Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Beginning

Read the Bible from start to finish, from Genesis to Revelation.
Duration: 365 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
สดุดี 40-45

เพลงสรรเสริญ

ถึงหัวหน้าวงดนตรี เพลงสดุดีของดาวิด

ข้าพเจ้ารอคอยพระผู้เป็นเจ้าด้วยความอดทน
    พระองค์เงี่ยหูฟังข้าพเจ้าและสดับเสียงร้องของข้าพเจ้า
พระองค์ฉุดข้าพเจ้าขึ้นจากหลุมแห่งความพินาศ ออกจากตม
    และให้ข้าพเจ้ายืนบนหินที่มีความปลอดภัย
พระองค์มอบเพลงใหม่ให้ข้าพเจ้าร้อง
    เป็นเพลงแห่งการสรรเสริญแด่พระเจ้าของเรา
ผู้คนจำนวนมากจะเห็นและเกิดความกลัว
    และจะให้ความไว้วางใจในพระผู้เป็นเจ้า

คนที่ไว้วางใจในพระผู้เป็นเจ้า ก็เป็นสุข
    เขาไม่หันเข้าหาคนหยิ่งยโสและ
    พวกที่หลงผิดไปกับความจอมปลอม
โอ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า
    พระองค์ได้กระทำสิ่งมหัศจรรย์และเตรียมการให้พวกเราหลายประการ
    ไม่มีผู้ใดเทียบเทียมพระองค์ได้
ข้าพเจ้าจะป่าวประกาศถึงสิ่งมหัศจรรย์
    แต่ก็มีมากเกินกว่าจะประกาศได้ครบถ้วน

พระองค์ไม่ต้องการเครื่องสักการะและของถวาย
    แต่พระองค์ได้ทำให้ข้าพเจ้าได้ยินด้วยหู
    พระองค์ไม่ได้เรียกร้องต้องการสัตว์ที่เผาเป็นของถวายและเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป
ครั้นแล้วข้าพเจ้ากล่าวว่า “ข้าพเจ้าอยู่ ณ ที่นี้
    มีบันทึกไว้เกี่ยวกับข้าพเจ้าในหนังสือม้วน
โอ พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ายินดีกระทำตามความประสงค์ของพระองค์
    กฎบัญญัติของพระองค์อยู่ภายในใจของข้าพเจ้า”[a]

ข้าพเจ้าได้บอกเล่าเรื่องความชอบธรรมอันน่ายินดี
    ในที่ประชุมใหญ่
โอ พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ย่อมทราบว่า
    ข้าพเจ้าไม่ได้หุบริมฝีปากไว้เลย
10 ข้าพเจ้าไม่ได้ซ่อนเร้นความชอบธรรมของพระองค์ไว้ในใจ
    ข้าพเจ้าพูดถึงความสัตย์จริงและความรอดพ้นที่มาจากพระองค์
ข้าพเจ้าพูดถึงความรักอันมั่นคงและความสัตย์จริงของพระองค์
    ในที่ประชุมใหญ่

11 โอ พระผู้เป็นเจ้า อย่าเหนี่ยวรั้งความเมตตาของพระองค์ที่จะให้แก่ข้าพเจ้าเลย
    ให้ความรักอันมั่นคงและความสัตย์จริงของพระองค์ปกป้องข้าพเจ้าตลอดไปเถิด
12 เพราะความทุกข์มากมายล้อมรอบข้าพเจ้า
    บาปของข้าพเจ้าท่วมถึงหัว จนข้าพเจ้ามองไม่เห็นอะไร
จำนวนของมันมีมากเกินกว่าเส้นผมบนหัวข้าพเจ้าเสียอีก
    ข้าพเจ้าระทดท้อเป็นที่สุด
13 โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น
    โอ พระผู้เป็นเจ้า รีบมาช่วยข้าพเจ้าเถิด

14 ให้พวกที่ตามล่าชีวิตข้าพเจ้า
    ทั้งอับอายและสับสน
ให้ทุกคนที่ต้องการให้ข้าพเจ้าพินาศ
    กลับหลังหันไปอย่างไร้เกียรติเถิด
15 ขอให้พวกที่พูดเยาะเย้ยข้าพเจ้า
    ต้องตกตะลึงในความอับอายของตน
16 ขอให้ทุกคนที่แสวงหาพระองค์
    ยินดีและเบิกบานใจในพระองค์
ขอให้บรรดาผู้รักความรอดพ้นที่มาจากพระองค์พูดเสมอว่า
    พระผู้เป็นเจ้ายิ่งใหญ่นัก”

17 แต่ข้าพเจ้าขัดสนและยากไร้
    ขอให้พระผู้เป็นเจ้าคิดถึงข้าพเจ้า
พระองค์เป็นผู้ช่วยเหลือและผู้ช่วยให้รอดพ้นของข้าพเจ้า
    โอ พระเจ้าของข้าพเจ้า อย่ารอช้าเลย

แน่ใจในความช่วยเหลือของพระเจ้า

ถึงหัวหน้าวงดนตรี เพลงสดุดีของดาวิด

ผู้ใดเห็นแก่คนสิ้นไร้ไม้ตอก ก็เป็นสุข
    พระผู้เป็นเจ้าช่วยเขาให้รอดพ้นในยามลำบาก
พระผู้เป็นเจ้าปกป้องและช่วยให้เขามีชีวิตอยู่
    พระองค์จะให้เขามีความสุขในแผ่นดิน
    และจะไม่ปล่อยให้เขาตกอยู่ใต้อำนาจของศัตรู
พระผู้เป็นเจ้าช่วยเหลือเขาในยามล้มหมอนนอนเสื่อ
    และพระองค์รักษาเขาให้หายจากโรคภัยทั้งปวง

ข้าพเจ้าพูดว่า “โอ พระผู้เป็นเจ้า เมตตาข้าพเจ้าเถิด
    รักษาข้าพเจ้าให้หาย เพราะข้าพเจ้าได้กระทำบาปต่อพระองค์”
พวกศัตรูของข้าพเจ้าพูดเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับข้าพเจ้าว่า
    “เมื่อไหร่เขาจึงจะตายและชื่อจะสาบสูญไปด้วย”
ถ้ามีใครสักคนมาหาข้าพเจ้า
    เขาจะเอ่ยปากพูดด้วยความไม่จริงใจ ในขณะเดียวกันกับที่เขาพยายามให้ร้ายป้ายสี
    ครั้นแล้วเขาก็ออกไปป่าวประกาศจนทั่ว

คนทั้งปวงที่เกลียดชังข้าพเจ้าพากันซุบซิบเกี่ยวกับข้าพเจ้า
    พวกเขาพากันจินตนาการเรื่องร้ายๆ ที่จะเกิดกับข้าพเจ้า
เขาพูดว่า “มีโรคร้ายแรงถึงชีวิตเกาะติดอยู่กับตัวเขา
    เขาจะลุกขึ้นจากที่เขานอนอยู่ไม่ได้อีกเลย”
แม้แต่เพื่อนสนิท
    ที่ข้าพเจ้าเคยไว้ใจ
คนที่รับประทานอาหารของข้าพเจ้า
    ได้ยกส้นเท้าต่อต้านข้าพเจ้า[b]

10 โอ พระผู้เป็นเจ้า ขอพระองค์เมตตาข้าพเจ้าเถิด
    โปรดให้ข้าพเจ้าทุเลาขึ้น และข้าพเจ้าจะทำการตอบโต้พวกเขา
11 จากการกระทำเช่นนี้ข้าพเจ้าทราบว่าพระองค์พอใจในตัวข้าพเจ้า
    เพราะศัตรูข้าพเจ้าไม่อาจมีชัยเหนือข้าพเจ้า
12 พระองค์เป็นหลักค้ำจุนข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้ามีสัจจะ
    และให้ข้าพเจ้าอยู่ ณ เบื้องหน้าพระองค์ไปตลอดกาล

13 สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอล
    จากนิรันดร์กาลจนถึงนิรันดร์กาล
อาเมน และอาเมน

ภาค 2

บทที่ 42-72

อธิษฐานต่อพระเจ้าจากห้วงลึกแห่งจิตวิญญาณ

ถึงหัวหน้าวงดนตรี เพลงสดุดีแห่งความฉลาดรอบรู้ของตระกูลโคราห์

กวางกระเสือกกระสนหาธารน้ำไหลฉันใด
    โอ พระเจ้า จิตวิญญาณข้าพเจ้าก็กระเสือกกระสนหาพระองค์ฉันนั้น
จิตวิญญาณข้าพเจ้ากระหายหาพระเจ้า
    หาพระเจ้าผู้ดำรงอยู่
เมื่อใดข้าพเจ้าจึงจะได้เห็นใบหน้าของพระเจ้า
ข้าพเจ้ากินน้ำตาต่างข้าว
    ทั้งวันและคืน
ในขณะเดียวกันมีคนพูดกับข้าพเจ้าตลอดวันเวลาว่า
    “พระเจ้าของท่านอยู่ที่ไหน”
ขณะที่หัวใจข้าพเจ้ากำลังแตกสลาย
    มีสิ่งที่ข้าพเจ้าจำได้คือ
ข้าพเจ้าเคยนำขบวนฝูงชน
    ไปยังพระตำหนักของพระเจ้า
พร้อมด้วยเสียงโห่ร้องและเพลง เป็นการแสดงความขอบคุณ
    ท่ามกลางหมู่ชนในงานฉลองเทศกาล

โอ จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย ทำไมจึงเศร้าสลดหดหู่เช่นนี้
    และทำไมใจจึงว้าวุ่นนัก
ตั้งความหวังในพระเจ้าเถิด
    เพราะข้าพเจ้ายังจะสรรเสริญพระองค์อีก
โอ ผู้ช่วยเหลือของข้าพเจ้า     และพระเจ้าของข้าพเจ้า

จิตวิญญาณข้าพเจ้าเศร้าสลดหดหู่อยู่ภายใน
    ฉะนั้นข้าพเจ้าระลึกถึงพระองค์
จากดินแดนแห่งแม่น้ำจอร์แดนและแห่งเทือกเขาเฮอร์โมน
    จากภูเขามิซาร์
ห้วงน้ำลึกร้องเรียกหากันและกัน
    เสียงกึกก้องจากน้ำตกของพระองค์
คลื่นทั้งลูกเล็กและลูกใหญ่
    ซัดผ่านท่วมตัวข้าพเจ้า

พระผู้เป็นเจ้าบัญชาให้ความรักอันมั่นคงของพระองค์ในยามกลางวัน
    และเพลงของพระองค์อยู่กับข้าพเจ้าในยามค่ำ
    คำอธิษฐานต่อพระเจ้าแห่งชีวิตของข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าพูดกับพระเจ้า ศิลาของข้าพเจ้าว่า
    “ทำไมพระองค์จึงลืมข้าพเจ้าเสียแล้ว
ทำไมข้าพเจ้าต้องเดินไปด้วยความเศร้าโศก
    เพราะศัตรูบีบบังคับข้าพเจ้าเล่า”
10 พวกศัตรูถากถางข้าพเจ้า
    ประหนึ่งเป็นแผลร้ายในกระดูกข้าพเจ้า
พวกเขาพูดกับข้าพเจ้าตลอดวันเวลาว่า
    “พระเจ้าของท่านอยู่ที่ไหน”

11 โอ จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย ทำไมจึงเศร้าสลดหดหู่เช่นนี้
    และทำไมใจจึงว้าวุ่นนัก
จงตั้งความหวังในพระเจ้าเถิด
    เพราะข้าพเจ้ายังจะสรรเสริญพระองค์อีก
    โอ ผู้ช่วยเหลือของข้าพเจ้า และพระเจ้าของข้าพเจ้า

ความหวังในพระเจ้ายามลำบาก

โอ พระเจ้า โปรดพิสูจน์ให้เห็นเถิดว่าข้าพเจ้าไม่ใช่ฝ่ายผิด
    และปกป้องข้าพเจ้าจากพวกที่ไร้คุณธรรม
หลอกลวง และไร้ความชอบธรรม
    ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นเถิด
เพราะพระองค์เป็นพระเจ้า เป็นที่หลบภัยของข้าพเจ้า
    ทำไมพระองค์จึงทอดทิ้งข้าพเจ้าไป
ทำไมข้าพเจ้าต้องเดินไปด้วยความเศร้าโศก
    เพราะถูกศัตรูบีบบังคับเล่า
โปรดมอบแสงสว่างและความจริงของพระองค์
    เพื่อนำทางข้าพเจ้า
เพื่อนำข้าพเจ้าไปยังภูเขาอันบริสุทธิ์ของพระองค์
    และยังกระโจมที่พำนักของพระองค์
แล้วข้าพเจ้าจะไปยังแท่นบูชาของพระเจ้า
    เพื่อหาพระเจ้าแห่งความชื่นชมยินดีของข้าพเจ้า
และข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ด้วยพิณ
    โอ พระเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า

โอ จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย ทำไมจึงเศร้าสลดหดหู่เช่นนี้
    และทำไมใจจึงว้าวุ่นนัก
จงตั้งความหวังในพระเจ้าเถิด
    เพราะข้าพเจ้ายังจะสรรเสริญพระองค์อีก
    โอ ผู้ช่วยเหลือของข้าพเจ้า และพระเจ้าของข้าพเจ้า

วิงวอนต่อพระเจ้าเพื่อให้พ้นจากความทุกข์ยาก

ถึงหัวหน้าวงดนตรี ของตระกูลโคราห์ เพลงสดุดีแห่งความฉลาดรอบรู้

โอ พระเจ้า พวกเราได้ยินด้วยหูของเรา
    บรรพบุรุษของเราได้บอกพวกเราถึงสิ่งต่างๆ
ที่พระองค์ได้สำแดงในสมัยของพวกเขา
    ซึ่งผ่านพ้นมานานแล้ว
พระองค์ขับไล่บรรดาประชาชาติออกไปด้วยมือของพระองค์เอง
    และให้บรรพบุรุษของพวกเราตั้งรกราก
พระองค์ให้ชนชาติเหล่านั้นได้รับทุกข์ทรมาน
    และให้พวกบรรพบุรุษบังเกิดผลดียิ่ง
คนของพระองค์ยึดแผ่นดินไว้ได้ มิใช่ด้วยดาบของตนเอง
    ชัยชนะก็มิใช่ด้วยแขนของตนเอง
แต่เป็นมือขวาและแขนของพระองค์
    และเป็นเพราะพระองค์อยู่กับพวกเขา
    เพราะพระองค์พึงพอใจในตัวเขา

พระองค์เป็นกษัตริย์และพระเจ้าของข้าพเจ้า
    พระองค์ออกคำสั่งให้ยาโคบได้ชัยชนะ
พวกเราทำให้ศัตรูพ่ายแพ้ได้ก็เพราะพระองค์
    พวกเราทำให้ข้าศึกทลายราบเป็นหน้ากลองได้โดยพระนามของพระองค์
ด้วยว่า ข้าพเจ้าไม่อาจวางใจในคันธนู
    และดาบไม่สามารถช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นได้
แต่พระองค์ช่วยพวกเราให้รอดจากศัตรู
    และทำให้พวกที่เกลียดชังเราอับอาย
พวกเราโอ้อวดถึงพระเจ้าตลอดวันเวลา
    และเราสรรเสริญพระนามของพระองค์ไปตลอดกาล เซล่าห์

ถึงกระนั้นพระองค์ก็ได้ทอดทิ้งพวกเรา และให้เราต้องอับอาย
    พระองค์ไม่ได้ออกไปกับกองทัพของเรา
10 พระองค์ทำให้พวกเราวิ่งหนีศัตรู
    และพวกข้าศึกริบของไป
11 พระองค์ทำให้พวกเราเป็นดั่งแกะสำหรับใช้เป็นอาหาร
    และทำให้พวกเรากระจัดพลัดพรายไปในท่ามกลางบรรดาประชาชาติ
12 พระองค์ได้ขายชนชาติของพระองค์ในราคาเพียงน้อยนิด
    โดยไม่เรียกร้องราคาสูงๆ

13 พระองค์ทำให้พวกเราถูกเหยียดหยามในหมู่เพื่อนบ้านเรา
    พวกเขาล้อเลียนและหัวเราะเยาะรายรอบข้างเรา
14 พระองค์ทำให้พวกเราเป็นที่ขบขันในบรรดาประชาชาติ
    เป็นที่ดูแคลนในบรรดาชนชาติ
15 ข้าพเจ้าเผชิญความอัปยศตลอดวันเวลา
    และข้าพเจ้าอับอายเป็นที่สุด
16 เป็นเพราะคำพูดจากผู้ถากถางและดูถูก
    เป็นเพราะฝ่ายตรงข้ามและพวกเจ้าคิดเจ้าแค้น

17 สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับเรา
    แต่พวกเรายังไม่ลืมพระองค์
    และเราไม่ได้กระทำผิดต่อพันธสัญญาของพระองค์
18 เราไม่ได้เอาใจออกห่างไป
    และเท้าของเราไม่ได้ก้าวออกนอกวิถีทางของพระองค์
19 ถึงกระนั้นพระองค์ยังทำให้พวกเราแตกสลายอยู่ในที่ของหมาใน
    และปล่อยให้ตกอยู่ในความมืดมิด

20 ถ้าหากว่าพวกเราลืมพระนามของพระเจ้าของเรา
    หรือยกมือขึ้นเคารพเทพเจ้าต่างชาติ
21 แล้วพระเจ้าจะไม่ค้นพบหรือ
    พระองค์หยั่งรู้ความลึกลับในจิตใจ
22 พวกเราเผชิญความตายเพื่อพระองค์ตลอดวันเวลา
    พวกเราถูกนับว่าเป็นดั่งแกะสำหรับการประหาร[c]

23 ตื่นขึ้นเถิด โอ พระผู้เป็นเจ้า ไยพระองค์จึงนอนหลับ
    ตื่นขึ้นเถิด อย่าทอดทิ้งพวกเราไปชั่วนิรันดร์กาล
24 ทำไมพระองค์จึงซ่อนหน้า
    ทำไมพระองค์ลืมความทุกข์ทรมาน และการถูกบีบบังคับของพวกเรา
25 ด้วยว่า เราจมลงอยู่กับธุลีดิน
    กายของเราติดอยู่กับพื้นดิน
26 โปรดลุกขึ้นเถิด มาช่วยพวกเรา
    และไถ่เราเนื่องจากความรักอันมั่นคงของพระองค์

เพลงประกอบในพิธีสมรสของกษัตริย์

ถึงหัวหน้าวงดนตรี ตามทำนองพลับพลึง ของตระกูลโคราห์ เพลงสดุดีแห่งความฉลาดรอบรู้ เพลงรัก

ใจของข้าพเจ้าเปี่ยมด้วยคำอันไพเราะ
    ข้าพเจ้าแต่งเพลงถวายแด่กษัตริย์
    ลิ้นข้าพเจ้าเป็นเสมือนปากกาของนักประพันธ์ผู้เชี่ยวชาญ

ท่านรูปงามที่สุดในบรรดาบุตรของมนุษย์
    สิ่งที่ท่านพูดมีแต่พระคุณ
    ฉะนั้นพระเจ้าอวยพรท่านตลอดกาล

สะพายดาบไว้ที่เอว โอ ท่านผู้มีอานุภาพ
    ทรงเครื่องด้วยความเรืองรองและความยิ่งใหญ่ของท่าน
ท่านขี่ม้ารุดไปด้วยความมีชัยในความยิ่งใหญ่ของท่าน
    เพื่อปกป้องความจริง ความอ่อนโยนและความชอบธรรม
    ให้มือขวาของท่านแสดงการกระทำอันวิเศษสุด
ให้ลูกธนูคมกริบของท่านปักลงที่หัวใจพวกศัตรูของกษัตริย์
    ให้เหล่าชนชาติล้มลงใต้เท้าของท่าน
ข้าแต่พระเจ้า บัลลังก์ของท่านจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์กาล
    และความชอบธรรมจะเป็นดุจคทาแห่งอาณาจักรของท่าน
ท่านรักความชอบธรรมและเกลียดความชั่วร้าย
    ฉะนั้นพระเจ้า พระเจ้าของท่านได้ให้ท่านอยู่เหนือมิตรสหาย
    โดยเจิมท่านด้วยน้ำมันแห่งความยินดี[d]
เสื้อคลุมของท่านมีกลิ่นน้ำมันหอมจากมดยอบ กฤษณาและการบูร
    เครื่องสายจากวังที่ประดับด้วยงาช้างทำให้ท่านยินดี
บรรดาธิดาของกษัตริย์ทั้งปวงอยู่ในบรรดาสตรีผู้มีเกียรติ
    ทางขวามือของท่านคือราชินีประดับด้วยทองคำแห่งโอฟีร์

10 จงฟังเถิด บุตรสาว จงเงี่ยหูให้ดี
    จงลืมชนชาติและพวกพ้องของเจ้า
11     และกษัตริย์จะปรารถนาความงามของเจ้า
ในเมื่อท่านเป็นนายของเจ้า จงก้มตัวลง
12 บุตรสาวแห่งเมืองไทระจะมอบของกำนัลแก่เจ้า
    คนมั่งมีจะพยายามแสวงหาความดีความชอบจากเจ้า
13 เจ้าหญิงผู้กอปรด้วยเกียรติทุกประการอยู่ที่ห้องของเธอ
    เสื้อผ้าของเธอทอด้วยทองคำ
14 เธอสวมเสื้อคลุมหลากสีขณะถูกนำตัวเข้าหากษัตริย์
    ติดตามด้วยบรรดาพรหมจาริณี
    เป็นเพื่อนตามหลังเธอมา
15 บรรดาหญิงเหล่านี้ถูกพาไปด้วยความยินดีและเบิกบานใจ
    เป็นอย่างยิ่งขณะที่เข้าไปในวังของกษัตริย์

16 บรรดาบุตรชายของท่านจะรับตำแหน่งแทนบรรดาบิดาของท่าน
    และท่านจะให้เป็นเจ้าชายปกครองแผ่นดินทั่วทั้งโลก

17 ข้าพเจ้าจะทำให้ทุกชั่วอายุคนเฉลิมฉลองนามของท่าน
    ฉะนั้น บรรดาชนชาติจะสรรเสริญท่านเป็นนิจ

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation