Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Old/New Testament

Each day includes a passage from both the Old Testament and New Testament.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
สดุดี 70-71

พระยาห์เวห์รีบมาช่วยข้าพเจ้าด้วย

(สดด. 40:13-17)

ถึงหัวหน้านักร้อง เพลงของดาวิด เพื่อเรียกความสนใจจากพระเจ้า

ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยกู้ข้าพเจ้าด้วยเถิด
    ข้าแต่พระยาห์เวห์ รีบมาช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด
ขอให้คนเหล่านั้นที่มุ่งเอาชีวิตของข้าพเจ้าได้รับความอับอาย และพบกับความพ่ายแพ้
    ขอให้คนเหล่านั้นที่อยากจะทำร้ายข้าพเจ้าพากันล่าถอยกลับไปและได้รับความอัปยศอดสู
ขอให้คนพวกนั้นที่พูดเยาะเย้ยว่า “เสร็จแน่ เสร็จแน่”
    ได้รับความอับอายมากซะจนพูดไม่ออก

ขอให้คนเหล่านั้นที่เสาะแสวงหาพระองค์ มีความชื่นชมยินดี และมีความสุข
    ขอให้คนเหล่านั้นที่รักความรอดที่มาจากพระองค์ ได้พูดแล้วพูดอีกว่า “พระเจ้านั้นยิ่งใหญ่”
ข้าพเจ้านั้นยากจนและไม่มีใครช่วยเหลือ
    ข้าแต่พระเจ้า รีบมาหาข้าพเจ้าด้วย
พระองค์ เป็นผู้ที่ช่วยเหลือข้าพเจ้าและผู้ช่วยกู้ข้าพเจ้า
    ข้าแต่พระยาห์เวห์ อย่าได้ชักช้าอยู่เลย

คนแก่อธิษฐานขอความช่วยเหลือ

ข้าแต่พระยาห์เวห์
    ข้าพเจ้าลี้ภัยในพระองค์ อย่าให้ข้าพเจ้าต้องเสียหน้าเลย
ขอช่วยข้าพเจ้าและกู้ข้าพเจ้าด้วยเถิด เพราะพระองค์ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
    โปรดเอียงหูฟังคำร้องขอให้ช่วยของข้าพเจ้า และช่วยข้าพเจ้าให้รอดด้วยเถิด
ขอให้พระองค์เป็นหินกำบัง และที่ลี้ภัยของข้าพเจ้า
    เป็นป้อมปราการที่ช่วยข้าพเจ้าให้รอด[a]
    เพราะพระองค์คือหินผาและป้อมปราการของข้าพเจ้า

พระเจ้าของข้าพเจ้า ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากมือคนชั่ว
    และพ้นจากเงื้อมมือของคนเลวและคนโหดเหี้ยม
ข้าแต่องค์เจ้าชีวิต พระองค์เป็นความหวังของข้าพเจ้า
    ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าไว้วางใจในพระองค์ตั้งแต่ข้าพเจ้าเป็นเด็ก
ข้าพเจ้าพึ่งพาพระองค์ตั้งแต่อยู่ในท้องแล้ว
    พระองค์ช่วยดึงข้าพเจ้าออกมาจากท้องแม่
ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์อยู่เสมอ

มีหลายคนเอาข้าพเจ้าเป็นแบบอย่าง
    เพราะพระองค์เป็นที่ลี้ภัยอันมั่นคงของข้าพเจ้า
ปากของข้าพเจ้าเต็มไปด้วยคำสรรเสริญต่อพระองค์
    ปากข้าพเจ้าพูดถึงความสง่างามยิ่งใหญ่ของพระองค์ตลอดทั้งวัน
ตอนนี้ที่ข้าพเจ้าแก่แล้ว ขออย่าได้โยนข้าพเจ้าทิ้งไป
    ขออย่าได้ทอดทิ้งข้าพเจ้าเมื่อข้าพเจ้าหมดเรี่ยวแรง
10 พวกศัตรูของข้าพเจ้า
    จ้องเอาชีวิตข้าพเจ้า ต่างปรึกษาวางแผนกันทำร้ายข้าพเจ้า
11 พวกเขาพากันพูดว่า “พระเจ้าทอดทิ้งมันแล้ว
    ดังนั้นให้พวกเราไล่ล่าและตะครุบมันไว้เพราะไม่มีใครช่วยมันหรอก”

12 ข้าแต่พระเจ้า อย่าได้อยู่ห่างไกลจากข้าพเจ้า
    พระเจ้าของข้าพเจ้า รีบมาช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด
13 ขอให้คนเหล่านั้นที่กล่าวหาข้าพเจ้าได้รับความอับอายขายหน้าและพบกับจุดจบ
    ขอให้ผู้ที่จ้องจะทำร้ายข้าพเจ้าต้องทนทุกข์กับความอับอายและเสื่อมเกียรติ
14 แต่ข้าพเจ้ายังจะหวังในพระองค์ต่อไป
    และจะสรรเสริญพระองค์มากยิ่งขึ้น
15 ปากของข้าพเจ้าจะเล่าถึงความยุติธรรมอันถูกต้องของพระองค์
    ข้าพเจ้าจะเล่าทั้งวันถึงกิจกรรมการช่วยกู้ของพระองค์
    ถึงแม้ว่ามันจะมีมากกว่าที่ข้าพเจ้ารู้ก็ตาม
16 พระยาห์เวห์เจ้าข้า ข้าพเจ้าจะมาพูดถึงเรื่องการกระทำอันทรงฤทธิ์ของพระองค์
    ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์สำหรับความยุติธรรมอันถูกต้องของพระองค์
    จะสรรเสริญแต่พระองค์เพียงผู้เดียว

17 ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ได้ฝึกสอนข้าพเจ้าตั้งแต่ข้าพเจ้าเป็นเด็ก
    แล้วจนถึงวันนี้ข้าพเจ้ายังคงบอกคนอื่นเกี่ยวกับการกระทำที่น่าทึ่งของพระองค์
18 ข้าแต่พระเจ้า โปรดอย่าทอดทิ้งคนแก่คนนี้ที่ผมหงอกแล้ว
    โปรดให้ข้าพเจ้าได้มีโอกาสประกาศเรื่องพลังอำนาจของพระองค์กับคนรุ่นต่อไปด้วยเถิด
    และได้เล่าถึงฤทธิ์เดชของพระองค์กับทุกคนที่มาภายหลัง
19 ข้าแต่พระเจ้า ความยุติธรรมอันถูกต้องของพระองค์ขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์เบื้องบน
    ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ มีใครเล่าเป็นเหมือนพระองค์
20 พระองค์ทำให้ข้าพเจ้าเจอกับความทุกข์ยากและความเดือดร้อนหลายครั้ง
    โปรดให้ชีวิตใหม่กับข้าพเจ้าอีกที โปรดดึงข้าพเจ้าขึ้นมาจากที่เหวลึกของโลกอีกครั้ง
21 โปรดให้ข้าพเจ้ามีเกียรติมากกว่าเดิม
    โปรดหันกลับมาช่วยปลอบโยนข้าพเจ้าอีกครั้ง

22 พระเจ้าของข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าจะเล่นพิณสิบสายและ สรรเสริญความซื่อสัตย์ของพระองค์ที่มีต่อเรา
    ข้าแต่องค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ด้วยพิณสี่สาย
23 ริมฝีปากของข้าพเจ้าจะชื่นชมยินดีและร้องเพลงสรรเสริญพระองค์
    เพราะพระองค์ได้ช่วยกู้ข้าพเจ้า
24 ลิ้นของข้าพเจ้าจะเล่าทั้งวันถึงความยุติธรรมอันถูกต้องของพระองค์
    เพราะคนที่จ้องจะทำร้ายข้าพเจ้านั้นต่างได้รับความอับอายและเสื่อมเสียเกียรติ

โรม 8:22-39

22 เพราะเรารู้ว่าทุกสิ่งที่พระเจ้าสร้างมาในโลกนี้ยังร้องคร่ำครวญ ด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวมาจนถึงเดี๋ยวนี้ (เหมือนกับผู้หญิงที่กำลังจะคลอดลูก) 23 ไม่ใช่แต่เฉพาะพวกนั้นที่ร้องคร่ำครวญ แม้แต่เราเองก็ยังร้องคร่ำครวญอยู่ในใจด้วย ทั้งๆที่เราได้รับพระวิญญาณซึ่งเป็นพระพรส่วนแรกจากพระเจ้าแล้ว เรายังตั้งตารอคอยวันที่พระองค์จะทำให้เราเป็นลูกของพระองค์อย่างสมบูรณ์ เมื่อนั้นร่างกายของเราจะได้หลุดพ้นเป็นอิสระ 24 พระเจ้าได้ช่วยชีวิตเราแล้ว เราจึงมีความหวังนี้อยู่ในใจ ความหวังที่เราเห็นได้นั้นไม่เรียกว่าความหวังหรอก เพราะใครจะไปหวังกับสิ่งที่เขาเห็นแล้ว 25 แต่เราหวังในสิ่งที่เรายังมองไม่เห็น และเราก็ตั้งตารอคอยมันด้วยความอดทน

26 ในทำนองเดียวกันพระวิญญาณก็มาช่วยเราในความอ่อนแอของเราด้วย เราไม่รู้ว่าเราควรจะขออะไรเวลาที่เราอธิษฐาน แต่พระวิญญาณเองได้ขอต่อพระเจ้าแทนเราด้วยเสียงร้องคร่ำครวญที่ไม่เป็นคำ 27 แต่พระเจ้าผู้หยั่งรู้จิตใจรู้ว่าอะไรอยู่ในจิตใจของพระวิญญาณ เพราะพระวิญญาณได้ร้องขอให้กับคนที่เป็นของพระเจ้า ตามที่พระเจ้าชอบใจ

28 เรารู้ว่าพระเจ้าทำให้ทุกอย่างเกิดผลดีสำหรับคนที่รักพระองค์ พวกเขาเป็นคนที่พระเจ้าเรียกตามแผนงานของพระองค์ 29 พระเจ้าได้เลือกและแยกคนพวกนี้ไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว ให้เป็นเหมือนกับพระบุตรของพระองค์ เพื่อว่าพระบุตรนั้นจะได้เป็นบุตรคนแรกในหมู่พี่น้องมากมาย 30 ดังนั้นคนพวกนี้ที่พระองค์ได้แยกไว้แล้ว พระองค์ก็ได้เรียกมา และเมื่อเรียกมาแล้ว พระองค์ก็ยอมรับเขา และเมื่อยอมรับแล้ว พระองค์ก็ให้พวกเขามีศักดิ์ศรีด้วย

ความรักของพระเจ้าในพระเยซูคริสต์

31 เราจะว่าอย่างไรดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าพระเจ้าอยู่ฝ่ายเรา ใครจะต่อต้านเราได้ 32 พระองค์ไม่หวงแม้แต่พระบุตรของพระองค์เอง แต่กลับมอบพระบุตรนั้นให้มาตายเพื่อเราทุกคน ถ้าอย่างนั้นพระองค์จะไม่ยิ่งให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับเราพร้อมกับพระบุตรด้วยหรือ 33 ใครจะฟ้องคนพวกนี้ที่พระเจ้าเลือกมา พระเจ้าเองหรือ เป็นไปไม่ได้ เพราะพระองค์เองเป็นผู้ที่ยอมรับพวกนี้ 34 ใครจะกล่าวโทษเขา พระเยซูหรือ เป็นไปไม่ได้ เพราะพระเยซูคริสต์เป็นผู้ที่ตายและฟื้นขึ้นมาใหม่ และตอนนี้พระองค์ก็นั่งอยู่ทางขวามือของพระเจ้าวิงวอนพระเจ้าแทนเรา 35 ใครจะแยกเราออกจากความรักที่พระคริสต์มีต่อเราได้ ไม่มีเลย แม้แต่ความทุกข์ยากหรือความลำบาก หรือการถูกกดขี่ข่มเหง หรือความอดอยากหิวโหย หรือการเปลือยกาย หรืออันตรายต่างๆ หรือแม้แต่การถูกฆ่าฟัน ก็ไม่มีทางแยกเราออกจากความรักที่พระคริสต์มีต่อเราได้ 36 เหมือนกับที่พระคัมภีร์เขียนไว้ว่า

“เพื่อพระองค์ เราเสี่ยงกับการถูกฆ่าวันยังค่ำ
    คนทำกับเราเหมือนแกะที่จะเอาไปฆ่า”[a]

37 แต่ในทุกสิ่งทุกอย่างนี้ เราก็ได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ผ่านทางพระองค์ผู้ได้แสดงความรักกับเรา 38 เพราะผมมั่นใจว่า ไม่ว่าจะเป็นความตายหรือชีวิต ทูตสวรรค์หรือเทพเจ้า สิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันหรือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต พวกวิญญาณที่มีฤทธิ์อำนาจ 39 สิ่งที่อยู่เหนือเรา หรือสิ่งที่อยู่ต่ำกว่าเรา หรืออะไรก็ตามที่ถูกสร้างขึ้นมา พวกมันก็ไม่มีทางแยกเราออกจากความรักของพระเจ้าที่เราเห็นในพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International