Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Old/New Testament

Each day includes a passage from both the Old Testament and New Testament.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
อิสยาห์ 1-2

นี่คือนิมิตของอิสยาห์ลูกชายของอามอส ที่เขาเห็นเกี่ยวกับยูดาห์และเยรูซาเล็ม เขาเห็นนิมิตนี้ในช่วงสมัยที่อุสซียาห์[a] โยธาม อาหัส[b] และเฮเซคียาห์[c] เป็นกษัตริย์ปกครองยูดาห์

พระเจ้าต่อต้านคนของพระองค์

ฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก ฟังให้ดี
    เพราะพระยาห์เวห์พูดว่า
“เราได้เลี้ยงดูลูกๆของเราและช่วยให้พวกเขาเติบโตขึ้น
    แต่พวกเขากลับกบฏต่อเรา
วัวยังรู้จักเจ้าของมัน
    ลาก็ยังรู้จักที่ที่เจ้าของมันเลี้ยงอาหารมัน
แต่คนอิสราเอลไม่รู้จักเรา
    คนของเราไม่เข้าใจสิ่งที่เราทำให้กับเขา”

ไง ไอ้ชนชาติที่บาปหนา
    ไอ้พวกคนที่หนักอึ้งไปด้วยความเลวร้าย
ไอ้พวกลูกหลานที่ชอบทำชั่ว
    ไอ้พวกลูกๆที่ชอบคดโกง
ไอ้พวกที่ทิ้งพระยาห์เวห์ไป
    ไอ้พวกที่ดูถูกองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอล
    ไอ้พวกที่หันหลังให้กับพระองค์

ทำไมพวกเจ้าถึงหาเรื่องที่จะถูกเฆี่ยนตีอีก
    ทำไมพวกเจ้าถึงยังคงกบฏต่อไป
ทั้งหัวก็ฟกช้ำไปหมด
    ทั้งใจก็อ่อนเปลี้ยไปหมดแล้ว
ตั้งแต่หัวจรดเท้าไม่มีอะไรดีเลย
    ฟกช้ำดำเขียว และมีแผลสดๆเต็มไปหมด
พวกเขายังไม่ได้บีบหนองทำความสะอาด
    หรือเอาผ้าพันแผลไว้
    หรือใส่น้ำมันให้มันทุเลาลง
แผ่นดินของพวกเจ้าถูกทำลาย
    เมืองต่างๆถูกไฟเผา
คนต่างชาติได้กลืนกินแผ่นดินของพวกเจ้าไปต่อหน้าต่อตา
    และมันก็ถูกทำลายไปเหมือนกับเมืองที่ถูกโค่นล้มลงโดยพวกคนต่างชาติ[d]
มีแต่เยรูซาเล็ม[e] เท่านั้นที่เหลืออยู่
    เหมือนกับเพิงที่โดดเดี่ยวอยู่ในสวนองุ่น
เหมือนที่พักที่โดดเดี่ยวอยู่ในไร่แตงกวา
    เธอเป็นเมืองที่ถูกศัตรูโอบล้อม
ถ้าพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
    ไม่เหลือผู้รอดชีวิตไว้บ้าง
พวกเราก็คงถูกทำลายจนหมดเกลี้ยงไปแล้ว
    เหมือนกับเมืองโสโดมและโกโมราห์[f]
10 ไอ้พวกผู้นำของโสโดม ให้ฟังถ้อยคำของพระยาห์เวห์ไว้
    ไอ้ชาวเมืองโกโมราห์ ให้ฟังคำสอนของพระเจ้าของเราให้ดี
11 พระยาห์เวห์พูดว่า “ทำไมพวกเจ้าถึงยังเอาเครื่องบูชามากมายพวกนี้มาถวายให้กับเรา
    เราได้รับอย่างเหลือเฟือแล้ว
ทั้งพวกแกะตัวผู้ที่เผาบูชาทั้งตัว และไขมันของสัตว์ที่ขุนไว้จนอ้วนพี
    เราไม่ชื่นชอบกับเลือดของพวกวัวผู้ ลูกแกะหรือแพะผู้
12 เมื่อพวกเจ้าเข้ามาอยู่ต่อหน้าเรา
    ใครเรียกให้พวกเจ้าเอาสัตว์มากมายพวกนี้มาเหยียบย่ำลานวิหารของเรา
13 หยุดเอาเครื่องถวายที่ไร้สาระพวกนี้มาอีก
    เราสะอิดสะเอียนเครื่องหอมที่เจ้าเผาให้กับเรา
เราทนไม่ไหวแล้วต่อเทศกาลข้างขึ้น[g] วันหยุดทางศาสนา และการเรียกประชุมต่างๆของพวกเจ้า
    การประชุมทางศาสนาพวกนี้ผสมไปด้วยความบาป
14 ใจของเราเกลียดเทศกาลข้างขึ้นและเทศกาลอื่นๆของพวกเจ้า
    พวกมันได้กลายเป็นภาระหนักให้กับเรา เราแบกมันไว้จนเหนื่อยแล้ว
15 เมื่อเจ้ากางมือออกอธิษฐาน เราจะปิดตาของเรา
    ถึงแม้เจ้าจะอธิษฐานมากมายขนาดไหน เราก็จะไม่ฟัง เพราะมือของเจ้าเปื้อนเลือด
16 ล้างตัวเองและทำตัวเองให้สะอาดซะ
    เอาสิ่งชั่วร้ายที่พวกเจ้าทำนั้นไปให้พ้น เอามันไปให้ไกลจากสายตาเรา หยุดทำชั่วซะ
17 ฝึกทำดี
    ให้ความยุติธรรมกับคนอื่น
ช่วยกู้พวกที่ถูกกดขี่ข่มเหง
    ปกป้องสิทธิให้กับเด็กกำพร้า
    สู้คดีให้กับแม่ม่าย

18 พระยาห์เวห์พูดว่า มาสู้ความกันเถอะ
    ถึงแม้พวกบาปของเจ้าจะแดงสด พวกมันก็อาจจะขาวเหมือนหิมะได้
    ถึงแม้บาปพวกนั้นของเจ้าจะแดงเข้ม พวกมันก็อาจจะขาวเหมือนขนแกะได้
19 ถ้าพวกเจ้าจะยินยอมและเชื่อฟัง
    เจ้าก็จะได้กินสิ่งดีๆจากแผ่นดินนี้
20 แต่ถ้าเจ้าไม่ยอมและกบฏ
    เจ้าก็จะถูกศัตรูฆ่าฟัน
    เพราะพระยาห์เวห์ได้ลั่นวาจาไปแล้ว”

เยรูซาเล็มไม่สัตย์ซื่อต่อพระเจ้า

21 เมืองที่เคยสัตย์ซื่อได้กลายเป็นโสเภณีไปแล้ว
    เมืองเยรูซาเล็ม เคยเต็มไปด้วยความยุติธรรม
ความดีเคยพักอยู่ที่นั่น
    แต่เดี๋ยวนี้ กลับกลายเป็นที่พักของพวกฆาตกรไปแล้ว
22 เงินของเจ้าได้กลายเป็นขี้เงินไปแล้ว
    เหล้าองุ่นของเจ้าก็ได้ผสมน้ำเจือจางไปแล้ว
23 พวกผู้นำของเจ้าเป็นพวกกบฏที่ไปคบหากับพวกหัวขโมย
    พวกเขาทุกคนรักสินบนและวิ่งตามของกำนัล
    พวกเขาไม่ได้ให้ความยุติธรรมกับพวกเด็กกำพร้าพ่อและไม่ยอมฟังคดีความของแม่ม่าย
24 ดังนั้น พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ผู้ทรงอำนาจของอิสราเอล พูดว่า
    “ทีนี้ล่ะ ศัตรูของเราจะไม่ก่อปัญหาให้กับเราอีกแล้ว เพราะเราจะลงโทษพวกมันให้หมด
25 เราจะโจมตีเจ้า เราจะหลอมละลายเจ้า
    และเราจะขจัดสิ่งเจือปนออกไปจากเจ้าให้หมด
26 แล้วเราจะให้พวกผู้พิพากษาที่ซื่อสัตย์กับเจ้าอีกครั้งหนึ่งเหมือนกับที่เจ้าเคยมี
    และให้ที่ปรึกษาที่ดีกับเจ้าเหมือนที่เจ้าเคยมีในตอนแรก
    และหลังจากนั้น เจ้าจะถูกเรียกว่า ‘เมืองที่ทำตามใจพระเจ้า เมืองแห่งความซื่อสัตย์’”

27 ศิโยนจะได้รับการไถ่ให้เป็นอิสระด้วยความยุติธรรม
    และคนเหล่านั้นที่หันกลับมาหาพระยาห์เวห์ก็จะได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระด้วยการทำตามใจพระเจ้า
28 แต่พวกที่กบฏและพวกคนบาปก็จะถูกขยี้ไปพร้อมๆกัน
    และคนพวกนั้นที่ได้ละทิ้งพระยาห์เวห์ก็จะตาย

29 เพราะพวกเจ้าจะได้รับความอับอายเรื่องต้นโอ๊กศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเจ้าอยากได้นักหนานั้น
    และพวกเจ้าจะต้องอับอายขายหน้ากับพวกสวนพิเศษที่พวกเจ้าบูชานั้น
30 เพราะเจ้าจะเป็นเหมือนต้นโอ๊กที่มีใบเหี่ยวเฉา
    และเป็นสวนที่ไม่มีน้ำ
31 คนที่เข้มแข็งก็จะกลายเป็นเศษไม้จุดไฟ และงานของเขาจะเป็นเหมือนประกายไฟ
    ทั้งสองอย่างก็จะไหม้ไปด้วยกันและจะไม่มีใครดับไฟนั้นได้

ทุกชนชาติมุ่งสู่เยรูซาเล็ม

นี่คือข้อความที่อิสยาห์ลูกของอามอสได้รับ ผ่านทางนิมิตเกี่ยวกับยูดาห์และเยรูซาเล็ม

ในอนาคตนั้น ภูเขาที่วิหารของพระยาห์เวห์ตั้งอยู่จะถูกยกขึ้นให้สูงกว่าภูเขาทุกลูกและสูงกว่าเนินเขาทั้งหลาย
    คนทุกชนชาติก็จะหลั่งไหลมาที่นั่น
จะมีชนชาติต่างๆมากมายพากันมาที่นั่น และพูดว่า
    “ไปกันเถอะพวกเรา ขึ้นไปบนภูเขาของพระยาห์เวห์กัน ไปยังวิหารของพระเจ้าของยาโคบกันเถอะ
แล้วพระเจ้าจะได้สอนพวกเราถึงแนวทางต่างๆของพระองค์ และเราจะได้เดินในเส้นทางเหล่านั้นของพระองค์”
    เพราะคำสอนของพระยาห์เวห์นั้นจะแพร่ออกไปจากศิโยนและถ้อยคำของพระยาห์เวห์ก็จะแพร่ออกไปจากเยรูซาเล็ม
พระองค์จะเป็นผู้ตัดสินระหว่างชนชาติทั้งหลาย
    และพระองค์จะตัดสินข้อโต้แย้งให้กับคนหลายเชื้อชาติ
และชนชาติต่างๆจะตีดาบของพวกเขาให้เป็นใบมีดของคันไถและตีหอกของพวกเขาเป็นขอลิดกิ่งไม้
    ชนชาติต่างๆจะไม่ยกดาบขึ้นต่อสู้กันอีก และพวกเขาจะไม่มีการฝึกทำสงครามกันอีกต่อไป
ครอบครัวของยาโคบ มาเถอะ
    มาเดินในความสว่างของพระยาห์เวห์กัน
ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ได้ทอดทิ้งครอบครัวของยาโคบซึ่งเป็นคนของพระองค์
    เพราะพวกเขามีทั้งพวกหมอดูจากตะวันออก
    และพวกผู้ทำนายอนาคตเต็มไปหมดเหมือนกับคนฟีลิสเตีย
    และพวกเขาก็ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับคนต่างชาติ
ดินแดนของพวกเขามีเงินและทองเต็มไปหมดและมีทรัพย์สมบัติมากมายจนนับไม่ถ้วน
    แผ่นดินของเขามีม้าเต็มไปหมดและมีรถรบม้ามากมายจนนับไม่ถ้วน
แผ่นดินของเขามีรูปเคารพเต็มไปหมด
    พวกเขาก้มกราบสิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้นมากับมือ เป็นสิ่งที่นิ้วพวกเขาเองได้สร้างขึ้นมา
อย่างนี้ คนพวกนี้ได้เสื่อมลงและถูกทำให้ตกต่ำ
    ข้าแต่พระยาห์เวห์ อย่าได้ให้อภัยกับพวกมันเลย
10 รีบหลบเข้าไปอยู่ตามซอกหินและซ่อนอยู่ในรูในดินเพื่อให้พ้นจากความน่าสยองขวัญของพระยาห์เวห์
    และรัศมีที่เปล่งออกมาจากฤทธิ์อันยิ่งใหญ่ของพระองค์
11 สายตาที่เย่อหยิ่งจองหองของมนุษย์จะถูกทำให้ตกต่ำลงและคนที่หยิ่งยโสจะถูกทำให้ถ่อมตัวลง
    ในวันนั้น จะมีแต่พระยาห์เวห์เท่านั้นที่จะได้รับการยกย่องสรรเสริญ
12 เพราะพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นได้กำหนดวันนั้นไว้แล้ว
    ที่พระองค์จะต่อสู้กับทุกคนที่เย่อหยิ่งจองหอง หัวสูง และทุกคนที่ยกตัวขึ้น
    (พระองค์จะทำให้คนพวกนี้ตกต่ำลง)
13 พระองค์จะต่อสู้กับทุกคนที่ยกตัวขึ้นราวกับเป็นต้นสนซีดาร์แห่งเลบานอนที่สูงส่งและถูกยกขึ้น
    จะต่อสู้กับทุกคนที่ทำตัวราวกับเป็นต้นโอ๊กแห่งบาชาน[h]
14 จะต่อสู้กับทุกคนที่ทำตัว
    ราวกับเป็นภูเขาและเนินเขาสูง
15 จะต่อสู้กับทุกคนที่ทำตัว
    ราวกับเป็นหอคอยสูงและกำแพงป้อมปราการ
16 จะต่อสู้กับทุกคนที่ทำตัว
    ราวกับเป็นพวกเรือจากทารชิช[i] และเรือที่สวยงามทั้งหลาย
17 มนุษย์ที่เย่อหยิ่งจองหองจะถูกทำให้ถ่อมลง ความหยิ่งยโสของทุกคนจะถูกทำให้ตกต่ำลง
    ในวันนั้น จะมีแต่พระยาห์เวห์เท่านั้นที่จะได้รับการยกย่องสรรเสริญ
18 แต่พวกรูปเคารพทั้งหลาย
    จะหมดสิ้นไป
19 ผู้คนจะต้องเข้าไปหลบอยู่ตามถ้ำของซอกหินและซ่อนอยู่ในรูใต้ดินเพื่อให้พ้นจากความน่าสยองขวัญของพระยาห์เวห์
    และรัศมีที่เปล่งออกมาจากฤทธิ์อันยิ่งใหญ่ของพระองค์เมื่อพระองค์ยืนขึ้นเพื่อทำให้คนทั้งโลกกลัวจนตัวสั่น
20 ในวันนั้น ผู้คนจะโยนรูปเคารพที่พวกเขาทำขึ้นมากราบไหว้บูชากัน เป็นรูปเคารพที่ทำจากเงินและทอง
    พวกเขาจะโยนมันทิ้งลงไปในรูของตัวตุ่นและในถ้ำของค้างคาว
21 แล้วพวกเขาก็จะไปหลบอยู่ตามถ้ำของซอกหิน
และตามรอยแตกของหินผา ไปให้พ้นจากความน่าสยองขวัญของพระยาห์เวห์
    และรัศมีที่เปล่งออกมาจากฤทธิ์อันยิ่งใหญ่ของพระองค์เมื่อพระองค์ยืนขึ้น เพื่อทำให้คนทั้งโลกกลัวจนตัวสั่น
22 อย่าได้หวังพึ่งในมนุษย์เลย
    พวกเขาหายใจแค่ชั่วครู่ พวกเขาจะช่วยอะไรใครได้

กาลาเทีย 5

เมื่อพระคริสต์ได้ปลดปล่อยให้เราเป็นอิสระแล้ว ก็ให้อยู่อย่างคนอิสระเถิด รักษามันไว้ให้ดี อย่ากลับไปเป็นทาสของกฎอีก ฟังไว้ให้ดี ผมเปาโล ขอบอกให้รู้ว่า ถ้าพวกคุณยอมเข้าทำพิธีขลิบ พระคริสต์ก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับคุณอีกแล้ว ผมขอย้ำว่า คนที่ยังทำพิธีขลิบนั้นก็จะต้องรักษากฎให้ครบทุกข้อ ถ้าคุณพยายามที่จะให้พระเจ้ายอมรับคุณเพราะคุณรักษากฎ คุณก็ถูกแยกออกจากพระคริสต์แล้ว และหลุดจากความเมตตากรุณาของพระเจ้า พวกเรามีพระวิญญาณเพราะได้ไว้วางใจ เราถึงได้ตั้งหน้าตั้งตาคอยสิ่งที่เราหวังไว้อย่างมั่นอกมั่นใจ ความหวังนั้นคือพระเจ้าจะยอมรับเราแน่ในวันสุดท้าย เพราะในพระเยซูคริสต์ การทำหรือไม่ทำพิธีขลิบนั้นไม่สำคัญอะไรเลย แต่สิ่งที่สำคัญคือความเชื่อที่แสดงออกด้วยความรัก

พวกคุณก็กำลังวิ่งกันดีๆอยู่แล้ว ใครกันนะที่มาขัดจังหวะทำให้คุณเลิกติดตามความจริง ใครก็ตามที่มาชักชวนให้คุณหยุด ไม่ได้มาจากพระเจ้าที่เรียกคุณมาแน่ ระวังตัวให้ดี “เชื้อฟู[a]นิดเดียว ก็ทำให้แป้งทั้งก้อนฟูขึ้นมาได้”[b] 10 ผมมั่นใจในองค์เจ้าชีวิตว่า คุณจะไม่ยอมรับความคิดที่แตกต่างออกไปจากนี้ และใครก็ตามที่มาทำให้คุณสับสน จะต้องถูกพระเจ้าลงโทษแน่

11 พี่น้องครับ ถ้าผมยังสั่งสอนให้ทำพิธีขลิบอยู่ แล้วทำไมผมยังถูกข่มเหงอยู่ล่ะ ถ้าเป็นจริงตามนั้น เรื่องไม้กางเขนที่ผมสอน ก็จะไม่ถูกต่อต้านแล้ว 12 ผมอยากให้ไอ้พวกที่มาวุ่นวายกับคุณนี้ ตอน[c] ตัวมันเองเลยแทนที่จะแค่ขลิบเท่านั้น

13 พี่น้องครับ พระเจ้าเรียกคุณมาใช้ชีวิตอย่างอิสระ แต่อย่าใช้ความเป็นอิสระนั้นมาเป็นข้ออ้างที่จะทำตามสันดานที่เห็นแก่ตัว แต่ให้รับใช้กันและกันด้วยความรัก 14 เพราะกฎทั้งหมดสรุปออกมาได้ข้อเดียว คือ “รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง”[d] 15 แต่ถ้าคุณยังคงฉีกเนื้อกัดกินกันเหมือนสัตว์ป่า ระวังให้ดี เพราะจะย่อยยับด้วยกันทั้งหมด

พระวิญญาณกับสันดาน

16 แต่ผมขอบอกว่า ให้ใช้ชีวิตตามพระวิญญาณ แล้วคุณจะไม่ทำตามกิเลสตัณหาของสันดาน 17 ความต้องการของพระวิญญาณนั้นขัดแย้งกับกิเลสตัณหาของสันดาน ทั้งสองจึงต่อต้านกันโดยตรง เพื่อขัดขวางไม่ให้คุณทำในสิ่งที่คุณอยากจะทำ 18 แต่ถ้าคุณยอมให้พระวิญญาณนำชีวิตของคุณ คุณก็ไม่อยู่ภายใต้กฎอีกต่อไป

19 การกระทำที่เกิดจากสันดานมนุษย์ก็เห็นได้ชัดเจนคือ ความผิดบาปทางเพศ ความไม่บริสุทธิ์ ความคิดสกปรก กิเลสตัณหา 20 การนับถือรูปเคารพ การใช้เวทมนตร์คาถา[e] การเป็นศัตรูกัน การขัดแย้งกัน การริษยาอาฆาตกัน การโกรธเคืองกัน การชิงดีชิงเด่นกัน การไม่ลงรอยกัน การแบ่งพรรคแบ่งพวก 21 การอิจฉา การเมาเหล้า การมั่วสุมกันในงานเลี้ยง เป็นต้น ขอเตือนอีกครั้งอย่างที่เคยเตือนมาแล้วว่า คนที่ทำอย่างนี้จะไม่ได้รับอาณาจักรของพระเจ้าเป็นมรดกอย่างแน่นอน 22 แต่ผลของพระวิญญาณคือ ความรัก ความชื่นชมยินดี สันติสุข ความอดทน การมีน้ำใจ ความดี ความซื่อสัตย์ 23 ความอ่อนโยน และการรู้จักควบคุมตนเอง สิ่งเหล่านี้ไม่ขัดแย้งกับกฎข้อไหน[f] 24 คนที่เป็นของพระเยซูคริสต์ ได้เอาสันดานมนุษย์พร้อมกับกิเลสตัณหาและความใคร่ที่มาจากมัน ไปตรึงไว้บนไม้กางเขนแล้ว 25 พระวิญญาณได้ให้ชีวิตกับเราแล้ว อย่างนั้นเราจึงควรจะติดตามพระวิญญาณในทุกสิ่งที่เราทำ 26 อย่าอวดดี ยั่วโมโหหรืออิจฉากันเลย

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International