Old/New Testament
นิมิตเกี่ยวกับกระดูกแห้ง
37 ฤทธิ์อำนาจ[a]ของพระยาห์เวห์ ได้มาอยู่บนตัวผม พระองค์ได้นำตัวผมออกมาจากในเมืองด้วยพระวิญญาณ[b] ของพระยาห์เวห์ และวางผมลงกลางหุบเขา[c] แห่งนั้น ที่มีกระดูกคนเต็มไปหมด 2 พระองค์พาผมเดินไปรอบๆกองกระดูกเหล่านั้น ผมได้เห็นกระดูกมากมายมหาศาลในหุบเขานั้น ล้วนแต่เป็นกระดูกที่แห้งกรัง
3 พระองค์ถามผมว่า “เจ้าลูกมนุษย์ กระดูกเหล่านี้จะมีชีวิตขึ้นมาอีกได้ไหม”
ผมตอบว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต มีแต่พระองค์เท่านั้นที่รู้คำตอบ”
4 แล้วพระองค์พูดกับผมว่า “ให้พูดแทนเรากับกระดูกเหล่านั้น ให้พูดกับพวกมันว่า ‘กระดูกแห้งเอ๋ย ฟังคำพูดของพระยาห์เวห์ให้ดี’ 5 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดกับกระดูกเหล่านี้ ‘เราจะระบายลมหายใจ[d] เข้าไปในตัวเจ้า และเจ้าจะมีชีวิตขึ้น 6 เราจะติดเส้นเอ็นเข้ากับเจ้า และเอากล้ามเนื้อมาใส่ให้กับเจ้า และเอาผิวหนังมาห่อหุ้มเจ้าไว้ เราจะใส่ลมหายใจไว้ในตัวเจ้า และเจ้าจะกลับมีชีวิตขึ้นมา แล้วเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์’”
7 ผมจึงทำตามคำสั่งที่ผมได้รับมา ในขณะที่ผมกำลังพูดแทนพระเจ้าอยู่นั้น ก็มีเสียงดัง “กรอกแกรกกรอกแกรก” ขึ้น และกระดูกทั้งหลายก็ต่อเข้าด้วยกันทีละชิ้นๆ 8 ผมมองดู และเห็นเส้นเอ็นกับกล้ามเนื้อเริ่มปรากฏขึ้นบนกระดูกเหล่านั้น แล้วมีผิวหนังมาห่อหุ้มพวกมัน แต่พวกมันยังไม่มีลมหายใจ 9 แล้วพระองค์พูดกับผมว่า “เจ้าลูกมนุษย์ ให้พูดแทนเราให้กับลมว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “ลมเอ๋ย[e] พัดมาจากทั้งสี่ทิศเถิด ลมเอ๋ย ให้ลมหายใจกับผู้ที่ถูกฆ่าตายเหล่านี้เถิด เพื่อพวกเขาจะได้มีชีวิต”’”
10 ผมจึงพูดตามที่พระองค์สั่งผม และลมหายใจก็เข้าสู่ร่างของคนเหล่านั้น พวกเขามีชีวิตและยืนขึ้นมาเป็นกองทัพขนาดใหญ่มหึมา
11 พระองค์พูดกับผมว่า “เจ้าลูกมนุษย์ กระดูกเหล่านี้คือครอบครัวของชาวอิสราเอลทั้งหมด ชาวอิสราเอลชอบพูดว่า ‘กระดูกของพวกเราแห้งกรังไปแล้ว พวกเราสิ้นหวัง พวกเราโดนตัดขาดแล้ว’ 12 ดังนั้น ให้พูดแทนเรากับพวกเขาว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “ประชาชนของเราเอ๋ย เรากำลังจะเปิดหลุมฝังศพของพวกเจ้าและนำพวกเจ้าออกมา เราจะนำพวกเจ้ากลับคืนสู่แผ่นดินอิสราเอล 13 ประชาชนของเราเอ๋ย เมื่อเราเปิดหลุมฝังศพของพวกเจ้าและนำพวกเจ้าออกมาจากหลุมเหล่านั้น เจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์ 14 เราจะใส่พระวิญญาณของเราไว้ในพวกเจ้าและพวกเจ้าจะมีชีวิต เราจะวางพวกเจ้าไว้ในแผ่นดินของพวกเจ้าเอง แล้วพวกเจ้าจะได้รู้ว่า เรา คือ ยาห์เวห์ เราได้ลั่นคำพูดไปแล้ว และเราก็จะทำตามนั้น”’” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
ยูดาห์กับอิสราเอลจะรวมกันเป็นหนึ่งอีกครั้ง
15 คำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า 16 “เจ้าลูกมนุษย์ ให้หยิบกิ่งไม้มากิ่งหนึ่งและเขียนลงบนมันว่า ‘ยูดาห์และชาวอิสราเอลที่อยู่ร่วมกับเขา’ แล้วหยิบกิ่งไม้มาอีกกิ่งหนึ่ง และเขียนลงบนมันว่า ‘โยเซฟ (เอฟราอิม) และครอบครัวของชาวอิสราเอลทั้งหมดที่อยู่ร่วมกับเขา’ 17 ให้เอาสองกิ่งนี้มาติดเป็นท่อนเดียวกันในมือเจ้า
18 เมื่อคนของเจ้าถามว่า ‘ท่านจะไม่บอกพวกเราหรือว่า ที่ท่านทำนี้หมายถึงอะไร’ 19 ให้บอกกับพวกเขาว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “เราจะเอากิ่งไม้ที่เป็นตัวแทนของโยเซฟ ที่เป็นของเอฟราอิมและเผ่าทั้งหลายของอิสราเอลที่อยู่ร่วมกับเขานั้น มาติดไว้กับกิ่งไม้ที่เป็นตัวแทนของยูดาห์ และทำให้มันเป็นท่อนเดียวกัน แล้วพวกเขาจะได้กลายเป็นไม้ท่อนเดียวกันในมือของเรา”’
20 ให้ยกกิ่งไม้ที่เจ้าเขียนลงนั้น ไว้ต่อหน้าต่อตาพวกเขา 21 และเราจะพูดกับพวกเขาว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “เราจะเอาชาวอิสราเอลออกจากชนชาติต่างๆที่พวกเขาไปอยู่นั้น เราจะรวบรวมพวกเขามาจากทั่วทุกหนแห่ง และนำพวกเขากลับมายังแผ่นดินของพวกเขาเอง 22 เราจะทำให้พวกเขากลายเป็นชนชาติเดียวในแผ่นดินที่อยู่ท่ามกลางเนินเขาทั้งหลายของอิสราเอล และพวกเขาจะได้มีกษัตริย์องค์เดียวปกครองอยู่เหนือพวกเขาทั้งหมด พวกเขาจะไม่มีวันแตกแยกออกเป็นสองชาติหรือเป็นสองอาณาจักรได้อีก 23 พวกเขาจะไม่ทำตัวเองให้แปดเปื้อนด้วยพวกรูปเคารพขี้ๆและสิ่งอันน่าสะอิดสะเอียนของพวกเขา หรือการละเมิดอื่นๆทั้งหมดของพวกเขา เพราะเราจะช่วยให้พวกเขารอดพ้นจากการหันเหไปจากเราซึ่งเป็นความบาป เราจะชำระพวกเขา พวกเขาจะเป็นคนของเราและเราจะเป็นพระเจ้าของพวกเขา
24 ดาวิดผู้รับใช้ของเราจะเป็นกษัตริย์เหนือพวกเขา พวกเขาทุกคนจะมีผู้เลี้ยงแค่คนเดียว พวกเขาจะทำตามกฎต่างๆของเรา และรักษาข้อบังคับทั้งหลายของเราอย่างเคร่งครัด 25 พวกเขาจะอาศัยอยู่ในแผ่นดินที่เราได้ให้ไว้กับยาโคบผู้รับใช้ของเรา เป็นแผ่นดินที่บรรพบุรุษของพวกเจ้าเคยอาศัยอยู่ พวกเขากับลูกๆรวมทั้งลูกหลานของพวกเขาจะอาศัยอยู่ที่นั่นตลอดไป และดาวิดผู้รับใช้ของเราจะเป็นผู้นำของพวกเขาตลอดไป 26 เราจะทำข้อตกลงให้พวกเขาอยู่เย็นเป็นสุข เป็นข้อตกลงชั่วนิรันดร์ เราจะทำให้พวกเขามั่นคงและจะเพิ่มจำนวนพวกเขา เราจะวางสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเราไว้ในหมู่พวกเขาตลอดไป 27 ที่อยู่อาศัยของเราจะอยู่เหนือพวกเขา เราจะเป็นพระเจ้าของพวกเขา และพวกเขาจะเป็นคนของเรา 28 แล้วชนชาติต่างๆจะได้รู้ว่าเรายาห์เวห์ได้ทำให้อิสราเอลเป็นของเราโดยเฉพาะ ด้วยการตั้งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเราอยู่ท่ามกลางพวกเขาตลอดไป”’”
พระยาห์เวห์ต่อต้านโกก
38 คำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า 2 “เจ้าลูกมนุษย์ ให้หันหน้าไปทางโกก ซึ่งเป็นดินแดนของมาโกก ผู้นำที่สำคัญที่สุด[f] ของเมเชคกับทูบัล ให้พูดแทนเราต่อต้านเขา 3 ให้บอกเขาว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “ไอ้โกก ผู้นำคนสำคัญที่สุดของเมเชคและทูบัล เราต่อต้านเจ้า 4 เราจะให้เจ้าหันกลับ เราจะเอาตะขอเกี่ยวไว้ที่กรามของเจ้า และนำเจ้าออกไปพร้อมกับกองทัพทั้งหมดของเจ้า ที่มีม้า มีทหารม้าที่ติดอาวุธเต็มอัตราศึก มีกองทัพใหญ่ที่ถือโล่ขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ทหารแต่ละคนถือดาบอยู่ 5 มีชาวเปอร์เซีย ชาวเอธิโอเปีย[g] และชาวพูตอยู่กับพวกเขาด้วย ทุกคนถือโล่และสวมหมวกเหล็ก 6 ยังมีชนชาติโกเมอร์กับกองทัพทั้งหมดของเขา มีชนชาติเบธโทการมาห์[h] ที่มาจากทางเหนือที่ไกลโพ้นพร้อมกับกองทัพทั้งหมดของเขา ซึ่งคนเหล่านี้ได้อยู่ในกองทัพกับเจ้า
7 ให้เตรียมตัว และพร้อมอยู่เสมอ ทั้งเจ้ากับกองทัพทั้งหมดที่มาอยู่ร่วมกับเจ้า ให้ทุกคนพร้อมที่จะรับคำสั่งของเจ้า 8 หลังจากผ่านพ้นไปนาน เจ้าจะถูกเรียกให้ออกรบ ในอนาคตอันไกลโพ้น เจ้าจะบุกรุกเข้าไปในแผ่นดินที่ได้ฟื้นตัวขึ้นจากสงคราม ประชาชนในดินแดนแห่งนั้นถูกรวบรวมมาจากหลายชนชาติ เพื่อจะไปที่เทือกเขาแห่งอิสราเอล ซึ่งเคยถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานาน พวกเขาถูกพาออกมาจากชนชาติต่างๆ ในเวลานั้นพวกเขาทั้งหมดก็ได้อยู่กันอย่างปลอดภัย 9 เจ้ากับกองทัพทั้งหมดของเจ้าและชาติอื่นๆที่อยู่กับเจ้า จะขึ้นไปโจมตีพวกเขา พวกเจ้าจะบุกขึ้นไปเหมือนกับพายุลูกหนึ่ง เจ้าจะเป็นเหมือนกับเมฆที่ปกคลุมแผ่นดินแห่งนั้น”’”
10 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “ในวันนั้น ความคิดมากมายจะแล่นเข้ามาในหัวของเจ้า และเจ้าจะคิดแผนการชั่วร้ายขึ้น 11 เจ้าจะพูดว่า ‘เราจะบุกดินแดนแห่งหนึ่งซึ่งมีหมู่บ้านต่างๆที่ไม่มีกำแพงล้อมรอบ ไม่มีประตูเมือง หรือสลักประตูเลย 12 เราจะปล้นและขนเอาทรัพย์สินของพวกเขาไป เราจะสู้รบต่อสถานที่ต่างๆซึ่งเคยเป็นซากปรักหักพังแต่ตอนนี้กลับมีผู้คนอาศัยอยู่ เราจะสู้รบกับชนชาติที่ถูกรวบรวมมาจากหลายชนชาติ เป็นชนชาติที่ได้ฝูงสัตว์เลี้ยงและข้าวของ และอาศัยอยู่ในใจกลางแผ่นดินโลก’
13 เชบาและเดดานกับบรรดาพ่อค้าแห่ง ทารชิช รวมทั้งนักธุรกิจที่ร่ำรวยทั้งหลายของมัน จะพูดกับเจ้าว่า ‘ที่ท่านมานี่ เพื่อมาปล้นพวกเขาหรือ ที่ท่านรวบรวมคนของท่านมาเพื่อมาขนข้าวของและขนเอาเงินทองของพวกเขาอย่างนั้นหรือ เพื่อมาเอาฝูงสัตว์เลี้ยงและบรรดาสินค้าของพวกเขาหรือ เพื่อจะยึดของๆพวกเขาหรือ’
14 ดังนั้น เจ้าลูกมนุษย์ ให้พูดกับโกกแทนเราว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด ในเวลานั้นพวกเจ้าจะสังเกตเห็นว่าประชาชนชาวอิสราเอลของเราอยู่กันอย่างปลอดภัย 15 แล้วพวกเจ้าจะลงมาจากบ้านเมืองของเจ้าที่อยู่ทางเหนืออันไกลโพ้นนั้น ทั้งเจ้าและชนชาติมากมายที่อยู่กับเจ้า ทุกคนล้วนขี่ม้า เป็นฝูงชนมหึมา เป็นกองทัพที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกร 16 เจ้าจะลุยไปข้างหน้าเพื่อสู้รบกับประชาชนชาวอิสราเอลของเรา เหมือนกับเมฆที่เข้าปกคลุมแผ่นดินนี้ ไอ้โกก ในอนาคตอันไกลโพ้นนั้น เราจะนำเจ้ามาสู้รบกับแผ่นดินของเรา แล้วเราจะได้แสดงความศักดิ์สิทธิ์ของเรา ด้วยการเอาชนะเจ้าต่อหน้าต่อตาชนชาติทั้งหลาย เพื่อพวกเขาจะได้รู้จักเรา’”
17 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “ไอ้โกก เจ้าก็เป็นคนนั้นแหละ ที่เราเคยพูดถึงก่อนหน้านี้ ผ่านทางพวกผู้พูดแทนพระเจ้าชาวอิสราเอลคนรับใช้ของเรา ในตอนนั้น พวกเขาได้ทำนายเป็นเวลาหลายปีว่า เราจะนำเจ้ามาต่อสู้กับพวกเขา”
18 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันนั้น เมื่อโกกเข้าโจมตีแผ่นดินอิสราเอล ความโกรธของเราจะพลุ่งพล่านขึ้น
19 เราขอประกาศด้วยความรู้สึกอันแรงกล้าและด้วยความโกรธที่พลุ่งขึ้น ว่าในวันนั้นจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงขึ้นในแผ่นดินอิสราเอล 20 ปลาในทะเล นกบนท้องฟ้า สัตว์ป่าในท้องทุ่ง รวมทั้งสัตว์เล็กๆทั้งหมดที่เลื้อยคลานอยู่บนพื้นดิน และผู้คนทั้งหมดบนผืนแผ่นดินนี้ จะสั่นเทิ้มอยู่ต่อหน้าเรา ภูเขาจะถูกคว่ำลง หน้าผาจะแตกกระจายและกำแพงทั้งหมดจะล้มลงมาบนดิน”
21 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศว่า “เราจะเรียกดาบ[i] มาต่อสู้กับโกกบนเทือกเขาทุกลูกของเรา แล้วพวกโกกก็จะต่อสู้กันเองด้วยดาบ 22 เราจะตัดสินลงโทษโกกด้วยโรคระบาดและการฆ่าฟัน เราจะเทฝนลงมาอย่างบ้าคลั่ง จะมีลูกเห็บและไฟกำมะถัน ตกลงมาบนเขาและกองทัพของเขา รวมทั้งชนชาติมากมายที่มากับเขาด้วย 23 เราจะได้แสดงความยิ่งใหญ่และความศักดิ์สิทธิ์ของเราผ่านทางเหตุการณ์เหล่านี้ เราจะทำให้ตัวเราเป็นที่รู้จักในสายตาของชนชาติทั้งหลาย แล้วพวกเขาจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์”
ความตายของโกกกับกองทัพของเขา
39 เจ้าลูกมนุษย์ ให้พูดต่อต้านโกกแทนเราว่า “นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด ‘เราต่อต้านเจ้า ไอ้โกก ผู้นำที่สำคัญที่สุด[j] แห่งเมเชคและทูบัล 2 เราจะทำให้เจ้าหันกลับและจะผลักเจ้าไป เราจะนำเจ้ามาจากทางเหนืออันไกลโพ้น และส่งเจ้าไปยังเทือกเขาของอิสราเอล 3 แล้วเราจะตีให้คันธนูหลุดจากมือซ้ายของเจ้า และทำให้ลูกธนูตกลงจากมือขวาของเจ้า 4 ทั้งเจ้าและกองทัพทั้งหมดของเจ้า รวมทั้งชนชาติทั้งหลายที่มากับเจ้า จะล้มลงบนเทือกเขาแห่งอิสราเอล เราจะให้เจ้าเป็นอาหารของนกที่กินซากและพวกสัตว์ป่า 5 เจ้าจะล้มตายกลางทุ่ง เพราะเราได้ลั่นคำพูดไว้แล้ว’” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น
6 “เราจะส่งไฟลงมาบนมาโกก และบนพวกที่อาศัยอยู่อย่างปลอดภัยตามเมืองชายฝั่งทะเล และพวกเขาจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์ 7 เราจะทำให้ชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของเราเป็นที่รู้จักในหมู่ประชาชนชาวอิสราเอลของเรา เราจะไม่ปล่อยให้ชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของเราถูกลบหลู่อีก และชนชาติต่างๆจะได้รู้ว่า เรา ยาห์เวห์คือผู้ศักดิ์สิทธิ์ในอิสราเอล” 8 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศว่า “มันกำลังจะมาถึงแล้ว มันจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน วันนี้ก็เป็นวันที่เราได้พูดถึงแล้ว”
9 “แล้วคนเหล่านั้นที่อาศัยอยู่ตามหัวเมืองต่างๆของอิสราเอลจะออกไปเก็บอาวุธทั้งหลายมาเป็นเชื้อเพลิง และเผาพวกมัน มีทั้งโล่เล็ก โล่ใหญ่ คันธนู ลูกธนู กระบอง หรือหอก พวกเขาจะใช้ของพวกนี้เป็นเชื้อเพลิงได้ถึงเจ็ดปี 10 โดยไม่จำเป็นต้องไปหาฟืนตามทุ่ง หรือไปตัดไม้ในป่าเลย เพราะพวกเขาจะใช้อาวุธพวกนี้เป็นเชื้อเพลิง พวกเขาจะหยิบของจากซากศพของคนที่เคยปล้นพวกเขามา และขนเอาสิ่งของจากพวกที่เคยมาขนของจากพวกเขา” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น
11 “ในวันนั้นเราจะจัดหลุมฝังศพให้กับโกกในอิสราเอล ในแถวหุบเขาของคนเหล่านั้นที่เดินผ่านไปมา ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของทะเลตาย หลุมฝังศพนั้นจะไปขวางกั้นทางของพวกที่เดินทางผ่านไปมา เพราะโกกและฝูงชนมหึมาทั้งหมดของเขาจะถูกฝังอยู่ที่นั่น ดังนั้นมันจะมีชื่อว่าหุบเขาฝูงชนของโกก[k] 12 ครอบครัวชาวอิสราเอลจะใช้เวลาฝังศพพวกเขาถึงเจ็ดเดือน เพื่อที่จะชำระล้างแผ่นดินนั้น 13 ชาวบ้านทุกคนในแผ่นดินจะต้องช่วยกันฝังศพของพวกเขา และมันจะนำเกียรติมาให้กับคนอิสราเอล ในวันที่เราได้แสดงความยิ่งใหญ่ของเรา” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น
14 “พวกผู้ชายจะถูกจ้างเต็มเวลาให้ออกไปเก็บศพทั่วแผ่นดินและฝังมัน เพื่อชำระล้างแผ่นดิน มันจะใช้เวลาตั้งเจ็ดเดือน ที่จะค้นหาและฝังกระดูกเหล่านั้น 15 ในขณะที่พวกเขาค้นหาไปทั่วแผ่นดินนั้น เมื่อพบโครงกระดูกมนุษย์ ก็จะทำเครื่องหมายไว้ข้างๆและเครื่องหมายนั้นจะอยู่จนกว่าโครงกระดูกเหล่านั้นจะถูกฝังในหุบเขาฮาโมนโกก 16 (จะมีเมืองหนึ่งที่ชื่อฮาโมนาห์[l] อยู่ที่นั่นด้วย) นี่แหละเป็นวิธีที่พวกเขาจะชำระล้างแผ่นดิน”
17 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “เจ้าลูกมนุษย์ เรียกนกทุกชนิดและสัตว์ป่าทั้งหมดออกมา ให้บอกพวกมันว่า ‘มาชุมนุมกันเถอะ มารวมกันจากทั่วสารทิศ เพื่อมาร่วมกินกันในงานเซ่นไหว้ที่เราได้เตรียมไว้ให้กับเจ้านี้ เป็นการเซ่นไหว้เฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่บนเทือกเขาของอิสราเอล ที่นั่นเจ้าจะได้กินเนื้อและดื่มเลือด 18 เจ้าจะได้กินเนื้อของคนที่เก่งกล้า และดื่มเลือดของบรรดาเจ้าชายแห่งโลก ราวกับว่าพวกเขาเป็นแกะผู้และลูกแกะ เป็นแพะและวัวตัวผู้ พวกเขาทั้งหมดเป็นสัตว์ที่ได้รับการขุนจนอ้วนพีมาจากบาชาน 19 ในงานเซ่นไหว้ที่เราได้จัดเตรียมให้กับเจ้านี้ เจ้าจะได้กินไขมันจนอิ่มหนำและดื่มเลือดจนเมามาย 20 จากโต๊ะของเรา เจ้าจะได้กินทั้งม้าและคนขับรถม้า คนที่เก่งกล้าและทหารทุกประเภท จนกว่าเจ้าจะอิ่มหนำสำราญ’” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น
21 “เราจะแสดงความยิ่งใหญ่ของเราท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย และทุกชนชาติจะได้เห็นการลงโทษที่เรานำมาและเห็นมือที่เราวางลงบนพวกเขา 22 จากวันนั้นเป็นต้นไป ครอบครัวชาวอิสราเอลจะได้รู้ว่า เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา 23 และชนชาติทั้งหลายจะรู้ว่า ที่ประชาชนชาวอิสราเอลต้องถูกเนรเทศนั้น เป็นเพราะบาปของพวกเขาเอง เราจึงได้หลบหน้าของเราจากพวกเขา และได้มอบพวกเขาไว้กับศัตรูทั้งหลายของพวกเขา และพวกเขาทั้งหมดต้องล้มตายด้วยดาบ เพราะพวกเขาไม่ซื่อสัตย์ต่อเรา 24 เราได้ลงโทษพวกเขาอย่างสาสมกับความไม่บริสุทธิ์และการกบฏทั้งหลายของพวกเขา และเราได้หลบหน้าไปจากพวกเขา”
25 ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “ตอนนี้เราจะทำให้ยาโคบกลับมาเจริญรุ่งเรืองเหมือนเดิม[m] เราจะเมตตาประชาชนชาวอิสราเอลทั้งหมด และเราจะมีใจร้อนรนที่จะกู้ชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของเรากลับมา 26 เมื่อพวกเขาได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยในแผ่นดินของพวกเขา และไม่ต้องกลัวใครอีก พวกเขาจะได้ลืมความอับอายและความไม่ซื่อสัตย์ที่พวกเขาได้ทำกับเรา 27 เมื่อเราได้นำพวกเขาออกมาจากชนชาติทั้งหลาย และได้รวบรวมพวกเขามาจากประเทศของศัตรูพวกเขา นี่เป็นการแสดงความศักดิ์สิทธิ์ของเราผ่านทางพวกเขา ต่อหน้าต่อตาของประชาชนมากมาย 28 แล้วพวกเขาจะได้รู้ว่า เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา เพราะถึงแม้ว่าเราได้เนรเทศพวกเขาไปอยู่ท่ามกลางชาติต่างๆเราก็จะรวบรวมพวกเขากลับมาสู่แผ่นดินของพวกเขา เราจะไม่ทอดทิ้งพวกเขาสักคนเดียวไว้ที่นั่น 29 เราจะไม่หลบหน้าของเราไปจากพวกเขาอีก เพราะเราจะเทพระวิญญาณของเราลงบนครอบครัวชาวอิสราเอล”
พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น
ผู้สอนเท็จ
2 แต่ก็มีผู้พูดแทนพระเจ้าจอมปลอมเกิดขึ้นในกลุ่มคนของพระเจ้า ซึ่งก็เหมือนกับที่จะมีครูจอมปลอมเกิดขึ้นในกลุ่มพวกคุณนั่นแหละ พวกนี้จะเอาความคิดนอกลู่นอกทางมาสอนกัน คำสอนพวกนี้ทำให้คนถูกทำลายได้ ถึงแม้องค์เจ้าชีวิตได้ซื้อเขาไว้แล้ว เขาก็ยังปฏิเสธองค์เจ้าชีวิตอยู่ดี ซึ่งจะทำให้เขาถูกทำลายโดยเร็ว 2 จะมีหลายคนหันไปทำชั่วตามคนพวกนี้ คนพวกนี้แหละที่ทำให้คนดูหมิ่นทางแห่งความจริง 3 ด้วยความโลภ พวกนี้จะกุเรื่องขึ้นมาสอน หวังจะหลอกเอาเงินของคุณ คำตัดสินโทษต่อคนพวกนี้ที่ได้ประกาศไว้ตั้งนานแล้วนั้น ไม่ได้เอาไว้ขู่เล่นๆ แต่ความพินาศนั้นพร้อมแล้วและกำลังจะมาในเร็วๆนี้
4 พระเจ้าไม่ได้ละเว้นโทษแก่ทูตสวรรค์เมื่อพวกเขาทำบาป แต่ส่งไปขังไว้ในหลุมที่ลึกมาก ล่ามโซ่ไว้ในความมืดเพื่อรอวันพิพากษา 5 ในสมัยโบราณ พระเจ้าก็ไม่ได้ละเว้นโทษให้กับโลกนี้ที่เต็มไปด้วยคนที่ต่อต้านพระองค์ แต่ส่งน้ำมาท่วมโลก อย่างไรก็ตามพระองค์ได้คุ้มครองโนอาห์ซึ่งเป็นคนที่ไปประกาศให้คนใช้ชีวิตอย่างถูกต้องกับพระองค์ และพระเจ้าก็ได้คุ้มครองอีกเจ็ดคนด้วย 6 พระเจ้าได้ตัดสินลงโทษเผาเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ไปทั้งเมือง เพื่อให้คนที่ต่อต้านพระเจ้าเห็นเป็นตัวอย่างว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา 7 แต่พระองค์ได้ช่วยกู้โลทคนที่ทำตามใจพระองค์ ความลามกของคนชั่วช้านั้นทำให้โลทเจ็บปวดรวดร้าวใจ 8 (โลทเป็นคนดี แต่เพราะอยู่กับคนชั่ว ได้เห็นการกระทำชั่วๆและได้ยินคำพูดเลวๆของพวกเขาทุกๆวัน ทำให้จิตใจที่ดีของเขาเจ็บปวดรวดร้าว) 9 ถ้าเป็นอย่างนี้ องค์เจ้าชีวิตย่อมรู้ว่าจะช่วยกู้คนที่อุทิศตัวให้กับพระองค์ได้อย่างไรเมื่อเขาตกทุกข์ได้ยาก แล้วจะเก็บคนชั่วไว้ลงโทษในวันพิพากษา 10 โดยเฉพาะคนพวกนั้นที่หลงระเริงไปกับความสกปรกโสมมของสันดาน และดูถูกสิทธิอำนาจขององค์เจ้าชีวิต คนพวกนี้ยโสโอหังและหัวรั้น กล้าดูหมิ่นแม้แต่ทูตสวรรค์ที่เต็มไปด้วยสง่าราศี 11 ขนาดทูตสวรรค์ที่มีฤทธิ์และอำนาจมากกว่า ยังไม่ฟ้องดูหมิ่นพวกนี้ต่อหน้าองค์เจ้าชีวิต 12 พวกครูจอมปลอมนี้ พูดใส่ร้ายในสิ่งที่ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจ พวกนี้เป็นเหมือนกับสัตว์ที่ทำทุกอย่างตามสัญชาตญาณ เพราะคิดไม่เป็น เกิดมาเพื่อถูกจับและถูกฆ่าเท่านั้น แล้วครูพวกนี้ก็จะถูกทำลายไปเหมือนกับสัตว์ด้วย 13 เขาจะได้รับความทุกข์เป็นการตอบแทนให้สมกับความทุกข์และความผิดที่เขาทำไว้กับคนอื่น ความสนุกสนานของเขาคือการจัดงานมั่วสุมเมากันกลางวันแสกๆ เขาเป็นจุดสกปรกและมีตำหนิท่ามกลางพวกคุณ และชอบสำมะเลเทเมากันเมื่อกินเลี้ยงกับพวกคุณ 14 พวกนี้สอดส่ายสายตา หาแต่ผู้หญิงมาหลับนอนด้วยตลอดเวลา ไม่เคยรู้จักพอ เขาล่อลวงพวกที่มีใจโลเลให้ทำบาป ใจพวกนี้ช่ำชองในความโลภ และอยู่ภายใต้คำสาปแช่ง 15 พวกนี้ได้ทิ้งทางที่ถูกต้องและหลงไปติดตามทางของบาลาอัม ลูกของเบโอร์คนที่รักเงินค่าจ้างที่ได้มาจากการทำผิด 16 แต่ลาที่ปกติแล้วพูดไม่ได้ กลับพูดเป็นเสียงคน ต่อว่าเขาในความผิดที่เขาทำและได้หยุดการกระทำโง่ๆของผู้พูดแทนพระเจ้าคนนี้
17 พวกครูสอนผิดนี้ เป็นตาน้ำที่แห้งขอด และเป็นเมฆที่ถูกพายุพัดพาไป ขุมนรกมืดถูกเตรียมไว้แล้วสำหรับคนพวกนี้ 18 พวกนี้ดีแต่โม้เรื่องไร้สาระของตน และใช้ราคะตัณหาของร่างกายมายั่วคนที่เพิ่งจะหลุดพ้นมาจากการใช้ชีวิตผิดๆ 19 ครูพวกนี้ได้สัญญาว่าจะให้เสรีภาพกับคนพวกนั้น ทั้งๆที่ตัวเองยังตกเป็นทาสของนิสัยชั่วๆอยู่เลย คนที่พ่ายแพ้กับอะไร เขาก็เป็นทาสของสิ่งนั้น 20 ดังนั้นคนไหนที่หลุดพ้นออกมาจากความสกปรกโสมมของโลกนี้ได้แล้ว เพราะได้รู้จักพระเยซูคริสต์องค์เจ้าชีวิตและพระผู้ช่วยให้รอดของเรา แต่กลับพ่ายแพ้ และกลับไปพัวพันกับสิ่งเหล่านั้นอีก สภาพของเขาตอนหลังนี้จะเลวร้ายยิ่งกว่าตอนแรกเสียอีก 21 เพราะถ้าคนนี้ไม่ได้รู้จักทางที่ถูกต้องนี้ตั้งแต่แรก ก็ยังดีกว่าได้รู้จัก แล้วหันหน้าหนีไปจากคำสั่งสอนอันศักดิ์สิทธิ์ที่ให้เขาไว้ 22 สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนพวกนี้ก็เป็นไปตามคำสุภาษิตที่ว่า “หมาก็หันกลับไปกินอ้วกของมัน”[a] หรือที่ว่า “หมูที่ล้างสะอาดแล้ว ก็กลับไปเกลือกกลิ้งอยู่ในโคลนตมอีก”
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International