M’Cheyne Bible Reading Plan
เทศกาลเป่าแตร
29 วันแรกของเดือนเจ็ด เจ้าจงจัดให้มีประชุมอันบริสุทธิ์ อย่าลงแรงทำงาน ให้ถือเป็นวันที่เจ้าเป่าแตร 2 เจ้าจงถวายสัตว์ที่เผาเป็นของถวายซึ่งจะส่งกลิ่นหอมเป็นที่พอใจสำหรับพระผู้เป็นเจ้า อันได้แก่ โคหนุ่ม 1 ตัว แกะตัวผู้ 1 ตัว ลูกแกะตัวผู้ปราศจากตำหนิอายุ 1 ปี 7 ตัว 3 จงถวายแป้งสาลีชั้นเยี่ยมสามส่วนสิบเอฟาห์ผสมน้ำมันเป็นเครื่องธัญญบูชาด้วยกันกับโคหนุ่มแต่ละตัว และหนึ่งส่วนห้าถวายด้วยกันกับแกะตัวผู้ 4 และหนึ่งส่วนสิบด้วยกันกับลูกแกะแต่ละตัว 5 จงถวายแพะตัวผู้เป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป เพื่อทำพิธีชดใช้บาปสำหรับพวกเจ้า 6 จงถวายสิ่งเหล่านี้ นอกเหนือจากสัตว์ที่เผาเป็นของถวายประจำทุกเดือนและทุกวัน พร้อมกับเครื่องธัญญบูชา และเครื่องดื่มบูชาตามกฎเกณฑ์ของถวาย เป็นของถวายด้วยไฟจะส่งกลิ่นหอมเป็นที่พอใจสำหรับพระผู้เป็นเจ้า
วันชดใช้บาป
7 วันที่สิบเดือนเจ็ด เจ้าจงจัดให้มีประชุมอันบริสุทธิ์ และให้งดอาหาร และงดการทำงาน 8 เจ้าจงถวายสัตว์ที่เผาเป็นของถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า ให้ส่งกลิ่นหอมเป็นที่พอใจ อันได้แก่ โคหนุ่ม 1 ตัว แกะตัวผู้ 1 ตัว ลูกแกะตัวผู้อายุ 1 ปี 7 ตัว ทุกตัวปราศจากตำหนิ 9 และแป้งสาลีชั้นเยี่ยมผสมน้ำมันเป็นเครื่องธัญญบูชา ปริมาณสามส่วนสิบเอฟาห์สำหรับโคหนุ่ม หนึ่งส่วนห้าสำหรับแกะตัวผู้ 1 ตัว 10 หนึ่งส่วนสิบสำหรับลูกแกะแต่ละตัว 11 และแพะตัวผู้ 1 ตัวเป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป นอกเหนือจากเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปในพิธีชดใช้บาป และสัตว์ที่เผาเป็นของถวายกับเครื่องธัญญบูชาและเครื่องดื่มบูชาที่ถวายเป็นประจำ
เทศกาลอยู่เพิง
12 วันที่สิบห้าเดือนเจ็ด เจ้าจงจัดให้มีประชุมอันบริสุทธิ์ อย่าลงแรงทำงาน และจงฉลองเทศกาลแด่พระผู้เป็นเจ้าเป็นเวลา 7 วัน 13 จงถวายสัตว์ที่เผาเป็นของถวาย ของถวายด้วยไฟซึ่งส่งกลิ่นหอมเป็นที่พอใจสำหรับพระผู้เป็นเจ้า อันได้แก่ โคหนุ่ม 13 ตัว แกะตัวผู้ 2 ตัว ลูกแกะตัวผู้อายุ 1 ปี 14 ตัว ทุกตัวปราศจากตำหนิ 14 และแป้งสาลีชั้นเยี่ยมผสมน้ำมันเป็นเครื่องธัญญบูชา ปริมาณสามส่วนสิบเอฟาห์สำหรับโคหนุ่มแต่ละตัว หนึ่งในห้าสำหรับแกะตัวผู้แต่ละตัว 15 และหนึ่งในสิบสำหรับลูกแกะแต่ละตัว 16 และแพะตัวผู้ 1 ตัวสำหรับเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป นอกเหนือจากสัตว์ที่เผาเป็นของถวายกับเครื่องธัญญบูชาและเครื่องดื่มบูชาที่ถวายเป็นประจำ
17 ในวันที่สอง จงถวายโคหนุ่ม 12 ตัว แกะตัวผู้ 2 ตัว ลูกแกะตัวผู้อายุ 1 ปี 14 ตัว ทุกตัวปราศจากตำหนิ 18 ด้วยกันกับเครื่องธัญญบูชาและเครื่องดื่มบูชาสำหรับโคตัวผู้ แกะตัวผู้ และสำหรับลูกแกะ ตามจำนวนที่ระบุไว้แล้ว 19 และแพะตัวผู้ 1 ตัวสำหรับเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป นอกเหนือจากสัตว์ที่เผาเป็นของถวายกับเครื่องธัญญบูชาและเครื่องดื่มบูชาที่ถวายเป็นประจำ
20 ในวันที่สาม จงถวายโคตัวผู้ 11 ตัว แกะตัวผู้ 2 ตัว ลูกแกะตัวผู้อายุ 1 ปี 14 ตัว ทุกตัวปราศจากตำหนิ 21 ด้วยกันกับเครื่องธัญญบูชาและเครื่องดื่มบูชาสำหรับโคตัวผู้ แกะตัวผู้ และสำหรับลูกแกะ ตามจำนวนที่ระบุไว้แล้ว 22 และแพะตัวผู้ 1 ตัวสำหรับเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป นอกเหนือจากสัตว์ที่เผาเป็นของถวายกับเครื่องธัญญบูชาและเครื่องดื่มบูชาที่ถวายเป็นประจำ
23 ในวันที่สี่ จงถวายโคตัวผู้ 10 ตัว แกะตัวผู้ 2 ตัว ลูกแกะตัวผู้อายุ 1 ปี 14 ตัว ทุกตัวปราศจากตำหนิ 24 ด้วยกันกับเครื่องธัญญบูชาและเครื่องดื่มบูชาสำหรับโคตัวผู้ แกะตัวผู้ และสำหรับลูกแกะ ตามจำนวนที่ระบุไว้แล้ว 25 และแพะตัวผู้ 1 ตัวสำหรับเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป นอกเหนือจากสัตว์ที่เผาเป็นของถวายกับเครื่องธัญญบูชาและเครื่องดื่มบูชาที่ถวายเป็นประจำ
26 ในวันที่ห้า จงถวายโคตัวผู้ 9 ตัว แกะตัวผู้ 2 ตัว ลูกแกะตัวผู้อายุ 1 ปี 14 ตัว ทุกตัวปราศจากตำหนิ 27 ด้วยกันกับเครื่องธัญญบูชาและเครื่องดื่มบูชาสำหรับโคตัวผู้ แกะตัวผู้ และสำหรับลูกแกะ ตามจำนวนที่ระบุไว้แล้ว 28 และแพะตัวผู้ 1 ตัวสำหรับเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป นอกเหนือจากสัตว์ที่เผาเป็นของถวายกับเครื่องธัญญบูชาและเครื่องดื่มบูชาที่ถวายเป็นประจำ
29 ในวันที่หก จงถวายโคตัวผู้ 8 ตัว แกะตัวผู้ 2 ตัว ลูกแกะตัวผู้อายุ 1 ปี 14 ตัว ทุกตัวปราศจากตำหนิ 30 ด้วยกันกับเครื่องธัญญบูชาและเครื่องดื่มบูชาสำหรับโคตัวผู้ แกะตัวผู้ และสำหรับลูกแกะ ตามจำนวนที่ระบุไว้แล้ว 31 และแพะตัวผู้ 1 ตัวสำหรับเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป นอกเหนือจากสัตว์ที่เผาเป็นของถวายกับเครื่องธัญญบูชาและเครื่องดื่มบูชาที่ถวายเป็นประจำ
32 ในวันที่เจ็ด จงถวายโคตัวผู้ 7 ตัว แกะตัวผู้ 2 ตัว ลูกแกะตัวผู้อายุ 1 ปี 14 ตัว ทุกตัวปราศจากตำหนิ 33 ด้วยกันกับเครื่องธัญญบูชาและเครื่องดื่มบูชาสำหรับโคตัวผู้ แกะตัวผู้ และสำหรับลูกแกะ ตามจำนวนที่ระบุไว้แล้ว 34 และแพะตัวผู้ 1 ตัวสำหรับเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป นอกเหนือจากสัตว์ที่เผาเป็นของถวายกับเครื่องธัญญบูชาและเครื่องดื่มบูชาที่ถวายเป็นประจำ
35 ในวันที่แปด จงจัดให้มีการประชุม อย่าลงแรงทำงาน 36 และจงถวายสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวาย ซึ่งถวายด้วยไฟจะส่งกลิ่นหอมเป็นที่พอใจสำหรับพระผู้เป็นเจ้า อันได้แก่โคตัวผู้ 1 ตัว แกะตัวผู้ 1 ตัว ลูกแกะตัวผู้อายุ 1 ปี 7 ตัว ทุกตัวปราศจากตำหนิ 37 เครื่องธัญญบูชา และเครื่องดื่มบูชาสำหรับโคตัวผู้ แกะตัวผู้ และลูกแกะตัวผู้ตามจำนวนที่ระบุไว้แล้ว 38 และแพะตัวผู้ 1 ตัวสำหรับเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป นอกเหนือจากสัตว์ที่เผาเป็นของถวายกับเครื่องธัญญบูชาและเครื่องดื่มบูชาที่ถวายเป็นประจำ
39 นอกเหนือจากสิ่งที่เจ้าถวายเนื่องมาจากคำสาบานหรือจากความสมัครใจ เจ้าจงถวายสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวาย เครื่องธัญญบูชา เครื่องดื่มบูชา และของถวายเพื่อสามัคคีธรรมแด่พระผู้เป็นเจ้าในเทศกาลที่กำหนดไว้’”
40 โมเสสได้บอกชาวอิสราเอลทุกประการ ตามที่พระผู้เป็นเจ้าบัญชาท่านไว้
ภาค 3
บทที่ 73-89
ความยุติธรรมของพระเจ้า
เพลงสดุดีของอาสาฟ
1 จริงทีเดียว พระเจ้าดีต่อชาวอิสราเอล
ต่อบรรดาผู้มีใจบริสุทธิ์
2 แต่สำหรับข้าพเจ้า เท้าที่ก้าวออกไปของข้าพเจ้าแทบสะดุด
เท้าที่ก้าวเกือบทำให้พลาดพลั้ง
3 เพราะข้าพเจ้าอิจฉาคนยโส
เมื่อข้าพเจ้าเห็นความเจริญของพวกคนชั่ว
4 ด้วยว่า พวกเขาปราศจากความเจ็บปวด
ร่างกายเขาสมบูรณ์ และมีสุขภาพดี
5 พวกเขาไม่ลำบากเหมือนคนอื่นๆ
และไม่ถูกบั่นทอนเหมือนมนุษย์ทั่วไป
6 ฉะนั้น ความเย่อหยิ่งเป็นประหนึ่งสร้อยที่คล้องคอเขาไว้
การกระทำเลวร้ายปกปิดร่างกายเสมือนเครื่องนุ่งห่ม
7 ตาของพวกเขาถลนเพราะความอ้วนพี
จิตใจของพวกเขาเต็มด้วยความหลอกลวง
8 เขาเยาะเย้ยและกล่าวร้าย
เขาเอ่ยปากข่มขู่บีบคั้นด้วยความโอหัง
9 ปากของเขาพูดท้าทายสรวงสวรรค์
และลิ้นก็ระรานไปทั่วแผ่นดินโลก
10 ดังนั้น ชนชาติของพระองค์กลับหันมายกย่องพวกเขา
และเชื่อฟังเขาทุกอย่าง
11 และเขาพูดว่า “พระเจ้าทราบได้อย่างไร
องค์ผู้สูงสุดทราบอะไรบ้าง”
12 ดูเถิด คนชั่วเป็นแบบนี้คือ
ชอบอยู่อย่างสบายตลอดกาล และร่ำรวยขึ้น
13 จริงทีเดียว มันเปล่าประโยชน์ที่ข้าพเจ้าได้ล้างมือ
แสดงความบริสุทธิ์ใจ
14 ข้าพเจ้าต้องทนทุกข์ตลอดวันเวลา
และถูกลงโทษทุกเช้า
15 หากข้าพเจ้าพูดว่า “ข้าพเจ้าจะพูดตามอย่างพวกเขา”
ก็จะกลายเป็นว่าข้าพเจ้าไม่จริงใจต่อพวกบุตรของพระองค์
16 แต่เมื่อข้าพเจ้าพยายามที่จะเข้าใจเรื่องนี้
ข้าพเจ้าก็อ่อนใจ
17 จนกระทั่งข้าพเจ้าเข้าไปในที่พำนักของพระเจ้า
แล้วข้าพเจ้าจึงเข้าใจจุดจบของพวกเขา
18 จริงทีเดียว พระองค์ให้พวกเขาอยู่ในที่ลื่น
พระองค์ทำให้เขาวอดวาย
19 พวกเขาถูกทำลายได้อย่างรวดเร็วอะไรเช่นนี้
และถูกกำจัดอย่างน่ากลัวโดยสิ้นเชิง
20 โอ พระผู้เป็นเจ้า
เมื่อพระองค์ตื่นขึ้น พระองค์ลืมพวกเขาจนหมดสิ้น
เหมือนกับผู้ที่ตื่นขึ้นจากความฝัน
21 เวลาข้าพเจ้ารู้สึกขมขื่นในใจ
ในยามที่ส่วนลึกในตัวข้าพเจ้าแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
22 ข้าพเจ้าโง่และไม่เข้าใจอะไร ณ เบื้องหน้าพระองค์
ข้าพเจ้าเป็นเพียงสัตว์ป่า
23 ถึงกระนั้นข้าพเจ้าก็จะอยู่กับพระองค์เสมอ
พระองค์จับมือขวาของข้าพเจ้าไว้
24 พระองค์นำทางข้าพเจ้าพร้อมด้วยคำแนะนำ
และสุดท้ายพระองค์จะรับข้าพเจ้าอย่างสมเกียรติ
25 ข้าพเจ้ามีใครในสวรรค์บ้างนอกจากพระองค์
และไม่มีอะไรในโลกที่ข้าพเจ้าต้องการนอกจากพระองค์
26 ทั้งกายและใจของข้าพเจ้าระทดท้อ
แต่พระเจ้าเป็นพลังใจของข้าพเจ้าโดยที่ข้าพเจ้าไม่จำเป็นต้องมีสิ่งอื่นใดอีกเลย
27 ดูเถิด พวกที่ห่างเหินจากพระองค์จะพินาศ
พระองค์ทำให้ชีวิตของพวกที่ไม่จริงใจกับพระองค์จบลง
28 แต่สำหรับข้าพเจ้าแล้ว นับว่าเป็นสิ่งดีที่ได้อยู่ใกล้ชิดพระเจ้า
ข้าพเจ้าให้พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่เป็นที่พึ่งพิงของข้าพเจ้า
และข้าพเจ้าจะป่าวประกาศถึงสิ่งทั้งปวงที่พระองค์ได้กระทำ
บาบิโลนถล่มลง
21 คำพยากรณ์เกี่ยวกับถิ่นทุรกันดารของทะเล
สิ่งที่มาจากถิ่นทุรกันดาร
เป็นเช่นเดียวกับพายุหมุนที่พัดในเนเกบ
พัดมาจากดินแดนที่น่าสะพรึงกลัว
2 ภาพนิมิตที่ข้าพเจ้าทราบมานั้นรุนแรงยิ่งนัก
“ผู้ทรยศก็หักหลัง
และผู้ทำลายก็ทำให้พินาศ
โอ เอลามเอ๋ย จงขึ้นไปเถิด
โอ มีเดียเอ๋ย จงใช้กำลังล้อม
เมืองนั้นได้ก่อให้เกิดเสียงอ่อนระอาใจ
เราก็ทำให้สิ้นสุดลง”
3 ข้าพเจ้าเจ็บปวดและเสียววาบทั่วทั้งกาย
เป็นความเจ็บปวดรวดร้าวปานประหนึ่งหญิงเจ็บครรภ์
สิ่งที่ข้าพเจ้าได้ยินทำให้ข้าพเจ้าหมดแรง
สิ่งที่ข้าพเจ้าเห็นทำให้ข้าพเจ้าสับสน
4 ข้าพเจ้าขาดความมั่นใจ
และตัวสั่นด้วยความกลัว
ยามสนธยาที่ข้าพเจ้ารอคอยกลาย
เป็นความหวาดหวั่นแก่ข้าพเจ้า
5 พวกเขาตั้งสำรับ ปูเสื่อ
พวกเขาดื่มกิน
โอ ผู้นำทั้งหลาย
ขัดโล่ด้วยน้ำมันเถิด
6 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้
คือ “จงตั้งทหารยาม
ให้เขาแจ้งว่าเขาเห็นอะไร
7 เมื่อเขาเห็นพวกรถศึก ทหารม้ามาเป็นคู่ๆ
มีคนขี่ลาและขี่อูฐมา
ให้เขาตั้งใจฟัง
จงฟังให้ดี”
8 ทหารยามเห็นแล้วก็ส่งเสียงร้องว่า
“โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้ายืนอยู่ที่หอคอยตลอดวัน
และข้าพเจ้าประจำอยู่ที่ป้อมยามตลอดคืน
9 ดูเถิด บรรดาคนขี่มาแล้ว
ทหารม้ามาเป็นคู่ๆ”
มีเสียงตอบว่า
“บาบิโลน ถล่มลงแล้ว ถล่มลงแล้ว
และรูปเคารพทั้งปวงซึ่งเป็นเทพเจ้าของเมือง
แตกกระจายลงบนพื้น”
10 โอ คนที่ถูกนวดและฝัดร่อนของข้าพเจ้าเอ๋ย
ข้าพเจ้าประกาศสิ่งที่ข้าพเจ้าได้ยิน
จากพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา
พระเจ้าของอิสราเอลแก่พวกท่าน
11 คำพยากรณ์เกี่ยวกับดูมาห์
ผู้หนึ่งกำลังร้องเรียกจากเสอีร์ถึงข้าพเจ้าว่า
“คนยาม ดึกแค่ไหนแล้ว
คนยามเอ๋ย ดึกแค่ไหนแล้ว”
12 คนยามพูดว่า
“จะถึงเช้าแล้ว แต่ก็จะค่ำลงอีก
ถ้าท่านจะถาม ก็ถามเถิด
และจงกลับมาอีก”
13 คำพยากรณ์เกี่ยวกับอาระเบีย
โอ กองคาราวานชาวเดดานเอ๋ย
พวกท่านจะพักแรมที่ดงไม้ในถิ่นทุรกันดาร
14 นำน้ำมาให้คนกระหายน้ำ
บรรดาผู้อยู่อาศัยของดินแดนเท-มา
นำอาหารมาให้แก่ผู้ลี้ภัย
15 เพราะพวกเขาได้หลบหนีจากคมดาบ
จากดาบที่ชักออกและพร้อมจะฟาดฟัน
จากธนูที่โก่ง
และจากความกดดันของการต่อสู้
16 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า “ภายใน 1 ปี ตามที่ผู้รับจ้างจะนับเวลา บารมีทั้งสิ้นของเคดาร์จะหมดลง 17 บรรดานายธนูผู้กล้าหาญของพงศ์พันธุ์เคดาร์ที่รอดชีวิตจะมีเพียงไม่กี่คน เพราะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอลได้กล่าวดังนั้น”
ความพินาศของผู้สอนจอมปลอม
2 แต่ในอดีต มีพวกผู้เผยคำกล่าวจอมปลอมในหมู่ชน เช่นเดียวกับที่จะมีผู้สอนจอมปลอมในกลุ่มพวกท่าน เขาเหล่านั้นจะแอบเสี้ยมสอนลัทธิที่นำความพินาศมา จนถึงกับปฏิเสธพระผู้เป็นเจ้าผู้สูงสุดที่ได้ไถ่พวกเขาไว้ การทำเช่นนี้จะทำให้เขาพินาศอย่างรวดเร็ว 2 มีหลายคนจะกระทำตามราคะตัณหาของพวกเขา และจะทำให้หนทางแห่งความจริงถูกดูหมิ่นดูแคลน 3 เพราะความโลภ พวกเขาจึงเอาเปรียบท่านด้วยการอ้างถึงหลักคำสอนที่ผิด การกล่าวโทษสำหรับพวกเขาก็มีมานานแล้ว และพวกเขาจะต้องพินาศ
4 ถ้าพระเจ้ามิได้ยกเว้นเหล่าทูตสวรรค์เมื่อกระทำบาป แต่ส่งพวกเขาไปยังนรก แล้วล่ามโซ่ไว้ในความมืดเพื่อรอวันพิพากษา 5 ถ้าพระองค์มิได้ยกเว้นมนุษย์ในสมัยโบราณเมื่อพระองค์ปล่อยให้น้ำท่วมโลกของผู้ไร้คุณธรรม แต่คุ้มครองโนอาห์ผู้ประกาศถึงความชอบธรรมและคนอื่นอีก 7 คนด้วย 6 ถ้าพระองค์ได้กล่าวโทษเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ให้ไหม้จนเป็นเถ้าถ่าน ซึ่งเป็นตัวอย่างอันแสดงให้เห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับผู้ไร้คุณธรรม 7 ถ้าพระองค์ช่วยชีวิตของโลทผู้มีความชอบธรรมและมีความทุกข์จากคนชั่วที่มีราคะตัณหา 8 ผู้มีความชอบธรรมผู้นั้นใช้ชีวิตวันแล้ววันเล่าในหมู่คนเหล่านั้น จะได้รับความทรมานในจิตใจอันเป็นที่ชอบธรรม เมื่อได้เห็นและได้ยินเรื่องการกระทำที่ชั่วร้ายของพวกเขา 9 ดังนั้นพระผู้เป็นเจ้าทราบว่า จะช่วยชีวิตของคนที่เดินในทางของพระเจ้าได้อย่างไร เพื่อให้พ้นจากความลำบาก และพระองค์กักขังพวกที่ไม่มีความชอบธรรมไว้ เพื่อให้รับโทษจนถึงวันพิพากษา 10 โดยเฉพาะพวกที่ประพฤติตามความต้องการอันเป็นมลทินฝ่ายเนื้อหนัง[a] และดูหมิ่นผู้มีอำนาจหน้าที่สูง
คนเหล่านี้บังอาจ หยิ่งยโส และไม่สะทกสะท้านในการพูดหมิ่นประมาทชาวสวรรค์ 11 ขณะที่เหล่าทูตสวรรค์ผู้มีพลังและอำนาจเหนือกว่า ก็ยังมิอาจกล่าวหมิ่นประมาทชาวสวรรค์เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า 12 แต่คนเหล่านี้หมิ่นประมาทในเรื่องที่ตนไม่เข้าใจ เขาเป็นเสมือนสัตว์ป่าดุร้ายที่ทำตามสัญชาตญาณ เกิดมาเพื่อถูกจับฆ่า และก็จะพินาศเยี่ยงสัตว์ป่าเช่นกัน 13 เมื่อคนเหล่านั้นทำให้ผู้อื่นเป็นทุกข์ เขาก็จะต้องได้รับทุกข์กลับคืน เขามีมลทินด่างพร้อยติดตัว เพราะเขาหาความเพลิดเพลินให้ตนเองในเวลากลางวันอย่างหรูหรา หาความสำราญขณะที่เขาเลี้ยงฉลองอยู่กับท่าน 14 เขามั่วสุมกับพวกที่ประพฤติผิดประเวณี เขากระทำบาปอย่างไม่หยุดยั้ง ชักจูงคนใจเขว ด้วยว่าเขามีใจโลภอยู่เป็นพื้น เขาจึงตกอยู่ภายใต้คำสาปแช่งของพระเจ้า 15 เขาเหล่านั้นละทิ้งทางที่ถูกต้อง และหลงไปตามทางของบาลาอัมบุตรของเบโอร์ซึ่งรักค่าแรงแห่งความชั่ว 16 แต่ลาซึ่งเป็นสัตว์พูดภาษาคนไม่ได้ มันได้ห้ามบาลาอัมไม่ให้ทำผิด โดยที่ครั้งนั้นมันพูดเป็นเสียงคน และยับยั้งความบ้าคลั่งของผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าคนนั้นไว้ได้
17 คนเหล่านี้เป็นเสมือนน้ำพุที่ปราศจากน้ำ และเป็นเมฆหมอกที่ถูกพายุพัดพา ความมืดมิดกำลังรอรับพวกเขาอยู่ 18 เพราะเขาพูดเรื่องไร้สาระอย่างหยิ่งยโส และใช้เนื้อหนังเป็นเครื่องชักจูงบรรดาผู้ที่เพิ่งหลุดพ้นจากชีวิตเดิม 19 พวกเขาสัญญากับคนเหล่านั้นว่าจะมีอิสระ แต่ตนเองยังเป็นทาสของความเสื่อมทราม เพราะคนที่พ่ายแพ้แก่สิ่งใดย่อมเป็นทาสของสิ่งนั้น 20 ถ้าเขาได้หลุดพ้นจากมลทินของโลกด้วยการรู้จักพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าและผู้ช่วยให้รอดพ้นของเราแล้ว แต่กลับไปติดกับดักอีกจนพ่ายแพ้ ในบั้นปลายเขาย่อมเสื่อมทรามยิ่งกว่าตอนต้น 21 หากว่าพวกเขาไม่รู้ทางไปสู่ความชอบธรรม ก็จะดีกว่ารู้แล้วหันหลังให้กับพระบัญญัติอันบริสุทธิ์ซึ่งเขาเคยยอมรับ 22 เขาก็เป็นจริงตามสุภาษิตที่ว่า “สุนัขกลับไปกินสิ่งที่มันสำรอกออกมา”[b] และ “สุกรที่ถูกทำความสะอาดแล้วกลับไปลุยลงในเลนอีก”
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation