Book of Common Prayer
อธิษฐานขอชัยชนะให้กับกษัตริย์
ถึงหัวหน้านักร้อง เพลงสดุดีของดาวิด
20 เมื่อท่านตกอยู่ในความทุกข์ยาก ขอให้พระยาห์เวห์ตอบคำร้องขอของท่าน
ขอให้พระเจ้าแห่งยาโคบปกป้องคุ้มครองท่าน
2 ขอให้พระองค์ส่งความช่วยเหลือมาให้กับท่านจากวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
ขอพระองค์สนับสนุนค้ำจุนท่านจากภูเขาศิโยน
3 ขอให้พระองค์ระลึกถึงเครื่องถวายทั้งสิ้นของท่าน
ขอให้พระองค์ยอมรับเครื่องเผาบูชาของท่าน เซลาห์
4 ขอให้พระองค์ให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ใจท่านอยากได้
ขอให้พระองค์ทำให้แผนการของท่านประสบผลสำเร็จ
5 แล้วเราจะร่วมฉลองยินดีกับชัยชนะของท่าน
สรรเสริญชื่อของพระเจ้าของเรา
และขอให้พระยาห์เวห์ให้ทุกสิ่งที่ท่านร้องขอด้วยเถิด
6 ตอนนี้ ข้าพเจ้าแน่ใจแล้วว่า พระยาห์เวห์จะนำชัยชนะมาสู่กษัตริย์ที่พระองค์เลือก
พระองค์จะตอบกษัตริย์องค์นั้นจากสวรรค์อันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
พระองค์จะนำชัยชนะอันยิ่งใหญ่มาสู่เขาด้วยมือขวาของพระองค์
7 บางคนโอ้อวดรถรบของพวกเขา บางคนโอ้อวดม้าของเขา
แต่พวกเราโอ้อวดพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเรา
8 คนพวกนั้นจะล้มลงและพ่ายแพ้
แต่พวกเราจะลุกขึ้นและยืนหยัดมั่นคง
9 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ช่วยให้ชัยชนะกับกษัตริย์ด้วยเถิด
และช่วยตอบพวกเราด้วย เมื่อเราร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์
ขอบคุณพระยาห์เวห์สำหรับชัยชนะของกษัตริย์
ถึงหัวหน้านักร้อง เพลงสดุดีของดาวิด
21 ข้าแต่พระยาห์เวห์ กษัตริย์องค์นั้นดีใจมากในพละกำลังของพระองค์
ท่านชื่นชมยินดีมากที่พระองค์ช่วยให้ท่านได้รับชัยชนะ
2 พระองค์ให้กับท่านตามที่ใจท่านอยากได้
พระองค์ไม่ได้หน่วงเหนี่ยวสิ่งที่ริมฝีปากท่านขอ เซลาห์
3 พระองค์ให้พระพรที่ดีๆกับท่าน
พระองค์สวมมงกุฎทองคำบนศีรษะของท่าน
4 กษัตริย์องค์นั้นขอชีวิตจากพระองค์
พระองค์ก็มอบชีวิตที่ยืนยาวไปตลอดให้กับท่าน
5 เกียรติยศของท่านนั้นยิ่งใหญ่เพราะชัยชนะที่พระองค์มอบให้แก่ท่าน
พระองค์สวมรัศมีและบารมีให้กับท่าน
6 พระองค์อวยพรให้กับท่านอยู่ตลอดเวลา
ที่พระองค์อยู่กับท่านนั้นทำให้ท่านมีความสุขอย่างล้นพ้น
7 กษัตริย์ไว้วางใจในพระยาห์เวห์
ความรักมั่นคงของพระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุดทำให้ท่านไม่หวั่นไหว
8 ท่านจะใช้มือของท่านจับพวกศัตรูของท่าน
และใช้มือขวาของท่านจับคนเหล่านั้นที่เกลียดชังท่าน
9 เมื่อท่านมาถึง ท่านจะเผาผลาญพวกเขาเหมือนกับเตาไฟ
พระยาห์เวห์จะเผาผลาญพวกเขาด้วยความโกรธ ไฟนั้นจะกลืนพวกเขา
10 ท่านจะทำลายพวกลูกหลานของเขาจนหมดไปจากโลกนี้
ท่านจะทำลายเผ่าพันธุ์ของเขาจนหมดไปจากมนุษยชาติ
11 ถึงแม้ว่าเขาได้วางแผนร้ายต่อท่าน
และวางแผนทำร้ายท่าน แต่พวกเขาจะทำไม่สำเร็จ
12 ท่านจะทำให้พวกเขาหันหลังหนีไป
เมื่อท่านยิงลูกธนูใส่หน้าพวกเขา
13 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ลุกขึ้นด้วยฤทธิ์เดชของพระองค์ด้วยเถิด
เราจะร้องเพลงและสรรเสริญความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของพระองค์
พระยาห์เวห์ให้คำสัญญากับกษัตริย์
เพลงสดุดีของดาวิด
110 พระยาห์เวห์ พูดกับกษัตริย์องค์เจ้าชีวิตของข้าพเจ้าว่า
“นั่งลงทางขวามือของเรา จนกว่าเราจะทำให้ศัตรูของเจ้ากลายเป็นที่รองเท้าของเจ้า”
2 พระยาห์เวห์จะแผ่ขยายอำนาจของท่านออกไปจากเมืองศิโยน
และท่านจะได้ปกครองอยู่เหนือพวกศัตรูของท่าน
3 คนของท่านจะสมัครใจเข้าร่วมกับท่านในวันศึกสงครามบนพวกเนินเขาอันศักดิ์สิทธิ์นั้น
คนหนุ่มของท่านจะมาหาท่านเหมือนกับน้ำค้างในตอนเช้า[a]
4 พระยาห์เวห์ได้สาบานไว้และพระองค์จะไม่เปลี่ยนใจ ที่ว่า
“ท่านจะเป็นนักบวชตลอดไปเหมือนกับเมลคีเซเดค”
5 องค์เจ้าชีวิตยืนอยู่ทางด้านขวาของท่าน
พระองค์จะฟาดพวกกษัตริย์ให้แตกละเอียดในวันที่พระองค์โกรธ
6 พระองค์จะลงโทษชนชาติทั้งหลาย
และทำให้ชนชาติเหล่านั้นเต็มไปด้วยซากศพ
พระองค์จะฟาดหัวคนทั่วแผ่นดินโลกให้แตกละเอียด
7 กษัตริย์จะดื่มน้ำจากลำธารข้างทาง
แล้วท่านก็จะเชิดหน้าในชัยชนะ
คำสรรเสริญจากคนที่พระยาห์เวห์ช่วยกู้จากความตาย
116 ข้าพเจ้ารักพระยาห์เวห์ เพราะพระองค์ฟังเสียงของข้าพเจ้า
และฟังคำอ้อนวอนต่างๆของข้าพเจ้า
2 พระองค์เงี่ยหูฟังข้าพเจ้า
ดังนั้นข้าพเจ้าจะร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์ตราบเท่าที่ข้าพเจ้ายังมีชีวิตอยู่
3 ครั้งหนึ่งเชือกแห่งความตายได้มัดตัวข้าพเจ้าไว้
ข้าพเจ้าติดอยู่ในบ่วงแห่งแดนผู้ตาย
ข้าพเจ้าเดือดร้อนและทนทุกข์ทรมาน
4 ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงร้องขอความช่วยเหลือจากพระยาห์เวห์ว่า
“ข้าแต่พระยาห์เวห์ ได้โปรดเถิดช่วยชีวิตของข้าพเจ้าด้วย”
5 พระยาห์เวห์นั้นมีน้ำใจและทำในสิ่งที่ถูกต้อง
พระเจ้าของเรานั้นเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณา
6 พระองค์ปกป้องคนที่อ่อนต่อโลก
และเมื่อข้าพเจ้าหมดสิ้นหนทาง พระองค์ก็ช่วยกู้ข้าพเจ้าไว้
7 ดังนั้นจิตใจของข้าพเจ้าเอ๋ย
สงบนิ่งอย่างเดิมได้แล้ว เพราะพระยาห์เวห์นั้นได้ดูแลเจ้าแล้ว
8 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ช่วยชีวิตข้าพเจ้าให้พ้นจากความตาย
ช่วยดวงตาของข้าพเจ้าให้พ้นจากหยาดน้ำตา
ช่วยเท้าของข้าพเจ้าให้พ้นจากการสะดุดล้ม
9 ข้าพเจ้าจะรับใช้พระยาห์เวห์ต่อไป
ในดินแดนของคนเป็นนี้
10 ข้าพเจ้าได้ไว้วางใจในพระยาห์เวห์ แม้แต่ตอนที่ข้าพเจ้าพูดว่า
“ข้าพเจ้าเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส”
11 หรือแม้แต่ในตอนที่ข้าพเจ้ากลัดกลุ้ม
และพูดว่า “มนุษย์ทุกคนหลอกลวง”
12 ข้าพเจ้าจะตอบแทนพระยาห์เวห์อย่างไรดี
ให้สมกับสิ่งดีๆที่พระองค์ทำให้กับข้าพเจ้า
13 พระองค์ช่วยกู้ข้าพเจ้า ดังนั้นข้าพเจ้าจะถวายเหล้าองุ่นเป็นเครื่องบูชา
ข้าพเจ้าจะประกาศถึงสิ่งต่างๆที่พระยาห์เวห์ได้ทำ
14 ข้าพเจ้าจะแก้บนทั้งหลายต่อพระยาห์เวห์
ต่อหน้าคนทั้งหมดของพระองค์
15 ชีวิตของคนที่ซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์นั้นมีค่ามากในสายตาของพระองค์
เมื่อพวกเขาเผชิญกับความตาย พระองค์ก็เป็นห่วงมาก
16 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้คนหนึ่งของพระองค์
ใช่แล้ว ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้คนหนึ่งของพระองค์ เป็นเด็กที่เกิดจากสาวใช้คนหนึ่งของพระองค์
พระองค์ได้ปลดปล่อยข้าพเจ้าจากโซ่ตรวนแห่งความตาย
17 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าจะถวายเครื่องบูชาขอบคุณแด่พระองค์
ข้าพเจ้าจะให้เกียรติกับชื่อของพระยาห์เวห์
18 ข้าพเจ้าจะแก้บนทั้งหลายต่อพระยาห์เวห์
ต่อหน้าคนทั้งหมดของพระองค์
19 ข้าพเจ้าจะทำอย่างนี้
ในบริเวณลานวิหารของพระยาห์เวห์ที่อยู่ใจกลางเมืองเยรูซาเล็ม
สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
117 ชนชาติทั้งหลายเอ๋ย สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
ประชาชาติทั้งหลายเอ๋ย ถวายเกียรติแด่พระองค์เถิด
2 เพราะความรักมั่นคงที่พระองค์มีต่อพวกเรานั้นยิ่งใหญ่
และความสัตย์ซื่อของพระยาห์เวห์นั้นจะคงอยู่ตลอดไป
สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
31 มีคนได้ยินเรื่องที่ดาวิดพูด แล้วไปรายงานต่อซาอูล ซาอูลก็เลยเรียกดาวิดมาพบ 32 ดาวิดพูดกับซาอูลว่า “อย่าปล่อยให้ผู้คนต้องเสียขวัญและกำลังใจกับเรื่องของชาวฟีลิสเตียคนนี้ ให้ผู้รับใช้ของท่านคนนี้ออกไปสู้กับมันเถอะ”
33 ซาอูลตอบว่า “เจ้าออกไปสู้กับคนฟีลิสเตียคนนั้นไม่ได้หรอก เจ้าเป็นแค่เด็กหนุ่ม[a] คนหนึ่งเท่านั้น แต่เขาเป็นชายที่ชำนาญศึกมาตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มๆ”
34 แต่ดาวิดตอบซาอูลว่า “ข้าพเจ้า ผู้รับใช้ของท่านคนนี้ เคยดูแลแกะให้กับพ่อของข้าพเจ้า เมื่อมีสิงโตหรือหมีมาจับแกะไปจากฝูง 35 ข้าพเจ้าก็ไล่ตามไปช่วยชีวิตแกะจากปากของมัน เมื่อสัตว์พวกนั้นย้อนกลับมา ข้าพเจ้าก็ดึงหนวดเครามัน แล้วฆ่ามันเสีย 36 ข้าพเจ้าเคยฆ่าทั้งสิงโตและหมี ส่วนคนฟีลิสเตียที่ไม่ได้เข้าพิธีขลิบคนนี้ ก็จะเป็นเหมือนกับสัตว์พวกนั้น เพราะเขาได้ท้าทายกองทัพของพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่ 37 พระยาห์เวห์ได้ช่วยกู้ข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากเขี้ยวเล็บสิงโตและหมี พระองค์ก็จะช่วยกู้ข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของคนฟีลิสเตียคนนี้ด้วยเหมือนกัน”
ซาอูลจึงบอกกับดาวิดว่า “ไปเถอะ และขอให้พระยาห์เวห์สถิตอยู่กับเจ้า” 38 จากนั้นซาอูลก็เอาเสื้อของเขามาสวมให้กับดาวิดและเอาหมวกทองสัมฤทธิ์มาใส่ไว้บนหัวของดาวิด และยังให้เสื้อคลุมชุดเกราะกับเขาอีกด้วย 39 ดาวิดเอาดาบของซาอูลมาคาดทับเสื้อคลุมแล้วลองเดินดู เพราะไม่ชินกับพวกมัน แล้วดาวิดพูดกับซาอูลว่า “ข้าพเจ้าใส่ชุดพวกนี้ไม่ได้หรอก เพราะข้าพเจ้าไม่ชินกับพวกมัน” เขาจึงถอดพวกมันออก 40 จากนั้นดาวิดก็หยิบไม้เท้ามาถือ แล้วเลือกลูกหินเกลี้ยงๆมาห้าก้อนจากลำธารแห้ง แล้วเอาใส่ไว้ในถุงที่ใช้เลี้ยงแกะของเขา กับถือสลิงในมือของเขา เพื่อไปพบคนฟีลิสเตีย
ดาวิดฆ่าโกลิอัท
41 ชาวฟีลิสเตียคนนั้นได้เดินเข้ามาใกล้ดาวิด โดยมีคนถือโล่ของเขาเดินนำหน้า 42 เขามองดูดาวิดและดูถูก เพราะเห็นเป็นแค่เด็กหนุ่มคนหนึ่ง มีผิวแดง[b] และหน้าตาหล่อเหลา 43 คนฟีลิสเตียพูดกับดาวิดว่า “ข้าเป็นหมาหรือยังไง เจ้าถึงได้ถือไม้มาหาข้า” และเขายังอ้างชื่อพวกพระของเขาแช่งด่าดาวิด 44 เขาพูดว่า “มานี่มา ข้าจะเอาเนื้อเจ้าเป็นอาหารเลี้ยงนกบนฟ้า และเลี้ยงสัตว์ในทุ่งหญ้า”
45 ดาวิดพูดกับคนฟีลิสเตียคนนั้นว่า “เจ้ามาสู้กับข้าด้วยดาบและหอกและหลาว แต่ข้าจะสู้กับเจ้าในนามของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าแห่งกองทัพอิสราเอล ผู้ที่เจ้าท้าทาย
46 วันนี้แหละ พระยาห์เวห์จะให้เจ้าตกอยู่ในกำมือของข้า ข้าจะโค่นเจ้าและตัดหัวเจ้าทิ้ง วันนี้ข้าจะเอาซากศพของกองทัพฟีลิสเตียเลี้ยงนกบนท้องฟ้าและสัตว์ป่าแห่งแผ่นดิน เพื่อทั้งโลกจะได้รู้ว่ามีพระเจ้าอยู่ในอิสราเอล 47 ทุกคนที่มาอยู่รวมกันที่นี่จะได้รู้ว่าพระยาห์เวห์ไม่ได้ช่วยกู้ โดยใช้ดาบหรือหอก เพราะการศึกเป็นของพระยาห์เวห์ และพระยาห์เวห์จะมอบพวกเจ้าไว้ในกำมือของพวกเรา”
48 และชาวฟีลิสเตียคนนั้นได้เข้ามาใกล้เพื่อสู้รบกับดาวิด ดาวิดก็วิ่งอย่างเร็วจากแนวรบเข้าหาเขา 49 และล้วงหินก้อนหนึ่งจากถุง แล้วเหวี่ยงหินก้อนนั้นด้วยสายสลิงโดนหน้าผากของคนฟีลิสเตียคนนั้น ก้อนหินจมเข้าไปในหน้าผากของเขา และเขาก็ล้มหน้าคว่ำลงกับพื้น
เปโตรกลับเมืองเยรูซาเล็ม
11 พวกศิษย์เอกและพวกพี่น้องที่อยู่ทั่วแคว้นยูเดียได้ยินว่า คนที่ไม่ใช่ยิวยอมรับพระคำของพระเจ้าด้วยเหมือนกัน 2 ดังนั้นเมื่อเปโตรกลับมาที่เมืองเยรูซาเล็ม ชาวยิวก็พากันต่อว่าเขา 3 ว่า “คุณเข้าไปในบ้านของพวกที่ไม่ได้เข้าพิธีขลิบ และยังกินอาหารร่วมกับพวกเขาด้วย”
4 เปโตรจึงเริ่มอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้พวกเขาฟังว่า 5 “ตอนที่ผมกำลังอธิษฐานอยู่ที่เมืองยัฟฟานั้น ผมเคลิ้มไปและได้เห็นนิมิต มีสิ่งที่ดูเหมือนกับผ้าผืนใหญ่ลอยลงมา ผ้าผืนนั้นถูกยึดไว้ทั้งสี่มุมหย่อนลงมาหาผมจากฟ้า 6 ผมจ้องเข้าไปในผ้าผืนนั้นอย่างจดจ่อ ก็เห็นสัตว์บกสี่เท้า สัตว์ป่า สัตว์เลื้อยคลานและพวกนกต่างๆ 7 แล้วผมก็ได้ยินเสียงพูดว่า ‘ลุกขึ้นเปโตร ฆ่าสัตว์พวกนี้กินสิ’ 8 แต่ผมตอบว่า ‘ไม่ได้หรอกองค์เจ้าชีวิต ผมไม่เคยกินของต้องห้ามหรือแปดเปื้อนตามกฎของโมเสส อย่างสัตว์พวกนี้เลย’ 9 มีเสียงพูดจากท้องฟ้าเป็นครั้งที่สองว่า ‘สิ่งที่พระเจ้าทำให้สะอาดแล้ว เจ้าไม่ควรถือว่าไม่สะอาด’ 10 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแบบเดียวกันถึงสามครั้ง แล้วทุกอย่างก็ถูกดึงกลับขึ้นไปบนท้องฟ้า 11 ทันใดนั้นก็มีคนสามคนมาถึงบ้านที่ผมอยู่ พวกเขาถูกส่งมาจากเมืองซีซารียาเพื่อมาหาผม 12 พระวิญญาณบอกให้ผมไปกับพวกเขาโดยไม่ต้องลังเล พี่น้องทั้งหกคนนี้จึงไปกับผมด้วย และพวกเราเข้าไปในบ้านของโครเนลิอัส 13 โครเนลิอัสบอกพวกเราว่า เขาได้เห็นทูตสวรรค์ยืนอยู่ในบ้านของเขาและพูดว่า ‘ให้ส่งคนไปที่เมืองยัฟฟา ไปพาซีโมนที่คนเรียกว่าเปโตรมา 14 เขาจะบอกข่าวสารที่จะทำให้ท่านและสมาชิกในครอบครัวของท่านได้รับความรอด’ 15 เมื่อผมเริ่มพูด พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ลงมาบนพวกเขา เหมือนกับที่มาหาพวกเราในตอนเริ่มต้น[a] 16 ทำให้ผมคิดได้ถึงสิ่งที่องค์เจ้าชีวิตพูดไว้ว่า ‘ยอห์นได้ทำพิธีจุ่มด้วยน้ำ แต่พวกเจ้าจะได้เข้าพิธีจุ่มด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์’ 17 ดังนั้นถ้าพระเจ้าให้ของขวัญกับพวกเขาแบบเดียวกับที่พระองค์ให้กับพวกเราตอนที่พวกเราไว้วางใจในพระเยซูผู้เป็นพระคริสต์และองค์เจ้าชีวิตแล้วละก็ ผมเป็นใครล่ะ ที่จะไปขัดขวางพระเจ้า”
18 เมื่อพวกชาวยิวที่ไว้วางใจในพระเยซูได้ยินอย่างนั้น พวกเขาก็เลิกต่อว่าเปโตร แล้วต่างสรรเสริญพระเจ้าว่า “ถ้าอย่างนั้น พระเจ้าก็ได้ให้โอกาส แม้แต่คนที่ไม่ใช่ยิว ที่จะกลับตัวกลับใจเสียใหม่เพื่อจะได้มีชีวิตรอดด้วย”
พระเยซูเริ่มงานของพระองค์
(มธ. 4:12-17; ลก. 4:14-15)
14 หลังจากที่ยอห์นถูกจับขังคุก พระเยซูไปที่แคว้นกาลิลีและเริ่มประกาศข่าวดีของพระเจ้า 15 พระองค์ประกาศว่า “ถึงเวลาแล้ว อาณาจักรของพระเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว[a] กลับตัวกลับใจเสียใหม่และเชื่อในข่าวดีนี้สิ”
พระเยซูเลือกลูกศิษย์
(มธ. 4:18-22; ลก. 5:1-11)
16 ขณะที่พระเยซูเดินอยู่ริมฝั่งทะเลสาบกาลิลี พระองค์เห็นเปโตร[b] กับอันดรูว์น้องชายของเขากำลังเหวี่ยงแหจับปลากันอยู่ เพราะพวกเขาเป็นชาวประมง 17 พระองค์พูดกับพวกเขาว่า “ตามเรามาเถอะ แล้วเราจะสอนให้จับคนแทนจับปลา” 18 พวกเขาจึงทิ้งแหและตามพระเยซูไปทันที
19 พระองค์เดินต่อไปอีกนิดหนึ่ง ก็เห็นยากอบลูกชายของเศเบดีกับยอห์นน้องชายของเขากำลังซ่อมแซมแหอยู่ 20 ทันใดนั้นพระองค์เรียกพวกเขา ทั้งสองได้ปล่อยให้พ่อของเขาอยู่ในเรือกับพวกลูกจ้าง แล้วตามพระองค์ไป
พระเยซูไล่ผีชั่ว
(ลก. 4:31-37)
21 พระเยซูกับพวกศิษย์เข้าไปในเมืองคาเปอรนาอุม เมื่อถึงวันหยุดทางศาสนา พระเยซูเข้าไปในที่ประชุมชาวยิว และเริ่มสั่งสอน 22 ผู้คนทึ่งในคำสอนของพระองค์มาก เพราะพระองค์สอนอย่างคนที่มีสิทธิอำนาจ ซึ่งไม่เหมือนกับพวกครูสอนกฎปฏิบัติคนอื่นๆ 23 แล้วจู่ๆก็มีชายคนหนึ่งในที่ประชุมที่มีผีชั่วสิงอยู่ร้องตะโกนขึ้นมาว่า 24 “เยซูชาวนาซาเร็ธ มายุ่งกับพวกเราทำไม จะมาทำลายพวกเราเหรอ เรารู้นะว่าท่านเป็นใคร ท่านเป็นองค์พระผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า”
25 พระเยซูด่ามันว่า “หุบปาก แล้วออกมาซะ” 26 เจ้าผีชั่วจึงทำให้ชายที่มันสิงอยู่ ชักดิ้นชักงอและกรีดร้องเสียงดัง แล้วก็ออกจากร่างเขาไป
27 ทุกคนประหลาดใจมากถามกันอื้ออึงไปหมดว่า “เกิดอะไรขึ้น นี่ต้องเป็นคำสอนใหม่ที่เต็มไปด้วยฤทธิ์เดชแน่ๆ ขนาดพวกผีชั่วยังเชื่อฟังเขาเลย” 28 แล้วชื่อเสียงของพระองค์ก็ดังกระฉ่อนไปทั่วแคว้นกาลิลี
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International