Old/New Testament
นมัสการพระยาห์เวห์ด้วยความร่าเริง
บทเพลงสดุดี แห่งการขอบพระคุณ
1 ทั่วทั้งแผ่นดินโลกเอ๋ย
โห่ร้องด้วยความยินดีให้กับพระยาห์เวห์
2 ให้นมัสการพระยาห์เวห์ด้วยความร่าเริง
และเข้ามาร้องเพลงด้วยความชื่นบานต่อหน้าพระองค์
3 ให้รู้ไว้เถิดว่า พระยาห์เวห์ เป็นพระเจ้า
พระองค์สร้างเราขึ้นมา เราจึงเป็นของพระองค์
เราเป็นชนชาติของพระองค์ เป็นแกะในทุ่งหญ้าของพระองค์
4 ให้ผ่านประตูทั้งหลายของพระองค์เข้ามาด้วยการขอบคุณ
ให้เข้ามาในลานวิหารทั้งหลายของพระองค์ด้วยการสรรเสริญ
ให้ขอบคุณพระองค์และสรรเสริญชื่อของพระองค์เถิด
5 เพราะพระยาห์เวห์นั้นดี
ความรักมั่นคงของพระองค์อยู่ตลอดไป
ความสัตย์ซื่อของพระองค์จะคงอยู่ทุกชั่วอายุ
กษัตริย์สัญญาที่จะรักษาความยุติธรรม
บทเพลงสดุดีของดาวิด
1 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าร้องเพลงสรรเสริญนี้ให้กับพระองค์
และสรรเสริญพระองค์สำหรับความรักมั่นคง และความยุติธรรมของพระองค์
2 ข้าพเจ้าตั้งใจใช้ชีวิตอย่างบริสุทธิ์
เมื่อไหร่หนอพระองค์จะมาหาข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าจะทำหน้าที่ต่างๆของข้าพเจ้า
ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ในวังของข้าพเจ้า
3 ข้าพเจ้าจะไม่ยอมวางสิ่งชั่วร้ายใดๆไว้ต่อหน้าต่อตาข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าเกลียดการกระทำที่คดโกงทั้งหลายและข้าพเจ้าจะไม่ยอมให้สิ่งเหล่านั้นติดตัวข้าพเจ้าเลย
4 ขอให้ใจที่คดโกง ไปให้พ้นๆจากข้าพเจ้า
เพราะข้าพเจ้าจะไม่ยอมมีส่วนร่วมกับสิ่งชั่วร้าย
5 ข้าพเจ้าจะปิดปากคนที่ชอบแอบใส่ร้ายเพื่อนบ้านของเขา
ข้าพเจ้าจะไม่ยอมอดกลั้นกับคนที่หยิ่งยโสและหลงตัวเอง
6 ข้าพเจ้ามองหาคนที่ไว้วางใจได้ในแผ่นดินที่จะมาทำงานให้กับข้าพเจ้า
เฉพาะคนที่มีชีวิตที่บริสุทธิ์เท่านั้นถึงจะให้มารับใช้ข้าพเจ้า
7 คนที่ชอบหลอกลวงและชอบหักหลังจะไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านของข้าพเจ้า
และคนขี้โกหกก็จะไม่มีทางได้รับใช้ข้าพเจ้า
8 ทุกๆเช้า ข้าพเจ้าจะกำจัดคนชั่วทั้งหมดไปจากแผ่นดิน
ข้าพเจ้าจะขับไล่คนชั่วพวกนั้นออกไปจากเมืองของพระยาห์เวห์
คำอธิษฐานของคนเดือดร้อน ในยามที่เขาอ่อนแอและระบายความทุกข์ใจออกมา ต่อหน้าพระยาห์เวห์
1 ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดฟังคำอธิษฐานของข้าพเจ้าด้วยเถิด
ขอให้เสียงร้องให้ช่วยของข้าพเจ้าไปถึงพระองค์ด้วยเถิด
2 โปรดอย่าซ่อนหน้าไปจากข้าพเจ้าในยามทุกข์ยากอย่างนี้เลย
โปรดเงี่ยหูฟังข้าพเจ้า
โปรดตอบข้าพเจ้าเร็วๆด้วยตอนที่ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือ
3 วันเวลาของข้าพเจ้าหายไปอย่างควัน
กระดูกของข้าพเจ้าถูกเผาเหมือนอยู่ในเตาไฟ
4 ใจของข้าพเจ้าห่อเหี่ยวไป[a] เหมือนหญ้าที่ถูกตัด
ข้าพเจ้าเบื่ออาหาร
5 ข้าพเจ้าร้องคร่ำครวญด้วยความทุกข์โศก
จนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก
6 ข้าพเจ้าเป็นเหมือนนกฮูกที่โดดเดี่ยวอยู่ในทะเลทราย
เป็นนกฮูกที่อยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง
7 ข้าพเจ้านอนไม่หลับ
ข้าพเจ้าเป็นเหมือนนกที่โดดเดี่ยวกระโดดไปมาอยู่บนหลังคา
8 วันทั้งวัน พวกศัตรูของข้าพเจ้าต่างพากันดูหมิ่นเหยียดหยามข้าพเจ้า
คนพวกนั้นที่หัวเราะเยาะข้าพเจ้าใช้ชื่อข้าพเจ้าเป็นคำสาปแช่ง
9 ข้าพเจ้าได้กินขี้เถ้าแทนอาหาร
และน้ำตาหยดลงไปผสมกับเครื่องดื่มของข้าพเจ้า
10 ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นก็เพราะพระองค์โกรธข้าพเจ้า
พระองค์หยิบข้าพเจ้าขึ้น แล้วโยนข้าพเจ้าทิ้งไป
11 ชีวิตของข้าพเจ้าเป็นแค่เงาที่กำลังเลือนรางไป
ข้าพเจ้ากำลังเหี่ยวแห้งไปเหมือนหญ้า
12 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์จะครอบครองบัลลังก์ตลอดไป
ชื่อเสียงของพระองค์จะคงอยู่ทุกยุคทุกสมัย
13 พระองค์จะลุกขึ้น และจะสงสารเมืองศิโยน
ถึงเวลาแล้วที่จะปลอบโยนนาง เวลาที่ได้กำหนดไว้มาถึงแล้ว
14 พวกผู้รับใช้ของพระองค์รักแม้แต่ก้อนหินของเมืองศิโยน
พวกเขาสงสารแม้แต่ฝุ่นบนถนนของนาง
15 แม้แต่ชนชาติอื่นๆก็ยังเกรงกลัวชื่อของพระยาห์เวห์
และกษัตริย์ของพวกเขาสรรเสริญพระบารมีของพระองค์
16 สิ่งนี้จะเกิดขึ้น เมื่อพระยาห์เวห์สร้างเมืองศิโยนขึ้นมาใหม่
ตอนที่พระองค์ปรากฏตัวขึ้นที่นั่นในสง่าราศีของพระองค์
17 พระยาห์เวห์จะใส่ใจในคำอธิษฐานของผู้ยากไร้
พระองค์ไม่ได้ดูถูกคำอธิษฐานของพวกเขา
18 ให้บันทึกเรื่องต่อไปนี้ไว้ให้กับคนรุ่นหลังอ่าน
เพื่อคนที่ยังไม่ได้เกิดมาจะได้สรรเสริญพระยาห์เวห์
19 ให้บันทึกว่าพระยาห์เวห์มองลงมาจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ที่อยู่เบื้องบน
พระองค์มองลงมาจากสวรรค์ลงมายังโลกนี้
20 เพื่อฟังเสียงร้องคร่ำครวญของพวกนักโทษ
และปลดปล่อยพวกนักโทษประหารให้เป็นอิสระ
21 แล้วประชาชนจะได้ประกาศในเมืองศิโยน
ถึงสิ่งที่พระยาห์เวห์ได้ทำและสรรเสริญพระองค์ในเยรูซาเล็ม
22 ตอนที่ชนชาติและอาณาจักรทั้งหลาย
มารวมตัวกันเพื่อนมัสการพระยาห์เวห์
23 พระองค์ตัดกำลังของข้าพเจ้าลงในวัยกลางคน
และชีวิตของข้าพเจ้าก็ถูกตัดให้สั้นลง
24 ดังนั้นข้าพเจ้าจึงพูดว่า “พระเจ้าของข้าพเจ้า ชีวิตของพระองค์นั้นจะยังคงอยู่ต่อไปทุกยุคทุกสมัย
ดังนั้นอย่าเพิ่งฆ่าข้าพเจ้าเลยเมื่อชีวิตข้าพเจ้ามาถึงแค่ครึ่งทาง
25 นานมาแล้ว พระองค์ได้ก่อตั้งโลกนี้ขึ้นมา
และได้สร้างฟ้าสวรรค์ขึ้นด้วยมือของพระองค์เอง
26 สิ่งเหล่านี้จะสูญสิ้นไปแต่พระองค์จะคงอยู่ตลอดไป
พวกมันทั้งหมดจะเปื่อยยุ่ยเหมือนเครื่องนุ่งห่ม
พระองค์จะเปลี่ยนมันเหมือนเสื้อผ้าและโยนมันทิ้งไป
27 แต่พระองค์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
และวันปีของพระองค์จะไม่มีวันสิ้นสุด
28 ลูกๆของพวกผู้รับใช้ของพระองค์จะตั้งรกรากอยู่ที่นี่
ลูกหลานของพวกเขาก็จะอาศัยอยู่อย่างปลอดภัยต่อหน้าพระองค์”
1 จากเปาโล คนที่พระเจ้าตัดสินใจเรียกให้มาเป็นศิษย์เอกของพระเยซูคริสต์ และจาก โสสเธเนส พี่น้องของเรา
2 ถึงหมู่ประชุมของพระเจ้าในเมืองโครินธ์ พระเจ้าทำให้พวกคุณเป็นของพระองค์เพราะพวกคุณได้เข้าส่วนในพระเยซูคริสต์ พระเจ้าเรียกคุณให้มาเป็นคนของพระองค์ เหมือนกับที่พระองค์ได้ทำกับทุกคนในทุกที่ ที่อธิษฐานในนามของพระเยซูคริสต์องค์เจ้าชีวิตของเขาและของเรา
3 ขอให้พระเจ้าพระบิดาของเรา และพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา ให้ความเมตตากรุณาและสันติสุขกับพวกคุณ
เปาโลขอบคุณพระเจ้า
4 ผมขอบคุณพระเจ้าของผมเสมอสำหรับพวกคุณ เพราะพระเจ้าเมตตากรุณาพวกคุณ ผ่านทางพระเยซูคริสต์ 5 ในพระเยซูคริสต์นั้น พระเจ้าอวยพรคุณอย่างล้นเหลือในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านคำพูดทุกชนิดหรือความรู้ทุกอย่าง 6 ที่พวกคุณเป็นอย่างนี้ ก็แสดงให้เห็นว่าทุกอย่างที่เราบอกเกี่ยวกับพระคริสต์นั้นเป็นความจริง 7 ตอนนี้คุณจึงมีพรสวรรค์ทุกอย่างที่พระเจ้าให้ โดยไม่ขาดอะไรเลย ในขณะที่คุณกำลังคอยพระเยซูคริสต์เจ้าของเรากลับมา 8 พระองค์จะทำให้คุณยืนหยัดมั่นคงอยู่ได้จนถึงที่สุด เพื่อคุณจะได้ไม่มีข้อเสื่อมเสียในวันที่พระเยซูคริสต์เจ้าของเรากลับมา 9 พระเจ้านั้นไว้ใจได้แน่นอน พระองค์เรียกให้พวกคุณเข้ามามีส่วนร่วมกับพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์
การแตกแยกในหมู่ประชุมที่เมืองโครินธ์
10 พี่น้องครับ ผมขอร้องพวกคุณในนามของพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา ขอให้สามัคคีกันไว้ อย่าแบ่งพรรคแบ่งพวกกันเลย แต่ขอให้มีแนวความคิดและเป้าหมายเดียวกัน 11 เพราะมีบางคนในพวกของนางคะโลเอ มาบอกผมว่า พวกคุณทะเลาะวิวาทกัน 12 ผมหมายถึงว่า พวกคุณต่างคนต่างก็พูดกันว่า “ผมเป็นของเปาโล” หรือ “ผมเป็นของอปอลโล” หรือ “ผมเป็นของเปโตร” หรือ “ผมเป็นของพระคริสต์” 13 พระคริสต์ถูกแยกออกเป็นกลุ่มๆแล้วหรือ เปาโลถูกตรึงบนไม้กางเขนเพื่อพวกคุณหรืออย่างไร พวกคุณเข้าพิธีจุ่มน้ำเพื่อจะเป็นของเปาโลหรืออย่างไร 14 ขอบคุณพระเจ้าที่ผมไม่ได้ทำพิธีจุ่มน้ำให้กับพวกคุณคนไหนเลย นอกจากคริสปัสกับกายอัส 15 จะได้ไม่มีใครพูดได้ว่า เขาเข้าพิธีจุ่มน้ำเพื่อเป็นของผม 16 (อ๋อนึกได้แล้ว ยังมีครอบครัวของสเทฟานัสด้วยที่ผมทำพิธีจุ่มน้ำให้ นอกจากนั้น ผมก็จำไม่ได้แล้วว่าทำให้กับใครอีกบ้าง) 17 เพราะพระคริสต์ไม่ได้ส่งผมมาทำพิธีจุ่มน้ำ แต่ส่งผมมาประกาศข่าวดีและไม่ใช่ด้วยคำพูดที่แสนฉลาด เพราะเกรงว่ากางเขนของพระคริสต์จะหมดฤทธิ์เดชไป
พระคริสต์คืออำนาจและสติปัญญาของพระเจ้า
18 คนที่กำลังจะพินาศนั้น ก็ถือว่าเรื่องของไม้กางเขนเป็นเรื่องโง่ แต่คนที่กำลังได้รับความรอดก็ถือว่าเป็นฤทธิ์เดชของพระเจ้า 19 เหมือนกับที่มีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า
“เราจะทำลายสติปัญญาของคนฉลาด
และเราจะทำให้ความเข้าใจของผู้รอบรู้ ไม่มีความหมายอะไรเลย”[a]
20 ไหนล่ะคนฉลาด ไหนล่ะคนสอนกฎบัญญัติ ไหนล่ะนักปราชญ์สมัยนี้ ไม่ใช่พระเจ้าหรอกหรือ ที่ทำให้เรารู้ว่าสติปัญญาของโลกนี้มันโง่เขลาขนาดไหน 21 มันเป็นแผนการอันเฉลียวฉลาดของพระเจ้า ที่จะไม่ให้โลกมารู้จักกับพระเจ้าด้วยการพึ่งความเฉลียวฉลาดของตัวมันเอง พระเจ้าจึงตัดสินใจที่จะใช้เรื่องราวที่ดูเหมือนโง่ๆที่เราได้ประกาศอยู่นี้ เพื่อช่วยคนที่ไว้วางใจให้รอด 22 คนยิวอยากเห็นปาฏิหาริย์[b] ส่วนคนกรีกก็มองหาสติปัญญา 23 แต่เราประกาศเรื่องพระคริสต์ที่ถูกตรึงตายบนไม้กางเขน คนยิวเลยสะดุดยอมรับไม่ได้ และคนที่ไมใช่ยิวก็ถือว่าเป็นเรื่องโง่ๆ 24 แต่สำหรับคนที่พระเจ้าเรียกมา ไม่ว่าจะเป็นยิวหรือกรีกต่างก็ถือว่าพระคริสต์คือฤทธิ์อำนาจและสติปัญญาของพระเจ้า 25 เพราะความโง่ของพระเจ้าก็ยังเหนือกว่าความฉลาดของมนุษย์ และความอ่อนแอของพระเจ้าก็ยังเหนือกว่าความเข้มแข็งของมนุษย์
26 พี่น้องครับ คิดดูสิว่า ตอนที่พระเจ้าเรียกคุณมานั้น คุณเป็นคนแบบไหนกัน มีไม่กี่คนหรอกที่เป็นคนฉลาดตามความคิดของมนุษย์ มีไม่กี่คนหรอกที่เป็นผู้มีอิทธิพล และมีไม่กี่คนหรอกที่มาจากตระกูลสูง 27 แต่พระเจ้าเลือกสิ่งที่โลกนี้ถือว่าโง่มาทำให้คนที่ฉลาดอับอาย และพระเจ้าเลือกสิ่งที่โลกนี้ถือว่าอ่อนแอ มาทำให้ผู้ที่เข้มแข็งต้องอับอาย 28 พระเจ้าเลือกสิ่งที่โลกนี้ถือว่าต่ำต้อย น่ารังเกียจและไร้สาระ มาทำลายสิ่งที่โลกนี้ถือว่าสำคัญ 29 จะได้ไม่มีใครมาโอ้อวดเรื่องพวกนี้ต่อหน้าพระเจ้า 30 พระเจ้าเท่านั้นที่ทำให้เรามีส่วนในพระเยซูคริสต์ได้ พระเจ้าทำให้พระคริสต์เป็นความเฉลียวฉลาดนั้นเพื่อประโยชน์ของเรา พระคริสต์ทำให้เราเป็นที่ยอมรับของพระเจ้า และทำให้เราเป็นคนของพระเจ้า พระองค์เสียสละตัวเองเพื่อปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระจากบาป 31 เหมือนที่พระคัมภีร์พูดว่า “คนที่อยากจะโอ้อวดก็ให้โอ้อวดแต่องค์เจ้าชีวิตเท่านั้น”[c]
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International