยาห์ฆ่าล้างผู้กล้าหาญจากยูดาห์ทั้งสิ้น 120,000 คนภายในวันเดียว เพราะพวกเขาได้ละทิ้งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของเขา และศิครีทหารกล้าของเอฟราอิมก็สังหารมาอาเสยาห์บุตรของกษัตริย์ และอัสรีคัมผู้บัญชาวัง และเอลคานาห์คนสำคัญรองจากกษัตริย์ด้วย

กองทัพอิสราเอลจับตัวญาติพี่น้องไปเป็นเชลย มีทั้งพวกผู้หญิง บุตรชายบุตรหญิง 200,000 คน นอกจากนั้นก็ริบข้าวของมากมาย และขนกลับไปยังสะมาเรีย แต่โอเดดผู้เผยคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้าอยู่ที่นั่น เขาออกไปพบกับกองทัพที่กลับมายังสะมาเรีย และกล่าวแก่พวกเขาว่า “ดูเถิด เพราะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของท่านกริ้วยูดาห์ พระองค์จึงมอบพวกเขาไว้ในมือของท่าน แต่ท่านได้ฆ่าพวกเขาอย่างไม่ปรานี ทำให้เรื่องขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์ 10 และบัดนี้พวกท่านตั้งใจทำให้ประชาชนของยูดาห์และเยรูซาเล็มทั้งชายและหญิงเป็นทาสของท่าน พวกท่านไม่ได้กระทำบาปต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านหรือ 11 บัดนี้ขอท่านจงฟังเรา และส่งเชลยที่ท่านได้จับมาจากญาติพี่น้องของท่านเองกลับไปเสีย เพราะพระผู้เป็นเจ้ากริ้วพวกท่านมาก”

12 มีหัวหน้าบางคนของเอฟราอิมคือ อาซาริยาห์บุตรเยโฮฮานัน เบเรคิยาห์บุตรเมชิลเลโมท เยฮิสคียาห์บุตรชัลลูม และอามาสาบุตรหัดลัย ที่ยืนคัดค้านบรรดาผู้ที่กลับมาจากสงคราม 13 และพูดกับพวกเขาว่า “อย่านำเชลยเข้ามาในนี้ เพราะท่านจะนำความผิดที่ได้กระทำต่อพระผู้เป็นเจ้า มาเพิ่มเข้าไปกับบาปและความผิดของเราที่มีอยู่แล้ว ความผิดของพวกเรานั้นใหญ่หลวงนัก และพระองค์กริ้วอิสราเอลยิ่งนัก” 14 ดังนั้นพวกทหารจึงปล่อยตัวเชลยและทิ้งของที่ริบมา ต่อหน้าผู้นำและทุกคนที่ชุมนุมกันอยู่ 15 บรรดาผู้ที่มีชื่อซึ่งกล่าวไว้ข้างต้นก็ลุกขึ้นพาเชลยไปพร้อมกับของที่ถูกริบมา และสวมเสื้อผ้าให้ทุกคนที่เปลือยกายในที่นั้น มอบรองเท้า จัดหาอาหารและน้ำ ชโลมพวกเขาด้วยน้ำมัน และอุ้มทุกคนที่อ่อนแอขึ้นหลังลา แล้วนำตัวพวกเขากลับไปหาญาติพี่น้องที่เยรีโคเมืองแห่งต้นอินทผลัม แล้วก็กลับไปยังสะมาเรีย

16 ในเวลานั้น กษัตริย์อาหัสขอให้กษัตริย์แห่งอัสซีเรียมาช่วยเหลือท่าน 17 เพราะชาวเอโดมได้บุกรุกและโจมตียูดาห์จนแตกพ่ายและกวาดเชลยไป 18 และชาวฟีลิสเตียได้โจมตีเมืองต่างๆ ในที่ลุ่มและในเนเกบของยูดาห์ และได้ยึดเบธเชเมช อัยยาโลน เกเดโรท โสโคและหมู่บ้านรอบๆ ทิมนาห์และหมู่บ้านรอบๆ กิมโซและหมู่บ้านรอบๆ และพวกเขาก็ตั้งรกรากอยู่ที่นั่น 19 พระผู้เป็นเจ้าทำให้ยูดาห์ต้องถ่อมตัวลง เพราะอาหัสกษัตริย์แห่งอิสราเอลสนับสนุนให้ยูดาห์ทำบาป และท่านไม่ภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้า 20 ดังนั้นทิกลัทปิเลเสอร์กษัตริย์แห่งอัสซีเรียจึงมาต่อต้านท่าน และก่อความเดือดร้อนแทนที่จะเสริมกำลังให้แก่ท่าน 21 อาหัสยกของมีค่าจากพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า จากวังของกษัตริย์ และจากบรรดาขุนนาง ให้เป็นของกำนัลแก่กษัตริย์แห่งอัสซีเรีย แต่สิ่งเหล่านั้นก็ไม่อาจช่วยอะไรได้

อาหัสบูชารูปเคารพ

22 ในระหว่างที่กษัตริย์อาหัสเป็นทุกข์ใจอยู่ ท่านก็ยิ่งขาดความภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้า 23 เพราะท่านมอบเครื่องสักการะแก่บรรดาเทพเจ้าของดามัสกัส ซึ่งทำให้ท่านพ่ายแพ้ ท่านกล่าวว่า “เพราะเทพเจ้าของบรรดากษัตริย์แห่งอารัมช่วยพวกเขา เราจะมอบเครื่องสักการะแก่บรรดาเทพเจ้า เพื่อให้ช่วยเราบ้าง” แต่เทพเจ้าเหล่านั้นกลับทำให้ท่านและอิสราเอลทั้งหมดพังพินาศ 24 อาหัสรวบรวมภาชนะจากพระตำหนักของพระเจ้า และตัดออกเป็นชิ้นๆ และปิดประตูพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า และท่านสร้างแท่นบูชาสำหรับท่านเองไว้ที่ทุกมุมเมืองเยรูซาเล็ม 25 ท่านสร้างสถานบูชาบนภูเขาสูงในทุกเมืองของยูดาห์ เพื่อถวายเครื่องบูชาให้แก่บรรดาเทพเจ้า ซึ่งเป็นการยั่วโทสะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของท่าน 26 กิจอื่นๆ และการดำเนินชีวิตทั้งสิ้นของท่าน ตั้งแต่ต้นจนจบก็ได้มีบันทึกไว้แล้วในหนังสือของบรรดากษัตริย์แห่งยูดาห์และอิสราเอล 27 อาหัสสิ้นชีวิตและถูกนำไปวางรวมกับบรรพบุรุษของท่าน ศพถูกบรรจุไว้ในเมืองเยรูซาเล็ม แต่ไม่ได้บรรจุไว้ในถ้ำบรรจุศพของกษัตริย์แห่งอิสราเอล และเฮเซคียาห์บุตรของท่านครองราชย์แทนท่าน

เฮเซคียาห์ครองราชย์ในยูดาห์

29 เฮเซคียาห์มีอายุ 25 ปีเมื่อเริ่มเป็นกษัตริย์ และท่านครองราชย์ 29 ปีในเยรูซาเล็ม มารดาของท่านชื่ออาบียาห์บุตรหญิงของเศคาริยาห์ ท่านกระทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า เหมือนกับทุกสิ่งที่ดาวิดบรรพบุรุษของท่านได้กระทำ

เฮเซคียาห์ชำระพระตำหนัก

ปีแรกที่ท่านครองราชย์ ในเดือนแรก ท่านเปิดประตูพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า และซ่อมแซมประตูเหล่านั้น ท่านเรียกประชุมบรรดาปุโรหิตและชาวเลวีที่ลานด้านตะวันออก ท่านกล่าวแก่พวกเขาว่า “ชาวเลวี พวกท่านจงฟังเรา ท่านจงชำระตัวให้บริสุทธิ์ และชำระพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของท่าน และเอาสิ่งที่เป็นมลทินออกไปเสียจากสถานที่บริสุทธิ์ เพราะบรรพบุรุษของเราไม่ภักดีและกระทำสิ่งชั่วร้ายในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา พวกเขาได้ละทิ้งพระองค์ และได้เมินหน้าไปจากกระโจมที่พำนักของพระผู้เป็นเจ้า และหันหลังให้พระองค์ พวกเขาปิดประตูมุขอีกด้วย ทั้งยังดับดวงประทีป และไม่ได้เผาเครื่องหอมหรือมอบสัตว์ที่เผาเป็นของถวายในสถานที่บริสุทธิ์แด่พระเจ้าของอิสราเอล ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าจึงได้กริ้วยูดาห์และเยรูซาเล็ม และพระองค์ได้ทำให้พวกเขาตกอยู่ในสภาพที่หวาดหวั่น ตกตะลึง และเป็นที่เหน็บแนม อย่างที่ท่านเห็นด้วยตาของท่านเอง ดูเถิด บรรพบุรุษของเราล้มตายด้วยดาบ บรรดาบุตรชายบุตรหญิงของเราและภรรยาของพวกเราถูกจับไปเป็นเชลยก็เพราะเหตุนี้ 10 บัดนี้ เราตั้งใจจะทำพันธสัญญากับพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอล เพื่อหันเหความกริ้วอันร้อนแรงของพระองค์ไปจากพวกเรา 11 บุตรของเราเอ๋ย จงอย่าละเลยต่อหน้าที่ เพราะพระผู้เป็นเจ้าได้เลือกพวกท่านให้มายืนต่อหน้าพระองค์ เพื่อรับใช้พระองค์ เพื่อเป็นผู้รับใช้ของพระองค์และเผาเครื่องหอมแด่พระองค์”

12 ชาวเลวีที่เริ่มปฏิบัติงานมีรายชื่อดังต่อไปนี้ จากตระกูลโคฮาทคือ มาฮาทบุตรอามาสัย โยเอลบุตรอาซาริยาห์ จากตระกูลเมรารีคือ คีชบุตรอับดี อาซาริยาห์บุตรเยฮาลเลเลล จากตระกูลเกอร์โชนคือ โยอาห์บุตรศิมมาห์ เอเดนบุตรโยอาห์ 13 จากผู้สืบเชื้อสายของเอลีซาฟานคือ ชิมรีและเยอูเอล จากผู้สืบเชื้อสายของอาสาฟคือ เศคาริยาห์และมัทธานิยาห์ 14 จากผู้สืบเชื้อสายของเฮมานคือ เยฮีเอลและชิเมอี จากผู้สืบเชื้อสายของเยดูธูนคือ เชไมยาห์และอุสซีเอล 15 เขาเหล่านี้รวบรวมพี่น้องของเขาและชำระตัวให้บริสุทธิ์ และเข้าไปชำระพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า ตามที่กษัตริย์ได้มอบหมายตามคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้า 16 บรรดาปุโรหิตเข้าไปในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้าเพื่อชำระให้บริสุทธิ์ และนำสิ่งที่มีมลทินทั้งสิ้นที่พบในพระวิหารของพระผู้เป็นเจ้า ออกไปไว้ที่ลานพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า และชาวเลวีนำสิ่งเหล่านั้นไปทิ้งที่หุบเขาขิดโรน 17 เขาทั้งหลายเริ่มชำระสิ่งเหล่านั้นให้บริสุทธิ์ในวันแรกของเดือนแรก และในวันที่แปดของเดือนนั้นพวกเขามายังหน้ามุขของพระผู้เป็นเจ้า และชำระพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้าต่ออีก 8 วัน และชำระเสร็จสิ้นในวันที่สิบหกของเดือนแรก 18 พวกเขาไปพบกับกษัตริย์เฮเซคียาห์ และรายงานว่า “พวกเราได้ชำระทุกสิ่งในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า แท่นบูชาที่ใช้เผาสัตว์เพื่อเป็นของถวายกับเครื่องใช้ประกอบทุกชิ้น โต๊ะขนมปังไร้เชื้อกับเครื่องใช้ประกอบทุกชิ้น 19 เครื่องใช้ทุกชิ้นที่กษัตริย์อาหัสย้ายออกไปในสมัยที่ท่านไม่ภักดี พวกเราก็ชำระให้บริสุทธิ์แล้ว และขณะนี้ทุกอย่างอยู่ที่หน้าแท่นบูชาของพระผู้เป็นเจ้า

เฮเซคียาห์ฟื้นฟูการนมัสการ

20 กษัตริย์เฮเซคียาห์ลุกขึ้นแต่เช้า และรวบรวมเจ้าหน้าที่ประจำเมืองขึ้นไปยังพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า 21 เขาทั้งหลายนำโคตัวผู้ 7 ตัว แกะผู้ 7 ตัว ลูกแกะ 7 ตัว และแพะผู้ 7 ตัว มาเป็นของถวายเพื่อลบล้างบาปสำหรับอาณาจักร สำหรับที่พำนัก และสำหรับยูดาห์ และท่านบัญชาบรรดาปุโรหิตและบุตรของอาโรนให้ถวายสัตว์เหล่านั้นบนแท่นบูชาของพระผู้เป็นเจ้า 22 พวกเขาจึงฆ่าโค ปุโรหิตใช้เลือดประพรมที่แท่นบูชา พวกเขาฆ่าแกะผู้ และใช้เลือดประพรมที่แท่นบูชา พวกเขาฆ่าลูกแกะ และประพรมเลือดที่แท่นบูชา 23 และนำแพะมาให้กษัตริย์และที่ประชุมเป็นของถวายเพื่อลบล้างบาป และเขาทั้งหลายก็วางมือของตนบนแพะเหล่านั้น 24 แล้วบรรดาปุโรหิตก็ฆ่าแพะ และมอบเป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปด้วยเลือดบนแท่นบูชา เพื่อเป็นเครื่องชดใช้บาปให้อิสราเอลทั้งปวง เพราะกษัตริย์บัญชาว่า ให้เผาสัตว์เป็นของถวายและมอบเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปอิสราเอลทั้งปวง

25 และท่านให้ชาวเลวีประจำอยู่ในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า พร้อมกับฉาบ พิณสิบสาย และพิณเล็ก ตามคำสั่งของดาวิด ตามคำสั่งของกาดผู้รู้ของกษัตริย์ และของนาธานผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า เพราะพระบัญญัติมาจากพระผู้เป็นเจ้า ผ่านทางบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระองค์ 26 บรรดาชาวเลวียืนถือเครื่องดนตรีของดาวิด และบรรดาปุโรหิตถือแตรยาว 27 และเฮเซคียาห์บัญชาให้มอบสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวายบนแท่นบูชา เมื่อเริ่มมอบสัตว์เป็นของถวาย ก็เริ่มถวายเพลงแด่พระผู้เป็นเจ้าด้วย พร้อมกับเสียงแตรยาวและเครื่องดนตรีของกษัตริย์ดาวิดแห่งอิสราเอล 28 เมื่อที่ประชุมทั้งหมดนมัสการ บรรดานักร้องก็ร้องเพลง และนักดนตรีก็เป่าแตร ทำอย่างนี้จนกระทั่งการมอบสัตว์เป็นของถวายเสร็จสิ้นลง 29 เมื่อมอบของถวายเสร็จสิ้นลงแล้ว กษัตริย์กับคนทั้งปวงที่อยู่ด้วยในเวลานั้นก็ก้มกราบนมัสการ 30 กษัตริย์เฮเซคียาห์และบรรดาเจ้าหน้าที่ก็บัญชาชาวเลวีให้ร้องเพลงสรรเสริญแด่พระผู้เป็นเจ้าด้วยคำกล่าวของดาวิดและของอาสาฟผู้รู้ และเขาทั้งปวงก็ร้องเพลงด้วยความยินดี และก้มกราบนมัสการ

31 และเฮเซคียาห์กล่าวว่า “บัดนี้พวกท่านได้ชำระตัวให้บริสุทธิ์แด่พระผู้เป็นเจ้าแล้ว จงเข้ามาใกล้ นำเครื่องสักการะและของถวายแห่งการขอบคุณมายังพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า” และที่ประชุมก็นำเครื่องสักการะและของถวายแห่งการขอบคุณมา และทุกคนที่มีความสมัครใจก็นำสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวายมา 32 จำนวนสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวายซึ่งที่ประชุมนำมาเป็นโคตัวผู้ 70 ตัว แกะผู้ 100 ตัว ลูกแกะ 200 ตัว สัตว์ทั้งหมดนี้ใช้เผาเป็นของถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า 33 และของถวายที่ชำระให้บริสุทธิ์แล้วเป็นโคตัวผู้ 600 ตัว แกะ 3,000 ตัว 34 แต่มีปุโรหิตน้อยเกินไป จึงไม่สามารถถลกหนังสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวายทั้งหมด จนกว่าจะมีปุโรหิตอื่นที่ชำระตัวให้บริสุทธิ์ก่อน ดังนั้นบรรดาพี่น้องชาวเลวีจึงต้องช่วยจนเสร็จงาน ด้วยว่าชาวเลวีมีมโนธรรมมากกว่าบรรดาปุโรหิตในการชำระตัวให้บริสุทธิ์ 35 นอกจากสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวายมีจำนวนมากมายแล้ว ก็ยังมีไขมันสำหรับของถวายเพื่อสามัคคีธรรม และเครื่องดื่มบูชาคู่กับสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวาย นี่แหละเป็นงานฟื้นฟูในการรับใช้ที่พระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า 36 เฮเซคียาห์และประชาชนทั้งปวงก็มีใจยินดี เพราะสิ่งที่พระเจ้าได้กระทำให้แก่ประชาชน และทุกสิ่งก็สำเร็จอย่างรวดเร็ว

ฉลองเทศกาลปัสกา

30 เฮเซคียาห์แจ้งให้ทั่วหน้าทั้งอิสราเอลและยูดาห์ และมีสาสน์ถึงเอฟราอิมและมนัสเสห์ เชิญให้พวกเขามายังพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้าที่เยรูซาเล็ม เพื่อฉลองเทศกาลปัสกาแด่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอล กษัตริย์ บรรดาขุนนาง และที่ประชุมในเยรูซาเล็มได้ตัดสินใจฉลองเทศกาลปัสกาในเดือนที่สอง พวกเขาไม่สามารถฉลองได้ตามกำหนด[a] เนื่องจากบรรดาปุโรหิตชำระตัวให้บริสุทธิ์เพียงไม่กี่คน และประชาชนไม่ได้มาชุมนุมร่วมกันในเยรูซาเล็ม กษัตริย์และที่ประชุมทั้งปวงจึงเห็นว่าแผนงานนี้ดูเหมาะสม เขาทั้งหลายจึงได้ตัดสินใจส่งคำประกาศไปทั่วอิสราเอล ตั้งแต่เบเออร์เช-บาถึงดาน เชิญประชาชนให้มาฉลองเทศกาลปัสกาแด่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอลที่เยรูซาเล็ม เพราะนานแล้วที่คนจำนวนมากไม่ได้มาฉลองให้พร้อมเพรียงกันอย่างที่ระบุไว้ในกฎบัญญัติ

ดังนั้นคนเดินข่าวด่วนจึงนำสาสน์จากกษัตริย์และบรรดาขุนนาง แจ้งไปทั่วอิสราเอลและยูดาห์ ตามที่กษัตริย์ได้บัญชาว่า “โอ ประชาชนของอิสราเอล จงกลับมาหาพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอับราฮัม อิสอัค และอิสราเอล เพื่อพระองค์จะได้กลับมาหาท่านที่ยังมีชีวิตเหลืออยู่ ที่ได้หนีรอดมาจากมือของบรรดากษัตริย์แห่งอัสซีเรีย อย่าเป็นเหมือนบรรพบุรุษและพี่น้องของพวกท่าน ผู้ไม่ภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของเขา พระองค์จึงทำให้เกิดความวิบัติกับพวกเขา ดังที่ท่านก็เห็น บัดนี้ จงอย่าดื้อรั้นเหมือนบรรพบุรุษของท่าน แต่จงยอมเชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า และมายังที่พำนักของพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้ชำระให้บริสุทธิ์เป็นนิตย์ และจงรับใช้พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน เพื่อความกริ้วอันร้อนแรงของพระองค์จะหันไปจากท่าน เพราะถ้าท่านกลับมาหาพระผู้เป็นเจ้า บรรดาพี่น้องและบุตรทั้งหลายของท่านก็จะได้รับความสงสารจากผู้ที่จับตัวพวกเขาไป และจะได้กลับมายังแผ่นดินนี้ เพราะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านมีพระคุณและความเมตตา และจะไม่หันหน้าไปจากท่าน ถ้าหากว่าท่านกลับมาหาพระองค์”

10 ดังนั้น บรรดาคนเดินข่าวด่วนจึงตระเวนไปแต่ละเมืองทั่วดินแดนเอฟราอิมและมนัสเสห์ ไปไกลจนถึงเศบูลุน แต่ประชาชนหัวเราะเยาะ และดูหมิ่นพวกเขา 11 แม้กระนั้น บางคนจากตระกูลอาเชอร์ มนัสเสห์ และเศบูลุน ก็ถ่อมตัวลง และไปยังเยรูซาเล็ม 12 มือของพระเจ้าสถิตกับยูดาห์ด้วย เพื่อให้พวกเขาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน กระทำสิ่งที่กษัตริย์และบรรดาขุนนางได้บัญชาตามคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้า

13 ผู้คนจำนวนมากมาชุมนุมกันในเยรูซาเล็ม เพื่อฉลองเทศกาลขนมปังไร้เชื้อในเดือนที่สอง เป็นการชุมนุมร่วมกันครั้งยิ่งใหญ่ 14 เขาทั้งหลายเริ่มทำงานและเอาแท่นบูชาหลายแห่งออกไปจากเยรูซาเล็ม และขนแท่นสำหรับเผาเครื่องหอมอื่นๆ ออกไปโยนทิ้งในหุบเขาขิดโรน 15 พวกเขาฆ่าลูกแกะปัสกาในวันที่สิบสี่ของเดือนที่สอง บรรดาปุโรหิตและชาวเลวีรู้สึกละอายใจ พวกเขาจึงชำระตัวให้บริสุทธิ์ และนำสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวายมายังพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า 16 พวกเขาเข้าประจำตำแหน่ง ตามกฎบัญญัติของโมเสสคนของพระเจ้า บรรดาปุโรหิตประพรมเลือดที่รับจากมือของชาวเลวี 17 มีหลายคนในที่ชุมนุมยังไม่ได้ชำระตัวให้บริสุทธิ์ ฉะนั้นชาวเลวีจึงต้องฆ่าลูกแกะปัสกาให้ทุกๆ คนที่ไม่บริสุทธิ์ในพิธี เพื่อถวายลูกแกะที่บริสุทธิ์สำหรับพระผู้เป็นเจ้า 18 เนื่องจากคนส่วนใหญ่มาจากตระกูลเอฟราอิม มนัสเสห์ อิสสาคาร์ และเศบูลุน ยังไม่ได้ชำระตัวให้บริสุทธิ์ แต่ก็รับประทานในเทศกาลปัสกา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ตรงกับที่ระบุในกฎบัญญัติ[b] เฮเซคียาห์ได้กล่าวคำอธิษฐานเผื่อพวกเขาว่า “ขอพระผู้เป็นเจ้าผู้ประเสริฐให้อภัยทุกคน 19 ที่มีใจแสวงหาพระเจ้า พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของเขา แม้ว่าจะไม่ปฏิบัติตามกฎในเรื่องความบริสุทธิ์ของสถานที่บริสุทธิ์” 20 และพระผู้เป็นเจ้าฟังคำของเฮเซคียาห์ และโปรดรักษาโรคของประชาชน 21 ประชาชนของอิสราเอลที่อยู่ในเยรูซาเล็มฉลองเทศกาลขนมปังไร้เชื้อด้วยความยินดียิ่งเป็นเวลา 7 วัน ชาวเลวีและปุโรหิตก็สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าทุกวันด้วยการร้องเพลงถวายแด่พระผู้เป็นเจ้าด้วยสุดกำลังของพวกเขา 22 เฮเซคียาห์กล่าวให้กำลังใจแก่ชาวเลวีทั้งปวงที่ชำนาญในการปฏิบัติงานของพระผู้เป็นเจ้า ดังนั้นเขาทั้งปวงจึงรับประทานอาหารของเทศกาล 7 วัน และมอบของถวายเพื่อสามัคคีธรรม และขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา

23 หลังจากนั้น ผู้ชุมนุมทั้งปวงก็ตกลงที่จะฉลองเทศกาลต่ออีก 7 วัน ดังนั้นพวกเขาจึงฉลองเทศกาลกันต่อไปอีก 7 วันด้วยความยินดี 24 เฮเซคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์มอบของถวายเป็นโคตัวผู้ 1,000 ตัว และแกะ 7,000 ตัว ให้แก่ผู้ที่มาชุมนุม และบรรดาขุนนางมอบโคตัวผู้ 1,000 ตัว และแกะ 10,000 ตัว และบรรดาปุโรหิตจำนวนมากก็ชำระตัวให้บริสุทธิ์ 25 ผู้ที่มาชุมนุมทั้งปวงของยูดาห์ บรรดาปุโรหิตและชาวเลวี ผู้ที่มาชุมนุมทั้งหมดที่มาจากอิสราเอล ชาวต่างด้าวที่มาจากแผ่นดินอิสราเอล และชาวต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในยูดาห์ ต่างก็ชื่นชมยินดี 26 ดังนั้นจึงมีความยินดียิ่งนักในเยรูซาเล็ม เพราะตั้งแต่สมัยของซาโลมอนบุตรของดาวิดกษัตริย์แห่งอิสราเอล ไม่เคยมีการฉลองอย่างนี้มาก่อนในเยรูซาเล็ม 27 แล้วบรรดาปุโรหิตและชาวเลวีก็ลุกขึ้นอวยพรประชาชน และพระเจ้าฟังเสียงของพวกเขา และคำอธิษฐานของพวกเขาขึ้นไปยังสถานที่บริสุทธิ์ของพระองค์ในเบื้องฟ้าสวรรค์

เฮเซคียาห์จัดตำแหน่งปุโรหิต

31 เมื่อทุกสิ่งเสร็จสิ้นแล้ว อิสราเอลทั้งปวงที่ร่วมงานที่นั่นก็ออกไปยังเมืองต่างๆ ของยูดาห์ และพังเสาหินและเทวรูปอาเชราห์ ทำลายสถานบูชาบนภูเขาสูงและแท่นบูชาทั่วยูดาห์และเบนยามิน ทั่วเอฟราอิมและมนัสเสห์ พวกเขาทำลายจนหมดสิ้น และประชาชนอิสราเอลก็กลับไปยังเมืองของตนและที่ดินของตน

เฮเซคียาห์แต่งตั้งกองเวรให้บรรดาปุโรหิตและชาวเลวี แต่ละกองเวรตามหน้าที่ของปุโรหิตและชาวเลวี เพื่อมอบสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวาย และของถวายเพื่อสามัคคีธรรม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามประตูค่ายของพระผู้เป็นเจ้า และเพื่อขอบคุณและสรรเสริญพระองค์ กษัตริย์อุทิศจากสมบัติส่วนตัว คือสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวายในเวลาเช้าและเวลาเย็น และสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวายในวันสะบาโต วันข้างขึ้น และวันเทศกาลที่กำหนดไว้ ตามที่บันทึกไว้ในกฎบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า และท่านบัญชาประชาชนที่อาศัยอยู่ในเยรูซาเล็ม ให้บริจาคส่วนแบ่งที่กำหนดให้ปุโรหิตและชาวเลวี เพื่อพวกเขาจะอุทิศตนในเรื่องกฎบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า ทันทีที่คำบัญชาเป็นที่ทราบทั่วกัน ประชาชนของอิสราเอลก็บริจาคผลแรกที่เก็บได้จากธัญพืช เหล้าองุ่น น้ำมัน น้ำผึ้ง และผลผลิตที่ได้จากไร่นาอันอุดมสมบูรณ์ พวกเขานำหนึ่งในสิบจากทุกสิ่งที่เป็นของเขามามอบให้อย่างมากมาย ชาวอิสราเอลและยูดาห์ที่อาศัยอยู่ในเมืองต่างๆ ของยูดาห์ก็นำหนึ่งในสิบจากฝูงโคและแกะ หนึ่งในสิบจากสิ่งบริสุทธิ์ที่ตั้งใจมอบแด่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเขา โดยวางไว้เป็นกอง ในเดือนที่สามพวกเขาเริ่มสุมไว้เป็นกองพะเนิน เมื่อถึงเดือนที่เจ็ดก็เสร็จสิ้น เมื่อเฮเซคียาห์และบรรดาขุนนางมาเห็นสิ่งของที่กองไว้ เขาทั้งหลายก็สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าและอวยพรชนชาติของพระองค์ คืออิสราเอล เฮเซคียาห์ถามบรรดาปุโรหิตและชาวเลวีเกี่ยวกับกองของเหล่านั้น 10 อาซาริยาห์มหาปุโรหิตผู้มาจากพงศ์พันธุ์ของศาโดกตอบท่านว่า “ตั้งแต่ประชาชนนำของมาบริจาคให้พระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า พวกเราก็ได้รับประทานจนอิ่มหนำ และยังมีเหลืออีกมาก เพราะพระผู้เป็นเจ้าได้อวยพรชนชาติของพระองค์ พวกเราจึงมีของเหลืออีกมากถึงเพียงนี้”

11 เฮเซคียาห์จึงบัญชาพวกเขาให้เตรียมห้องเก็บของในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า และพวกเขาก็กระทำตามนั้น 12 เขาทั้งหลายนำของบริจาค หนึ่งในสิบ และของบริสุทธิ์ที่มอบถวายเข้ามาอย่างซื่อสัตย์ โคนานิยาห์ชาวเลวีเป็นผู้รักษาดูแล ชิเมอีน้องชายเป็นผู้ช่วยรองลงมา 13 เยฮีเอล อาซัซยาห์ นาหัท อาสาเฮล เยรีโมท โยซาบาด เอลีเอล อิสมาคิยาห์ มาฮาท และเบไนยาห์ ช่วยดูแลภายใต้โคนานิยาห์และชิเมอีผู้น้อง กษัตริย์เฮเซคียาห์และอาซาริยาห์ผู้เป็นหัวหน้าดูแลพระตำหนักของพระเจ้าแต่งตั้งตำแหน่งตามนั้น 14 โคเรบุตรของอิมนาห์ชาวเลวีผู้เฝ้าประตูด้านตะวันออก เป็นผู้ดูแลของถวายที่ประชาชนให้ด้วยความสมัครใจแด่พระเจ้า และเขาเป็นผู้แจกจ่ายของบริจาคและของถวายบริสุทธิ์ที่สุดที่มอบถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า 15 เอเดน มินยามิน เยชูอา เชไมยาห์ อามาริยาห์ และเชคานิยาห์ ก็ได้ช่วยเขาด้วยความซื่อสัตย์ในเมืองต่างๆ ของปุโรหิต ในการแจกจ่ายส่วนแบ่งให้แก่ญาติพี่น้องของพวกเขา ทั้งผู้สูงอายุและผู้เยาว์ตามกองเวร 16 พวกเขาแจกให้แก่ผู้ชายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่มีอายุตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไปที่มีชื่อในบันทึกลำดับเชื้อสาย คือพวกเขาทุกคนที่เข้าไปในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า เพื่อปฏิบัติหน้าที่หลากหลายเป็นประจำทุกวัน ตามที่ได้รับมอบหมายหน้าที่ และตามกองเวรของพวกเขา 17 บรรดาปุโรหิตที่ลงทะเบียนชื่อในบันทึกลำดับเชื้อสายได้รับแจก และชาวเลวีที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไปก็ได้รับเช่นกัน ตามที่ได้รับมอบหมายหน้าที่ และตามกองเวรของพวกเขา 18 พวกเขารวมเด็กๆ ภรรยา และบุตรชายบุตรหญิงของชุมชนทั้งหมดที่มีรายชื่อในบันทึกลำดับเชื้อสาย เพราะพวกเขาชำระตัวให้บริสุทธิ์อย่างจริงจัง 19 สำหรับบรรดาปุโรหิต ซึ่งเป็นผู้สืบเชื้อสายของอาโรน และอาศัยอยู่ในที่นารอบตัวเมืองของพวกเขาหรือเมืองใดก็ตาม พวกเขาทุกคนที่เป็นชายและทุกคนที่มีชื่อในบันทึกลำดับเชื้อสายของชาวเลวีจะได้รับส่วนแบ่ง โดยมีชายบางคนในหลายเมืองที่ถูกระบุชื่อให้เป็นผู้แจกจ่ายให้

20 เฮเซคียาห์ทำดังนี้ทั่วทั้งยูดาห์ และท่านกระทำสิ่งที่ดีและถูกต้องและภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน 21 งานทุกชิ้นที่ท่านปฏิบัติในการรับใช้พระตำหนักของพระเจ้า การทำตามพระบัญญัติ และการดำเนินชีวิตในวิถีทางของพระเจ้า ท่านก็ได้ทำด้วยความเต็มใจ และท่านก็ประสบความเจริญรุ่งเรือง

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation