Print Page Options Listen to Reading
Previous Prev Day Next DayNext

The Daily Audio Bible

This reading plan is provided by Brian Hardin from Daily Audio Bible.
Duration: 731 days

Today's audio is from the CSB. Switch to the CSB to read along with the audio.

Thai New Contemporary Bible (TNCV)
Version
1 พงศาวดาร 24:1-26:11

การแบ่งหน้าที่ของปุโรหิต

24 วงศ์วานของอาโรนแบ่งตามหมู่เหล่าได้ดังนี้

บุตรของอาโรน ได้แก่ นาดับ อาบีฮู เอเลอาซาร์ และอิธามาร์ แต่นาดับกับอาบีฮูเสียชีวิตก่อนบิดาโดยไม่มีบุตรชาย เอเลอาซาร์กับอิธามาร์จึงทำหน้าที่ปุโรหิต ดาวิดทรงแยกวงศ์วานของอาโรนเป็นกลุ่มๆ เพื่อแบ่งหน้าที่ปฏิบัติงานโดยมีศาโดกวงศ์วานของเอเลอาซาร์และอาหิเมเลควงศ์วานของอิธามาร์คอยช่วยเหลือพระองค์ วงศ์วานของเอเลอาซาร์แยกเป็นสิบหกกลุ่ม และอิธามาร์แยกเป็นแปดกลุ่ม ตามจำนวนหัวหน้าครอบครัวเพราะในกลุ่มวงศ์วานของเอเลอาซาร์มีผู้นำมากกว่า การแบ่งงานใช้วิธีทอดสลากเพื่อไม่ให้เกิดความลำเอียง จะได้มีเจ้าหน้าที่ประจำสถานนมัสการ และเจ้าหน้าที่ของพระเจ้าจากวงศ์วานทั้งของเอเลอาซาร์และของอิธามาร์

อาลักษณ์เชไมอาห์บุตรของเนธันเอลชาวเลวีบันทึกรายชื่อของพวกเขาต่อหน้ากษัตริย์ และต่อหน้าเจ้าหน้าที่ทั้งหลาย ได้แก่ ปุโรหิตศาโดก อาหิเมเลคบุตรอาบียาธาร์ และหัวหน้าครอบครัวของปุโรหิตและของคนเลวี ทอดสลากมอบหมายงานให้กลุ่มหนึ่งจากสายเอเลอาซาร์ แล้วอีกกลุ่มหนึ่งจากสายอิธามาร์สลับกันไป

สลากแรกสุดได้แก่ เยโฮยาริบ

ที่สองคือเยดายาห์

ที่สามคือฮาริม

ที่สี่คือเสโอริม

ที่ห้าคือมัลคิยาห์

ที่หกคือมิยามิน

10 ที่เจ็ดคือฮักโขส

ที่แปดคืออาบียาห์

11 ที่เก้าคือเยชูอา

ที่สิบคือเชคานิยาห์

12 ที่สิบเอ็ดคือเอลียาชีบ

ที่สิบสองคือยาคิม

13 ที่สิบสามคือหุปปาห์

ที่สิบสี่คือเยเชเบอับ

14 ที่สิบห้าคือบิลกาห์

ที่สิบหกคืออิมเมอร์

15 ที่สิบเจ็ดคือเฮซีร์

ที่สิบแปดคือฮัปปิสเซส

16 ที่สิบเก้าคือเปธาหิยาห์

ที่ยี่สิบคือเยเฮสเคล

17 ที่ยี่สิบเอ็ดคือยาคีน

ที่ยี่สิบสองคือกามูล

18 ที่ยี่สิบสามคือเดไลยาห์

และที่ยี่สิบสี่คือมาอาซิยาห์

19 นี่คือลำดับปฏิบัติงานเมื่อพวกเขาเข้าสู่พระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า ตามกฎเกณฑ์ที่อาโรนบรรพบุรุษวางไว้ ตามที่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลทรงบัญชาอาโรน

วงศ์วานอื่นๆ ของเลวี

20 สำหรับวงศ์วานอื่นๆ ของเลวีมีดังนี้

จากบุตรของอัมรามคือชูบาเอล

จากบุตรของชูบาเอลคือเยเดยาห์

21 ส่วนเรหับยาห์ จากบุตรของเขาคือ

อิสชีอาห์ผู้เป็นหัวหน้า

22 จากสายอิสฮาร์คือเชโลโมท

จากบุตรเชโลโมทคือยาหาท

23 บุตรของเฮโบรนได้แก่

เยรียาห์ผู้เป็นหัวหน้า[a] คนที่สองคืออามาริยาห์ คนที่สามคือยาฮาซีเอล และคนที่สี่คือเยคาเมอัม

24 บุตรของอุสซีเอลคือมีคาห์

จากบุตรของมีคาห์คือชามีร์

25 น้องของมีคาห์คืออิสชีอาห์ จากบุตรของอิสชีอาห์คือเศคาริยาห์

26 บุตรของเมรารีคือมาห์ลีกับมูชี

บุตรของยาอาซียาห์คือเบโน

27 เชื้อสายเมรารี ได้แก่

จากยาอาซียาห์คือ เบโน โชฮัม

ศักเกอร์ และอิบรี

28 จากมาห์ลีคือเอเลอาซาร์ซึ่งไม่มีบุตร

29 จากคีชคือ เยราห์เมเอลบุตรของคีช

30 บุตรของมูชีได้แก่ มาห์ลี เอเดอร์ และเยรีโมท

คนเหล่านี้คือชนเลวีตามครอบครัวของพวกเขา 31 พวกเขาได้รับมอบหมายหน้าที่ต่างๆ โดยการทอดสลากเช่นเดียวกับวงศ์วานของอาโรน ไม่มีการจำแนกวัยหรือระดับรุ่น การแบ่งหน้าที่โดยการทอดสลากนี้กระทำต่อหน้ากษัตริย์ดาวิดและต่อหน้าศาโดก อาหิเมเลค กับบรรดาหัวหน้าครอบครัวของปุโรหิตและของชนเลวี

นักร้อง

25 ดาวิดและบรรดาแม่ทัพนายกองได้แยกบางคนจากกลุ่มบุตรของอาสาฟ เฮมาน และเยดูธูน มาทำหน้าที่เผยพระวจนะคลอด้วยเสียงพิณใหญ่ พิณเขาคู่ และฉาบ รายชื่อต่อไปนี้คือผู้ที่ทำหน้าที่ดังกล่าว

จากบุตรของอาสาฟ ได้แก่

ศักเกอร์ โยเซฟ เนธานิยาห์ และอาสาเรลาห์ บุตรเหล่านี้อยู่ภายใต้การดูแลของอาสาฟ ซึ่งอาสาฟเผยพระวจนะภายใต้การดูแลของกษัตริย์

จากบุตรของเยดูธูน ได้แก่

เกดาลิยาห์ เศรี เยชายาห์ ชิเมอี[b] ฮาชาบิยาห์และมัททีธิยาห์ รวมทั้งหมดหกคน อยู่ภายใต้การนำของเยดูธูนบิดาของพวกเขา ซึ่งเผยพระวจนะโดยบรรเลงพิณขอบพระคุณและสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า

จากบุตรของเฮมาน ได้แก่

บุคคียาห์ มัททานิยาห์ อุสซีเอล ชูบาเอล เยรีโมท ฮานานิยาห์ ฮานานี เอลียาธาห์ กิดดาลที และโรมัมทีเอเซอร์ โยชเบคาชาห์ มัลโลธี โฮธีร์ และมาหะซิโอท ทั้งหมดนี้คือบุตรของเฮมานผู้ทำนายของกษัตริย์ พระเจ้าประทานบุตรเหล่านี้ให้แก่เขาตามพระสัญญาเพื่อยกย่องเชิดชูพระองค์ พระเจ้าประทานให้เฮมานมีบุตรชายสิบสี่คนและบุตรสาวสามคน

คนเหล่านี้มีหน้าที่ตีฉาบ บรรเลงพิณใหญ่และพิณเขาคู่เพื่อปรนนิบัติในพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้า ภายใต้การควบคุมวงโดยบิดาของเขา ทั้งอาสาฟ เยดูธูน และเฮมานขึ้นตรงต่อกษัตริย์ เขาทั้งสามและญาติพี่น้องได้รับการฝึกฝนจนเชี่ยวชาญในด้านดนตรีเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า รวมทั้งสิ้น 288 คน ต่างได้รับมอบหมายในหน้าที่ตามการทอดสลากอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าหนุ่มหรือแก่ ไม่คำนึงว่าเป็นครูหรือศิษย์

สลากแรกเป็นของอาสาฟ ตกแก่โยเซฟ กับบุตรและญาติพี่น้องของเขา
และญาติพี่น้องของเขา[c]รวม 12[d] คน
สลากที่สองเป็นของเกดาลิยาห์
กับบุตรและญาติพี่น้องรวม12 คน
10 สลากที่สามเป็นของศักเกอร์
กับบุตรและญาติพี่น้องรวม12 คน
11 สลากที่สี่เป็นของอิสรี[e]
กับบุตรและญาติพี่น้องรวม12 คน
12 สลากที่ห้าเป็นของเนธานิยาห์
กับบุตรและญาติพี่น้องรวม12 คน
13 สลากที่หกเป็นของบุคคิยาห์
กับบุตรและญาติพี่น้องรวม12 คน
14 สลากที่เจ็ดเป็นของเยสาเรลาห์[f]
กับบุตรและญาติพี่น้องรวม12 คน
15 สลากที่แปดเป็นของเยชายาห์
กับบุตรและญาติพี่น้องรวม12 คน
16 สลากที่เก้าเป็นของมัททานิยาห์
กับบุตรและญาติพี่น้องรวม12 คน
17 สลากที่สิบเป็นของชิเมอี
กับบุตรและญาติพี่น้องรวม12 คน
18 สลากที่สิบเอ็ดเป็นของอาซาเรล[g]
กับบุตรและญาติพี่น้องรวม12 คน
19 สลากที่สิบสองเป็นของฮาชาบิยาห์
กับบุตรและญาติพี่น้องรวม12 คน
20 สลากที่สิบสามเป็นของชูบาเอล
กับบุตรและญาติพี่น้องรวม12 คน
21 สลากที่สิบสี่เป็นของมัททีธิยาห์
กับบุตรและญาติพี่น้องรวม12 คน
22 สลากที่สิบห้าเป็นของเยรีโมท
กับบุตรและญาติพี่น้องรวม12 คน
23 สลากที่สิบหกเป็นของฮานานิยาห์
กับบุตรและญาติพี่น้องรวม12 คน
24 สลากที่สิบเจ็ดเป็นของโยชเบคาชาห์
กับบุตรและญาติพี่น้องรวม12 คน
25 สลากที่สิบแปดเป็นของฮานานี
กับบุตรและญาติพี่น้องรวม12 คน
26 สลากที่สิบเก้าเป็นของมัลโลธี
กับบุตรและญาติพี่น้องรวม12 คน
27 สลากที่ยี่สิบเป็นของเอลียาธาห์
กับบุตรและญาติพี่น้องรวม12 คน
28 สลากที่ยี่สิบเอ็ดเป็นของโฮธีร์
กับบุตรและญาติพี่น้องรวม12 คน
29 สลากที่ยี่สิบสองเป็นของกิดดาลที
กับบุตรและญาติพี่น้องรวม12 คน
30 สลากที่ยี่สิบสามเป็นของมาหะซิโอท
กับบุตรและญาติพี่น้องรวม12 คน
31 สลากที่ยี่สิบสี่เป็นของโรมัมทีเอเซอร์
กับบุตรและญาติพี่น้องรวม12 คน

ยามเฝ้าประตูพระวิหาร

26 การแบ่งหมู่เหล่าของยามเฝ้าประตูพระวิหารเป็นดังนี้

จากตระกูลโคราห์ได้แก่ เมเชเลมิยาห์บุตรของโคเรซึ่งเป็นบุตรคนหนึ่งของอาสาฟ

บุตรของเมเชเลมิยาห์ ได้แก่

เศคาริยาห์บุตรหัวปี

คนที่สองคือเยดียาเอล

คนที่สามคือเศบาดิยาห์

คนที่สี่คือยาทนีเอล

คนที่ห้าคือเอลาม

คนที่หกคือเยโฮฮานัน

และคนที่เจ็ดคือเอลีโฮนัย

โอเบดเอโดมก็มีบุตรด้วยเช่นกัน ได้แก่

เชไมอาห์บุตรหัวปี

คนที่สองคือเยโฮซาบาด

คนที่สามคือโยอาห์

คนที่สี่คือสาคาร์

คนที่ห้าคือเนธันเอล

คนที่หกคืออัมมีเอล

คนที่เจ็ดคืออิสสาคาร์

และคนที่แปดคือเปอุลเลธัย

(เพราะพระเจ้าทรงอวยพรโอเบดเอโดม)

เชไมอาห์บุตรของเขาก็มีบุตรหลายคน ซึ่งเป็นผู้นำในเครือญาติเพราะมีความสามารถ บุตรของเชไมอาห์ได้แก่ โอทนี เรฟาเอล โอเบด และเอลซาบาด ญาติของเขาคือเอลีฮูกับเสมาคิยาห์ก็เป็นผู้มีความสามารถเช่นกัน บุตรหลานและญาติของโอเบดเอโดมรวมทั้งสิ้น 62 คน ล้วนมีความสามารถและมีกำลังในการปฏิบัติงาน

เมเชเลมิยาห์มีบุตรและญาติพี่น้องรวม 18 คน ก็เป็นผู้มีความสามารถเช่นกัน

10 สำหรับโฮสาห์ตระกูลเมรารีได้แต่งตั้งชิมรีให้เป็นผู้นำของบุตรทั้งหลายของตน (แม้ว่าชิมรีจะไม่ใช่บุตรหัวปี แต่บิดาตั้งเขาเป็นคนแรก) 11 คนที่สองคือฮิลคียาห์ คนที่สามคือเทบาลิยาห์ คนที่สี่คือเศคาริยาห์ บุตรและญาติพี่น้องของโฮสาห์รวม 13 คน

โรม 4:1-12

อับราฮัมเป็นผู้ชอบธรรมโดยความเชื่อ

แล้วเราจะว่าอย่างไรเกี่ยวกับอับราฮัมบรรพบุรุษของเราในเรื่องนี้? อันที่จริงถ้านับว่าอับราฮัมเป็นผู้ชอบธรรมโดยการประพฤติ เขาก็มีข้อที่จะอวดได้ แต่ไม่เป็นเช่นนั้นเลยต่อหน้าพระเจ้า พระคัมภีร์กล่าวว่าอย่างไร? “อับราฮัมเชื่อพระเจ้า และความเชื่อนี้พระองค์ทรงถือว่าเป็นความชอบธรรมของเขา”[a]

เมื่อคนคนหนึ่งทำงาน ค่าจ้างของเขาย่อมไม่ถือว่าเป็นของขวัญ แต่เป็นสิ่งที่เขาพึงได้รับ ส่วนคนที่ไม่ได้อาศัยการประพฤติ แต่วางใจพระเจ้าผู้ทรงทำให้คนชั่วเป็นผู้ชอบธรรม พระองค์ทรงถือว่าความเชื่อของเขาเป็นความชอบธรรม ดาวิดกล่าวเช่นเดียวกันนี้ เมื่อเขาพูดถึงความสุขของผู้ที่พระเจ้าทรงถือว่าเป็นคนชอบธรรมโดยไม่ได้อาศัยการประพฤติว่า

“ความสุขมีแก่
ผู้ที่ได้รับการอภัยในการล่วงละเมิดของพวกเขา
ผู้ที่บาปทั้งหลายของเขาได้รับการกลบเกลื่อน
ความสุขมีแก่
ผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ถือโทษบาปของเขาอีก”[b]

ความสุขนี้มีแก่ผู้ที่ได้เข้าสุหนัตเท่านั้นหรือ? หรือมีแก่ผู้ที่ไม่ได้เข้าสุหนัตด้วย? เราได้กล่าวแล้วว่าพระเจ้าทรงถือว่าความเชื่อของอับราฮัมเป็นความชอบธรรมของเขา 10 สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อใด? ก่อนหรือหลังจากที่เขาเข้าสุหนัต? ไม่ใช่หลังเข้าสุหนัต แต่เกิดขึ้นก่อนเข้าสุหนัตต่างหาก! 11 และเขาได้เข้าสุหนัตเป็นเครื่องหมาย ซึ่งเป็นตราแห่งความชอบธรรมที่เขาได้มาโดยความเชื่อขณะที่เขายังไม่ได้เข้าสุหนัต ด้วยเหตุนี้เขาจึงเป็นบิดาของคนทั้งปวงที่เชื่อแต่ยังไม่ได้เข้าสุหนัต เพื่อพระเจ้าจะทรงถือว่าพวกเขาเหล่านั้นเป็นผู้ชอบธรรมด้วย 12 และเขายังเป็นบิดาของผู้ที่เข้าสุหนัตแล้ว คนเหล่านี้ไม่เพียงเข้าสุหนัตเท่านั้น แต่ยังดำเนินตามรอยความเชื่อที่อับราฮัมบรรพบุรุษของเรามีตั้งแต่ก่อนที่เขาจะเข้าสุหนัต

สดุดี 13

(ถึงหัวหน้านักร้อง บทสดุดีของดาวิด)

13 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะทรงลืมข้าพระองค์ไปนานสักเท่าใด ตลอดกาลหรือ?
พระองค์จะทรงซ่อนพระพักตร์ไปจากข้าพระองค์อีกนานเท่าใดหนอ?
ข้าพระองค์ต้องครุ่นคิดกลัดกลุ้ม
ต้องร้าวรานใจอยู่วันแล้ววันเล่าไปอีกนานเพียงใด?
ศัตรูจะชนะข้าพระองค์อีกนานสักเท่าใดหนอ?

ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอโปรดทอดพระเนตรข้าพระองค์และทรงตอบ
ขอโปรดประทานความสว่างแก่ดวงตาของข้าพระองค์ หรือข้าพระองค์จะต้องหลับใหลอยู่ในความตาย
และศัตรูของข้าพระองค์จะกล่าวว่า “เราชนะเขาแล้ว”
และปฏิปักษ์ของข้าพระองค์จะดีใจเมื่อข้าพระองค์ล้มลง

แต่ข้าพระองค์วางใจในความรักมั่นคงของพระองค์
จิตใจของข้าพระองค์ปีติยินดีในการช่วยให้รอดของพระองค์
ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า
เพราะพระองค์ทรงดีต่อข้าพเจ้า

สุภาษิต 19:15-16

15 ความขี้เกียจทำให้หลับสนิท
และคนขี้เกียจต้องหิวโหย

16 ผู้ที่เชื่อฟังคำตักเตือนสั่งสอนก็ถนอมชีวิตของตนไว้
ผู้ที่ไม่ใส่ใจทางของตนจะต้องตาย

Thai New Contemporary Bible (TNCV)

Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.