Chronological
โยสิยาห์ปกครองยูดาห์
(2 พศด. 34:1-2, 8-33)
22 โยสิยาห์มีอายุแปดขวบเมื่อเขาได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ และเขาครองราชย์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มเป็นเวลาสามสิบเอ็ดปี แม่ของเขาชื่อว่าเยดีดาห์ นางเป็นลูกสาวของอาดายาห์ ชาวเมืองโบสคาท 2 โยสิยาห์ได้ทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระยาห์เวห์ และได้เดินตามทางทุกทางของดาวิดบรรพบุรุษของเขา ไม่เคยหันซ้ายหรือหันขวา
โยสิยาห์สั่งให้ซ่อมแซมวิหาร
(2 พศด. 34:9-13)
3 ในปีที่สิบแปด ที่โยสิยาห์เป็นกษัตริย์ เขาได้ส่งเลขานุการ ชื่อว่าชาฟานไปยังวิหารของพระยาห์เวห์ ชาฟานเป็นลูกชายของอาซาลิยาห์ ที่เป็นลูกชายของเมชุลลาม โยสิยาห์สั่งชาฟานว่า 4 “ขึ้นไปหาฮิลคียาห์นักบวชสูงสุด บอกให้เขาเตรียมเงินที่ได้เก็บไว้ในวิหารของพระยาห์เวห์ ที่พวกคนเฝ้าประตูเก็บรวบรวมมาจากประชาชนนั้น 5 ให้เขาเอาเงินพวกนั้นไปให้กับพวกหัวหน้าคนงานที่ได้รับมอบหมายให้มาดูแลคนที่มาซ่อมแซมวิหารของพระยาห์เวห์ และให้หัวหน้าคนงานพวกนี้ เอาเงินไปจ่ายให้พวกคนงานที่มาซ่อมแซมวิหารของพระยาห์เวห์ 6 ซึ่งมีทั้งช่างไม้ ช่างก่อสร้าง ช่างอิฐ และให้พวกเขานำไปซื้อไม้และหินที่ตัดแต่งแล้วเพื่อนำไปใช้ซ่อมแซมวิหาร 7 บอกพวกเขาว่าไม่ต้องทำบัญชีเกี่ยวกับเงินที่ให้พวกเขาไว้ เพราะพวกเขาล้วนทำงานด้วยความซื่อสัตย์”
พบหนังสือธรรมบัญญัติในวิหาร
(2 พศด. 34:14-21)
8 ฮิลคียาห์นักบวชสูงสุดได้พูดกับชาฟานที่เป็นเลขาว่า “เราได้พบหนังสือธรรมบัญญัติ[a] อยู่ในวิหารของพระยาห์เวห์” เขาได้มอบหนังสือเล่มนั้นให้กับชาฟาน และชาฟานก็อ่านมัน
9 แล้วชาฟานที่เป็นเลขาก็ไปพบกษัตริย์และบอกกับกษัตริย์ว่า “พวกข้าราชการได้เอาเงินที่อยู่ในวิหารของพระยาห์เวห์ ไปมอบให้กับพวกคนงานและหัวหน้างานที่วิหารแล้ว” 10 แล้วเลขาชาฟานก็บอกข่าวกับกษัตริย์ว่า “นักบวชฮิลคียาห์ได้มอบหนังสือเล่มหนึ่งให้กับข้าพเจ้า” และชาฟานก็อ่านให้กษัตริย์ฟัง
11 เมื่อกษัตริย์ได้ฟังคำพูดต่างๆในหนังสือธรรมบัญญัติเล่มนั้นแล้ว เขาก็ฉีกเสื้อผ้าออกด้วยความโศกเศร้า 12 เขาได้สั่งนักบวชฮิลคียาห์ อาหิคัมลูกชายของชาฟาน อัคโบร์ลูกชายของมีคายาห์ และเลขาชาฟาน รวมทั้งอาสายาห์ผู้รับใช้ของกษัตริย์ว่า 13 “ไปปรึกษาพระยาห์เวห์ดูสิว่าเราควรทำยังไงดี ไปปรึกษาให้กับเรา ให้กับประชาชนและให้กับชาวยูดาห์ทั้งหมดด้วย เกี่ยวกับสิ่งที่เขียนอยู่ในหนังสือที่ถูกพบเล่มนี้ เพราะที่ความโกรธอันยิ่งใหญ่ของพระยาห์เวห์ได้เผาผลาญพวกเรานี้ ก็เพราะบรรพบุรุษของพวกเราไม่ยอมเชื่อฟังคำพูดในหนังสือเล่มนี้ พวกเขาไม่ยอมทำตามทุกสิ่งที่ถูกเขียนอยู่ในหนังสือเล่มนี้ที่พวกเราจะต้องทำ”
เรื่องกษัตริย์โยสิยาห์กับนางฮุลดาห์
(2 พศด. 34:22-28)
14 นักบวชฮิลคียาห์ อาหิคัม อัคโบร์ ชาฟานและอาสายาห์ได้ไปพูดกับฮุลดาห์หญิงผู้พูดแทนพระเจ้า นางเป็นเมียของชัลลูมลูกชายของทิกวาห์ซึ่งเป็นลูกชายของฮารฮัส ชัลลูมมีหน้าที่ดูแลเรื่องเสื้อผ้าของนักบวช ฮุลดาห์อาศัยอยู่ในเขตที่สองของเมืองเยรูซาเล็ม
15 นางพูดกับพวกเขาว่า “พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอลพูดว่าอย่างนี้ ‘ให้บอกกับชายที่ส่งพวกเจ้ามาหาเราว่า 16 “พระยาห์เวห์พูดว่า เรากำลังจะนำความหายนะมาสู่สถานที่แห่งนี้และคนที่อาศัยอยู่ที่นี่ตามที่ได้เขียนไว้ในหนังสือที่กษัตริย์ของยูดาห์ได้อ่านไปแล้วนั้น 17 ความโกรธของเราจะเผาผลาญสถานที่แห่งนี้และจะดับไม่ได้ เพราะพวกเขาละทิ้งเราและไปเผาเครื่องหอม ให้กับพระอื่นๆและมายั่วยุให้เราโกรธด้วยพวกรูปเคารพที่พวกเขาได้สร้างขึ้นกับมือ”
18 ให้บอกกับกษัตริย์ของยูดาห์ ที่ได้ส่งพวกเจ้ามาปรึกษาพระยาห์เวห์ ให้บอกกับเขาว่า “พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอล ได้พูดคำเหล่านั้นที่เจ้าได้ยินไปแล้ว 19 เมื่อเจ้าได้ยินถึงสิ่งที่เราพูดต่อต้านสถานที่แห่งนี้และคนที่อาศัยอยู่ที่นี่ ว่าสถานที่นี้จะรกร้าง และประชาชนเหล่านี้จะถูกสาปแช่ง เมื่อเจ้าได้ยินอย่างนี้ จิตใจของเจ้าก็สงสาร และถ่อมตัวลงต่อหน้าพระยาห์เวห์ เจ้าได้ฉีกเสื้อผ้าด้วยความโศกเศร้า และได้ร้องไห้ต่อหน้าเรา เราก็เลยฟังเจ้า” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้ 20 ดังนั้นเราจะรวมเจ้าไปอยู่กับบรรพบุรุษของเจ้า และศพของเจ้าจะถูกฝังอย่างสงบสุข ตาของเจ้าจะไม่ต้องเห็นความหายนะที่เรากำลังจะนำมาสู่สถานที่แห่งนี้’” แล้วพวกเขาได้เอาข้อความนี้ไปบอกกับกษัตริย์
ประชาชนฟังหนังสือข้อตกลง
(2 พศด. 34:29-32)
23 แล้วกษัตริย์โยสิยาห์เรียกพวกผู้ใหญ่ของยูดาห์และของเยรูซาเล็มทั้งหมดมารวมตัวกัน 2 เขาขึ้นไปที่วิหารของพระยาห์เวห์กับคนเหล่านั้นของยูดาห์ และทุกคนที่อาศัยอยู่ในเยรูซาเล็ม รวมทั้งพวกนักบวชและเหล่าผู้พูดแทนพระเจ้า คือประชาชนทั้งหมดตั้งแต่ชนชั้นระดับล่างไปจนถึงคนระดับสำคัญๆ โยสิยาห์ได้อ่านทุกคำในหนังสือข้อตกลงที่พบในวิหารของพระยาห์เวห์นั้นให้กับทุกคนฟัง
3 กษัตริย์ยืนอยู่ข้างเสาและได้ทำข้อตกลงใหม่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ ว่าจะติดตามพระยาห์เวห์และจะรักษาคำสั่งทุกข้อของพระองค์ กฎและข้อบังคับต่างๆอย่างสุดจิตสุดใจ และจะทำตามคำพูดของข้อตกลงที่เขียนอยู่ในหนังสือเล่มนี้ แล้วประชาชนทั้งหมดก็ได้ขานรับข้อตกลงนั้น
กษัตริย์โยสิยาห์กำจัดรูปเคารพ
(2 พศด. 34:3-7)
4 กษัตริย์สั่งฮิลคียาห์ซึ่งเป็นนักบวชสูงสุด เหล่านักบวชคนอื่นๆที่มีตำแหน่งรองๆลงมาและพวกคนเฝ้าประตู ให้ย้ายเครื่องใช้ทุกอย่างที่สร้างขึ้นให้แก่พระบาอัล ให้แก่เจ้าแม่อาเชราห์และให้แก่พวกดวงดาวทั้งหลาย ออกจากวิหารของพระยาห์เวห์ โยสิยาห์ได้เผาสิ่งเหล่านั้นนอกเมืองเยรูซาเล็ม ในทุ่งของหุบเขาขิดโรน แล้วขนเอาขี้เถ้าของมันไปที่เมืองเบธเอล
5 โยสิยาห์ได้กำจัดพวกนักบวชที่รับใช้พวกรูปเคารพที่กษัตริย์ทั้งหลายของยูดาห์ได้แต่งตั้งให้มาทำหน้าที่เผาเครื่องหอม อยู่บนสถานนมัสการต่างๆในเมืองทั้งหลายของยูดาห์ และเมืองที่อยู่รอบๆเมืองเยรูซาเล็ม รวมถึงพวกนักบวชที่เป็นคนเผาเครื่องหอมให้กับพระบาอัล ให้กับพระอาทิตย์และพระจันทร์ ให้กับพวกหมู่ดาวและดวงดาวทั้งหมดบนท้องฟ้า
6 โยสิยาห์เอาเสาเจ้าแม่อาเชราห์ ออกจากวิหารของพระยาห์เวห์ และเอาไปไว้ที่หุบเขาขิดโรนที่อยู่นอกเมืองเยรูซาเล็มและเผามันทิ้งที่นั่น เขาทุบมันจนแตกละเอียดเป็นผุยผงและเอาขี้เถ้าของมันโปรยลงบนหลุมฝังศพของคน[b]
7 โยสิยาห์ยังทำลายที่พักทั้งหลายของพวกโสเภณีผู้ชายซึ่งอยู่ในวิหารของพระยาห์เวห์ ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่พวกผู้หญิงใช้ทอผ้าให้กับพระแม่อาเชราห์
8 โยสิยาห์นำตัวพวกนักบวชทั้งหมดมาจากเมืองต่างๆของยูดาห์ แล้วมาไว้ที่เยรูซาเล็ม และทำให้สถานนมัสการทั้งหลายเสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ลง ตั้งแต่ในเกบาไปจนถึงเบเออร์เชบา ซึ่งเป็นสถานที่ที่พวกนักบวชนั้นใช้เผาเครื่องหอม โยสิยาห์ทำลายพวกสถานที่ที่นมัสการรูปปั้นแพะ ที่ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของประตูเมือง ที่อยู่ตรงทางเข้าของประตูโยชูวาเจ้าเมือง 9 ถึงแม้ว่าเหล่านักบวชของสถานนมัสการเหล่านั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะรับใช้อยู่ที่แท่นบูชาของพระยาห์เวห์ในเมืองเยรูซาเล็ม แต่พวกเขาก็ได้กินขนมปังไม่ใส่เชื้อฟูกับเหล่านักบวชญาติๆของเขา
10 โทเฟทเป็นสถานที่หนึ่งที่ตั้งอยู่ในหุบเขาของเบนฮินโนม โยสิยาห์ทำให้สถานที่นี้เสื่อมความศักดิ์สิทธิ์ลง จึงไม่มีใครสามารถกลับมาใช้สถานที่นี้ เพื่อเอาลูกชายหรือลูกสาวของตัวเองมาเผาไฟเป็นเครื่องบูชาให้กับพระโมเลค[c] ได้อีกต่อไป 11 ในอดีต กษัตริย์ของยูดาห์ชอบเอาพวกรูปปั้นม้าและรถรบมาตั้งอยู่ที่ทางเข้าวิหารของพระยาห์เวห์ ที่อยู่ใกล้กับห้องของเจ้าหน้าที่ที่สำคัญคนหนึ่งชื่อ นาธันเมเลค ทั้งรูปปั้นม้าและรถรบนี้มีไว้อุทิศให้กับดวงอาทิตย์[d] โยสิยาห์ย้ายพวกรูปปั้นม้าออกไป และเผารถรบพวกนี้จนหมด
12 ในอดีต กษัตริย์ของยูดาห์ได้สร้างพวกแท่นบูชาไว้บนดาดฟ้าของตึกอาหัส กษัตริย์มนัสเสห์ก็ได้สร้างแท่นบูชาไว้ที่ลานทั้งสองข้างของวิหารของพระยาห์เวห์ โยสิยาห์รื้อแท่นบูชาเหล่านั้น และทุบพวกมันทิ้งจนแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและก็โยนเศษหินลงในหุบเขาขิดโรน
13 ในอดีตกษัตริย์ซาโลมอนได้สร้างพวกสถานนมัสการไว้ทางใต้เนินเขาแห่งการทำลาย ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของเมืองเยรูซาเล็ม ที่อยู่ใกล้กับเมืองเยรูซาเล็ม กษัตริย์ซาโลมอนของอิสราเอลได้สร้างสถานนมัสการพวกนี้ให้กับพระอัชโทเรทอันน่าสะอิดสะเอียน ที่ชาวไซดอนนับถือกัน และสร้างให้กับพระเคโมช อันน่าสะอิดสะเอียน ที่พวกโมอับนับถือกัน และสร้างให้กับพระโมเลค อันน่าสะอิดสะเอียน ที่ชาวอัมโมนนับถือกัน 14 โยสิยาห์ทุบพวกหินศักดิ์สิทธิ์เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและโค่นพวกเสาเจ้าแม่อาเชราห์ลงและเอากระดูกคนมาทิ้งให้กระจัดกระจายในที่นั้น
15 โยสิยาห์ได้รื้อทิ้งแม้แต่แท่นบูชาที่เมืองเบธเอล สถานนมัสการที่เยโรโบอัมลูกชายของเนบัทได้สร้างขึ้น ซึ่งทำให้อิสราเอลพลอยทำบาปไปด้วย[e] เขาเผาสถานนมัสการ และทุบมันจนแตกละเอียดเป็นผุยผง และเผาเสาเจ้าแม่อาเชราห์ทิ้งด้วย 16 แล้วโยสิยาห์ก็มองไปรอบๆและเมื่อเขาเห็นหลุมฝังศพมากมายที่อยู่ด้านข้างเนินเขา เขาก็ให้ย้ายเอากระดูกออกจากที่นั่น และเผามันบนแท่นบูชาเพื่อทำให้แท่นบูชาเสื่อมไป ซึ่งเป็นไปตามคำพูดของพระยาห์เวห์ที่เคยทำนายไว้ผ่านทางคนของพระเจ้า[f] ตอนที่กษัตริย์เยโรโบอัมยืนอยู่ข้างๆแท่นบูชาในช่วงเทศกาล แล้วโยสิยาห์ก็หันไปดูอุโมงค์ของคนของพระเจ้าคนนั้นที่ได้ทำนายถึงสิ่งเหล่านี้
17 กษัตริย์โยสิยาห์ถามว่า “หินที่ระลึกที่เราเห็นนั้นคืออะไรหรือ”
พวกคนในเมืองบอกไปว่า “มันเป็นอุโมงค์ฝังศพของคนของพระเจ้าที่มาจากยูดาห์ และได้ทำนายถึงสิ่งต่างๆที่ท่านได้ทำไปแล้วกับแท่นบูชาของเมืองเบธเอล”
18 กษัตริย์จึงพูดว่า “ปล่อยให้เขาพักอยู่ตรงนั้นแหละ อย่าให้ใครไปรบกวนกระดูกของเขาเลย” พวกเขาก็เลยไม่รบกวนกระดูกของคนของพระเจ้าคนนั้น และกระดูกของผู้พูดแทนพระเจ้าที่ออกมาจากเมืองสะมาเรีย
19 โยสิยาห์ก็ทำลายพวกศาลเจ้าตามสถานที่สูงในเมืองต่างๆของสะมาเรีย ซึ่งพวกกษัตริย์ของอิสราเอลเคยสร้างขึ้น แล้วยั่วยุให้พระยาห์เวห์โกรธ เขาจัดการกับที่เหล่านั้นอย่างกับที่เขาทำกับสถานที่นมัสการของเบธเอล
20 โยสิยาห์ฆ่านักบวชทุกคนของสถานนมัสการเหล่านั้นบนแท่นบูชา และเผากระดูกคนบนแท่นบูชาเหล่านั้น แล้วเขาก็กลับเมืองเยรูซาเล็ม
ชาวยูดาห์ฉลองเทศกาลปลดปล่อย
(2 พศด. 35:1-19)
21 กษัตริย์โยสิยาห์มีคำสั่งถึงประชาชนทั้งหมดว่า “ให้เฉลิมฉลองเทศกาลปลดปล่อยเพื่อเป็นเกียรติให้กับพระยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเจ้า ตามที่ได้กำหนดไว้ในหนังสือข้อตกลงนี้”
22 นับตั้งแต่สมัยพวกผู้นำวินิจฉัยนำอิสราเอล ตลอดจนสมัยของพวกกษัตริย์แห่งอิสราเอลและของพวกกษัตริย์แห่งยูดาห์ ยังไม่เคยมีการเฉลิมฉลองเทศกาลวันปลดปล่อยเลย 23 แต่ในปีที่สิบแปดที่โยสิยาห์เป็นกษัตริย์ ก็ได้มีการเฉลิมฉลองเทศกาลวันปลดปล่อยเพื่อเป็นเกียรติให้กับพระยาห์เวห์ในเมืองเยรูซาเล็ม
24 นอกจากนี้ โยสิยาห์ยังกำจัดพวกคนทรงเจ้าและหมอผี บรรดาพระในบ้านและพวกรูปเคารพทั้งหลายรวมทั้งสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนทั้งสิ้นที่เห็นในยูดาห์และในเยรูซาเล็มออกไปจนหมด เขาได้ทำสิ่งต่างๆเหล่านี้ เพื่อให้เป็นไปตามกฎที่ได้เขียนไว้ในหนังสือที่นักบวชฮิลคียาห์ได้ค้นพบในวิหารของพระยาห์เวห์
25 ไม่เคยมีกษัตริย์องค์ไหนหันเข้ามาหาพระยาห์เวห์ด้วยสุดจิตสุดใจและสุดกำลัง อย่างที่กฏของโมเสสสั่งไว้ มากเท่ากับที่โยสิยาห์ได้ทำ ไม่ว่าจะก่อนหน้าเขาหรือหลังจากเขาก็ตาม
26 แต่อย่างไรก็ตาม พระยาห์เวห์ไม่ได้หันเหไปจากความดุดันแห่งความโกรธเกรี้ยวอันมหาศาลของพระองค์ที่เผาผลาญต่อยูดาห์ เนื่องจากการยั่วยุทั้งหมดที่มนัสเสห์ได้ทำต่อพระองค์ 27 พระยาห์เวห์พูดว่า “เราจะกำจัดยูดาห์ออกไปจากสายตาเรา เหมือนกับที่เราได้กำจัดอิสราเอลไปแล้ว และเราจะปฏิเสธเมืองเยรูซาเล็มซึ่งเป็นเมืองที่เราได้เลือกไว้ รวมทั้งวิหารแห่งนี้ที่เราเคยพูดไว้ว่า ‘เราจะให้ชื่อของเราอยู่ที่นั่น’”
28 ส่วนเหตุการณ์อื่นๆในสมัยของโยสิยาห์ และทุกสิ่งที่เขาได้ทำไป ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งยูดาห์
ความตายของโยสิยาห์
(2 พศด. 35:20-36:1)
29 ในสมัยที่โยสิยาห์เป็นกษัตริย์ ฟาโรห์เนโค กษัตริย์ของอียิปต์ได้ขึ้นมาที่แม่น้ำยูเฟรติสเพื่อช่วยเหลือกษัตริย์ของอัสซีเรีย กษัตริย์โยสิยาห์ยกทัพออกไปสู้กับฟาโรห์เนโค เมื่อฟาโรห์เนโคเห็นโยสิยาห์ ก็ฆ่าเขาตายที่เมืองเมกิดโด 30 พวกผู้รับใช้ของโยสิยาห์นำศพของเขาขึ้นรถรบคันหนึ่งและขับจากเมกิดโดไปจนถึงเยรูซาเล็มและฝังศพของโยสิยาห์ไว้ในหลุมศพของเขาเอง
และประชาชนของแผ่นดินนั้น ก็ยกเยโฮอาหาสลูกชายของโยสิยาห์ขึ้นมาและเจิมแต่งตั้ง ให้เขาเป็นกษัตริย์ต่อจากพ่อของเขา
เยโฮอาหาสปกครองยูดาห์
(2 พศด. 36:2-4)
31 เยโฮอาหาสมีอายุยี่สิบสามปีเมื่อเขาขึ้นเป็นกษัตริย์ และเขาครองราชย์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มเป็นเวลาสามเดือน แม่ของเขามีชื่อว่าฮามุทาล นางเป็นลูกสาวของเยเรมียาห์ที่มาจากลิบนาห์ 32 เยโฮอาหาสได้ทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ เหมือนกับที่บรรพบุรุษของเขาเคยทำ
33 ฟาโรห์เนโคขังเยโฮอาหาสไว้ที่ริบลาห์ซึ่งอยู่ในดินแดนของฮามัท เพื่อไม่ให้เขาได้ครองบัลลังก์อยู่ในเยรูซาเล็ม และฟาโรห์ยังได้บังคับเก็บส่วยจากชาวยูดาห์เป็นเงินหนักประมาณสามตันครึ่ง และทองคำหนักสามสิบสี่กิโลกรัม[g]
34 ฟาโรห์เนโคให้เอลียาคิมลูกชายของกษัตริย์โยสิยาห์ขึ้นเป็นกษัตริย์แทนที่โยสิยาห์ผู้เป็นพ่อและเปลี่ยนชื่อของเอลียาคิมเป็นเยโฮยาคิม แต่ฟาโรห์ได้พาเยโฮอาหาสไปอยู่ที่อียิปต์ และเยโฮอาหาสก็ตายที่นั่น 35 เยโฮยาคิมมอบเงินและทองคำให้กับฟาโรห์เนโค แต่เขาได้เรียกเก็บภาษีจากประชาชนของแผ่นดิน เพื่อเอาเงินไปมอบให้กับฟาโรห์ตามที่ฟาโรห์สั่งไว้ เขาบีบเอาเงินและทองจากประชาชนทุกคนของแผ่นดินตามสัดส่วนของทรัพย์สมบัติที่พวกเขามี เพื่อเอาไปมอบให้กับฟาโรห์เนโค
เยโฮยาคิมปกครองยูดาห์
(2 พศด. 36:5-8)
36 เยโฮยาคิมมีอายุยี่สิบห้าปีเมื่อเขาขึ้นเป็นกษัตริย์และเขาครองราชย์อยู่ในเยรูซาเล็มเป็นเวลาสิบเอ็ดปี แม่ของเขามีชื่อว่าเศบิดาห์ นางเป็นลูกสาวของเปดายาห์ที่มาจากรูมาห์ 37 เยโฮยาคิมทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์เหมือนกับที่บรรพบุรุษของเขาทำ
กษัตริย์โยสิยาห์ปกครองยูดาห์
(2 พกษ. 22:1-2)
34 โยสิยาห์มีอายุแปดปีเมื่อเขาขึ้นเป็นกษัตริย์ และเขาครองบัลลังก์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มสามสิบเอ็ดปี 2 เขาทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระยาห์เวห์ และเดินตามทางของดาวิดบรรพบุรุษของเขา โยสิยาห์ไม่ออกนอกลู่นอกทางเลยแม้แต่นิดเดียว 3 ในปีที่แปดที่โยสิยาห์ปกครองนั้น ในขณะที่เขายังเป็นเด็กหนุ่มมาก เขาเริ่มค้นหาพระเจ้าของดาวิดบรรพบุรุษของเขา ในปีที่สิบสองที่เขาปกครองนั้น เขาเริ่มกวาดล้างพวกสถานนมัสการ พวกเสาสำหรับพระอาเชราห์ พวกรูปเคารพแกะสลัก และรูปหล่อทั้งหลายในยูดาห์และในเยรูซาเล็ม 4 เขาสั่งให้ทำลายพวกแท่นบูชาของพวกพระบาอัล ตัดพวกแท่นบูชาเครื่องหอมที่อยู่ในที่เหล่านั้นออกเป็นชิ้นๆ และทุบพวกเสาสำหรับพระอาเชราห์ พวกรูปเคารพและพวกรูปปั้นจนแตกละเอียด เขาเอาพวกเศษที่แตกละเอียดเหล่านี้ไปโปรยบนหลุมฝังศพของพวกที่เคยถวายสัตวบูชาให้กับสิ่งเหล่านี้ 5 เขาเผากระดูกของพวกนักบวชบนแท่นบูชาของพวกเขาเอง และอย่างนี้เอง เขาก็ชำระล้างยูดาห์และเยรูซาเล็มให้บริสุทธิ์ 6 ตามเมืองต่างๆของมนัสเสห์ เอฟราอิมและสิเมโอน ไปจนถึงนัฟทาลีและในซากเมืองทั้งหลายรอบๆเมืองเหล่านี้[a] 7 เขาได้รื้อทำลายพวกแท่นบูชาและพวกเสาสำหรับพระอาเชราห์ลง และได้บดขยี้พวกรูปเคารพจนเป็นผุยผง เขายังตัดพวกแท่นบูชาเครื่องหอมทั่วทั้งอิสราเอลออกเป็นชิ้นๆ แล้วเขาจึงกลับเมืองเยรูซาเล็ม
8 ในปีที่สิบแปดที่โยสิยาห์ปกครอง โยสิยาห์ส่งชาฟานลูกชายของอาซาลิยาห์และมาอาเสอาห์เจ้าเมือง พร้อมกับโยอาห์ผู้จดบันทึกลูกชายของโยอาฮาส ให้ไปซ่อมแซมวิหารของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา เพื่อเป็นการชำระล้างแผ่นดินยูดาห์และวิหารให้บริสุทธิ์
9 คนพวกนี้ได้ไปหาฮิลคียาห์นักบวชชั้นสูง และมอบเงินที่คนเอามาถวายให้กับพระเจ้าที่วิหารให้กับฮิลคียาห์ มันเป็นเงินที่ชาวเลวีที่ทำหน้าที่เฝ้าประตูเป็นผู้เก็บรวบรวมมาจากประชาชนชาวมนัสเสห์ เอฟราอิมและจากอิสราเอลที่เหลือทั้งหมดนั้น รวมทั้งจากประชาชนทั้งหมดของยูดาห์ เบนยามิน และจากชาวเมืองเยรูซาเล็ม 10 แล้วพวกเลวีก็จ่ายเงินนี้ให้กับคนที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ควบคุมงานในวิหารของพระยาห์เวห์ แล้วผู้ควบคุมงานเหล่านี้ก็เอาเงินนี้ไปจ่ายให้กับพวกคนงานที่มาซ่อมแซมและบูรณะวิหาร อีกต่อหนึ่ง 11 พวกเขายังให้เงินกับพวกช่างไม้และช่างก่อสร้าง เพื่อนำไปซื้อหินที่ได้รับการตัดแต่งแล้ว และไปซื้อไม้เพื่อนำมาสร้างไม้รองพื้น และคานสำหรับตึกต่างๆที่พวกกษัตริย์ของยูดาห์ได้ปล่อยไว้จนทรุดโทรม 12 พวกคนงานต่างทำงานกันอย่างซื่อสัตย์ พวกเขาทำงานภายใต้การสั่งงานของยาหาทและโอบาดียาห์พวกชาวเลวีที่เป็นลูกหลานของเมรารี ยังมีเศคาริยาห์และเมชุลลัมที่เป็นลูกหลานของโคฮาทด้วย พวกชาวเลวีทุกคนมีความชำนาญในการเล่นเครื่องดนตรีต่างๆ 13 พวกเขาคอยดูแลพวกคนงานและสั่งงานพวกคนงานทั้งหมดในงานทุกๆชิ้น ชาวเลวีบางคนทำงานเป็นเลขานุการบ้าง เป็นผู้จดบันทึกบ้าง และเป็นคนเฝ้าประตูบ้าง
การค้นพบหนังสือกฎของพระยาห์เวห์
(2 พกษ. 22:3-23:3)
14 ในขณะที่พวกเลวีกำลังนำเงินที่เก็บไว้ในวิหารของพระยาห์เวห์ออกมานั้น นักบวชฮิลคียาห์ได้พบหนังสือกฏของพระยาห์เวห์ที่เคยให้ไว้กับโมเสส 15 ฮิลคียาห์พูดกับชาฟานที่เป็นเลขานุการว่า “เราได้พบหนังสือกฎบัญญัติอยู่ในวิหารของพระยาห์เวห์” แล้วเขาได้มอบหนังสือเล่มนั้นให้กับชาฟาน 16 แล้วชาฟานก็เอาหนังสือเล่มนั้นไปให้กับกษัตริย์และรายงานกับกษัตริย์ว่า “พวกเจ้าหน้าที่ของท่านได้ทำทุกสิ่งทุกอย่างตามที่ท่านได้มอบหมายให้กับพวกเขาทำ 17 พวกเขาเอาเงินที่อยู่ในวิหารของพระยาห์เวห์ไปจ่ายให้กับพวกหัวหน้าคนงานและพวกคนงานเรียบร้อยแล้ว” 18 แล้วชาฟานที่เป็นเลขานุการก็แจ้งกับกษัตริย์ว่า “นักบวชฮิลคียาห์ให้หนังสือเล่มหนึ่งกับข้าพเจ้า” และชาฟานก็อ่านมันต่อหน้ากษัตริย์ 19 เมื่อกษัตริย์ได้ฟังข้อความในหนังสือกฎเล่มนั้น เขาก็ฉีกเสื้อคลุมของเขาออก[b] 20 เขาสั่งฮิลคียาห์ อาหิคัมลูกชายของชาฟาน อับโดนลูกชายของมีคาห์ ชาฟานที่เป็นเลขานุการและอาสายาห์คนรับใช้ของเขาว่า 21 “ไปสอบถามพระยาห์เวห์ให้กับเราและให้กับประชาชนที่เหลืออยู่เป็นส่วนน้อยในอิสราเอลและในยูดาห์ เกี่ยวกับสิ่งที่เขียนอยู่ในหนังสือที่ถูกค้นพบเล่มนี้ ความโกรธอันยิ่งใหญ่ของพระยาห์เวห์ได้หลั่งไหลมาที่พวกเรา ก็เพราะบรรพบุรุษของพวกเราไม่ยอมรักษาคำพูดของพระยาห์เวห์ พวกเขาไม่ยอมทำตามสิ่งที่เขียนไว้ในหนังสือเล่มนี้”
22 ฮิลคียาห์กับพวกคนที่กษัตริย์ส่งไปนั้น[c]ได้ไปพูดกับผู้หญิงที่พูดแทนพระเจ้า ชื่อฮุลดาห์ นางเป็นเมียของชัลลูมลูกชายของทกหาทที่เป็นลูกชายของหัสราห์ ชัมลูมมีหน้าที่ดูแลเสื้อผ้าของกษัตริย์ ฮุลดาห์อาศัยอยู่ในเขตใหม่ของเมืองเยรูซาเล็ม 23 นางพูดกับพวกเขาว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลพูดอย่างนี้ว่า ‘ให้บอกกับคนที่ส่งพวกเจ้ามาหาเราว่า 24 “นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูด เรากำลังจะนำความหายนะมาสู่สถานที่แห่งนี้ และสู่ประชาชนที่นี่ มันคือคำสาปแช่งทั้งหมดที่เขียนอยู่ในหนังสือเล่มนี้ ที่ได้อ่านแล้วต่อหน้าของกษัตริย์ของยูดาห์ 25 เพราะพวกเขาละทิ้งเรา และเผาเครื่องหอมบูชาให้แก่พระอื่นๆและมายั่วยุให้เราโกรธด้วยสิ่งต่างๆที่พวกเขาสร้างขึ้นมากับมือ ความโกรธของเราจะหลั่งไหลออกมาสู่สถานที่แห่งนี้และจะไม่ดับลงด้วย”’”
26 “ให้บอกกับกษัตริย์ของยูดาห์ที่ส่งพวกท่านมาสอบถามพระยาห์เวห์ว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของชนชาติอิสราเอลพูดเกี่ยวกับข้อความทั้งหลายที่เจ้าได้ยินเมื่อตะกี้นี้ 27 “โยสิยาห์ เป็นเพราะใจของเจ้าสนองตอบและพวกเจ้าได้ถ่อมตัวเองลงต่อหน้าพระเจ้า เมื่อได้ยินในสิ่งที่พระองค์พูดคัดค้านสถานที่แห่งนี้และประชาชนที่นี่ และเป็นเพราะว่าเจ้าได้ถ่อมตัวเองลงมาต่อหน้าเราและได้ฉีกเสื้อคลุมของเจ้าและยังร้องไห้ต่อหน้าเรา พระยาห์เวห์ประกาศว่า เราได้ยินเจ้าแล้ว 28 ตอนนี้ เราจะรวมเจ้าไว้กับบรรพบุรุษของเจ้า เจ้าจะถูกฝังอย่างสงบ ดวงตาของเจ้าจะไม่ได้เห็นความหายนะทั้งหลาย ที่เรากำลังจะนำมาสู่สถานที่แห่งนี้และสู่ประชาชนที่อาศัยอยู่ที่นี่”’” ดังนั้นพวกเขาจึงนำคำตอบของนางกลับไปบอกกับกษัตริย์
29 แล้วกษัตริย์โยสิยาห์ได้เรียกพวกผู้ใหญ่ของยูดาห์และของเยรูซาเล็มทั้งหมดมารวมตัวกัน 30 เขาได้ขึ้นไปที่วิหารของพระยาห์เวห์กับคนเหล่านั้นของยูดาห์ และทุกคนที่อาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม รวมทั้งพวกนักบวชและพวกชาวเลวี คือประชาชนทั้งหมดตั้งแต่ชนชั้นระดับสำคัญๆไปจนถึงระดับล่าง โยสิยาห์อ่านทุกคำในหนังสือข้อตกลงที่พบในวิหารของพระยาห์เวห์นั้นให้กับทุกคนฟัง
31 กษัตริย์ยืนอยู่ในที่ของเขา และได้ทำข้อตกลงใหม่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ว่าจะติดตามพระยาห์เวห์และจะรักษาคำสั่งทุกข้อของพระองค์ กฎและข้อบังคับต่างๆอย่างสุดจิตสุดใจ และจะทำตามคำพูดของข้อตกลงที่เขียนอยู่ในหนังสือเล่มนี้ 32 แล้วเขาก็ให้ทุกคนในเยรูซาเล็มและเบนยามินสาบานตนกับข้อตกลงนี้ ประชาชนของเยรูซาเล็มได้ทำอย่างนี้ ตามสิ่งที่เขียนไว้ในข้อตกลงของพระเจ้าที่เป็นพระเจ้าของบรรพบุรุษพวกเขา 33 โยสิยาห์ยกเอาพวกรูปเคารพที่น่าขยะแขยงออกไปจากเขตแดนทั้งหมดที่เป็นของชนชาติอิสราเอล และเขาก็ให้ทุกคนที่อยู่ในอิสราเอลรับใช้พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา ตราบเท่าที่กษัตริย์โยสิยาห์ยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาไม่ได้หันเหไปจากการติดตามพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา
โยสิยาห์ฉลองเทศกาลปลดปล่อย
(2 พกษ. 23:21-23)
35 โยสิยาห์เฉลิมฉลองเทศกาลปลดปล่อยถวายให้กับพระยาห์เวห์ในเมืองเยรูซาเล็ม และฆ่าลูกแกะตัวผู้ของเทศกาลปลดปล่อยในวันที่สิบสี่ของเดือนที่หนึ่ง 2 กษัตริย์โยสิยาห์แต่งตั้งพวกนักบวชให้ทำงานตามหน้าที่ของพวกเขา และส่งเสริมให้พวกนักบวชรับใช้ในวิหารของพระยาห์เวห์ 3 เขาพูดกับพวกชาวเลวีที่คอยสั่งสอนชาวอิสราเอลทั้งหมดและได้ชำระตัวให้บริสุทธิ์แล้วสำหรับรับใช้พระยาห์เวห์ว่า “ให้วางหีบศักดิ์สิทธิ์ไว้ในวิหาร ที่ซาโลมอนลูกชายของกษัตริย์ดาวิดของอิสราเอลได้สร้างขึ้น พวกเจ้าจะไม่ต้องแบกมันอยู่บนบ่าอีก ตอนนี้ให้รับใช้พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเจ้ากับประชาชนชาวอิสราเอลของพระองค์เถิด 4 ให้แบ่งพวกเจ้าออกเป็นกลุ่มๆตามครอบครัว อย่างที่กษัตริย์ดาวิดแห่งอิสราเอลและซาโลมอนลูกชายของเขาได้เขียนกำหนดไว้ 5 ให้ยืนอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับกลุ่มของชาวเลวี ตามกลุ่มย่อยของแต่ละครอบครัวของญาติพี่น้องเจ้าที่ไม่ได้เป็นนักบวช 6 ให้ฆ่าพวกลูกแกะของเทศกาลปลดปล่อย และชำระตัวพวกเจ้าเองให้บริสุทธิ์ และให้จัดเตรียมพวกลูกแกะสำหรับญาติพี่น้องของพวกท่าน พระยาห์เวห์ได้สั่งทั้งหมดนี้ผ่านมาทางโมเสส”
7 โยสิยาห์ได้จัดเตรียมแกะกับแพะไว้รวมสามหมื่นตัวเพื่อเป็นเครื่องบูชาสำหรับเทศกาลปลดปล่อยให้กับพวกคนที่ไม่ใช่นักบวช และยังมีวัวสามพันตัว สัตว์ทั้งหมดนี้มาจากสมบัติส่วนตัวของกษัตริย์ 8 พวกเจ้าหน้าที่ของเขาสมัครใจนำของมาด้วย พวกเขาเอามาให้กับประชาชน พวกนักบวช และชาวเลวี ฮิลคียาห์นักบวชสูงสุด เศคาริยาห์และเยฮีเอลเป็นผู้ทำพิธีในวิหารของพระเจ้า พวกเขาเอาลูกแกะสองพันหกร้อยตัวและวัวสามร้อยตัวให้กับพวกนักบวชเพื่อถวายเป็นเครื่องบูชาสำหรับเทศกาลปลดปล่อย 9 โคนานิยาห์ เชไมอาห์และเนธันเอลน้องชายทั้งสองของเขา รวมทั้งฮาชาบิยาห์ เยอีเอลและโยซาบาดซึ่งเป็นผู้นำของชาวเลวี ก็ได้จัดหาพวกแพะและแกะรวมห้าพันตัว และวัวห้าร้อยตัว ให้กับชาวเลวี เพื่อใช้เป็นเครื่องบูชาสำหรับเทศกาลปลดปล่อย
10 เมื่อทุกอย่างพร้อมที่จะเริ่มพิธี พวกนักบวชและชาวเลวีก็ได้ไปยืนอยู่ประจำที่ตามกลุ่มของตน ตามที่กษัตริย์ได้สั่งไว้ 11 มีการฆ่าพวกลูกแกะตัวผู้สำหรับเทศกาลปลดปล่อย แล้วพวกชาวเลวีก็ถลกหนังของสัตว์เหล่านั้น ส่วนเลือดของพวกมัน พวกเขาเอาไปให้กับพวกนักบวช พวกนักบวชก็เอาเลือดไปสาดบนแท่นบูชา 12 พวกเขาได้แบ่งสัตว์ที่จะเอาไปเป็นเครื่องเผาบูชานี้ให้กับแต่ละครอบครัว เพื่อเอาไปถวายพระยาห์เวห์ตามที่เขียนไว้ในหนังสือของโมเสส พวกเขาได้ทำอย่างเดียวกันนี้กับพวกวัวด้วย 13 พวกเลวีใช้ไฟย่างสัตว์ที่ใช้สำหรับเทศกาลปลดปล่อยตามที่กฎสั่งไว้ และพวกเขาก็ต้มของถวายอันศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในหม้อ ในหม้อใบใหญ่และในกระทะ แล้วพวกเขาก็เอาเนื้อไปแบ่งให้กับประชาชนทันที 14 หลังจากนั้นพวกเลวีก็เอาเนื้อเก็บไว้สำหรับตัวพวกเขาเอง และสำหรับพวกนักบวชที่เป็นลูกหลานของอาโรนด้วย เพราะนักบวชพวกนี้กำลังยุ่งอยู่กับการเผาเครื่องเผาบูชา และส่วนที่เป็นไขมันจนมืดค่ำ 15 พวกนักดนตรีที่เป็นลูกหลานของอาสาฟ อยู่ประจำที่ตามที่ดาวิด อาสาฟ เฮมานและเยดูธูนคนของกษัตริย์ที่เห็นนิมิตได้นั้น ได้กำหนดให้กับพวกเขา พวกคนเฝ้าประตูก็อยู่ที่ประตูของตนโดยไม่ต้องออกไปที่ไหน เพราะพวกชาวเลวีด้วยกันได้จัดเตรียมของทุกอย่างไว้ให้กับพวกเขาแล้วสำหรับเทศกาลปลดปล่อย
16 ดังนั้น ในวันนั้น การนมัสการพระยาห์เวห์ก็สำเร็จลุล่วงไปตามคำสั่งของกษัตริย์โยสิยาห์ มีทั้งการเฉลิมฉลองเทศกาลปลดปล่อย และมีการเผาเครื่องเผาบูชาบนแท่นบูชาของพระยาห์เวห์ 17 ชาวอิสราเอลที่อยู่ที่นั่นได้เฉลิมฉลองเทศกาลปลดปล่อยในเวลานั้น และพวกเขาได้เฉลิมฉลองเทศกาลขนมปังไร้เชื้อต่อไปอีกเป็นเวลาเจ็ดวัน 18 นับตั้งแต่สมัยของซามูเอลผู้พูดแทนพระเจ้าเป็นต้นมา ยังไม่เคยมีการเฉลิมฉลองเทศกาลปลดปล่อยอย่างนี้ในอิสราเอลมาก่อน ไม่เคยมีกษัตริย์ของอิสราเอลองค์ไหนที่เคยเฉลิมฉลองเทศกาลปลดปล่อยอย่างที่กษัตริย์โยสิยาห์ พวกนักบวช ชาวเลวี ชาวยูดาห์และชาวอิสราเอลทั้งหมดที่อยู่ที่นั่น รวมทั้งชาวเมืองเยรูซาเล็มเฉลิมฉลองกัน 19 งานเทศกาลปลดปล่อยนี้ได้จัดให้มีขึ้นในปีที่สิบแปดในสมัยของโยสิยาห์
โยสิยาห์ตาย
(2 พกษ. 23:28-30)
20 เมื่อโยสิยาห์ได้จัดการวิหารให้อยู่ในระเบียบเรียบร้อยแล้ว ต่อมากษัตริย์เนโคของประเทศอียิปต์ได้ยกทัพขึ้นไปสู้รบกับเมืองคารเคมิชที่แม่น้ำยูเฟรตีส โยสิยาห์ยกกองทัพออกไปสู้รบกับเขา 21 แต่เนโคส่งพวกคนส่งข่าวมาหาโยสิยาห์โดยพูดว่า
“กษัตริย์ของยูดาห์ ทำไมท่านกับเราจะต้องมาทะเลาะกันด้วย เราไม่ได้มาโจมตีท่าน แต่เราจะสู้กับครอบครัวที่เราจะทำสงครามด้วยต่างหาก พระเจ้าบอกให้เราเร่งมือด้วย ดังนั้น หยุดต่อต้านพระเจ้าที่อยู่กับเราซะ ไม่อย่างนั้นพระองค์จะทำลายท่าน”
22 แต่โยสิยาห์ก็ไม่ยอมถอยไปไหน และได้ปลอมตัวปะปนอยู่ในการสู้รบ เขาไม่ยอมฟังสิ่งที่เนโคพูดเกี่ยวกับคำสั่งของพระเจ้า แต่ยังออกไปสู้รบกับเขาในที่ราบเมกิดโด 23 พวกพลธนูยิงธนูถูกกษัตริย์โยสิยาห์และเขาบอกกับพวกเจ้าหน้าที่ของเขาว่า “พาเราออกไป เราได้รับบาดเจ็บสาหัส”
24 ดังนั้นพวกเขาจึงนำตัวโยสิยาห์ออกจากรถรบของเขา และวางเขาไว้ในรถรบอีกคันหนึ่งที่มีอยู่ และนำตัวเขากลับเยรูซาเล็ม เขาตายที่นั่น ศพของเขาถูกฝังอยู่ในหลุมฝังศพของบรรพบุรุษของเขา และชาวยูดาห์กับชาวเยรูซาเล็มทั้งหมดก็ไว้ทุกข์ให้กับเขา 25 เยเรมียาห์แต่งเพลงไว้อาลัยให้กับโยสิยาห์และพวกนักร้องชายหญิงก็ยังคงร้องเพื่อระลึกถึงเขาอยู่จนถึงทุกวันนี้ เพลงนี้ได้กลายเป็นประเพณีอย่างหนึ่งในอิสราเอลและได้รับการเขียนรวมอยู่ในหนังสือเพลงไว้อาลัย
26-27 เหตุการณ์อื่นๆในสมัยของโยสิยาห์และการกระทำต่างๆที่เขาทำตั้งแต่ต้นจนจบ ได้ถูกจดบันทึกไว้ในหนังสือพงศ์กษัตริย์ของอิสราเอลและยูดาห์ หนังสือนี้พูดถึงสิ่งที่เขาทำอย่างซื่อสัตย์ ตามสิ่งที่เขียนไว้ในกฎของพระยาห์เวห์
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International