Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Old/New Testament

Each day includes a passage from both the Old Testament and New Testament.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
2 พงศาวดาร 30-31

เฮเซคียาห์ฉลองเทศกาลปลดปล่อย

30 เฮเซคียาห์ส่งข่าวสารไปถึงชาวอิสราเอล และชาวยูดาห์ทั้งหมด และยังเขียนจดหมายไปถึงชาวเอฟราอิม[a]และชาวมนัสเสห์ โดยเชิญพวกเขาให้มาที่วิหารของพระยาห์เวห์ในเมืองเยรูซาเล็ม เพื่อมาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลวันปลดปล่อย ให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอล กษัตริย์กับพวกเจ้าหน้าที่ของเขา และคนในที่ชุมนุมทั้งหมดในเมืองเยรูซาเล็มตัดสินใจที่จะเฉลิมฉลองเทศกาลปลดปล่อยในเดือนที่สอง พวกเขาไม่สามารถเฉลิมฉลองเทศกาลปลดปล่อยในเวลาปกติได้ เพราะมีนักบวชที่ชำระตัวเองให้บริสุทธิ์แล้วไม่เพียงพอ และประชาชนก็ไม่ได้มาชุมนุมกันในเมืองเยรูซาเล็ม ทั้งกษัตริย์และคนในที่ชุมนุมต่างเห็นดีด้วยกับแผนการณ์นี้ พวกเขาลงมติให้ประกาศไปทั่วอิสราเอล ตั้งแต่เมืองเบเออร์เชบาไปจนถึงเมืองดาน เพื่อเรียกประชาชนให้มาที่เมืองเยรูซาเล็ม เพื่อมาเฉลิมฉลองเทศกาลปลดปล่อยให้กับพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอล มีประชาชนไม่กี่คนที่เคยเฉลิมฉลองเทศกาลปลดปล่อยนี้มาก่อน ตามอย่างที่กฎได้สั่งไว้ กษัตริย์สั่งให้คนส่งข่าวเดินทางไปทั่วทั้งแผ่นดินอิสราเอลและยูดาห์ พร้อมกับจดหมายของกษัตริย์และพวกเจ้าหน้าที่ของเขา จดหมายนี้มีข้อความว่า

“ประชาชนชาวอิสราเอลทั้งหลาย กลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของอับราฮัม อิสอัค และอิสราเอลเถิด พระองค์จะหันกลับมาหาพวกท่านที่ยังเหลืออยู่ และหลบหนีจากพวกกษัตริย์อัสซีเรีย อย่าเป็นเหมือนบรรพบุรุษและพวกพี่น้องของพวกท่านที่ไม่ยอมซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา พระองค์จึงได้ทำให้พวกเขากลายเป็นสิ่งน่าสยดสยอง อย่างที่พวกท่านเห็นแล้วนั้น อย่าดื้อดึงเหมือนกับที่บรรพบุรุษของพวกท่านเป็น ให้ยอมฟังพระยาห์เวห์ และมาถึงยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้ทำให้ศักดิ์สิทธิ์ตลอดไป ให้รับใช้พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน เพื่อว่าความโกรธอันดุเดือดของพระองค์ จะได้หันเหออกไปจากพวกท่าน ถ้าพวกท่านกลับมาหาพระยาห์เวห์แล้ว คนที่จับพวกพี่น้องและลูกๆของพวกท่านไปจะเกิดความสงสารพวกเขา และพวกพี่น้องเหล่านั้นจะได้กลับมาสู่แผ่นดินแห่งนี้ เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านนั้นมีความเมตตากรุณา พระองค์จะไม่หันหน้าไปจากพวกท่าน ถ้าพวกท่านกลับมาหาพระองค์”

10 พวกคนส่งข่าวได้ออกจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งในเอฟราอิมและมนัสเสห์ ไปจนถึงเศบูลุน แต่ประชาชนกลับดูถูกและเยาะเย้ยพวกเขา 11 อย่างไรก็ตาม คนบางกลุ่มในเผ่าของอาเชอร์ มนัสเสห์และเศบูลุน ก็ถ่อมตัวพวกเขาลง และเดินทางไปที่เมืองเยรูซาเล็ม 12 ส่วนในยูดาห์ มือของพระเจ้าก็ได้มาอยู่บนประชาชน เพื่อทำให้พวกเขาเป็นใจเดียวกัน ที่จะทำสิ่งที่กษัตริย์และพวกเจ้าหน้าที่ได้สั่งไว้นั้นตามคำพูดของพระยาห์เวห์

13 ฝูงชนกลุ่มใหญ่มากมาชุมนุมกันในเมืองเยรูซาเล็ม เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลขนมปังไร้เชื้อ ในเดือนที่สอง 14 พวกเขารื้อแท่นบูชาทั้งหลาย รวมทั้งแท่นเผาเครื่องหอมของพวกพระปลอมในเมืองเยรูซาเล็มออกไปทิ้งในหุบเขาขิดโรน 15 พวกเขาฆ่าลูกแกะตัวผู้สำหรับเทศกาลวันปลดปล่อยในวันที่สิบสี่ของเดือนที่สอง พวกนักบวชและชาวเลวีต่างก็รู้สึกละอายใจ พวกเขาจึงชำระตัวเองให้บริสุทธิ์ และนำเครื่องเผาบูชามาที่วิหารของพระยาห์เวห์ 16 แล้วพวกเขาก็ไปทำหน้าที่ตามปกติที่ได้กำหนดไว้ในกฏของโมเสสคนของพระเจ้า พวกนักบวชได้ประพรมเลือดที่ชาวเลวีนำมาให้ 17 เพราะมีคนอีกหลายคนในฝูงชนนี้ที่ยังไม่ได้ชำระตัวเองให้บริสุทธิ์ ชาวเลวีจึงต้องฆ่าลูกแกะตัวผู้ของเทศกาลปลดปล่อยสำหรับพวกที่ยังไม่ได้ผ่านพิธีชำระล้าง และไม่สามารถถวายลูกแกะตัวผู้ให้กับพระยาห์เวห์ได้

18 ถึงแม้ว่าประชาชนส่วนใหญ่ที่มาจากเผ่าเอฟราอิม มนัสเสห์ อิสสาคาร์และเศบูลุน ยังไม่ได้ชำระตัวให้บริสุทธิ์ แต่พวกเขาก็เข้าร่วมกินในเทศกาลปลดปล่อยด้วย ซึ่งขัดกับกฎที่เขียนไว้ แต่เฮเซคียาห์ได้อธิษฐานอ้อนวอนให้กับพวกเขาว่า “ขอพระยาห์เวห์ผู้ทรงดี โปรดอภัยให้กับทุกๆคน 19 ที่ตั้งจิตตั้งใจแสวงหาพระเจ้า คือพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของเขา ถึงแม้พวกเขาจะยังไม่บริสุทธิ์ตามกฎทั้งหลายของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ก็ตาม” 20 และพระยาห์เวห์ก็ได้ยินเฮเซคียาห์และให้อภัยกับประชาชนพวกนั้น 21 ชาวอิสราเอลที่มาชุมนุมกันในเมืองเยรูซาเล็มเฉลิมฉลองเทศกาลขนมปังไร้เชื้อ เป็นเวลาเจ็ดวันด้วยความรื่นเริงยินดี ในขณะที่ชาวเลวีและพวกนักบวชร้องเพลงให้กับพระยาห์เวห์ทุกๆวัน คลอไปกับการเล่นเครื่องดนตรีเพื่อสรรเสริญพระองค์ 22 เฮเซคียาห์พูดให้กำลังใจกับชาวเลวีทั้งหมด ผู้ที่มีความเข้าใจเป็นอย่างดีในงานรับใช้พระยาห์เวห์ เพราะในช่วงเจ็ดวันนั้น พวกเขาได้กินจากส่วนแบ่งที่เป็นของพวกเขา และได้ถวายเครื่องสังสรรค์บูชา และได้สรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา

23 แล้วคนในที่ชุมนุมทั้งหมด ต่างก็เห็นด้วยที่จะฉลองงานเทศกาลต่อไปอีกเจ็ดวัน ดังนั้น พวกเขาจึงฉลองกันต่ออีกเจ็ดวันอย่างสนุกสนาน 24 กษัตริย์เฮเซคียาห์แห่งยูดาห์ ได้จัดหาวัวตัวผู้หนึ่งพันตัว และแกะกับแพะเจ็ดพันตัวมาให้กับคนในที่ชุมนุม และพวกเจ้าหน้าที่ก็ได้จัดหาวัวตัวผู้หนึ่งพันตัว และแกะกับแพะหนึ่งหมื่นตัวมาให้เหมือนกัน มีพวกนักบวชหลายคนได้ชำระตัวเองให้บริสุทธิ์แล้ว 25 คนในที่ชุมนุมทั้งหมดของยูดาห์ พร้อมทั้งพวกนักบวชและชาวเลวีและคนทั้งหมดที่มาชุมนุมกันจากทั่วทั้งอิสราเอล รวมทั้งพวกชาวต่างชาติที่มาจากอิสราเอลและพวกที่ได้อาศัยอยู่ในยูดาห์ ต่างก็พากันชื่นชมยินดี 26 พวกเขาสนุกสนานกันอย่างมากในเมืองเยรูซาเล็ม เพราะตั้งแต่ยุคของซาโลมอนลูกชายของกษัตริย์ดาวิดแห่งอิสราเอลเป็นต้นมา ยังไม่เคยมีเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อนในเมืองเยรูซาเล็ม 27 พวกนักบวชกับชาวเลวียืนให้พรประชาชน และพระเจ้าก็ได้ยินพวกเขา เพราะคำอธิษฐานของพวกเขาไปถึงสวรรค์ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่พระองค์อาศัยอยู่

เฮเซคียาห์ทำลายรูปเคารพ

31 เมื่องานเฉลิมฉลองสิ้นสุดลง ชาวอิสราเอลที่อยู่ที่นั่นต่างก็ออกไปยังเมืองต่างๆของยูดาห์ แล้วพวกเขาก็ไปทุบรูปปั้นหินศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจนแตกละเอียด และไปโค่นพวกเสาของพระอาเชราห์ลง พวกเขาทำลายสถานที่นมัสการต่างๆและบรรดาแท่นบูชาที่มีอยู่ทั่วทั้งยูดาห์และเบนยามิน รวมทั้งในเอฟราอิมและในมนัสเสห์ด้วย หลังจากที่พวกเขาได้ทำลายพวกมันทิ้งจนหมดแล้ว ชาวอิสราเอลก็กลับไปยังบ้านเมืองของพวกเขา

เฮเซคียาห์แบ่งพวกนักบวชกับชาวเลวีออกเป็นกลุ่มๆตามหน้าที่ของพวกเขาในฐานะนักบวชและชาวเลวี เพื่อคอยถวายเครื่องเผาบูชาและเครื่องสังสรรค์บูชา คอยทำพิธีเพื่อขอบคุณและร้องเพลงสรรเสริญอยู่ตามประตูของที่อยู่อาศัยของพระยาห์เวห์[b] กษัตริย์ได้ให้สัตว์ของกษัตริย์เอง สำหรับใช้เป็นเครื่องเผาบูชาในตอนเช้าและตอนเย็น และให้เป็นเครื่องเผาบูชาในวันหยุดทางศาสนาตามที่ได้เขียนไว้ในกฎของพระยาห์เวห์ เฮเซคียาห์สั่งประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็มให้แบ่งผลผลิตและสิ่งของของพวกเขาให้กับพวกนักบวชและชาวเลวี เพื่อพวกนักบวชและชาวเลวีจะได้อุทิศตัวเองอย่างเต็มที่ เพื่อทำในสิ่งที่กฎของพระยาห์เวห์สั่งให้พวกเขาทำ ทันทีที่คำสั่งนี้ออกมา ชาวอิสราเอลก็ได้มอบพืชผลชุดแรก เหล้าองุ่นใหม่ น้ำมันและน้ำเชื่อมผลไม้ และผลผลิตทั้งหมดจากทุ่งนาของพวกเขาให้กับพวกนักบวชและชาวเลวีอย่างมากมาย พวกเขาได้แบ่งของหนึ่งในสิบของทุกสิ่งทุกอย่างมา พวกคนอิสราเอลและยูดาห์ที่อาศัยอยู่ตามเมืองต่างๆของยูดาห์ ได้นำหนึ่งในสิบของฝูงวัวและแพะแกะ รวมทั้งหนึ่งในสิบของผลผลิตของเขาให้เป็นของขวัญศักดิ์สิทธิ์ที่อุทิศให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา มาให้กับพวกนักบวชและชาวเลวีเป็นกองพะเนิน

ประชาชนเริ่มทำสิ่งนี้ในเดือนที่สามและสิ้นสุดในเดือนที่เจ็ด เมื่อเฮเซคียาห์กับพวกเจ้าหน้าที่ของเขามาเห็นกองของเหล่านี้ พวกเขาก็สรรเสริญพระยาห์เวห์ และอวยพรให้ประชาชนชาวอิสราเอล

เฮเซคียาห์ถามพวกนักบวชและชาวเลวีเกี่ยวกับกองของเหล่านี้ 10 อาซาริยาห์หัวหน้านักบวชจากครอบครัวของศาโดกตอบว่า “เป็นเพราะประชาชนเริ่มที่จะเอาของขวัญเหล่านี้มาให้ที่วิหารของพระยาห์เวห์ พวกเราจึงมีพอกินและมีเหลือให้กับคนอื่น เพราะพระยาห์เวห์ได้อวยพรให้กับประชาชนของพระองค์ จึงมีของเหล่านี้มากมายจนล้นเหลือ”

11 เฮเซคียาห์สั่งให้พวกนักบวชเตรียมห้องเก็บของไว้ให้พร้อมในวิหารของพระยาห์เวห์ และพวกเขาก็เตรียมห้องไว้เรียบร้อย 12 แล้วพวกนักบวชก็นำของขวัญเหล่านี้เข้าไปเก็บไว้อย่างซื่อสัตย์ ของพวกนี้เป็นส่วนแบ่งที่คนนำมาถวาย คือหนึ่งในสิบของผลผลิตของพวกเขา โคนานิยาห์ชาวเลวีทำหน้าที่ดูแลของเหล่านี้ และชิเมอีน้องชายของเขาอยู่ในตำแหน่งรองลงมา 13 โคนานิยาห์กับชิเมอีน้องชายของเขา เป็นผู้ควบคุมดูแลคนเหล่านี้ คือ เยฮีเอล อาซาซิยาห์ นาหัท อาสาเฮล เยรีโมท โยซาบาด เอลีเอล อิสมาคิยาห์ มาฮาทและเบไนยาห์ กษัตริย์เฮเซคียาห์และอาซาริยาห์ที่เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลวิหารของพระเจ้า เป็นผู้เลือกคนเหล่านี้ขึ้นมา 14 โคเรลูกชายของอิมนาห์ชาวเลวี เป็นผู้ดูแลประตูฝั่งตะวันออก เขาทำหน้าที่ดูแลเครื่องบูชาที่ผู้คนสมัครใจเอามาถวายพระยาห์เวห์เอง และเขาก็ยังรับผิดชอบในการแจกของที่คนเอามาถวายให้กับพระยาห์เวห์และของขวัญที่อุทิศให้กับพระองค์ 15 เอเดน มินยามิน เยชูอา เชไมอาห์ อามาริยาห์ เชคานิยาห์ เป็นผู้ช่วยของโคเร คนพวกนี้รับใช้อย่างสัตย์ซื่อในหัวเมืองต่างๆที่พวกนักบวชอาศัยอยู่ พวกเขาก็แจกของให้กับพี่น้องของเขาตามกลุ่มต่างๆของพวกเขา แจกให้กับทั้งคนหนุ่มและคนแก่เท่ากัน 16 ผู้ชายเหล่านี้ยังแจกของที่เก็บมานี้ให้กับผู้ชายที่มีอายุตั้งแต่สามปีขึ้นไป ที่มีชื่ออยู่ในรายชื่อตระกูลต่างๆของเลวี คือทุกคนที่เข้าไปในวิหารของพระยาห์เวห์ เพื่อทำเวรตามหน้าที่ประจำวัน ที่ได้รับมอบหมายและตามกลุ่มเวรของพวกเขา 17 นักบวชก็ได้รับส่วนแบ่งของเขาจากของที่คนเอามาถวายพระยาห์เวห์ ตามครอบครัวที่ได้ลงทะเบียนไว้ตามรายชื่อตระกูลต่างๆของเลวี คนเลวีที่มีอายุยี่สิบปีขึ้นไปก็จะได้รับส่วนแบ่งของเขาตามกลุ่มและความรับผิดชอบ 18 ลูกเล็กๆของเลวี เมีย และลูกชายลูกสาวของเขา ก็จะได้รับส่วนแบ่งด้วย เลวีทุกคนที่มีรายชื่ออยู่ในประวัติครอบครัวเลวีก็จะได้รับส่วนแบ่งนี้ เพราะพวกเขาสัตย์ซื่อที่จะรักษาตัวเองให้บริสุทธิ์ และพร้อมที่จะรับใช้ 19 ลูกหลานของอาโรนบางคน คือพวกนักบวช มีไร่นาอยู่ใกล้เมืองต่างๆที่พวกเลวีอาศัยอยู่ และลูกหลานของอาโรนบางคนก็อาศัยอยู่ในเมือง แต่ละเมืองเหล่านี้ก็จะมีการเลือกชื่อพวกผู้ชายขึ้นมา เพื่อแบ่งของที่เก็บรวบรวมมานี้ให้กับลูกหลานของอาโรน และแบ่งให้กับพวกผู้ชายและคนที่มีรายชื่อในประวัติครอบครัวของเลวี

20 อย่างนี้ กษัตริย์เฮเซคียาห์ก็ทำสิ่งที่ดีเหล่านั้นในยูดาห์ เขาได้ทำสิ่งที่ดี ถูกต้องและสัตย์ซื่อต่อหน้าพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเขา 21 งานทุกอย่างที่เขาเริ่มก็สำเร็จด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรับใช้ในวิหารของพระเจ้า และการเชื่อฟังกฎและคำสั่งต่างๆและการติดตามพระเจ้าของเขา เฮเซคียาห์ทำสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดด้วยสิ้นสุดใจของเขา

ยอห์น 18:1-18

พระเยซูถูกจับ

(มธ. 26:47-56; มก. 14:43-50; ลก. 22:47-53)

18 เมื่อพระเยซูอธิษฐานเสร็จแล้ว พระองค์ออกไปกับพวกศิษย์ของพระองค์ ข้ามหุบเขาขิดโรนเข้าไปที่สวนแห่งหนึ่ง ยูดาส คนที่ทรยศพระองค์ก็รู้จักสวนแห่งนี้ เพราะว่าพระเยซูและพวกศิษย์ของพระองค์มาพบกันที่นี่บ่อยๆ แล้วยูดาสก็ได้นำพวกทหารโรมันกลุ่มหนึ่ง และพวกผู้คุมวิหารที่พวกหัวหน้านักบวชและพวกฟาริสีส่งมา เข้ามาหาพระเยซู พวกเขาถือตะเกียง คบไฟ และอาวุธมาด้วย

พระเยซูรู้ทุกสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับพระองค์ พระองค์จึงเดินออกมาหาพวกเขา แล้วถามว่า “มาตามหาใครกัน”

พวกเขาตอบว่า “เยซู ชาวนาซาเร็ธ”

พระองค์จึงพูดว่า “เราเอง” (ยูดาสคนที่หักหลังพระองค์ก็ยืนอยู่ที่นั่นกับพวกนั้น) เมื่อพระองค์พูดว่า “เราเอง”[a] พวกเขาก็ถอยหลังกรูล้มลงกับพื้น

พระเยซูถามอีกครั้งว่า “มาตามหาใครนะ”

พวกเขาก็ตอบว่า “เยซู ชาวนาซาเร็ธ”

พระเยซูตอบว่า “ก็บอกแล้วไงว่าเป็นเราเอง ถ้าพวกคุณตามหาเราก็ให้ปล่อยคนพวกนี้ไปซะ” ที่พระองค์พูดอย่างนี้ เพื่อจะได้เป็นจริงตามที่พระองค์ได้พูดไว้ก่อนแล้วว่า “ลูกไม่ได้สูญเสียคนที่พระองค์ได้ฝากไว้กับลูกไปแม้แต่คนเดียว”

10 ซีโมน เปโตรมีดาบอยู่ จึงชักออกมา แล้วก็ฟันถูกหูขวาของทาสคนหนึ่งของหัวหน้านักบวชสูงสุดขาดไป (ทาสคนนั้นชื่อมัลคัส) 11 พระเยซูห้ามเปโตรว่า “เก็บดาบเข้าฝักซะ จะไม่ให้เราดื่มถ้วย[b] แห่งความทุกข์ที่พระบิดาเตรียมไว้ให้เราได้ยังไง”

พระเยซูถูกนำไปพบหัวหน้านักบวช

(มธ. 26:57-58; มก. 14:53-54; ลก. 22:54)

12 พวกทหารโรมัน นายพันของพวกเขา และพวกผู้คุมวิหารชาวยิวได้จับพระเยซูมัดไว้ 13 แล้วนำพระองค์ไปพบอันนาสก่อน อันนาสเป็นพ่อตาของคายาฟาสซึ่งเป็นหัวหน้านักบวชสูงสุดในปีนั้น 14 (คายาฟาสเป็นคนที่ได้บอกชาวยิวว่า ให้คนคนเดียวตาย ดีกว่าคนทั้งชาติต้องตาย)

เปโตรพูดว่าไม่รู้จักพระเยซู

(มธ. 26:69-70; มก. 14:66-68; ลก. 22:55-57)

15 ซีโมน เปโตรและศิษย์อีกคนหนึ่งได้ตามพระเยซูไป ศิษย์คนนี้รู้จักกับหัวหน้านักบวชสูงสุด เขาจึงสามารถเข้าไปในลานบ้านของหัวหน้านักบวชสูงสุดกับพระเยซูได้ 16 ส่วนเปโตรต้องรออยู่ด้านนอกข้างๆประตู แล้วศิษย์คนนั้นก็ได้ออกมาพูดกับหญิงที่เฝ้าประตู เธอจึงยอมให้เปโตรเข้าไปข้างใน 17 สาวใช้ที่เฝ้าประตูได้ถามเปโตรว่า “แกเป็นศิษย์ของชายคนนั้น ไม่ใช่หรือ”

เปโตรตอบว่า “เปล่า ผมไม่ได้เป็น”

18 พวกทาสและพวกผู้คุมวิหารได้ก่อกองไฟแล้วยืนผิงไฟกันอยู่เพราะอากาศหนาว เปโตรก็ยืนผิงไฟอยู่กับพวกเขาด้วย

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International