Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Old/New Testament

Each day includes a passage from both the Old Testament and New Testament.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
เยเรมียาห์ 40-42

เยเรมียาห์และพวกที่เหลืออยู่กับเกดาลิยาห์

40 ถ้อยคำของพระยาห์เวห์ก็มีมาถึงเยเรมียาห์ หลังจากที่เนบูซาระดานหัวหน้าองครักษ์ ได้ปล่อยเขาให้เป็นอิสระที่เมืองรามาห์ ตอนที่เนบูซาระดานเจอตัวเยเรมียาห์นั้น เขาถูกมัดอยู่กับกลุ่มคนที่ถูกกวาดต้อนมาจากเยรูซาเล็มและยูดาห์ เพื่อไปที่บาบิโลน หัวหน้าองครักษ์เอาตัวเยเรมียาห์มา และพูดกับเขาว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ได้ขู่ว่าจะนำความหายนะมาสู่สถานที่แห่งนี้ และพระยาห์เวห์ก็ได้ทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นเหมือนกับที่พระองค์บอก เพราะพวกเจ้าได้ทำบาปต่อพระยาห์เวห์ และไม่เชื่อฟังพระองค์ เลยทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นกับเจ้า ตอนนี้เราได้ปลดโซ่ออกจากมือของเจ้าแล้ว ถ้าเจ้าอยากไปบาบิโลนกับเรา ก็มาเถอะ เราจะดูแลเจ้าเอง แต่ถ้าเจ้าไม่อยากไป ก็ไม่ต้องไป มองดูแผ่นดินทั้งหมดนี้ที่อยู่ตรงหน้าเจ้าสิ อยากไปไหนก็ไปเถอะ” ก่อนที่เยเรมียาห์จะเดินจากไป เนบูซาระดานก็พูดขึ้นว่า “หรือเจ้าจะกลับไปหาเกดาลิยาห์ลูกชายของอาหิคัมลูกชายของชาฟาน กษัตริย์บาบิโลนได้แต่งตั้งให้เกดาลิยาห์ปกครองเมืองต่างๆในยูดาห์ เจ้าก็ไปอยู่กับเขาร่วมกับประชาชน หรือเจ้าอยากจะไปที่ไหนที่เจ้าคิดว่าดี ก็ไปเถอะ” แล้วหัวหน้าองครักษ์ก็ให้เสบียงอาหาร จากนั้นก็ปล่อยเขาไป เยเรมียาห์ก็เลยไปหาเกดาลิยาห์ลูกชายของอาหิคัมที่มิสปาห์ แล้วก็อยู่กับเขาที่นั่น ท่ามกลางประชาชนที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ในแผ่นดินนั้น

การปกครองสั้นๆของเกดาลิยาห์

แล้วพวกแม่ทัพนายกองที่อยู่ในพื้นที่กับลูกน้องของพวกเขาก็ได้ยินว่ากษัตริย์บาบิโลนได้แต่งตั้งเกดาลิยาห์ลูกชายของอาหิคัมให้เป็นผู้ดูแลแผ่นดินนี้ และยังได้มอบหมายให้เขาดูแลพวกผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก รวมทั้งให้เขาดูแลคนยากคนจนในแผ่นดินนี้ที่ไม่ถูกกวาดต้อนไปบาบิโลน

คนเหล่านี้ได้มาหาเกดาลิยาห์ที่มิสปาห์ คืออิชมาเอลลูกชายของเนธานิยาห์ โยฮานันและโยนาธาน ลูกชายของคาเรอาห์ เสไรอาห์ลูกชายของทันหุเมท พวกลูกชายของเอฟายชาวเนโทฟาห์ และเยซันยาห์ลูกชายชาวมาอาคาห์ คนเหล่านี้ รวมทั้งคนของพวกเขาก็ได้มาหาเกดาลิยาห์ที่มิสปาห์

เกดาลิยาห์ลูกชายของอาหิคัมลูกชายของชาฟานได้สาบานกับพวกเขาและคนของพวกเขาว่า “ไม่ต้องกลัวที่จะต้องรับใช้ชาวบาบิโลนหรอก ให้อาศัยอยู่ในดินแดนของพวกท่าน และรับใช้กษัตริย์บาบิโลนเถอะ แล้วทุกอย่างก็จะดีเองสำหรับท่าน 10 แต่สำหรับเรา เราจะอยู่ที่มิสปาห์เพื่อเป็นตัวแทนของท่านต่อพวกบาบิโลนที่มาโจมตีพวกเรา ส่วนพวกท่านก็ให้เก็บเหล้าองุ่น ผลไม้ และน้ำมันมะกอกไว้ในหม้อไห แล้วก็อยู่ในเมืองต่างๆของท่าน ที่พวกท่านยึดมาได้”

11 และพลเมืองยูดาห์ทุกคนที่อยู่ในโมอับ ในอัมโมน ในเอโดม และอยู่ในที่ต่างๆก็ได้ยินว่ากษัตริย์บาบิโลนได้ทิ้งคนไว้นิดหน่อยในยูดาห์ และพระองค์ได้แต่งตั้งเกดาลิยาห์ลูกชายอาหิคัม ให้ปกครองพวกเขาเหล่านั้น อาหิคัม เป็นลูกชายของชาฟาน 12 ดังนั้นพวกยิวทุกคนต่างก็พากันเดินทางกลับมาจากสถานที่ต่างๆที่พวกเขาเคยถูกขับไล่ไปอยู่นั้น แล้วพวกเขาก็มาที่แผ่นดินยูดาห์ มาหาเกดาลิยาห์ที่มิสปาห์ แล้วพวกเขาก็ได้เก็บเกี่ยวองุ่นและผลไม้อื่นๆได้มากมาย

อิชมาเอลซ่องสุมคนหักหลังเกดาลิยาห์

13 แล้วโยฮานันลูกชายของคาเรอาห์กับแม่ทัพนายกอง ที่อยู่ในท้องทุ่ง ต่างก็พากันมาหาเกดาลิยาห์ที่มิสปาห์ 14 และพวกเขาบอกกับเกดาลิยาห์ว่า “ท่านรู้หรือเปล่าว่า กษัตริย์บาอาลิสแห่งอัมโมน ได้ส่งอิชมาเอลลูกชายของเนธานิยาห์ มาฆ่าท่าน” แต่เกดาลิยาห์ลูกชายของอาหิคัมไม่เชื่อพวกเขา 15 แล้วโยฮานันลูกชายของคาเรอาห์ ก็เลยแอบพูดกับเกดาลิยาห์ที่มิสปาห์ว่า “ขอให้ผมไปฆ่าอิชมาเอลลูกชายของเนธานิยาห์ จะได้ไม่มีใครรู้ จะปล่อยให้เขามาฆ่าท่านได้ยังไง ถ้าเขาทำอย่างนี้ มันจะทำให้คนยูดาห์ทุกคนที่รวมตัวกันมาอยู่กับท่าน ก็จะต้องกระจัดกระจายไป แล้วคนยูดาห์ที่เหลืออยู่ก็จะถูกกำจัดจนหมดสิ้นไป”

16 แต่เกดาลิยาห์ลูกชายของอาหิคัม บอกกับโยฮานันลูกของคาเรอาห์ว่า “อย่าทำอย่างนั้น เพราะเรื่องที่เจ้าพูดเกี่ยวกับอิชมาเอลน่ะไม่ใช่เรื่องจริงหรอก”

41 ในเดือนที่เจ็ด อิชมาเอลลูกชายของเนธานิยาห์ เนธานิยาห์เป็นลูกชายของเอลีชามา อิชมาเอลได้มาหาเกดาลิยาห์ลูกชายของอาหิคัม ที่มิสปาห์ อิชมาเอลคนนี้เป็นเชื้อเจ้าคนหนึ่ง และเป็นนายพลที่เก่งกาจคนหนึ่งของกษัตริย์ เขามากับคนของเขาสิบคน และพวกเขาก็กินอาหารร่วมกับเกดาลิยาห์ที่มิสปาห์ จากนั้นอิชมาเอลลูกชายของเนธานิยาห์และชายสิบคนที่อยู่กับเขาก็ลุกขึ้นมา เอาดาบแทงเกดาลิยาห์ลูกชายของอาหิคัมลูกชายชาฟานจนตาย เกดาลิยาห์เป็นคนที่กษัตริย์บาบิโลนแต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครองแผ่นดินนี้

จากนั้นก็ฆ่าพลเมืองยูดาห์ทั้งหมดที่อยู่กับเขาในเมืองมิสปาห์ รวมทั้งทหารบาบิโลนที่อยู่ที่นั่นด้วย

วันที่สองหลังจากฆ่าเกดาลิยาห์ผ่านไปแล้ว ยังไม่มีใครรู้ มีชายแปดสิบคนเดินทางมาจาก เชเคม ชิโลห์ และสะมาเรีย พวกเขาโกนหนวดเครา ฉีกทึ้งเสื้อผ้าตัวเอง และเชือดเฉือนเนื้อตัวเอง พวกเขาถือเครื่องบูชาเมล็ดพืชไว้ในมือ และเครื่องหอมมาถวายในวิหารของพระยาห์เวห์ แล้วอิชมาเอลลูกชายของเนธานิยาห์ก็ออกจากมิสปาห์มาหาพวกเขา อิชมาเอลเดินไปก็ร้องไห้ไป เมื่อเจอพวกนั้นแล้วก็บอกว่า ไปหาเกดาลิยาห์ลูกชายของอาหิคัมกันเถอะ

แต่พอพวกเขาเดินเข้าไปถึงใจกลางเมือง อิชมาเอลลูกชายของเนธานิยาห์และคนที่มากับเขา ก็ฆ่าคนพวกนั้นแล้วเอาศพไปโยนทิ้งในบ่อเก็บน้ำ

แต่มีสิบคนจากแปดสิบคนนั้นบอกกับอิชมาเอลว่า “อย่าฆ่าพวกเราเลย เพราะเรามีข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ น้ำมันมะกอก และน้ำเชื่อมผลไม้ซ่อนอยู่ในทุ่งด้วย” อิชมาเอลก็เลยหยุด ไม่ได้ฆ่าพวกเขาให้ตายตามคนอื่นๆที่มาด้วยกัน

(บ่อเก็บน้ำที่อิชมาเอลโยนศพคนที่เขาฆ่าลงไป โดยแกล้งทำเป็นเพื่อนของเกดาลิยาห์นั้น เป็นบ่อเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่กษัตริย์อาสาสร้างไว้ตอนที่พระองค์ถูกกษัตริย์บาอาชาแห่งอิสราเอลโจมตี) อิชมาเอลลูกชายของเนธานิยาห์ถมมันด้วยศพของคนที่เขาฆ่า

10 แล้วอิชมาเอลก็จับคนที่เหลือที่อยู่ในมิสปาห์ไป ซึ่งมีทั้งพวกลูกสาวของกษัตริย์ และคนที่ยังเหลืออยู่ คนพวกนี้เป็นคนที่เนบูซาระดานหัวหน้าองครักษ์ได้แต่งตั้งให้เกดาลิยาห์ลูกชายของอาหิคัมเป็นผู้ดูแล แล้วอิชมาเอลก็หนีข้ามไปหาคนอัมโมน

11 จากนั้นโยฮานันลูกชายของคาเรอาห์และแม่ทัพนายกองทั้งหลายที่อยู่กับเขา ได้ยินเรื่องชั่วช้าที่อิชมาเอลลูกชายของเนธานิยาห์ทำลงไป 12 พวกเขาจึงยกทหารทั้งหมดที่มีอยู่ไปสู้กับอิชมาเอลลูกชายของเนธานิยาห์ พวกเขาไปเจออิชมาเอลที่บึงน้ำใหญ่ในกิเบโอน

13 เมื่อคนที่โดนจับตัวมาที่อยู่กับอิชมาเอลเห็นโยฮานันลูกชายของคาเรอาห์ พร้อมกับพวกแม่ทัพนายกองที่มากับเขา พวกเขาต่างก็พากันดีใจ

14 แล้วทุกคนที่อิชมาเอลจับมาจากมิสปาห์ก็หันกลับไปหาโยฮานันลูกชายของคาเรอาห์ 15 แต่อิชมาเอลลูกชายของเนธานิยาห์กับทหารแปดคนก็หนีโยฮานันไปได้ แล้วเขาหนีไปหาชาวอัมโมน

16 แล้วโยฮานันลูกชายของคาเรอาห์กับแม่ทัพนายกองทั้งหมดที่มากับเขาก็รับเอาคนที่เหลือที่อิชมาเอลลูกชายของเนธานิยาห์พามาจากมิสปาห์ หลังจากที่เขาได้ฆ่าเกดาลิยาห์ลูกชายของอาหิคัมแล้ว มีทั้งผู้ชาย ทหาร ผู้หญิง เด็ก และขันทีที่โยฮานันนำกลับมาจากกิเบโอน

โยฮานันหนีไปอียิปต์

17 พวกเขาได้ไปอยู่ที่เกรูธคิมฮามซึ่งอยู่ใกล้ๆเบธเลเฮม พยายามจะหนีไปให้ถึงอียิปต์ 18 เพราะอยากจะไปให้ไกลจากพวกบาบิโลน นั่นก็เพราะพวกเขากลัวชาวบาบิโลน เพราะอิชมาเอลลูกชายของเนธานิยาห์ ได้ฆ่าเกดาลิยาห์ลูกชายของอาหิคัม ที่กษัตริย์บาบิโลนแต่งตั้งให้ดูแลแผ่นดินนี้

ข่าวของเยเรมียาห์ไปถึงโยฮานัน

42 พวกแม่ทัพนายกองทุกคน ก็ได้เดินทางมากับโยฮานันลูกชายของคาเรอาห์ และอาซาริยาห์[a] ลูกชายของโฮชายาห์ และคนทั้งหมดจากคนที่กระจอกที่สุดไปถึงคนที่สำคัญที่สุด ต่างก็พากันมาหาเยเรมียาห์

แล้วพวกเขาก็พูดกับเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าว่า “ขอได้โปรดรับฟังคำอ้อนวอนของพวกเราด้วย ช่วยอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เผื่อพวกเราและชาวบ้านที่ยังเหลืออยู่นี้ด้วยเถอะ เพราะพวกเราเหลือกันแค่ไม่กี่คนอย่างที่ท่านเห็นนี้ จากที่เคยมีกันอยู่มากมาย อธิษฐานให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน บอกพวกเราหน่อยว่า พวกเราควรจะไปทางไหน และควรจะทำอะไร”

แล้วเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าก็บอกพวกเขาว่า “ผมได้ยินที่พวกท่านพูดแล้ว ผมจะอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านตามที่ท่านขอ เมื่อพระยาห์เวห์ตอบอะไรกลับมาให้กับท่าน ผมจะบอกพวกท่านทุกอย่าง โดยไม่ปิดบังอะไรไว้เลย”

แล้วพวกเขาก็พูดกับเยเรมียาห์ว่า “ถ้าพวกเราไม่ทำทุกอย่างตามที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านบอกผ่านท่านให้พวกเราทำแล้วละก็ ขอให้พระยาห์เวห์เป็นพยานที่เชื่อถือได้ต่อต้านพวกเรา ไม่ว่ามันจะดีหรือไม่ดี พวกเราก็จะเชื่อฟังพระยาห์เวห์ ผู้ที่พวกเรากำลังส่งท่านไป เพื่อว่าทุกสิ่งจะได้เป็นไปด้วยดีสำหรับพวกเรา เมื่อเราเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเรา”

หลังจากนั้นสิบวัน ถ้อยคำของพระยาห์เวห์ก็มีมาถึงเยเรมียาห์ แล้วเขาก็เรียกโยฮานันลูกชายของคาเรอาห์ รวมทั้งแม่ทัพนายกองทุกคนที่อยู่กับเขา และประชาชนทุกคน ตั้งแต่กระจอกงอกง่อยไปจนถึงคนที่สำคัญที่สุด แล้วเยเรมียาห์ก็พูดว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล พระองค์ผู้ที่พวกท่านส่งเราไปขอร้อง พระองค์พูดว่า 10 ‘ถ้าพวกเจ้าจะยังคงอยู่ในดินแดนนี้ต่อไปแน่ๆแล้วละก็ เราก็จะสร้างเจ้าขึ้นมาใหม่ และเราก็จะไม่ทำลายเจ้าลง เราจะปลูกเจ้าขึ้นมาใหม่ และเราจะไม่ถอนรากเจ้า เพราะเราเสียใจที่เราได้ทำสิ่งร้ายๆไว้กับเจ้า 11 ไม่ต้องกลัวเมื่อพวกเจ้ายืนอยู่ต่อหน้ากษัตริย์บาบิโลนที่เจ้ากลัวอยู่ในตอนนี้ ไม่ต้องกลัวเขา’ พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น ‘เพราะว่าเราอยู่กับเจ้าเพื่อช่วยและปกปักรักษาเจ้าจากเงื้อมมือของเขา 12 เราจะเมตตาปรานีพวกเจ้า เขาจะได้เมตตาปรานีเจ้าด้วย แล้วเขาก็จะคืนเขตแดนของเจ้าให้กับเจ้า’ 13 แต่ถ้าเจ้าพูดว่า ‘เราจะไม่อยู่ในแผ่นดินนี้หรอก’ แสดงว่าเจ้าจะไม่เชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าแล้ว 14 พวกเจ้ากลับพูดว่า ‘เราไม่อยู่ที่นี่หรอก เราจะไปอยู่ที่แผ่นดินอียิปต์ จะได้ไม่เจอกับสงคราม เราจะได้ไม่ได้ยินเสียงแตรศึก และจะได้ไม่ต้องอดข้าวตาย และเราจะอยู่ที่นั่น’ 15 ถ้านั่นเป็นความต้องการของเจ้าละก็ ชาวยูดาห์ที่ยังเหลืออยู่ ฟังการตัดสินใจของพระยาห์เวห์ให้ดี พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าของอิสราเอลพูดว่า ‘ถ้าเจ้าตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะไปอียิปต์ แล้วพวกเจ้าก็ไปอาศัยอยู่ที่นั่นในฐานะคนต่างชาติ 16 สงครามที่เจ้ากลัวนักกลัวหนาก็จะเกิดขึ้นกับเจ้าที่แผ่นดินอียิปต์นั้น และความอดอยากที่เจ้าเป็นห่วงกังวล ก็จะตามเจ้ามาติดๆเข้าไปในอียิปต์นั้น แล้วเจ้าก็จะตายที่นั่น 17 ทุกคนที่ตัดสินใจจะไปอยู่ในอียิปต์อย่างคนต่างชาตินั้น ก็จะตายด้วยคมดาบ ความอดอยาก และโรคระบาด จะไม่มีใครรอดชีวิตหรือหนีรอดออกมาได้เลยจากเรื่องเลวร้ายที่เรากำลังจะทำให้เกิดขึ้นกับพวกเขานั้น’”

18 พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าแห่งอิสราเอลพูดว่า “เราจะเทความโกรธใส่เจ้าเมื่อเจ้าไปอียิปต์ เหมือนกับที่เราเคยเทความโกรธใส่คนที่อาศัยอยู่ในเยรูซาเล็มมาแล้ว เจ้าจะกลายเป็นแบบอย่างของคำสาปแช่ง เป็นที่รกร้างว่างเปล่า เป็นของที่ไม่มีค่า และเป็นแบบอย่างของการหัวเราะเยาะ แล้วเจ้าจะไม่ได้เห็นแผ่นดินนี้อีกเลย”

19 พวกท่านคนยูดาห์ที่ยังหลงเหลืออยู่ พระยาห์เวห์บอกให้พวกท่านว่าอย่าไปอียิปต์เลย พวกท่านก็รู้แน่ชัดแล้วว่าวันนี้ผมได้เตือนท่านแล้ว 20 ว่าพวกท่านได้ทำให้ชีวิตของตัวเองหันเหออกไปจากทางที่ถูกที่ควร ที่ผมพูดอย่างนี้ก็เพราะพวกท่านส่งผมไปหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านเอง โดยขอว่า “ช่วยอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเราเผื่อพวกเราด้วย และช่วยบอกพวกเราทุกอย่างที่พระยาห์เวห์พูด แล้วเราจะทำตาม”

21 และวันนี้ผมก็ได้บอกท่านแล้วว่าพระองค์พูดอะไรกับผม แต่พวกท่านก็ไม่ยอมเชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และไม่ยอมฟังทุกสิ่งที่เราบอกท่านไปแล้ว 22 ถึงตอนนี้ท่านก็มั่นใจได้เลยว่า พวกท่านจะต้องตายจากคมดาบ จากความอดอยาก และจากโรคระบาด ในที่แห่งนั้นที่ท่านอยากจะไปอยู่อย่างคนต่างชาติ

ฮีบรู 4

คำสัญญาที่พระเจ้าจะให้เราเข้าไปหยุดพักผ่อนกับพระองค์นั้น ยังไม่ได้ถูกยกเลิก ถ้าอย่างนั้นให้ระวังตัวให้ดี เพื่อจะได้ไม่มีใครในหมู่พวกคุณพลาดโอกาสนั้นไป ทั้งเราและคนอิสราเอลก็ได้ยินข่าวดีเหมือนกัน แต่ข่าวดีนั้นไม่มีประโยชน์อะไรกับพวกเขา เพราะคนที่ได้ยินก็ไม่ได้ไว้วางใจในพระเจ้า แต่พวกเราที่ไว้วางใจแล้ว กำลังเข้าไปหยุดพักผ่อนกับพระเจ้า ส่วนคนที่ไม่ได้ไว้วางใจจะเป็นเหมือนกับที่พระเจ้าได้พูดไว้ว่า

“ตอนที่เราโกรธ เราได้สาบานว่า
    ‘พวกเขาจะไม่มีวันได้เข้าไปหยุดพักผ่อนกับเรา’”[a]

ถึงแม้พระเจ้าได้หยุดพักผ่อนจากการงานของพระองค์แล้วตั้งแต่ตอนที่พระองค์สร้างโลกเสร็จ เพราะมีข้อหนึ่งในพระคัมภีร์ที่พระองค์ได้พูดถึงวันที่เจ็ดว่า “แล้วในวันที่เจ็ด พระเจ้าหยุดพักจากการงานทั้งหมดของพระองค์”[b] แต่ในข้อข้างบนที่เราอ้างไปแล้วนั้น พระองค์พูดว่า “พวกเขาจะไม่มีวันได้เข้าไปหยุดพักผ่อนกับเรา”

เนื่องจากคำสัญญาที่พระเจ้าบอกว่าจะให้คนของพระองค์หยุดพักผ่อน ยังไม่ได้เกิดขึ้นในตอนนั้น เพราะคนที่ได้รับข่าวดีก่อนหน้านี้ ไม่ได้เชื่อฟังจึงไม่ได้เข้าไปหยุดพักผ่อนกับพระองค์ พระเจ้าจึงกำหนดอีกวันหนึ่งที่จะให้คนเข้าไปหยุดพักผ่อน แล้วพระองค์เรียกมันว่า “วันนี้” อีกหลายปีต่อมา พระองค์ก็พูดถึง “วันนี้” ผ่านดาวิด ตามที่ได้ยกมาข้างบนนี้แล้วว่า

“วันนี้ ถ้าเจ้าได้ยินเสียงพระเจ้า ก็อย่ามีใจดื้อรั้น”[c]

เรารู้ว่าโยชูวา[d]ไม่ได้นำพวกอิสราเอลเข้าไปหยุดพักผ่อนกับพระองค์หรอก เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น พระองค์คงไม่พูดถึงวันหยุดพักผ่อนอื่นอีกหลังจากนั้น แสดงว่ายังมีวันหยุดพักผ่อนพิเศษ[e]นั้น รอคนของพระเจ้าอยู่ 10 เพราะคนที่เข้าไปหยุดพักผ่อนกับพระเจ้านั้น จะหยุดพักผ่อนจากการงานของตน เหมือนกับที่พระเจ้าได้หยุดพักผ่อนจากการงานของพระองค์ 11 ดังนั้น ขอให้เราทุกคนพยายามทุกวิถีทางที่จะได้เข้าไปหยุดพักผ่อนกับพระองค์ จะได้ไม่มีใครถูกทำลาย เพราะไปทำตามตัวอย่างของชาวอิสราเอลพวกนั้นที่ไม่ยอมเชื่อฟัง

12 ถ้อยคำของพระเจ้า[f]นั้นมีชีวิต และเกิดผลมาก คมยิ่งกว่าดาบสองคมทุกชนิด มันแทงทะลุจิตและวิญญาณ ตลอดจนถึงข้อต่อและไขกระดูก มันสามารถแยกแยะแม้แต่ความนึกคิดต่างๆและเจตนาทั้งหลายในใจ 13 ทุกอย่างที่พระองค์สร้างขึ้นมา ไม่มีอะไรที่หลบซ่อนไปจากสายตาของพระองค์ได้ ทุกอย่างถูกเปิดโปงและตีแผ่ต่อสายตาของพระองค์ ผู้ที่เราจะต้องรายงานตัวด้วย

พระเยซูเป็นหัวหน้านักบวชสูงสุดของเรา

14 เรามีหัวหน้านักบวชสูงสุดที่ยิ่งใหญ่คือพระเยซู พระบุตรของพระเจ้า ผู้ที่ได้ขึ้นไปอยู่บนสวรรค์แล้ว ดังนั้น ขอให้เรายึดมั่นในความเชื่อที่เราได้ยอมรับไว้แล้ว 15 เพราะหัวหน้านักบวชสูงสุดของเราคนนี้เข้าใจและเห็นใจในจุดอ่อนทั้งหลายของเรา เพราะพระองค์ก็เคยถูกทดลองเหมือนกับเราทุกอย่าง แต่ไม่ได้ทำบาปเลย 16 ดังนั้นขอให้เราทุกคนเข้ามายืนด้วยความมั่นใจต่อหน้าบัลลังก์ของพระเจ้าผู้มีความเมตตากรุณา เพื่อเราจะได้รับความปรานี และพบกับความเมตตากรุณาที่พระเจ้าจะช่วยเราในเวลาที่เราต้องการความช่วยเหลือ

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International