Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Chronological

Read the Bible in the chronological order in which its stories and events occurred.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
2 พงศาวดาร 32-33

กษัตริย์อัสซีเรียบุกยูดาห์

(2 พกษ. 18:13-37; อสย. 36:1-22)

32 หลังจากเหตุการณ์เหล่านั้นและสิ่งทั้งหลายที่เฮเซคียาห์ทำด้วยความซื่อสัตย์แล้ว กษัตริย์เซนนาเคอริบของอัสซีเรียได้ยกทัพมาบุกยูดาห์ เขาล้อมเมืองต่างๆที่เป็นป้อมปราการไว้ โดยคิดที่จะตีเมืองเหล่านั้นมาเป็นของเขา เมื่อเฮเซคียาห์รู้ว่าเซนนาเคอริบบุกเข้ามา กะจะสู้รบกับเมืองเยรูซาเล็ม เฮเซคียาห์ก็ปรึกษากับพวกเจ้าหน้าที่และพวกทหารของเขา เกี่ยวกับการกั้นน้ำไม่ให้ไหลออกจากตาน้ำที่อยู่นอกเมือง แล้วพวกเขาก็ได้ช่วยเหลือเฮเซคียาห์ คนจำนวนมากมาชุมนุมกันและพวกเขาก็ช่วยกันปิดตาน้ำทั้งหมดและปิดลำธารที่ไหลผ่านแผ่นดินแห่งนั้น พวกเขาพูดว่า “เมื่อพวกกษัตริย์ของอัสซีเรียบุกเข้ามา เรื่องอะไรจะให้พวกมันมาเจอกับน้ำมากมาย” แล้วเฮเซคียาห์ก็ทำงานอย่างหนักในการซ่อมแซมส่วนที่แตกร้าวของกำแพงและหอคอย เขาสร้างกำแพงด้านนอกขึ้นอีกชั้นหนึ่ง และได้เสริมที่มั่นบนที่ลาดชันทางด้านตะวันออกของเมืองเยรูซาเล็มเก่าให้แข็งแรงมากขึ้น เขายังทำอาวุธและโล่ขึ้นอีกจำนวนมาก เขาได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ทางทหารขึ้นเหนือประชาชน และเรียกประชุมพวกเขาพร้อมกันที่ลานตรงประตูเมือง และพูดปลุกใจพวกเขาว่า “ให้เข้มแข็งและกล้าหาญไว้ อย่ากลัวหรือท้อแท้ต่อกษัตริย์อัสซีเรีย หรือต่อกองทัพขนาดใหญ่ที่มากับเขาเลย เพราะผู้ที่อยู่ฝ่ายเรานั้นยิ่งใหญ่กว่าผู้ที่อยู่ฝ่ายเขา ผู้ที่อยู่กับเขาเป็นเพียงทหารที่มีเลือดเนื้อ แต่ผู้ที่อยู่กับพวกเราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเรา พระองค์จะช่วยเหลือพวกเรา และจะต่อสู้ให้กับพวกเรา” ดังนั้นกษัตริย์เฮเซคียาห์ของยูดาห์ก็ทำให้ประชาชนมีกำลังใจขึ้น

ต่อมา ขณะที่กษัตริย์เซนนาเคอริบของอัสซีเรียกับกองทัพทั้งหมดของเขากำลังล้อมเมืองลาคีชอยู่ เขาได้ส่งพวกเจ้าหน้าที่มาที่เมืองเยรูซาเล็ม พร้อมกับข้อความสำหรับกษัตริย์เฮเซคียาห์ของยูดาห์และประชาชนทั้งหมดของยูดาห์ที่อยู่ที่นั่นว่า

10 “กษัตริย์เซนนาเคอริบของอัสซีเรียพูดอย่างนี้ว่า พวกเจ้ากำลังพึ่งพิงอะไรหรือ ถึงยังคอยรับการโจมตีของเราอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม 11 เมื่อเฮเซคียาห์พูดว่า ‘พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเราจะช่วยเหลือพวกเราให้พ้นจากเงื้อมมือของกษัตริย์อัสซีเรีย’ เขากำลังชักจูงให้พวกเจ้าหลงผิดไป และมอบพวกเจ้าให้ไปตายเพราะขาดอาหารและน้ำดื่ม 12 ก็ตัวเฮเซคียาห์เองไม่ใช่หรือ ที่รื้อพวกสถานนมัสการ และแท่นบูชาทั้งหลายของพระองค์นั้นทิ้งไป และได้พูดกับชาวเมืองยูดาห์และเยรูซาเล็มว่า ‘พวกท่านต้องนมัสการและเผาเครื่องหอมบนแท่นบูชานี้เพียงแท่นเดียว’ 13 พวกเจ้าก็รู้อยู่แล้วนี่ว่าเรากับบรรพบุรุษของเราได้จัดการกับชนชาติทั้งหลายของแผ่นดินอื่นๆยังไงบ้าง พวกพระของชนชาติเหล่านั้น สามารถช่วยแผ่นดินของพวกเขาให้พ้นจากเงื้อมมือของเราได้หรือ 14 บรรพบุรุษเราได้ทำลายชนชาติเหล่านั้น ไม่มีพระของชนชาติไหนสามารถช่วยเหลือประชาชนของเขาให้พ้นจากเงื้อมมือของเราได้เลย แล้วพวกเจ้าคิดว่า พระของพวกเจ้าจะช่วยเหลือพวกเจ้า ให้พ้นจากเงื้อมมือเราได้หรือ 15 ตอนนี้ อย่าปล่อยให้เฮเซคียาห์หลอกลวงพวกเจ้า หรือชักนำพวกเจ้าให้หลงผิดไปอย่างนี้ อย่าไปเชื่อเขา เพราะไม่เคยมีพระของชนชาติไหนหรืออาณาจักรไหนที่สามารถช่วยเหลือประชาชนของมัน ให้พ้นจากเงื้อมมือของเรา หรือจากเงื้อมมือของบรรพบุรุษเรา อย่าคิดนะว่าพระของเจ้าจะสามารถช่วยเจ้าให้พ้นจากเงื้อมมือของเราไปได้”

16 พวกเจ้าหน้าที่ของเซนนาเคอริบได้พูดดูถูกต่อพระยาห์เวห์ผู้เป็นพระเจ้า และต่อเฮเซคียาห์ผู้รับใช้ของพระองค์ 17 กษัตริย์อัสซีเรียยังเขียนจดหมายหมิ่นประมาทพระยาห์เวห์พระเจ้าของชนชาติอิสราเอล และพูดต่อต้านพระองค์ว่า “พวกพระของชนชาติอื่นๆในแผ่นดินอื่นๆไม่ได้ช่วยกู้ประชาชนของพวกมัน ให้พ้นจากเงื้อมมือของเรา พระของเฮเซคียาห์ก็จะไม่ช่วยกู้ประชาชนของมันจากเงื้อมมือของเราเหมือนกัน” 18 แล้วพวกเขาก็ได้ตะโกนเสียงดังใส่ประชาชนของเยรูซาเล็มที่อยู่บนกำแพง พวกเขาพูดเป็นภาษาฮีบรู เพื่อคนเยรูซาเล็มจะได้เข้าใจ แล้วตกใจกลัว และหวั่นไหว จะได้ยึดเอาเมืองได้ 19 พวกเขาพูดดูถูกพระเจ้าของเยรูซาเล็ม อย่างกับว่าพระองค์เป็นเหมือนพวกพระของชนชาติอื่นๆในโลกซึ่งมนุษย์เป็นคนสร้างขึ้นกับมือ

พระเจ้าช่วยกู้ยูดาห์

(2 พกษ. 19:1-37; อสย. 37:1-38)

20 กษัตริย์เฮเซคียาห์กับอิสยาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าลูกชายของอามอสอธิษฐานต่อสวรรค์เกี่ยวกับเรื่องนี้ 21 และพระยาห์เวห์ได้ส่งทูตสวรรค์องค์หนึ่ง มาทำลายพวกนักรบ พวกผู้นำและพวกเจ้าหน้าที่ทั้งหมดในค่ายของกษัตริย์อัสซีเรีย ดังนั้นเขาจึงต้องถอยทัพกลับแผ่นดินของเขาด้วยความอับอายขายหน้า และเมื่อเขาเข้าไปในวัดของพระของเขา พวกลูกชายบางคนของเขาก็เอาดาบฆ่าเขา 22 ดังนั้นพระยาห์เวห์ได้ช่วยเฮเซคียาห์และประชาชนชาวเยรูซาเล็ม ให้พ้นจากเงื้อมมือของกษัตริย์เซนนาเคอริบของอัสซีเรีย และจากเงื้อมมือของศัตรูทั้งหลายของเขาด้วย พระองค์ให้เขาพักจากการสู้รบรอบด้าน 23 มีคนหลายคนนำเครื่องบูชามากมายมาที่เมืองเยรูซาเล็มเพื่อถวายให้กับพระยาห์เวห์ และนำของขวัญที่มีค่าหลายอย่างมาให้กับกษัตริย์เฮเซคียาห์ของยูดาห์ ตั้งแต่นั้นมา ชนชาติอื่นๆทั้งหมดก็ให้ความเคารพนับถือกษัตริย์เฮเซคียาห์

เฮเซคียาห์ป่วย

(2 พกษ. 20:1-11; อสย. 38:1-8)

24 ต่อมาเฮเซคียาห์ป่วยและใกล้ตาย เขาได้อธิษฐานต่อพระยาห์เวห์ พระองค์ตอบเขาและให้ลางดีกับเขาอย่างหนึ่ง[a] 25 แต่ใจของเฮเซคียาห์เย่อหยิ่ง และไม่ระลึกถึงบุญคุณของพระเจ้าที่มีต่อเขา ดังนั้นความโกรธของพระยาห์เวห์จึงตกมาที่ตัวเขาและที่ชาวยูดาห์กับชาวเยรูซาเล็ม 26 แล้วเฮเซคียาห์ก็ได้สำนึกผิดในความเย่อหยิ่งที่อยู่ในใจเขา ประชาชนในเมืองเยรูซาเล็มก็เหมือนกัน ดังนั้น ความโกรธของพระยาห์เวห์จึงไม่ได้ตกลงมาบนพวกเขาในช่วงที่เฮเซคียาห์ยังมีชีวิตอยู่

เฮเซคียาห์โอ้อวดทรัพย์สมบัติ

(2 พกษ. 20:12-19; อสย. 39:1-8)

27 เฮเซคียาห์มีทรัพย์สินและเกียรติยศมากมาย เขาสร้างคลังเก็บสมบัติของเขาเพื่อใส่เงิน ทองคำและพลอยมีค่าทั้งหลาย รวมทั้งเครื่องเทศ โล่กับของมีค่าทุกอย่าง 28 เขายังสร้างโรงเก็บข้าว เหล้าองุ่นใหม่และน้ำมัน และเขาทำคอกสัตว์ให้กับฝูงวัวนานาชนิด และฝูงแพะแกะ 29 เขาสร้างหมู่บ้านหลายแห่ง และมีฝูงสัตว์เลี้ยงจำนวนมากมายมหาศาล เพราะพระเจ้าทำให้เขาร่ำรวยมาก 30 เฮเซคียาห์เป็นผู้ที่กั้นทางน้ำด้านบนของบ่อน้ำกิโฮน และเปลี่ยนเส้นทางให้น้ำไหลลงไปทางด้านตะวันตกของเมืองของดาวิด เขาประสบความสำเร็จในทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาลงมือทำ

31 ครั้งหนึ่ง พวกผู้นำของบาบิโลนส่งทูตมาถามเขาเกี่ยวกับหมายสำคัญอันมหัศจรรย์ที่ได้เกิดขึ้นบนแผ่นดินแห่งนี้[b] พระเจ้าปล่อยให้เขาทำตามใจตัวเองเพื่อทดสอบเขาและเพื่อที่จะได้รู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในใจของเขา[c]

เฮเซคียาห์ตาย

(2 พกษ. 20:20-21)

32 เหตุการณ์อื่นๆในสมัยของเฮเซคียาห์และความดีที่เขาทำไว้นั้นได้ถูกจดบันทึกไว้ในหนังสือพงศ์กษัตริย์แห่งยูดาห์และอิสราเอล ในส่วนที่เป็นนิมิตของอิสยาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าที่เป็นลูกชายของอามอส 33 เฮเซคียาห์ตายไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขา และศพของเขาถูกฝังอยู่ที่เนินเขาอันเป็นที่ตั้งหลุมฝังศพของลูกหลานของดาวิด ชาวยูดาห์และประชาชนของเยรูซาเล็มทั้งหมดให้เกียรติกับเขาเมื่อเขาตาย และมนัสเสห์ลูกชายของเขาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา

กษัตริย์มนัสเสห์ปกครองยูดาห์

(2 พกษ. 21:1-18)

33 มนัสเสห์มีอายุสิบสองปีเมื่อเขาขึ้นเป็นกษัตริย์ และเขาครองบัลลังก์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มเป็นเวลาห้าสิบห้าปี มนัสเสห์ทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายตาของพระยาห์เวห์ เขาทำสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนต่างๆเหมือนกับที่ชนชาติที่พระยาห์เวห์ได้ขับไล่ออกไปตอนที่อิสราเอลย้ายเข้ามาในแผ่นดินนี้ได้ทำ มนัสเสห์สร้างสถานนมัสการต่างๆขึ้นมาใหม่ ที่เฮเซคียาห์พ่อของเขาเคยพังทิ้งไปแล้ว เขายังได้ตั้งแท่นบูชาทั้งหลายให้กับพวกพระบาอัล และสร้างพวกเสาของพระอาเชราห์ขึ้น เขากราบไหว้ดวงดาวทั้งหลายบนท้องฟ้าและรับใช้พวกมัน เขาสร้างพวกแท่นบูชาให้กับพวกพระต่างชาติขึ้นในวิหารของพระยาห์เวห์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระยาห์เวห์เคยพูดไว้ว่า “ชื่อของเราจะอยู่ในเมืองเยรูซาเล็มตลอดไป” มนัสเสห์ยังสร้างแท่นบูชาขึ้นสองแท่นให้กับดวงดาวทั้งหลายตรงลานทั้งสองในวิหารของพระยาห์เวห์ เขาเอาพวกลูกชายของเขามาเผาไฟเป็นเครื่องบูชาในหุบเขาเบนฮินโนม เขาร่ายเวทมนตร์คาถา ดูหมอ และทำไสยศาสตร์ เขาไปปรึกษากับพวกคนทรงเจ้าและพวกหมอผี เขาทำความชั่วมากมายในสายตาของพระยาห์เวห์ ซึ่งยั่วยุให้พระองค์โกรธ เขาให้คนแกะสลักรูปเคารพขึ้นและนำไปวางไว้ในวิหารของพระเจ้า ที่พระเจ้าเคยพูดไว้กับดาวิดและซาโลมอนลูกของดาวิดว่า “ในวิหารแห่งนี้และในเมืองเยรูซาเล็มที่เราได้เลือกออกมาจากเผ่าทั้งหมดของชนชาติอิสราเอล เราจะวางชื่อของเราไว้ที่นี่ตลอดไป ถ้าพวกเขาเพียงแต่ระมัดระวังที่จะทำตามสิ่งที่เราได้สั่งพวกเขาไว้ และรักษากฎ พวกข้อบังคับ และกฎเกณฑ์ต่างๆที่เราให้ไว้ผ่านทางโมเสส เราก็จะไม่ทำให้พวกอิสราเอลต้องเดินเร่ร่อนพเนจรอีกต่อไปจากแผ่นดินที่เราได้กำหนดให้กับบรรพบุรุษของพวกเขา”

แต่มนัสเสห์นำชาวยูดาห์และประชาชนชาวเยรูซาเล็มไปในทางที่ผิด พวกเขาทำในสิ่งที่ชั่วร้ายยิ่งกว่าพวกชนชาติเหล่านั้นที่พระยาห์เวห์ได้ทำลายลงไปตอนที่ชาวอิสราเอลย้ายเข้ามาในแผ่นดิน

10 พระยาห์เวห์พูดกับมนัสเสห์และประชาชนของเขา แต่พวกเขาไม่สนใจฟัง 11 ดังนั้นพระยาห์เวห์จึงนำพวกแม่ทัพของกองทัพของกษัตริย์อัสซีเรีย มาสู้รบกับพวกเขา และจับตัวมนัสเสห์ไว้เป็นเชลย พวกเขาเอาห่วงใส่จมูกของมนัสเสห์ไว้และล่ามเขาไว้ด้วยโซ่ตรวนทองสัมฤทธิ์ และเอาไปที่บาบิโลน

12 เมื่อมนัสเสห์ตกอยู่ในความทุกข์ยาก เขาก็ร้องขอความเมตตาจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา และได้ถ่อมตัวลงอย่างมากต่อหน้าพระเจ้าของบรรพบุรุษของเขา 13 เมื่อเขาอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์ พระองค์ได้เปลี่ยนใจเพราะสงสารเขา แล้วพระองค์ได้ฟังคำร้องขอของเขา พระองค์จึงนำเขากลับเมืองเยรูซาเล็ม และกลับสู่อาณาจักรของเขา แล้วมนัสเสห์ก็ได้รู้ว่า พระยาห์เวห์คือพระเจ้าที่แท้จริง

14 ต่อมาภายหลัง เขาสร้างกำแพงด้านนอกเมืองของดาวิด กำแพงนี้ยาวไปทางตะวันตกของบ่อน้ำกิโฮนที่อยู่ในหุบเขา ทอดยาวไปจนถึงทางเข้าประตูปลาและล้อมรอบเนินเขาโอเฟล[d] เขาได้ต่อเติมกำแพงนี้สูงขึ้นมาก เขาจัดวางกำลังพวกแม่ทัพไว้ประจำตามเมืองที่เป็นป้อมปราการทั้งหลายของยูดาห์ 15 เขาได้กำจัดพวกรูปปั้นพระต่างชาติและย้ายรูปปั้นออกจากวิหารของพระยาห์เวห์ เขาขนพวกแท่นบูชาที่เขาเคยสร้างไว้บนเนินเขาของวิหารและในเมืองเยรูซาเล็มออกไปทิ้งที่นอกเมือง 16 มนัสเสห์ได้ซ่อมแซมแท่นบูชาของพระยาห์เวห์ และถวายเครื่องสังสรรค์บูชา และเครื่องบูชาสำหรับขอบคุณบนแท่นบูชานั้น เขาบอกให้ชาวยูดาห์รับใช้พระยาห์เวห์พระเจ้าของชนชาติอิสราเอล 17 แต่ประชาชนก็ยังคงถวายเครื่องบูชาของพวกเขาตามสถานนมัสการต่างๆเหมือนเดิม แต่คราวนี้พวกเขาถวายให้กับพระยาห์เวห์เท่านั้นผู้เป็นพระเจ้าของพวกเขา

18 เหตุการณ์อื่นๆในสมัยของมนัสเสห์ รวมทั้งคำอธิษฐานของเขาต่อพระเจ้าของเขา และคำพูดของพวกผู้ที่เห็นนิมิตที่พูดในนามของพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอล ได้ถูกบันทึกไว้ในหนังสือประวัติของพงศ์กษัตริย์แห่งอิสราเอล 19 คำอธิษฐานของเขา และการที่พระเจ้าเปลี่ยนใจเพราะคำวิงวอนของเขา รวมทั้งความบาปและความไม่ซื่อสัตย์ทั้งหมดที่เขาได้ทำไป ตลอดจนสถานที่ต่างๆที่เขาได้สร้างสถานนมัสการ และจัดตั้งพวกเสาให้กับพระอาเชราห์ และพวกรูปเคารพต่างๆก่อนที่เขาจะถ่อมตัวเอง ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ได้เขียนไว้แล้วในบันทึกของพวกผู้ที่เห็นนิมิต 20 มนัสเสห์ตายไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขา และศพของเขาถูกฝังอยู่ในวังของเขาเอง และอาโมนลูกชายของเขาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา

กษัตริย์อาโมนปกครองยูดาห์

(2 พกษ. 21:19-26)

21 อาโมนมีอายุยี่สิบสองปีเมื่อเขาขึ้นเป็นกษัตริย์ และเขาครองบัลลังก์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มสองปี 22 เขาทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ เหมือนกับที่มนัสเสห์พ่อของเขาทำ อาโมนกราบไหว้และถวายเครื่องสัตวบูชาให้กับพวกรูปเคารพที่มนัสเสห์พ่อของเขาสร้างขึ้น 23 อาโมนไม่ได้ถ่อมตัวต่อหน้าพระยาห์เวห์เหมือนกับที่มนัสเสห์พ่อของเขาถ่อมตัวลง แต่อาโมนกลับยิ่งทำบาปเพิ่มมากขึ้น 24 พวกข้าราชการของอาโมนรวมหัวกันต่อต้านเขา และลอบฆ่าเขาในวังของเขา 25 แล้วประชาชนในแผ่นดินนั้นก็ฆ่าพวกที่รวมหัวกันฆ่ากษัตริย์อาโมน และพวกเขาก็ยกโยสิยาห์ลูกชายของอาโมนขึ้นเป็นกษัตริย์ต่อจากพ่อของเขา

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International