Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Old/New Testament

Each day includes a passage from both the Old Testament and New Testament.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
เอเสเคียล 5-7

ฉากละครตอนจุดจบของชาวเยรูซาเล็ม

ตอนนี้ เจ้าลูกมนุษย์ ให้เจ้าเอาดาบคมๆมาด้ามหนึ่ง ให้ใช้มันเหมือนมีดโกนของช่างตัดผม โกนผมบนหัวของเจ้าและโกนหนวดของเจ้า แล้วเอาผมของเจ้าไปชั่งบนตราชั่ง แบ่งผมออกเป็นสามส่วนเท่าๆกัน เมื่อจำนวนวันที่เจ้าปิดล้อมเมืองนั้นครบถ้วนแล้ว[a] ให้เอาผมส่วนแรกมาเผาในเมือง จากนั้นให้เอาดาบมาหั่นผมส่วนที่สองเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย โปรยไปรอบๆเมือง และให้เอาผมส่วนที่สามโยนขึ้นไปในอากาศให้ลอยไปตามลม นี่หมายความว่าเราจะชักดาบออกมาไล่พวกมันไปอยู่แดนไกล แต่ให้เจ้าหยิบผมมาไม่กี่เส้น แล้วเอามาผูกไว้ที่ขอบชายเสื้อคลุมของเจ้า และให้หยิบผมมาอีกนิดหนึ่ง เอามาขว้างเข้าไปเผาในกองไฟ นี่หมายถึงไฟจะเริ่มจากที่นั่น และลามไปถึงครอบครัวทั้งหมดของชาวอิสราเอล”[b]

พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดอย่างนี้ว่า “นี่คือเมืองเยรูซาเล็ม เราได้ตั้งเธอไว้ตรงกลางของชนชาติต่างๆมีประเทศต่างๆล้อมรอบเธออยู่ เยรูซาเล็มกบฏต่อกฎและข้อบังคับต่างๆของเรา และกลายเป็นชั่วร้ายมากยิ่งกว่าชนชาติต่างๆที่อยู่ล้อมรอบเธอ เธอทิ้งกฎต่างๆของเรา และยังไม่ทำตามข้อบังคับทั้งหลายของเรา”

ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “เจ้าก่อปัญหายิ่งกว่าชนชาติต่างๆที่อยู่รอบๆเจ้า เจ้าไม่ยอมทำตามข้อบังคับหรือรักษากฎทั้งหลายของเรา แม้แต่สิ่งที่ชนชาติต่างๆที่อยู่รอบๆเจ้าบอกว่าผิด เจ้ายังทำเลย” ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “เราเองนี่แหละจะต่อต้านเจ้า และเราจะลงโทษเจ้าต่อหน้าต่อตาชนชาติเหล่านั้น เป็นเพราะพวกรูปเคารพที่น่ารังเกียจเหล่านั้นของเจ้า เราจึงจะทำกับเจ้าอย่างที่เราไม่เคยทำมาก่อน และเราก็จะไม่มีวันทำอย่างนี้อีก 10 ดังนั้น คนในเยรูซาเล็มจะอดอยากมาก จนถึงขั้นพ่อแม่จะกินลูกๆของตัวเอง และลูกๆจะกินพ่อแม่ของพวกเขาด้วย เราจะลงโทษเจ้าในหลายๆแบบ และจะทำให้ผู้รอดชีวิตกระจัดกระจายไปทุกทิศทาง”

11 พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “เรามีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่าเราจะลงโทษเจ้า เพราะเจ้าได้ทำให้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเราแปดเปื้อน เพราะพวกรูปเคารพที่น่ารังเกียจของเจ้า และพวกการกระทำที่น่าขยะแขยงของเจ้า เราจะไม่มีความเมตตากรุณากับเจ้า เราจะไม่สงสารเจ้า และเราจะตัดเจ้าเหมือนตัดหญ้า 12 คนของเจ้า หนึ่งในสามจะตายในตัวเมืองด้วยโรคระบาดหรืออดอยากตาย อีกหนึ่งในสามจะล้มลงด้วยคมดาบที่นอกกำแพงเมืองของเจ้า และอีกหนึ่งในสาม เราจะทำให้กระจัดกระจายไปตามลม และเราจะชักดาบของเราออกมาไล่ล่าพวกเขา 13 ถึงตอนนั้น ความโกรธแค้นของเราก็จะระบายออกมา เราจะระบายความเกรี้ยวกราดของเราใส่พวกเขาจนหมดสิ้น เมื่อเราได้แสดงความเดือดดาลของเรากับพวกเขาแล้ว พวกเขาจะรู้ว่า เรา ยาห์เวห์ได้พูดไปด้วยความรู้สึกอย่างแรงกล้า”[c]

14 “เยรูซาเล็ม เราจะทำให้เจ้ากลายเป็นกองซากปรักหักพัง ชนชาติต่างๆที่อยู่ล้อมรอบเจ้าและคนที่เดินผ่านเจ้าไป จะหัวเราะเยาะเจ้า 15 เมื่อเราลงโทษเจ้าด้วยความโกรธและความเดือดดาล และด้วยการต่อว่าอย่างเจ็บแสบ พวกเขาก็จะหัวเราะเยาะเจ้าและสบประมาทเจ้า และพวกเจ้าก็จะเป็นบทเรียนให้กับพวกเขา และเป็นสิ่งที่น่าสยดสยองในสายตาของชนชาติอื่นๆรอบตัวเจ้า เรา ยาห์เวห์ได้ลั่นคำพูดไปแล้ว 16 เมื่อเรายิงลูกธนูแห่งความอดอยากที่ถึงตายและการทำลายล้าง เราจะยิงไปเพื่อทำลายเจ้า เราจะนำความอดอยากอย่างหนักมาสู่เจ้า และจะตัดทางจัดส่งเสบียงอาหารของเจ้า 17 เราจะส่งความอดอยากและพวกสัตว์ป่าที่ดุร้ายมาให้เจ้า และพวกมันจะเอาลูกหลานของเจ้าไป ในเมืองจะมีโรคระบาดและการฆ่าฟันกัน เราจะนำดาบมาต่อสู้เจ้า เรา ยาห์เวห์ได้ลั่นคำพูดไปแล้ว”

แล้วคำพูดของพระยาห์เวห์ มาถึงผมว่า “เจ้าลูกมนุษย์ ให้หันหน้าไปที่เทือกเขาของอิสราเอล ให้พูดแทนเราต่อต้านพวกมันว่า

‘เทือกเขาแห่งอิสราเอล ฟังคำพูดของพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดอย่างนี้กับพวกเทือกเขา พวกเนินเขา ลำธารและหุบเขาต่างๆว่า “เราจะนำดาบมาต่อต้านพวกเจ้า เราจะทำลายพวกศาลเจ้า[d] ทั้งหลายของพวกเจ้า พวกแท่นบูชาของพวกเจ้าจะถูกทำลายเป็นชิ้นๆ แท่นบูชาเครื่องหอมทั้งหลายของพวกเจ้าจะถูกทุบจนละเอียด เราจะฆ่าประชาชนของพวกเจ้าต่อหน้าพวกรูปเคารพขี้ๆของพวกเจ้า เราจะวางซากศพของชาวอิสราเอลไว้ตรงหน้าพวกรูปเคารพขี้ๆของพวกเขา เราจะทำให้กระดูกของพวกเจ้ากระจัดกระจายอยู่รอบๆพวกแท่นบูชาของเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะอาศัยอยู่ที่ไหนก็ตาม เมืองต่างๆของเจ้าจะกลายเป็นซากปรักหักพัง พวกศาลเจ้าจะถูกทำลาย และแท่นบูชาทั้งหลายของเจ้าจะถูกทำลายและกลายเป็นซาก พวกรูปเคารพจะแตกหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แท่นบูชาเครื่องหอมของพวกเจ้าจะถูกทุบจนละเอียด สิ่งที่พวกเจ้าได้สร้างขึ้นมาจะถูกทำลายจนหมดสิ้น ประชาชนของพวกเจ้าจะถูกฆ่าและล้มตายลงท่ามกลางพวกเจ้า แล้วพวกเจ้าจะได้รู้ว่า เราคือยาห์เวห์”’

แต่เราจะปล่อยให้พวกเจ้าบางคนหลบหนีคมดาบไปได้ พวกเจ้าจะต้องไปอยู่ที่ชนชาติอื่นๆ เราจะทำให้พวกเจ้ากระจัดกระจายกันไปอยู่ท่ามกลางประเทศต่างๆ แล้วพวกเขาจะถูกจับตัวไปเป็นเชลย และถูกบังคับให้ไปอยู่ในประเทศอื่น คนที่หลบหนีไปได้นี้จะตระหนักว่า เราชอกช้ำใจแค่ไหนที่ใจชู้ของพวกเขาหันเหไปจากเรา และตาชู้ของพวกเขาที่กระสันหาพวกรูปเคารพขี้ๆของพวกเขา พวกเขาจะเกลียดตัวเอง เพราะความชั่วร้ายที่พวกเขาได้ทำไป และที่พวกเขาทำตัวน่ารังเกียจ 10 แล้วพวกเขาจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์ เราไม่ได้ขู่เล่นๆที่จะทำให้ความหายนะเหล่านี้เกิดขึ้นกับพวกเขา”

11 แล้วพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดกับผมว่า “ให้ตบมือเปรี้ยง และกระทืบเท้าของเจ้า และคร่ำครวญอย่างเศร้าโศก เพราะการกระทำตัวที่ชั่วช้าน่ารังเกียจทั้งหมดของครอบครัวอิสราเอล ให้ทำอย่างนี้ เพราะพวกเขาจะล้มตายด้วย ดาบ ความอดอยากและโรคระบาด 12 คนที่อยู่ห่างไกลออกไปจะตายด้วยโรคระบาด ส่วนคนที่อยู่ใกล้จะล้มตายด้วยดาบ คนที่รอดชีวิตและหลงเหลืออยู่จะตายเพราะความอดอยาก เราจะระบายความเกรี้ยวโกรธทั้งหมดของเราลงบนพวกเขาจนหมดเกลี้ยง 13 เมื่อพวกเขาเห็นซากศพคนของพวกเขา ที่ถูกฆ่าตายอยู่เกลื่อนกลาด ท่ามกลางพวกรูปเคารพและรอบๆแท่นบูชาของพวกเขา ตามศาลเจ้าและบนยอดเขาทั้งหมด ใต้ต้นไม้ที่แผ่กิ่งก้านทุกต้นและใต้ต้นก่อที่มีใบหนาทึบทุกต้น ตามสถานที่ต่างๆที่พวกเขาเคยถวายเครื่องบูชาอันหอมหวนให้กับรูปเคารพทั้งหลายของพวกเขา เมื่อนั้นแหละพวกเขาจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์

14 เราจะยื่นมือของเราออกต่อต้านพวกเขาไม่ว่าพวกเขาจะอาศัยอยู่ที่ไหนก็ตาม และเราจะทำให้แผ่นดินนี้ถูกทำลายและทิ้งร้าง ตั้งแต่ทะเลทรายไปจนถึงดิบลาห์[e] แล้วพวกเขาจะได้รู้ว่า เราคือยาห์เวห์”

จุดจบของเยรูซาเล็ม

แล้วถ้อยคำของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า “เจ้าลูกมนุษย์ นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดกับแผ่นดินอิสราเอล

จบสิ้นแล้ว
    จุดจบได้มาถึง
    ทั้งสี่มุมของแผ่นดินแล้ว
จุดจบมาถึงเจ้าแล้วในตอนนี้
    เราจะปล่อยความโกรธของเราลงบนเจ้า
เราจะตัดสินเจ้าตามการกระทำของเจ้า
    เราจะตอบแทนเจ้าที่เจ้าทำตัวน่ารังเกียจ
เราจะไม่สงสารเจ้าหรือละเว้นโทษเจ้าอีกต่อไปแล้ว
    เราจะตอบแทนเจ้าสำหรับสิ่งชั่วร้ายที่เจ้าทำ
และสำหรับการกระทำที่น่ารังเกียจในหมู่พวกเจ้า
    แล้วเจ้าจะได้รู้ว่า เราคือยาห์เวห์”

นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด
    “ความหายนะจะเกิดแล้วเกิดอีก ดูสิ มันกำลังมา
จุดจบกำลังมา จุดจบกำลังมา
    มันได้ตื่นขึ้นมาต่อสู้เจ้า ดูสิ มันกำลังมา
เจ้าผู้อาศัยอยู่บนแผ่นดินอิสราเอล
    เคราะห์ร้ายได้มาถึงตัวเจ้าแล้ว
เวลานั้นได้มาถึงแล้ว วันนั้นใกล้เข้ามาแล้ว
    มีแต่ความตื่นกลัวบนเทือกเขา ไม่ใช่ความยินดี
เรากำลังจะเทความเดือดดาลของเราลงบนเจ้า
    เราจะใช้ความโกรธของเราต่อต้านเจ้า
เราจะลงโทษเจ้าสำหรับสิ่งที่เจ้าทำ
    และสำหรับการทำตัวที่น่ารังเกียจของเจ้า
เราจะไม่สงสารเจ้าหรือละเว้นโทษเจ้าอีกต่อไปแล้ว
    เราจะลงโทษเจ้าสำหรับสิ่งที่เจ้าทำ
และการทำตัวอันน่ารังเกียจของเจ้าในหมู่พวกเจ้า
    แล้วเจ้าจะได้รู้ว่า เรายาห์เวห์นี่แหละ เป็นผู้โจมตีเจ้า
10 วันนั้นมาแล้ว มันได้มาถึงแล้ว
    เคราะห์ร้ายของเจ้าได้โผล่ออกมาแล้ว
ความอธรรมได้งอกตุ่มออกมาแล้ว
    ความหยิ่งผยองได้เบ่งบานออกมาแล้ว
11 ความรุนแรงได้เติบโตเป็นไม้เรียวแห่งความชั่วร้าย
    ประชาชนจะหมดไป ทรัพย์สมบัติจะหมดเกลี้ยงจะไม่มีคนสำคัญเหลืออยู่อีก
12 เวลานั้นได้มาแล้ว วันนั้นได้มาถึงแล้ว
    ไม่มีทั้งคนซื้อที่รื่นเริงยินดี
และไม่มีทั้งคนขายที่เศร้าเสียใจ
    เพราะความเดือดดาลมาตกอยู่บนฝูงชนทั้งหมด

13 คนขายจะไม่สามารถเอาแผ่นดินที่เขาได้ขายไปแล้วกลับคืนมาได้อีก[f] ตราบเท่าที่ทั้งเขาและคนซื้อยังมีชีวิตอยู่ เพราะว่านิมิตที่เกี่ยวกับฝูงชนทั้งหมดนั้นจะเกิดขึ้นแน่ๆไม่เปลี่ยนแปลง จะไม่มีใครในหมู่พวกเขาที่รักษาชีวิตไว้ได้เพราะพวกเขาได้ทำบาป

14 ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป่าแตรและเตรียมของทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว
    จะไม่มีใครเข้าสู่สนามรบ
    เพราะความเดือดดาลของเราอยู่บนฝูงชนทั้งหมดนั้น
15 ข้างนอกเมืองมีดาบ ข้างในเมืองมีโรคระบาดและความอดอยาก
    พวกที่อยู่ในชนบทจะตายเพราะดาบ
    พวกที่อยู่ในเมืองจะถูกกลืนกินด้วยความอดอยากและโรคระบาด
16 พวกที่รอดชีวิตและหลบหนีไปได้ทั้งหมด
    จะอยู่ในเทือกเขา
พวกเขาจะครวญครางเหมือนกับนกเขาแห่งหุบเขา
    เพราะบาปของพวกเขาแต่ละคน
17 มือทุกมือจะอ่อนแรง
    หัวเขาจะอ่อนปวกเปียกเหมือนน้ำ
18 พวกเขาจะใส่เสื้อกระสอบ
    และถูกปกคลุมด้วยความกลัว
ใบหน้าของพวกเขาจะเต็มไปด้วยความอับอาย
    และพวกเขาจะโกนหัวจนล้าน
19 พวกเขาจะขว้างเงินของพวกเขาลงตามถนน
    และทองของพวกเขาจะเป็นเหมือนผ้าอนามัย

ในวันแห่งความเดือดดาลของพระยาห์เวห์ เงินและทองของพวกเขาไม่สามารถช่วยชีวิตพวกเขาไว้ได้ พวกเขาไม่สามารถกินพวกมัน เพื่อให้หายหิวได้ เงินและทองนั่นแหละ ที่ทำให้พวกเขาสะดุดไปทำบาป

20 พวกเขาภูมิใจในเครื่องเพชรอันสวยงามของพวกเขา และใช้มันสร้างรูปเคารพอันน่ารังเกียจและน่าขยะแขยงของพวกเขา ดังนั้น เราจะทำให้พวกเขารู้สึกว่าพวกเพชรพลอยเหล่านั้นเป็นเหมือนผ้าอนามัย

21 เราจะให้คนต่างชาติมาปล้นเอาทรัพย์สินเหล่านั้นไป
    เราจะให้คนชั่วในโลกนี้ได้ทรัพย์สินนั้นมาเป็นของยึดได้จากสงคราม
    และคนเหล่านั้นจะทำให้ทรัพย์สินนั้นเสื่อมไป
22 เราจะหันหน้าไปทางอื่น
    เพื่อคนต่างชาติพวกนั้นจะได้เข้าไปในวิหารของเรา[g]
และทำให้มันเสื่อมไป
    พวกโจรจะเข้าไปในนั้นและทำให้มันเสื่อมไป
23 ให้เตรียมโซ่ไว้
เพราะแผ่นดินนี้เต็มไปด้วยการตัดสินประหารคนบริสุทธิ์
    และเมืองนี้เต็มไปด้วยความรุนแรง
24 เราจะนำคนชั่วที่สุดของชนชาติต่างๆเข้ามายึดบ้านเมืองของพวกเขา
เราจะทำให้ความภาคภูมิใจของผู้มีอำนาจของพวกเขาสิ้นสุดลง
    คนต่างชาติเหล่านั้น จะเข้ามาทำให้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆเสื่อมไป
25 เมื่อความน่ากลัวมาถึง พวกเขาจะมองหาสันติภาพ
    แต่มันจะไม่มีเลย
26 ความพินาศจะเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า
    จะมีข่าวลืออยู่เรื่อยๆ
พวกเขาจะพยายามหาผู้พูดแทนพระเจ้าเพื่อขอนิมิตจากพระเจ้า
    พวกนักบวชจะไม่มีอะไรสั่งสอน
    และพวกผู้นำอาวุโสจะไม่มีคำปรึกษาที่ดีๆให้
27 กษัตริย์จะเศร้าโศกเสียใจให้กับคนตาย
    ขุนนางจะห่อหุ้มไปด้วยความสิ้นหวัง
และมือของประชาชนบนแผ่นดินจะสั่นเทิ้ม
    เราจะลงโทษพวกเขาตามสิ่งที่พวกเขาทำ
พวกเขาลงโทษคนอื่นยังไง
    เราก็จะลงโทษพวกเขาอย่างนั้น
แล้วพวกเขาจะได้รู้ว่า เราคือยาห์เวห์”

ฮีบรู 12

ให้ทำตามแบบอย่างของพระเยซู

12 ดังนั้น เมื่อเรามีพยานมากมายล้อมรอบเราอยู่อย่างนี้แล้ว ขอให้เราละทิ้งทุกอย่างที่ถ่วงเราไว้ และบาปที่เกาะติดเราแน่น และขอให้วิ่งแข่งด้วยความมานะอดทนไปตามทางที่อยู่ข้างหน้าเรา ขอให้เราจ้องอยู่ที่พระเยซู ซึ่งเป็นผู้นำความเชื่อของเราและเป็นผู้ที่ทำให้ความเชื่อของเราสมบูรณ์แบบ พระองค์ได้อดทนต่อการถูกตรึงบนไม้กางเขน เพื่อความยินดีที่รอพระองค์อยู่ พระองค์ไม่สนใจกับความอับอายที่ต้องตายบนไม้กางเขน และในตอนนี้พระองค์ได้นั่งอยู่ทางขวาของบัลลังก์ของพระเจ้า ขอให้ใคร่ครวญถึงพระองค์ผู้ที่ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสจากคนบาปที่ต่อต้านพระองค์ เพื่อพวกคุณจะได้ไม่ท้อใจหรือยอมแพ้

พระเจ้าเป็นเหมือนพ่อ

ในเรื่องที่พวกคุณต้องต่อสู้กับบาปนั้น คุณยังไม่ต้องต่อสู้จนถึงกับเลือดตกยางออกเลย พวกคุณคงจะลืมคำที่ให้กำลังใจ คำพูดนี้เป็นคำที่ได้พูดกับคุณในฐานะที่เป็นลูกของพระเจ้าว่า

“ลูกเอ๋ย อย่าถือว่าการตีสอนขององค์เจ้าชีวิตนั้นเป็นเรื่องเล่นๆ
    และอย่าหมดกำลังใจเมื่อพระองค์มาตักเตือนเจ้า
เพราะองค์เจ้าชีวิตจะตีสอนคนที่พระองค์รัก
    และจะลงโทษทุกคนที่พระองค์รับเป็นลูก”[a]

ให้อดทนต่อความยากลำบาก เพราะเป็นการตีสอน แสดงว่าพระเจ้ากำลังทำกับพวกคุณเหมือนเป็นลูกของพระองค์ มีลูกคนไหนบ้างที่พ่อไม่เคยตีสอน ถ้าคุณไม่ถูกตีสอนเหมือนกับลูกทั่วๆไป แสดงว่าไม่ได้เป็นลูกแท้ๆ แต่เป็นลูกที่ไม่มีพ่อ เราทุกคนมีพ่อที่เป็นมนุษย์ที่คอยตีสอนเรา แต่เราก็ยังเคารพเขาอยู่ดี ยิ่งกว่านั้นอีกสักเท่าไร เราควรจะเชื่อฟังพระบิดาของจิตวิญญาณเรา เพื่อเราจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไป 10 พ่อของเราที่เป็นมนุษย์จะตีสอนเราแค่ชั่วคราวตามที่เห็นว่าควร แต่พระเจ้าจะตีสอนเราเพื่อประโยชน์ของเรา เพื่อเราจะได้มีลักษณะเหมือนพระองค์ 11 ตอนที่ถูกตีสอนนั้น ไม่มีใครชอบหรอกเพราะมันเจ็บ แต่ภายหลังการตีสอนนั้นจะฝึกฝนเรา แล้วผลที่ออกมาก็คือสันติสุข และชีวิตที่พระเจ้าชอบใจ

ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง

12 ดังนั้น ให้ยกมือที่ไม่มีแรงขึ้นมา และทำหัวเข่าที่อ่อนแอให้มีกำลังขึ้นมา 13 ทำทางเดินให้ตรงไปสำหรับเท้า เพื่อว่าเท้าที่เป็นง่อยนั้นจะได้ไม่พลิก แต่จะหายเป็นปกติ

14 พยายามอยู่กับคนทั้งหลายอย่างสงบสุข และพยายามอุทิศตัวเองกับพระเจ้า เพราะถ้าปราศจากการอุทิศตัวกับพระองค์ก็จะไม่มีใครเห็นองค์เจ้าชีวิต 15 ระวังตัวให้ดี อย่าให้ใครพลาดไปจากความเมตตากรุณาของพระเจ้า แล้วระวังอย่าให้มีรากขมขื่นงอกขึ้นมาก่อปัญหา ที่จะทำให้คนจำนวนมากต้องด่างพร้อย 16 ระวังอย่าให้ใครทำผิดทางเพศ หรือหมกมุ่นแต่เรื่องของโลกนี้เหมือนกับเอซาวที่ขายสิทธิ์ลูกชายหัวปี เพราะเห็นแก่อาหารเพียงมื้อเดียว 17 พวกคุณก็รู้ว่า ต่อมาเมื่อเอซาวอยากได้พรนั้น เขาก็ถูกปฏิเสธ เพราะว่าเขาไม่สามารถแก้ไขสิ่งที่เขาได้ทำลงไปแล้ว ถึงแม้เขาจะต้องการมากจนน้ำตานองหน้า

18 พวกคุณไม่ได้มาถึงภูเขาที่แตะต้องได้ ไม่ได้มาถึงไฟที่ไหม้อยู่ ไม่ได้มาถึงที่มืด ความมืดมิดอันน่ากลัวหรือพายุ 19 ไม่ได้มาถึงเสียงแตร หรือเสียงพูดของพระองค์ ที่คนที่ได้ยินนั้นอ้อนวอนไม่ให้พูดกับเขาอีก 20 เพราะเขาทนคำสั่งของพระองค์ไม่ไหวที่ว่า “แม้แต่สัตว์ ถ้าแตะต้องภูเขานี้ ก็จะต้องถูกหินขว้าง”[b] 21 สิ่งที่เห็นนั้นน่ากลัวจริงๆ จนโมเสสพูดว่า “ผมกลัวจนตัวสั่น”[c]

22 แต่พวกคุณได้มาถึงภูเขาศิโยน[d] มาถึงเมืองของพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่ คือเมืองเยรูซาเล็มแห่งสวรรค์[e] และได้มาถึงที่ที่ทูตสวรรค์นับพันนับหมื่นชุมนุมรื่นเริงกัน 23 ได้มาถึงหมู่ประชุมของบุตรหัวปีทั้งหลาย ซึ่งชื่อของพวกเขาจารึกอยู่ในสวรรค์ มาถึงพระเจ้าผู้พิพากษามนุษย์ทั้งหลาย และมาถึงวิญญาณของคนที่ทำตามใจพระเจ้า ที่พระเจ้าทำให้สมบูรณ์แบบแล้ว 24 ได้มาถึงพระเยซูคนกลางสำหรับคำสัญญาใหม่ และมาถึงเลือดที่ประพรม[f]ซึ่งบอกถึงสิ่งที่ดีกว่าเลือดของอาเบล[g]ได้บอก

25 ระวังให้ดี อย่าปฏิเสธที่จะฟังพระองค์ที่กำลังพูดกับพวกคุณอยู่ ถ้าคนพวกนั้นที่ปฏิเสธไม่ยอมฟังคำเตือนของพระองค์ในโลกนี้ ยังหนีการลงโทษไม่พ้นเลย แล้วเราล่ะ คิดว่าถ้าเมินหน้าหนีจากพระองค์ที่เตือนเรามาจากสวรรค์นั้น จะหนีพ้นหรือ 26 ในครั้งก่อนนั้น เสียงของพระองค์ทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือน แต่ตอนนี้พระองค์ได้สัญญาว่า “เราจะทำให้สั่นสะเทือนอีกครั้งหนึ่ง ไม่ใช่เพียงแต่โลกนี้เท่านั้น แต่สวรรค์ด้วย”[h] 27 คำพูดที่ว่า “อีกครั้งหนึ่ง” แสดงว่าสิ่งที่สั่นสะเทือนได้ หมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์สร้างขึ้นมา จะถูกทำลายให้หมดไป เพื่อจะได้เหลือแต่สิ่งที่ไม่มีอะไรมาสั่นสะเทือนได้

28 เนื่องจากเรากำลังได้รับอาณาจักรที่ไม่มีอะไรสามารถมาสั่นสะเทือนมันได้ ก็ขอให้เรากตัญญูรู้คุณพระเจ้า นมัสการพระองค์อย่างเคารพยำเกรง ในทางที่พระเจ้าชอบใจ 29 เพราะพระเจ้าของเรานั้นเป็นไฟที่เผาผลาญ

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International