Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Old/New Testament

Each day includes a passage from both the Old Testament and New Testament.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
สุภาษิต 22-24

22 ชื่อเสียงดี ย่อมดีกว่าความร่ำรวย
    เป็นที่นับถือย่อมดีกว่าเงินทอง
คนรวยและคนจนเหมือนกันตรงนี้
    คือพระยาห์เวห์เป็นผู้สร้างพวกเขาทุกคน
คนที่ฉลาดหลักแหลมเห็นอันตราย ก็หลบเข้าที่กำบัง
    แต่คนที่อ่อนต่อโลก ก็เดินเข้าไปและได้รับอันตราย
ความถ่อมสุภาพอันได้แก่ การยำเกรงพระยาห์เวห์
    จะนำมาซึ่ง ความมั่งคั่ง เกียรติยศ และชีวิตยืนยาว
ทางของคนคดโกงมีขวากหนามและบ่วงแร้ว
    แต่คนที่ระมัดระวังการใช้ชีวิตก็จะอยู่ห่างไกลจากสิ่งเหล่านั้น
ช่วยเด็กหนุ่มให้เริ่มต้นในทางที่ถูกต้อง
    แม้เมื่อเขาแก่ตัวลง เขาจะไม่ละทิ้งทางนั้นไป
คนรวยปกครองอยู่เหนือคนจน
    และลูกหนี้ก็เป็นทาสของเจ้าหนี้
คนที่หว่านความชั่วช้าก็จะเก็บเกี่ยวความหายนะ
    แล้วอำนาจในการทำชั่วของเขาก็จะสิ้นสุดลง
คนที่ใจดีจะได้รับพระพร
    เพราะเขาแบ่งปันอาหารให้กับคนจน
10 ขับไล่พวกที่ชอบดูถูกคนอื่นออกไป แล้วเรื่องขัดแย้งก็จะออกไปด้วย
    การฟ้องร้องและการพูดเหยียดหยามก็จะหยุดลง
11 คนที่จริงใจและพูดสุภาพอ่อนน้อม
    ก็จะมีกษัตริย์เป็นเพื่อน
12 ดวงตาของพระยาห์เวห์เฝ้าดูแลความจริง
    แต่พระองค์ทำลายคำพูดต่างๆของคนชั่ว
13 คนขี้เกียจร้องว่า “มีสิงโตอยู่ข้างนอก
    ฉันอาจถูกฆ่าตายอยู่ที่กลางถนนนั้น”
14 คำพูดล่อลวงของหญิงเล่นชู้เป็นหลุมลึก
    คนที่พระยาห์เวห์สาปแช่งจะตกลงในหลุมนั้น
15 ความโง่เขลาก็ผูกติดกับจิตใจของเด็กหนุ่ม
    แต่ไม้เรียวที่ตีสอนก็จะขจัดมันให้ไกลจากเด็กหนุ่มนั้น
16 คนที่กดขี่คนจนเพื่อจะได้รวยขึ้น
    และคนที่ให้ของขวัญกับคนรวย ทั้งคู่ก็จะจน

คำพูดของคนฉลาด

17 คำพูดของคนฉลาด
เงี่ยหูของเจ้ามาฟังคำพูดของคนฉลาด
    แล้วใส่ใจในสิ่งที่เราสอน
18 ถ้ามันอยู่ที่ใจ และอยู่ที่ริมฝีปาก
    เจ้าก็จะมีความสุข
19 เราสอนเรื่องเหล่านี้กับเจ้าในวันนี้
    เพื่อเจ้าจะได้วางใจในพระยาห์เวห์
20 ก่อนหน้านี้[a] เราก็ได้เขียนคำแนะนำ
    และสติปัญญาให้กับเจ้าแล้วไม่ใช่หรือ
21 เพื่อสอนเจ้าให้รู้ถึงความจริงและคำสอนที่เชื่อถือได้
    เพื่อเจ้าจะได้กลับไปรายงานคำสอนที่เชื่อถือได้นี้กับคนเหล่านั้นที่ส่งเจ้ามา
22 อย่าได้ขโมยจากคนจนเพราะมันง่าย
    และอย่าได้เอาเปรียบคนเดือดร้อนที่ศาลตรงลานเมือง
23 เพราะพระยาห์เวห์ จะว่าความแทนพวกเขา
    และปล้นชีวิตของคนที่ปล้นพวกเขา
24 อย่าได้เป็นเพื่อนกับคนที่ขี้โมโห
    หรือคบค้ากับคนฉุนเฉียว
25 เพื่อว่าเจ้าจะได้ไม่เลียนแบบนิสัยของเขา
    และสุดท้ายก็ติดเข้าไปในกับดัก
26 อย่าไปจับมือทำสัญญา
    ว่าจะค้ำประกันหนี้ให้กับคนอื่น
27 ทำไมจะต้องเสี่ยงให้คนอื่นมายึดเตียงที่เจ้านอน
    เมื่อเจ้าไม่มีปัญญาจ่ายหนี้นั้น
28 อย่าย้ายหลักเขตที่มีมาช้านาน
    ที่บรรพบุรุษของเจ้าปักไว้
29 เจ้าเห็นคนที่ชำนาญงานนั้นไหม
    เขาจะได้ยืนรับใช้พวกกษัตริย์
    ไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดา

23 เมื่อเจ้านั่งกินอยู่กับผู้มีอำนาจคนหนึ่งของบ้านเมือง
    ให้จำไว้ว่าเจ้ากำลังนั่งกินอยู่กับใคร
ถ้าเจ้าเป็นคนกินจุ
    ก็ให้ยับยั้งใจไว้บ้าง[b]
อย่าได้ตะกละตะกรามนักต่ออาหารที่เลิศหรูนั้น
    เพราะมันอาจจะดูดีแค่เปลือกนอก
อย่าได้ทำงานหนักจนหมดแรง เพราะหวังจะร่ำรวย
    ให้ฉลาดและอย่าทำอย่างนั้น
ในพริบตาเดียว เงินก็จะหายไป
    ราวกับมีปีกโผล่ออกมา
    แล้วบินหนีไปในท้องฟ้าเหมือนนกอินทรี
อย่าได้กินอาหารของคนขี้เหนียว
    อย่าได้ตะกละตะกรามนักต่ออาหารที่เลิศหรูนั้น
เพราะเขาเป็นเหมือนเส้นผมในลำคอ[c]
    เขาบอกเจ้าว่า “กินและดื่มสิ”
    แต่ใจของเขาไม่ได้เป็นอย่างนั้น
เจ้าจะอาเจียนอาหารอันน้อยนิดที่เจ้ากินเข้าไปออกมา
    และเสียดายคำพูดที่เจ้าชมเชยเขาไป
อย่าได้แนะนำอะไรให้เข้าหูของคนโง่เลย
    เพราะเขาจะดูหมิ่นถ้อยคำอันชาญฉลาดของเจ้านั้น
10 อย่าได้โยกย้ายหลักเขตที่มีมาช้านานแล้ว
    และอย่าได้บุกรุกไร่นาของเด็กกำพร้า
11 เพราะพระเจ้าผู้ที่ช่วยพวกเขานั้นมีกำลังมหาศาล
    พระองค์จะสู้คดีของพวกเขากับเจ้า
12 ให้เปิดใจของเจ้ารับคำแนะนำสั่งสอน
    ให้เปิดหูของเจ้าฟังถ้อยคำแห่งความรู้
13 อย่าได้ยั้งมือจากการตีสอนเด็กหนุ่ม
    ถ้าเจ้าตีเขาด้วยไม้เรียว เขาจะไม่ตายหรอก
14 อันที่จริงถ้าเจ้าตีเขาด้วยไม้เรียว
    เจ้าก็จะช่วยชีวิตของเขาให้พ้นจากแดนคนตาย
15 ลูกเอ๋ย ถ้าใจของเจ้าฉลาดขึ้นมา
    จิตใจของเราก็จะมีความสุข
16 เมื่อริมฝีปากของเจ้าพูดสิ่งที่ถูกต้อง
    จิตใจของเราก็จะชื่นบาน
17 อย่าให้ใจของเจ้าอิจฉาพวกคนบาป
    แต่ให้ยำเกรงพระยาห์เวห์เสมอ
18 เมื่อนั้นแหละเจ้าจะมีอนาคตที่ดี
    และเจ้าจะไม่ผิดหวัง
19 ลูกเอ๋ย ฟังให้ดี และให้ฉลาดไว้
    ให้นำจิตใจของเจ้าไปในทางที่ถูก
20 อย่าได้ไปคลุกคลีกับพวกที่ดื่มเหล้าองุ่นจัด
    หรือพวกนั้นที่กินเนื้ออย่างตะกละตะกลาม
21 เพราะคนขี้เมาและคนกินเติบจะยากจน
    สะลึมสะลือตลอดเวลาจนเหลือแต่ผ้าขี้ริ้วห่อตัว
22 ให้ฟังพ่อของเจ้า ผู้ที่ให้เจ้าเกิดมา
    และอย่าได้ดูหมิ่นแม่ของเจ้าเมื่อนางแก่ตัวลง
23 ให้ซื้อความจริงและอย่ายอมขายมันไป
    ให้ซื้อความฉลาด การสั่งสอน และความเข้าใจ
24 ลูกดี ทำให้พ่อชื่นใจ
    ลูกฉลาด ทำให้พ่อภูมิใจ
25 ทำให้พ่อแม่ของเจ้ามีความสุข
    ทำให้แม่ที่ให้กำเนิดเจ้ามานั้นดีใจเถอะ
26 ลูกเอ๋ย มอบจิตใจของเจ้าให้กับเรา
    ให้ดวงตาของเจ้าเฝ้าสังเกตทางต่างๆของเรา
27 เพราะหญิงโสเภณีนั้นคือหลุมลึก
    และหญิงที่เล่นชู้คือบ่อที่คับแคบ
28 เธอหมอบซุ่มอยู่เหมือนโจร
    และทำให้จำนวนคนไม่ซื่อสัตย์เพิ่มขึ้น
29 ใครล่ะที่ร้องครวญคราง ใครล่ะที่คร่ำครวญ
    ใครล่ะที่ทะเลาะวิวาท ใครล่ะที่กลุ้มใจ
    ใครล่ะที่มีบาดแผลฟกช้ำโดยไม่จำเป็น
    ใครล่ะที่มีดวงตาแดงก่ำ
30 ก็คนเหล่านั้นไงที่ดื่มเหล้าองุ่นจนดึกดื่น
    คนเหล่านั้นไงที่ไปทดลองดื่มเหล้าผสม
31 อย่าไปหลงใหลเหล้าองุ่น ตอนมันสีแดงสดเหมือนเลือด
    ตอนที่มันเป็นประกายระยิบระยับในถ้วยเหล้า
    มันไหลลื่นลงคอ
32 แต่ท้ายที่สุดมันก็ฉกเหมือนงู
    และมันก็พ่นพิษออกมาดุจงูพิษร้าย[d]
33 สายตาของเจ้าจะเห็นภาพหลอน
    แล้วเจ้าจะพูดสับสนเพราะความคิดเลอะเลือน
34 เจ้าจะเป็นเหมือนคนนอนอยู่บนเรือกลางทะเล
    เหมือนนอนบนแท่นตรงยอดเสากระโดงเรือ
35 เจ้าจะพูดว่า “พวกเขาตีข้า แต่ข้าไม่รู้สึกเจ็บ
    พวกเขาทุบข้า แต่ข้าไม่รู้สึกอะไร
    เมื่อไหร่ข้าจะตื่นซักที
    เพื่อข้าจะได้ไปดื่มต่อ”

24 อย่าอิจฉาคนชั่ว
    อย่าคิดจะไปร่วมกับพวกเขา
เพราะใจของพวกเขาคบคิดกันวางแผนร้าย
    และริมฝีปากพวกเขาก็มีแต่ก่อความเดือดร้อน
บ้านเรือนต้องใช้สติปัญญาสร้าง
    ความเข้าใจจะทำให้มันมั่นคง
ความรู้จะทำให้ห้องต่างๆเต็มไปด้วย
    ทรัพย์สินที่มีค่าและสวยงาม
คนฉลาดนั้นมีพลังยิ่งกว่าคนแข็งแรง
    คนที่มีความรู้นั้นมีพลังยิ่งกว่าคนมีกำลังมาก
เจ้าต้องมีกลยุทธ์ที่ดีในการทำสงคราม
    ถ้ามีที่ปรึกษามากๆก็จะชนะ
สำหรับคนโง่ สติปัญญานั้นก็สูงเกินเอื้อม
    ในที่ประชุมตรงประตูเมือง คนโง่ก็ปิดปากเงียบไม่มีอะไรจะพูด
บางคนก็วางแผนที่จะทำชั่วอยู่เสมอ
    คนอย่างนี้ได้ชื่อว่า “คนเจ้าเล่ห์”
สิ่งที่คนโง่วางแผนจะทำนั้นคือความบาป
    คนที่ชอบเยาะเย้ยเป็นที่น่าขยะแขยง
10 ถ้าเจ้าอ่อนแอในยามคับขัน
    เจ้าก็เป็นคนอ่อนแอจริงๆ
11 ให้ช่วยเหลือคนเหล่านั้นที่กำลังถูกนำไปฆ่า
    และอย่าได้ยั้งมือที่จะช่วยเหลือคนที่กำลังโซซัดโซเซไปให้เขาฆ่า
12 เพราะถ้าเจ้าพูดว่า “ดูสิ พวกเราไม่รู้เรื่องนี้เลย”
    พระเจ้าผู้ทดสอบใจจะไม่รู้เรื่องเชียวหรือ
    พระองค์ผู้เฝ้าสังเกตเจ้าจะไม่รู้หรือ
    พระองค์จะไม่ตอบแทนแต่ละคนตามการกระทำของเขาหรือ
13 ลูกจ๋า กินน้ำผึ้งนะ เพราะว่ามันดี
    และรวงผึ้งนั้นมีรสชาติหวานต่อลิ้นของเจ้า
14 และให้รู้ไว้ด้วยว่าสติปัญญานั้นก็หวานต่อจิตวิญญาณของเจ้า
    ถ้าเจ้าหามันพบ เจ้าก็จะมีอนาคตที่ดี
    และเจ้าจะสมหวัง
15 อย่าทำเหมือนคนร้ายที่หมอบซุ่มอยู่คอยปล้นบ้านคนดี
    อย่าจู่โจมบ้านของคนดีนั้น
16 เพราะคนดีถึงจะล้มลงเจ็ดครั้ง ก็จะลุกขึ้นมาได้ทั้งเจ็ดครั้ง
    แต่คนชั่วเมื่อถูกความหายนะเล่นงานแค่ครั้งเดียว ก็จบกัน
17 เมื่อศัตรูของเจ้าล้มลง ก็อย่าได้สะใจ
    เมื่อเขาถูกโค่นลงก็อย่าได้ดีใจ
18 ไม่อย่างนั้นเมื่อพระยาห์เวห์เห็น พระองค์จะไม่พอใจ
    และหันความโกรธไปจากศัตรูของเจ้า
19 อย่าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟต่อคนทำชั่ว
    แล้วอย่าไปอิจฉาคนเลวเลย
20 เพราะคนชั่วนั้นไม่มีอนาคต
    ตะเกียงของคนเลวจะถูกดับวูบไป
21 ลูกเอ๋ย ให้ยำเกรงพระยาห์เวห์และกษัตริย์
    และอย่าได้กบฏต่อทั้งสองพระองค์นั้น
22 เพราะทั้งสองพระองค์สามารถส่งความหายนะมาสู่เจ้า อย่างไม่ทันตั้งตัว
    แล้วใครจะรู้ว่าความล่มจมที่ทั้งสองจะนำมานั้นจะขนาดไหน

คำพูดอื่นๆของคนฉลาด

23 นี่ก็เป็นคำพูดของคนฉลาดด้วยคือ
    การตัดสินที่ลำเอียงเป็นสิ่งที่ไม่ดี
24 ชนชาติต่างๆจะสาปแช่งและประณาม
    พวกผู้พิพากษาที่ตัดสินคนชั่วว่า “เป็นผู้บริสุทธิ์”
25 ผู้คนจะอวยพรพวกผู้พิพากษาที่ตัดสินลงโทษคนผิด
    พวกผู้พิพากษาเหล่านั้นจะได้ดี
26 คำตอบที่ซื่อตรง
    ให้ความสุขเหมือนกับการจูบที่ริมฝีปาก
27 ก่อนอื่น เตรียมทุ่งนาให้พร้อม
    แล้วหว่านพืชให้เสร็จ
    แล้วค่อยปลูกบ้านของเจ้า
28 อย่าได้เป็นพยานปรักปรำเพื่อนบ้านในเมื่อเขาไม่ได้ทำอะไรผิด
    และอย่าพูดหลอกลวง
29 อย่าพูดว่า “ข้าจะทำกับมัน อย่างที่มันทำกับข้า
    ข้าจะแก้แค้นมันให้สาสมกับที่มันทำกับข้า”
30 เราผ่านไร่นาของคนขี้เกียจ
    และผ่านไร่องุ่นของคนโง่
31 มีแต่หนามขึ้นเต็มไปหมด
    หญ้าก็รกปิดหน้าดิน
    ส่วนกำแพงหินก็พังทลายลง
32 เรามองดู และครุ่นคิดในใจ
    เราสังเกต และได้บทเรียนนี้ว่า
33 นอนสักนิด งีบสักหน่อย
    กอดอกพักสักครู่
34 แล้วความจนก็จะจู่โจมเข้ามาหาเจ้าอย่างโจร
    ความอดอยากจะจู่โจมเข้ามาอย่างคนที่ติดอาวุธ

2 โครินธ์ 8

เปาโลขอให้พี่น้องบริจาคเงิน

พี่น้องครับ ตอนนี้เราอยากให้พวกคุณรู้ว่า พระเจ้าเมตตากรุณาต่อหมู่ประชุมต่างๆของพระองค์ในแคว้นมาซิโดเนียขนาดไหน ถึงแม้พวกเขาจะยากจนและถูกทดสอบอย่างหนักด้วยความทุกข์มากมาย แต่พวกเขาก็มีความสุขจนล้นพ้นออกมาเป็นใจที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ผมรับรองว่าพวกเขาให้จนสุดกำลัง อันที่จริงเกินกำลังด้วยซ้ำ และให้ด้วยความสมัครใจด้วย พวกเขารบเร้าขอมีส่วนร่วมในการบริจาคช่วยเหลือคนที่เป็นของพระเจ้า พวกเขาให้อย่างเกินคาด คือให้ชีวิตของพวกเขากับองค์เจ้าชีวิตก่อน แล้วจากนั้นถึงได้ให้กับเราอย่างที่พระเจ้าต้องการ นี่เป็นเหตุที่เราได้ขอร้องให้ทิตัสไปช่วยพวกคุณจัดการกับเงินบริจาคนี้ให้เสร็จ เพราะเขาเป็นคนเริ่มชักชวนคุณให้บริจาคตั้งแต่แรก ในเมื่อพวกคุณเป็นเลิศไปซะทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเชื่อ คำพูด ความรู้ ความกระตือรือร้น หรือความรักที่คุณเรียนรู้จากเรา ก็ขอให้เป็นเลิศในเรื่องการบริจาคด้วย

ผมไม่ได้สั่งให้คุณทำนะครับ ผมแค่อยากจะเปรียบเทียบความรักของคุณกับความกระตือรือร้นของคนอื่น จะทดสอบดูว่าความรักของคุณนั้นแท้หรือเปล่า พวกคุณก็รู้กันอยู่แล้วถึงความเมตตากรุณาของพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา ที่ว่าถึงแม้พระองค์ร่ำรวย แต่ก็ยอมยากจนเพื่อเป็นประโยชน์กับคุณ พระองค์ยอมยากจนเพื่อคุณจะได้ร่ำรวย

10 ในเรื่องนี้ผมขอแนะนำสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ เมื่อปีที่แล้ว พวกคุณเป็นพวกแรกเลยที่อยากจะช่วย และได้ช่วยเป็นพวกแรกด้วย 11 ตอนนี้ ก็น่าจะทำให้สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก และให้ช่วยตามกำลังที่มีอยู่ 12 ถ้าคุณมีใจพร้อมที่จะให้อยู่แล้ว พระเจ้าก็จะยอมรับสิ่งที่คุณให้ตามความสามารถที่คุณมี ไม่ใช่เกินความสามารถของคุณ 13 ไม่อยากให้คุณไปช่วยคนอื่นแล้วตัวเองต้องมาเดือดร้อนแทน ผมแค่อยากจะให้ช่วยเหลือกันไปช่วยเหลือกันมาเท่านั้น 14 ผมตั้งใจว่าตอนนี้คุณมีเหลือเฟือขอให้แบ่งไปช่วยคนที่ขัดสนบ้าง เกิดวันหลังเขามีเหลือเฟือและคุณเกิดขัดสนขึ้นมา เขาก็จะได้มาช่วยคุณเหมือนกัน อย่างนี้ก็เป็นการช่วยเหลือกันไปช่วยเหลือกันมา 15 เหมือนกับที่พระคัมภีร์พูดไว้ว่า

“คนที่เก็บไว้มาก ก็ไม่ได้มีเหลือเฟือ
    ส่วนคนที่เก็บไว้น้อย ก็ไม่ได้ขาดแคลน”[a]

ทิตัสและเพื่อนร่วมเดินทาง

16 ผมห่วงใยพวกคุณมาก ขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ก็ใส่ความห่วงใยมากขนาดนั้นไว้ในใจของทิตัสด้วย ทำให้เขาอยากจะช่วยพวกคุณเหมือนกัน 17 เราขอให้ทิตัสมาเยี่ยมพวกคุณ และเขาก็ยินดีทำตามนั้น จริงๆแล้วเขาก็อยากจะมาเยี่ยมคุณอยู่แล้ว 18 เราส่งพี่น้องคนหนึ่งมาพร้อมกับเขาด้วย พี่น้องคนนี้เป็นคนที่มีชื่อเสียงดีตามหมู่ประชุมต่างๆของพระเจ้าในด้านการประกาศข่าวดี 19 นอกจากนี้ หมู่ประชุมต่างๆได้เลือกเขาให้เดินทางมากับพวกเราเพื่อนำเงินที่เรารับผิดชอบอยู่ไปบริจาคครั้งนี้ การบริจาคนี้ทำเพื่อถวายเกียรติให้กับองค์เจ้าชีวิต และทำให้คนเห็นว่าเราเต็มใจที่จะช่วย

20 เราระมัดระวังมากในการจัดการกับเงินบริจาคก้อนโตนี้ เพราะไม่อยากให้ใครมาติได้ 21 คือเราเป็นห่วงเรื่องชื่อเสียง อยากจะให้มันดีไม่ใช่เฉพาะกับองค์เจ้าชีวิตเท่านั้น แต่กับคนอื่นๆด้วย

22 เราก็เลยส่งพี่น้องอีกคนหนึ่งมาพร้อมกับพวกเขาด้วย พี่น้องคนนี้แสดงให้เราเห็นหลายครั้งแล้วว่าเขาอยากจะช่วย ยิ่งตอนนี้เขายิ่งอยากจะช่วยมากขึ้น เพราะเขามีความเชื่อมั่นในพวกคุณมากขึ้น

23 ถ้ามีใครถามเกี่ยวกับทิตัส ผมขอบอกว่า เขาเป็นหุ้นส่วนและเพื่อนร่วมงานของผมที่ส่งมาช่วยพวกคุณ และถ้ามีใครถามเกี่ยวกับพี่น้องสองคนนี้ ผมขอบอกว่า พวกเขาเป็นตัวแทนของหมู่ประชุมต่างๆและเป็นคนที่นำเกียรติมาให้กับพระคริสต์ด้วย 24 ดังนั้นให้พิสูจน์ความรักของคุณให้พวกเขาเห็นด้วย และให้เขาเห็นว่าที่เราโอ้อวดในเรื่องของคุณนั้นเป็นจริง เพื่อหมู่ประชุมของพระเจ้าจะได้เห็น

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International