Chronological
ดินเหนียวและคนปั้นถ้วยชาม
18 นี่คือข่าวสารที่เยเรมียาห์ได้รับมาจากพระยาห์เวห์ พระองค์บอกว่า
2 “ลุกขึ้นมาและให้ลงไปที่บ้านของช่างปั้นถ้วยชาม เมื่อเจ้าไปถึงที่นั่น เราจะบอกเจ้าอีกครั้งว่าจะให้พูดอะไร” 3 ดังนั้นผมจึงไปที่บ้านช่างปั้นถ้วยชามนั้น และผมก็มองดู ในขณะที่เขากำลังปั้นบางอย่างอยู่บนแท่นหมุนของเขา
4 แล้วภาชนะที่เขากำลังทำอยู่นั้นก็พังอยู่ในมือของเขานั่นเอง เขาก็เลยปั้นภาชนะอันใหม่ และก็เสร็จออกมาตามที่เขาต้องการ
5 แล้วพระยาห์เวห์ก็พูดกับผมว่า 6 “ชาวอิสราเอล เราจะทำกับพวกเจ้าเหมือนกับที่ช่างปั้นคนนี้ทำกับดินเหนียวของเขาไม่ได้หรือ ชาวอิสราเอล พวกเจ้าน่ะอยู่ในมือของเรา เหมือนกับที่ดินเหนียวอยู่ในมือของช่างปั้น 7 อาจจะมีเวลาหนึ่งที่เราพูดว่า เราจะถอนรากถอนโคน จะพังและทำลายชนชาติหนึ่งหรืออาณาจักรหนึ่ง 8 แต่ถ้าชนชาติที่เราพูดต่อว่านี้ หันจากสิ่งเลวที่กำลังทำอยู่ เราก็จะเปลี่ยนใจเกี่ยวกับเรื่องเลวร้ายที่เราวางแผนจะให้เกิดขึ้นกับชนชาตินั้น 9 แต่ในขณะเดียวกัน เราอาจจะพูดว่าเราจะทำให้ชนชาติหนึ่งหรืออาณาจักรหนึ่งเจริญรุ่งเรือง 10 แต่ถ้าตอนนั้นเราเห็นว่าชนชาตินั้นทำสิ่งที่เลวร้าย และไม่เชื่อฟังเรา เราก็จะเปลี่ยนใจเกี่ยวกับเรื่องดีๆที่เราบอกว่าเราจะทำให้กับชนชาตินั้น
11 ตอนนี้ให้บอกกับคนยูดาห์และคนที่อาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็มว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูด เรากำลังเตรียมเรื่องเลวร้ายให้เกิดขึ้นกับเจ้า และกำลังวางแผนต่อต้านเจ้า หันกลับจากวิถีชีวิตเลวๆของพวกเจ้าเสีย ทำวิถีชีวิตและการกระทำต่างๆของเจ้าให้ดี’ 12 แต่พวกเขาจะพูดว่า ‘ทำอย่างนั้นไม่มีประโยชน์หรอก เราจะทำตามแผนของเรา และเราแต่ละคนก็จะทำตามจิตใจที่ดื้อดึงและชั่วช้าของตัวเอง’”
13 ดังนั้นพระยาห์เวห์จึงพูดว่า
“ไปถามชนชาติอื่นๆดูว่า
มีใครเคยได้ยินเกี่ยวกับคนแบบนี้บ้างไหม
อิสราเอลหญิงสาวที่บริสุทธิ์นั้น
ได้ทำในสิ่งที่น่าขยะแขยงมาก
14 หิมะที่เลบานอนเคยหายไปจากยอดเขาไหม
ลำธารอันหนาวเย็นของคนต่างชาติเคยเหือดแห้งไปบ้างไหม
15 แต่คนของเรากลับลืมเราเสียได้
พวกเขาไปเผาเครื่องหอมให้กับสิ่งที่ไร้สาระ
ซึ่งทำให้พวกเขาสะดุดและหลงไปจากหนทางเก่าแก่
และไปเดินตามทางเล็กๆแทนที่จะเป็นทางหลวง
16 แผ่นดินของพวกเขาจะกลายเป็นที่รกร้างว่างเปล่า
กลายเป็นสิ่งที่น่าหัวเราะเยาะตลอดไป
ใครที่เดินผ่านไปก็จะต้องตกใจกลัว
และส่ายหัวด้วยความสลดหดหู่
17 เราจะเป็นเหมือนลมจากตะวันออก
ที่จะพัดให้พวกมันกระจัดกระจายไปต่อหน้าศัตรู
เราจะทำให้พวกเขาเห็นแต่หลังเราแทนหน้าเรา
ในวันที่พวกเขาเจอกับความทุกข์ยากลำบาก”
เยเรมียาห์บ่นเป็นครั้งที่สี่
18 แล้วพวกเขาพูดว่า “มานี่ พวกเรามาวางแผนทำร้ายเยเรมียาห์กันเถอะ เพราะยังไงซะ พวกนักบวชก็จะยังสอนกฎของพระเจ้าอยู่ดี และคนฉลาดก็ยังให้คำแนะนำอยู่ และผู้พูดแทนพระเจ้าก็ยังพูดแทนพระยาห์เวห์อยู่ มาเถอะ มาใส่ร้ายไอ้หมอนั่นกัน อย่าไปสนใจเรื่องที่มันพูดเลย”
19 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ได้โปรดฟังข้าพเจ้าด้วยเถิด
โปรดฟังคดีของข้าพเจ้าด้วย
20 คนเราควรจะได้รับผลตอบแทนเลวร้ายแทนการดีที่เขาทำไปหรือ
แต่พวกฝ่ายตรงข้ามของข้าพเจ้าได้ขุดหลุมพรางไว้ดักข้าพเจ้า
ขออย่าลืมว่า ข้าพเจ้าได้ยืนอยู่ต่อหน้าพระองค์
เพื่อยกเรื่องดีๆของพวกเขาให้พระองค์ฟัง
เพื่อให้พระองค์หันความโกรธแค้นของพระองค์ไปจากพวกเขา
21 บัดนี้ ช่วยทำให้ลูกๆของพวกเขาพบกับความอดอยาก
และขอให้พวกเขาตกอยู่ในคมดาบ
ขอให้เมียพวกเขาไม่มีลูกและเป็นหม้าย
ขอให้พวกผู้ชายของพวกเขาถูกฆ่าตาย
ขอให้พวกคนหนุ่มของเขาถูกฆ่าฟันด้วยดาบในสงคราม
22 ขอให้มีเสียงร้องโหยหวนจากบ้านของพวกเขา
เมื่อพระองค์นำกองทัพบุกมาโจมตีพวกเขาในทันทีทันใด
เพราะพวกมันขุดหลุมพรางดักข้าพเจ้า
และทำบ่วงแร้วดักเท้าของข้าพเจ้า
23 แต่พระยาห์เวห์เจ้าข้า พระองค์รู้แผนการของพวกเขาที่จะฆ่าข้าพเจ้า
อย่ายกโทษให้กับความผิดบาปของพวกเขา
แล้วอย่าลบบาปของพวกเขาไปจากสายตาพระองค์
ทำให้พวกเขาสะดุดล้มต่อหน้าพระองค์
ขอให้พระองค์ทำอย่างนี้กับพวกเขาเมื่อพระองค์โกรธ
เหยือกที่แตก
19 พระยาห์เวห์พูดว่า “ไปซื้อหม้อดินเผาจากช่างปั้นมาหนึ่งใบ แล้วให้พาพวกผู้อาวุโสบางคนและพวกนักบวชอาวุโสจำนวนหนึ่งไปกับเจ้าด้วย
2 ให้เจ้าไปที่หุบเขาแห่งลูกชายฮินโนมซึ่งด้านนอกของประตูเศษหม้อดิน แล้วให้เจ้าประกาศข้อความที่เราจะบอกกับเจ้าที่นั่น
3 เจ้าจะพูดว่า ‘พวกกษัตริย์ของยูดาห์ และคนที่อาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม ให้ฟังถ้อยคำนี้ของพระยาห์เวห์ นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ผู้เป็นพระเจ้าแห่งอิสราเอลได้พูดไว้ คือ เรากำลังจะทำให้เกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นกับสถานที่นี้ แบบที่ว่าใครที่ได้ยินมันก็จะต้องตกใจ
4 เพราะพวกเขาได้ทอดทิ้งเรา และพวกเขาได้ทำให้สถานที่นี้กลายเป็นที่ต่างแดน พวกเขาได้เผาเครื่องหอมให้กับพระอื่นที่นี่ แม้ว่าจะเป็นตัวพวกเขาเอง บรรพบุรุษของพวกเขาหรือพวกกษัตริย์แห่งยูดาห์ ก็ไม่เคยรู้จักพระเหล่านั้นมาก่อน และพวกเขาทำให้เลือดของคนบริสุทธิ์ต้องไหลนองที่นี่
5 พวกเขาสร้างสถานสูงเพื่อเป็นเกียรติให้พระบาอัล แล้วก็เผาลูกตัวเองที่นั่น เป็นเครื่องเผาบูชาให้กับพระบาอัล ทั้งๆที่เราไม่เคยสั่งหรือพูดถึง หรือแม้แต่จะคิดว่าพวกเขาควรทำอย่างนั้น’”
6 พระยาห์เวห์พูดว่า “ดังนั้น วันเหล่านั้นใกล้มาถึงแล้ว เมื่อจะไม่มีใครเรียกสถานที่นี้ว่าโทเฟทและหุบเขาแห่งลูกชายฮินโนมอีกต่อไป แต่มันจะถูกเรียกว่าหุบเขาแห่งการฆ่าแทน
7 ในสถานที่แห่งนี้ เราจะทำให้แผนงานต่างๆที่พวกมันวางแผนกันในยูดาห์และในเยรูซาเล็มล้มเหลวไป เราจะทำให้พวกมันล้มตายด้วยดาบต่อหน้าศัตรูของพวกมัน และตกเข้าไปอยู่ในเงื้อมมือของคนพวกนั้นที่ตามล่าชีวิตพวกมัน เราจะทิ้งศพพวกมันให้เป็นอาหารนกในอากาศ และสิงสาราสัตว์บนพื้นดิน
8 เราจะทำให้เมืองนี้เป็นเมืองที่น่าหวาดผวาและเมืองที่ชวนให้ส่งเสียงเยาะเย้ย ทุกคนที่ผ่านมาจะตกอกตกใจและส่งเสียงเยาะเย้ยที่มันพังยับเยินอย่างนี้
9 เราจะทำให้พวกมันต้องกินเนื้อลูกชายและลูกสาวของตัวเอง พวกมันจะกินเนื้อกันเอง ในช่วงที่ถูกล้อมเมืองและในช่วงที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากพวกศัตรูและพวกที่พยายามจะฆ่าพวกมัน
10 แล้วให้เจ้าทุบหม้อนั้นให้แตกต่อหน้าต่อตาพวกคนที่เดินมากับเจ้า
11 แล้วให้เจ้าบอกกับพวกเขาว่า พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดว่า ‘เราจะทุบคนพวกนี้และเมืองนี้ให้แตกเป็นชิ้นๆเหมือนกับหม้อจนไม่สามารถซ่อมแซมได้อีกแล้ว และพวกเขาก็จะฝังศพในโทเฟทจนไม่เหลือที่จะให้ฝังอีก 12 นี่แหละคือสิ่งที่เราจะทำกับที่แห่งนี้และพลเมืองของมัน’” พระยาห์เวห์พูดไว้ว่าอย่างนี้ “เราจะทำกับเมืองนี้เหมือนเมืองโทเฟท 13 และบ้านเมืองในเยรูซาเล็มและวังต่างๆของพวกกษัตริย์ยูดาห์จะเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ไปเหมือนบริเวณโทเฟท เพราะบ้านทุกหลังเผาเครื่องหอมกราบไหว้ดวงดาวบนท้องฟ้า และเทเครื่องดื่มบูชาให้กับพระอื่นๆ”
14 แล้วเยเรมียาห์ก็ไปจากโทเฟท ที่พระยาห์เวห์ส่งให้เขาไปพูดแทนพระองค์ จากนั้นเขาก็มายืนที่ลานในวิหารของพระยาห์เวห์ และพูดกับทุกคนในนั้นว่า 15 พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ผู้เป็นพระเจ้าแห่งอิสราเอลพูดว่า “ฟังให้ดี เรากำลังจะนำความทุกข์ทรมานอย่างที่เราเคยพูดไว้ มาที่เมืองเยรูซาเล็มนี้และเมืองที่อยู่รอบๆมันทั้งหมด เพราะพวกมันยังหัวแข็งดื้อดึงต่อเราและไม่ฟังคำพูดต่างๆของเรา”
เยเรมียาห์และปาชเฮอร์
20 แล้วปาชเฮอร์ ที่เป็นนักบวช ลูกชายของอิมเมอร์ ปาชเฮอร์เป็นหัวหน้าคนดูแลวิหารของพระยาห์เวห์ เมื่อเขาได้ยินเยเรมียาห์พูดแทนพระเจ้าถึงเรื่องต่างๆเหล่านี้ 2 ปาชเฮอร์จึงตีเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้า แล้วจับเขาไปใส่ขื่อ ประจานที่ประตูเบนยามินด้านบนในเขตวิหารของพระยาห์เวห์นั้นเอง
3 วันต่อมาปาชเฮอร์ก็ปลดขื่อให้เยเรมียาห์ ปล่อยเขาไป แล้วเยเรมียาห์ก็พูดกับเขาว่า พระยาห์เวห์ไม่เรียกชื่อเจ้าว่าปาชเฮอร์อีกต่อไปแล้ว แต่พระองค์เรียกเจ้าว่า “ความหายนะทุกด้าน”
4 เพราะพระยาห์เวห์พูดว่า “เราจะทำให้เจ้าเองได้รับความหายนะ รวมทั้งทุกคนที่เจ้ารัก และพวกเขาก็จะถูกศัตรูฆ่าฟัน และเจ้าจะเห็นมันกับตา เราจะให้ทุกคนในยูดาห์ตกอยู่ในเงื้อมมือของกษัตริย์บาบิโลน และเขาจะกวาดต้อนพวกเขาไปบาบิโลน และเอาดาบฆ่าฟันพวกเขา
5 และเราก็จะเอาทรัพย์สินทั้งหมดของเมืองนี้ ผลผลิตทั้งหมดที่เก็บเกี่ยวได้ ของมีค่าทั้งหลาย รวมทั้งทรัพย์สมบัติที่พวกกษัตริย์แห่งยูดาห์สะสมไว้ เราจะให้ของเหล่านี้ทั้งหมดไปกับพวกศัตรูของพวกเขา พวกบาบิโลนจะปล้นพวกเขา และจะกวาดต้อนพวกเขาไปบาบิโลน
6 ส่วนเจ้า ปาชเฮอร์และทุกคนที่อาศัยอยู่ในบ้านของเจ้า จะต้องตกไปเป็นเชลย เจ้าจะต้องไปอยู่บาบิโลน เจ้าจะต้องตายที่นั่นและถูกฝังที่นั่น ทั้งเจ้า ทั้งคนที่เจ้ารัก รวมทั้งคนที่เจ้าได้ไปหลอกว่าเจ้าพูดแทนเรา”
เยเรมียาห์บ่นเป็นครั้งที่ห้า
7 พระยาห์เวห์เจ้าข้า พระองค์หลอกข้าพเจ้า
และข้าพเจ้าก็ยอมให้ถูกหลอก
พระองค์แสดงความแข็งแกร่งให้ข้าพเจ้าเห็น
และพระองค์ก็โค่นข้าพเจ้าลง
ข้าพเจ้ากลายเป็นเป้าแห่งการเยาะเย้ย
ให้คนหัวเราะเยาะทั้งวัน
8 เพราะเมื่อไหร่ที่ข้าพเจ้าพูด ข้าพเจ้าต้องร้องออกมา
ประกาศว่าความรุนแรงและการถูกทำลายกำลังมา
พระคำของพระองค์กลายเป็นสิ่งที่ทำให้คนดูถูก
และหัวเราะเยาะข้าพเจ้าทั้งวัน
9 แล้วข้าพเจ้าก็พูดว่า “ข้าพเจ้าจะไม่พูดเรื่องนี้อีกแล้ว
ข้าพเจ้าจะไม่พูดแทนพระเจ้าอีกต่อไป”
แต่มันกลับเป็นเหมือนไฟเผาไหม้อยู่ในใจของข้าพเจ้า
เป็นเหมือนสิ่งที่อัดอั้นไว้ในกระดูกของข้าพเจ้า
และข้าพเจ้าก็เหนื่อยล้าที่จะหยุดยั้งมันไว้
และในที่สุดข้าพเจ้าก็ยั้งมันไม่อยู่
10 เพราะข้าพเจ้าได้ยินคนจำนวนมากนินทาข้าพเจ้า
พวกเขาประกาศว่า “มีแต่ความหายนะทุกด้าน”
ประกาศไปเลย ใช่แล้ว ให้พวกเราประกาศไปเลย
เพื่อนข้าพเจ้าแต่ละคนคอยจ้องดูข้าพเจ้า ว่าเมื่อไหร่ข้าพเจ้าจะสะดุดล้มพลาดไป
พวกเขาพูดว่า “บางทีไอ้หมอนั่นอาจจะถูกหลอกก็ได้
แล้วเราก็จะได้เอาชนะมันและระบายความแค้นกับมัน”
11 พระยาห์เวห์อยู่กับข้าพเจ้าเหมือนนักรบที่น่าเกรงขาม
ดังนั้น คนที่ไล่ล่าข้าพเจ้าจะสะดุดล้ม
และไม่สามารถเอาชนะข้าพเจ้าได้
พวกเขาจะอับอายขายหน้าเพราะไม่เข้าใจ
พวกเขาจะต้องแบกความอับอายนั้นไว้ตลอดกาลจะไม่มีใครลืมความอับอายนั้น
12 ข้าแต่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ผู้พิจารณาว่าอะไรเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
และผู้รู้ถึงความคิดและความอยากของมนุษย์
ขอให้ข้าพเจ้าได้เห็นพระองค์แก้แค้นคนพวกนั้นด้วยเถิด
เพราะข้าพเจ้าได้ร้องเรียนต่อพระองค์แต่เพียงผู้เดียว
13 ร้องเพลงแด่พระยาห์เวห์
สรรเสริญพระยาห์เวห์สิ
เพราะพระองค์ได้ช่วยชีวิตคนยากจน
ให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของคนที่ทำชั่วร้าย
เยเรมียาห์บ่นเป็นครั้งที่หก
14 ขอให้ถือว่าวันที่ผมเกิดมานั้นเป็นวันที่ถูกสาปแช่ง
ขอให้ถือว่าวันที่แม่ผมคลอดผมมานั้นเป็นวันที่ถูกสาปแช่ง
ขออย่าได้ถือว่ามันเป็นวันแห่งความสุขเลย
15 ชายคนที่ไปบอกข่าวกับพ่อของผมว่า
“ลูกท่านเกิดมาเป็นผู้ชาย”
แล้วก็ทำให้พ่อดีอกดีใจยกใหญ่
ขอให้ชายคนนั้นถูกสาปแช่ง
16 ขอให้ชายคนนั้นเป็นเหมือนเมืองต่างๆที่พระยาห์เวห์ทำลาย
วอดวายอย่างไร้ปรานี
ขอให้เขาได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญในตอนเช้า
และเสียงแตรเตือนว่ามีอันตรายเข้ามาใกล้ในตอนเที่ยง
17 ขอให้สิ่งเหล่านี้เกิดกับคนที่ไม่ได้ฆ่าผมตั้งแต่อยู่ในท้อง
เพราะถ้าเขาได้ทำอย่างนั้น แม่ของผมก็จะเป็นสุสานของผม
และแม่ก็จะท้องอยู่อย่างนั้นตลอดไป
18 ทำไมผมจะต้องเกิดออกมาจากท้องแม่
เพื่อมาเจอกับปัญหาทุกข์ยากพวกนี้
และใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ด้วยความอัปยศอดสู
พระเจ้าปฏิเสธคำขอของกษัตริย์เศเดคียาห์
21 นี่คือคำพูดของพระยาห์เวห์ ที่มีมาถึงเยเรมียาห์ เมื่อกษัตริย์เศเดคียาห์ส่งปาชเฮอร์ลูกชายของมัลคียาห์ กับเศฟันยาห์นักบวชลูกชายของมาอาเสอาห์มาหาเยเรมียาห์ พวกเขาพูดว่า 2 “ช่วยอธิษฐานถึงพระยาห์เวห์ให้กับพวกเราหน่อย เพราะเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์บาบิโลนกำลังสู้รบกับพวกเราอยู่ บางทีพระยาห์เวห์อาจจะทำสิ่งที่วิเศษให้กับพวกเรา เหมือนที่พระองค์เคยทำในอดีต และกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์จะได้ไปจากเรา”
3 แล้วเยเรมียาห์ก็พูดกับพวกเขาว่า “ขอให้พวกท่านไปบอกกับกษัตริย์เศเดคียาห์ว่า 4 พระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลพูดว่า ‘เราจะหันอาวุธในมือเจ้ากลับมาทำร้ายเจ้าเอง อาวุธที่เจ้าใช้ต่อสู้กับกษัตริย์บาบิโลนและพวกเคลเดียที่ต่อสู้กับเจ้าอยู่นอกกำแพงเมืองนั้น และเราจะนำศัตรูพวกนั้นมาให้ถึงใจกลางเมืองของเจ้าเลยทีเดียว 5 เราจะต่อสู้กับเจ้าด้วยมือที่เหยียดออกและแขนที่เต็มไปด้วยฤทธิ์อำนาจ ด้วยความโกรธ ความแค้น และความเดือดดาลอย่างยิ่ง 6 เราจะโจมตีสิ่งมีชีวิตในเมืองนี้ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ พวกมันจะตายด้วยโรคระบาด’” 7 พระยาห์เวห์พูดว่า “ต่อจากนั้น เราจะยกเศเดคียาห์กษัตริย์ยูดาห์พร้อมกับทาสรับใช้ พร้อมกับผู้คน และคนพวกนั้นที่ยังรอดชีวิตจากโรคระบาด สงคราม และความอดอยากให้ไปตกอยู่ในเงื้อมมือของเนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์บาบิโลน และให้ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของพวกศัตรู และคนที่จ้องจะเอาชีวิตพวกเขาอยู่ เนบูคัดเนสซาร์จะเอาดาบแทงพวกเขา กษัตริย์จะไม่เมตตาพวกเขา จะไม่สงสาร จะไม่เห็นอกเห็นใจ”
8 แล้วพระยาห์เวห์ก็พูดว่า “เยเรมียาห์ เจ้าจะต้องพูดกับคนพวกนี้ว่า ‘พระยาห์เวห์พูดว่า “เรามีทางเลือกสองทางให้กับเจ้าคือทางแห่งชีวิตและทางแห่งความตาย 9 ใครที่อยู่ในเมืองนี้ จะต้องตายจากดาบ หรืออดตาย หรือเป็นโรคตาย ส่วนคนที่หนีออกนอกเมือง ก็จะตกไปอยู่ในเงื้อมมือของพวกเคลเดียที่กำลังต่อสู้กับพวกเจ้าอยู่ แต่เขาจะรอด พวกเขาจะได้ชีวิตตนเองเหมือนกับของที่ยึดมาได้จากสงคราม 10 เพราะเราตัดสินใจแล้วที่จะลงโทษเมืองนี้ ไม่ใช่ให้รางวัลมัน”’” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้ “เมืองนี้จะต้องตกไปอยู่ในมือของกษัตริย์แห่งบาบิโลน แล้วเขาจะเอาไฟเผามัน”
11 ไปบอกคนที่อยู่ในวังของกษัตริย์แห่งยูดาห์ว่า
“ฟังถ้อยคำของพระยาห์เวห์ให้ดี
12 ครอบครัวของดาวิด พระยาห์เวห์พูดอย่างนี้ว่า
ให้พิพากษาด้วยความยุติธรรมทุกๆเช้า
แล้วช่วยคนที่ถูกปล้นให้พ้นจากเงื้อมมือของคนที่กดขี่เขา
ความโกรธของเราจะได้ไม่ลุกลามไป
เหมือนไฟที่เผาผลาญจนดับไม่ได้
เพราะความชั่วช้าที่พวกเจ้าทำไว้
13 พระยาห์เวห์พูดว่า
ไอ้เจ้าที่นั่งอยู่บนที่ราบ
ไอ้ก้อนหินบนที่ราบ
ดูสิ เราต่อต้านเจ้าอยู่”
พวกเจ้าพูดว่า
“ใครจะมาทำให้เรากลัวได้
ใครจะมาโจมตีบ้านเมืองเราได้”
14 พระยาห์เวห์พูดว่า
“เราจะลงโทษพวกเจ้าให้สาสมกับการกระทำของเจ้า
เราจะจุดไฟเผาป่าของเจ้า
แล้วมันก็จะเผาผลาญทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆเจ้า”
การพิพากษาต่อกษัตริย์ที่ชั่วร้าย
22 พระยาห์เวห์พูดอย่างนี้ว่า “เยเรมียาห์ ให้ไปที่วังของกษัตริย์แห่งยูดาห์ และให้เจ้าบอกกับเขาเรื่องนี้ 2 เจ้าจะต้องพูดว่า ‘กษัตริย์แห่งยูดาห์ ผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ของดาวิด ฟังถ้อยคำของพระยาห์เวห์ให้ดี ตัวท่าน ข้ารับใช้ของท่าน และประชาชนที่ผ่านประตูเหล่านี้เข้ามา 3 พระยาห์เวห์พูดว่า “ให้ทำในสิ่งที่ยุติธรรมและถูกต้อง และให้ช่วยเหลือคนที่ถูกปล้นให้รอดพ้นจากเงื้อมมือคนที่กดขี่เขา อย่าข่มเหงหรือทำร้ายผู้ผ่านทาง คนไม่มีพ่อ และหญิงหม้าย และอย่าทำให้เลือดคนบริสุทธิ์ต้องหลั่งไหลที่นี่ 4 ถ้าพวกเจ้าทำตามถ้อยคำนี้อย่างเอาเป็นเอาตายแล้วละก็ พวกกษัตริย์ที่นั่งบนบัลลังก์ของดาวิดและขี่รถรบหรือนั่งอยู่บนหลังม้า ทั้งพวกเขาและข้ารับใช้ของเขา และประชาชนของพวกเขา จะได้เข้ามาทางประตูวังแห่งนี้ 5 แต่ถ้าพวกเจ้าไม่ใส่ใจฟังถ้อยคำเหล่านี้ พระยาห์เวห์ก็พูดว่า เรารับรองว่า วังนี้จะต้องถูกทำลายจนย่อยยับ”’”
6 เพราะนี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูดเกี่ยวกับวังของกษัตริย์แห่งยูดาห์ว่า
“เจ้าเป็นเหมือนกิเลอาดสำหรับเรา
เป็นเหมือนยอดเขาเลบานอน
แต่เราจะทำให้เจ้ากลายเป็นทะเลทราย
และทำให้เจ้าเป็นเมืองร้าง
7 เราจะอุทิศพวกผู้ทำลายไว้สำหรับเจ้า
แต่ละคนมีอาวุธของตัวเอง
พวกเขาจะโค่นต้นสนซีดาร์ราคาแพงของเจ้าและโยนมันทิ้งในไฟ”
8 “หลายๆชนชาติจะเดินผ่านมาเห็นเมืองนี้ และพูดกับเพื่อนบ้านว่า ‘ทำไมพระยาห์เวห์ถึงได้ทำอย่างนี้กับเมืองที่ยิ่งใหญ่นี้’ 9 แล้วพวกเขาก็จะพูดว่า ‘ก็เพราะพวกเขาละทิ้งพันธสัญญาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา ไปก้มกราบและรับใช้พระอื่นๆ’”
การพิพากษาต่อกษัตริย์ชัลลูม
10 ไม่ต้องไปร้องไห้ให้กับกษัตริย์ที่ตายไปแล้ว[a]
แล้วก็ไม่ต้องไปเสียอกเสียใจให้กับเขาด้วย
แต่ให้ร้องไห้อย่างขมขื่นให้กับกษัตริย์[b] ที่ต้องหนีออกไปจากเมืองนี้เถอะ
เพราะเขาจะไม่มีวันได้กลับมาเห็นบ้านเกิดของเขาอีก
11 เพราะนี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูดไว้เกี่ยวกับกษัตริย์ชัลลูม แห่งยูดาห์ลูกของกษัตริย์โยสิยาห์ ผู้ที่มาปกครองแทนโยสิยาห์พ่อของเขาว่า “ชัลลูมต้องไปจากสถานที่แห่งนี้และจะไม่กลับมาอีก 12 เขาจะต้องตายในที่ที่เขาถูกเนรเทศไป และเขาจะไม่ได้เห็นแผ่นดินนี้อีกเลย”
การพิพากษาต่อกษัตริย์เยโฮยาคิม
13 พระยาห์เวห์พูดว่า “นี่ เจ้า ที่สร้างบ้านของเจ้าด้วยการเอาเปรียบลูกจ้าง
แล้วต่อชั้นบนของบ้านขึ้นไปด้วยการโกงคนงาน
เจ้าที่ใช้เพื่อนตัวเองฟรีๆโดยไม่ยอมจ่ายค่าจ้างให้กับพวกเขา
14 เยโฮยาคิม เจ้าพูดว่า
‘เราจะสร้างบ้านหลังใหญ่ๆให้กับตัวเองและห้องชั้นบนกว้างๆ
แล้วขยายหน้าต่างให้ใหญ่ขึ้น
แล้วบุบ้านด้วยไม้สนซีดาร์และทามันด้วยสีแดง’
15 เยโฮยาคิม เจ้าปกครองบ้านเมืองเพื่อจะได้ใช้ไม้สนซีดาร์ให้มากๆหรือไง
โยสิยาห์ พ่อของเจ้ามีกินมีดื่มอย่างเหลือเฟือไม่ใช่หรือ
พ่อเจ้าทำสิ่งที่ยุติธรรมและถูกต้อง
ดังนั้น เขาก็เจอแต่เรื่องดีๆ
16 เขาใช้เวลาตัดสินคดีของคนที่สิ้นหวังและยากจน
เขาจึงเจอแต่เรื่องดีๆ
นั่นแหละคือความหมายของการที่ได้รู้จักเรา”
พระยาห์เวห์พูดอย่างนั้น
17 แต่ตาและใจของเจ้าไม่ได้เป็นอย่างนั้น
เจ้าคิดแต่เรื่องการทำกำไร
และทำให้คนบริสุทธิ์ต้องเลือดตก
และกดขี่ข่มเหงและย่ำยีพวกเขา
18 ดังนั้น พระยาห์เวห์ก็เลยพูดถึงเยโฮยาคิม
ลูกของกษัตริย์โยสิยาห์แห่งยูดาห์ว่า
“คนยูดาห์จะไม่ร้องไห้ให้กับเยโฮยาคิม
พวกเขาจะไม่พูดว่า ‘พี่ชาย นี่เป็นเรื่องเศร้า
น้องสาว มันเศร้าจริงๆ’
คนยูดาห์จะไม่ร้องไห้ให้กับเยโฮยาคิม
พวกเขาจะไม่พูดว่า ‘เจ้านายของผม น่าเศร้าเหลือเกิน
ข้าแต่กษัตริย์ เรื่องนี้น่าเศร้าเหลือเกิน’
19 เยโฮยาคิมจะถูกฝังเหมือนที่ลาถูกฝัง
เยโฮยาคิมจะถูกลากออกไปโยนที่นอกประตูเมืองเยรูซาเล็ม”
20 พระยาห์เวห์พูดว่า “ให้ขึ้นไปบนภูเขาที่เลบานอนแล้วร้องไห้อย่างสิ้นหวัง
ตะโกนด้วยความเศร้าโศกในเมืองบาชานสิ
ร้องไห้อย่างสิ้นหวังจากเทือกเขาอาบาริมสิ
เพราะคนที่รักเจ้าถูกทำลายไปหมดแล้ว
21 ยูดาห์ เราพูดกับเจ้าตอนที่เจ้ารู้สึกมั่นคงและปลอดภัย
เจ้าพูดว่า ‘ฉันจะไม่ฟังหรอก’
นิสัยเจ้าเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว
เพราะว่าเจ้าไม่เคยเชื่อฟังเราเลย
22 ลมจะพัดเอาคนเลี้ยงแกะของเจ้าไปหมด
และคนที่รักเจ้าจะต้องถูกจับไปเป็นเชลย
เพราะในเวลานั้นเจ้าจะอับอาย
และได้รับการดูถูกเหยียดหยามจากความชั่วช้าทั้งสิ้นของเจ้า
23 เจ้าที่อาศัยอยู่ในเลบานอนท่ามกลางต้นสนซีดาร์ทั้งหลาย[c]
เจ้าจะร้องไห้ครวญครางแน่
เมื่อความเจ็บปวดมาถึงเจ้า
เหมือนความเจ็บปวดของหญิงที่กำลังจะคลอดลูก”
การพิพากษาต่อกษัตริย์โคนิยาห์
24 พระยาห์เวห์พูดว่า “เรามีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า ถึงแม้เจ้า โคนิยาห์[d] ลูกชายของกษัตริย์เยโฮยาคิมแห่งยูดาห์จะเป็นแหวนประทับตราที่สวมอยู่บนมือขวาของเรา เราก็จะดึงเจ้าออกจากมือเราแน่
25 แล้วเราจะส่งให้เจ้าไปอยู่ในกำมือของคนที่อยากจะฆ่าเจ้า เราจะส่งเจ้าให้ไปอยู่ในมือของคนที่เจ้าหวาดผวา คือไปอยู่ในมือของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนและไปอยู่ในมือของพวกเคลเดีย
26 เราจะโยนเจ้ากับแม่ที่ให้กำเนิดเจ้ามา ไปอยู่ที่แผ่นดินอื่น ที่เจ้าไม่ได้เกิดมา แต่เจ้าจะต้องตายที่นั่น 27 พวกเขาจะไม่ได้กลับมายังแผ่นดินที่พวกเขาหวังว่าจะได้กลับมานั้น”
28 โคนิยาห์คนนี้เป็นที่น่ารังเกียจ
เหมือนหม้อที่แตกหรือ
เขาเป็นหม้อที่ไม่มีใครอยากได้หรือยังไง
แล้วทำไมเขาถึงถูกโยนทิ้งล่ะ
และทำไมลูกๆเขาถึงต้องกระเด็นไปอยู่ในแผ่นดินที่พวกเขาไม่รู้จัก
29 แผ่นดิน แผ่นดิน แผ่นดินเอ๋ย
ให้ฟังถ้อยคำของพระยาห์เวห์
30 พระยาห์เวห์พูดไว้ว่าอย่างนี้
“ให้เขียนลงไปเกี่ยวกับโคนิยาห์คนนี้ว่า
เขาเป็นคนที่ไม่มีลูกสืบสกุล
เขาจะเป็นคนที่จะล้มเหลวตลอดชีวิต
จะไม่มีลูกหลานของเขาสักคนที่ร่ำรวย
จะไม่มีลูกหลานของเขาสักคนที่จะได้นั่งบนบัลลังก์ของดาวิดและปกครองยูดาห์”
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International