Old/New Testament
ฉากละครตอนจุดจบของชาวเยรูซาเล็ม
5 ตอนนี้ เจ้าลูกมนุษย์ ให้เจ้าเอาดาบคมๆมาด้ามหนึ่ง ให้ใช้มันเหมือนมีดโกนของช่างตัดผม โกนผมบนหัวของเจ้าและโกนหนวดของเจ้า แล้วเอาผมของเจ้าไปชั่งบนตราชั่ง แบ่งผมออกเป็นสามส่วนเท่าๆกัน 2 เมื่อจำนวนวันที่เจ้าปิดล้อมเมืองนั้นครบถ้วนแล้ว[a] ให้เอาผมส่วนแรกมาเผาในเมือง จากนั้นให้เอาดาบมาหั่นผมส่วนที่สองเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย โปรยไปรอบๆเมือง และให้เอาผมส่วนที่สามโยนขึ้นไปในอากาศให้ลอยไปตามลม นี่หมายความว่าเราจะชักดาบออกมาไล่พวกมันไปอยู่แดนไกล 3 แต่ให้เจ้าหยิบผมมาไม่กี่เส้น แล้วเอามาผูกไว้ที่ขอบชายเสื้อคลุมของเจ้า 4 และให้หยิบผมมาอีกนิดหนึ่ง เอามาขว้างเข้าไปเผาในกองไฟ นี่หมายถึงไฟจะเริ่มจากที่นั่น และลามไปถึงครอบครัวทั้งหมดของชาวอิสราเอล”[b]
5 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดอย่างนี้ว่า “นี่คือเมืองเยรูซาเล็ม เราได้ตั้งเธอไว้ตรงกลางของชนชาติต่างๆมีประเทศต่างๆล้อมรอบเธออยู่ 6 เยรูซาเล็มกบฏต่อกฎและข้อบังคับต่างๆของเรา และกลายเป็นชั่วร้ายมากยิ่งกว่าชนชาติต่างๆที่อยู่ล้อมรอบเธอ เธอทิ้งกฎต่างๆของเรา และยังไม่ทำตามข้อบังคับทั้งหลายของเรา”
7 ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “เจ้าก่อปัญหายิ่งกว่าชนชาติต่างๆที่อยู่รอบๆเจ้า เจ้าไม่ยอมทำตามข้อบังคับหรือรักษากฎทั้งหลายของเรา แม้แต่สิ่งที่ชนชาติต่างๆที่อยู่รอบๆเจ้าบอกว่าผิด เจ้ายังทำเลย” 8 ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “เราเองนี่แหละจะต่อต้านเจ้า และเราจะลงโทษเจ้าต่อหน้าต่อตาชนชาติเหล่านั้น 9 เป็นเพราะพวกรูปเคารพที่น่ารังเกียจเหล่านั้นของเจ้า เราจึงจะทำกับเจ้าอย่างที่เราไม่เคยทำมาก่อน และเราก็จะไม่มีวันทำอย่างนี้อีก 10 ดังนั้น คนในเยรูซาเล็มจะอดอยากมาก จนถึงขั้นพ่อแม่จะกินลูกๆของตัวเอง และลูกๆจะกินพ่อแม่ของพวกเขาด้วย เราจะลงโทษเจ้าในหลายๆแบบ และจะทำให้ผู้รอดชีวิตกระจัดกระจายไปทุกทิศทาง”
11 พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “เรามีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่าเราจะลงโทษเจ้า เพราะเจ้าได้ทำให้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเราแปดเปื้อน เพราะพวกรูปเคารพที่น่ารังเกียจของเจ้า และพวกการกระทำที่น่าขยะแขยงของเจ้า เราจะไม่มีความเมตตากรุณากับเจ้า เราจะไม่สงสารเจ้า และเราจะตัดเจ้าเหมือนตัดหญ้า 12 คนของเจ้า หนึ่งในสามจะตายในตัวเมืองด้วยโรคระบาดหรืออดอยากตาย อีกหนึ่งในสามจะล้มลงด้วยคมดาบที่นอกกำแพงเมืองของเจ้า และอีกหนึ่งในสาม เราจะทำให้กระจัดกระจายไปตามลม และเราจะชักดาบของเราออกมาไล่ล่าพวกเขา 13 ถึงตอนนั้น ความโกรธแค้นของเราก็จะระบายออกมา เราจะระบายความเกรี้ยวกราดของเราใส่พวกเขาจนหมดสิ้น เมื่อเราได้แสดงความเดือดดาลของเรากับพวกเขาแล้ว พวกเขาจะรู้ว่า เรา ยาห์เวห์ได้พูดไปด้วยความรู้สึกอย่างแรงกล้า”[c]
14 “เยรูซาเล็ม เราจะทำให้เจ้ากลายเป็นกองซากปรักหักพัง ชนชาติต่างๆที่อยู่ล้อมรอบเจ้าและคนที่เดินผ่านเจ้าไป จะหัวเราะเยาะเจ้า 15 เมื่อเราลงโทษเจ้าด้วยความโกรธและความเดือดดาล และด้วยการต่อว่าอย่างเจ็บแสบ พวกเขาก็จะหัวเราะเยาะเจ้าและสบประมาทเจ้า และพวกเจ้าก็จะเป็นบทเรียนให้กับพวกเขา และเป็นสิ่งที่น่าสยดสยองในสายตาของชนชาติอื่นๆรอบตัวเจ้า เรา ยาห์เวห์ได้ลั่นคำพูดไปแล้ว 16 เมื่อเรายิงลูกธนูแห่งความอดอยากที่ถึงตายและการทำลายล้าง เราจะยิงไปเพื่อทำลายเจ้า เราจะนำความอดอยากอย่างหนักมาสู่เจ้า และจะตัดทางจัดส่งเสบียงอาหารของเจ้า 17 เราจะส่งความอดอยากและพวกสัตว์ป่าที่ดุร้ายมาให้เจ้า และพวกมันจะเอาลูกหลานของเจ้าไป ในเมืองจะมีโรคระบาดและการฆ่าฟันกัน เราจะนำดาบมาต่อสู้เจ้า เรา ยาห์เวห์ได้ลั่นคำพูดไปแล้ว”
6 แล้วคำพูดของพระยาห์เวห์ มาถึงผมว่า 2 “เจ้าลูกมนุษย์ ให้หันหน้าไปที่เทือกเขาของอิสราเอล ให้พูดแทนเราต่อต้านพวกมันว่า
3 ‘เทือกเขาแห่งอิสราเอล ฟังคำพูดของพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดอย่างนี้กับพวกเทือกเขา พวกเนินเขา ลำธารและหุบเขาต่างๆว่า “เราจะนำดาบมาต่อต้านพวกเจ้า เราจะทำลายพวกศาลเจ้า[d] ทั้งหลายของพวกเจ้า 4 พวกแท่นบูชาของพวกเจ้าจะถูกทำลายเป็นชิ้นๆ แท่นบูชาเครื่องหอมทั้งหลายของพวกเจ้าจะถูกทุบจนละเอียด เราจะฆ่าประชาชนของพวกเจ้าต่อหน้าพวกรูปเคารพขี้ๆของพวกเจ้า 5 เราจะวางซากศพของชาวอิสราเอลไว้ตรงหน้าพวกรูปเคารพขี้ๆของพวกเขา เราจะทำให้กระดูกของพวกเจ้ากระจัดกระจายอยู่รอบๆพวกแท่นบูชาของเจ้า 6 ไม่ว่าเจ้าจะอาศัยอยู่ที่ไหนก็ตาม เมืองต่างๆของเจ้าจะกลายเป็นซากปรักหักพัง พวกศาลเจ้าจะถูกทำลาย และแท่นบูชาทั้งหลายของเจ้าจะถูกทำลายและกลายเป็นซาก พวกรูปเคารพจะแตกหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แท่นบูชาเครื่องหอมของพวกเจ้าจะถูกทุบจนละเอียด สิ่งที่พวกเจ้าได้สร้างขึ้นมาจะถูกทำลายจนหมดสิ้น 7 ประชาชนของพวกเจ้าจะถูกฆ่าและล้มตายลงท่ามกลางพวกเจ้า แล้วพวกเจ้าจะได้รู้ว่า เราคือยาห์เวห์”’
8 แต่เราจะปล่อยให้พวกเจ้าบางคนหลบหนีคมดาบไปได้ พวกเจ้าจะต้องไปอยู่ที่ชนชาติอื่นๆ เราจะทำให้พวกเจ้ากระจัดกระจายกันไปอยู่ท่ามกลางประเทศต่างๆ 9 แล้วพวกเขาจะถูกจับตัวไปเป็นเชลย และถูกบังคับให้ไปอยู่ในประเทศอื่น คนที่หลบหนีไปได้นี้จะตระหนักว่า เราชอกช้ำใจแค่ไหนที่ใจชู้ของพวกเขาหันเหไปจากเรา และตาชู้ของพวกเขาที่กระสันหาพวกรูปเคารพขี้ๆของพวกเขา พวกเขาจะเกลียดตัวเอง เพราะความชั่วร้ายที่พวกเขาได้ทำไป และที่พวกเขาทำตัวน่ารังเกียจ 10 แล้วพวกเขาจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์ เราไม่ได้ขู่เล่นๆที่จะทำให้ความหายนะเหล่านี้เกิดขึ้นกับพวกเขา”
11 แล้วพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดกับผมว่า “ให้ตบมือเปรี้ยง และกระทืบเท้าของเจ้า และคร่ำครวญอย่างเศร้าโศก เพราะการกระทำตัวที่ชั่วช้าน่ารังเกียจทั้งหมดของครอบครัวอิสราเอล ให้ทำอย่างนี้ เพราะพวกเขาจะล้มตายด้วย ดาบ ความอดอยากและโรคระบาด 12 คนที่อยู่ห่างไกลออกไปจะตายด้วยโรคระบาด ส่วนคนที่อยู่ใกล้จะล้มตายด้วยดาบ คนที่รอดชีวิตและหลงเหลืออยู่จะตายเพราะความอดอยาก เราจะระบายความเกรี้ยวโกรธทั้งหมดของเราลงบนพวกเขาจนหมดเกลี้ยง 13 เมื่อพวกเขาเห็นซากศพคนของพวกเขา ที่ถูกฆ่าตายอยู่เกลื่อนกลาด ท่ามกลางพวกรูปเคารพและรอบๆแท่นบูชาของพวกเขา ตามศาลเจ้าและบนยอดเขาทั้งหมด ใต้ต้นไม้ที่แผ่กิ่งก้านทุกต้นและใต้ต้นก่อที่มีใบหนาทึบทุกต้น ตามสถานที่ต่างๆที่พวกเขาเคยถวายเครื่องบูชาอันหอมหวนให้กับรูปเคารพทั้งหลายของพวกเขา เมื่อนั้นแหละพวกเขาจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์
14 เราจะยื่นมือของเราออกต่อต้านพวกเขาไม่ว่าพวกเขาจะอาศัยอยู่ที่ไหนก็ตาม และเราจะทำให้แผ่นดินนี้ถูกทำลายและทิ้งร้าง ตั้งแต่ทะเลทรายไปจนถึงดิบลาห์[e] แล้วพวกเขาจะได้รู้ว่า เราคือยาห์เวห์”
จุดจบของเยรูซาเล็ม
7 แล้วถ้อยคำของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า 2 “เจ้าลูกมนุษย์ นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดกับแผ่นดินอิสราเอล
จบสิ้นแล้ว
จุดจบได้มาถึง
ทั้งสี่มุมของแผ่นดินแล้ว
3 จุดจบมาถึงเจ้าแล้วในตอนนี้
เราจะปล่อยความโกรธของเราลงบนเจ้า
เราจะตัดสินเจ้าตามการกระทำของเจ้า
เราจะตอบแทนเจ้าที่เจ้าทำตัวน่ารังเกียจ
4 เราจะไม่สงสารเจ้าหรือละเว้นโทษเจ้าอีกต่อไปแล้ว
เราจะตอบแทนเจ้าสำหรับสิ่งชั่วร้ายที่เจ้าทำ
และสำหรับการกระทำที่น่ารังเกียจในหมู่พวกเจ้า
แล้วเจ้าจะได้รู้ว่า เราคือยาห์เวห์”
5 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด
“ความหายนะจะเกิดแล้วเกิดอีก ดูสิ มันกำลังมา
6 จุดจบกำลังมา จุดจบกำลังมา
มันได้ตื่นขึ้นมาต่อสู้เจ้า ดูสิ มันกำลังมา
7 เจ้าผู้อาศัยอยู่บนแผ่นดินอิสราเอล
เคราะห์ร้ายได้มาถึงตัวเจ้าแล้ว
เวลานั้นได้มาถึงแล้ว วันนั้นใกล้เข้ามาแล้ว
มีแต่ความตื่นกลัวบนเทือกเขา ไม่ใช่ความยินดี
8 เรากำลังจะเทความเดือดดาลของเราลงบนเจ้า
เราจะใช้ความโกรธของเราต่อต้านเจ้า
เราจะลงโทษเจ้าสำหรับสิ่งที่เจ้าทำ
และสำหรับการทำตัวที่น่ารังเกียจของเจ้า
9 เราจะไม่สงสารเจ้าหรือละเว้นโทษเจ้าอีกต่อไปแล้ว
เราจะลงโทษเจ้าสำหรับสิ่งที่เจ้าทำ
และการทำตัวอันน่ารังเกียจของเจ้าในหมู่พวกเจ้า
แล้วเจ้าจะได้รู้ว่า เรายาห์เวห์นี่แหละ เป็นผู้โจมตีเจ้า
10 วันนั้นมาแล้ว มันได้มาถึงแล้ว
เคราะห์ร้ายของเจ้าได้โผล่ออกมาแล้ว
ความอธรรมได้งอกตุ่มออกมาแล้ว
ความหยิ่งผยองได้เบ่งบานออกมาแล้ว
11 ความรุนแรงได้เติบโตเป็นไม้เรียวแห่งความชั่วร้าย
ประชาชนจะหมดไป ทรัพย์สมบัติจะหมดเกลี้ยงจะไม่มีคนสำคัญเหลืออยู่อีก
12 เวลานั้นได้มาแล้ว วันนั้นได้มาถึงแล้ว
ไม่มีทั้งคนซื้อที่รื่นเริงยินดี
และไม่มีทั้งคนขายที่เศร้าเสียใจ
เพราะความเดือดดาลมาตกอยู่บนฝูงชนทั้งหมด
13 คนขายจะไม่สามารถเอาแผ่นดินที่เขาได้ขายไปแล้วกลับคืนมาได้อีก[f] ตราบเท่าที่ทั้งเขาและคนซื้อยังมีชีวิตอยู่ เพราะว่านิมิตที่เกี่ยวกับฝูงชนทั้งหมดนั้นจะเกิดขึ้นแน่ๆไม่เปลี่ยนแปลง จะไม่มีใครในหมู่พวกเขาที่รักษาชีวิตไว้ได้เพราะพวกเขาได้ทำบาป
14 ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป่าแตรและเตรียมของทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว
จะไม่มีใครเข้าสู่สนามรบ
เพราะความเดือดดาลของเราอยู่บนฝูงชนทั้งหมดนั้น
15 ข้างนอกเมืองมีดาบ ข้างในเมืองมีโรคระบาดและความอดอยาก
พวกที่อยู่ในชนบทจะตายเพราะดาบ
พวกที่อยู่ในเมืองจะถูกกลืนกินด้วยความอดอยากและโรคระบาด
16 พวกที่รอดชีวิตและหลบหนีไปได้ทั้งหมด
จะอยู่ในเทือกเขา
พวกเขาจะครวญครางเหมือนกับนกเขาแห่งหุบเขา
เพราะบาปของพวกเขาแต่ละคน
17 มือทุกมือจะอ่อนแรง
หัวเขาจะอ่อนปวกเปียกเหมือนน้ำ
18 พวกเขาจะใส่เสื้อกระสอบ
และถูกปกคลุมด้วยความกลัว
ใบหน้าของพวกเขาจะเต็มไปด้วยความอับอาย
และพวกเขาจะโกนหัวจนล้าน
19 พวกเขาจะขว้างเงินของพวกเขาลงตามถนน
และทองของพวกเขาจะเป็นเหมือนผ้าอนามัย
ในวันแห่งความเดือดดาลของพระยาห์เวห์ เงินและทองของพวกเขาไม่สามารถช่วยชีวิตพวกเขาไว้ได้ พวกเขาไม่สามารถกินพวกมัน เพื่อให้หายหิวได้ เงินและทองนั่นแหละ ที่ทำให้พวกเขาสะดุดไปทำบาป
20 พวกเขาภูมิใจในเครื่องเพชรอันสวยงามของพวกเขา และใช้มันสร้างรูปเคารพอันน่ารังเกียจและน่าขยะแขยงของพวกเขา ดังนั้น เราจะทำให้พวกเขารู้สึกว่าพวกเพชรพลอยเหล่านั้นเป็นเหมือนผ้าอนามัย
21 เราจะให้คนต่างชาติมาปล้นเอาทรัพย์สินเหล่านั้นไป
เราจะให้คนชั่วในโลกนี้ได้ทรัพย์สินนั้นมาเป็นของยึดได้จากสงคราม
และคนเหล่านั้นจะทำให้ทรัพย์สินนั้นเสื่อมไป
22 เราจะหันหน้าไปทางอื่น
เพื่อคนต่างชาติพวกนั้นจะได้เข้าไปในวิหารของเรา[g]
และทำให้มันเสื่อมไป
พวกโจรจะเข้าไปในนั้นและทำให้มันเสื่อมไป
23 ให้เตรียมโซ่ไว้
เพราะแผ่นดินนี้เต็มไปด้วยการตัดสินประหารคนบริสุทธิ์
และเมืองนี้เต็มไปด้วยความรุนแรง
24 เราจะนำคนชั่วที่สุดของชนชาติต่างๆเข้ามายึดบ้านเมืองของพวกเขา
เราจะทำให้ความภาคภูมิใจของผู้มีอำนาจของพวกเขาสิ้นสุดลง
คนต่างชาติเหล่านั้น จะเข้ามาทำให้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆเสื่อมไป
25 เมื่อความน่ากลัวมาถึง พวกเขาจะมองหาสันติภาพ
แต่มันจะไม่มีเลย
26 ความพินาศจะเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า
จะมีข่าวลืออยู่เรื่อยๆ
พวกเขาจะพยายามหาผู้พูดแทนพระเจ้าเพื่อขอนิมิตจากพระเจ้า
พวกนักบวชจะไม่มีอะไรสั่งสอน
และพวกผู้นำอาวุโสจะไม่มีคำปรึกษาที่ดีๆให้
27 กษัตริย์จะเศร้าโศกเสียใจให้กับคนตาย
ขุนนางจะห่อหุ้มไปด้วยความสิ้นหวัง
และมือของประชาชนบนแผ่นดินจะสั่นเทิ้ม
เราจะลงโทษพวกเขาตามสิ่งที่พวกเขาทำ
พวกเขาลงโทษคนอื่นยังไง
เราก็จะลงโทษพวกเขาอย่างนั้น
แล้วพวกเขาจะได้รู้ว่า เราคือยาห์เวห์”
ให้ทำตามแบบอย่างของพระเยซู
12 ดังนั้น เมื่อเรามีพยานมากมายล้อมรอบเราอยู่อย่างนี้แล้ว ขอให้เราละทิ้งทุกอย่างที่ถ่วงเราไว้ และบาปที่เกาะติดเราแน่น และขอให้วิ่งแข่งด้วยความมานะอดทนไปตามทางที่อยู่ข้างหน้าเรา 2 ขอให้เราจ้องอยู่ที่พระเยซู ซึ่งเป็นผู้นำความเชื่อของเราและเป็นผู้ที่ทำให้ความเชื่อของเราสมบูรณ์แบบ พระองค์ได้อดทนต่อการถูกตรึงบนไม้กางเขน เพื่อความยินดีที่รอพระองค์อยู่ พระองค์ไม่สนใจกับความอับอายที่ต้องตายบนไม้กางเขน และในตอนนี้พระองค์ได้นั่งอยู่ทางขวาของบัลลังก์ของพระเจ้า 3 ขอให้ใคร่ครวญถึงพระองค์ผู้ที่ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสจากคนบาปที่ต่อต้านพระองค์ เพื่อพวกคุณจะได้ไม่ท้อใจหรือยอมแพ้
พระเจ้าเป็นเหมือนพ่อ
4 ในเรื่องที่พวกคุณต้องต่อสู้กับบาปนั้น คุณยังไม่ต้องต่อสู้จนถึงกับเลือดตกยางออกเลย 5 พวกคุณคงจะลืมคำที่ให้กำลังใจ คำพูดนี้เป็นคำที่ได้พูดกับคุณในฐานะที่เป็นลูกของพระเจ้าว่า
“ลูกเอ๋ย อย่าถือว่าการตีสอนขององค์เจ้าชีวิตนั้นเป็นเรื่องเล่นๆ
และอย่าหมดกำลังใจเมื่อพระองค์มาตักเตือนเจ้า
6 เพราะองค์เจ้าชีวิตจะตีสอนคนที่พระองค์รัก
และจะลงโทษทุกคนที่พระองค์รับเป็นลูก”[a]
7 ให้อดทนต่อความยากลำบาก เพราะเป็นการตีสอน แสดงว่าพระเจ้ากำลังทำกับพวกคุณเหมือนเป็นลูกของพระองค์ มีลูกคนไหนบ้างที่พ่อไม่เคยตีสอน 8 ถ้าคุณไม่ถูกตีสอนเหมือนกับลูกทั่วๆไป แสดงว่าไม่ได้เป็นลูกแท้ๆ แต่เป็นลูกที่ไม่มีพ่อ 9 เราทุกคนมีพ่อที่เป็นมนุษย์ที่คอยตีสอนเรา แต่เราก็ยังเคารพเขาอยู่ดี ยิ่งกว่านั้นอีกสักเท่าไร เราควรจะเชื่อฟังพระบิดาของจิตวิญญาณเรา เพื่อเราจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไป 10 พ่อของเราที่เป็นมนุษย์จะตีสอนเราแค่ชั่วคราวตามที่เห็นว่าควร แต่พระเจ้าจะตีสอนเราเพื่อประโยชน์ของเรา เพื่อเราจะได้มีลักษณะเหมือนพระองค์ 11 ตอนที่ถูกตีสอนนั้น ไม่มีใครชอบหรอกเพราะมันเจ็บ แต่ภายหลังการตีสอนนั้นจะฝึกฝนเรา แล้วผลที่ออกมาก็คือสันติสุข และชีวิตที่พระเจ้าชอบใจ
ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง
12 ดังนั้น ให้ยกมือที่ไม่มีแรงขึ้นมา และทำหัวเข่าที่อ่อนแอให้มีกำลังขึ้นมา 13 ทำทางเดินให้ตรงไปสำหรับเท้า เพื่อว่าเท้าที่เป็นง่อยนั้นจะได้ไม่พลิก แต่จะหายเป็นปกติ
14 พยายามอยู่กับคนทั้งหลายอย่างสงบสุข และพยายามอุทิศตัวเองกับพระเจ้า เพราะถ้าปราศจากการอุทิศตัวกับพระองค์ก็จะไม่มีใครเห็นองค์เจ้าชีวิต 15 ระวังตัวให้ดี อย่าให้ใครพลาดไปจากความเมตตากรุณาของพระเจ้า แล้วระวังอย่าให้มีรากขมขื่นงอกขึ้นมาก่อปัญหา ที่จะทำให้คนจำนวนมากต้องด่างพร้อย 16 ระวังอย่าให้ใครทำผิดทางเพศ หรือหมกมุ่นแต่เรื่องของโลกนี้เหมือนกับเอซาวที่ขายสิทธิ์ลูกชายหัวปี เพราะเห็นแก่อาหารเพียงมื้อเดียว 17 พวกคุณก็รู้ว่า ต่อมาเมื่อเอซาวอยากได้พรนั้น เขาก็ถูกปฏิเสธ เพราะว่าเขาไม่สามารถแก้ไขสิ่งที่เขาได้ทำลงไปแล้ว ถึงแม้เขาจะต้องการมากจนน้ำตานองหน้า
18 พวกคุณไม่ได้มาถึงภูเขาที่แตะต้องได้ ไม่ได้มาถึงไฟที่ไหม้อยู่ ไม่ได้มาถึงที่มืด ความมืดมิดอันน่ากลัวหรือพายุ 19 ไม่ได้มาถึงเสียงแตร หรือเสียงพูดของพระองค์ ที่คนที่ได้ยินนั้นอ้อนวอนไม่ให้พูดกับเขาอีก 20 เพราะเขาทนคำสั่งของพระองค์ไม่ไหวที่ว่า “แม้แต่สัตว์ ถ้าแตะต้องภูเขานี้ ก็จะต้องถูกหินขว้าง”[b] 21 สิ่งที่เห็นนั้นน่ากลัวจริงๆ จนโมเสสพูดว่า “ผมกลัวจนตัวสั่น”[c]
22 แต่พวกคุณได้มาถึงภูเขาศิโยน[d] มาถึงเมืองของพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่ คือเมืองเยรูซาเล็มแห่งสวรรค์[e] และได้มาถึงที่ที่ทูตสวรรค์นับพันนับหมื่นชุมนุมรื่นเริงกัน 23 ได้มาถึงหมู่ประชุมของบุตรหัวปีทั้งหลาย ซึ่งชื่อของพวกเขาจารึกอยู่ในสวรรค์ มาถึงพระเจ้าผู้พิพากษามนุษย์ทั้งหลาย และมาถึงวิญญาณของคนที่ทำตามใจพระเจ้า ที่พระเจ้าทำให้สมบูรณ์แบบแล้ว 24 ได้มาถึงพระเยซูคนกลางสำหรับคำสัญญาใหม่ และมาถึงเลือดที่ประพรม[f]ซึ่งบอกถึงสิ่งที่ดีกว่าเลือดของอาเบล[g]ได้บอก
25 ระวังให้ดี อย่าปฏิเสธที่จะฟังพระองค์ที่กำลังพูดกับพวกคุณอยู่ ถ้าคนพวกนั้นที่ปฏิเสธไม่ยอมฟังคำเตือนของพระองค์ในโลกนี้ ยังหนีการลงโทษไม่พ้นเลย แล้วเราล่ะ คิดว่าถ้าเมินหน้าหนีจากพระองค์ที่เตือนเรามาจากสวรรค์นั้น จะหนีพ้นหรือ 26 ในครั้งก่อนนั้น เสียงของพระองค์ทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือน แต่ตอนนี้พระองค์ได้สัญญาว่า “เราจะทำให้สั่นสะเทือนอีกครั้งหนึ่ง ไม่ใช่เพียงแต่โลกนี้เท่านั้น แต่สวรรค์ด้วย”[h] 27 คำพูดที่ว่า “อีกครั้งหนึ่ง” แสดงว่าสิ่งที่สั่นสะเทือนได้ หมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์สร้างขึ้นมา จะถูกทำลายให้หมดไป เพื่อจะได้เหลือแต่สิ่งที่ไม่มีอะไรมาสั่นสะเทือนได้
28 เนื่องจากเรากำลังได้รับอาณาจักรที่ไม่มีอะไรสามารถมาสั่นสะเทือนมันได้ ก็ขอให้เรากตัญญูรู้คุณพระเจ้า นมัสการพระองค์อย่างเคารพยำเกรง ในทางที่พระเจ้าชอบใจ 29 เพราะพระเจ้าของเรานั้นเป็นไฟที่เผาผลาญ
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International