Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Old/New Testament

Each day includes a passage from both the Old Testament and New Testament.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
เยเรมียาห์ 24-26

ลูกมะเดื่อดีกับลูกมะเดื่อเสีย

24 พระยาห์เวห์ให้ผมดูตะกร้ามะเดื่อสองใบที่วางอยู่ตรงหน้าวิหารของพระองค์ หลังจากที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนได้เนรเทศเยโคนิยาห์ลูกของกษัตริย์เยโฮยาคิมแห่งยูดาห์ออกไปจากเยรูซาเล็มไปอยู่ที่บาบิโลนแล้ว พร้อมกับพวกเจ้านายของยูดาห์และช่างฝีมือและช่างเหล็กจากเยรูซาเล็ม

ตะกร้าหนึ่งใส่มะเดื่อที่ดีที่สุดเอาไว้ เหมือนมะเดื่อที่เก็บครั้งแรก อีกตะกร้าหนึ่งใส่มะเดื่อที่เสีย จนคนไม่กล้ากิน เพราะมันเสียมาก

แล้วพระยาห์เวห์ก็พูดกับผมว่า “เยเรมียาห์ เจ้าเห็นอะไรบ้าง”

ผมก็ตอบว่า “มะเดื่อครับ มะเดื่อดีก็ดีเยี่ยมเลยครับ แต่มะเดื่อเสียก็เสียเอามากๆกินไม่ได้เลยเพราะพวกมันเสียมาก”

แล้วพระยาห์เวห์ก็พูดกับผมว่า “นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลพูด ‘เราถือว่ามะเดื่อที่ดีพวกนี้เป็นเหมือนคนยูดาห์ในส่วนที่ถูกขับไล่ไป คนพวกนี้คือพวกที่เราส่งออกจากแผ่นดินนี้ไปที่ดินแดนของพวกเคลเดีย เราจะเฝ้าดูพวกเขาเป็นอย่างดี และเราจะนำพวกเขากลับมาที่แผ่นดินนี้ เราจะสร้างพวกเขาขึ้นมาใหม่ และจะไม่ทำลายพวกเขา เราจะปลูกพวกเขาและไม่ถอนพวกเขาขึ้นมา เราจะให้พวกเขามีใจที่รู้จักเรา เพื่อจะได้รู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์ พวกเขาจะเป็นคนของเรา และเราก็จะเป็นพระเจ้าของพวกเขา เพราะพวกเขาจะกลับมาหาเราด้วยสิ้นสุดใจของพวกเขา’”

พระยาห์เวห์พูดว่า “ส่วนกษัตริย์เศเดคียาห์แห่งยูดาห์ พร้อมกับเจ้านายทั้งหลายของเขา และคนที่เหลือในเยรูซาเล็ม รวมทั้งคนที่เหลืออยู่ในดินแดนนี้ และคนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินอียิปต์ด้วย เราจะทำกับเขาเหมือนลูกมะเดื่อที่เสียจนกินไม่ได้เหล่านั้น เพราะมันเสียมากเหลือเกิน

เราจะทำให้พวกเขากลัวจนตัวสั่นและเจอกับสิ่งที่เลวร้ายไปทั่วอาณาจักรของโลกนี้ เราจะทำให้พวกเขาถูกต่อว่า ถูกกระทบกระเทียบ ถูกเยาะเย้ย และถูกแช่งด่าในดินแดนที่เราจะเนรเทศพวกเขาไป

10 เราจะนำสงคราม ความอดอยาก และโรคร้าย มาทำลายพวกเขาจนกว่าพวกเขาจะถูกกำจัดไปจนหมดสิ้นจากแผ่นดินนี้ ที่เราได้ยกให้กับพวกเขาและบรรพบุรุษของพวกเขาไว้”

บทสรุปคำเทศนาของเยเรมียาห์

25 นี่คือถ้อยคำของพระยาห์เวห์ที่ส่งมาถึงเยเรมียาห์เกี่ยวกับชาวยูดาห์ทั้งหมด ในปีที่สี่ของการปกครองของกษัตริย์เยโฮยาคิมลูกชายกษัตริย์โยสิยาห์แห่งยูดาห์ ซึ่งตรงกับปีแรกที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ครอบครองบาบิโลน นี่คือพระคำที่เยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้า พูดกับคนยูดาห์และคนที่อาศัยอยู่ในเยรูซาเล็มว่า

“ตั้งแต่ปีที่สิบสามที่โยสิยาห์ลูกของกษัตริย์อาโมนแห่งยูดาห์ปกครองประเทศมาจนถึงทุกวันนี้ ก็เป็นเวลายี่สิบสามปีแล้ว ผมได้รับพระคำของพระยาห์เวห์มา แล้วผมก็ได้พูดพระคำของพระองค์ให้กับพวกคุณฟัง ผมพูดแล้วพูดอีก แต่พวกคุณก็ไม่เคยฟัง พระยาห์เวห์ได้ส่งพวกผู้พูดแทนพระเจ้าซึ่งเป็นผู้รับใช้ของพระองค์มาหาพวกคุณ พระองค์ส่งพวกเขามาแล้วมาอีก แต่คุณก็ไม่ยอมฟัง คุณไม่ได้เงี่ยหูฟังเลย

พระองค์พูดอยู่เสมอว่า ‘กลับมา พวกเจ้าแต่ละคน ให้หันกลับมาจากวิถีชีวิตที่ชั่วร้าย และหันกลับมาจากการกระทำต่างๆที่ชั่วช้าของเจ้า และให้มาอาศัยอยู่ในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์ยกให้กับเจ้าและบรรพบุรุษของเจ้าตลอดไป อย่าได้ไปติดตามและรับใช้พระอื่นๆ อย่าได้ไปกราบไหว้พระอื่นเลย และอย่าได้ยั่วโมโหเราด้วยสิ่งที่เจ้าสร้างขึ้นมากับมือของเจ้าเองเลย แล้วเราจะไม่ทำอันตรายเจ้า แต่เจ้าก็ไม่ยอมฟังเรา’” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น “เจ้าก็เลยยั่วเราด้วยสิ่งที่เจ้าสร้างขึ้นมากับมือเจ้าเอง ทำให้เราต้องทำร้ายเจ้า”

ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พูด “เนื่องจากเจ้าไม่ยอมฟังคำของเรา เรากำลังจะส่งสารไป และเรียกเผ่าทางเหนือทั้งหมดมา” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น “และเราจะส่งสารไปบอกกับกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน ที่เป็นผู้รับใช้ของเรา และเราจะพาพวกเขาทั้งหมดมาบุกแผ่นดินนี้ และต่อสู้กับพลเมืองของที่นี่ และต่อสู้กับชนชาติต่างๆทั้งหมดนี้ที่อยู่ล้อมรอบมัน เราจะทำลายพวกมันอย่างราบคาบ เราจะทำให้พวกมันเป็นเป้าของความสยดสยอง และให้เป็นที่หัวเราะเยาะและดุด่าว่ากล่าวตลอดไป

10 เราจะทำลายเสียงรื่นเริงสนุกสนานและเสียงเลี้ยงฉลอง เสียงของเจ้าบ่าวเจ้าสาวในวันแต่งงาน เสียงของหินโม่แป้งทำอาหาร และแสงตะเกียงให้หมดไป

11 ทั่วแผ่นดินนี้จะกลายเป็นที่แห้งแล้งรกร้าง และชนชาตินี้จะต้องเป็นขี้ข้ากษัตริย์บาบิโลนไปอีกเจ็ดสิบปี

12 พอครบเจ็ดสิบปีแล้ว เราจะจัดการกับกษัตริย์บาบิโลนและชนชาตินั้นทั้งหมด สำหรับความผิดบาปที่พวกมันทำ” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

“และเราจะจัดการกับดินแดนของพวกเคลเดีย เราจะทำให้มันรกร้างตลอดไป 13 ทุกๆคำพูดที่เราได้พูดต่อต้านแผ่นดินนั้น เราจะทำให้มันเกิดขึ้นจริงตามนั้น ทุกอย่างที่เขียนอยู่ในหนังสือเล่มนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เยเรมียาห์ได้พูดต่อต้านชนชาติต่างๆไว้ จะเกิดขึ้นจริงตามนั้น

14 ที่เราพูดอย่างนี้ ก็เพราะชนชาติต่างๆมากมายและกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่หลายองค์ จะต้องไปเป็นขี้ข้ารับใช้บาบิโลน แล้วเราจะตอบแทนพวกมันตามสิ่งที่พวกมันทำและสิ่งที่มือของพวกมันสร้างขึ้นมา”

การพิพากษาต่อชนชาติต่างๆในโลกนี้

15 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอล พูดกับผมว่า

“ให้เอาถ้วยนี้ไปจากมือเรา เป็นถ้วยที่ใส่เหล้าองุ่นแห่งความโกรธของเรา แล้วเราจะส่งเจ้าไปตามชนชาติต่างๆและเราจะทำให้ชนชาติเหล่านั้นดื่มมัน

16 พวกมันจะดื่มจนเมาโซเซ และทำตัวเหมือนคนบ้า ก็เพราะดาบที่เราส่งไปท่ามกลางพวกมัน”

17 ดังนั้นผมจึงหยิบถ้วยจากมือของพระยาห์เวห์ และไปตามชนชาติต่างๆที่พระองค์ส่งผมไป และทำให้ชนชาติเหล่านั้นดื่มมัน

18 ชนชาติเหล่านั้นได้แก่เยรูซาเล็ม และเมืองต่างๆของยูดาห์ และบรรดากษัตริย์และเจ้านายข้าราชการทั้งหลาย ผมทำให้พวกเขาดื่มจากถ้วยนี้ เพื่อทำให้แผ่นดินของพวกเขารกร้างว่างเปล่า ไร้ประโยชน์ เป็นเป้าให้คนหัวเราะเยาะและได้รับการดูถูกเหยียดหยาม อย่างที่มันเป็นอยู่ตอนนี้

19 คนเหล่านี้ทั้งหมดจะต้องดื่มจากถ้วยนี้ คือฟาโรห์กษัตริย์อียิปต์ พร้อมกับข้ารับใช้ ข้าราชการ รวมทั้งประชาชนของพระองค์ทุกคน

20 พวกชาวบ้านตามชายแดน และกษัตริย์ทุกองค์ของอูส พวกกษัตริย์ทุกองค์ของฟีลิสเตีย ซึ่งก็มี กษัตริย์ต่างๆของเมืองอัชเคโลน กาซา เอโครน และที่เหลือของเมืองอัชโดด

21 คนในเมืองเอโดม โมอับ และอัมโมน

22 กษัตริย์ทุกองค์ของไทระ ไซดอน และกษัตริย์ที่อยู่ตามชายฝั่งทะเลอีกฟากหนึ่ง 23 คนที่เดดาน เทมา และบูส รวมทั้งคนพวกนั้นที่เข้าพิธีโกนผมจอน[a] 24 กษัตริย์ทุกองค์ของอาระเบีย และกษัตริย์ทุกองค์ตามแนวชายแดนซึ่งอยู่ในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง 25 กษัตริย์ทุกองค์ในศิมรี เอลาม และมีเดีย 26 กษัตริย์ทุกองค์จากทางเหนือ ที่อยู่ใกล้และไกล คนแล้วคนเล่า ผมทำให้อาณาจักรทุกแห่งที่อยู่บนโลกดื่มจากถ้วยนี้ แล้วกษัตริย์แห่งเชชัก[b] ก็จะดื่มหลังจากพวกเขาเหล่านั้น

27 พระยาห์เวห์พูดกับผมว่า “แล้วให้เจ้าบอกกับพวกเขาว่า พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าแห่งอิสราเอลพูดอย่างนี้ว่า ‘ดื่มซะให้เมาไปเลย ให้อ้วกแตก แล้วก็ล้มลง และอย่าลุกขึ้นมาต่อหน้าดาบที่เรากำลังส่งไปท่ามกลางเจ้า’

28 แต่ถ้าพวกมันไม่ยอมรับถ้วยในมือเจ้าไปดื่ม ก็ให้เจ้าบอกกับพวกมันว่า พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดอย่างนี้ว่า ‘พวกเจ้าจะต้องดื่ม 29 เพราะดูสิ เรากำลังจะนำความเจ็บปวด ทนทุกข์ทรมานมายังเมืองที่ถูกเรียกตามชื่อของเรา แล้วเจ้าจะได้รับการยกเว้นหรือไง เราจะไม่ละเว้นเจ้าหรอก เพราะเรากำลังจะทำให้ดาบมาตกอยู่บนพลเมืองทุกคนของแผ่นดินนี้’” พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดอย่างนี้

30 “เยเรมียาห์ ให้เจ้าบอกทุกๆถ้อยคำนี้ที่เราพูดให้พวกมันฟัง เจ้าจะต้องบอกกับพวกมันว่า

พระยาห์เวห์คำรามมาจากที่สูง
    และพระองค์ส่งเสียงเรียกจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
พระองค์คำรามลั่นใส่ฝูงแกะของพระองค์
    มีเสียงตะโกนดังลั่นไปทั่วทุกคนในโลกนี้เหมือนเสียงโห่ร้องของคนย่ำองุ่น
31 เสียงนั้นดังกึกก้องไปถึงสุดขอบโลก
    เพราะพระยาห์เวห์มีคดีกับชนชาติต่างๆ
พระองค์กำลังจะพิพากษาโลกทั้งโลก
    และทำให้คนชั่วตายด้วยดาบ”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

32 พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่า
“ความชั่วช้ากำลังแพร่กระจายจากชนชาติหนึ่งไปยังอีกชนชาติหนึ่ง
    พายุร้ายกำลังพัดมาจากขอบโลก”

33 ในเวลานั้นจะมีคนตั้งแต่ขอบโลกด้านหนึ่งไปถึงขอบโลกอีกด้านหนึ่งถูกพระยาห์เวห์ฆ่า จะไม่มีใครร้องไห้ให้พวกมัน และจะไม่มีใครเก็บศพพวกมันมาฝัง พวกมันจะเป็นเหมือนมูลสัตว์บนดิน

34 พวกผู้เลี้ยงแกะของอิสราเอล ร้องไห้โหยหวนเถอะ
    พวกผู้นำฝูงแกะ กลิ้งตัวคลุกฝุ่นด้วยความโศกเศร้าเถอะ
เพราะถึงเวลาแล้วที่พวกแกจะต้องโดนฆ่า
    พวกแกจะล้มลงแตกเหมือนหม้อไหราคาแพง
35 ผู้เลี้ยงแกะพวกนี้ไม่พบที่ลี้ภัย
    ส่วนผู้นำฝูงแกะก็จะหนีไม่รอด
36 ผมได้ยินเสียงร้องของพวกคนเลี้ยงแกะ
    และเสียงสะอึกสะอื้นของผู้นำฝูงแกะ
    ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะพระยาห์เวห์กำลังทำลายทุ่งหญ้าของพวกเขา
37 ทุ่งหญ้าที่เงียบสงบจะย่อยยับไป
    เพราะความเดือดดาลของพระยาห์เวห์
38 พระองค์ทิ้งถ้ำของพระองค์เองไปเหมือนสิงโต
    แผ่นดินของพวกเขาถูกทำลายแน่
เรื่องนี้เกิดจากดาบ[c]ของผู้ข่มเหง
    และความเดือดดาลของพระเจ้า

บทเรียนของเยเรมียาห์ที่วิหาร

(ยรม. 7:1-15)

26 ในช่วงต้นรัชกาลของกษัตริย์เยโฮยาคิมลูกชายกษัตริย์โยสิยาห์แห่งยูดาห์ มีข้อความนี้มาจากพระยาห์เวห์

นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูด “เยเรมียาห์ ให้เจ้าไปยืนอยู่ในลานของวิหารของพระยาห์เวห์ แล้วพูดต่อว่าประชาชนจากเมืองทั้งหลายของยูดาห์ที่กำลังมานมัสการที่วิหารของพระยาห์เวห์ แล้วพูดกับพวกเขาตามที่เราสั่ง ให้เจ้าพูดกับพวกเขาทุกคำห้ามตกแม้แต่คำเดียว

บางทีพวกเขาอาจจะฟัง แล้วแต่ละคนก็หันหลังให้กับวิถีชีวิตบาปๆของพวกเขาก็ได้ ถ้าพวกเขาทำอย่างนั้น เราก็จะเปลี่ยนใจจากเรื่องความหายนะที่เราได้วางแผนจะให้เกิดขึ้นกับพวกเขา เพราะการกระทำที่ชั่วช้าต่างๆของพวกเขา

แล้วเจ้าก็ควรพูดกับพวกเขาว่า พระยาห์เวห์พูดอย่างนี้ว่า ‘ถ้าพวกเจ้าไม่ยอมฟังเรา และไม่ยอมเดินตามกฎของเราที่เราได้ให้ไว้ต่อหน้าเจ้า

และไม่ยอมฟังถ้อยคำต่างๆของผู้พูดแทนพระเจ้าผู้รับใช้ของเรา ที่เราได้ส่งมาให้เจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พวกเจ้าไม่ยอมฟังเขา

เราก็จะทำให้วิหารนี้เป็นเหมือนชิโลห์ และให้ชนชาติต่างๆทั่วโลกใช้ชื่อของเมืองนี้เป็นคำสาปแช่ง’”

พวกนักบวชและพวกผู้พูดแทนพระเจ้า และประชาชนทั้งหลายก็ได้ยินเยเรมียาห์พูดถ้อยคำต่างๆเหล่านี้ ในวิหารของพระยาห์เวห์

เมื่อเยเรมียาห์พูดทุกอย่างที่พระยาห์เวห์สั่งให้เขาพูดกับประชาชนเสร็จแล้ว พวกนักบวช พวกผู้พูดแทนพระเจ้า และประชาชนทุกคนก็รุมกันเข้ามาจับตัวเขาพร้อมกับพูดว่า “แกตายแน่ๆ ทำไมแกถึงอ้างชื่อพระยาห์เวห์มาพูดว่า วิหารนี้จะต้องเป็นเหมือนชิโลห์ และคนที่อยู่ในเมืองนี้จะต้องถูกทำลาย”

แล้วทุกคนก็เข้าไปรุมล้อมเยเรมียาห์ในวิหารของพระยาห์เวห์

10 พวกเจ้านายแห่งยูดาห์ได้ยินถ้อยคำนี้เหมือนกัน พวกเขาก็เลยออกจากวังมาที่วิหารของพระยาห์เวห์ แล้วก็ไปนั่งอยู่ตรงทางเข้าประตูบานใหม่ที่วิหารของพระองค์

11 แล้วพวกนักบวชและพวกผู้พูดแทนพระเจ้าก็พูดกับพวกเจ้านายและทุกคนที่อยู่ที่นั่นว่า “ไอ้หมอนี่น่าจะถูกตัดสินประหารชีวิต เพราะมันได้พูดให้ร้ายบ้านเมืองนี้เหมือนที่เราเคยได้ยินมาแล้ว”

12 แล้วเยเรมียาห์ก็พูดกับเจ้านายและชาวบ้านทุกคนว่า “พระยาห์เวห์ส่งให้ผมมาพูดสิ่งทั้งหมดนี้ที่เกี่ยวกับบ้านนี้และเมืองนี้ตามที่พวกคุณได้ยิน

13 ตอนนี้ขอให้พวกคุณแก้ไขวิถีทางและการกระทำต่างๆของพวกคุณ และให้เชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกคุณ บางทีพระองค์อาจจะเปลี่ยนใจไม่ทำร้ายพวกคุณตามที่พระองค์ได้วางแผนไว้

14 แต่ตอนนี้ผมอยู่ในเงื้อมมือคุณแล้ว จะทำยังไงกับผมก็ได้แล้วแต่จะเห็นสมควร

15 แต่ให้รู้ไว้ว่า ถ้าพวกคุณคิดจะฆ่าผม พวกคุณกำลังทำให้เลือดของผู้บริสุทธิ์คนหนึ่งตกอยู่บนตัวคุณเอง บ้านเมืองนี้ และประชาชนของเมืองนี้ด้วย เพราะพระยาห์เวห์ส่งผมมาจริงๆ เพื่อพูดคำเหล่านี้ทุกคำให้พวกคุณฟัง”

16 แล้วพวกเจ้านายและชาวบ้านทั้งหลายก็บอกกับพวกนักบวชและพวกผู้พูดแทนพระเจ้าว่า “อย่าตัดสินประหารคนคนนี้เลย เพราะว่าเขาพูดกับเราในนามของพระยาห์เวห์”

17 ผู้ชายบางคนและผู้อาวุโสบางคนของแผ่นดิน ก็ลุกขึ้นยืนและพูดกับคนทั้งกลุ่มที่ออกันอยู่ว่า

18 “มีคาห์แห่งโมเรเชทเคยพูดแทนพระเจ้าในสมัยของกษัตริย์เฮเซคียาห์แห่งยูดาห์ ท่านได้พูดกับคนทุกคนในยูดาห์ว่า

‘พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดอย่างนี้ว่า
    เมืองศิโยนจะถูกไถเหมือนไถนา
และเมืองเยรูซาเล็มจะกลายเป็นซากปรักหักพัง
    ภูเขาที่เป็นที่ตั้งของวิหารก็จะถูกถอนรากถอนโคน’[d]

19 แล้วกษัตริย์เฮเซคียาห์และชาวเมืองยูดาห์ทั้งหมดได้ฆ่าท่านหรือเปล่า ก็เปล่า แต่กษัตริย์กลับเกรงกลัวพระยาห์เวห์แล้วอ้อนวอนพระองค์ให้เมตตา แล้วพระยาห์เวห์ก็เปลี่ยนใจไม่นำภัยพิบัติมาถึงพวกเขาทั้งๆที่พระองค์เคยพูดไว้ว่าจะลงโทษพวกเขา แต่ตอนนี้เรากำลังจะนำความหายนะอันใหญ่หลวงมาสู่ตัวเอง”

20 (ยังมีชายอีกคนหนึ่งชื่ออุรียาห์ลูกชายของเชไมอาห์จากคิริยาทเยอาริม มาพูดแทนพระยาห์เวห์ เขาพูดให้ร้ายเมืองนี้และแผ่นดินนี้เหมือนที่เยเรมียาห์พูดนั่นแหละ 21 แล้วกษัตริย์เยโฮยาคิม พวกเจ้านาย และทหารทุกคนของพระองค์ได้ยินคำพูดของเขา กษัตริย์ก็เลยคิดฆ่าเขา แต่อุรียาห์ได้ยินเสียก่อน ก็เลยกลัวและหนีไปอียิปต์ 22 กษัตริย์เยโฮยาคิมก็ส่งเอลนาธันลูกชายของอัคโบร์ และคนอีกจำนวนหนึ่งไปอียิปต์ 23 แล้วพวกเขาก็นำอุรียาห์กลับมาจากอียิปต์ พวกนั้นนำเขาไปให้กษัตริย์เยโฮยาคิม พระองค์ก็ฆ่าเขาแล้วโยนศพเขาทิ้งในสุสานของสามัญชน

24 แต่อาหิคัมลูกชายของชาฟานป้องกันไม่ให้เยเรมียาห์ถูกชาวบ้านฆ่าตาย)

ทิตัส 2

สอนให้คนทำตามคำสอนที่เป็นประโยชน์

ส่วนคุณให้พูดในสิ่งที่สอดคล้องกับคำสอนที่เป็นประโยชน์ สอนชายสูงอายุให้รู้จักควบคุมตนเอง ทำตัวให้น่านับถือ สุขุมรอบคอบ ให้เจริญขึ้นทั้งในด้านความเชื่อ ความรัก และความอดทน

ส่วนหญิงสูงอายุก็เหมือนกัน สอนให้เขามีชีวิตที่บริสุทธิ์อย่างผู้ที่นับถือพระเจ้า อย่าเที่ยวไปซุบซิบนินทา หรือติดเหล้า แต่ให้เป็นคนสอนสิ่งดีๆ จะได้อบรมหญิงสาวให้รักสามีและลูกๆ ให้มีความสุขุมรอบคอบและบริสุทธิ์ ดูแลบ้านช่องเป็นอย่างดี มีใจโอบอ้อมอารีและยินยอมสามี จะได้ไม่มีใครพูดจาดูหมิ่นคำสอนของพระเจ้าได้

พวกคนหนุ่มๆก็เหมือนกัน ตักเตือนเขาให้เป็นคนสุขุมรอบคอบ คุณควรจะทำสิ่งดีๆให้พวกเขาดูเป็นตัวอย่าง เวลาที่คุณสอนก็ให้จริงใจและจริงจัง ให้สอนคำสอนที่เป็นประโยชน์ จะได้ไม่มีใครตำหนิได้ และจะทำให้คนที่ต่อต้านคุณ อับอายขายหน้า เพราะไม่รู้จะเอาอะไรมาต่อว่าพวกเรา

สอนพวกทาส ให้เชื่อฟังเจ้านายในทุกเรื่อง ต้องเอาใจเจ้านาย และไม่โต้เถียง 10 สอนอย่าให้เขาขโมยของเจ้านาย แต่ให้แสดงให้เจ้านายเห็นว่าสามารถไว้ใจพวกเขาได้อย่างเต็มที่ ที่บอกให้ทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อจะใช้ทุกวิถีทาง ทำให้คนมาสนใจคำสอนของพระเจ้าผู้ช่วยให้รอดของเรามากขึ้น

11 ความเมตตากรุณาของพระเจ้าได้มาถึงแล้ว เป็นความเมตตากรุณาที่นำความรอดมาให้กับทุกคน 12 ความเมตตากรุณานี้ ได้ฝึกอบรมให้เราละทิ้งชีวิตที่ไม่ได้ให้เกียรติกับพระเจ้า และทิ้งกิเลสตัณหาของโลกนี้ ความเมตตากรุณานี้ฝึกให้เรามีชีวิตแบบคนที่มีสติ คนที่ยุติธรรม และคนที่ให้เกียรติกับพระเจ้าในยุคนี้ 13 เราควรจะทำอย่างนี้ในขณะที่เราตั้งหน้าตั้งตาคอยให้ความหวังที่นำเกียรติมาให้เราเป็นจริง ความหวังนั้นคือ เราจะได้เห็นเกียรติยศของพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ และของพระเยซูคริสต์ผู้ช่วยให้รอดของเรา 14 พระองค์ได้ให้ชีวิตของพระองค์เองเพื่อเรา เพื่อจะได้ปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระจากความชั่วร้ายทั้งปวง เพื่อชำระล้างเราให้บริสุทธิ์จะได้เป็นคนของพระองค์โดยเฉพาะ คือเป็นคนที่พยายามจะทำแต่ความดี

15 ให้สอนเรื่องพวกนี้ และขอร้องตักเตือนพวกเขา คุณมีสิทธิ์เต็มที่ในการทำอย่างนี้ อย่าให้ใครดูถูกเอาได้

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International