Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Old/New Testament

Each day includes a passage from both the Old Testament and New Testament.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
เนหะมียาห์ 10-11

10 ในสัญญาซึ่งประทับตราไว้ มีชื่อ เนหะมียาห์เจ้าเมืองที่เป็นลูกชายของฮาคาลิยาห์ พร้อมด้วยเศเดคียาห์ เสไรอาห์ อาซาริยาห์ เยเรมียาห์ ปาชเฮอร์ อามาริยาห์ มัลคิยาห์ ฮัทธัช เชบานิยาห์ มัลลูค ฮาริม เมเรโมท โอบาดีห์ ดาเนียล กินเนโธน บารุค เมชุลลาม อาบียาห์ มิยามิน มาอาซิยาห์ บิลกัย เชไมอาห์ ทั้งหมดนี้เป็นรายชื่อของพวกนักบวช ที่มีอยู่ในสัญญา

ต่อไปนี้เป็นรายชื่อของชาวเลวี ที่มีชื่ออยู่ในสัญญา คือ เยชูอาลูกชายของอาซันยาห์ บินนุย ผู้สืบเชื้อสายจาก เฮนาดัด ขัดมีเอล 10 และเพื่อนร่วมงานของพวกเขา คือ เชบานิยาห์ โฮดียาห์ เคลิทา เปไลยาห์ ฮานัน 11 มีคา เรโหบ ฮาชาบิยาห์ 12 ศักเกอร์ เชเรบิยาห์ เชบานิยาห์ 13 โฮดียาห์ บานี เบนินู 14 ต่อไปนี้เป็นรายชื่อของพวกผู้นำประชาชน ที่มีชื่ออยู่ในสัญญา คือ ปาโรส ปาหัทโมอับ เอลาม ศัทธู บานี 15 บุนนี อัสกาด เบบัย 16 อาโดนียาห์ บิกวัย อาดีน 17 อาเทอร์ เฮเซคียาห์ อัสซูร์ 18 โฮดียาห์ ฮาชูม เบไซ 19 ฮาริฟ อานาโธท เนบัย 20 มักปีอาช เมชุลลาม เฮซีร์ 21 เมเชซาเบล ศาโดก ยาดดูวา 22 เปลาทิยาห์ ฮานัน อานายาห์ 23 โฮเชยา ฮานันยาห์ หัสชูบ 24 ฮัลโลเหช ปิลหา โชเบก 25 เรฮูม ฮาชับนาห์ มาอาเสอาห์ 26 อาหิอาห์ ฮานัน อานัน 27 มัลลูค ฮาริม บาอานาห์

28 ส่วนประชาชนที่เหลือ รวมทั้งพวกนักบวช พวกชาวเลวี พวกคนเฝ้าประตู เหล่านักร้อง พวกคนรับใช้ประจำวิหาร รวมทั้งพวกภรรยาและลูกชายลูกสาวของพวกเขา คือทุกคนที่โตพอที่จะรู้เรื่อง ได้แยกตัวออกจากชนต่างชาติที่อยู่ตามดินแดนรอบข้าง เพื่อมาติดสนิทกับกฎของพระเจ้า 29 พวกเขาต่างสาบานร่วมกันกับญาติพี่น้องและพวกผู้นำของพวกเขา และพวกเขายอมถูกสาปแช่งถ้าไม่ทำตามคำสาบาน พวกเขาสาบานว่าจะทำตามกฎบัญญัติของพระเจ้า ที่ผ่านมาทางโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์ และจะทำตามคำสั่งต่างๆของพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตของพวกเรา และทำตามกฎ และบัญญัติของพระองค์

30 เราสัญญาว่าจะไม่ยกลูกสาวของพวกเราให้ไปเป็นเมียคนต่างชาติในแผ่นดินนี้ และเราจะไม่ยอมรับลูกสาวของพวกเขามาเป็นเมียของลูกชายของพวกเราด้วย

31 ถ้าชนต่างชาติในแผ่นดินนี้ นำสินค้าหรือเมล็ดข้าวมาขายในวันหยุดทางศาสนา เราจะไม่ซื้อจากพวกเขาในวันหยุดทางศาสนาหรือในวันศักดิ์สิทธิ์ใดๆก็ตาม เราจะไม่เก็บเกี่ยวผลผลิตในปีที่เจ็ด[a] และจะยกเลิกหนี้สินทุกอย่างในปีนั้น

32 ในทุกๆปี เรายินดีที่จะให้เงินหนึ่งส่วนสามเชเขล[b] สำหรับการรับใช้ในวิหารของพระเจ้าของเรา 33 เพื่อจ่ายสำหรับสิ่งต่างๆเหล่านี้ คือค่าขนมปังที่วางบนโต๊ะ ค่าเครื่องบูชาประจำวันจากเมล็ดพืช ค่าเครื่องเผาบูชาประจำวัน ค่าเครื่องถวายบูชาในวันหยุดทางศาสนา ในเทศกาลวันพระจันทร์ใหม่[c] และในเทศกาลต่างๆที่กำหนดขึ้น และจ่ายสำหรับการถวายเครื่องบูชาอันศักดิ์สิทธิ์ การถวายเครื่องบูชาชำระล้าง เพื่อชำระสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แทนประชาชนอิสราเอล และจ่ายสำหรับงานทุกอย่างในวิหารของพระเจ้าของเรา

34 พวกเรา ซึ่งหมายถึงพวกนักบวช พวกชาวเลวี และประชาชนทั้งหลาย ได้ทำการจับสลาก[d] เพื่อดูว่าครอบครัวไหนบ้างจะต้องหาไม้ฟืนมาสำหรับเทศกาลไหนในแต่ละปี และนำไม้ฟืนนั้นเข้ามาในวิหารของพระเจ้าของเรา เพื่อเอามาเผาเครื่องบูชาบนแท่นบูชาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา ตามที่ได้เขียนไว้ในกฎบัญญัติ

35 เราถือว่าเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องเอาผลผลิตแรกของแผ่นดิน และผลผลิตแรกจากต้นผลไม้ทุกชนิด มายังวิหารของพระเจ้าเป็นประจำทุกปี

36 ตามที่ได้เขียนไว้ในกฎบัญญัติ เราถือว่าเป็นหน้าที่ของเราที่จะเอาบุตรชายคนแรก และสัตว์เลี้ยงตัวแรกจากฝูงของเรา รวมทั้งลูกของแพะแกะตัวแรก มายังวิหารของพระเจ้าของเรา เพื่อมอบให้พวกนักบวช ที่รับใช้อยู่ในวิหารของพระเจ้าของเรา

37 นอกจากนั้น เราจะนำแป้งสาลีนิ่มที่นวดแล้วส่วนแรก ผลไม้จากทุกต้น เหล้าองุ่นใหม่ และน้ำมันของพวกเรา มาให้พวกนักบวชเพื่อเอาไปเก็บไว้ในห้องเก็บของในวิหารของพระเจ้าของเรา เราจะนำผลผลิตหนึ่งในสิบส่วนมาให้พวกชาวเลวี พวกชาวเลวีเป็นผู้เก็บรวบรวมหนึ่งในสิบส่วน จากทุกหมู่บ้านที่ทำสวนทำไร่ 38 และนักบวชที่เป็นลูกหลานของอาโรนจะต้องอยู่กับพวกชาวเลวี ในขณะที่พวกเขาเก็บรวบรวมหนึ่งในสิบส่วนของผลผลิต และพวกชาวเลวีจะนำส่วนที่เก็บได้เหล่านั้น มาไว้ยังพวกห้องเก็บของในวิหารของพระเจ้า 39 เพราะ ประชาชนชาวอิสราเอล และพวกชาวเลวี จะต้องนำของที่ถวายนี้ คือ เมล็ดข้าว เหล้าองุ่นใหม่ และน้ำมันมาไว้ยังพวกห้องเก็บของ และเป็นสถานที่เก็บเครื่องมือเครื่องใช้ของวิหาร และเป็นที่อยู่ของพวกนักบวชที่อยู่เวร รวมทั้งพวกคนเฝ้าประตู และพวกนักร้อง

“พวกเราจะไม่ละเลยวิหารของพระเจ้าของเรา”

คนใหม่ย้ายไปอยู่เยรูซาเล็ม

11 พวกผู้นำของประชาชน พากันเข้าไปอาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม ส่วนประชาชนที่เหลือก็จับสลากกัน เพื่อเลือกเอาสิบเปอร์เซ็นต์ของประชาชนมาอยู่ในเมืองเยรูซาเล็มเมืองอันศักดิ์สิทธิ์ ส่วนเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ที่เหลือก็ให้ไปอยู่ตามเมืองอื่นๆ ประชาชนต่างพากันอวยพรคนเหล่านั้นที่สมัครใจมาอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม

คนเหล่านี้คือพวกผู้นำของมณฑลที่มาอาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม (พวกอิสราเอลบางคน พวกนักบวช พวกคนเลวี พวกคนรับใช้ในวิหาร และพวกลูกหลานของคนรับใช้ของกษัตริย์ซาโลมอน ต่างก็พากันอาศัยอยู่ตามเมืองต่างๆของแคว้นยูดาห์ พวกเขาอาศัยอยู่ในที่ดินของตนในเมืองของตน มีบางคนจากครอบครัวของยูดาห์ และของเบนยามิน อาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม)

พวกลูกหลานของยูดาห์ที่อาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม

มีดังต่อไปนี้คือ อาธายาห์ ลูกชายของอุสซียาห์ ที่เป็นลูกชายของเศคาริยาห์ ที่เป็นลูกชายของอามาริยาห์ ที่เป็นลูกชายของเชฟาทิยาห์ ที่เป็นลูกชายของมาหะลาเลล ที่เป็นคนหนึ่งในพวกลูกหลานของเปเรศ และมาอาเสอาห์ ลูกชายของบารุค ที่เป็นลูกชายของคลโฮเซห์ ที่เป็นลูกชายของฮาซายาห์ ที่เป็นลูกชายของอาดายาห์ ที่เป็นลูกชายของโยยาริบ ที่เป็นลูกชายของเศคาริยาห์ ที่เป็นลูกหลานคนหนึ่งของชิโลห์ พวกลูกหลานของเปเรศ ที่อาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม มีทั้งหมดสี่ร้อยหกสิบแปดคน ล้วนแต่เป็นผู้กล้าหาญ

พวกลูกหลานของเบนยามินที่อาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม

มีดังต่อไปนี้ คือ สัลลู ลูกชายของเมชุลลาม ที่เป็นลูกชายของโยเอด ที่เป็นลูกชายของเปดายาห์ ที่เป็นลูกชายของโคลายาห์ ที่เป็นลูกชายของมาอาเสอาห์ ที่เป็นลูกชายของอิธีเอล ที่เป็นลูกชายของเยชายาห์ และต่อจากเขาไปมีกับบัย และสัลลัย รวมกันทั้งหมดมีเก้าร้อยยี่สิบแปดคน โยเอล ลูกชายของศิครี ได้รับการแต่งตั้งให้ปกครองพวกเขา ส่วนยูดาห์ ลูกชายของหัสเสนูอาห์ เป็นรองผู้บัญชาการของเมือง

10 พวกนักบวชที่มาอาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม

มีดังต่อไปนี้คือ เยดายาห์ลูกชายของโยยาริบยาคีน 11 และเสไรอาห์ผู้ควบคุมดูแลวิหารของพระเจ้า เขาเป็นลูกชายฮิลคียาห์ ที่เป็นลูกชายเมชุลลาม ที่เป็นลูกชายศาโดก ที่เป็นลูกชายเมราโยท ที่เป็นลูกชายอาหิทูบ 12 รวมทั้งเพื่อนร่วมงานทั้งหมดของพวกเขาที่ทำงานอยู่ในวิหาร มีจำนวนแปดร้อยยี่สิบสองคน นอกจากนั้นยังมีอาดายาห์ ลูกชายเยโรฮัม ที่เป็นลูกชายเปไลยาห์ ที่เป็นลูกชายอัมซี ที่เป็นลูกชายเศคาริยาห์ ที่เป็นลูกชายปาชเฮอร์ ที่เป็นลูกชายมัลคิยาห์ 13 รวมทั้งเพื่อนร่วมงานของเขา ที่เป็นหัวหน้าครอบครัว มีสองร้อยสี่สิบสองคน และยังมีอามาชสัยลูกชายของอาซาเรล ที่เป็นลูกชายอัคซัย ที่เป็นลูกชายเมชิลเลโมท ที่เป็นลูกชายอิมเมอร์ 14 รวมทั้งเพื่อนร่วมงานของเขา ที่เป็นนักรบเก่งกล้า มีหนึ่งร้อยยี่สิบแปดคน มีเจ้าหน้าที่ปกครองเหนือพวกเขาคือศับดีเอล ลูกชายของฮักเกโดลิม

15 พวกชาวเลวีที่เข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม

มีดังนี้ คือ เชไมอาห์ ลูกชายของหัสชูบ ที่เป็นลูกชายอัสรีคัม ที่เป็นลูกชายฮาชาบิยาห์ ที่เป็นลูกชายบุนนี 16 รวมทั้งชับเบธัยกับโยซาบาด ผู้นำสองคนของชาวเลวี สองคนนี้ดูแลงานด้านนอกของวิหารของพระเจ้า 17 มัทธานิยาห์ ผู้เป็นหัวหน้านำการร้องเพลงขอบคุณในช่วงเวลาอธิษฐาน เขาเป็นลูกชายมีคา ที่เป็นลูกชายศับดี ที่เป็นลูกชายอาสาฟ และมีบัคบูคิยาห์ เป็นรองหัวหน้าในหมู่เพื่อนร่วมงานของเขา และอับดา ลูกชายของชัมมุอา ที่เป็นลูกชายของกาลาล ที่เป็นลูกชายของเยดูธูน 18 ดังนั้น มีพวกชาวเลวีที่อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มเมืองศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้นสองร้อยแปดสิบสี่คน

19 พวกคนเฝ้าประตู ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม

มีดังต่อไปนี้คือ อักขูบ ทัลโมน และเพื่อนร่วมงานที่เฝ้าประตูของพวกเขา มีจำนวนหนึ่งร้อยเจ็ดสิบสองคน

20 ส่วนชาวอิสราเอลที่เหลือ พวกนักบวชที่เหลือ และพวกชาวเลวีที่เหลือนั้น ก็ได้ไปอาศัยอยู่ตามเมืองต่างๆของแคว้นยูดาห์ พวกเขาต่างก็ไปอยู่ในที่ดินของบรรพบุรุษของตน 21 พวกคนรับใช้ในวิหาร อาศัยอยู่บนเนินเขาโอเฟล โดยมีศีหะและกิชปาเป็นผู้ดูแลพวกคนรับใช้ในวิหารเหล่านั้น

22 หัวหน้าของพวกชาวเลวีในเยรูซาเล็ม คืออุสซี ลูกชายบานี ที่เป็นลูกของฮาชาบิยาห์ ที่เป็นลูกชายมัทธานิยาห์ ที่เป็นลูกชายมีคา ที่เป็นคนหนึ่งในพวกลูกหลานของอาสาฟ ที่เป็นพวกนักร้อง ที่มีหน้าที่ร้องเพลงรับใช้อยู่ในวิหารของพระเจ้า 23 พวกนักร้องนี้ รับคำสั่งจากกษัตริย์ กษัตริย์จะบอกพวกเขาว่าให้ทำอะไรบ้างในแต่ละวัน 24 เปธาหิยาห์ เป็นที่ปรึกษาของกษัตริย์ในทุกเรื่องที่เกี่ยวกับประชาชน เขาเป็นลูกชายเมเชซาเบล ที่เป็นลูกหลานคนหนึ่งของเศราห์ ที่เป็นลูกชายของยูดาห์

หมู่บ้านรอบเมืองเยรูซาเล็ม

25 คนยูดาห์บางคนไปอาศัยอยู่ตามหมู่บ้านและไร่นาต่างๆเหล่านี้ คือเมืองคิริยาทอารบา และหมู่บ้านต่างๆที่ล้อมรอบเมืองนั้น เมืองดีโบนและหมู่บ้านต่างๆที่ล้อมรอบเมืองนั้น และเมืองเยขับเซเอลและหมู่บ้านต่างๆที่ล้อมรอบเมืองนั้น 26 และเมืองเยชูอา ในเมืองโมลาดาห์ และในเมืองเบธเปเลต 27 ในเมืองฮาซารชูอาล ในเมืองเบเออร์เชบา และหมู่บ้านต่างๆที่ล้อมรอบเมืองเหล่านั้น 28 ในเมืองศิกลาก ในเมืองเมโคนาห์ และหมู่บ้านต่างๆที่ล้อมรอบเมืองเหล่านั้น 29 ในเมืองเอนริมโมน ในเมืองโศราห์ ในเมืองยารมูท 30 ในเมืองศาโนอาห์ ในเมืองอดุลลัม และหมู่บ้านต่างๆที่ล้อมรอบเมืองเหล่านั้น ในเมืองลาคีชและตามไร่นาของเมืองนั้น ในเมืองอาเซคาห์ และหมู่บ้านต่างๆที่ล้อมรอบเมืองนั้น พวกเขาพากันตั้งถิ่นฐาน ตั้งแต่เมืองเบเออร์เชบา ไปจนถึงหุบเขาฮินโนม

31 คนเบนยามิน บางคนก็ไปตั้งถิ่นฐานในเมืองเกบา ในเมืองมิคมาช ในเมืองอัยยา ในเมืองเบธเอล และหมู่บ้านต่างๆที่ล้อมรอบเมืองเหล่านั้น 32 ในเมืองอานาโธท ในเมืองโนบ ในเมืองอานานิยาห์ 33 ในเมืองฮาโซร์ ในเมืองรามา ในเมืองกิททาอิม 34 ในเมืองฮาดิด ในเมืองเศโบอิม ในเมืองเนบัลลัท 35 ในเมืองโลด และในเมืองโอโน และในหุบเขาของบรรดาช่างฝีมือ 36 บางกลุ่มของครอบครัวเลวีที่อยู่ในแคว้นยูดาห์ ได้รับมอบหมายให้ย้ายไปอยู่กับเผ่าเบนยามิน

กิจการ 4:1-22

เปโตรและยอห์นอยู่ต่อหน้าสภายิว

ขณะที่เปโตรและยอห์นกำลังพูดกับคนทั้งหลายอยู่นั้น พวกนักบวช หัวหน้าผู้ดูแลความปลอดภัยของวิหาร และพวกสะดูสี ก็เดินเข้ามาหา พวกเขาโกรธมากที่เปโตรและยอห์นกำลังประกาศสั่งสอนว่า ผู้คนจะฟื้นขึ้นจากความตายเหมือนกับพระเยซู พวกเขาจึงจับทั้งสองคนไปขังคุกไว้จนถึงวันรุ่งขึ้น เพราะตอนนั้นเป็นเวลาเย็นแล้ว แต่มีคนเป็นจำนวนมากที่ได้ยินพระคำของพระเจ้าแล้วเชื่อ ถึงตอนนี้ รวมศิษย์ที่เป็นผู้ชายได้ประมาณห้าพันคนแล้ว วันรุ่งขึ้นพวกผู้นำชาวยิว พวกผู้อาวุโส และพวกครูสอนกฎปฏิบัติ ได้มาประชุมกันที่เมืองเยรูซาเล็ม นอกจากนี้ยังมี อันนาส[a] ซึ่งเป็นหัวหน้านักบวชสูงสุด คายาฟาส[b] ยอห์น อเล็กซานเดอร์ และคนอื่นๆที่เป็นญาติของหัวหน้านักบวชสูงสุดด้วย พวกเขาจับเปโตรและยอห์นมายืนอยู่ตรงหน้า แล้วถามว่า “พวกแกทำสิ่งนี้ด้วยฤทธิ์เดชอะไร พวกแกใช้อำนาจของใคร” แล้วพระวิญญาณบริสุทธิ์ดลใจเปโตรให้พูดกับพวกเขาว่า “ท่านผู้นำประชาชนและท่านผู้อาวุโส ถ้าท่านจะมาไต่สวนเราวันนี้ในเรื่องความดีที่ได้ทำกับคนง่อยคนนี้ว่าเขาหายได้อย่างไร 10 ก็ให้พวกท่านทั้งหมดและประชาชนชาวอิสราเอลทุกคนรู้เอาไว้เถอะว่า สิ่งนั้นเกิดจากฤทธิ์อำนาจของพระเยซูคริสต์ชาวนาซาเร็ธ คนที่พวกท่านได้ตรึงที่กางเขน คนที่พระเจ้าทำให้ฟื้นขึ้นจากความตาย พระเยซูคนนี้แหละที่ทำให้ชายคนนี้ที่ยืนอยู่ต่อหน้าพวกท่าน หายเป็นปกติ 11 พระเยซูเป็น

‘หิน[c] ที่พวกคุณคนก่อสร้างเห็นว่าไร้ค่า
    แต่กลับกลายมาเป็นหินก้อนที่สำคัญที่สุด’[d]

12 นอกจากพระเยซูแล้ว ไม่มีใครที่จะให้ความรอดกับเราได้ ไม่มีชื่ออื่นภายใต้ฟ้านี้ ที่จะทำให้มนุษย์รอดได้”

13 เมื่อพวกผู้นำชาวยิวเห็นถึงความกล้าหาญของเปโตรกับยอห์น และเห็นว่าทั้งสองเป็นแค่คนธรรมดาๆที่ไม่ได้รับการศึกษาหรือฝึกฝนอะไรมาเป็นพิเศษ พวกเขาก็ยิ่งแปลกใจ พวกเขาต่างก็นึกขึ้นมาได้ว่า เปโตรและยอห์นเคยอยู่กับพระเยซูมาก่อน 14 ยิ่งพวกเขาได้เห็นชายง่อยซึ่งได้รับการรักษาจนหายดีแล้วยืนอยู่ข้างๆเปโตรและยอห์น พวกเขาก็ยิ่งพูดอะไรไม่ออก 15 ผู้นำชาวยิวก็สั่งให้เปโตรและยอห์นออกไปจากที่ประชุม แล้วก็ปรึกษากันว่า 16 “พวกเราจะเอาอย่างไรดีกับสองคนนี้ เพราะทุกคนที่อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มก็รู้ว่า สองคนนี้ได้ทำเรื่องปาฏิหาริย์ที่ยิ่งใหญ่ เป็นสิ่งที่เห็นชัดแจ้งและพวกเราก็ปฏิเสธไม่ได้ 17 แต่เพื่อไม่ให้เรื่องนี้แพร่กระจายต่อไปในหมู่คนทั้งหลาย เราต้องขู่พวกเขาไม่ให้พูดถึงชื่อเยซูกับใครอีก”

18 จากนั้นเขาก็เรียกเปโตร และยอห์นเข้ามาเพื่อสั่งห้ามคนทั้งสอง ไม่ให้พูดหรือสั่งสอนอะไรเกี่ยวกับพระเยซู หรือแม้แต่จะอ้างชื่อของพระองค์อีก 19 แต่เปโตรและยอห์นตอบว่า “ท่านคิดดูเอาเองว่า มันถูกหรือเปล่า ที่จะให้เราเชื่อฟังท่าน แทนที่จะเชื่อฟังพระเจ้า 20 เป็นไปไม่ได้ที่จะให้เราเลิกพูดในสิ่งที่เราได้เห็นและได้ยิน” 21 หลังจากที่ได้ขู่เปโตรและยอห์นแล้ว พวกเขาก็ปล่อยตัวทั้งสองคนไป เพราะไม่รู้ว่าจะลงโทษอย่างไร เพราะทุกคนต่างพากันสรรเสริญพระเจ้าในเรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น 22 อีกทั้งชายที่ได้รับการรักษา ด้วยการอัศจรรย์จนหายเป็นปกตินี้ มีอายุมากกว่าสี่สิบปีแล้ว

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International